Immortality Chapter 1080 Zhong Shan plays dead
นิยาย เรื่อง อมตะ ตอนที่ 1080 จงซานแกล้งตาย.
Chapter 1080 Zhong Shan plays dead
钟山假死
จงซานแกล้งตาย.
สายตาของทุกคนที่จ้องมองไปยังเซิ่งหวังอู๋เซี่ยง.
ฝ่ามือของเขาที่โจมตีไปยังร่างของจงซาน,ก่อนที่จะระเบิดออกมาเสียงดัง.
เซิ่งหวังต้าเจิ้งที่ร้ายกาจ,ตกตายเช่นนี้นะรึ?
ต้าเจิ้งล่มสลายแล้วอย่างงั้นรึ?
"เป็นไปไม่ได้,มันเป็นไปไม่ได้!"จินเผิงที่ดวงตาบิกกว้างกลมโตไม่อยากเชื่อ.
ประมุขนิกายฟู่โม่ที่เฝ้ามองเหตุการณ์,ทว่าเขาสามารถมองเห็นสถานการณ์ได้,ขันทีชราเข้าไปช่วยเซิ่งหวังเซี่ย,เซิ่งหวังเซี่ย,ขันทีชรา,สามเซียนบรรพชนเป็นพวกเดียวกันตั้งแต่แรกแล้ว.
จงซานตายแล้ว,ช่างน่าเสียดาย!
"มีอะไรเป็นไปไม่ได้!"เซิ่งหวังอู๋เซี่ยงแค่นเสียงดูแคลน.
เสียงหัวเราะที่ดังลั่น,ราวกับว่าไม่ได้ออกแรงแม้แต่น้อย.
ขณะที่ทุกคนกำลังตื่นตระหนก,ที่ด้านหลังเซิ่งหวังอู๋เซี่ยง,ปรากฏร่างๆหนึ่งขึ้นมาในทันที.
จงซาน?
จงซานยังไม่ตาย? ทุกคนที่ตื่นตระหนกตกใจเล็กน้อย,เรื่องนี้ลึกลับเกินไปแล้วเขาผลุบๆโผล่ๆได้อย่างไร!
"หลุมสังสารวัฏยักษ์,เปิด!"
ฝ่ามือของจงซานที่ฟาดไปยังด้านหลังเซิ่งหวังอู๋เซี่ยง,ก่อนที่จะตะโกนออกมาเสียงดัง.
เหมือนกับที่เคยใช้จัดการจุนหมอจื่อที่ต้องได้รับบาดเจ็บหนักในครั้งนั้น.
ทว่าขณะจงซานปรากฏอยู่ด้านหลัง,ยังไม่ได้ปลดปล่อยหลุมสังสารวัฏด้วยซ้ำ,ห่วงสี่เหลี่ยมสามวงก็ปรากฏขึ้น,ส่องประกายแสงสีทองขาว,ปกคลุมร่างของจงซาน,และเซิ่งหวังอู๋เซี่ยงที่ไม่รู้ว่าหลบได้อย่างไร?
ใบหน้าของจงซานที่เปลี่ยนเป็นซับซ้อน.
"เฮ้เฮ้,เจ้ายังคิดจะใช้ไม้เดิมๆ,ช่างน่าเศร้า,เจ้าไม่ได้ใช้ครั้งแรก,ก่อนหน้าใช้กับจุนหมอจื้อไม่ใช่รึ?,ช่างน่าเสียดายหากไม่มีใครรู้,บางที่ข้าอาจจะได้รับบาดเจ็บบ้าง,ทว่าเวลานี้เจ้าไม่มีทางหนีแล้ว!"เซิ่งหวังอู๋เซี่ยงที่แค่นเสียงเย็นชา.
"เขตแดนเพลิงแผดเผา!"เซิ่งหวังอู๋เซี่ยงที่ทำมุทรา.
พลังอำนาจจาดวงดาราจากทั่วทุกสารทิศ,ที่ไหลเข้ามารวมของวิเศษห่วงสี่เหลี่ยม,จากนั้นก็ลุกไหม้กลายเป็นเพลิงสีเขียวในทันที.
”!”
จงซานที่ร้องออกมาขณะทีเปลวเพลิงลุกไหม้.
"ของวิเศษของข้า,แม้แต่เซียนบรรพชนยังไม่รอด,ลำพังแค่เซียนโบราณนะรึ?"เซิ่งหวังอู๋เซี่ยงแค่นเสียงเย็นชา.
"เซิ่งหวัง!"จินเผิงที่ร้องออกมาเสียงดัง.
แววตาที่โกรธเกรี้ยว,ง้าวฟางเทียนฮวาจีที่ฟ้าฟันไปยังของวิเศษที่กักขังจงซาน.
"ตูมมม!” "ตูมมม!”
เซิ่งหวังเซี่ยและขันทีชรา,เข้ามาขวางจินเผิงในทันที.
จินเผิงที่ดวงตาแดงซ่าน,พร้อมกับปลดปล่อยพลังทั้งหมดออกมา,เข้าต่อกรกับเซียนบรรพชนทั้งสอง,ทว่าฝ่ายตรงข้ามมีถึงสองคน,มีเหรอที่จะสามารถทำได้ถอยไปได้ง่ายๆ?
"วูซซซซ!"
ภายในห่วงสี่เหลี่ยมที่เริ่มสั่นไปมา,เปลวเพลิงที่สลายหายไป,จงซานที่อยู่ด้านในถูกเผาจนสลายหายไปทั้งร่างและวิญญาณ.
"เป็นไปไม่ได้!"จินเผิงที่ไม่อยากเชื่อ!
"เป็นไปไม่ได้,ของวิเศษของข้าที่กุมร่างเอาไว้เช่นนั้น,ไปไม่ได้ที่จงซานจะมีชีวิตอีกครั้ง!"เซิ่งหวังอู๋เซี่ยงแค่นเสียงเย็นชา.
"เจ้าไม่มีทางสังหารเซิ่งหวังได้!"จินเผิงที่ยังไม่ยอมรับ.
จากนั้น,ง้าวฟางเทียนฮวาจี,ที่ฟาดฟันไปยังร่างของเซิ่งหวังเซี่ย.
"ตูมมม
~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~!”
