Immortality Chapter 1037 Earth is at
นิยาย เรื่อง อมตะ ตอนที่ 1037 โลกอยู่ที่ใด.
Chapter 1037 Earth is
at
地球所在
โลกอยู่ที่ใด.
"ผ่านกู๋? บางที่เขาคือคนที่แข็งแกร่งที่สุดคนหนึ่ง,แม้นว่าจะล่วงหล่นลงจากสวรรค์ไปแล้ว,ทว่าชื่อเสียงของเขาก็ไม่มีวันจางหาย,ในอดีตพวกเราเจ็ดปราชญ์เทพที่ต่อต้านสวรรค์,แต่ก็ยังมีชื่อเสียงและอิทธิพลน้อยกว่าเขา."เจี่ยหยินที่ระลึกถึง.
"ผ่านกู๋แข็งแกร่งขนาดนั้นเลยรึ?"จงซานสอบถามออกไป.
"แข็งแกร่งรึ?
เวลานั้นดูเหมือนไม่สามารถใช่คำว่าแข็งแกร่งได้,ในเวลานั้นเขาเป็นตัวตนที่ทุกคนต้องแหงนหน้ามอง!"เจี่ยหยินที่กล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม.
"ช่วยอธิบายด้วย!"จงซานกล่าว.
"บางทีเจ้าควรรู้ว่า,ฟูซี,ข้า,จุนถี,หงจวิน,นวีหว๋า,ไท่ซ่าง,ทงเทียน,หยวนซือ,ก่อนหน้านั้น,พวกเราต่างก็ออกมาจากโลกใบเล็ก! ต้องบอกว่าม่านก่อเกิดบรรพชนนั้นแข็งแกร่งและหนามาก!
หลายต่อหลายปีไม่มีใครสามารถทะลวงผ่านได้,หลังจากที่ผ่านกู๋กำเนิด,เขาจึงกลายเป็นคนๆแรกที่สามารถทะลวงม่านก่อเกิดบรรพชนได้!"เจี๋ยหยินกล่าว.
"ผานกู๋ทีแยกสวรรค์สะบั้นปฐพี,เปิดโลกใบเล็กออกมานะรึ?"จงซานที่ขมวดคิ้วไปมาเล็กน้อย.
"ใช่,เหมือนเจ้าไงล่ะที่แยกสวรรค์,สะบั้นปฐพี,เพียงแต่ผ่านกู๋นั้นแตกต่างจากเจ้าเล็กน้อย!"เจี่ยหยินที่ครุ่นคิดพลางถอนหายใจเบาๆ.
"หืม?"
"ผ่านกู๋นั้นไม่ได้เปิดราชวงศ์วาสนา,เขาใช้ความแข็งแกร่งของเขาคนเดียวในการแยกสวรรค์,สะบั้นปฐพี,ส่วนเจ้านั้นได้ยืมอำนาจจากทั่วหล้า,เขาใช้พลังเขาแค่คนเดียว!"เจี่ยหยินที่กล่าวพลางถอนหายใจ.
ใบหน้าของจงซานที่กระตุก.
"แยกสวรรค์ด้วยตัวคนเดียว,เขาต้องแข็งแกร่งขนาดใหนกัน?
ปุถุชนที่มีพลังเหนือกว่าเซียนโบราณอย่างงั้นรึ?"จงซานที่อุทานออกมาด้วยความประหลาดใจ.
"ไม่เชื่อรึ?"เจี่ยหยินที่กล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม.
จงซานที่ได้แต่เงียบ,เป็นความจริง,ผ่านกู๋นับว่าทรงพลังร้ายกาจยิ่งนัก,ไม่จำเป็นต้องยืมอำนาจทั่วแผ่นดิน,ใช้พลังของตัวเองแยกสวรรค์ได้อย่างงงั้นรึ?
"ในอดีต,กับคนที่ทำเช่นนี้ได้มีไม่มาก,เหล่าตัวตนที่แข็งแกร่งต่างก็มาจากโลกใบเล็ก
รวมทั้งเจ็ดปราชญ์เทพด้วย,ฟูซี่,กงเชียน,และอื่นๆ,ทุกคนจึงให้ความเคารพต่อผ่านกู๋ที่สามารถแยกสวรรค์ได้!"เจี่ยหยินกล่าว.
"หลังจากนั้นล่ะ?"
"ช่างน่าเศร้าที่เขาได้รับบาดเจ็บจากการแยกสวรรค์สะบั้นปฐพี,ท้ายที่สุด,ผ่านกู๋ก็ล่วงหล่นจากสวรรค์!
ช่างน่าเศร้า,น่าเสียดาย,ไม่เช่นนั้นเขาจะกลายเป็นคนที่ทรงพลังที่สุด,กลายเป็นคนที่แข็งแกร่งที่สุดในโลกใบใหญ่แน่นอน!"เจี่ยหยินที่กล่าวพลางถอนหายใจ.
"หลังจากผ่านกู๋แยกสวรรค์สะบั้นปฐพีแล้ว,ดินแดนของโลกใบเล็กของเขาอยู่ที่ใหน?"จงซานสอบถาม.
"ส่วนหนึ่งของมันก็คือทวีปซือต้าปู่!"เจี่ยหยินกล่าว.
"หืม?"จงซานที่ตกใจเล็กน้อย.
ทวีปซือตาปู๋เพียงแค่ส่วนหนึ่งอย่างงั้นรึ?
ต้องรู้ด้วยว่าตัวเขาที่แยกสวรรค์สะบั้นปฐพีนั้น,มีขนาดเพียงหนึ่งในห้าของทวีปเฟิงจง,ทว่าทวีปซือต้าปู่นั้นไม่ได้มีขนาดเล็กกว่าอาณาเขตเฟิงจงเลยแม้แต่น้อย,โลกใบเล็กที่ผ่านกูเปิดนั้นมีขนาดใหญ่เท่าใดกัน?
"ส่วนเดียว,ทำไมถึงได้มีเพียงส่วนเดียวล่ะ?"จงซานที่แสดงท่าทางสงสัย.
"อีกส่วนนั้น,ข้าไม่รู้ว่ามันไปอยู่ที่ใหนเวลานี้?"เจี่ยหยิน.
