Strongest Sect of All Times Chapter 114 The good play just now starts
นิกายที่แข็งแกร่งที่สุดนิรันดรกาล
Chapter 114 The good play just now starts
好戏才刚开始
หลี่ชิงหยางที่ใช้ทักษะ
คมวิญญาณ,ซึ่งเป็นทักษะพลังวิญญาณ,แทบจะในทันทีเขาได้ทำให้ทุกคนที่ได้เห็น ต่างก็เผยท่าทางประหลาดใจออกมา.
“เหลือเชื่อ!อ๊าก!”ราชันย์รัตติการที่ตื่นตะลึง.
ในอดีตชาติเขาที่เคยฝึกทักษะวิชาวิญญาณมาหลากหลายวิชา,เขาตระหนักได้ถึงจุดอ่อนของมันได้ดี,ว่ามันผลาญพลังวิญญาณมหาศาล.
ยกตัวอย่างคมสุริยันต์จันทราแผดเผาที่เขาเคยฝึก,เป็นทักษะพลังวิญญาณเช่นกัน,เงื่อนไขของมันอย่างน้อยก็ต้องอยู่ในระดับปราชญ์ยุทธ์,นอกจากนี้เมื่อโจมตีออกไปหนึ่งกระบวนท่า,พลังวิญญาณในพายุหมุนวิญญาณได้ถูกใช้ไปถึง
60%
หลี่ชิงหยาง?
ที่ต่อยสวนขึ้นมา,จากนั้นก็ตามด้วยคมวิญญาณสามเส้นติดต่อกัน,นี่ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย.
หมัดระเบิด,ยังมีคมวิญญาณอีก,สองวิชาที่ทำให้เย่ซิงเฉิงตกใจ,เขาที่ตระหนักได้ทันทีว่า,ทักษะวิชาของสำนักไท่กู่เจิ้งไม่ธรรมดาเลย!
“ข้าต้องรีบตัดผ่านไปยังเปิดชีพจรให้เร็ว,จะได้ฝึกวิชานี้,ข้าจะฝีกฝนให้แข็งแกร่งกว่าในอดีต,ข้าจะแข็งแกร่งกว่านางให้ได้.”เขาที่ลอบคิดอยู่ในใจ.
ตั้งแต่แรกเขาก็พึงใจในวิชาเปลี่ยนเส้นเอ็นวิชาเดียว,เวลานี้หมัดระเบิดและคมวิญญาณ,
สร้างความพอใจกับเขาเป็นอย่างมาก.
“ฟิ้ว!”
“ฟิ้ว!”
“ฟิ้ว!”
ในลานยุทธ์,ริ้วแสงจันทร์เสี้ยวสามเส้นที่พุ่งออกไปเสียงดังกระหึ่ม.
โม่ซ่างเฟยที่เพิ่งยืนขึ้น,ถึงกับใบหน้าเปลี่ยนสี,เขาที่เร่งรีบใช้หมัดพายุออกมา,เพื่อต้านทาน.
“ตูมมม! ตูมมม!
”
หมัดแต่ละข้างที่กระแทกไปยังริ้วแสงจันทร์เสี้ยวที่โจมตีมา,แขนทั้งสองข้างของเขาถึงกับสั่นไปมา,รู้สึกราวกับว่ากล้ามเนื้อฉีกขาดเจ็บปวดเป็นอย่างมาก.
โม่ซ่างเฟยที่ไม่มีเวลาให้โอดครวน,เพราะว่าริ้วแสงจันทร์เสี้ยวที่สามก็มาถึงแล้ว,เขาที่กระโดดพลิกร่างเก้าสิบองศา,ทว่ากับไม่สามารถหลบได้พ้นทั้งหมดถูกกระแทกลอยระลิ่ว.
“ฟิ้ว!”
แต่กระนั้นความรุนแรงของมันที่หนักหน่วงมาก,ทำให้ร่างของเขาลอยออกไป,จนหล่นลงพื้นอีกครั้ง,โลหิตที่สาดกระจาย.
เขาที่ป้องกันคมวิญญาณได้สองเส้น,ด้วยความสามารถนี้ถือว่าไม่เลวทีเดียว.
อย่างไรก็ตาม,ก็ไม่เพียงพอที่จะป้องกันคมวิญญาณเส้นที่สามได้.
“รังเกียจ...น่ารังเกียจมาก....”โม่ซ่างเฟิงที่เช็ดริมฝีปาก,ดูเหมือนว่าร่างกายของเขานั้นแข็งแกร่งพอ,จึงได้รับบาดแผลไม่ได้หนักนัก.
