วันเสาร์ที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2564

Immortality Chapter 1080 Zhong Shan plays dead

Immortality Chapter 1080 Zhong Shan plays dead

นิยาย เรื่อง อมตะ ตอนที่ 1080 จงซานแกล้งตาย.


Chapter 1080 Zhong Shan plays dead

山假死

  จงซานแกล้งตาย.

 

สายตาของทุกคนที่จ้องมองไปยังเซิ่งหวังอู๋เซี่ยง.

 

ฝ่ามือของเขาที่โจมตีไปยังร่างของจงซาน,ก่อนที่จะระเบิดออกมาเสียงดัง.

 

เซิ่งหวังต้าเจิ้งที่ร้ายกาจ,ตกตายเช่นนี้นะรึ?

 

ต้าเจิ้งล่มสลายแล้วอย่างงั้นรึ?

 

"เป็นไปไม่ได้,มันเป็นไปไม่ได้!"จินเผิงที่ดวงตาบิกกว้างกลมโตไม่อยากเชื่อ.

 

ประมุขนิกายฟู่โม่ที่เฝ้ามองเหตุการณ์,ทว่าเขาสามารถมองเห็นสถานการณ์ได้,ขันทีชราเข้าไปช่วยเซิ่งหวังเซี่ย,เซิ่งหวังเซี่ย,ขันทีชรา,สามเซียนบรรพชนเป็นพวกเดียวกันตั้งแต่แรกแล้ว.

 

จงซานตายแล้ว,ช่างน่าเสียดาย!

 

"มีอะไรเป็นไปไม่ได้!"เซิ่งหวังอู๋เซี่ยงแค่นเสียงดูแคลน.

 

เสียงหัวเราะที่ดังลั่น,ราวกับว่าไม่ได้ออกแรงแม้แต่น้อย.

 

ขณะที่ทุกคนกำลังตื่นตระหนก,ที่ด้านหลังเซิ่งหวังอู๋เซี่ยง,ปรากฏร่างๆหนึ่งขึ้นมาในทันที.

 

จงซาน?

 

จงซานยังไม่ตาย? ทุกคนที่ตื่นตระหนกตกใจเล็กน้อย,เรื่องนี้ลึกลับเกินไปแล้วเขาผลุบๆโผล่ๆได้อย่างไร!

 

"หลุมสังสารวัฏยักษ์,เปิด!"

 

ฝ่ามือของจงซานที่ฟาดไปยังด้านหลังเซิ่งหวังอู๋เซี่ยง,ก่อนที่จะตะโกนออกมาเสียงดัง.

 

เหมือนกับที่เคยใช้จัดการจุนหมอจื่อที่ต้องได้รับบาดเจ็บหนักในครั้งนั้น.

 

ทว่าขณะจงซานปรากฏอยู่ด้านหลัง,ยังไม่ได้ปลดปล่อยหลุมสังสารวัฏด้วยซ้ำ,ห่วงสี่เหลี่ยมสามวงก็ปรากฏขึ้น,ส่องประกายแสงสีทองขาว,ปกคลุมร่างของจงซาน,และเซิ่งหวังอู๋เซี่ยงที่ไม่รู้ว่าหลบได้อย่างไร?

 

ใบหน้าของจงซานที่เปลี่ยนเป็นซับซ้อน.

 

"เฮ้เฮ้,เจ้ายังคิดจะใช้ไม้เดิมๆ,ช่างน่าเศร้า,เจ้าไม่ได้ใช้ครั้งแรก,ก่อนหน้าใช้กับจุนหมอจื้อไม่ใช่รึ?,ช่างน่าเสียดายหากไม่มีใครรู้,บางที่ข้าอาจจะได้รับบาดเจ็บบ้าง,ทว่าเวลานี้เจ้าไม่มีทางหนีแล้ว!"เซิ่งหวังอู๋เซี่ยงที่แค่นเสียงเย็นชา.

 

"เขตแดนเพลิงแผดเผา!"เซิ่งหวังอู๋เซี่ยงที่ทำมุทรา.

 

พลังอำนาจจาดวงดาราจากทั่วทุกสารทิศ,ที่ไหลเข้ามารวมของวิเศษห่วงสี่เหลี่ยม,จากนั้นก็ลุกไหม้กลายเป็นเพลิงสีเขียวในทันที.

”!”