"ทำไม?"
"เรื่องนี้ต้องเริ่มเอ่ยถึงเรื่องที่พวกเราต่อต้านเทียนชู,รู้ใหมว่าทำไมพวกเราจึงต้องการต่อต้านเทียนชู?"เจี่ยหยินที่ฝืนยิ้มออกมา.
"ทำไม?"จงซานที่แสดงท่าทางประหลาดใจ.
"เจ้าควรจะรู้ว่าส่วนประกอบของโลกใบใหญ่นั้น,ที่จริงมีเทียนเต๋าอยู่สามพัน,สามพันเทียนเต๋าที่เป็นส่วนประกอบของทุกสรรพสิ่ง!"
"อืม!"
"ทว่า,สามพันเทียนเต๋านั้นไม่ได้มีเชาว์ปัญญา,เป็นเพียงอภินิหาร,ไม่เช่นนั้นเหล่าเซียนบรรพชนจะสามารถเคลื่อนย้ายเทียนเต๋าได้อย่างงั้นรึ?การเคลื่อนย้ายเทียนเต๋าก็คือการเคลื่อนย้ายรากฐานของโลกใช่หรือไม่?"
จงซานที่พยักหน้า,ทำให้เจี่ยหยินกล่าวต่อ.
"อย่างไรก็ตามเทียนชูกล่าวว่าจะสร้างเทียนเต๋าที่มีเชาว์ปัญญาของตัวเองขึ้นมา!"
"มีผลอย่างไร?"
"หากฟ้าดินไม่มีความเมตตา
เห็นสรรพสิ่งเหมือนหุ่นเชิด ผู้ครองไม่มีความเมตตา
เห็นประชาชนเหมือนหุ่นบูชายันต์,,หากฟ้าดินไร้ซึ่งจิตใจ,ทุกๆสิ่งต้องขึ้นอยู่กับเทียนชู,เทียนชูที่เต็มไปด้วยเชาว์ปัญญา,จะกลายเป็นผู้กำหนดทุกสรรพสิ่ง,และถือครองอำนาจฟ้าดินความเป็นไปทั้งหมดเอาไว้ในมือ!"เจี่ยหยินกล่าว.
天地不仁,以万物为刍狗;圣人不仁,以百姓为刍狗。แปล ฟ้าดินไม่มีความเมตตา เห็นสรรพสิ่งเหมือนหุ่นบูชายันต์
ผู้ครองไม่มีความเมตตา เห็นประชาชนเหมือนหุ่นบูชายันต์
"มันคือลิขิตชะตาอย่างงั้นรึ?"จงซานที่ทำการคาดเดา.
"ถูกแล้ว,จะกล่าวได้ว่าจะควบคุมลิขิตชะตา,เทียนชูจะมีอำนาจสูงสุด,ควบคุมทุกคน,ไม่มีใครสามารถขัดขืนได้,กล่าวอีกอย่างหนึ่ง,อนาคตวันข้างหน้าจะถูกกำหนดเอาไว้แล้ว,ไม่มีใครสามารถเปลี่ยนแปลงได้,ไม่มีใครขัดขืนชะตาได้,ไม่เช่นนั้นจะถูกทำลายสิ้น!"เจี่ยหยินกล่าว.
ภายในใจของจงซานที่เต้นไปมาอย่างบ้าคลั่ง.
"เจ้ารู้ใหมว่าปราชญ์เทพหมายความอย่างอย่างไร?"เจี่ยหยินกล่าว.
"หืม?"
"ปราชญ์เทพผู้มีมรรคาฟ้าดิน,หรือเรียกได้ว่าตำแหน่งปราณสวี,เป็นจื่อจุ้นผู้ยืนอยู่เหนือฟ้าดิน,ทว่าตำแหน่งปราชญ์เทพนั้น,ที่จริงก็คือเทียนเต๋าที่เทียนชูมอบหมายหน้าที่ให้,เทียนเต๋าที่ไม่สามารถคิดเองได้,เป็นเหมือนกับอภินิหารที่ถูกใช้,ทุกอย่างเป็นเทียนชูคิด,แม้นว่าปราชญ์เทพคนทั่วไปอาจคิดว่าเป็นตัวตนที่แข็งแกร่งที่สุด,ทว่ามีเพียงปราชญ์เทพเท่านั้นที่รู้,คนที่เป็นตัวตนที่อยู่สูงที่สุดมีเพียงหนึ่งเดียว,ก็คือเทียนชู."เจี่ยหยินที่กล่าวพลางถอนหายใจ.
"เทียนชูตีกรอบให้ปราชญ์เทพทำตาม?"จงซานที่ขมวดคิ้วไปมา.
"ตีกรอบ? มันมากกว่าตีกรอบ!"เจี่ยหยินที่ฝืนยิ้มออกมา.
"อย่างไร?"จงซานที่แสดงท่าทางสงสัย.
"ที่จริงไม่ใช่ว่าปราชญ์เทพจะไม่ได้รับประโยชน์อะไรเลย,เหมือนเจ้า,ที่ไม่ใช่ปราชญ์เทพ,เจ้าไม่รู้,คนอื่นไม่รู้,คนที่ไม่รู้ย่อมหวาดกลัว,ทว่าปราชญ์เทพแล้วการไม่รู้คือสิ่งที่พวกเขาต้องการที่สุด.
"อย่างไรก็ตามปราชญ์เทพไม่มีทางที่จะไม่รู้,เพราะทุกอย่างเป็นเทียนชูที่ได้เตรียมการเอาไว้แล้ว,เทียนชูต้องการให้เจ้าทำอะไร,เจ้ามีเพียงแต่ต้องทำ,เพราะเทียนชูได้ตัดสนใจเอาไว้แล้ว,ยกตัวอย่างเช่นเทียนชูต้องการให้ใครตาย,ทว่าปราชญ์เทพไม่ต้องการให้เจ้าตาย,ในเวลานั้นเทียนชูใหญ่สุด,เจ้าจะต้องตายอย่างแน่นอน,เป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้,ปราชญ์เทพก็ได้แต่จ้องมองเจ้าตายอย่างช่วยอะไรไม่ได้! นั่นคือเทียนชู!"
