วันจันทร์ที่ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2564

Strongest Sect of All Times Chapter 134 Might as well calm chatting

Strongest Sect of All Times  Chapter 134 Might as well calm chatting

 นิกายที่แข็งแกร่งที่สุดนิรันดรกาล

Chapter 134 Might as well calm chatting

不妨冷静的谈谈

 

ถึงแม้นว่าเจ้าตึกฝนพรำจะงดงามน่าหลงไหลขนาดใหน,จุนซ่างเซียวก็ไม่ลืมเป้าหมายเดิม.

เขาพูดเช่นนี้กับเซียวจุ้ยจื่อตั้งแต่แรกแล้ว,ตัดสินใจจะทำลายที่นี่ให้ราบคาบ,และไม่โอกาสกับฝ่ายตรงข้ามใด ๆ.


สองผู้ใต้บังคับบัญชาถูกสังหารต่อหน้า,เจ้าตึกฝนพรำที่ดวงตาเต็มไปด้วยจิตสังหาร,กล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงเย็นชา,”จุนซ่างเซียว,เจ้าทำเกินไปแล้ว!

จุนซ่างเซียวที่ถือปืน,เล็งไปยังสตรี....เล็งไปยัง,ตำแหน่งหัวใจ,ไม่ได้ตั้งใจมองนะ,กรุณาอย่างโก่งยืดหน้าอกออกมา!

“ติ๊ง! โฮสน์สำเร็จเปิดใช้งานกล้องส่องทางไกลโหมดเพิ่มความแข็งแกร่ง,ใช้แต้มสนับสนุน 5 แต้ม.”

“ติ๊ง! คะแนนสนับสนุน: 170 / 500.”

จุนซ่างเซียวแค่นเสียงเหยียดหยันกล่าวออกมาว่า,”ส่งมือสังหารไปสังหารข้าครั้งแล้วครั้งเล่า,เปิ่นจั้วต้องการสอบถามจริง ๆ,ใครกันแน่ที่ทำเกินไปนะ?”

เขายังคงล๊อกเป้าไปที่หน้าอกฝ่ายตรงข้าม,มือพร้อมลั่นไกทุกเมื่อ.

เจ้าตึกฝนพรำที่ราวกับสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายความอันตราย,นางที่นำมีดบินรูปใบไม้ออกมา,กล่าวออกไปว่า,”เจ้าสำนักจุน,ก่อนหน้านี้ตึกฝนพรำของข้าได้รับการว่าจ้าง จึงได้ส่งมือสังหารออกไปสองครั้ง,ส่วนครั้งอื่น ๆก็เพื่อช่วยเหลือเพื่อนร่วมทีมสังหารเท่านั้น.”

จุนซ่างเซียวที่เอ่ยออกมาเบา ๆ,”ไม่ว่าจะสักกี่ครั้ง,หรือตั้งใจทำอะไร,ขอเพียงกล้ายุแหย่เปิ่นจั้ง,ชะตากรรมมีแต่ต้องตาย!

“เฮ้อ.”

เจ้าตึกฝนพรำที่ถอนหายใจเบา ๆ,แววตาที่เป็นประกายเผยความดุร้ายขึ้นมา,แขนที่เรียวขาว,สะบัดมีดบินรูปใบไม้,พลังวิญญาณที่อาบไล้ทำให้มีบินพุ่งระเบิดออกไปด้วยความเร็ว.

เร็ว,เร็วมาก ๆ!

อย่างไรก็ตามภายใต้กล้องส่องแปดเท่าที่จับจ้องอยู่,ทุกการกระทำของสตรีผู้นี้จุนซ่างเซียวเห็นอย่างชัดเจน,ทันใดนั้นเขาก็ลั่นไก,ปล่อยกระสุนออกไปทันที.

ทั้งสองที่อยู่ห่างไกลกันออกมาราว ๆ 300 เมตร,ทว่าทุกอย่างที่เกิดขึ้นเพียงเสี้ยววินาทีเท่านั้น.

“ฟิ้ว-“

ด้วยพลังวิญญาณที่อาบไล้มีดบินรูปใบไม้ทำให้มันทรงพลังเป็นอย่างมาก,ทว่าพริบตาเดียวมันก็ขาดออกเป็นสองท่อนทันที!

อย่างไรก็ตาม!

วัดที่ความเร็วแล้ว,กระสุนของสไนเปอร์รูปแบบ 88 มีความเร็วกว่า.