 

จงซานที่ร้องออกมาขณะทีเปลวเพลิงลุกไหม้.

 

"ของวิเศษของข้า,แม้แต่เซียนบรรพชนยังไม่รอด,ลำพังแค่เซียนโบราณนะรึ?"เซิ่งหวังอู๋เซี่ยงแค่นเสียงเย็นชา.

 

"เซิ่งหวัง!"จินเผิงที่ร้องออกมาเสียงดัง.

 

แววตาที่โกรธเกรี้ยว,ง้าวฟางเทียนฮวาจีที่ฟ้าฟันไปยังของวิเศษที่กักขังจงซาน.

"ตูมมม!” "ตูมมม!”

 

เซิ่งหวังเซี่ยและขันทีชรา,เข้ามาขวางจินเผิงในทันที.

 

จินเผิงที่ดวงตาแดงซ่าน,พร้อมกับปลดปล่อยพลังทั้งหมดออกมา,เข้าต่อกรกับเซียนบรรพชนทั้งสอง,ทว่าฝ่ายตรงข้ามมีถึงสองคน,มีเหรอที่จะสามารถทำได้ถอยไปได้ง่ายๆ?

 

"วูซซซซ!"

 

ภายในห่วงสี่เหลี่ยมที่เริ่มสั่นไปมา,เปลวเพลิงที่สลายหายไป,จงซานที่อยู่ด้านในถูกเผาจนสลายหายไปทั้งร่างและวิญญาณ.

 

"เป็นไปไม่ได้!"จินเผิงที่ไม่อยากเชื่อ!

 

"เป็นไปไม่ได้,ของวิเศษของข้าที่กุมร่างเอาไว้เช่นนั้น,ไปไม่ได้ที่จงซานจะมีชีวิตอีกครั้ง!"เซิ่งหวังอู๋เซี่ยงแค่นเสียงเย็นชา.

 

"เจ้าไม่มีทางสังหารเซิ่งหวังได้!"จินเผิงที่ยังไม่ยอมรับ.

 

จากนั้น,ง้าวฟางเทียนฮวาจี,ที่ฟาดฟันไปยังร่างของเซิ่งหวังเซี่ย.

"ตูมมม ~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~!”

 

เซิ่งหวังเซี่ยและขันทีชราที่ร่วมมือกันรับมือจินเผิง.

 

"จินเผิง!"เซิ่งหวังอู๋เซี่ยงที่คำรามเสียงดัง!

 

เสียงที่ดังกระหึ่ม,จินเผิงที่บ้าคลั่งค่อยๆสงบลง,ทว่ายังคงจ้องมองเซิ่งหวังอู๋เซี่ยงดวงตาแดงกล่ำ.

 

"จินเผิง,นกดีต้องรู้จักเลือกกิ่งไม้พำนัก ขุนนางดีย่อมรู้จักเลือกนาย,จงซานให้อะไรเจ้า,ข้าก็สามารถได้เช่นกัน,แม้แต่มากกว่าด้วยซ้ำ,ในต้าเจิ้ง,เจ้าเป็นเพียงแค่องค์รักษ์รับผิดชอบในตำแหน่งเล็กๆ,แม้แต่รับคำสั่งจากเซียนสวรรค์หรือต้าเซียน,เจ้าไม่คิดจะลาออกอย่างงั้นรึ? เข้าร่วมศาลเทวะอู๋เซี่ยงของข้า,ข้าจะมอบตำแหน่งกงให้กับเจ้า,หลังจากที่เข้าสามารถยึดครองอาณาเขตจวงหลุนได้,หากเจ้าต้องการ,ข้าสามารถมอบมันให้เจ้าเป็นคนปกครองได้!"เซิ่งหวังอู่เซี่ยงที่กล่าวหว่านล้อม.

 

เหล่าคนที่มีความสามารถ,ไม่ว่าจะเป็นเซิ่งหวังกลุ่มอิทธิพลใดล้วนแต่ต้องการ,เว้นแต่คนโง่ไร้ความสามารถเท่านั้นที่ไม่เป็นที่ต้องการ,ทว่าหากคนๆนั้นก้าวไปถึงระดับเซียนบรรพชน,ไม่ว่าจะฉลาดหรือโง่,ล้วนแต่เป็นที่ต้องการ,นอกจากนี้จินเผิงยังแสดงพลังที่แข็งแกร่งออกมา,แม้แต่,เหล่าหวัง,เซี่ยเสี่ยเป่ย,สองคนร่วมมือกันยากที่จะรับมือ,จงซานจะโชคดีเกินไปแล้ว?

