Immortality Chapter 1169 Outside Great Thunder Sound Temple
นิยาย เรื่อง อมตะ ตอนที่ 1169 ด้านนอกวิหารใต้เหล่ยหยิง.
Chapter 1169 Outside Great Thunder Sound
Temple
大雷音寺外
ด้านนอกวิหารใต้เหล่ยหยิง.
ภพหยาง,ทวีปตะวันออก.
กลุ่มของจงซานที่เดินทางด้วยความเร็วสูงสุดต้องใช้เวลาหลายปีในการเดินทางมา,ท้ายที่สุดก็มาถึงทวีปตะวันออก,สถานที่กำลังเกิดความโกลาหล.
กลุ่มคน 12 คน,ที่สวมชุดดำปกปิดลุ่นอาย,ทำให้ผู้คนรอบๆไม่สามารถสืบได้,ยิ่งเป็นหวนจีด้วยแล้วที่ไม่ต่างจากความว่างเหล่า,แทบไม่สามารถสัมผัสได้เลย.
หยวนจี,ที่ไม่ต่างจากเงาไร้รูป,ติดตามมาด้วยตลอดทอง,แม้ว่าจะเป็นความลับ,ทว่าจงซานก็ไม่ได้กังวลอะไรนัก.
รากฐานของนางนั้น,หากจะกล่าวล่ะก็,นางคือส่วนหนึ่งของอารมณ์ที่ทำให้เกิดตัวตนขึ้นในใจของทุกคน,ทำให้ทุกคนสัมผัสและคิดว่านางมีชีวิต.
อีกอย่างหนึ่ง,จงซานได้คิดดูแล้ว,นับตั้งแต่เกิดการต่อสู้ในสวนสวรรค์ลอยฟ้าในครั้งนั้น,จงซานก็สามารถบอกได้,แม้คนอื่นไม่สามารถมองเห็นนางได้,ทว่าปราชญ์เทพสามารถมองเห็นและรับรู้ได้.
หยวนจีที่เป็นเหมือนกับคนทั่วไป,สามารถเห็นได้,แต่ไม่สามารถตรวจสอบได้,เพราะว่าหวนจีนั้นคล้ายดังแสงเงาสำหรับคนทั่วไป,แม้แต่สามารถซ่อนตัวได้ตลอดเวลา,ทว่าปราชญ์เทพนั้นแตกต่างออกไป,หากปราชญ์เทพพบพวกเขาจะไม่ยินยอมแน่และจะต้องเล็งเป้ามายังนาง,ซึ่งอาจจะทำให้นางได้รับอันตราย.
จงซาน,ที่ให้หวนจีเผยรูปร่างให้คนอื่นๆได้เห็น,เพื่อที่จะสามารถป้องกันนางได้จากปราชญ์เทพ,ในเมื่อนางมีตัวตนจะทำให้คนอื่นๆไม่เห็นความผิดปรกติ,และสามารถป้องกันปัญหาได้.
"เซิ่งหวัง,พวกเรามายังทวีปตะวันออก,จะไปที่ใดก่อน?"จินเผิงสอบถามออกไป.
"อาณาเขตซือหนิวเหอ,วิหารใต้เหล่ยหยิน!"จงซานที่กล่าวออกมาด้วยความจริงจัง.
"ไปยังวิหารใต้เหล่ยหยิน?"จินเผิงที่กล่าวออกมาด้วยความประหลาดใจ.
คนอื่นที่จ้องมองไปยังจงซานพร้อมๆกัน.
"เซิ่งหวัง,เกิดสิ่งใดขึ้น?"เซียนเซิงซือสอบถามออกไป.
"ใช่,ระหว่างทางนั้นหลายปีที่พวกเราเดินทาง,ในทวีปตะวันออกเกิดเรื่องสำคัญขึ้น,เมื่อเร็วๆนี้,ก็มีการต่อสู้หนึ่งเกิดขึ้น!"จงซานกล่าว.
"การต่อสู้อย่างงั้นรึ?
"ยูไลวิหารใต้เหล่ยหยิง,กับ
ซา,ตำหนักไป่โหยว,ต่อสู้กันอยู่!"จงซานที่กล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม.
"ซา?เขาคือศพปราชญ์เทพจากโลกใบเล็กครั้งนั้น?ศพของทงเทียน?"เซียนเซิงซือที่ขมวดคิ้วไปมา.
"ยูไลต่อสู้กับซา?"จินเผิงที่แสดงท่าทางไม่เข้าใจ.
แม้นว่าจินเผิงจะเคยถูกอรหันต์ยูไลกำราบ,เขาที่เป็นวิหกยักษ์ปีกทองในตำนาน,ที่เต็มไปด้วยความอหังการ,ทว่าก็เคยอาศัยในวิหารใต้เหล่ยหยิน,ดังนั้นเวลานี้ย่อมมีความรู้สึกเช่นกัน.
"ไม่สามารถบอกได้,หลายปีมานี้,การต่อสู้ในทวีปตะวันออกเกิดขึ้นเรื่อยๆ,บุญคุณความแค้นที่เหมือนว่ามันได้ปะทุขึ้นในทันที,มีการต่อสู้หลายแห่ง,จนมาถึงอรหันต์ยูแลและซา,ก็เป็นหนึ่งในนั้น,ไม่มีใครรู้ว่าทำไปเพื่ออะไร!"จงซานที่กล่าวออกมาอย่างจริงจัง.
"ผลเป็นอย่างไรบ้าง?"จินเผิงที่สอบถามออกไป.
"ซานั้นทรงพลังมาก,ยูไลได้รับบาดเจ็บและหลบเข้าไปในวิหาร,ตอนนี้กำลังรักษาตัวอยู่."จงซานที่กล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม.
"แฮกๆ!"จินเผิงที่สูดหายใจลึก,แววตาที่เผยท่าทางตื่นตระหนก,ความแข็งแกร่งของยูไลนั้น,จินเผิงรับรู้ดี,แม้นว่าจะตัวคนเดียว,ความแข็งแกร่งของเขาก็สร้างความตื่นตะลึงให้กับทุกคน.