มีดบินรูปใบไม้ที่พุ่งมาได้เพียงหนึ่งในสามของเส้นทาง,ก็ถูกทำลายไป.

เพราะความรุนแรง,กระสุนที่เป็นพลังงานอัดรูปก็ระเบิดออกไปพร้อม ๆกับมีดบิน.

“ฟิ้ว ฟิ้ว ฟิ้ว!

ในเวลานั้น,เจ้าตึกฝนพรำได้ใช้ทักษะก้าวปิศาจหายออกมาจากปากถ้ำ,มือทั้งสองข้างของนางที่ยังคงเหวี่ยงมีดบินรูปใบไม้ออกไปด้วยความเร็ว.

คู่ควรที่จะเป็นหัวหน้าขององค์กรนักฆ่า,ท่าเท้าที่ร้ายกาจ,พร้อมกับอาวุธลับที่มีความเร็วไม่ธรรมดา,ไม่ใช่ระดับที่มือสังหารไพ่ตายจะเทียบได้เลยแม้แต่น้อย.

“ฟิ้ว!

จุนซ่างเซียวที่ขยับ,ไม่จำเป็นต้องเล็งด้วยตัวเอง,แต่ก็ยิงออกไปทันทีเช่นกัน,”ปัง ปัง ปัง”อีกหลายนัดที่ถูกยิงออกไปติดๆกัน,ทำลายสิ้นมีดบินที่ลอยมา.

เซียวจุ้ยจื่อที่จ้องมองด้วยแววตาตะลึงงัน.

ปืนที่ขยับยิงออกไปทำลายอาวุธลับที่พุ่งมาได้อย่างแม่นยำ,นี่ไม่ต่างจากระดับเทพเลย!

“ฟิ้ว! ฟิ้ว!

เจ้าตึกฝนพรำที่พุ่งมาราวกับบินได้,เคียวสองอันในมือพุ่งฟันออกมาในทันที,คมเคียวที่เห็นเป็นเส้นแสงพุ่งตัดอากาศด้วยความเร็วสูง.

 

สตรีผู้นี้แข็งแกร่งมาก,หากอาศัยเพียงแค่ปืน,จุนซ่างเซียวคงจะถูกหั่นออกเป็นสองส่วนอย่างแน่นอน.

 

“ฟิ้ว!”เขาที่โยนปืนออกไปให้กับเซียวจุ้ยจื่อ,ก่อนที่จะใช้ก้าวปิศาจ,เพื่อหลบคมมีด,พร้อมกับชักกระบี่หานเฟิงออกมา.

 

สไนเปอร์ไรเฟิลที่เป็นอาวุธโจมตีระยะไกล,ด้วยช่วงความยาวและน้ำหนักทำให้เป็นข้อเสียเปรียบในระยะประชิด,อีกทั้งตลับกระสุนยังจุเพียงสิบลูก,ตอนนี้ถึงเวลาที่ต้องออกไปต่อสู้ด้วยตัวเอง!

“ฟิ้ว ฟิ้ว!

เคียวรูปจันทร์เสี้ยวที่ลอยกลับคืน.

เจ้าตึกฝนพรำที่รับเคียวจันทร์เสี้ยว,อุทานออกมาด้วยความตกใจ,”เจ้าสามารถใช้ก้าวปิศาจได้ด้วยรึ?!

“ฟิ้ว! ฟิ้ว! ฟิ้ว!

จุนซ่างเซียวที่ไม่ได้ปล่อยให้อีกฝ่ายโจมตีเพียงฝ่ายเดียว,ก้าวปิศาจของเขาพร้อมกับทักษะเพลงกระบี่คลื่นซ้อนเก้าทบ,รวมพลังคลื่นแปดคลื่นและกระบวนท่าที่เก้าก็ถูกปล่อยออกไป!

ปราณกระบี่ที่เย็นยะเยือบระเบิดพุ่งออกไป,พื้นที่รอบ ๆถึงกับปรากฏสะเก็ดน้ำแข็ง,ต้นไม้ใบหญ้าที่ถูกแช่แข็งกรอบแตกสลายไปพร้อม ๆ กัน.

เจ้าตึกฝนพรำที่ดวงตาหดเกร็ง,หลบปราณกระบี่ที่โจมตีมา,จากนั้นก็เคลื่อนที่เข้าใกล้จุนซ่างเซียว,เคียวรูปจันทร์เสี้ยวสองอัน,ที่เล็งไปยังคออย่างรวดเร็ว.