เซิ่งหวังเซี่ยและขันทีชราที่ร่วมมือกันรับมือจินเผิง.
"จินเผิง!"เซิ่งหวังอู๋เซี่ยงที่คำรามเสียงดัง!
เสียงที่ดังกระหึ่ม,จินเผิงที่บ้าคลั่งค่อยๆสงบลง,ทว่ายังคงจ้องมองเซิ่งหวังอู๋เซี่ยงดวงตาแดงกล่ำ.
"จินเผิง,นกดีต้องรู้จักเลือกกิ่งไม้พำนัก
ขุนนางดีย่อมรู้จักเลือกนาย,จงซานให้อะไรเจ้า,ข้าก็สามารถได้เช่นกัน,แม้แต่มากกว่าด้วยซ้ำ,ในต้าเจิ้ง,เจ้าเป็นเพียงแค่องค์รักษ์รับผิดชอบในตำแหน่งเล็กๆ,แม้แต่รับคำสั่งจากเซียนสวรรค์หรือต้าเซียน,เจ้าไม่คิดจะลาออกอย่างงั้นรึ?
เข้าร่วมศาลเทวะอู๋เซี่ยงของข้า,ข้าจะมอบตำแหน่งกงให้กับเจ้า,หลังจากที่เข้าสามารถยึดครองอาณาเขตจวงหลุนได้,หากเจ้าต้องการ,ข้าสามารถมอบมันให้เจ้าเป็นคนปกครองได้!"เซิ่งหวังอู่เซี่ยงที่กล่าวหว่านล้อม.
เหล่าคนที่มีความสามารถ,ไม่ว่าจะเป็นเซิ่งหวังกลุ่มอิทธิพลใดล้วนแต่ต้องการ,เว้นแต่คนโง่ไร้ความสามารถเท่านั้นที่ไม่เป็นที่ต้องการ,ทว่าหากคนๆนั้นก้าวไปถึงระดับเซียนบรรพชน,ไม่ว่าจะฉลาดหรือโง่,ล้วนแต่เป็นที่ต้องการ,นอกจากนี้จินเผิงยังแสดงพลังที่แข็งแกร่งออกมา,แม้แต่,เหล่าหวัง,เซี่ยเสี่ยเป่ย,สองคนร่วมมือกันยากที่จะรับมือ,จงซานจะโชคดีเกินไปแล้ว?
เซิ่งหวังอู๋เซี่ยงจึงต้องการจินเผิงมาใช้งาน!
ประมุขนิกายฟู่โม่ไม่สามารถรั้งรอได้อีแล้ว.
กำลังทำให้อีกฝ่ายยอมจำนนรึ?
หากว่าเขาสามารถกำราจินเผิงได้สำเร็จล่ะก็,กลุ่มของเซิ่งหวังอู๋เซี่ยงจะกลายเป็นสี่เซียนบรรพชน,สมบัติเทียนตี้นั้น,ก็ไม่ยากสำหรับเขาแล้ว.
การเฝ้ามองอย่างอดทน,ตอนนี้ไม่สามารถทำได้แล้ว.
"ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า~~~~~~~~~~!”จินเผิงที่หัวเราะออกมาเสียงดังลั่น.
เสียงหัวเราะที่เต็มไปด้วยความเหยียดหยัน,จินเผิงจ้องมองอย่างไม่แยแสเซิ่งหวังอู๋เซี่ยง,,"ลำพังเจ้านะรึ,จะให้ข้าโน้มหัวให้?"
จินเผิงที่เต็มไปด้วยความหังการ,อรหันต์ยูไลยังไม่สามารถกำราบจินเผิงได้,แม้ว่าจินเผิงจะพ่ายแพ้,แต่ก็ยังได้รับตำแหน่งใหญ่โตในวิหารใต้เหล่ยหยิน.
เขาที่ถูกจงซานกำราบ,ทว่ามันก็มีความซับซ้อนอยู่,เขาถูกบังคับให้สาบานปกป้องต้าเจิ้งหนึ่งพันปี,ทว่าภายในใจของจินเผิงเองก็ไม่ได้ยอมรับจงซานทั้งกายและใจแต่อย่างใด.
ตอนนี้ยังมีเซิ่งหวังอีกคนต้องการกำราบเขารึ?
มีเหรอที่จินเผิงจะหวังเช่นนั้น?
"ข้าชอบในความสามารถของเจ้า,ช่างน่าเสียดายที่ไม่สามารถร่วมงานกันได้,เจ้าไปซะ,ข้าจะไม่ถือสาหาความเจ้าอีก!"เซิ่งหวังอู๋เซี่ยงที่กล่าวออกมาด้วยใบหน้าแสดงท่าทางเสียดาย.
ขณะที่จินเผิงกำลังจะกล่าวอะไรออกมา,ประมุขนิกายฟู่โม่ที่เอ่ยออกมาก่อน,"เซิ่งหวังอู๋เซี่ยงมีแผนการที่ยอดเยี่ยม,คิดจะเอาชนะโดยไม่ลงมือ,เพียงแค่ไล่ให้คนอื่นจากไปอย่างงั้นรึ?
ดูเหมือนว่าเจ้าจะวาดฝันในมรดกของเทียนตี้อยู่งั้นรึ?"
ประมุขนิกายฟู่โม่ที่แสดงท่าทางไม่พอใจ,พร้อมกับกล่าวเตือนออกมา.
หากในเวลานี้,จินเผิงจากไป,บางที่โอกาสที่จะได้รับมรดกเทียนตี้ยิ่งน้อยเข้าไปอีก.
เซิ่งหวังอู๋เซี่ยงที่หันหน้าจดจ้องมองอย่างเย็นชาไปยังประมุขนิกายฟู่โม่,แววตาที่เต็มไปด้วยความเย็นชา.
อีกฝั่งหนึ่ง,จินเผิงที่สูดหายใจลึก,"ต้าเจิ้งล่มสลาย,จงซานตกตายแล้วอย่างไง,ข้าจินเผิงรับคำสั่งของจงซานแล้ว,ว่าต้องสังหารเซี่ยเสี่ยวเป่ย! ข้าย่อมต้องรักษาคำพูดตัวเอง!"
จินเผิงที่ควงอาวุธไปมา,เพลิวเพลิงแห่งการต่อสู้ที่ลุกโชนจ้องมองไปยังเซิ่งหวังเซี่ย!
