วันจันทร์ที่ 3 พฤษภาคม พ.ศ. 2564

Strongest Sect of All Times Chapter 115 Sect Master Jun, is really an expert!

Strongest Sect of All Times  Chapter 115 Sect Master Jun, is really an expert!

 นิกายที่แข็งแกร่งที่สุดนิรันดรกาล

Chapter 115 Sect Master Jun, is really an expert!

君掌门,真乃牛人也!

 

ศิษย์นิกายเซิ่งชวนที่ยากจะรับได้ว่าโม่ซางเฟยถึงกับสลบเหมือด,นี่มันเป็นเรื่องเหลือเชื่อมาก,พวกเขาถึงกับกุมมือไว้ที่ด้ามกระบี่,พร้อมจะพุ่งออกไป.

ลู่เชียนเชียนและซูเซียว.โม่ที่เตรียมตัวเช่นกัน,ขอแค่อีกฝ่ายเริ่ม,พวกเขาก็พร้อมชักกระบี่พุ่งออกไป.


ในเวลานี้,ศิษย์สำนักไท่กู่เจิ้งหาได้แสดงความหวาดกลัวออกมาเลยแม้แต่น้อย.

ครั้งหนึ่งที่ค่ายโจรวายุทมิฬ,ศิษย์คนหนึ่งของเขาหวาดกลัวความตาย,ไม่ลังเลที่จะแปรพักเป็นโจรภูเขา,ทำให้จุนซ่างเซียวรู้สึกผิดหวังเป็นอย่างมาก.

ตอนนี้ต่อหน้านิกายเซิ่งชวน,ศิษย์ของเขาไร้ซึ่งความหวาดกลัว,แม้แต่พร้อมพุ่งเข้าหาศัตรู,เวลานี้เขารู้สึกดีใจเป็นอย่างมาก.

จิตใจเป็นเรื่องหลัก,พรสวรรค์เป็นเรื่องรอง.

ข้าไม่สนใจศิษย์ที่หวาดกลัว,ไม่รู้จักรักษาเกียรติของตัวเอง.

ข้าหวังว่าศิษย์ของข้าทุกคนจงจำเอาไว้,ว่าตัวเองคือศิษย์สำนักไท่กู่เจิ้ง,ไม่หวาดกลัวความตาย,เต็มไปด้วยศักดิศรีและเกียรติ.

“เจ้าสำนักจุน.”

อาวุโสสามนิกายเซิ่งซวนกล่าวดูแคลน,”ศิษย์ของท่าน,หมายความว่าอย่างไร?”

จุนซ่างเซียวเอ่ยออกมาเล็กน้อย,”แล้วศิษย์ของท่านล่ะหมายความว่าอย่างไร,ศิษย์ของข้าเข้าใจอย่างไร,เปิ่นจั้วก็เข้าใจอย่างนั้น.”

ศิษย์จะกล้าที่กล้าหาญเที่ยงธรรม,เขาจำเป็นต้องกระตุ้น,และกระทำให้เป็นตัวอย่าง!

มารดาเถอะ!

ไม่คิดเลยว่าจะหลุดกรอบไปขนาดนี้?

ดาบหนานโจวของเหล่าจื่อกำลังกระหายอยู่เลย.

ในเวลานั้น,จุนซ่างเซียวที่ถอดเสื้อคลุมไหล่ของตัวเองออกมา,เผยให้เห็นมังกรเขียวด้านซ้าย,พยัคฆ์ขาวด้านขวา,และนำดาบออกมาวางไว้แนบอก,พร้อมกับชี้ไปด้านหน้า,กล่าวออกมาเสียงดัง,”เข้ามาได้เลย!

ไม่สงสัยว่าเขาสงบได้ตั้งแต่แรกก็มีดาบหนานโชวที่พร้อมปลดปล่อยอยู่นั่นเอง.

ฉินเห่าหรานและเหล่าเจ้าสำนักคนอื่น ๆที่เผยยิ้ม.

ถึงกับกล้าท้าทายอาวุโสสำนักหลิงชวน,ดูเหมือนว่าเขากำลังจะนำศิษย์ตามสำนักหลิงชวนไปแล้ว.

ในเวลานั้น,เซี่ยกวนคุนที่ก้าวออกมาเตือน,”อาวุโสซือ,เจ้าสำนักจุน นี่ไม่ใช่ว่าเป็นการประลองของศิษย์หรอกรึ? โปรดถอยกลับกันคนละก้าวแล้วพูดคุยกันดีกว่า.”

เขาที่เอ็นดูจุนซ่างเซียว,หวังว่าจะผ่านเคราะห์ครั้งนี้ไปได้.