ยูไลที่แข็งแกร่งทรงพลังถึงเพียงนั้น,คาดไม่ถึงเลยว่าจะพ่ายแพ้! ทำให้ยูไลบาดเจ็บหนีกลับไปรักษาตัวอย่างงั้นรึ?
"ซาอย่างงั้นรึ?"จินเผิงที่สอบถามออกไป.
"ซารึ? ดูเหมือนว่าจะไม่ได้รับบาดเจ็บเลย!"จงซานที่กล่าวออกมาเบาๆ.
จินเผิงที่เอ่ยปากค้าง,ไม่อยากเชื่อว่าซาจะทรงพลังขนาดนั้น?
"ซานั้น,ผิดปรกติมากนัก!"เซียนเซิงซือที่ครุ่นคิดและส่ายหน้าไปมา.
"ผิดปรกติ?
ผิดปรกติอย่างไร?"ทุกคนที่จ้องมองไปยังเซียนเซิงซือ.
"เกี่ยวกับข้าที่เข้าใจเรื่องเกี่ยวกับศพ,หลังจากที่พวกมันเปิดเชาว์ปัญญาได้,แต่ก็ไม่มีทางที่จะแข็งแกร่งได้เท่าเดิม,ถึงจะเป็นศพปราชญ์เทพก็ตาม,ข้าคิดว่าเป็นไปไม่ได้ที่มันจะแข็งแกร่งขนาดนั้น,อรหันต์ยูไล,แม้นว่าจะไม่เห็นด้วยตัวเอง,แต่ก็เป็นคนที่แข็งแกร่งอย่างคาดถึง,คาดไม่ถึงเลยว่าจะพ่ายแพ้,แม้แต่ได้รับบาดเจ็บทั้งที่ซาไม่ได้รับบาดเจ็บอะไรกลับไปเลย,ซาคนนี้ดูเหมือนว่าจะแข็งแกร่งเกินกว่าที่ควรจะเป็น!"เซียนเซิงซือที่ส่ายหน้าไปมา.
"ซานั้นแปลกไปจริงๆ,ก่อนหน้านี้เมื่อครั้งเนตรเทียนชูปรากฏ,เหล่าปราชญ์เทพที่ล่วงหล่นจากสวรรค์ที่จุติกลับมา,ควรที่จะตกตายไปหมดแล้ว,ไท่ซ่าง,จุนถี,เจี่ยหยิน,ทุกคนต่างก็ถูกทำลายสิ้น,ทว่าซาเป็นเพียงศพของทงเทียน,กลับยังปลอดภัยไร้รอยขีดขวด,มีเล่ห์กลอันใดกัน!"จินเผิงที่พยักหน้ารับ.
"ในครั้งนี้มีเรื่องราวมากมายที่เกิดขึ้นในทวีปตะวันออกแห่งนี้,เกี่ยวพันธ์กับเรื่องที่ใหญ่โตอย่างแน่นอน,ซาเองก็ต้องมีส่วนเกี่ยวข้องแน่นอน,เราควรที่จะเริ่มสูบจากเขา!"จงซานพยักหน้ารับและกล่าว.
"รับทราบ!"ทุกคนที่พยักหน้ารับ.
จื่อหยางจิงหงเองก็ไม่มีความคิดเห็นเช่นกัน,ดูเหมือนว่า,คงจะเป็นเช่นนั้น?
แม้นว่าจะเพิ่งมาถึง,ดูเหมือนว่าจะไม่ได้ล่าช้าแม้แต่น้อย,เรื่องราวต่างๆในทวีปตะวันออกนั้น,จงซานรับรู้อย่างดีอย่างงั้นรึ?
เขาได้คำนวณทุกอย่างไว้แล้ว? น่าเหลื่อเชื่อ,แม้นว่าจะยงมาไม่ถึง,ก็สามารถวางแผนทุกอย่างไว้แล้ว?
หากเป็นคงอื่นคงยากที่จะทำได้.
จื่อหยางจิงหงยิ่งรู้จักยิ่งจ้องมองจงซานด้วยความอัศจรรย์ใจ.
"เช่นนั้น,เซิ่งหวัง,พวกเราเดินทางไปยังวิหารใต้เหล่ยหยินเวลานี้เพื่ออะไรอย่างงั้นรึ?"หวังคูที่เผยท่าทางสงสัย.
"วิหารใต้เหล่ยหยิน?
ตอนนี้กลายเป็นจุดสนใจของทุกคน!"จงซานเอ่ย.
"หืม?"ทุกคนที่ไม่เข้าใจ.
"ดูเหมือนว่าจะมีใครบางคนต้องการสังหารพวกเขาให้สิ้น!"จงซานกล่าวออกมาอย่างหนักแน่น.
"มีบางคนต้องการสังหารทุกคนของวิหารใต้เหล่ยหยินอย่างงั้นรึ?"จินเผิงที่กล่าวออกมาด้วยความประหลาดใจ.
วิหารใต้เหล่ยหยิน,นับตั้งแต่ในอดีตก็ไม่ได้สร้างความขัดแย้งกลับใครอย่างชัดเจนนัก,วันนี้กลับมีคนต้องการสังหารพวกเขาให้สิ้นอย่างงั้นรึ?
เป็นใครกัน?
"หากไม่รีบไป,ทุกคนคงถูกสังหาร!"จงซานที่กล่าวออกมา.
สังหาร,ทุกคนจะถูกสังหารอย่างงั้นรึ?
"บุกเข้าไปยังวิหารใต้เหล่ยหยินอย่างงั้นรึ?"ดวงตาของจินเผิงที่สั่นไหวไปมา,ยังมีคนที่อหังการเช่นนี้อยู่อีกรึ?
"เดินทาง,ดูเหมือนว่าจะมียอดฝีมือมากมายที่มารวมตัวกัน,จินเผิงนำทาง!"จงซานที่กล่าวออกมา.
"รับทราบ!"
