วันจันทร์ที่ 3 พฤษภาคม พ.ศ. 2564

Strongest Sect of All Times Chapter 113 Taking all the audience by surprise

Strongest Sect of All Times  Chapter 113 Taking all the audience by surprise

 นิกายที่แข็งแกร่งที่สุดนิรันดรกาล

Chapter 113 Taking all the audience by surprise

技惊四座

  

“ศิษย์ยุทธ์ขั้นที่แปดรึ?”

ซูเซียวโม่และเถียนซีและศิษย์คนอื่น ๆถึงกับใบหน้าเปลี่ยนสี.

ศิษย์ยุทธ์ขั้นสีและขั้นแปดแตกต่างมากเกินไป,ศิษย์พี่รองจะชนะได้อย่างงั้นรึ?

ลู่เชียนเชียนที่ขมวดคิ้วไปมาเล็กน้อย,กล่าวเสียงเบา,”เจ้าสำนัก,ฝ่ายตรงข้ามแข็งแกร่งเกินไป,ให้ข้าออกไปต่อสู้เถอะ.”

ด้วยความแข็งแกร่งของโม่ซ่างเฟย,ทำให้นางไม่เชื่อว่า,ศิษย์น้องรองจะชนะในการต่อสู้ครั้งนี้ได้.

จุนซ่างเซียวที่นำเก้าอี้ออกมานั่ง จากแหวนมิติ,ก่อนที่จะวางมือบนที่พนังพิงอย่างสบาย ๆ,”เจ้าเป็นศิษย์พี่หญิงใหญ่,ไม่ว่าจะเป็นอะไรที่ใหน,เจ้าต้องเชื่อมั่นในตัวศิษย์น้องเจ้าด้วย.”

 ลู่เชียนเชียนที่เงียบ,ยืนอยู่ด้านหลังเหล่าศิษย์น้องของนาง.

 

“พรสวรรค์ของหลี่ชิงหยาง,แม้นว่าจะไม่เลว,ทว่าโม่ซ่างเฟยนิกายเซิ่งชวนเองก็มีรากวิญญาณระดับสูงเช่นกัน,ทำให้เขาเวลานี้ไม่มีอะไรได้เปรียบเลย.”

“สำนักไท่กู่เจิ้ง,กับให้ศิษย์ที่ด้อยกว่าออกไปสู้?”

ผู้นำฉินและเหล่าเจ้าสำนักคนอื่น ๆกต่างก็กล่าวหยัน.

กับโอกาสที่ดีเช่นนี้,พวกเขาไม่ปล่อยโอกาสที่จะกล่าวแคลนสำนักไท่กู่เจิ้ง,เพื่อเอาคืนเมื่อครั้งเรื่องที่เกิดขึ้นที่ตึกจันทร์ดารา.

แน่นอน.

พวกเขาไม่คิดว่าหลี่ชิงหยางนั้นแตกต่างมากมายนัก.

พรสวรรค์ที่เขามีนั้นโดดเด่น,แต่โม่ซ่างเฟยด้วยทรัพยากรและอาจารย์ที่เหนือกว่าชี้แนะ,ทำให้แข็งแกร่งกว่าอีกฝ่ายมากมาย.

“พรสวรรค์อันดับหนึ่งเมืองชิงหยาง,หากเข้าร่วมนิกายเขาซ่างเซียว,คงได้เป็นศิษย์สายในแล้ว,ความสำเร็จก็มากกว่าที่เป็นอยู่อีกมาก.”

“เฮ้อ,ปล่อยให้พรสวรรค์เสียเปล่าจริง ๆ.”

เหล่าสำนักต่าง ๆที่เอ่ยกล่าวด้วยน้ำเสียงเสียดาย.

เป็นเช่นนั้นจริง ๆรึ?

อย่างไรก็ตามสิ่งที่พวกเขาทำนั้นก็เพื่อที่จะกล่าวล้อเลียนดูแคลนจุนซ่างเซียวซะมากกว่า.

เซี่ยกวนคุนที่ลอบคิดในใจ,”สองเดือนที่แล้ว,หลี่ชิงหยางมีระดับเปิดชีพจรขั้นที่ 10,ตอนนี้อยู่ในระดับศิษย์ยุทธ์ขั้นที่สี่,การเติบโตที่ไม่ธรรมดา,พวกเจ้านี้มีแต่ตาแต่หามีแววแม้แต่น้อย.”

นี่ไม่ใช่ไม่มีแววเท่านั้น,เรียกว่าตามืดบอดเลยซะมากกว่า.

จุนซ่างเซียวหาได้สนใจคนเหล่านี้,เขาที่จ้องมองไปยังพื้นที่ไกลออกไป,ลอบคิดในใจ,”จุ้ยจื่อเองก็มารึ?”