ดูเหมือนว่าพลังวิญญาณของหลี่ชิงหยางยังไม่ได้มากเพียงพอ,จึงทำให้เขายังสามารถต้านคมวิญญาณได้,ไม่เช่นนั้นมันคงฉีกร่างของเขาให้เลือดไหลไปแล้ว.
ใบหน้าของอาวุโสทั้งสามที่มืดครึ้มขึ้นมาทันที.
ก่อนหน้านี้เขาคิดว่าศิษย์ของตนจะเอาชนะฝ่ายตรงข้ามได้ง่าย
ๆ,ไม่คาดคิดเลยว่าแม้แต่ตอนนี้จะได้รับบาดเจ็บด้วยซ้ำ.
ฉินเห่าหรานกล่าว,”ทักษะพลังวิญญาณ,แม้นว่าจะทรงพลัง,ทว่าก็มีจุดอ่อนที่แสนร้ายกาจเช่นกัน,ศิษย์ของนิกายเซิ่งชวนสามารถต้านได้,ตอนนี้ก็ไม่มีอะไรต้องกลัวแล้ว.”
“พลังวิญญาณสามเส้นก่อนหน้านี้,ศิษย์ของสำนักไท่กู่เจิ้งรับรองว่าใช้พลังไปเกือบหมดแล้ว,อีกหน่อยก็หมดแรงแล้ว.”
พันธมิตรร้อยสำนักที่ดวงตาร้อนผ่าว,พูดจากันเสียงดัง,ทว่าเสียงนั้นกับดังมาก,ราวกับว่าต้องการที่จะเตือนศิษย์สายในของนิกายเซิ่งชวนอย่างไม่สนใจ,ว่าอีกฝ่ายต้องหมดแรงในเร็ว
ๆนี้แน่.
ไม่จำเป็นต้องกล่าวเตือน,โม่ซ่างเฟยรับรู้ดีว่าทักษะพลังวิญญาณนั้นใช้พลังวิญญาณมากขนาดใหน.
เขาที่สะบัดแขนทั้งสองข้าง,สายตาที่เต็มไปด้วยความเย็นชา,”ก่อนหน้านี้ประมาทไปหน่อย,ต่อไปไม่มีอีกแล้ว.”
เขาเอาจริงแล้ว,ไม่มีทางประมาท มองศัตรูต่ำอีกต่อไปแล้ว.
อาวุโสห้าที่เหมือนได้ยินคำพูดดังกล่าว,ก็เผยยิ้มหัวเราะเบา
ๆ,”การแสดงที่ยอดเยี่ยมกำลังจะเริ่มขึ้นตอนนี้แล้ว.”
“ไม่ผิด.”จุนซ่างเซียวที่ยกข้าขึ้นไขว้,กระดิกเท้าพร้อมเอ่ยออกมาว่า,”การแสดงที่ยอดเยี่ยมกำลังจะเริ่มตอนนี้แล้ว.
“ฟิ้ว!”
โม่ซ่างเฟยที่จัดแจงตัวเองก่อนที่จะพุ่งเข้าไปอีกครั้ง,หมัดพายุของเขาที่เคลื่อนที่เร็วกว่าเก่าหลายเท่า,เวลานี้มองเห็นเป็นหมัดนับสิบหมัด,จากนั้นก็ได้ยินเสียงระเบิดดังลั่น.
“ตูมม! ตูมม! ตูมม! ”
หลี่ชิงหยางที่ใช้หมัดระเบิดออกมา,เสียงที่ดังเหมือนกับดอกไม้ไฟ,ออกมาต้านรับเพลงหมัดอีกฝ่าย,พลังวิญญาณที่สั่นกระจายเป็นระลอกออกไปรอบ
ๆ.
ทว่าเวลานี้,ทั้งสองที่แลกหมัดกันไปหลายสิบหมัดหลายกระบวนแล้ว!
ใต้เท้าของพวกเขาที่เกิดเป็นฝุ่นฟุ้งขึ้น,โอบล้อมหมุนวนเป็นเหมือนกับหลุมดำ,เศษหิน,เศษกิ่งไม้,เศษใบไม้ที่ยกลอยก่อนจะถูกฉีกออกกลายเป็นฝุ่น.
“ตูมมมมม!”
ทั้งสองที่แลกหมัดกันก่อนที่จะกระเด้งถอยห่างออกจากกัน
4-5 เมตร.
หมัดที่กำอยู่ของหลี่ชิงหยาง,นิ้วทั้งสิบของหลี่ชิงหยางที่คลายและสั่นไหวเล็กน้อย.
ขณะที่โม่ซ่างเฟยกำลังจะบุกเข้าไปอีกครั้ง.