"ปราชญ์เทพที่ได้รับความเคารพจากคนทั่วหล้า,ใครจะรู้ว่าปราชญ์เทพนั้นทำได้แค่เพียงรับคำสั่งจากเทียนชู?
เทียนชูที่ตัดสินใจทุกอย่างปราชญ์เทพมีแต่ต้องทำตาม,อนาคตไม่มีทางขัดขืนได้,แม้นว่าเรื่องๆนั้นจะขัดความรู้สึกก็ตาม,และหลังจากที่ผ่านมาหลายแสนปีความรู้สึกทุกอย่างก็จะหายไป,ปราชญ์เทพเป็นเพียงหุ่นเชิด,ทำทุกอย่างตามคำสั่ง,ไม่มีหัวใจ,ไร้ซึ่งอารมณ์ความรู้สึก."เจี่ยหยินกล่าวพลางถอนหายใจ.
"ปราชญ์เทพไร้หัวใจ,เพราะว่าไม่รู้สึกตัว!"จงซานที่กล่าวพลางถอนใจ.
"ใช่,ไม่รู้ตัว,ทว่าความจริงแล้ว,ต่อหน้าเทียนชู,ปราชญ์เทพจะกลายเป็นไร้ความรู้สึกช้าๆ,และกลายเป็นทาสโดยถาวร,ทว่าปราชญ์เทพยังจะมีความต้องการของตัวเองอยู่รึ?
แน่นอน,ทุกคนย่อมต้องมีความต้องการของตัวเอง,ยกตัวอย่างเช่นหมี่เทียน,เขาที่กระทำเรื่องชั่วร้ายน่าอับอายมากมาย,ทำให้พวกเราทั้งเจ็ดไม่สามารถทนได้,ดังนั้นจึงต้องการต่อต้านเทียนชู!"เจี่ยหยินที่กล่าวอย่างเคร่งขรึม.
"เทียนชู?อนาคตของทุกคนไร้ซึ่งอนาคต?"จงซานที่ขมวดคิ้วไปมา.
"ก็ไม่ถึงขนาดนั้น,ความจริงก็คือ,ปราชญ์เทพคือผู้ทำหน้าที่แทนเทียนชุ?
เทียนชูเป็นเพียงคนเผ้ามองสถานะการณ์,ยกตัวอย่าง,สองอาณาจักรสู้รบกัน,อาณาจักร ก.
ที่ทรงพลังไร้เทียนทานน่าเกรงขาม,อาณาจักร
ข.ที่อ่อนแอปวกเปียก,ทว่าภายใต้การตัดสินใจของเทียนชู,อาณาจักร
ข.ต้องได้รับชัยชนะ,ทั้งที่เป็นไปไม่ได้เลยที่อาณาจักร
ข.จะได้รับชัยชนะ,ทว่าเมื่อเทียนชูตัดสินใจก็ขัดขืนไม่ได้,เหล่ายอดฝีมือไร้เทียมทานของอาณาจักร
ก. จะล่วงหล่นจากสวรรค์,ส่วนอาณาจักร ข. จะปรากฏยอดฝีมือที่น่าเกรงขามขึ้น,เป็นไปตามที่เทียนชูได้เขียนบทให้!"เจี่ยหยินที่ครุ่นคิดและกล่าวออกมา.
"กล่าวอีกอย่างหนึ่ง,สิ่งที่เทียนชูต้องการให้เป็น,ไม่สามารถขัดขืนได้อย่างงั้นรึ?"จงซานที่กล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม.
"ถูกแล้ว,ทุกอย่างถูกเขียนบทไว้หมดแล้ว,ส่วนปราชญ์เทพมีไว้คอยแก้ปัญหาต่างๆ,ตราบเท่าที่ทุกอย่างเป็นไปตามที่เทียนชูต้องการ,รายระเอียดต่างๆเทียนชูหาได้สนใจ,แน่นอนว่าเทียนชูจะไม่แลมองด้วยซ้ำ,เพราะว่าเจ้าไม่มีคุณสมบัติพอ!"เจี่ยหยินที่ส่ายหน้าไปมา.
"ใช่,ข้าต่อหน้าเทียนชูเป็นได้แค่มดปลวก,แล้วเวลานี้เทียนชูหันมาสนใจข้ารึยัง?"จงซานที่ฝืนยิ้มออกมา.
"นวีหว๋าที่ได้เปลี่ยนเทียนชู,เพื่อช่วยเผ่าจิ้งจอกสำเร็จ,เพราะเรื่องราวดังกล่าวนั้นทำให้บทที่เทียนชูเขียนไม่เป็นไปตามที่เทียนชูต้องการ,ดังนั้นการเปลี่ยนแปลงจึงประสบผล,ทว่าชีพจรเรื่องหลักนั้นก็ยังคงเหมือนเดิม,ในอดีตนั้นหงจวินเป็นผู้นำ,ทำการเปลี่ยนชีพจรหลัก,เป็นเหตุให้กลุ่มปราชญ์เทพล่วงหล่นจากท้องฟ้า!"เจี่ยหยินที่ครุ่นคิด.
จงซานที่เงียบไปครู่หนึ่ง,ครุ่นคิดและกล่าวออกมาว่า,"ผ่านกู๋แยกสวรรค์สะบั้นปฐพี,เจ้าบอกว่ามีแค่ส่วนเดียว,อีกส่วนหนึ่งนั้นหายไปใหน?"
"อีกส่วน,คือที่อยู่ของหงจวิน,ตำหนักจื่อเซียว!"เจี่ยหยินที่ครุ่นคิดและกล่าวออกมา.
"ตำหนักจื่อเซียว?"
"ถูกแล้ว,ตำหนักจื่อเซียวนั้นมีพื้นที่ใหญ่โตมโหฬาร,ขณะที่กลุ่มปราชญ์เทพที่พ่ายแพ้ต่อเทียนชู,บรรพชนหงวินที่มีวิชาลับ,ได้ทำการผนึกตำหนักจื่อเซียวเอาไว้,พร้อมกับย่อขนาดแล้วนำมันไปซ่อนอยู่บนอวกาศในพื้นที่ไกลออกไป!"เจี่ยหยินกล่าว.