กลุ่มคนทั้ง 12
คน,ในเวลานั้นพุ่งตรงไปยังวิหารใต้เหล่ยหยินด้วยความเร็วสูง.
เป้าหมายสถานที่แรกของทวีปตะวันออก,คือวิหารใต้เหล่ยหยิน!
ความเร็วของพวกเขานั้นน่าสะพรึงกลัวยิ่งนัก,ภายใต้การนำของจินเฟิง,จึงใช้เวลาเพียงแค่สองวันเท่านั้น,พวกเขาก็สามารถเดินทางไปถึงอาณาเขตซือหนิวเหอ,ทวีปซือตาปู่.
กลับมาอีกครั้งแล้ว.
หลังจากผ่านมาหลายร้อยปี,กลุ่มของจงซานก็กลับมาที่นี่อีกแล้ว,ทว่าการเดินทางมาในครั้งนี้,พวกเขากลายเป็นกลุ่มที่ทรงพลังมากแตกต่างจากเดิมลิบลับ.
เหมือนดังที่จงซานกล่าว,มียอดฝีมือมากมายจากทั่วทุกสารทิศ,ประจำเต็มไปหมดบนเทือกเขาต่างๆรอบๆ.
การสังหารที่ไม่หยุดหย่อน! กลิ่นคาวโลหิตที่คละคลุ้งกระจายเต็มท้องฟ้า.
วิหารใต้เหล่ยหยิน,คาดไม่ถึงเลยว่าจะมีผู้มาเยือนมากมายขนาดนี้.
ในนั้นมีคนกลุ่มหนึ่ง,ทุกคนที่สวมชุดสีขาวล้วน,ถือกระบี่ยาวสีฟ้า,กระบี่ดังกล่าวเพียงแค่ตะวัด,ฟ้าดินก็เปลี่ยนแปลงเต็มไปด้วยปราณกระบี่,มากมายปกคลุมท้องฟ้า,ราวกับพายุแห่งปราณกระบี่,มากมายน่าตื่นตะลึง.
กลุ่มมือกระบี่ในชุดสีขาวนั้นกำลังบุกเข้าไปในวิหารใต้เหล่ยหยิน,ทว่าที่ด้านหน้าวิหารใต้เหล่ยหยินก็มีบางคนช่วยวิหารใต้เหล่ยหยินเอาไว้,ขวางพวกเขาที่ด้านนอก.
ที่ด้านนอกนั้นมีราชวงศ์วาสนาขนาดใหญ่,และยังมียอดฝีมืออีกหลายคน,ที่กำลังต้านกลุ่มมือกระบี่ขวางเอาไว้ด้านนอก.
ทว่าก็ยังมีคนอีกไม่น้อยที่ยังคงจ้องมองอยู่รอบๆ,ไม่เร่งรีบรุกเข้าไป.
เหล่าคนที่มีพลังฝึกตนอ่อนแอจะถูกต้านเอาไว้ด้านนอก,ส่วนมือกระบี่ที่มีฝีมือสูงกำลังรุกเข้าไปด้านใน.
จงซานไม่ได้เข้าร่วมความขัดแย้งนี้แต่อย่างใด,ขณะที่บินไปหยุดที่เทือกเขาแห่งหนึ่ง.
บนเทือกเขาดังกล่าว,มีผู้ฝึกตนผมสีแดง,ดวงตาสีแดงเข้ม,เห็นชัดเจนว่าเป็นคนที่ดุร้ายมาก,ที่ด้านหลังมีศิษย์ของเขาอยู่หลายคน,เวลานี้พวกเขาอยู่ในตำแหน่งที่ดีจับจ้องมองลงไปยังด้านล่าง.
"ไปให้พ้น!"เต้าเหรินถูที่กล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม.
"หืม?"ผู้ฝึกตนผมสีแดงที่ดวงตาเบิกกว้างจ้องมองด้วยความเย็นชากลับกลุ่มคนที่มาใหม่.
ใครคือผู้ฝึกตนผมแดง?
ในเขตแดนแห่งนี้เขามีชื่อเสียงเป็นอย่างมากในฉายา,ดาวปิศาจ,สังหารเซียนบรรพชนมาหลายคนเมื่อไม่นานมานี้,มีกระบี่โลหิตที่เต็มไปด้วยจิตสังหาร,ใครกันที่แส่หาความตายหาเรื่องเขา?
ขณะทีเขาหันหน้าไปมอง,มีคนชุดดำ 12
คน,ที่ไม่พูดไม่จากบุกเข้ามา,เห็นชัดเจนว่าคนที่เอ่ยปากเมื่อกี้นี้เป็นเพียงแค่ผู้ใต้บังคับบัญชา,ไม่คิดเลยว่าแค่ผู้ใต้บังคับบัญชากลับกล้าหาเรื่องเขา?
"แส่หาความตาย!"
ผู้ฝึกตนผมแดงชักกระบี่ออกมา,ก่อนที่จะตะวัดออกไป,กลายเป็นริ้วแสงสีแดงพุ่งออกไปด้านหน้าในทันที.
"ซี่!!!"เสียงชักกระบี่พร้อมกับโจมตีออกไป,ส่วนเต้าเหรินถูเองก็ชักดาบออกมาฟาดฟันออกไปเช่นเดียวกัน.
ดาบโลหิตที่ทำให้พื้นที่รอบๆกลายเป็นสีโลหิต,ทั่วท้องฟ้าเต็มไปด้วยจิตสังหารและกลิ่นคาวโลหิต,เป็นกลิ่นอายสังหารที่รุนแรงไปถึงแก่นพุ่งตรงไปยังชายในชุดสีแดง.
"ตูมมมมมมมมม!"
กระบี่ที่ลอยกระดอนออกไป,ผู้ฝึกตนผมแดงถึงกับลอยระลิ่วบินออกไป,เหล่าศิษย์ของเขาที่เร่งรีบบินตามไปทันที.
"อาจารย์!"ศิษย์ของเขาที่เร่งรีบบินตามมาด้วยความตื่นตกใจ.
ตกใจ? ชายผมแดงรู้สึกหวาดกลัวไปจนถึงจิตวิญญาณ.