"เจ้ากล้า!"เซิ่งหวังอู๋เซี่ยงที่เผยความโกรธเกรี้ยวออกมา.
ที่ไกลออกไปนั้น,จินเผิงที่ควงง้าวฟางเทียนฮวาจีพุ่งเข้าไป,ร่างกายที่โอบด้วยเทียนเต๋า,พลังอำนาจที่น่าเกรงขามโจมตีไปยังเซี่ยเสี่ยวเป่ย! เซิ่งหวังอู๋เซี่ยงที่โกรธเกรี้ยว,ขณะที่กำลังจะออกมาขวาง.
"วูซซซ!"
ประมุขนิกายฟู่โม่ที่ปรากฏขวางเซิ่งหวังอู๋เซี่ยงในทันที,กระบี่เทวะในมือของเขาที่ตะวัดออกมา,ร่างกายที่อาบไปด้วยเทียนเต๋า,พร้อมกับชี้ไปยังเซิ่งหวังอู๋เซี่ยง.
"เจ้าต้องการเป็นศัตรูกับข้าอย่างงั้นรึ?"เซิ่งหวังอู๋เซี่ยงที่แค่นเสียงเย็นชา.
"มรดกเทียนตี้,หากข้าไม่ลงมือ,ยังจะมีโอกาสอีกรึ?!"ประมุขนิกายฟู่โม่กล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม.
"ตูมมม!”
ประมุขนิกายฟู่โม่ที่ต่อสู้กับเซิ่งหวังอู๋เซี่ยง,ขันทีชราและเซิ่งหวังเซี่ย,ต่อสู้กับจินเผิง.
การต่อสู้ที่สับสนวุ่นวายปรากฏขึ้นอีกแล้ว.
ไท่จื่ออู๋เซี่ยง,เนี่ยนข่าน,เขาที่ยืนอยู่ที่ไกลออกไป,ลอบมองการต่อสู้ของเซียนบรรพชน,เขาไม่สามารถเข้าไปจัดการอะไรได้.
ไกลออกไปนั้นเซิ่งหวังเย่ที่ลอยอยู่บนอวกาศ.
เซิ่งหวังเย่ที่ทะลวงค่ายกล,ขณะที่จ้องมองไปยังพื้นที่ไกลออกไป.
ห้าด่านสมบัติลับเทียนตี้,ไม่ยากที่จะทะลวง,ทว่าจำเป็นต้องใช้พลังอย่างมหาศาล,แม้แต่เซิ่งหวังเย่ยังลอบคิดอยู่ว่าหากทะลวงค่ายกลได้แล้ว,กับคนมากมายในเวลานี้,ใครกันที่จะได้รับมรดกของเทียนตี้?
จงซานตายแล้ว,ในเวลานี้คนอื่นๆที่กำลังสับสนวุ่นวายต่อสู้กันอยู่,ใบหน้าของเซิ่งหวังเย่ที่เผยความตื่นเต้นดีใจเล็กน้อย.
"กระบี่สุดท้าย!
"ทะลวง!”
เซิ่งหวังเย่คำราม,กระบี่เทวะที่ทะลวงดวงดาราในทันที,ด่านที่ห้าพังทลายลง!
ด้านที่ห้าพังทลายแล้ว,เซิ่งหวังเย่ที่ทะลายค่ายกลได้,เร่งรีบพุ่งตรงไปยังตำหนักหนึ่งเดียวในใต้หล้า,ขณะที่เขาพุ่งไปนั้น,อำนาจแห่งดวงดาราจากทั่วทุกสารทิศ! พุ่งตรงมายังเซิ่งหวังเย่.
พลังดังกล่าวที่พุ่งมานี้,กระแทกเซิ่งหวังเย่ลอยออกไป.!
นี่มัน?
สนามพลังที่หนาแน่นรุนแรงนี้กระแทกเซิ่งหวังเย่ลอยออกไปยังสนามรบที่วุ่นวาย.
พริบตาที่เซิ่งหวังเย่ทะลวงค่ายกลสำเร็จ,การต่อสู้บนสนามรบที่ไกลออกไปก็หยุดลง,ต้องไม่ลืมว่า,ไม่มีใครยกผลประโยชน์ให้กับมือที่สามไปในความขัดแย้งของตัวเอง.
เป็นกระแสพลังที่รุนแรงมาก,ใบหน้าของทุกคนที่เปลี่ยนเป็นซับซ้อน.
"ไม่ได้การ,ด่านที่หก!"เซิ่งหวังเย่ที่ใบหน้าเปลี่ยนเป็นซับซ้อน.
"เมื่อด่านที่ห้าพลังทำลายพลังอำนาจแห่งดวงดารามารวมกัน,แม้แต่พลังของพวกเรารวมกันทั้งหมด,ยังจะสามารถเข้าไปได้รึ?"ประมุขนิกายฟู่โม่ที่กล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม.
ที่ไกลออกไป,ตำหนักอันดับหนึ่งในโลกหล้าที่ถูกปกคลุมไปด้วยหมอกสีขาว,ทว่าหมอกสีขาวนั้นได้รวมตัวกันเข้ากับดวงดาราทั้ง
108 ก่อนที่จะปรากฏค่ายกลอีกอันขึ้น,ค่ายกลนี้เป็นค่ายกลของพลังห้าด่านรวมกัน,มีพลังอำนาจที่ยิ่งใหญ่ไพศาลและมีอักษรใบ้คำหนึ่งบนค่ายกลด้วยคำว่า"ตาย".
ทว่า,ด้วยพลังอำนาจของด่านทั้งห้ารวมกัน,แล้วอย่างไร,เหล่าเซียนบรรพชนก็หาได้รู้สึกหวาดกลัว.
"เข้าไปต้องตายรึ?"ขันทีชราที่กล่าวออกมาด้วยท่าทางตกใจ.
ตาย?
เป็นความจริง,ค่ายกลนี้มีพลังอำนาจที่ยิ่งใหญ่,พลังอำนาจที่เคลื่อนไหวนั้น,เป็นสนามพลังที่น่าเกรงขามจนน่าสะพรึงกลัว,ทว่าคำใบตายดังกล่าวนั้นจะต้องมีความหมายอะไรบางอย่างแน่นอน.