"บีดอัดหมายความว่าอย่างไร?"จงซานที่กล่าวสอบถาม.
"บรรพชนหงจวินมีทักษะเทวะเวลา,แน่นอน,ใช้วิธีใดนั้นข้าเองก็ไม่รู้,ในเวลานั้นเขาที่ดีดนิ้ว,ควบรวมมันเป็นโลกพร้อมกับเอาไปไว้ในกลุ่มดาวแห่งหนึ่ง,ตำหนักจื่อเซียวถูกนำไปซ่อนไว้ที่นั่น!"
"ที่ใจกลางมีดวงอาทิตย์ขนาดเล็ก,ล้อมรอบด้วยดาวเคราะห์เก้าดวง,ในเวลานั้นตำหนักจื่อเซียวถูกย่อให้มีขนาดเล็กลง!"เจี่ยหยินกล่าว.
"ดวงอาทิตย์?
เก้าดาวเคาระห์?"จงซานที่รู้สึกแปลกประหลาด.
เรื่องนี้มัน,ดูคล้ายคลึงกันนัก.
"ใช่,ในดาวเคราะห์ดวงที่สามจากดวงอาทิตย์,ร่างหลักของตำหนักจื่อเซียว,ซึ่งมีสิ่งมีชีวิตที่หงจวินได้ทิ้งไว้ในดาวเคราะห์ดวงนั้นด้วย!"เจี่ยหยินกล่าว.
"ดาวเคราะห์ดวงที่สาม?
เป็นดวงดาวที่มีสิ่งมีชีวิต?"จงซานที่ราวกับว่ากำลังพบกับคำตอบ.
สถานที่ที่เจี่ยหยินเอ่ยถึงนั่น,ถูกเรียกว่า,"โลก"
ร่างหลักของโลกก็คือตำหนักจื่อเซียวอย่างงั้นรึ?
"ตำหนักจื่อเซียวเปลี่ยนเป็นดวงดาราได้อย่างไร?"จงซานที่แสดงท่าทางสงสัย.
"เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องยาก,เมื่อเจ้าไปที่นั่นก็จะรู้เอง,ในเวลานั้นหลังจากสร้างดวงดาราขึ้นมา,หงจวินที่ได้สร้างเทือกเขาหลายแห่งที่คล้ายกับโลกใบใหญ่ในดวงดาวแห่งนั้น,ซึ่งมีเทือกเขาไท่,เทือกเขาฮัว,แม่น้ำเหลือง,อีกหลายอย่าง,ภูมิประเทศต่างๆก็คล้ายๆกัน! ส่วนผู้คนในดาวดวงนั้น,เป็นเพียงปุถุชน,ไม่มีผู้ฝึกตน!"เจี่ยหยินที่ส่ายหน้าไปมา.
"มีเพียงปุถุชน?ในเมื่อดวงดาราดังกล่าวคือตำหนักจื่อเซียว,ก็น่าจะมีปรานหยวนก่อเกิดฟ้าดินเพียงพอ,ถึงแม้นว่าจะเป็นปุถุชน,อีกไม่ช้าก็เร็วก็ต้องมีผู้ฝึกตนไม่ใช่รึ?"จงซานที่กล่าวออกมาด้วยความสงสัย.
"ตำหนักจื่อเซียวที่ได้กลายเป็นดวงดาว,ปรานหยวนก่อเกิดฟ้าดินเพียงพอ,และเพียงพอจนมากไปด้วยซ้ำ,ทำให้ปุถุชนไม่สามารถที่จะดูดซับได้!"เจี่ยหยินที่ส่ายหน้าไปมา.
"หืม?"
"มันถูกควบแน่น,แน่นจดแข็ง,จนปุถุชนไม่มีทางที่จะดูดซับได้?
เว้นแต่จะเป็นคนที่ไม่ยอมแพ้ใช้เวลาดูดซับนับสิบปี,ถึงจะดูดซับได้บ้างสักนิดหน่อย!
ทว่าแน่นอนมันยังไม่นับว่าเป็นประโยชน์,สิ่งมีชีวิตเหล่านั้นไม่สามารถตัดผ่านระดับได้,มีเพียงแค่รอความตาย!
แน่นอนพวกเขาไม่สามารถดูดซับได้,ต้นไม้ใบหญ้าก็ไม่สามารถดูดซับได้เช่นกัน."เจี่ยหยินที่กล่าวพลางหายใจ.
"หมายความว่าอย่างไร?"จงซานสอบถามออกไป.
"ก่อนหน้านี้นานแล้ว,หลายแสนปีก่อนที่กลุ่มปราชญ์เทพจะล่วงหล่นลงสู่สวรรค์,หลายร้อยสำนักต่างก็เรียกยุคของทวีปซือตาปู่ว่า,ชุนชิว"
เจี่ยหยินที่ครุ่นคิดและกล่าวออกมา.
"ยุคชุนชิว?"ภายในใจของจงซานที่สั่นไหว.
เช่นนั้น,โลกก็คือตำหนักจื่อเซียวที่ถูกบีบอัด,ก่อนหน้านี้มีประวัติของยุคชุนชิว,ประวัติศาสตร์ของโลกใบใหญ่?
ทว่าหลังจากยุคชุนชิว,โลกก็ถือกำเนิดและวิวัฒนาการไปอีกอย่างงั้นรึ?
ไม่ใช่,ในเวลานี้ในโลกมนุษย์ดูเหมือนว่าจะมีต้าฉินอยู่ด้วย!
"เอาล่ะ,เกี่ยวกับโลกที่หงจวินผนึกเอาไว้นั้น,ที่ด้านในนั้นมีพลังอำนาจของกาลอากาศที่ไม่ธรรมดา,ทำให้เวลาของที่นั่นเดินช้ากว่าปรกติมากยิ่งกว่ามาก,ที่ด้านนอกผ่านไปหลายแสนปี,บางที่ที่ด้านในนั้นอาจผ่านไปเพียงแค่หลายพันปีเท่านั้น!"เจี่ยหยินครุ่นคิดและกล่าวออกมา.
"แล้วตอนนี้โลกอยู่ที่ใหน?"จงซานสอบถามออกไปด้วยความสงสัย.