การต่อสู้ที่หนักหน่วงรุนแรง,ราวกับก้อนหินสองก้อนที่พุ่งปะทะกัน,พร้อมที่จะทำให้ทั้งสองได้รับบาดเจ็บพอ
ๆ กัน.
“ดูเหมือนว่า,คงจะตัดสินกันในเวลาไม่นานนี้แน่.”
“แปลกจริง
ๆ,ศิษย์ยุทธ์ขั้นสี่,คาดไม่ถึงเลยว่าจะแลกหมัดกับศิษย์ยุทธ์ขั้นแปดได้อย่างสูสี!”
“เพลงหมัดที่ศิษย์สำนักไท่กู่เจิ้งใช้ไม่ธรรมดาเลย,ไม่เช่นนั้นคงพ่ายแพ้ไปแล้ว.”
“ศิษย์นิกายเซิ่งชวนมีระดับสูงกว่า,พลังวิญญาณมากกว่า,การต่อสู้ที่กินเวลาเช่นนี้ไม่มีปัญหา.”
“มือของศิษย์สำนักไท่กู่เจิ้งที่กำลังสั่น,ในความเห็นของข้า,หลายสิบกระบวนท่าที่ใช้ไป,คงใช้พลังวิญญาณจากพายุหมุนในจุดตานเดียว
เจ็ดถึงแปดส่วนจากสิบส่วนแล้ว.”
“ฟิ้ว!”
หลี่ชิงหยางที่เหวี่ยงสะบัดมือออกไป,”คมวิญญาณ!”
“ฟิ้ว!”
พลังวิญญาณอัดแน่นรูปจันทร์ระเบิดพุ่งออกไป.
นี่เขา...ยังใช้ทักษะพลังวิญญาณอีกรึ?
เหล่าเจ้าสำนักที่พูดคุยกันเสียงดัง,ก่อนที่จะเห็นริ้วแสงพลังพุ่งออกไป,ในเวลานั้น
ทุกคนที่กลายเป็นเซ่อโง่งมไปเหมือนกัน.
”คมวิญญาณ!”
”คมวิญญาณ!”
เพียงแค่เวลาสั้น ๆ,หลี่ชิงหยางที่โจมตีซ้ำไปอีก,ริ้วแสงจันทร์เสี้ยวพุ่งออกไป,โจมตีฝ่ายตรงข้ามอย่างรุนแรง,ตบหน้าคนที่วิพากวิจารณ์ว่าพลังวิญญาณของเขาไม่พอแล้ว.
“ตูมม! ตูมม! ตูมมม!”
โม่ซ่างเฟยที่ระวังตัว,ก้าวหลบในครั้งแรก,ริ้วแสงสามเส้นที่กระแทกไปยังธวัชศิลาเสียงดังสนั่น,ฝุ่นที่ฟุ้งกระจาย.
แต่กระนั้นหลี่ชิงหยางราวกับไม่ได้หยุดเพียงเท่านั้น.
เมื่อฝ่ายตรงข้ามที่หลบออกมาได้อย่างฉิวเฉียด,เขาก็ระดมโจมตีปล่อยลำแสงเสี้ยวจันทร์เพิ่มมาอีก.
“ตูมม! ตูมม! ตูมม! ตูมม! ตูมม!...”
”......”
สายตาของทุกคนที่จับจ้อง,ริ้วแสงเสี้ยวจันทร์ชุดสุดท้ายนั้นมันถูกกระหน่ำโจมตีติด
ๆต่อกันมากกว่าครั้งก่อน ๆ,ผู้นำพันธมิตรฉินและเหล่าเจ้าสำนักคนอื่น
ๆที่ใบหน้าแข็งค้าง.
ทักษะพลังวิญญาณที่กินพลังวิญญาณสูงงั้นรึ?
แต่ที่เห็นนี้,มันหมายความว่าอย่างไร,น่าหวาดกลัวเกินไปแล้ว!
แม้นว่าโม่ซ่างเฟยจะระมัดระวังแล้ว,ทว่าการหลบริ้วแสงสามเส้นก่อนหน้านี้ก็เต็มกลืนแล้ว,ทว่ากับมีอีกหลายเส้นที่พุ่งมากระแทกใบหน้า,ไหล่,แขน,เท้าของเขา....
“พรึด โครม!”
ท้ายที่สุด,หลังจากถูกโจมตีอย่างหนักหน่วงรุนแรง,ร่างกายที่หมุนเคร้งกระเด้งกระดอนไปบนพื้น,ปากที่พ่นโลหิต,ใบหน้าซีดขาว,ดวงตาไร้สีสันหมดสติไปในทันที.