 

เซิ่งหวังอู๋เซี่ยงจึงต้องการจินเผิงมาใช้งาน!

 

ประมุขนิกายฟู่โม่ไม่สามารถรั้งรอได้อีแล้ว.

 

กำลังทำให้อีกฝ่ายยอมจำนนรึ? หากว่าเขาสามารถกำราจินเผิงได้สำเร็จล่ะก็,กลุ่มของเซิ่งหวังอู๋เซี่ยงจะกลายเป็นสี่เซียนบรรพชน,สมบัติเทียนตี้นั้น,ก็ไม่ยากสำหรับเขาแล้ว.

 

การเฝ้ามองอย่างอดทน,ตอนนี้ไม่สามารถทำได้แล้ว.

 

"ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า~~~~~~~~~~!”จินเผิงที่หัวเราะออกมาเสียงดังลั่น.

 

เสียงหัวเราะที่เต็มไปด้วยความเหยียดหยัน,จินเผิงจ้องมองอย่างไม่แยแสเซิ่งหวังอู๋เซี่ยง,,"ลำพังเจ้านะรึ,จะให้ข้าโน้มหัวให้?"

 

จินเผิงที่เต็มไปด้วยความหังการ,อรหันต์ยูไลยังไม่สามารถกำราบจินเผิงได้,แม้ว่าจินเผิงจะพ่ายแพ้,แต่ก็ยังได้รับตำแหน่งใหญ่โตในวิหารใต้เหล่ยหยิน.

 

เขาที่ถูกจงซานกำราบ,ทว่ามันก็มีความซับซ้อนอยู่,เขาถูกบังคับให้สาบานปกป้องต้าเจิ้งหนึ่งพันปี,ทว่าภายในใจของจินเผิงเองก็ไม่ได้ยอมรับจงซานทั้งกายและใจแต่อย่างใด.

 

ตอนนี้ยังมีเซิ่งหวังอีกคนต้องการกำราบเขารึ? มีเหรอที่จินเผิงจะหวังเช่นนั้น?

 

"ข้าชอบในความสามารถของเจ้า,ช่างน่าเสียดายที่ไม่สามารถร่วมงานกันได้,เจ้าไปซะ,ข้าจะไม่ถือสาหาความเจ้าอีก!"เซิ่งหวังอู๋เซี่ยงที่กล่าวออกมาด้วยใบหน้าแสดงท่าทางเสียดาย.

 

ขณะที่จินเผิงกำลังจะกล่าวอะไรออกมา,ประมุขนิกายฟู่โม่ที่เอ่ยออกมาก่อน,"เซิ่งหวังอู๋เซี่ยงมีแผนการที่ยอดเยี่ยม,คิดจะเอาชนะโดยไม่ลงมือ,เพียงแค่ไล่ให้คนอื่นจากไปอย่างงั้นรึ? ดูเหมือนว่าเจ้าจะวาดฝันในมรดกของเทียนตี้อยู่งั้นรึ?"

 

ประมุขนิกายฟู่โม่ที่แสดงท่าทางไม่พอใจ,พร้อมกับกล่าวเตือนออกมา.

 

หากในเวลานี้,จินเผิงจากไป,บางที่โอกาสที่จะได้รับมรดกเทียนตี้ยิ่งน้อยเข้าไปอีก.

 

เซิ่งหวังอู๋เซี่ยงที่หันหน้าจดจ้องมองอย่างเย็นชาไปยังประมุขนิกายฟู่โม่,แววตาที่เต็มไปด้วยความเย็นชา.

 

อีกฝั่งหนึ่ง,จินเผิงที่สูดหายใจลึก,"ต้าเจิ้งล่มสลาย,จงซานตกตายแล้วอย่างไง,ข้าจินเผิงรับคำสั่งของจงซานแล้ว,ว่าต้องสังหารเซี่ยเสี่ยวเป่ย! ข้าย่อมต้องรักษาคำพูดตัวเอง!"

 

จินเผิงที่ควงอาวุธไปมา,เพลิวเพลิงแห่งการต่อสู้ที่ลุกโชนจ้องมองไปยังเซิ่งหวังเซี่ย!