 

พลิกกลับ,เล็งจุดตาย,คู่ควรที่เป็นหัวหน้าองค์กรนักฆ่า,มีความเชี่ยวชาญเป็นอย่างมาก!

“ฟิ้ว ฟิ้ว ฟิ้ว!

จุนซ่างเซียวที่ใช้ก้าวปิศาจขั้นสูงสุด,หลบการโจมตีของอีกฝ่าย,พร้อมกับตวัดกระบี่เฉือนมาด้านหลัง,เห็นเป็นริ้วที่เย็นยะเยือบ.

“เคร้ง!

เจ้าตึกฝนพรำที่สะบัดร่างกลับมาด้านหลังเคียวจันทร์เสี้ยวที่ฟันลงไปกระแทกกระบี่หานเฟิง,คลื่นความเย็นของดาบที่แตกกระจายออกไปรอบ ๆ.

“ฟิ้ว!

จุนซ่างเซียวที่ชักกระบี่คืน,พร้อมกับแผ่พุ่งพลังวิญญาณอาบไล้กระบี่,ฟันลงไปอีกครั้งอย่างรุนแรง.

“เคร้ง! เคร้ง! เคร้ง!

อาวุธทั้งสองที่เข้าปะทะกันครั้งแล้วครั้งเล่า,เกิดประกายแปบ ๆ.

เจ้าสำนักจุนที่โจมตีไปยังเคียวรูปจันทร์เสียวของอีกฝ่ายอย่างหนักหน่วงรุนแรง.

“แก๊ก-

หลังจากฟันไป 7-8 กระบี่,เคียวจันทร์เสียงที่ขาดเป็นท่อน ๆไปทั้งสองอัน.

เจ้าตึกฝนพรำที่ไม่สามารถรับได้อีกต่อไป,แขนทั้งสองข้างที่ชาหนึบ,เร่งรีบถอยออกมาอย่างรวดเร็ว.

 

อย่างไรก็ตาม,ขณะถอยไปได้สองก้าว,จุนซ่างเซียวกับรวดเร็วรุกเข้ามาทันที,แม้แต่โจมตีทะลวงไปยังที่ไหล่ขวาของนาง.

“ตึก ตึก ตึก!

 

เจ้าตึกฝนพรำที่ถอยได้เพียงสองก้าว,ไหล่ขวาถูกเฉือนเสื้อผ้าขาดออก,เผยให้เห็นผิวที่ขาวประณีตและมีรอยกระบี่เล็ก ๆขึ้นด้วย.

นางที่เร่งรีบถอยให้เร็วยิ่งกว่าเดิม,ทำให้แขนเสื้อของนางที่ขาดยาว.

 

ก่อนหน้านี้นางคิดว่านางเหนือกว่า,แต่แล้วอีกฝ่ายไม่เพียงแค่มีอาวุธลับที่ร้ายกาจ,ความแข็งแกร่งยังไม่ธรรมดาอีกด้วย!

“เจ้าคนน่ารังเกียจ!”นางที่คำรามด้วยความโกรธ,”ข้าเป็นผู้หญิง....”

“ฟิ้ว!

จุนซ่างเซียวที่ใช้ก้าวปิศาจเคลื่อนไปอยู่ด้านหน้าของนาง,กระบี่หานเฟิงที่พาดไปที่ลำคอของนางอย่างรวดเร็ว,เอ่ยออกไปว่า,”เจ้าคิดว่าข้าต้องรอ ให้เจ้ารุมโจมตีก่อนรึอย่างไร?”

“ฟิ้ว!

อีกมือหนึ่งที่ยกอินทรีย์ทะเลทรายขึ้น,พร้อมกับยิ่งไปยังด้านหลัง,ไปยังท่อนขาของแมงป่องที่ลอบเข้ามาด้านหลัง.

“อ๊าก!

แมงป่องที่ล่วงหล่นลงพื้นทันที,ก่อนที่จะกุมขาขวาด้วยความเจ็บปวดร้องโอดโอยเสียงดัง.

“ปัง!”จุนซ่างเซียวที่ลั่นไกนัดที่สองเขาที่หน้าผาก,ทำให้อีกฝ่ายหยุดส่งเสียงเจ็บปวดไปในทันที.

แน่นอนว่าแมงป่องตกตายไปแล้วอย่างไม่ต้องสงสัย.