“เจ้าเมืองเซี่ย.”

ฉินเห่าหรานที่กล่าวออกมาอย่างนุ่มนวล,”อาวุโสซือเป็นหนึ่งในแปดอาวุโสใหญ่ของนิกายเซิ่งชวน,กับสำนักระดับเก้ากระจอก ๆ,พูดจาใหญ่โต,หมิ่นเกียรติของอาวุโสซืออยู่.”

“ผู้นำฉิน.”

จุนซ่างเซียวที่นำป้ายตราระดับสำนักออกมา,กล่าวออกมาอย่างนุ่มนวลเช่นกัน,”โปรดใช้ตาสุนักของท่านแลมองให้ชัดเจน,สำนักไท่กู่เจิ้งของเปิ่นจั้วตอนนี้มีระดับแปดแล้ว.”

ฉินเห่าหรานที่คำรามลั่นด้วยความโกรธ,”เจ้าพูดอะไร!

“อ้าว,ไม่ได้ยินชัดเจนอย่างงั้นรึ?”

จุนซ่างเซียวที่ยื่นนิ้วกลางให้,กล่าวออกมาว่า,”เปิ่นจั้วบอกว่า,ผู้นำพันธมิตรร้อยสำนัก,อยู่ต่อหน้านิกายเซิ่งซวนเป็นได้แค่หมาตัวหนึ่ง.”

คำพูดที่คล้ายกับเล่นตลก,ทีเล่นทีจริง,ทว่ากับเป็นการกระตุ้นความโกรธของอีกฝ่ายอย่างจงใจ.

ฉินเห่าหลาน,เจ้าสำนักระดับหก,และยังเป็นผู้นำพันธมิตรร้อยสำนัก,การที่เขาถูกกระทำให้อับอายเช่นนี้,ทำให้จิตสังหารที่พุ่งพล่านขึ้นมาในทันที.

“ฮึ ฮึ.”

อาวุโสห้านิกายเซิ่งชวนเอ่ย,”สำนักระดับแปด,แต่กับโอหังหยามผู้นำพันธมิตรเช่นนี้,ดูเหมือนว่าภายในมนทลชิงหยาง,จะเหลาแหละมาก.”

คำพูดที่นิ่มนวลแต่เป็นการเทน้ำมันลงไปในไฟ.

“กึก กึก!

ฉินเห่าหรานที่กำหมัดแน่น,ก้าวไปด้านหน้าหนึ่งก้าว.

อย่างไรก็ตาม,ขณะที่ก้าวไปด้านหน้าหนึ่งก้าวเท่านั้น,ก็ได้ยินเสียงดัง “ปัง” ธวัชศิลาที่ด้านหน้าของเขาห่างออกไปเพียงไม่กี่ชุ่น(2.5 cm)เท่านั้น,ปรากฏเป็นรูเท่ากับกำปั้นขึ้นมา!

“ฟิ้ว! ฟิ้ว! ฟิ้ว!

สามอาวุโสนิกายเซิ่งซวนที่ลุกขึ้นพร้อมกับ,สายตาที่เย็นชามองย้อนประกายแสงที่พุ่งมาก,พบว่าที่ไกลออกไปในป่าหญ้ามีคน ๆ หนึ่ง,ที่เวลานี้ถือสิ่งของที่เรียวยาว,ที่ปลายของมันมีควันลอยออกมา.

เซี่ยกวนคุนและเหล่าเจ้าสำนักคนอื่น ๆต่างก็มองตาม,ภายในใจที่ตื่นตะลึงเป็นอย่างมาก.

ริ้วแสงก่อนหน้านี้พุ่งมาเร็วมาก,แม้แต่พวกเขายังไม่สามารถมองตามได้ทันที.

เมื่อกี้นี้....อาวุธลับอย่างงั้นรึ?

สามอาวุโสที่มองหน้ากันและกันด้วยท่าทางงงงัน,แววตาที่เผยท่าทางจริงจังออกมา.

ความเร็วและความแรงของริ้วแสงที่พุ่งมาเมื่อกี้,ถึงจะเป็นพวกเขา,หากไม่ได้ใช้พลังวิญญาณคุ้มกายเอาไว้,เกรงว่าหากยิงโดนคงได้รับบาดเจ็บหนักเช่นกัน!

“ท่านสุภาพบุรุษและสภาพสุตรี.”