กลิ่นอายจิตสังหารนั่น,ทรงพลังมากกว่าเขาหลายเท่า,แม้แต่กระแทกเขาลอยออกมาหลายพันจั้ง?
นี่เพียงแค่ผู้ใต้บังคับบัญชาอย่างงั้นรึ?
ชายในชุดสีแดงที่มือสั่นสะท้าน,จดจ้องมองขึ้นบนบนท้องฟ้าหวาดตาไปรอบๆ,ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรต่อไป.
หากแต่คนกลุ่มดังกล่าวกลับไม่สนใจพวกเขาแม้แต่น้อย,เพียงแค่หยุดอยู่บนยอดเขาดังกล่าว,จ้องมองออกไปยังพื้นที่ไกลออกไป.
บุรุษผู้หนึ่งที่เป็นหัวหน้า,มีชายสามคนและหญิงสาวหนึ่งคนที่ยืนด้านข้าง,ส่วนคนอื่นๆที่ยืนห่างออกไปด้านหลัง,ไม่กล้าเข้าไปใกล้,คอยอารักษ์ขาความปลอดภัยของคนทั้งสี่,ดูเหมือนว่าคนสามคนด้านหน้าจะมีสถานะสูงกว่าอย่างชัดเจน,ชายที่ยืนอยู่ด้านหน้ามีสถานะสูงสุด,ส่วนชายสามคนและสตรีหนึ่งคนคงมีสถานะรองลงมา,และมีคนอีกเจ็ดคนที่คอยปกป้องมีสถานะลำดับสาม.
อีกทั้งคนที่ล้มเขาก่อนหน้านี้,กลับเป็นเพียงกลุ่มคนที่มีสถานะเพียงลำดับสาม.
คนผู้ใต้บังคับบัญชาลำดับสาม,ล้มเขาด้วยกระบวนท่าเดียว.
ชายผมแดงที่เผยท่าทางหวาดหวั่น,คนกลุ่มนี้เป็นใครกัน?
ผู้ใต้บังคับบัญชาลำดับสามยังเอาชนะเขาได้อย่างงั้นรึ?
"อาจารย์,ฆ่ามันเลยใหม,คาดไม่ถึงเลยว่าจะกล้าลอบโจมตีพวกเรา!"
"อาจารย์,พวกมันข่มเหงสำนักปิศาจโลหิตของพวกเรา,แสดงให้มันได้เห็นว่านสำนักปิศาจโลหิตของพวกเราไม่ใช่ว่าใครจะยุแหย่ได้."
"อาจารย์,พวกเราร่วมมือสังหารพวกมันเลย!"
........................
..................
......
คนกลุ่มดังกล่าวที่ส่งเสียงโหวกเหวกโวยวาย,ชัดเจนพวกเขาคิดว่าเต้าเหรินถูก่อนหน้านี้ลอบโจมตี.
"หุบปาก!"ชายผมแดงที่ตะคอกออกไปเสียงดัง.
"อา,อาจารย์?"เหล่าศิษย์ที่ไม่เข้าใจแม้แต่น้อย.
"พวกเราไป!"ชายผมแดงที่กล่าวออกมาด้วยความเย็นชา.
"?"เหล่าศิษย์ที่เผยท่าทางประหลาดใจ,ก่อนที่จะเริ่งรีบจากไป.
กลุ่มคนของสำนักปิศาจโลหิต,ที่จากไปเงียบๆ.
ทว่าภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้น,สร้างความสนใจให้กับคนรอบๆเช่นเดียวกัน,ทุกคนที่คิดว่าชายผมแดงถูกลอบจนดีจนได้รับบาดเจ็บ,ทว่าหลังจากนั้นชายผมแดงกลับจากไป,ทว่าหลายคนเองก็รับรู้ว่านี่ไม่ใช่การลอบโจมตี,ทว่าคนกลุ่มดังกล่าวทรงพลังอย่างแท้จริง.
สำหนักปิศาจโลหิตนับว่าถูกลูบคมตบหน้าต่อผู้คนมากมาย,ทว่ากลับเร่งรีบจากไปไม่คิดที่จะต่อต้านแม้แต่น้อย,เห็นชัดเจนว่าคนกลุ่มนั้นทรงพลังเป็นอย่างมาก.
อีกทั้ง,จื่อหยางจิงหงที่ใช้สวรรค์ลี้ลับปกปิดมันเอาไว้,ทำให้ไม่มีใครสามารถพยากรได้,พวกเขาเป็นใคร,มาจากใหน,ทำให้ได้แต่มองด้วยความสนใจ.
ที่ไกลออกไป,บนยอดเขาอีกลูกหนึ่ง,ซึ่งมีศาลาที่งดงามตั้งอยู่,ที่ด้านนอกนั้นมียอดฝีมือคอยป้องกัน,ศาลาดังกล่าวนั้นมีม่ายไม้ไผ่ปิดกั้น,ทำให้สามารถมองจากด้านในออกมาด้านนอก,ด้านนอกไม่สามารถมองเข้าไปด้านในได้.
ที่ด้านในนั้น,มีชายในชุดสีดำที่หรูหรา,ใบหน้าที่ดูประณีต,กำลังดื่มชาอยู่.
หากจงซานได้เห็นแน่นอนว่าจะต้องประหลาดใจออกมา,คนผู้นี้ก็คือปราชญ์เทพม่อจื่อ.
"จงซาน?
คาดไม่ถึงเขาจะมาทวีปตะวันออก,จริงๆ....."ม่อจื่อที่วางถ้วยชาเบาๆ,ไม่กล่าวสิ่งใด.
ทว่าจงซานในเวลานี้,ไม่ได้สนใจที่จะมองม่อจื่อ,ยังคงจ้องมองไปยังด้านหน้า,จ้องมองไปยังสนามรบบนวิหารใต้เหล่ยหยิน.
Chapter 1169 Outside Great Thunder Sound
Temple
大雷音寺外
ด้านนอกวิหารใต้เหล่ยหยิง.