ถึงแม้นว่าจะเป็นค่ายกลที่สมบูรณ์,ทว่าก็ไม่มีใครล้มเลิก,แม้นว่าจะต้องเสี่ยงตายก็ตาม.
สายตาของทุกคนที่จ้องมองเป็นสายตาเดียวกัน,ตำหนักอันดับหนึ่งของโลกหล้า,ที่มีหมอกสีขาวปกคลุม.
กับตำหนักอันดับหนึ่งของโลกหล้าที่อยู่ตรงหน้าแล้ว,อีกเพียงก้าวเดียว,มีใครที่จะยอมแพ้กัน?
"เซี่ยเสี่ยวเป่ย,ส่งชีวิตเจ้ามา!"ง้าวฟางเทียนฮวาจีที่พุ่งออกไปอีกครั้ง.
เซิ่งหวังอู๋เซี่ยงและประมุขนิกายฟู่โม่ที่เริ่มต่อสู้กันอีกครั้ง,ส่วนเซิ่งหวังเย่ตอนนี้จำเป็นต้องเข้าร่วมมือกับกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งก่อน,เพราะรุ้ดีว่าหากเขาเร่งรีบทะลวงเข้าไปในตำหนักอันดับหนึ่งในเวลานี้,แม้นได้สิ่งใดกลับมาจะต้องถูกล้อมสังหารแน่.
ดังนั้น,หกเซียนบรรพชนที่เริ่มต่อสู้กันทันที.
ห้วงมิติที่สั่นไหวไปมา,หลุมดำที่ปรากฏขึ้นรอบๆ.
การต่อสู้ที่วุ่นวายโกลาหล!
ที่ไกลออกไป,เนี่ยนข่านที่ไม่กล้าเร่งรีบเข้าไป,เขาที่ถอยออกมา,และเฝ้ามองดวงดาราทั้งหนึ่งร้อยแปด,และอักษรใบคำว่า"ตาย"!
เซิ่งหวังอู๋เซี่ยง,เซิ่งหวังเซี่ย,ขันทีชรา,พวกเขาที่เป็นพวกเดียวกัน,ประมุขนิกายฟู่โม่,เซิ่งหวังเย่,จินเผิง,แม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้ทำข้อตกลงอย่างใดกัน,ทว่าตามสถานการณ์แล้ว,พวกเขาจำเป็นต้องเป็นพันธมิตรกัน.
การต่อสู้นี้,ผ่านไปถึงสิบวันด้วยกัน,ดวงดาราที่อยู่รอบๆพังทลายเสียหาย,การต่อสู้ของเซียนบรรพชนนับว่าทรงพลังน่าเกรงขามเป็นอย่างมาก.
กับหกร่างเซียนบรรพชนที่ต่อสู้กัน,ไม่มีใครสังเกต,ในเวลานี้ลึกเข้าไปในตำหนักบนอวกาศ,ตำหนักหนึ่งในโลกหล้า,บนดาวดวงหนึ่งของค่ายกล,ในเวลานี้มีร่างในชุดดำยืนอยู่!
ร่างในชุดดำที่ไม่พุ่งเข้าไปร่วมต่อสู้,เพื่อที่จะเข้ามาในตำหนักหนึ่งในโลกหล้า,เซียนบรรพชนทั้งหก,พวกเขาที่ไม่ยินยอมให้ใครเข้ามาด้านในก่อน,ทำให้พวกเขาต้องต่อสู้แก่งแย่งสิทธิ์ดังกล่าวนั้น.
ร่างในชุดดำที่ไม่ขยับ,ยังคงจ้องมองสถานการณ์ที่เกิดขึ้นตลอดสิบวันสิบคืน,แน่นอนว่าคนๆนั้นไม่ใช่ใครที่ใหน,ทว่าเป็นคนที่เซิ่งหวังอู๋เซี่ยงมั่นใจว่าสังหารไปแล้วนั่นเอง!
ร่างแยกเงาของจงซานนั้นสามารถสร้างร่างโคลนได้มากมาย,มีเหรอที่จะตายง่ายๆ!
จงซานที่เฝ้ามองการต่อสู้,ยืนมือไขว้หลัง,ดวงตาที่เผยความเย็นชาออกมา,พร้อมกับยกยิ้มออกมาเล็กน้อย,"ให้ความร่วมมือดีมาก!"
ปล.อีกหนึ่งตอนดึกๆครับ
********************
"良禽择木而栖,贤臣择主而事"
"เหลียงฉินเจ๋อมู่เอ๋อชี
เสียนเฉินเจ๋อจู่เอ๋อซื่อ"
"นกดีต้องรู้จักเลือกกิ่งไม้พำนัก
ขุนนางดีย่อมรู้จักเลือกนาย"
หรือที่ในบทพากย์ไทยสามก๊ก 1994 แปลไว้ว่า
"นกทำรังให้ดูร่มไม้
ชายเลือกนายให้ดูน้ำใจ"
"นกพึงเลือกไม้ดีทำรัง
ขุนนางเก่งต้องเลือกเจ้านายดี"
ในวรรณกรรมสามก๊ก มีผู้ที่กล่าวประโยคนี้คือ
ลิซก (หลี่ซู่ 李肃) กล่าวในขณะที่เกลี้ยกล่อมลิโป้ให้มาเข้าด้วยตั๋งโต๊ะ
ลิอิ๋น (หลี่ฮุย 李恢 ชื่อรอง เต๋ออ๋าง 德昂) กล่าวตอนที่เดินทางมาเข้าด้วยเล่าปี่
ในขณะที่เตียวหุยรบกับม้าเฉียวที่แฮบังก๋วน
ลิอิ๋นอาสาไปเกลี้ยกล่อมม้าเฉียวด้วยตนเอง
พิธีกรรายการเปิดตำราสามก๊กยังได้กล่าวประโยคนี้ช่วงท้ายรายการในตอนที่สามอีกด้วย
ป.ล.ในสามก๊ก 1994 เพิ่มให้กวนอูพูดประโยคคล้ายกันนี้ในตอนแรกอีกด้วย
Chapter 1080 Zhong Shan plays dead
钟山假死
จงซานแกล้งตาย.
สายตาของทุกคนที่จ้องมองไปยังเซิ่งหวังอู๋เซี่ยง.