จุนซ่างเซียวที่นั่งอยู่บนเก้าอี้,เท้าที่ไขว้กันกระดิกเบา ๆ,มือทั้งสิบที่วางพาดบนขา,กล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม,”รอบ ๆนี้ข้าได้ส่งศิษย์ของเขา,ที่มีความสามารถยิงอาวุธลับ 36,000 รูปแบบ,กระจายอยู่รอบ ๆ,นี่คือหนึ่งในอาวุธลับหนึ่งในนั้น,มีชื่อว่า ปืนไฟไร้เทียมทาน.”

ปืนไฟไร้เทียมทานอย่างงั้นรึ?

ทุกคนที่ขยิบตา,ไม่เคยได้ยินเรื่องนี้มาก่อน.

จุนซ่างเซียวเอ่ยออกไปอีกว่า,”ผู้นำฉิน,เมื่อกี้นี้แค่คำเตือน,หากรู้สึกว่าสำนักไท่กู่เจิ้งของข้าถูกรังแก,เปิ่นจั้วก็ไม่สนใจที่จะให้ศิษย์ของตัวเองปล่อยอาวุธลับออกมาอีกครั้ง.”

สามบรรพชนยุทธ์นิกายเซิ่งชวน,และฉินเห่าหรานอีกหนึ่งคนที่อยู่ในระดับบรรพชนยุทธ์.

ภายใต้สายตาของทุกคนมากมาย,กับกล้าให้เซียวจุ้ยจื่อยิงขู่เตือน,นับเป็นความอหังการเป็นอย่างมาก.

เซี่ยกวนครุ่นลอบคิดในใจ,”เจ้าสำนักจุน,นับเป็นยอดฝีมือจริง ๆ!

กับการขู่เตือนฉินเห่าหราน,ใบหน้าของเขาที่กลายเป็นอัปลักษณ์,ครุ่นคิดครู่หนึ่ง,ก่อนที่จะถอยกลับคืน.

ริ้วแสงและเสียงดังสนั่นเมื่อกี้,ทำให้ภายในใจของทุกคนรู้สึกหวั่นไหว.

ด้วยแกนผลึกระดับต่ำที่ใช้เป็นกระสุนเวลานี้,ยากจะสังหารบรรพชนยุทธ์ได้,ทว่าก็บอกได้ว่ามันทรงพลังและรวดเร็วพอจะทำให้บาดเจ็บได้.

กับความเร็วที่พวกเขาแทบไม่สามารถมองตามได้ทัน,ไม่ต้องบอกเลยว่ายากจะหลบพ้น.

ผู้นำฉินที่รู้สึกกลัวเล็กน้อย,จะให้ศิษย์ยิงอาวุธลับอีกครั้งงั้นรึ?

 

หนำซ้ำ,นี่เป็นเรื่องของสำนักไท่กู่เจิ้งกับนิกายเซิ่งซวน,ทำไมเขาต้องเปลี่ยนจากแขกเป็นเจ้าบ้านด้วยล่ะ.

ดูเหมือนว่าคำว่าสุนัข,เขาต้องกลืนลงคอไปอีกครั้งแล้ว.

สำนักไท่กู่เจิ้ง,และพันธมิตรร้อยสำนักแยกตัวกันครั้งนั้น,ก็นับว่าเขาเสียหน้าไปครั้งหนึ่งแล้ว.

......

เซียวจุ้ยจื่อที่ยิงขู่เตือน,ทำให้ผู้นำฉินและเจ้าสำนักคนอื่น ๆแม้แต่ศิษย์นิกายเซิ่งชวนต้องระแวงขึ้นมา.

ถึงแม้นว่าพวกเขาจะนำกระบี่ออกมาปัดป้อง,แต่ก็ไม่มั่นใจว่าจะสามารถต้านอาวุธลับ 30,000 กว่าแบบของศิษย์สำนักไท่กู่เจิ้งได้.

“ชิ.”

อาวุโสนิกายเซิ่งชวนกล่าวออกมาเล็กน้อย,”เจ้าสำนักจุนดูเหมือนว่าจะโอหังเกินไปแล้ว,ซือโหมวต้องการขอคำชี้แนะ,มีความเห็นว่าอย่างไร.”

การที่เขาลงเขามาครั้งนี้เป้าหมายก็คือฉีกหน้าสร้างความอับอายให้กับสำนักไท่กู่เจิ้ง,ให้ทุกคนได้รู้,ว่าถึงจะเป็นศิษย์ที่ไล่ออกไปแล้วก็ไม่สามารถหาเรื่องได้.

ตอนนี้นะรึ?

ศิษย์ทีเขาส่งออกไป,ถูกศิษย์สำนักไท่กู่เจิ้งอัดซะยับเยิน!