 

"เจ้ากล้า!"เซิ่งหวังอู๋เซี่ยงที่เผยความโกรธเกรี้ยวออกมา.

 

ที่ไกลออกไปนั้น,จินเผิงที่ควงง้าวฟางเทียนฮวาจีพุ่งเข้าไป,ร่างกายที่โอบด้วยเทียนเต๋า,พลังอำนาจที่น่าเกรงขามโจมตีไปยังเซี่ยเสี่ยวเป่ย! เซิ่งหวังอู๋เซี่ยงที่โกรธเกรี้ยว,ขณะที่กำลังจะออกมาขวาง.

 

"วูซซซ!"

 

ประมุขนิกายฟู่โม่ที่ปรากฏขวางเซิ่งหวังอู๋เซี่ยงในทันที,กระบี่เทวะในมือของเขาที่ตะวัดออกมา,ร่างกายที่อาบไปด้วยเทียนเต๋า,พร้อมกับชี้ไปยังเซิ่งหวังอู๋เซี่ยง.

 

"เจ้าต้องการเป็นศัตรูกับข้าอย่างงั้นรึ?"เซิ่งหวังอู๋เซี่ยงที่แค่นเสียงเย็นชา.

 

"มรดกเทียนตี้,หากข้าไม่ลงมือ,ยังจะมีโอกาสอีกรึ?!"ประมุขนิกายฟู่โม่กล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม.

"ตูมมม!”

 

ประมุขนิกายฟู่โม่ที่ต่อสู้กับเซิ่งหวังอู๋เซี่ยง,ขันทีชราและเซิ่งหวังเซี่ย,ต่อสู้กับจินเผิง.

 

การต่อสู้ที่สับสนวุ่นวายปรากฏขึ้นอีกแล้ว.

 

ไท่จื่ออู๋เซี่ยง,เนี่ยนข่าน,เขาที่ยืนอยู่ที่ไกลออกไป,ลอบมองการต่อสู้ของเซียนบรรพชน,เขาไม่สามารถเข้าไปจัดการอะไรได้.

 

ไกลออกไปนั้นเซิ่งหวังเย่ที่ลอยอยู่บนอวกาศ.

 

เซิ่งหวังเย่ที่ทะลวงค่ายกล,ขณะที่จ้องมองไปยังพื้นที่ไกลออกไป.

 

ห้าด่านสมบัติลับเทียนตี้,ไม่ยากที่จะทะลวง,ทว่าจำเป็นต้องใช้พลังอย่างมหาศาล,แม้แต่เซิ่งหวังเย่ยังลอบคิดอยู่ว่าหากทะลวงค่ายกลได้แล้ว,กับคนมากมายในเวลานี้,ใครกันที่จะได้รับมรดกของเทียนตี้?

 

จงซานตายแล้ว,ในเวลานี้คนอื่นๆที่กำลังสับสนวุ่นวายต่อสู้กันอยู่,ใบหน้าของเซิ่งหวังเย่ที่เผยความตื่นเต้นดีใจเล็กน้อย.

 

"กระบี่สุดท้าย!

"ทะลวง!”

 

เซิ่งหวังเย่คำราม,กระบี่เทวะที่ทะลวงดวงดาราในทันที,ด่านที่ห้าพังทลายลง!

 

ด้านที่ห้าพังทลายแล้ว,เซิ่งหวังเย่ที่ทะลายค่ายกลได้,เร่งรีบพุ่งตรงไปยังตำหนักหนึ่งเดียวในใต้หล้า,ขณะที่เขาพุ่งไปนั้น,อำนาจแห่งดวงดาราจากทั่วทุกสารทิศ! พุ่งตรงมายังเซิ่งหวังเย่.

 

พลังดังกล่าวที่พุ่งมานี้,กระแทกเซิ่งหวังเย่ลอยออกไป.!

 

นี่มัน?

 

สนามพลังที่หนาแน่นรุนแรงนี้กระแทกเซิ่งหวังเย่ลอยออกไปยังสนามรบที่วุ่นวาย.

 

พริบตาที่เซิ่งหวังเย่ทะลวงค่ายกลสำเร็จ,การต่อสู้บนสนามรบที่ไกลออกไปก็หยุดลง,ต้องไม่ลืมว่า,ไม่มีใครยกผลประโยชน์ให้กับมือที่สามไปในความขัดแย้งของตัวเอง.