"ไม่มีใครรู้,มีเพียงแค่หงจวินที่เชี่ยวชาญเรื่องอวกาศ,บางที่อาจจะไม่สามารถพบได้อีกครั้ง,ได้ยินมาว่าผนึกของหงจวินนั้นทรงพลังมาก,ทำให้ปราชญ์เทพต่างก็ค้นหากันไม่หยุด,ทว่าก็ไม่มีใครหาเจอ!"เจี่ยหยินที่ส่ายหน้าไปมา.
จงซานที่ใจหนึ่งยอมรับอีกใจหนึ่งก็ไม่ยอมรับ,เพราะว่าจงซานรู้ว่าหยิงต้องพบมันเข้าแล้ว,ยุคราชวงศ์ต้าฉิน,แน่นอนหยิงต้องเคยเข้าไปที่นั่นผ่านทางวิชาลับสวรรค์ลี้ลับผ่านดินแดนฝันของเขา.
โลกก็คือตำหนักจื่อเซียว,ตำหนักจื่อเซียวคือโลก,เรื่องนี้ทำให้จงซานรู้สึกประหลาดใจเป็นอย่างมาก.
Chapter 1037 Earth is
at
地球所在
โลกอยู่ที่ใด.
"ผ่านกู๋? บางที่เขาคือคนที่แข็งแกร่งที่สุดคนหนึ่ง,แม้นว่าจะล่วงหล่นลงจากสวรรค์ไปแล้ว,ทว่าชื่อเสียงของเขาก็ไม่มีวันจางหาย,ในอดีตพวกเราเจ็ดปราชญ์เทพที่ต่อต้านสวรรค์,แต่ก็ยังมีชื่อเสียงและอิทธิพลน้อยกว่าเขา."เจี่ยหยินที่ระลึกถึง.
"ผ่านกู๋แข็งแกร่งขนาดนั้นเลยรึ?"จงซานสอบถามออกไป.
"แข็งแกร่งรึ?
เวลานั้นดูเหมือนไม่สามารถใช่คำว่าแข็งแกร่งได้,ในเวลานั้นเขาเป็นตัวตนที่ทุกคนต้องแหงนหน้ามอง!"เจี่ยหยินที่กล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม.
"ช่วยอธิบายด้วย!"จงซานกล่าว.
"บางทีเจ้าควรรู้ว่า,ฟูซี,ข้า,จุนถี,หงจวิน,นวีหว๋า,ไท่ซ่าง,ทงเทียน,หยวนซือ,ก่อนหน้านั้น,พวกเราต่างก็ออกมาจากโลกใบเล็ก! ต้องบอกว่าม่านก่อเกิดบรรพชนนั้นแข็งแกร่งและหนามาก!
หลายต่อหลายปีไม่มีใครสามารถทะลวงผ่านได้,หลังจากที่ผ่านกู๋กำเนิด,เขาจึงกลายเป็นคนๆแรกที่สามารถทะลวงม่านก่อเกิดบรรพชนได้!"เจี๋ยหยินกล่าว.
"ผานกู๋ทีแยกสวรรค์สะบั้นปฐพี,เปิดโลกใบเล็กออกมานะรึ?"จงซานที่ขมวดคิ้วไปมาเล็กน้อย.
"ใช่,เหมือนเจ้าไงล่ะที่แยกสวรรค์,สะบั้นปฐพี,เพียงแต่ผ่านกู๋นั้นแตกต่างจากเจ้าเล็กน้อย!"เจี่ยหยินที่ครุ่นคิดพลางถอนหายใจเบาๆ.
"หืม?"
"ผ่านกู๋นั้นไม่ได้เปิดราชวงศ์วาสนา,เขาใช้ความแข็งแกร่งของเขาคนเดียวในการแยกสวรรค์,สะบั้นปฐพี,ส่วนเจ้านั้นได้ยืมอำนาจจากทั่วหล้า,เขาใช้พลังเขาแค่คนเดียว!"เจี่ยหยินที่กล่าวพลางถอนหายใจ.
ใบหน้าของจงซานที่กระตุก.
"แยกสวรรค์ด้วยตัวคนเดียว,เขาต้องแข็งแกร่งขนาดใหนกัน?
ปุถุชนที่มีพลังเหนือกว่าเซียนโบราณอย่างงั้นรึ?"จงซานที่อุทานออกมาด้วยความประหลาดใจ.
"ไม่เชื่อรึ?"เจี่ยหยินที่กล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม.
จงซานที่ได้แต่เงียบ,เป็นความจริง,ผ่านกู๋นับว่าทรงพลังร้ายกาจยิ่งนัก,ไม่จำเป็นต้องยืมอำนาจทั่วแผ่นดิน,ใช้พลังของตัวเองแยกสวรรค์ได้อย่างงงั้นรึ?
"ในอดีต,กับคนที่ทำเช่นนี้ได้มีไม่มาก,เหล่าตัวตนที่แข็งแกร่งต่างก็มาจากโลกใบเล็ก
รวมทั้งเจ็ดปราชญ์เทพด้วย,ฟูซี่,กงเชียน,และอื่นๆ,ทุกคนจึงให้ความเคารพต่อผ่านกู๋ที่สามารถแยกสวรรค์ได้!"เจี่ยหยินกล่าว.
"หลังจากนั้นล่ะ?"
"ช่างน่าเศร้าที่เขาได้รับบาดเจ็บจากการแยกสวรรค์สะบั้นปฐพี,ท้ายที่สุด,ผ่านกู๋ก็ล่วงหล่นจากสวรรค์!
ช่างน่าเศร้า,น่าเสียดาย,ไม่เช่นนั้นเขาจะกลายเป็นคนที่ทรงพลังที่สุด,กลายเป็นคนที่แข็งแกร่งที่สุดในโลกใบใหญ่แน่นอน!"เจี่ยหยินที่กล่าวพลางถอนหายใจ.
"หลังจากผ่านกู๋แยกสวรรค์สะบั้นปฐพีแล้ว,ดินแดนของโลกใบเล็กของเขาอยู่ที่ใหน?"จงซานสอบถาม.
"ส่วนหนึ่งของมันก็คือทวีปซือต้าปู่!"เจี่ยหยินกล่าว.