ฝ่ามือของเขาที่โจมตีไปยังร่างของจงซาน,ก่อนที่จะระเบิดออกมาเสียงดัง.
เซิ่งหวังต้าเจิ้งที่ร้ายกาจ,ตกตายเช่นนี้นะรึ?
ต้าเจิ้งล่มสลายแล้วอย่างงั้นรึ?
"เป็นไปไม่ได้,มันเป็นไปไม่ได้!"จินเผิงที่ดวงตาบิกกว้างกลมโตไม่อยากเชื่อ.
ประมุขนิกายฟู่โม่ที่เฝ้ามองเหตุการณ์,ทว่าเขาสามารถมองเห็นสถานการณ์ได้,ขันทีชราเข้าไปช่วยเซิ่งหวังเซี่ย,เซิ่งหวังเซี่ย,ขันทีชรา,สามเซียนบรรพชนเป็นพวกเดียวกันตั้งแต่แรกแล้ว.
จงซานตายแล้ว,ช่างน่าเสียดาย!
"มีอะไรเป็นไปไม่ได้!"เซิ่งหวังอู๋เซี่ยงแค่นเสียงดูแคลน.
เสียงหัวเราะที่ดังลั่น,ราวกับว่าไม่ได้ออกแรงแม้แต่น้อย.
ขณะที่ทุกคนกำลังตื่นตระหนก,ที่ด้านหลังเซิ่งหวังอู๋เซี่ยง,ปรากฏร่างๆหนึ่งขึ้นมาในทันที.
จงซาน?
จงซานยังไม่ตาย? ทุกคนที่ตื่นตระหนกตกใจเล็กน้อย,เรื่องนี้ลึกลับเกินไปแล้วเขาผลุบๆโผล่ๆได้อย่างไร!
"หลุมสังสารวัฏยักษ์,เปิด!"
ฝ่ามือของจงซานที่ฟาดไปยังด้านหลังเซิ่งหวังอู๋เซี่ยง,ก่อนที่จะตะโกนออกมาเสียงดัง.
เหมือนกับที่เคยใช้จัดการจุนหมอจื่อที่ต้องได้รับบาดเจ็บหนักในครั้งนั้น.
ทว่าขณะจงซานปรากฏอยู่ด้านหลัง,ยังไม่ได้ปลดปล่อยหลุมสังสารวัฏด้วยซ้ำ,ห่วงสี่เหลี่ยมสามวงก็ปรากฏขึ้น,ส่องประกายแสงสีทองขาว,ปกคลุมร่างของจงซาน,และเซิ่งหวังอู๋เซี่ยงที่ไม่รู้ว่าหลบได้อย่างไร?
ใบหน้าของจงซานที่เปลี่ยนเป็นซับซ้อน.
"เฮ้เฮ้,เจ้ายังคิดจะใช้ไม้เดิมๆ,ช่างน่าเศร้า,เจ้าไม่ได้ใช้ครั้งแรก,ก่อนหน้าใช้กับจุนหมอจื้อไม่ใช่รึ?,ช่างน่าเสียดายหากไม่มีใครรู้,บางที่ข้าอาจจะได้รับบาดเจ็บบ้าง,ทว่าเวลานี้เจ้าไม่มีทางหนีแล้ว!"เซิ่งหวังอู๋เซี่ยงที่แค่นเสียงเย็นชา.
"เขตแดนเพลิงแผดเผา!"เซิ่งหวังอู๋เซี่ยงที่ทำมุทรา.
พลังอำนาจจาดวงดาราจากทั่วทุกสารทิศ,ที่ไหลเข้ามารวมของวิเศษห่วงสี่เหลี่ยม,จากนั้นก็ลุกไหม้กลายเป็นเพลิงสีเขียวในทันที.
”!”
จงซานที่ร้องออกมาขณะทีเปลวเพลิงลุกไหม้.
"ของวิเศษของข้า,แม้แต่เซียนบรรพชนยังไม่รอด,ลำพังแค่เซียนโบราณนะรึ?"เซิ่งหวังอู๋เซี่ยงแค่นเสียงเย็นชา.
"เซิ่งหวัง!"จินเผิงที่ร้องออกมาเสียงดัง.
แววตาที่โกรธเกรี้ยว,ง้าวฟางเทียนฮวาจีที่ฟ้าฟันไปยังของวิเศษที่กักขังจงซาน.
"ตูมมม!” "ตูมมม!”
เซิ่งหวังเซี่ยและขันทีชรา,เข้ามาขวางจินเผิงในทันที.
จินเผิงที่ดวงตาแดงซ่าน,พร้อมกับปลดปล่อยพลังทั้งหมดออกมา,เข้าต่อกรกับเซียนบรรพชนทั้งสอง,ทว่าฝ่ายตรงข้ามมีถึงสองคน,มีเหรอที่จะสามารถทำได้ถอยไปได้ง่ายๆ?
"วูซซซซ!"
ภายในห่วงสี่เหลี่ยมที่เริ่มสั่นไปมา,เปลวเพลิงที่สลายหายไป,จงซานที่อยู่ด้านในถูกเผาจนสลายหายไปทั้งร่างและวิญญาณ.
"เป็นไปไม่ได้!"จินเผิงที่ไม่อยากเชื่อ!
"เป็นไปไม่ได้,ของวิเศษของข้าที่กุมร่างเอาไว้เช่นนั้น,ไปไม่ได้ที่จงซานจะมีชีวิตอีกครั้ง!"เซิ่งหวังอู๋เซี่ยงแค่นเสียงเย็นชา.
"เจ้าไม่มีทางสังหารเซิ่งหวังได้!"จินเผิงที่ยังไม่ยอมรับ.
จากนั้น,ง้าวฟางเทียนฮวาจี,ที่ฟาดฟันไปยังร่างของเซิ่งหวังเซี่ย.
"ตูมมม
~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~!”
เซิ่งหวังเซี่ยและขันทีชราที่ร่วมมือกันรับมือจินเผิง.
"จินเผิง!"เซิ่งหวังอู๋เซี่ยงที่คำรามเสียงดัง!
เสียงที่ดังกระหึ่ม,จินเผิงที่บ้าคลั่งค่อยๆสงบลง,ทว่ายังคงจ้องมองเซิ่งหวังอู๋เซี่ยงดวงตาแดงกล่ำ.