 

เป็นกระแสพลังที่รุนแรงมาก,ใบหน้าของทุกคนที่เปลี่ยนเป็นซับซ้อน.

 

"ไม่ได้การ,ด่านที่หก!"เซิ่งหวังเย่ที่ใบหน้าเปลี่ยนเป็นซับซ้อน.

 

"เมื่อด่านที่ห้าพลังทำลายพลังอำนาจแห่งดวงดารามารวมกัน,แม้แต่พลังของพวกเรารวมกันทั้งหมด,ยังจะสามารถเข้าไปได้รึ?"ประมุขนิกายฟู่โม่ที่กล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม.

 

ที่ไกลออกไป,ตำหนักอันดับหนึ่งในโลกหล้าที่ถูกปกคลุมไปด้วยหมอกสีขาว,ทว่าหมอกสีขาวนั้นได้รวมตัวกันเข้ากับดวงดาราทั้ง 108 ก่อนที่จะปรากฏค่ายกลอีกอันขึ้น,ค่ายกลนี้เป็นค่ายกลของพลังห้าด่านรวมกัน,มีพลังอำนาจที่ยิ่งใหญ่ไพศาลและมีอักษรใบ้คำหนึ่งบนค่ายกลด้วยคำว่า"ตาย".

 

ทว่า,ด้วยพลังอำนาจของด่านทั้งห้ารวมกัน,แล้วอย่างไร,เหล่าเซียนบรรพชนก็หาได้รู้สึกหวาดกลัว.

 

"เข้าไปต้องตายรึ?"ขันทีชราที่กล่าวออกมาด้วยท่าทางตกใจ.

 

ตาย? เป็นความจริง,ค่ายกลนี้มีพลังอำนาจที่ยิ่งใหญ่,พลังอำนาจที่เคลื่อนไหวนั้น,เป็นสนามพลังที่น่าเกรงขามจนน่าสะพรึงกลัว,ทว่าคำใบตายดังกล่าวนั้นจะต้องมีความหมายอะไรบางอย่างแน่นอน.

 

ถึงแม้นว่าจะเป็นค่ายกลที่สมบูรณ์,ทว่าก็ไม่มีใครล้มเลิก,แม้นว่าจะต้องเสี่ยงตายก็ตาม.

 

สายตาของทุกคนที่จ้องมองเป็นสายตาเดียวกัน,ตำหนักอันดับหนึ่งของโลกหล้า,ที่มีหมอกสีขาวปกคลุม.

 

กับตำหนักอันดับหนึ่งของโลกหล้าที่อยู่ตรงหน้าแล้ว,อีกเพียงก้าวเดียว,มีใครที่จะยอมแพ้กัน?

 

"เซี่ยเสี่ยวเป่ย,ส่งชีวิตเจ้ามา!"ง้าวฟางเทียนฮวาจีที่พุ่งออกไปอีกครั้ง.

 

เซิ่งหวังอู๋เซี่ยงและประมุขนิกายฟู่โม่ที่เริ่มต่อสู้กันอีกครั้ง,ส่วนเซิ่งหวังเย่ตอนนี้จำเป็นต้องเข้าร่วมมือกับกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งก่อน,เพราะรุ้ดีว่าหากเขาเร่งรีบทะลวงเข้าไปในตำหนักอันดับหนึ่งในเวลานี้,แม้นได้สิ่งใดกลับมาจะต้องถูกล้อมสังหารแน่.

 

ดังนั้น,หกเซียนบรรพชนที่เริ่มต่อสู้กันทันที.

 

ห้วงมิติที่สั่นไหวไปมา,หลุมดำที่ปรากฏขึ้นรอบๆ.

 

การต่อสู้ที่วุ่นวายโกลาหล!

 

ที่ไกลออกไป,เนี่ยนข่านที่ไม่กล้าเร่งรีบเข้าไป,เขาที่ถอยออกมา,และเฝ้ามองดวงดาราทั้งหนึ่งร้อยแปด,และอักษรใบคำว่า"ตาย"!

 

เซิ่งหวังอู๋เซี่ยง,เซิ่งหวังเซี่ย,ขันทีชรา,พวกเขาที่เป็นพวกเดียวกัน,ประมุขนิกายฟู่โม่,เซิ่งหวังเย่,จินเผิง,แม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้ทำข้อตกลงอย่างใดกัน,ทว่าตามสถานการณ์แล้ว,พวกเขาจำเป็นต้องเป็นพันธมิตรกัน.