"หืม?"จงซานที่ตกใจเล็กน้อย.
ทวีปซือตาปู๋เพียงแค่ส่วนหนึ่งอย่างงั้นรึ?
ต้องรู้ด้วยว่าตัวเขาที่แยกสวรรค์สะบั้นปฐพีนั้น,มีขนาดเพียงหนึ่งในห้าของทวีปเฟิงจง,ทว่าทวีปซือต้าปู่นั้นไม่ได้มีขนาดเล็กกว่าอาณาเขตเฟิงจงเลยแม้แต่น้อย,โลกใบเล็กที่ผ่านกูเปิดนั้นมีขนาดใหญ่เท่าใดกัน?
"ส่วนเดียว,ทำไมถึงได้มีเพียงส่วนเดียวล่ะ?"จงซานที่แสดงท่าทางสงสัย.
"อีกส่วนนั้น,ข้าไม่รู้ว่ามันไปอยู่ที่ใหนเวลานี้?"เจี่ยหยิน.
"ทำไม?"
"เรื่องนี้ต้องเริ่มเอ่ยถึงเรื่องที่พวกเราต่อต้านเทียนชู,รู้ใหมว่าทำไมพวกเราจึงต้องการต่อต้านเทียนชู?"เจี่ยหยินที่ฝืนยิ้มออกมา.
"ทำไม?"จงซานที่แสดงท่าทางประหลาดใจ.
"เจ้าควรจะรู้ว่าส่วนประกอบของโลกใบใหญ่นั้น,ที่จริงมีเทียนเต๋าอยู่สามพัน,สามพันเทียนเต๋าที่เป็นส่วนประกอบของทุกสรรพสิ่ง!"
"อืม!"
"ทว่า,สามพันเทียนเต๋านั้นไม่ได้มีเชาว์ปัญญา,เป็นเพียงอภินิหาร,ไม่เช่นนั้นเหล่าเซียนบรรพชนจะสามารถเคลื่อนย้ายเทียนเต๋าได้อย่างงั้นรึ?การเคลื่อนย้ายเทียนเต๋าก็คือการเคลื่อนย้ายรากฐานของโลกใช่หรือไม่?"
จงซานที่พยักหน้า,ทำให้เจี่ยหยินกล่าวต่อ.
"อย่างไรก็ตามเทียนชูกล่าวว่าจะสร้างเทียนเต๋าที่มีเชาว์ปัญญาของตัวเองขึ้นมา!"
"มีผลอย่างไร?"
"หากฟ้าดินไม่มีความเมตตา
เห็นสรรพสิ่งเหมือนหุ่นเชิด ผู้ครองไม่มีความเมตตา
เห็นประชาชนเหมือนหุ่นบูชายันต์,,หากฟ้าดินไร้ซึ่งจิตใจ,ทุกๆสิ่งต้องขึ้นอยู่กับเทียนชู,เทียนชูที่เต็มไปด้วยเชาว์ปัญญา,จะกลายเป็นผู้กำหนดทุกสรรพสิ่ง,และถือครองอำนาจฟ้าดินความเป็นไปทั้งหมดเอาไว้ในมือ!"เจี่ยหยินกล่าว.
天地不仁,以万物为刍狗;圣人不仁,以百姓为刍狗。แปล ฟ้าดินไม่มีความเมตตา เห็นสรรพสิ่งเหมือนหุ่นบูชายันต์
ผู้ครองไม่มีความเมตตา เห็นประชาชนเหมือนหุ่นบูชายันต์
"มันคือลิขิตชะตาอย่างงั้นรึ?"จงซานที่ทำการคาดเดา.
"ถูกแล้ว,จะกล่าวได้ว่าจะควบคุมลิขิตชะตา,เทียนชูจะมีอำนาจสูงสุด,ควบคุมทุกคน,ไม่มีใครสามารถขัดขืนได้,กล่าวอีกอย่างหนึ่ง,อนาคตวันข้างหน้าจะถูกกำหนดเอาไว้แล้ว,ไม่มีใครสามารถเปลี่ยนแปลงได้,ไม่มีใครขัดขืนชะตาได้,ไม่เช่นนั้นจะถูกทำลายสิ้น!"เจี่ยหยินกล่าว.
ภายในใจของจงซานที่เต้นไปมาอย่างบ้าคลั่ง.
"เจ้ารู้ใหมว่าปราชญ์เทพหมายความอย่างอย่างไร?"เจี่ยหยินกล่าว.
"หืม?"
"ปราชญ์เทพผู้มีมรรคาฟ้าดิน,หรือเรียกได้ว่าตำแหน่งปราณสวี,เป็นจื่อจุ้นผู้ยืนอยู่เหนือฟ้าดิน,ทว่าตำแหน่งปราชญ์เทพนั้น,ที่จริงก็คือเทียนเต๋าที่เทียนชูมอบหมายหน้าที่ให้,เทียนเต๋าที่ไม่สามารถคิดเองได้,เป็นเหมือนกับอภินิหารที่ถูกใช้,ทุกอย่างเป็นเทียนชูคิด,แม้นว่าปราชญ์เทพคนทั่วไปอาจคิดว่าเป็นตัวตนที่แข็งแกร่งที่สุด,ทว่ามีเพียงปราชญ์เทพเท่านั้นที่รู้,คนที่เป็นตัวตนที่อยู่สูงที่สุดมีเพียงหนึ่งเดียว,ก็คือเทียนชู."เจี่ยหยินที่กล่าวพลางถอนหายใจ.
"เทียนชูตีกรอบให้ปราชญ์เทพทำตาม?"จงซานที่ขมวดคิ้วไปมา.
"ตีกรอบ? มันมากกว่าตีกรอบ!"เจี่ยหยินที่ฝืนยิ้มออกมา.
"อย่างไร?"จงซานที่แสดงท่าทางสงสัย.
"ที่จริงไม่ใช่ว่าปราชญ์เทพจะไม่ได้รับประโยชน์อะไรเลย,เหมือนเจ้า,ที่ไม่ใช่ปราชญ์เทพ,เจ้าไม่รู้,คนอื่นไม่รู้,คนที่ไม่รู้ย่อมหวาดกลัว,ทว่าปราชญ์เทพแล้วการไม่รู้คือสิ่งที่พวกเขาต้องการที่สุด.