"จินเผิง,นกดีต้องรู้จักเลือกกิ่งไม้พำนัก
ขุนนางดีย่อมรู้จักเลือกนาย,จงซานให้อะไรเจ้า,ข้าก็สามารถได้เช่นกัน,แม้แต่มากกว่าด้วยซ้ำ,ในต้าเจิ้ง,เจ้าเป็นเพียงแค่องค์รักษ์รับผิดชอบในตำแหน่งเล็กๆ,แม้แต่รับคำสั่งจากเซียนสวรรค์หรือต้าเซียน,เจ้าไม่คิดจะลาออกอย่างงั้นรึ?
เข้าร่วมศาลเทวะอู๋เซี่ยงของข้า,ข้าจะมอบตำแหน่งกงให้กับเจ้า,หลังจากที่เข้าสามารถยึดครองอาณาเขตจวงหลุนได้,หากเจ้าต้องการ,ข้าสามารถมอบมันให้เจ้าเป็นคนปกครองได้!"เซิ่งหวังอู่เซี่ยงที่กล่าวหว่านล้อม.
เหล่าคนที่มีความสามารถ,ไม่ว่าจะเป็นเซิ่งหวังกลุ่มอิทธิพลใดล้วนแต่ต้องการ,เว้นแต่คนโง่ไร้ความสามารถเท่านั้นที่ไม่เป็นที่ต้องการ,ทว่าหากคนๆนั้นก้าวไปถึงระดับเซียนบรรพชน,ไม่ว่าจะฉลาดหรือโง่,ล้วนแต่เป็นที่ต้องการ,นอกจากนี้จินเผิงยังแสดงพลังที่แข็งแกร่งออกมา,แม้แต่,เหล่าหวัง,เซี่ยเสี่ยเป่ย,สองคนร่วมมือกันยากที่จะรับมือ,จงซานจะโชคดีเกินไปแล้ว?
เซิ่งหวังอู๋เซี่ยงจึงต้องการจินเผิงมาใช้งาน!
ประมุขนิกายฟู่โม่ไม่สามารถรั้งรอได้อีแล้ว.
กำลังทำให้อีกฝ่ายยอมจำนนรึ?
หากว่าเขาสามารถกำราจินเผิงได้สำเร็จล่ะก็,กลุ่มของเซิ่งหวังอู๋เซี่ยงจะกลายเป็นสี่เซียนบรรพชน,สมบัติเทียนตี้นั้น,ก็ไม่ยากสำหรับเขาแล้ว.
การเฝ้ามองอย่างอดทน,ตอนนี้ไม่สามารถทำได้แล้ว.
"ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า~~~~~~~~~~!”จินเผิงที่หัวเราะออกมาเสียงดังลั่น.
เสียงหัวเราะที่เต็มไปด้วยความเหยียดหยัน,จินเผิงจ้องมองอย่างไม่แยแสเซิ่งหวังอู๋เซี่ยง,,"ลำพังเจ้านะรึ,จะให้ข้าโน้มหัวให้?"
จินเผิงที่เต็มไปด้วยความหังการ,อรหันต์ยูไลยังไม่สามารถกำราบจินเผิงได้,แม้ว่าจินเผิงจะพ่ายแพ้,แต่ก็ยังได้รับตำแหน่งใหญ่โตในวิหารใต้เหล่ยหยิน.
เขาที่ถูกจงซานกำราบ,ทว่ามันก็มีความซับซ้อนอยู่,เขาถูกบังคับให้สาบานปกป้องต้าเจิ้งหนึ่งพันปี,ทว่าภายในใจของจินเผิงเองก็ไม่ได้ยอมรับจงซานทั้งกายและใจแต่อย่างใด.
ตอนนี้ยังมีเซิ่งหวังอีกคนต้องการกำราบเขารึ?
มีเหรอที่จินเผิงจะหวังเช่นนั้น?
"ข้าชอบในความสามารถของเจ้า,ช่างน่าเสียดายที่ไม่สามารถร่วมงานกันได้,เจ้าไปซะ,ข้าจะไม่ถือสาหาความเจ้าอีก!"เซิ่งหวังอู๋เซี่ยงที่กล่าวออกมาด้วยใบหน้าแสดงท่าทางเสียดาย.
ขณะที่จินเผิงกำลังจะกล่าวอะไรออกมา,ประมุขนิกายฟู่โม่ที่เอ่ยออกมาก่อน,"เซิ่งหวังอู๋เซี่ยงมีแผนการที่ยอดเยี่ยม,คิดจะเอาชนะโดยไม่ลงมือ,เพียงแค่ไล่ให้คนอื่นจากไปอย่างงั้นรึ?
ดูเหมือนว่าเจ้าจะวาดฝันในมรดกของเทียนตี้อยู่งั้นรึ?"
ประมุขนิกายฟู่โม่ที่แสดงท่าทางไม่พอใจ,พร้อมกับกล่าวเตือนออกมา.
หากในเวลานี้,จินเผิงจากไป,บางที่โอกาสที่จะได้รับมรดกเทียนตี้ยิ่งน้อยเข้าไปอีก.
เซิ่งหวังอู๋เซี่ยงที่หันหน้าจดจ้องมองอย่างเย็นชาไปยังประมุขนิกายฟู่โม่,แววตาที่เต็มไปด้วยความเย็นชา.
อีกฝั่งหนึ่ง,จินเผิงที่สูดหายใจลึก,"ต้าเจิ้งล่มสลาย,จงซานตกตายแล้วอย่างไง,ข้าจินเผิงรับคำสั่งของจงซานแล้ว,ว่าต้องสังหารเซี่ยเสี่ยวเป่ย! ข้าย่อมต้องรักษาคำพูดตัวเอง!"
จินเผิงที่ควงอาวุธไปมา,เพลิวเพลิงแห่งการต่อสู้ที่ลุกโชนจ้องมองไปยังเซิ่งหวังเซี่ย!
"เจ้ากล้า!"เซิ่งหวังอู๋เซี่ยงที่เผยความโกรธเกรี้ยวออกมา.