ใช่แล้ว.

เซียวจุ้ยจื่อเองก็มา.

เขาที่นอนซุ่มอยู่ห่างออกไป 800 เมตรบนที่ลาดชัน,ร่างกายที่ซ่อนตัวในพรงหญ้า,ดวงตาที่มองลอดผ่านเลนส์,ปลายกระบอกปืนสไนเปอร์ไรเฟิลรูปแบบ 88 เล็งไปยังโม่ซ่างเฟย.

เขาที่ออกไปหาประสบการณ์ด้านนอก,เซียวจุ้ยจื่อได้ยินการประลองการต่อสู้,จึงเร่งรีบเดินทางมาดูนั่นเอง.

เขาที่นอนซุ่มอยู่ในพงหญ้าทั้งวันทั้งคืน,ถึงแม้นว่าจะเป็นผู้ฝึกยุทธ์ระดับศิษย์ยุทธ์ขั้นที่สาม,ก็ไม่คิดว่า,จะมีใครกำลังแอบซุ่มอยู่ในพื้นที่ดังกล่าวแน่.

เจ้าสำนัก.

ปืนที่พร้อมยิง.

หากใครกล้าเล่นไม่ซื่อ,ศิษย์จะยิงหัวมันทันที.

บนก้อนหินที่ไกลออกมาเช่นกัน,เย่ซิงเฉินที่กำลังนอนอยู่กล่าวในใจ,”หากไม่เพราะว่าเปิ่นตี้มีวิชาพระสูตรไท่ฉวน,ที่ช่วยเจ้าปกปิดกลิ่นอายได้,จะมีรึที่จะไม่มีใครรู้ว่ามีคนซ่อนอยู่ในพงหญ้า?”

......

“นิกายเซิ่งชวน,โม่ซ่างเฟย.”

โม่ซ่างเฟยที่กล่าวออกมาเบา ๆ,ทว่าสายตาของเขาที่แข็งกร้าวเต็มไปด้วยความดูแคลน.

เขาพอจะได้ยินชื่อหลี่ชิงหยางมาบ้าง,ทว่าก็ไม่มีอะไรต้องสนใจ,ต้องไม่ลืมว่าเขาอยู่ในนิกายที่เหนือกว่า,ไม่ลดตัวลงไปมองขยะอยู่แล้ว.

เมื่อขานชื่อเสร็จ,การประลองก็ควรจะเริ่มขึ้น.

อย่างไรก็ตาม,อาวุโสสามกล่าวออกมาว่า,”เจ้าสำนักจุน,หมัดและเท้าไม่มีตา,ศิษย์ของข้า,หากว่าทำร้ายศิษย์ของท่านให้เจ็บหนัก,ก็คงต้องขออภัยไว้ก่อน.”

การเอ่ยกล่าวเช่นนี้,บ่งบอกไว้ว่าอีกฝ่ายตรงการที่จะทำร้ายอีกฝ่ายสาหัสอย่างงั้นรึ?”

จุนซ่างเซียวที่ส่ายหน้าไปมา,ยกมือประสานกล่าวออกไปว่า,”หากศิษย์ของข้าทำร้ายศิษย์ของท่านสาหัส,ข้าเองก็ต้องขออภัยล่วงหน้าด้วยเช่นกัน.”

ฉินเห่าหรานและคนอื่น ๆที่มองบน.

ระดังสี่ทำร้ายระดับแปดสาหัสงั้นรึ? มีเพียงแค่เรื่องตลกเท่านั้นล่ะ.

อาวุโสไม่ยินดีนักที่ถูกจุนซ่างเซียวตอกกลับมา,ทว่าก็เอ่ยกล่าวออกมาอย่างนุ่มนวล,”เริ่มต่อสู้ได้.”

“ฟิ้ว!”กล่าวจบ,โม่ซ่างเฟยที่พุ่งออกไปราวกับลูกศร,หมัดขวาของเขาที่รวมพลังวิญญาณ,ก่อนที่จะต่อออกไปเสียงดังกึกก้อง.

รวดเร็วเป็นอย่างมาก,โจมตีแทบจะในทันที!

“ตูมมมม!”หลี่ชิงหยางที่ยากจะหลบ,ยกมือประสานเป็นรูปกากบาทเข้ากับหมัดของอีกฝ่าย.

“กรึด กรึดดดด กรึดดดด!

เท้าของเขาที่ครูดไปกับพื้นราว ๆสิบก้าว,ก่อนที่จะตั้งมั่นได้.