"อย่างไรก็ตามปราชญ์เทพไม่มีทางที่จะไม่รู้,เพราะทุกอย่างเป็นเทียนชูที่ได้เตรียมการเอาไว้แล้ว,เทียนชูต้องการให้เจ้าทำอะไร,เจ้ามีเพียงแต่ต้องทำ,เพราะเทียนชูได้ตัดสนใจเอาไว้แล้ว,ยกตัวอย่างเช่นเทียนชูต้องการให้ใครตาย,ทว่าปราชญ์เทพไม่ต้องการให้เจ้าตาย,ในเวลานั้นเทียนชูใหญ่สุด,เจ้าจะต้องตายอย่างแน่นอน,เป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้,ปราชญ์เทพก็ได้แต่จ้องมองเจ้าตายอย่างช่วยอะไรไม่ได้! นั่นคือเทียนชู!"
"ปราชญ์เทพที่ได้รับความเคารพจากคนทั่วหล้า,ใครจะรู้ว่าปราชญ์เทพนั้นทำได้แค่เพียงรับคำสั่งจากเทียนชู?
เทียนชูที่ตัดสินใจทุกอย่างปราชญ์เทพมีแต่ต้องทำตาม,อนาคตไม่มีทางขัดขืนได้,แม้นว่าเรื่องๆนั้นจะขัดความรู้สึกก็ตาม,และหลังจากที่ผ่านมาหลายแสนปีความรู้สึกทุกอย่างก็จะหายไป,ปราชญ์เทพเป็นเพียงหุ่นเชิด,ทำทุกอย่างตามคำสั่ง,ไม่มีหัวใจ,ไร้ซึ่งอารมณ์ความรู้สึก."เจี่ยหยินกล่าวพลางถอนหายใจ.
"ปราชญ์เทพไร้หัวใจ,เพราะว่าไม่รู้สึกตัว!"จงซานที่กล่าวพลางถอนใจ.
"ใช่,ไม่รู้ตัว,ทว่าความจริงแล้ว,ต่อหน้าเทียนชู,ปราชญ์เทพจะกลายเป็นไร้ความรู้สึกช้าๆ,และกลายเป็นทาสโดยถาวร,ทว่าปราชญ์เทพยังจะมีความต้องการของตัวเองอยู่รึ?
แน่นอน,ทุกคนย่อมต้องมีความต้องการของตัวเอง,ยกตัวอย่างเช่นหมี่เทียน,เขาที่กระทำเรื่องชั่วร้ายน่าอับอายมากมาย,ทำให้พวกเราทั้งเจ็ดไม่สามารถทนได้,ดังนั้นจึงต้องการต่อต้านเทียนชู!"เจี่ยหยินที่กล่าวอย่างเคร่งขรึม.
"เทียนชู?อนาคตของทุกคนไร้ซึ่งอนาคต?"จงซานที่ขมวดคิ้วไปมา.
"ก็ไม่ถึงขนาดนั้น,ความจริงก็คือ,ปราชญ์เทพคือผู้ทำหน้าที่แทนเทียนชุ?
เทียนชูเป็นเพียงคนเผ้ามองสถานะการณ์,ยกตัวอย่าง,สองอาณาจักรสู้รบกัน,อาณาจักร ก.
ที่ทรงพลังไร้เทียนทานน่าเกรงขาม,อาณาจักร
ข.ที่อ่อนแอปวกเปียก,ทว่าภายใต้การตัดสินใจของเทียนชู,อาณาจักร
ข.ต้องได้รับชัยชนะ,ทั้งที่เป็นไปไม่ได้เลยที่อาณาจักร
ข.จะได้รับชัยชนะ,ทว่าเมื่อเทียนชูตัดสินใจก็ขัดขืนไม่ได้,เหล่ายอดฝีมือไร้เทียมทานของอาณาจักร
ก. จะล่วงหล่นจากสวรรค์,ส่วนอาณาจักร ข. จะปรากฏยอดฝีมือที่น่าเกรงขามขึ้น,เป็นไปตามที่เทียนชูได้เขียนบทให้!"เจี่ยหยินที่ครุ่นคิดและกล่าวออกมา.
"กล่าวอีกอย่างหนึ่ง,สิ่งที่เทียนชูต้องการให้เป็น,ไม่สามารถขัดขืนได้อย่างงั้นรึ?"จงซานที่กล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม.
"ถูกแล้ว,ทุกอย่างถูกเขียนบทไว้หมดแล้ว,ส่วนปราชญ์เทพมีไว้คอยแก้ปัญหาต่างๆ,ตราบเท่าที่ทุกอย่างเป็นไปตามที่เทียนชูต้องการ,รายระเอียดต่างๆเทียนชูหาได้สนใจ,แน่นอนว่าเทียนชูจะไม่แลมองด้วยซ้ำ,เพราะว่าเจ้าไม่มีคุณสมบัติพอ!"เจี่ยหยินที่ส่ายหน้าไปมา.
"ใช่,ข้าต่อหน้าเทียนชูเป็นได้แค่มดปลวก,แล้วเวลานี้เทียนชูหันมาสนใจข้ารึยัง?"จงซานที่ฝืนยิ้มออกมา.
"นวีหว๋าที่ได้เปลี่ยนเทียนชู,เพื่อช่วยเผ่าจิ้งจอกสำเร็จ,เพราะเรื่องราวดังกล่าวนั้นทำให้บทที่เทียนชูเขียนไม่เป็นไปตามที่เทียนชูต้องการ,ดังนั้นการเปลี่ยนแปลงจึงประสบผล,ทว่าชีพจรเรื่องหลักนั้นก็ยังคงเหมือนเดิม,ในอดีตนั้นหงจวินเป็นผู้นำ,ทำการเปลี่ยนชีพจรหลัก,เป็นเหตุให้กลุ่มปราชญ์เทพล่วงหล่นจากท้องฟ้า!"เจี่ยหยินที่ครุ่นคิด.