ที่ไกลออกไปนั้น,จินเผิงที่ควงง้าวฟางเทียนฮวาจีพุ่งเข้าไป,ร่างกายที่โอบด้วยเทียนเต๋า,พลังอำนาจที่น่าเกรงขามโจมตีไปยังเซี่ยเสี่ยวเป่ย! เซิ่งหวังอู๋เซี่ยงที่โกรธเกรี้ยว,ขณะที่กำลังจะออกมาขวาง.
"วูซซซ!"
ประมุขนิกายฟู่โม่ที่ปรากฏขวางเซิ่งหวังอู๋เซี่ยงในทันที,กระบี่เทวะในมือของเขาที่ตะวัดออกมา,ร่างกายที่อาบไปด้วยเทียนเต๋า,พร้อมกับชี้ไปยังเซิ่งหวังอู๋เซี่ยง.
"เจ้าต้องการเป็นศัตรูกับข้าอย่างงั้นรึ?"เซิ่งหวังอู๋เซี่ยงที่แค่นเสียงเย็นชา.
"มรดกเทียนตี้,หากข้าไม่ลงมือ,ยังจะมีโอกาสอีกรึ?!"ประมุขนิกายฟู่โม่กล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม.
"ตูมมม!”
ประมุขนิกายฟู่โม่ที่ต่อสู้กับเซิ่งหวังอู๋เซี่ยง,ขันทีชราและเซิ่งหวังเซี่ย,ต่อสู้กับจินเผิง.
การต่อสู้ที่สับสนวุ่นวายปรากฏขึ้นอีกแล้ว.
ไท่จื่ออู๋เซี่ยง,เนี่ยนข่าน,เขาที่ยืนอยู่ที่ไกลออกไป,ลอบมองการต่อสู้ของเซียนบรรพชน,เขาไม่สามารถเข้าไปจัดการอะไรได้.
ไกลออกไปนั้นเซิ่งหวังเย่ที่ลอยอยู่บนอวกาศ.
เซิ่งหวังเย่ที่ทะลวงค่ายกล,ขณะที่จ้องมองไปยังพื้นที่ไกลออกไป.
ห้าด่านสมบัติลับเทียนตี้,ไม่ยากที่จะทะลวง,ทว่าจำเป็นต้องใช้พลังอย่างมหาศาล,แม้แต่เซิ่งหวังเย่ยังลอบคิดอยู่ว่าหากทะลวงค่ายกลได้แล้ว,กับคนมากมายในเวลานี้,ใครกันที่จะได้รับมรดกของเทียนตี้?
จงซานตายแล้ว,ในเวลานี้คนอื่นๆที่กำลังสับสนวุ่นวายต่อสู้กันอยู่,ใบหน้าของเซิ่งหวังเย่ที่เผยความตื่นเต้นดีใจเล็กน้อย.
"กระบี่สุดท้าย!
"ทะลวง!”
เซิ่งหวังเย่คำราม,กระบี่เทวะที่ทะลวงดวงดาราในทันที,ด่านที่ห้าพังทลายลง!
ด้านที่ห้าพังทลายแล้ว,เซิ่งหวังเย่ที่ทะลายค่ายกลได้,เร่งรีบพุ่งตรงไปยังตำหนักหนึ่งเดียวในใต้หล้า,ขณะที่เขาพุ่งไปนั้น,อำนาจแห่งดวงดาราจากทั่วทุกสารทิศ! พุ่งตรงมายังเซิ่งหวังเย่.
พลังดังกล่าวที่พุ่งมานี้,กระแทกเซิ่งหวังเย่ลอยออกไป.!
นี่มัน?
สนามพลังที่หนาแน่นรุนแรงนี้กระแทกเซิ่งหวังเย่ลอยออกไปยังสนามรบที่วุ่นวาย.
พริบตาที่เซิ่งหวังเย่ทะลวงค่ายกลสำเร็จ,การต่อสู้บนสนามรบที่ไกลออกไปก็หยุดลง,ต้องไม่ลืมว่า,ไม่มีใครยกผลประโยชน์ให้กับมือที่สามไปในความขัดแย้งของตัวเอง.
เป็นกระแสพลังที่รุนแรงมาก,ใบหน้าของทุกคนที่เปลี่ยนเป็นซับซ้อน.
"ไม่ได้การ,ด่านที่หก!"เซิ่งหวังเย่ที่ใบหน้าเปลี่ยนเป็นซับซ้อน.
"เมื่อด่านที่ห้าพลังทำลายพลังอำนาจแห่งดวงดารามารวมกัน,แม้แต่พลังของพวกเรารวมกันทั้งหมด,ยังจะสามารถเข้าไปได้รึ?"ประมุขนิกายฟู่โม่ที่กล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม.
ที่ไกลออกไป,ตำหนักอันดับหนึ่งในโลกหล้าที่ถูกปกคลุมไปด้วยหมอกสีขาว,ทว่าหมอกสีขาวนั้นได้รวมตัวกันเข้ากับดวงดาราทั้ง
108 ก่อนที่จะปรากฏค่ายกลอีกอันขึ้น,ค่ายกลนี้เป็นค่ายกลของพลังห้าด่านรวมกัน,มีพลังอำนาจที่ยิ่งใหญ่ไพศาลและมีอักษรใบ้คำหนึ่งบนค่ายกลด้วยคำว่า"ตาย".
ทว่า,ด้วยพลังอำนาจของด่านทั้งห้ารวมกัน,แล้วอย่างไร,เหล่าเซียนบรรพชนก็หาได้รู้สึกหวาดกลัว.
"เข้าไปต้องตายรึ?"ขันทีชราที่กล่าวออกมาด้วยท่าทางตกใจ.
ตาย?
เป็นความจริง,ค่ายกลนี้มีพลังอำนาจที่ยิ่งใหญ่,พลังอำนาจที่เคลื่อนไหวนั้น,เป็นสนามพลังที่น่าเกรงขามจนน่าสะพรึงกลัว,ทว่าคำใบตายดังกล่าวนั้นจะต้องมีความหมายอะไรบางอย่างแน่นอน.
ถึงแม้นว่าจะเป็นค่ายกลที่สมบูรณ์,ทว่าก็ไม่มีใครล้มเลิก,แม้นว่าจะต้องเสี่ยงตายก็ตาม.
สายตาของทุกคนที่จ้องมองเป็นสายตาเดียวกัน,ตำหนักอันดับหนึ่งของโลกหล้า,ที่มีหมอกสีขาวปกคลุม.