ภพหยาง,ทวีปตะวันออก.
กลุ่มของจงซานที่เดินทางด้วยความเร็วสูงสุดต้องใช้เวลาหลายปีในการเดินทางมา,ท้ายที่สุดก็มาถึงทวีปตะวันออก,สถานที่กำลังเกิดความโกลาหล.
กลุ่มคน 12 คน,ที่สวมชุดดำปกปิดลุ่นอาย,ทำให้ผู้คนรอบๆไม่สามารถสืบได้,ยิ่งเป็นหวนจีด้วยแล้วที่ไม่ต่างจากความว่างเหล่า,แทบไม่สามารถสัมผัสได้เลย.
หยวนจี,ที่ไม่ต่างจากเงาไร้รูป,ติดตามมาด้วยตลอดทอง,แม้ว่าจะเป็นความลับ,ทว่าจงซานก็ไม่ได้กังวลอะไรนัก.
รากฐานของนางนั้น,หากจะกล่าวล่ะก็,นางคือส่วนหนึ่งของอารมณ์ที่ทำให้เกิดตัวตนขึ้นในใจของทุกคน,ทำให้ทุกคนสัมผัสและคิดว่านางมีชีวิต.
อีกอย่างหนึ่ง,จงซานได้คิดดูแล้ว,นับตั้งแต่เกิดการต่อสู้ในสวนสวรรค์ลอยฟ้าในครั้งนั้น,จงซานก็สามารถบอกได้,แม้คนอื่นไม่สามารถมองเห็นนางได้,ทว่าปราชญ์เทพสามารถมองเห็นและรับรู้ได้.
หยวนจีที่เป็นเหมือนกับคนทั่วไป,สามารถเห็นได้,แต่ไม่สามารถตรวจสอบได้,เพราะว่าหวนจีนั้นคล้ายดังแสงเงาสำหรับคนทั่วไป,แม้แต่สามารถซ่อนตัวได้ตลอดเวลา,ทว่าปราชญ์เทพนั้นแตกต่างออกไป,หากปราชญ์เทพพบพวกเขาจะไม่ยินยอมแน่และจะต้องเล็งเป้ามายังนาง,ซึ่งอาจจะทำให้นางได้รับอันตราย.
จงซาน,ที่ให้หวนจีเผยรูปร่างให้คนอื่นๆได้เห็น,เพื่อที่จะสามารถป้องกันนางได้จากปราชญ์เทพ,ในเมื่อนางมีตัวตนจะทำให้คนอื่นๆไม่เห็นความผิดปรกติ,และสามารถป้องกันปัญหาได้.
"เซิ่งหวัง,พวกเรามายังทวีปตะวันออก,จะไปที่ใดก่อน?"จินเผิงสอบถามออกไป.
"อาณาเขตซือหนิวเหอ,วิหารใต้เหล่ยหยิน!"จงซานที่กล่าวออกมาด้วยความจริงจัง.
"ไปยังวิหารใต้เหล่ยหยิน?"จินเผิงที่กล่าวออกมาด้วยความประหลาดใจ.
คนอื่นที่จ้องมองไปยังจงซานพร้อมๆกัน.
"เซิ่งหวัง,เกิดสิ่งใดขึ้น?"เซียนเซิงซือสอบถามออกไป.
"ใช่,ระหว่างทางนั้นหลายปีที่พวกเราเดินทาง,ในทวีปตะวันออกเกิดเรื่องสำคัญขึ้น,เมื่อเร็วๆนี้,ก็มีการต่อสู้หนึ่งเกิดขึ้น!"จงซานกล่าว.
"การต่อสู้อย่างงั้นรึ?
"ยูไลวิหารใต้เหล่ยหยิง,กับ
ซา,ตำหนักไป่โหยว,ต่อสู้กันอยู่!"จงซานที่กล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม.
"ซา?เขาคือศพปราชญ์เทพจากโลกใบเล็กครั้งนั้น?ศพของทงเทียน?"เซียนเซิงซือที่ขมวดคิ้วไปมา.
"ยูไลต่อสู้กับซา?"จินเผิงที่แสดงท่าทางไม่เข้าใจ.
แม้นว่าจินเผิงจะเคยถูกอรหันต์ยูไลกำราบ,เขาที่เป็นวิหกยักษ์ปีกทองในตำนาน,ที่เต็มไปด้วยความอหังการ,ทว่าก็เคยอาศัยในวิหารใต้เหล่ยหยิน,ดังนั้นเวลานี้ย่อมมีความรู้สึกเช่นกัน.
"ไม่สามารถบอกได้,หลายปีมานี้,การต่อสู้ในทวีปตะวันออกเกิดขึ้นเรื่อยๆ,บุญคุณความแค้นที่เหมือนว่ามันได้ปะทุขึ้นในทันที,มีการต่อสู้หลายแห่ง,จนมาถึงอรหันต์ยูแลและซา,ก็เป็นหนึ่งในนั้น,ไม่มีใครรู้ว่าทำไปเพื่ออะไร!"จงซานที่กล่าวออกมาอย่างจริงจัง.
"ผลเป็นอย่างไรบ้าง?"จินเผิงที่สอบถามออกไป.
"ซานั้นทรงพลังมาก,ยูไลได้รับบาดเจ็บและหลบเข้าไปในวิหาร,ตอนนี้กำลังรักษาตัวอยู่."จงซานที่กล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม.
"แฮกๆ!"จินเผิงที่สูดหายใจลึก,แววตาที่เผยท่าทางตื่นตระหนก,ความแข็งแกร่งของยูไลนั้น,จินเผิงรับรู้ดี,แม้นว่าจะตัวคนเดียว,ความแข็งแกร่งของเขาก็สร้างความตื่นตะลึงให้กับทุกคน.
ยูไลที่แข็งแกร่งทรงพลังถึงเพียงนั้น,คาดไม่ถึงเลยว่าจะพ่ายแพ้! ทำให้ยูไลบาดเจ็บหนีกลับไปรักษาตัวอย่างงั้นรึ?