แผนการที่วางไว้ผิดพลาดไปหมดแล้ว,แน่นอนเขาไม่สามารถยอมรับได้,ดังนั้นจึงไม่ลังเลเลยที่จะท้าจุนซ่างเซียวประลองเพื่อรักษาหน้าเอาไว้.

ฉินเห่าหรานและคนอื่น ๆที่แค่นเสียงเหยียดหยัน.

อาวุโสซือ ระดับบรรพชนยุทธ์ไม่ลังเลที่จะท้าประลอง,หากชายคนนี้รับการท้าประลอง,แน่นอนว่าจะต้องกลายเป็นหมาถูกยำแน่

“สามารถปฏิเสธได้รึไม่?”จุนซ่างเซียวที่สีจมูกไปมา.

ที่จริงเขาไม่ได้หวาดกลัวแม้แต่น้อย,ด้วยยันต์เพิ่มพลังและดาบหานโชว,ไม่มีทางที่เขาจะแพ้,แต่กระนั้นถึงชนะก็ไม่เห็นจะได้เงินหรือประโยชน์อันใดที่จะลงทุนเลย.

เจ้าสำนักระดับหกที่กล่าวหยัน,”เจ้าเป็นผู้ปกครองสำนัก,กับอาวุโสของสำนัก,หากปฏิเสธ,คนทั้งยุทธภพคงจะหัวเราะเยาะ.”

“โอ้ว.”

จุนซ่างเซียวกล่าวออกมาเล็กน้อย.

มารดาแกเถอะ!

มาสิว่ะ! ภารกิจสนับสนุน,นี่จะให้ข้าต่อสู้โดยไม่ได้อะไรเลยรึไง!

น่าเสียดายที่ไม่มีเสียง.....

อาวุโสสามเอ่ยออกมาเล็กน้อย,”เจ้าสำนักจุน,กล้ารับคำประลองหรือไม่?”

จากนั้นเขาที่ส่งสายตาเหยียดหยันออกมา.

นี่คิดว่าข้าไม่กล้ายอมรับการประลองงั้นรึ? เขาที่กล่าวออกมาในใจ,”เขามีพลังบ่มเพาะระดับใด,ความแข็งแกร่งเท่าไหร่.”

ระบบตอบ,”บรรพชนยุทธ์ขั้นที่หนึ่ง,ความแข็งแกร่งไม่สามารถประเมินได้แม่นยำนัก,ทว่าอย่างน้อยก็ 200,000 จิน.”

สองแสนจิน? น้อยกว่าหรือสูงกว่า?

สูงกว่า!

“ตอนนี้ข้ามีความแข็งแกร่ง 25,000 จิน แม้จะเพิ่มพลังห้าเท่า,ก็เพียงแค่สองแสน,ก็ยังด้อยกว่าอีกฝ่าย.”

 

ระบบที่สาดน้ำเย็นใส่อีก,”โฮสน์ไม่เพียงแต่มีความแข็งแกร่งแตกต่างกัน,พลังบ่มเพาะก็ต่างกันมาก,หากว่ายอมรับการประลอง,มีโอกาสชนะศูนย์เปอร์เซ็นเท่านั้น.”

 

เพียงระดับศิษย์ยุทธ์มีความแข็งแกร่งต่างกันไม่มาก,แต่การจะเกินไปถึงสองดินแดนเช่นนี้,ก็ไม่ต่างจากแส่หาความตาย.

 

มารดามันเถอะ,เริ่มสงสัยแล้วสิ อ๊าก.

หากใช้ยันต์เปิดผนึก,ใช้ดาบหนานโจวจะชนะหรือไม่?

“ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า!

ในเวลานั้น,เสียงหัวเราะที่ดังสนั่นก็ดังขึ้น,สายตาของทุกคนที่มองไปเป็นสายตาเดียวกัน,อาวุโสของนิกายเขาซ่างเซียวและศิษย์อีกหลายคนที่กำลังเดินเข้ามา,พร้อมกับกล่าวออกไปว่า,”อาวุโสซือระดับบรรพชนยุทธ์,กับกล้าท้าท้ายสหายน้อยที่มีระดับศิษย์ยุทธ์,ดูจะเกินไปหน่อยมั้ง.”

ใบหน้าของอาวุโสซือที่กลายเป็นมืดครึ้ม,”หม่าหยุนเถิง!


ที่มา https://lnmtl.com/novel/strongest-sect-of-all-times

#นิยายแปล #Strongest Sect of All Times #นิกายที่แข็งแกร่งที่สุดนิรันดรกาล.
Author(s)
Goodbye Jianghu


เข้ากลุ่มลับ VIP ====> Click


 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น