กับตำหนักอันดับหนึ่งของโลกหล้าที่อยู่ตรงหน้าแล้ว,อีกเพียงก้าวเดียว,มีใครที่จะยอมแพ้กัน?
"เซี่ยเสี่ยวเป่ย,ส่งชีวิตเจ้ามา!"ง้าวฟางเทียนฮวาจีที่พุ่งออกไปอีกครั้ง.
เซิ่งหวังอู๋เซี่ยงและประมุขนิกายฟู่โม่ที่เริ่มต่อสู้กันอีกครั้ง,ส่วนเซิ่งหวังเย่ตอนนี้จำเป็นต้องเข้าร่วมมือกับกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งก่อน,เพราะรุ้ดีว่าหากเขาเร่งรีบทะลวงเข้าไปในตำหนักอันดับหนึ่งในเวลานี้,แม้นได้สิ่งใดกลับมาจะต้องถูกล้อมสังหารแน่.
ดังนั้น,หกเซียนบรรพชนที่เริ่มต่อสู้กันทันที.
ห้วงมิติที่สั่นไหวไปมา,หลุมดำที่ปรากฏขึ้นรอบๆ.
การต่อสู้ที่วุ่นวายโกลาหล!
ที่ไกลออกไป,เนี่ยนข่านที่ไม่กล้าเร่งรีบเข้าไป,เขาที่ถอยออกมา,และเฝ้ามองดวงดาราทั้งหนึ่งร้อยแปด,และอักษรใบคำว่า"ตาย"!
เซิ่งหวังอู๋เซี่ยง,เซิ่งหวังเซี่ย,ขันทีชรา,พวกเขาที่เป็นพวกเดียวกัน,ประมุขนิกายฟู่โม่,เซิ่งหวังเย่,จินเผิง,แม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้ทำข้อตกลงอย่างใดกัน,ทว่าตามสถานการณ์แล้ว,พวกเขาจำเป็นต้องเป็นพันธมิตรกัน.
การต่อสู้นี้,ผ่านไปถึงสิบวันด้วยกัน,ดวงดาราที่อยู่รอบๆพังทลายเสียหาย,การต่อสู้ของเซียนบรรพชนนับว่าทรงพลังน่าเกรงขามเป็นอย่างมาก.
กับหกร่างเซียนบรรพชนที่ต่อสู้กัน,ไม่มีใครสังเกต,ในเวลานี้ลึกเข้าไปในตำหนักบนอวกาศ,ตำหนักหนึ่งในโลกหล้า,บนดาวดวงหนึ่งของค่ายกล,ในเวลานี้มีร่างในชุดดำยืนอยู่!
ร่างในชุดดำที่ไม่พุ่งเข้าไปร่วมต่อสู้,เพื่อที่จะเข้ามาในตำหนักหนึ่งในโลกหล้า,เซียนบรรพชนทั้งหก,พวกเขาที่ไม่ยินยอมให้ใครเข้ามาด้านในก่อน,ทำให้พวกเขาต้องต่อสู้แก่งแย่งสิทธิ์ดังกล่าวนั้น.
ร่างในชุดดำที่ไม่ขยับ,ยังคงจ้องมองสถานการณ์ที่เกิดขึ้นตลอดสิบวันสิบคืน,แน่นอนว่าคนๆนั้นไม่ใช่ใครที่ใหน,ทว่าเป็นคนที่เซิ่งหวังอู๋เซี่ยงมั่นใจว่าสังหารไปแล้วนั่นเอง!
ร่างแยกเงาของจงซานนั้นสามารถสร้างร่างโคลนได้มากมาย,มีเหรอที่จะตายง่ายๆ!
จงซานที่เฝ้ามองการต่อสู้,ยืนมือไขว้หลัง,ดวงตาที่เผยความเย็นชาออกมา,พร้อมกับยกยิ้มออกมาเล็กน้อย,"ให้ความร่วมมือดีมาก!"
ปล.อีกหนึ่งตอนดึกๆครับ
********************
"良禽择木而栖,贤臣择主而事"
"เหลียงฉินเจ๋อมู่เอ๋อชี
เสียนเฉินเจ๋อจู่เอ๋อซื่อ"
"นกดีต้องรู้จักเลือกกิ่งไม้พำนัก
ขุนนางดีย่อมรู้จักเลือกนาย"
หรือที่ในบทพากย์ไทยสามก๊ก 1994 แปลไว้ว่า
"นกทำรังให้ดูร่มไม้
ชายเลือกนายให้ดูน้ำใจ"
"นกพึงเลือกไม้ดีทำรัง
ขุนนางเก่งต้องเลือกเจ้านายดี"
ในวรรณกรรมสามก๊ก มีผู้ที่กล่าวประโยคนี้คือ
ลิซก (หลี่ซู่ 李肃) กล่าวในขณะที่เกลี้ยกล่อมลิโป้ให้มาเข้าด้วยตั๋งโต๊ะ
ลิอิ๋น (หลี่ฮุย 李恢 ชื่อรอง เต๋ออ๋าง 德昂) กล่าวตอนที่เดินทางมาเข้าด้วยเล่าปี่
ในขณะที่เตียวหุยรบกับม้าเฉียวที่แฮบังก๋วน
ลิอิ๋นอาสาไปเกลี้ยกล่อมม้าเฉียวด้วยตนเอง
พิธีกรรายการเปิดตำราสามก๊กยังได้กล่าวประโยคนี้ช่วงท้ายรายการในตอนที่สามอีกด้วย
ป.ล.ในสามก๊ก 1994 เพิ่มให้กวนอูพูดประโยคคล้ายกันนี้ในตอนแรกอีกด้วย
ที่มาจากhttps://lnmtl.com/novel/immortality
#นิยาย เรื่องอมตะ #Immortality#นิยายแปลไทย
Author(s)
สนใจสนับสนุนพวกเรา,เข้าร่วมกลุ่ม VIP ====> Click
ปัจจุบันแปลจบแล้ว 1672 ตอน สนใจติดต่อเข้ากลุ่มลับได้ครับ
***เว็ปฟรีอัพ สองวันหนึ่งตอน
***กลุ่มลับ แปลจบแล้ว.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น