"ซาอย่างงั้นรึ?"จินเผิงที่สอบถามออกไป.
"ซารึ? ดูเหมือนว่าจะไม่ได้รับบาดเจ็บเลย!"จงซานที่กล่าวออกมาเบาๆ.
จินเผิงที่เอ่ยปากค้าง,ไม่อยากเชื่อว่าซาจะทรงพลังขนาดนั้น?
"ซานั้น,ผิดปรกติมากนัก!"เซียนเซิงซือที่ครุ่นคิดและส่ายหน้าไปมา.
"ผิดปรกติ?
ผิดปรกติอย่างไร?"ทุกคนที่จ้องมองไปยังเซียนเซิงซือ.
"เกี่ยวกับข้าที่เข้าใจเรื่องเกี่ยวกับศพ,หลังจากที่พวกมันเปิดเชาว์ปัญญาได้,แต่ก็ไม่มีทางที่จะแข็งแกร่งได้เท่าเดิม,ถึงจะเป็นศพปราชญ์เทพก็ตาม,ข้าคิดว่าเป็นไปไม่ได้ที่มันจะแข็งแกร่งขนาดนั้น,อรหันต์ยูไล,แม้นว่าจะไม่เห็นด้วยตัวเอง,แต่ก็เป็นคนที่แข็งแกร่งอย่างคาดถึง,คาดไม่ถึงเลยว่าจะพ่ายแพ้,แม้แต่ได้รับบาดเจ็บทั้งที่ซาไม่ได้รับบาดเจ็บอะไรกลับไปเลย,ซาคนนี้ดูเหมือนว่าจะแข็งแกร่งเกินกว่าที่ควรจะเป็น!"เซียนเซิงซือที่ส่ายหน้าไปมา.
"ซานั้นแปลกไปจริงๆ,ก่อนหน้านี้เมื่อครั้งเนตรเทียนชูปรากฏ,เหล่าปราชญ์เทพที่ล่วงหล่นจากสวรรค์ที่จุติกลับมา,ควรที่จะตกตายไปหมดแล้ว,ไท่ซ่าง,จุนถี,เจี่ยหยิน,ทุกคนต่างก็ถูกทำลายสิ้น,ทว่าซาเป็นเพียงศพของทงเทียน,กลับยังปลอดภัยไร้รอยขีดขวด,มีเล่ห์กลอันใดกัน!"จินเผิงที่พยักหน้ารับ.
"ในครั้งนี้มีเรื่องราวมากมายที่เกิดขึ้นในทวีปตะวันออกแห่งนี้,เกี่ยวพันธ์กับเรื่องที่ใหญ่โตอย่างแน่นอน,ซาเองก็ต้องมีส่วนเกี่ยวข้องแน่นอน,เราควรที่จะเริ่มสูบจากเขา!"จงซานพยักหน้ารับและกล่าว.
"รับทราบ!"ทุกคนที่พยักหน้ารับ.
จื่อหยางจิงหงเองก็ไม่มีความคิดเห็นเช่นกัน,ดูเหมือนว่า,คงจะเป็นเช่นนั้น?
แม้นว่าจะเพิ่งมาถึง,ดูเหมือนว่าจะไม่ได้ล่าช้าแม้แต่น้อย,เรื่องราวต่างๆในทวีปตะวันออกนั้น,จงซานรับรู้อย่างดีอย่างงั้นรึ?
เขาได้คำนวณทุกอย่างไว้แล้ว? น่าเหลื่อเชื่อ,แม้นว่าจะยงมาไม่ถึง,ก็สามารถวางแผนทุกอย่างไว้แล้ว?
หากเป็นคงอื่นคงยากที่จะทำได้.
จื่อหยางจิงหงยิ่งรู้จักยิ่งจ้องมองจงซานด้วยความอัศจรรย์ใจ.
"เช่นนั้น,เซิ่งหวัง,พวกเราเดินทางไปยังวิหารใต้เหล่ยหยินเวลานี้เพื่ออะไรอย่างงั้นรึ?"หวังคูที่เผยท่าทางสงสัย.
"วิหารใต้เหล่ยหยิน?
ตอนนี้กลายเป็นจุดสนใจของทุกคน!"จงซานเอ่ย.
"หืม?"ทุกคนที่ไม่เข้าใจ.
"ดูเหมือนว่าจะมีใครบางคนต้องการสังหารพวกเขาให้สิ้น!"จงซานกล่าวออกมาอย่างหนักแน่น.
"มีบางคนต้องการสังหารทุกคนของวิหารใต้เหล่ยหยินอย่างงั้นรึ?"จินเผิงที่กล่าวออกมาด้วยความประหลาดใจ.
วิหารใต้เหล่ยหยิน,นับตั้งแต่ในอดีตก็ไม่ได้สร้างความขัดแย้งกลับใครอย่างชัดเจนนัก,วันนี้กลับมีคนต้องการสังหารพวกเขาให้สิ้นอย่างงั้นรึ?
เป็นใครกัน?
"หากไม่รีบไป,ทุกคนคงถูกสังหาร!"จงซานที่กล่าวออกมา.
สังหาร,ทุกคนจะถูกสังหารอย่างงั้นรึ?
"บุกเข้าไปยังวิหารใต้เหล่ยหยินอย่างงั้นรึ?"ดวงตาของจินเผิงที่สั่นไหวไปมา,ยังมีคนที่อหังการเช่นนี้อยู่อีกรึ?
"เดินทาง,ดูเหมือนว่าจะมียอดฝีมือมากมายที่มารวมตัวกัน,จินเผิงนำทาง!"จงซานที่กล่าวออกมา.
"รับทราบ!"
กลุ่มคนทั้ง 12
คน,ในเวลานั้นพุ่งตรงไปยังวิหารใต้เหล่ยหยินด้วยความเร็วสูง.
เป้าหมายสถานที่แรกของทวีปตะวันออก,คือวิหารใต้เหล่ยหยิน!