พลังวิญญาณที่สาดกระจายออกไปรอบอากาศเห็นเป็นระลอกคลื่น,หมัดที่หนักหน่วงรุนแรงเมื่อกี้นี้,อย่างน้อยก็น่าจะมีพลัง 20,000 จิน!

“ฟู่!

หลี่ชิงหยางที่ขยับแขนของตัวเองเล็กน้อย.

“เอ๊ะ!”โม่ซางเฟยที่ชักหมัดกลับมา,เผยท่าทางประหลาดใจ,”สามารถรับหมัดพายุของข้าได้,ไม่แม้แต่บาดเจ็บ,กายเนื้อของเขาดูเหมือนว่าจะไม่ธรรมดา.”

”.”

เขาที่เผยยิ้มก่อนที่จะกล่าวออกไปว่า,”แล้วจะต้านได้สักกี่ครั้งกัน?”

“ฟิ้ว!

โม่ซ่างเฟยที่พุ่งเข้าอีกครั้ง.

ทุกคนที่มองอยู่,หมัดที่เหวี่ยงออกไป,พลังวิญญาณที่ล้นออกมาเห็นเพียงแค่ริ้วหมัดพุ่งออกไปด้วยความเร็ว.

หมัดพายุนั้นเป็นทักษะสามัญขั้นกลาง,ที่เน้นไปที่ความเร็ว,ซึ่งมีชื่อเสียงไม่น้อย,โม่ซ่างเฟยที่สำเร็จวิชานี้ในระดับสูง,การที่เขาใช้มันออกมา,ทำให้ผู้นำฉินและคนอื่น ๆต่างก็ต้องอุทานเสียงดัง.

ซูเซียวโม่และเถียนซีใบหน้าเปลี่ยนเป็นซับซ้อนตื่นตกใจ.

ทั้งเร็วและทรงพลัง,หากเปลี่ยนเป็นพวกเขา,ไม่มีทางหลบหรือรับได้,มีแต่ต้องลอยกระเด็นอย่างไม่ต้องสงสัย.

หลี่ชิงหยางที่ยกมือทั้งสองขึ้นรับ,ได้ยินเพียงเสียง,ตูม ตูม ตูม,หลายครั้ง,เห็นเพียงเงาเรื่อ ๆกระทบ,ร่างกายของเขาที่ถูกผลักออกไปทีละก้าว ๆ.

“กึก!

จนกระทั่งถูกดันไปถึงขอบลานยุทธ์,เท้าข้างหนึ่งที่ยันธวัชศิลาเอาไว้,ร่างกายของเขาที่ยังคงสงบนิ่ง.

อย่างไรก็ตามโม่ซ่างเฟยที่ไม่หยุดแม้แต่น้อย,เขาที่ลอยตัวสูง,หมัดขวาที่ห่อหุ้มด้วยพลังวิญญาณที่เงื้อขึ้น,ริ้วแสงส่องประกาย.

โจมตีด้วยพลังที่เหนือล้น.

ผู้นำฉินและเหล่าเจ้าสำนักต่าง ๆ แทบจะตัดสินไปแล้ว,หลี่ชิงหยางไม่สามารถหลบได้แล้ว,มีเพียงแต่ต้องสู้กลับมา.

การถอยก็เท่ากับว่าพ่ายแพ้.

 

ทว่าการโจมตีปะทะกลับคืนมา,กับพลังที่เหนือกว่ามีแต่จะได้รับบาดเจ็บเท่านั้น.

พวกเขาที่ต้องการให้หลี่ชิงหยางถอยออกไป,เพราะว่าหากเขาพ่ายแพ้,นั่นก็จะทำให้คำเหยียดหยันดูแคลนของพวกเขานั้นถูกต้อง.

 

จุนซ่างเซียวที่เคาะนิ้วไปมา,ราวกับว่ากำลังทนไม่ได้,ทว่าจิตใจของเขาก็ยังคงมั่นคง.

“กึก!

ในเวลานั้น,หลี่ชิงหยางที่ก้าวไปด้านหน้า,หมัดขวาของเขาที่ต่อยส่วนขึ้นมา,พลังวิญญาณที่ไหล่บ่าจากเส้นชีพจรทั้งหมด,ดวงตาของเขาที่เป็นประกาย.

“หมัดระเบิด!

เสียงที่เย็นชา,หมัดขวาที่ดังก้อง,ส่องประกายแสงสว่างเจ้า,ใต้เท้าของเขาที่ปรากฏเป็นเหมือนกับหลุมดำเกิดขึ้น.

“ตูมม ตูมม ตูมม!

เสียงระเบิดดังสนั่นผ่านออกมา,ดังกังวานไปทั่วลานยุทธ์,เสียงที่ดังเหมือนกับดอกไม้ไฟที่ถกยิงออกมา,จะทำให้ทุกคนตกใจจดจ้องด้วยความประหลาดใจ.