คมวิญญาณที่หลี่ชิงหยางสร้างขึ้นมา,แม้นว่าพลังจะไม่ได้มากมายนัก,ทว่าการถูกระดมโจมตีอย่างบ้าคลั่ง,แม้นแต่ศิษย์ยุทธ์ขั้นที่แปดหรือเก้าก็ไม่สามารถทนได้.
“ชนะ!”
“ศิษย์พี่รองชนะแล้ว!”
ซูเซียวโม่และเถียนซีที่กระโดดไปมาด้วยความตื่นเต้น.
แม้นว่าลู่เชียนเชียนที่ใบหน้าไร้อารมณ์อยู่ตลอด,ภายในใจของนางที่ลอบคิดเอาไว้,”หลังจากกลับไป,ต้องฝึกฝนคมวิญญาณ......”
สตรีผู้นี้ที่คิดเหมือนเย่ซิงเฉิน,ก่อนหน้านี้นางสนใจเพียงวิชาบ่มเพาะเปลี่ยนเส้นเอ็นเท่านั้น,ส่วนหมัดระเบิดและคมวิญญาณ,ถึงนางจะได้รับมันมานานแล้ว,ทว่าก็ไม่ได้ฝึกฝนแต่อย่างใด.
เซียวจุ้ยจื่อที่เห็นศิษย์พี่ได้รับชัยชนะก็เงยหน้าขึ้น,มือที่นำออกมาจากโก่งปืน.
เขาที่มีความระมัดระวังเป็นอย่างสูง,หากว่าศิษย์พี่รองสู้ไม่ได้กำลังถูกอีกฝ่ายทำร้ายหรือสังหาร,เขาจะลงมือสังหารโม่ซ่างเฟยทันที.
“ศิษย์น้องเย่.”
เซียวจุ้ยจื่อที่หัวเราะ,”ศิษย์พี่รองชนะล่ะ!”
“ชิ!”นายท่านราชันย์รัตติกาลที่กล่าวหวัน,”ชนะศิษย์ยุทธ์ระดับแปด,มีอะไรให้น่าดีใจกัน?”
ภายในใจของเข่าที่สงบเงียบ,เพราะเขายังไม่ยอมรับสำนักไท่กู่เจิ้ง,จึงไม่ได้รู้สึกผูกพันธ์กับชื่อเสียงความเป็นไปของสำนักแต่อย่างใด.
เซียวจุ้ยจื่อนั้นแตกต่างออกไป,เขาที่ยอมรับสำนักไท่กู่เจิ้ง,ยอมรับเจ้าสำนัก,ยอมรับศิษย์พี่ศิษย์น้องทุกคน,ดังนั้นการที่หลี่ชิงหยางชนะ,เขาย่อมต้องดีใจไปด้วย.
“อั้ยยะ.”
จุนซ่างเซียวที่ลุกขึ้น,ยกมือประสานแสดงท่าทางขอโทษขอโพย,”หมัดและเท้าไม่มีตา,ศิษย์ของข้าทำให้ศิษย์ของท่านบาดเจ็บ,รู้สึกละอายจริง
ๆ.”
เหล่าศิษย์ของนิกายเซิ่งชวนที่แววตาเต็มไปด้วยความโกรธ,แม้แต่บางคนที่จับไปที่ด้ามกระบี่แล้ว.
ลู่เชียนเชียนที่ก้าวไปด้านหน้า,ยืนอยู่ด้านข้างเจ้าสำนัก,มือของนางที่กุมไปที่ด้ามกระบี่,แววตาทั้งสองข้างแผ่ความเย็นชาออกมา.
ในฐานะที่เป็นศิษย์พี่หญิงใหญ่,ย่อมมีอารมณ์ร่วมกับการปกป้องสำนักแน่นอน!
ซูเซียวโม่และเถียนซีเองก็เช่นกัน,พวกเขาที่กุมไปยังด้ามกระบี่ฟานเฟิง,ไม่แสดงท่าทางอ่อนแอออกมาแม้แต่น้อย.
เซียวจุ้ยจื่อเองก็เช่นกันเขาที่ส่องผ่านกล้อง,เล็งไปยังศีรษะของศิษย์นิกายเซิ่งชวนที่เตรียมลงมือ,ขอเพียงคนเหล่านี้ขยับ,ก็จะถูกระเบิดศีรษะอย่างไม่ต้องสงสัย.
แทบจะในทันที,สถานการณ์ที่กลายเป็นอึมครึมขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้!
ที่มา https://lnmtl.com/novel/strongest-sect-of-all-times
#นิยายแปล #Strongest Sect of All Times #นิกายที่แข็งแกร่งที่สุดนิรันดรกาล.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น