ความเร็วของพวกเขานั้นน่าสะพรึงกลัวยิ่งนัก,ภายใต้การนำของจินเฟิง,จึงใช้เวลาเพียงแค่สองวันเท่านั้น,พวกเขาก็สามารถเดินทางไปถึงอาณาเขตซือหนิวเหอ,ทวีปซือตาปู่.
กลับมาอีกครั้งแล้ว.
หลังจากผ่านมาหลายร้อยปี,กลุ่มของจงซานก็กลับมาที่นี่อีกแล้ว,ทว่าการเดินทางมาในครั้งนี้,พวกเขากลายเป็นกลุ่มที่ทรงพลังมากแตกต่างจากเดิมลิบลับ.
เหมือนดังที่จงซานกล่าว,มียอดฝีมือมากมายจากทั่วทุกสารทิศ,ประจำเต็มไปหมดบนเทือกเขาต่างๆรอบๆ.
การสังหารที่ไม่หยุดหย่อน! กลิ่นคาวโลหิตที่คละคลุ้งกระจายเต็มท้องฟ้า.
วิหารใต้เหล่ยหยิน,คาดไม่ถึงเลยว่าจะมีผู้มาเยือนมากมายขนาดนี้.
ในนั้นมีคนกลุ่มหนึ่ง,ทุกคนที่สวมชุดสีขาวล้วน,ถือกระบี่ยาวสีฟ้า,กระบี่ดังกล่าวเพียงแค่ตะวัด,ฟ้าดินก็เปลี่ยนแปลงเต็มไปด้วยปราณกระบี่,มากมายปกคลุมท้องฟ้า,ราวกับพายุแห่งปราณกระบี่,มากมายน่าตื่นตะลึง.
กลุ่มมือกระบี่ในชุดสีขาวนั้นกำลังบุกเข้าไปในวิหารใต้เหล่ยหยิน,ทว่าที่ด้านหน้าวิหารใต้เหล่ยหยินก็มีบางคนช่วยวิหารใต้เหล่ยหยินเอาไว้,ขวางพวกเขาที่ด้านนอก.
ที่ด้านนอกนั้นมีราชวงศ์วาสนาขนาดใหญ่,และยังมียอดฝีมืออีกหลายคน,ที่กำลังต้านกลุ่มมือกระบี่ขวางเอาไว้ด้านนอก.
ทว่าก็ยังมีคนอีกไม่น้อยที่ยังคงจ้องมองอยู่รอบๆ,ไม่เร่งรีบรุกเข้าไป.
เหล่าคนที่มีพลังฝึกตนอ่อนแอจะถูกต้านเอาไว้ด้านนอก,ส่วนมือกระบี่ที่มีฝีมือสูงกำลังรุกเข้าไปด้านใน.
จงซานไม่ได้เข้าร่วมความขัดแย้งนี้แต่อย่างใด,ขณะที่บินไปหยุดที่เทือกเขาแห่งหนึ่ง.
บนเทือกเขาดังกล่าว,มีผู้ฝึกตนผมสีแดง,ดวงตาสีแดงเข้ม,เห็นชัดเจนว่าเป็นคนที่ดุร้ายมาก,ที่ด้านหลังมีศิษย์ของเขาอยู่หลายคน,เวลานี้พวกเขาอยู่ในตำแหน่งที่ดีจับจ้องมองลงไปยังด้านล่าง.
"ไปให้พ้น!"เต้าเหรินถูที่กล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม.
"หืม?"ผู้ฝึกตนผมสีแดงที่ดวงตาเบิกกว้างจ้องมองด้วยความเย็นชากลับกลุ่มคนที่มาใหม่.
ใครคือผู้ฝึกตนผมแดง?
ในเขตแดนแห่งนี้เขามีชื่อเสียงเป็นอย่างมากในฉายา,ดาวปิศาจ,สังหารเซียนบรรพชนมาหลายคนเมื่อไม่นานมานี้,มีกระบี่โลหิตที่เต็มไปด้วยจิตสังหาร,ใครกันที่แส่หาความตายหาเรื่องเขา?
ขณะทีเขาหันหน้าไปมอง,มีคนชุดดำ 12
คน,ที่ไม่พูดไม่จากบุกเข้ามา,เห็นชัดเจนว่าคนที่เอ่ยปากเมื่อกี้นี้เป็นเพียงแค่ผู้ใต้บังคับบัญชา,ไม่คิดเลยว่าแค่ผู้ใต้บังคับบัญชากลับกล้าหาเรื่องเขา?
"แส่หาความตาย!"
ผู้ฝึกตนผมแดงชักกระบี่ออกมา,ก่อนที่จะตะวัดออกไป,กลายเป็นริ้วแสงสีแดงพุ่งออกไปด้านหน้าในทันที.
"ซี่!!!"เสียงชักกระบี่พร้อมกับโจมตีออกไป,ส่วนเต้าเหรินถูเองก็ชักดาบออกมาฟาดฟันออกไปเช่นเดียวกัน.
ดาบโลหิตที่ทำให้พื้นที่รอบๆกลายเป็นสีโลหิต,ทั่วท้องฟ้าเต็มไปด้วยจิตสังหารและกลิ่นคาวโลหิต,เป็นกลิ่นอายสังหารที่รุนแรงไปถึงแก่นพุ่งตรงไปยังชายในชุดสีแดง.
"ตูมมมมมมมมม!"
กระบี่ที่ลอยกระดอนออกไป,ผู้ฝึกตนผมแดงถึงกับลอยระลิ่วบินออกไป,เหล่าศิษย์ของเขาที่เร่งรีบบินตามไปทันที.
"อาจารย์!"ศิษย์ของเขาที่เร่งรีบบินตามมาด้วยความตื่นตกใจ.
ตกใจ? ชายผมแดงรู้สึกหวาดกลัวไปจนถึงจิตวิญญาณ.
กลิ่นอายจิตสังหารนั่น,ทรงพลังมากกว่าเขาหลายเท่า,แม้แต่กระแทกเขาลอยออกมาหลายพันจั้ง?
นี่เพียงแค่ผู้ใต้บังคับบัญชาอย่างงั้นรึ?