 

การต่อสู้นี้,ผ่านไปถึงสิบวันด้วยกัน,ดวงดาราที่อยู่รอบๆพังทลายเสียหาย,การต่อสู้ของเซียนบรรพชนนับว่าทรงพลังน่าเกรงขามเป็นอย่างมาก.

 

กับหกร่างเซียนบรรพชนที่ต่อสู้กัน,ไม่มีใครสังเกต,ในเวลานี้ลึกเข้าไปในตำหนักบนอวกาศ,ตำหนักหนึ่งในโลกหล้า,บนดาวดวงหนึ่งของค่ายกล,ในเวลานี้มีร่างในชุดดำยืนอยู่!

 

ร่างในชุดดำที่ไม่พุ่งเข้าไปร่วมต่อสู้,เพื่อที่จะเข้ามาในตำหนักหนึ่งในโลกหล้า,เซียนบรรพชนทั้งหก,พวกเขาที่ไม่ยินยอมให้ใครเข้ามาด้านในก่อน,ทำให้พวกเขาต้องต่อสู้แก่งแย่งสิทธิ์ดังกล่าวนั้น.

 

ร่างในชุดดำที่ไม่ขยับ,ยังคงจ้องมองสถานการณ์ที่เกิดขึ้นตลอดสิบวันสิบคืน,แน่นอนว่าคนๆนั้นไม่ใช่ใครที่ใหน,ทว่าเป็นคนที่เซิ่งหวังอู๋เซี่ยงมั่นใจว่าสังหารไปแล้วนั่นเอง!

 

ร่างแยกเงาของจงซานนั้นสามารถสร้างร่างโคลนได้มากมาย,มีเหรอที่จะตายง่ายๆ!

 

จงซานที่เฝ้ามองการต่อสู้,ยืนมือไขว้หลัง,ดวงตาที่เผยความเย็นชาออกมา,พร้อมกับยกยิ้มออกมาเล็กน้อย,"ให้ความร่วมมือดีมาก!"

 

ปล.อีกหนึ่งตอนดึกๆครับ

********************

"良禽木而栖,主而事"

 

"เหลียงฉินเจ๋อมู่เอ๋อชี เสียนเฉินเจ๋อจู่เอ๋อซื่อ"

"นกดีต้องรู้จักเลือกกิ่งไม้พำนัก ขุนนางดีย่อมรู้จักเลือกนาย"

หรือที่ในบทพากย์ไทยสามก๊ก 1994 แปลไว้ว่า

"นกทำรังให้ดูร่มไม้ ชายเลือกนายให้ดูน้ำใจ"

"นกพึงเลือกไม้ดีทำรัง ขุนนางเก่งต้องเลือกเจ้านายดี"

 

ในวรรณกรรมสามก๊ก มีผู้ที่กล่าวประโยคนี้คือ

ลิซก (หลี่ซู่ ) กล่าวในขณะที่เกลี้ยกล่อมลิโป้ให้มาเข้าด้วยตั๋งโต๊ะ

ลิอิ๋น (หลี่ฮุย 李恢 ชื่อรอง เต๋ออ๋าง 德昂) กล่าวตอนที่เดินทางมาเข้าด้วยเล่าปี่ ในขณะที่เตียวหุยรบกับม้าเฉียวที่แฮบังก๋วน ลิอิ๋นอาสาไปเกลี้ยกล่อมม้าเฉียวด้วยตนเอง

พิธีกรรายการเปิดตำราสามก๊กยังได้กล่าวประโยคนี้ช่วงท้ายรายการในตอนที่สามอีกด้วย

ป.ล.ในสามก๊ก 1994 เพิ่มให้กวนอูพูดประโยคคล้ายกันนี้ในตอนแรกอีกด้วย






ที่มาจากhttps://lnmtl.com/novel/immortality

#นิยาย เรื่องอมตะ #Immortality#นิยายแปลไทย
Author(s)


สนใจสนับสนุนพวกเรา,เข้าร่วมกลุ่ม VIP ====> Click

ปัจจุบันแปลจบแล้ว 1672 ตอน สนใจติดต่อเข้ากลุ่มลับได้ครับ

***เว็ปฟรีอัพ สองวันหนึ่งตอน
***กลุ่มลับ แปลจบแล้ว.

 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น