สำนักไท่กู่เจิ้งและตึกฝนพรำขัดแย้งจนมาถึงขั้นนี้,เพราะว่าอีกฝ่ายรับเงินจ้างวานจากสำนักหลิงชวนนั่นเอง.

กับลูกน้องที่เป็นดังแขนซ้ายแขนขวาถูกสังหารไป,มีหรือที่จะเจ้าตึกจะสามารถทนได้.

นางที่ก้มหน้าลงเล็กน้อย,แววตาที่เต็มไปด้วยจิตสังหารมากมาย.

อย่างไรก็ตาม,แม้นทนไม่ได้ ก็ต้องทน.

เพราะหลังจากจุนซ่างเซียวยิงปืนออกไปแล้ว,ก็เล็งมายังที่หน้าอกของนาง,พร้อมกับกล่าวออกมาด้วยความชั่วร้าย,”อย่าได้ขยับ,ไม่เช่นนั้นอกของเจ้าเป็นรูแน่.”

รอยยิ้มที่เผยความชั่วร้ายเล็กน้อย....

ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใดนางสัมผัสได้ถึงจิตสังหารและแววตาของปิศาจ.

หัวหน้าใหญ่ที่ถูกจับเอาไว้,แมงป่องถูกสังหาร.

เหล่ามือสังหารที่เตรียมพุ่งเข้ามาเวลานี้หยุดชงัก.

งูพิษที่ยกมือขวาขึ้นเตรียมปล่อยลูกดอก,ทว่าเขากับไม่กล้าที่จะโจมตีออกไป,เกรงว่าจะเหมือนกับแมงป่อง,ที่ถูกสังหารไปก่อนหน้านี้.

สถานการณ์ที่หยุดนิ่งไปในทันที.

 

เซียวจุ้ยจื่อที่ถือสไนเปอร์ไรเฟิลรูปแบบ 88 เดินออกมา,พร้อมกับเล็งไปยังทิศทางของเจ้าสำนัก,หากมีใครปล่อยอาวุธลับเขาต้องปกป้องเจ้าสำนักเอาไว้ในทันที.

เจ้าตึกที่กุมไหล่เอาไว้,ใบหน้าที่ซีดขาวกล่าวออกมาว่า,”ข้าประเมินเจ้าต่ำไป.”

จุนซ่างเซียวที่วางกระบี่ไว้บนคอนาง,มือขวาที่ถือปืนเล็งไปที่ศีรษะ,กล่าวอย่างอันธพาล,”สำนักหลิงชวนประเมินข้าต่ำสุดท้ายก็ถูกข้ากำจัดจนสิ้น,ตึกฝนพรำประเมินข้าต่ำไป,ท้ายที่สุดก็จะต้องถูกทำลายเช่นกัน”

“แน่นอน.”

“เจ้าสามารถโยนอาวุธลับในแขนเสื้อทิ้งไปก่อนได้,หรือจะรอให้ข้าล้วงไปทั่วเสื้อผ้าของเจ้าก็ได้เหมือนกัน.”

เจ้าตึกใบหน้าเปลี่ยนสี.

มือซ้ายของนาง,ที่ล้วงนำมีบินรูปใบไม้ทิ้งออกไปบนพื้น.

อาวุธลับมากมายเท่าใดที่นางซ่อนเอาไว้!

เจ้าตึกฝนพรำที่กล่าวยอมแพ้เอ่ยออกมาอย่างสุภาพ,”เจ้าสำนักจุน,ระหว่างพวกเราเข้าใจผิดกัน,พวกเรามาพูดคุยกันดี ๆได้หรือไม่?.”

ไม่สามารถชนะได้ก็เลยคิดจะพูดคุยอย่างงั้นรึ? ร้ายกาจ ๆ.

“พูดคุยรึ? ย่อมได้.”จุนซ่างเซียวเอ่ย,”เจ้าสั่งให้ผู้ใต้บังคับบัญชาทั้งหมดยอมจำนน,มัดมือ,กลับสำนักไท่กู่เจิ้งพร้อมกับข้า,พวกเราจะพูดคุยกันอีกที,เมื่อพวกเจ้าอยู่ในกรงซะก่อน.”

 


ที่มา https://lnmtl.com/novel/strongest-sect-of-all-times

#นิยายแปล #Strongest Sect of All Times #นิกายที่แข็งแกร่งที่สุดนิรันดรกาล.
Author(s)
Goodbye Jianghu


เข้ากลุ่มลับ VIP ====> Click


 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น