ชายในชุดสีแดงที่มือสั่นสะท้าน,จดจ้องมองขึ้นบนบนท้องฟ้าหวาดตาไปรอบๆ,ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรต่อไป.
หากแต่คนกลุ่มดังกล่าวกลับไม่สนใจพวกเขาแม้แต่น้อย,เพียงแค่หยุดอยู่บนยอดเขาดังกล่าว,จ้องมองออกไปยังพื้นที่ไกลออกไป.
บุรุษผู้หนึ่งที่เป็นหัวหน้า,มีชายสามคนและหญิงสาวหนึ่งคนที่ยืนด้านข้าง,ส่วนคนอื่นๆที่ยืนห่างออกไปด้านหลัง,ไม่กล้าเข้าไปใกล้,คอยอารักษ์ขาความปลอดภัยของคนทั้งสี่,ดูเหมือนว่าคนสามคนด้านหน้าจะมีสถานะสูงกว่าอย่างชัดเจน,ชายที่ยืนอยู่ด้านหน้ามีสถานะสูงสุด,ส่วนชายสามคนและสตรีหนึ่งคนคงมีสถานะรองลงมา,และมีคนอีกเจ็ดคนที่คอยปกป้องมีสถานะลำดับสาม.
อีกทั้งคนที่ล้มเขาก่อนหน้านี้,กลับเป็นเพียงกลุ่มคนที่มีสถานะเพียงลำดับสาม.
คนผู้ใต้บังคับบัญชาลำดับสาม,ล้มเขาด้วยกระบวนท่าเดียว.
ชายผมแดงที่เผยท่าทางหวาดหวั่น,คนกลุ่มนี้เป็นใครกัน?
ผู้ใต้บังคับบัญชาลำดับสามยังเอาชนะเขาได้อย่างงั้นรึ?
"อาจารย์,ฆ่ามันเลยใหม,คาดไม่ถึงเลยว่าจะกล้าลอบโจมตีพวกเรา!"
"อาจารย์,พวกมันข่มเหงสำนักปิศาจโลหิตของพวกเรา,แสดงให้มันได้เห็นว่านสำนักปิศาจโลหิตของพวกเราไม่ใช่ว่าใครจะยุแหย่ได้."
"อาจารย์,พวกเราร่วมมือสังหารพวกมันเลย!"
........................
..................
......
คนกลุ่มดังกล่าวที่ส่งเสียงโหวกเหวกโวยวาย,ชัดเจนพวกเขาคิดว่าเต้าเหรินถูก่อนหน้านี้ลอบโจมตี.
"หุบปาก!"ชายผมแดงที่ตะคอกออกไปเสียงดัง.
"อา,อาจารย์?"เหล่าศิษย์ที่ไม่เข้าใจแม้แต่น้อย.
"พวกเราไป!"ชายผมแดงที่กล่าวออกมาด้วยความเย็นชา.
"?"เหล่าศิษย์ที่เผยท่าทางประหลาดใจ,ก่อนที่จะเริ่งรีบจากไป.
กลุ่มคนของสำนักปิศาจโลหิต,ที่จากไปเงียบๆ.
ทว่าภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้น,สร้างความสนใจให้กับคนรอบๆเช่นเดียวกัน,ทุกคนที่คิดว่าชายผมแดงถูกลอบจนดีจนได้รับบาดเจ็บ,ทว่าหลังจากนั้นชายผมแดงกลับจากไป,ทว่าหลายคนเองก็รับรู้ว่านี่ไม่ใช่การลอบโจมตี,ทว่าคนกลุ่มดังกล่าวทรงพลังอย่างแท้จริง.
สำหนักปิศาจโลหิตนับว่าถูกลูบคมตบหน้าต่อผู้คนมากมาย,ทว่ากลับเร่งรีบจากไปไม่คิดที่จะต่อต้านแม้แต่น้อย,เห็นชัดเจนว่าคนกลุ่มนั้นทรงพลังเป็นอย่างมาก.
อีกทั้ง,จื่อหยางจิงหงที่ใช้สวรรค์ลี้ลับปกปิดมันเอาไว้,ทำให้ไม่มีใครสามารถพยากรได้,พวกเขาเป็นใคร,มาจากใหน,ทำให้ได้แต่มองด้วยความสนใจ.
ที่ไกลออกไป,บนยอดเขาอีกลูกหนึ่ง,ซึ่งมีศาลาที่งดงามตั้งอยู่,ที่ด้านนอกนั้นมียอดฝีมือคอยป้องกัน,ศาลาดังกล่าวนั้นมีม่ายไม้ไผ่ปิดกั้น,ทำให้สามารถมองจากด้านในออกมาด้านนอก,ด้านนอกไม่สามารถมองเข้าไปด้านในได้.
ที่ด้านในนั้น,มีชายในชุดสีดำที่หรูหรา,ใบหน้าที่ดูประณีต,กำลังดื่มชาอยู่.
หากจงซานได้เห็นแน่นอนว่าจะต้องประหลาดใจออกมา,คนผู้นี้ก็คือปราชญ์เทพม่อจื่อ.
"จงซาน?
คาดไม่ถึงเขาจะมาทวีปตะวันออก,จริงๆ....."ม่อจื่อที่วางถ้วยชาเบาๆ,ไม่กล่าวสิ่งใด.
ทว่าจงซานในเวลานี้,ไม่ได้สนใจที่จะมองม่อจื่อ,ยังคงจ้องมองไปยังด้านหน้า,จ้องมองไปยังสนามรบบนวิหารใต้เหล่ยหยิน.
ที่มาจากhttps://lnmtl.com/novel/immortality
#นิยาย เรื่องอมตะ #Immortality#นิยายแปลไทย
Author(s)
สนใจสนับสนุนพวกเรา,เข้าร่วมกลุ่ม VIP ====> Click
ปัจจุบันแปลจบแล้ว 1672 ตอน สนใจติดต่อเข้ากลุ่มลับได้ครับ
***เว็ปฟรีอัพ สองวันหนึ่งตอน
***กลุ่มลับ แปลจบแล้ว.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น