“ตูมมมม!

แทบจะในทันที,หมัดของหลี่ชิงหยางราวกับระเบิดออกมา,มันพุ่งเข้าหาหมัดของโม่ซ่างเฟย.ปะทะกันดังลั่น.

“โครม โครม ครืดดดด!

ศิษย์สายในนิกายเซิ่งชวนที่ลอยโด่งล่วงบนพื้น,ครืดพื้นลากออกไปกว่า 20 เมตร,ก่อนทุกอย่างจะหยุดลง,ความเจ็บปวดที่ราวกับไหลอาบไปทั่วแขนขวาของเขา,แววตาของเขาที่ตื่นตะลึงอย่างหนัก.

หมัดระเบิดของเขาที่มีพลัง 22,000 จิน,ไม่เพียงผลักพลังของอีกฝ่ายออกไป,ยังกระแทกเขาลอยออกมาได้อย่างคาดไม่ถึง.

กลับท่าทางเหยียดหยันที่ระดมใส่สำนักไท่กู่เจิ้งอย่างไม่หยุดหย่อน,เวลานี้ผู้นำฉินและเหล่าเจ้าสำนักคนอื่น ๆ,จ้องมองโม่ซางเฟยกระเด็นออกมา,แววตาของแต่ละคนที่อึ้งตะลึงงันไปตาม ๆกะน.

เมื่อกี้นี้มันเกิดอะไรขึ้น,สถานการณ์ที่พลิกในทันที,เป็นอะไรที่เหลือเชื่อมาก!

หมัดระเบิด?

นี่มันทักษะยุทธ์อะไร,ไม่เห็นเคยได้ยิน!

ด้วยพลังศิษย์ยุทธ์ขั้นสี่,กับผลักศิษย์ยุทธ์ขั้นแปดลอยกระเด็นออกมา,นี่มันทักษะยุทธ์ระดับกลางอย่างงั้นรึ?

ที่ไกลออกไปบนลานศิลา,เย่ซิงเฉินที่จ้องมองอยู่,ลอบตะลึงไปเช่นกัน,”ทักษะหมัดนี้,ไม่ธรรมดา!

“ฟิ้ว!” ถัดจากนั้น,หลี่ชิงหยางที่ก้าวพุ่งออกไป,ในมือของเขาที่ปรากฏพลังวิญญาณอัดแน่นรูปใบมีดจันทร์เสี้ยวถูกเหวี่ยงออกไปในทันที.

“ฟิ้ว! ฟิ้ว! ฟิ้ว!

แทบจะในทันที,ลำแสงรูปจันทร์เสียวสามอัน,พุ่งเรียวออกไป,เสียงแหวกฉีกอากาศหวีดหวิว,เห็นเป็นเพียงแค่เงาเท่านั้น.

นี่มัน....

ใช่แล้ว,คมวิญญาณ!

เซี่ยกวนคุนที่อุทานออกมาด้วยความตกใจ,”ทักษะพลังวิญญาณ!

ฉินเห่าหลานและเจ้าสำนักคนอื่น ๆที่จ้องมองดวงตาเบิกกว้างกลมโต,แววตาที่ตื่นตะลึงอีกครั้ง!

สามอาวุโสที่นั่งอยู่บนเก้าอี้อย่างเงียบ ๆ,ทว่าเมื่อเห็นหลี่ชิงหยางปล่อยลำแสงจันทร์เสียวสามอันพุ่งลอยออกมา,พวกเขาแทบจะลุกขึ้นยืนพร้อม ๆกัน!

ทักษะพลังวิญญาณ.

ที่นิกายเซิ่งชวนเองก็มี,ทว่าทักษะขั้นต่ำนั้นก็อยู่ในระดับกลางขั้นสูงแล้ว,มีเพียงคนที่สำเร็จระดับอาจารย์ยุทธ์เท่านั้นถึงจะฝึกได้,เพราะระดับศิษย์ยุทธ์,พายุหมุนวิญญาณในจุดตานเถียนยังอ่อนแออยู่,แน่นอนไม่มีทางจะใช้มันออกมาได้!

จุนซ่างเซียวเห็นอาวุโสที่ยืนขึ้นแทบจะพร้อม ๆกัน,และเผยยิ้มเล็กน้อย,”เพียงแค่นี้ก็ประหลาดใจแล้วรึ?”


ที่มา https://lnmtl.com/novel/strongest-sect-of-all-times

#นิยายแปล #Strongest Sect of All Times #นิกายที่แข็งแกร่งที่สุดนิรันดรกาล.
Author(s)
Goodbye Jianghu


เข้ากลุ่มลับ VIP ====> Click


 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น