จงซานที่เงียบไปครู่หนึ่ง,ครุ่นคิดและกล่าวออกมาว่า,"ผ่านกู๋แยกสวรรค์สะบั้นปฐพี,เจ้าบอกว่ามีแค่ส่วนเดียว,อีกส่วนหนึ่งนั้นหายไปใหน?"
"อีกส่วน,คือที่อยู่ของหงจวิน,ตำหนักจื่อเซียว!"เจี่ยหยินที่ครุ่นคิดและกล่าวออกมา.
"ตำหนักจื่อเซียว?"
"ถูกแล้ว,ตำหนักจื่อเซียวนั้นมีพื้นที่ใหญ่โตมโหฬาร,ขณะที่กลุ่มปราชญ์เทพที่พ่ายแพ้ต่อเทียนชู,บรรพชนหงวินที่มีวิชาลับ,ได้ทำการผนึกตำหนักจื่อเซียวเอาไว้,พร้อมกับย่อขนาดแล้วนำมันไปซ่อนอยู่บนอวกาศในพื้นที่ไกลออกไป!"เจี่ยหยินกล่าว.
"บีดอัดหมายความว่าอย่างไร?"จงซานที่กล่าวสอบถาม.
"บรรพชนหงจวินมีทักษะเทวะเวลา,แน่นอน,ใช้วิธีใดนั้นข้าเองก็ไม่รู้,ในเวลานั้นเขาที่ดีดนิ้ว,ควบรวมมันเป็นโลกพร้อมกับเอาไปไว้ในกลุ่มดาวแห่งหนึ่ง,ตำหนักจื่อเซียวถูกนำไปซ่อนไว้ที่นั่น!"
"ที่ใจกลางมีดวงอาทิตย์ขนาดเล็ก,ล้อมรอบด้วยดาวเคราะห์เก้าดวง,ในเวลานั้นตำหนักจื่อเซียวถูกย่อให้มีขนาดเล็กลง!"เจี่ยหยินกล่าว.
"ดวงอาทิตย์?
เก้าดาวเคาระห์?"จงซานที่รู้สึกแปลกประหลาด.
เรื่องนี้มัน,ดูคล้ายคลึงกันนัก.
"ใช่,ในดาวเคราะห์ดวงที่สามจากดวงอาทิตย์,ร่างหลักของตำหนักจื่อเซียว,ซึ่งมีสิ่งมีชีวิตที่หงจวินได้ทิ้งไว้ในดาวเคราะห์ดวงนั้นด้วย!"เจี่ยหยินกล่าว.
"ดาวเคราะห์ดวงที่สาม?
เป็นดวงดาวที่มีสิ่งมีชีวิต?"จงซานที่ราวกับว่ากำลังพบกับคำตอบ.
สถานที่ที่เจี่ยหยินเอ่ยถึงนั่น,ถูกเรียกว่า,"โลก"
ร่างหลักของโลกก็คือตำหนักจื่อเซียวอย่างงั้นรึ?
"ตำหนักจื่อเซียวเปลี่ยนเป็นดวงดาราได้อย่างไร?"จงซานที่แสดงท่าทางสงสัย.
"เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องยาก,เมื่อเจ้าไปที่นั่นก็จะรู้เอง,ในเวลานั้นหลังจากสร้างดวงดาราขึ้นมา,หงจวินที่ได้สร้างเทือกเขาหลายแห่งที่คล้ายกับโลกใบใหญ่ในดวงดาวแห่งนั้น,ซึ่งมีเทือกเขาไท่,เทือกเขาฮัว,แม่น้ำเหลือง,อีกหลายอย่าง,ภูมิประเทศต่างๆก็คล้ายๆกัน! ส่วนผู้คนในดาวดวงนั้น,เป็นเพียงปุถุชน,ไม่มีผู้ฝึกตน!"เจี่ยหยินที่ส่ายหน้าไปมา.
"มีเพียงปุถุชน?ในเมื่อดวงดาราดังกล่าวคือตำหนักจื่อเซียว,ก็น่าจะมีปรานหยวนก่อเกิดฟ้าดินเพียงพอ,ถึงแม้นว่าจะเป็นปุถุชน,อีกไม่ช้าก็เร็วก็ต้องมีผู้ฝึกตนไม่ใช่รึ?"จงซานที่กล่าวออกมาด้วยความสงสัย.
"ตำหนักจื่อเซียวที่ได้กลายเป็นดวงดาว,ปรานหยวนก่อเกิดฟ้าดินเพียงพอ,และเพียงพอจนมากไปด้วยซ้ำ,ทำให้ปุถุชนไม่สามารถที่จะดูดซับได้!"เจี่ยหยินที่ส่ายหน้าไปมา.
"หืม?"
"มันถูกควบแน่น,แน่นจดแข็ง,จนปุถุชนไม่มีทางที่จะดูดซับได้?
เว้นแต่จะเป็นคนที่ไม่ยอมแพ้ใช้เวลาดูดซับนับสิบปี,ถึงจะดูดซับได้บ้างสักนิดหน่อย!
ทว่าแน่นอนมันยังไม่นับว่าเป็นประโยชน์,สิ่งมีชีวิตเหล่านั้นไม่สามารถตัดผ่านระดับได้,มีเพียงแค่รอความตาย!
แน่นอนพวกเขาไม่สามารถดูดซับได้,ต้นไม้ใบหญ้าก็ไม่สามารถดูดซับได้เช่นกัน."เจี่ยหยินที่กล่าวพลางหายใจ.
"หมายความว่าอย่างไร?"จงซานสอบถามออกไป.
"ก่อนหน้านี้นานแล้ว,หลายแสนปีก่อนที่กลุ่มปราชญ์เทพจะล่วงหล่นลงสู่สวรรค์,หลายร้อยสำนักต่างก็เรียกยุคของทวีปซือตาปู่ว่า,ชุนชิว"
เจี่ยหยินที่ครุ่นคิดและกล่าวออกมา.
"ยุคชุนชิว?"ภายในใจของจงซานที่สั่นไหว.
เช่นนั้น,โลกก็คือตำหนักจื่อเซียวที่ถูกบีบอัด,ก่อนหน้านี้มีประวัติของยุคชุนชิว,ประวัติศาสตร์ของโลกใบใหญ่?
ทว่าหลังจากยุคชุนชิว,โลกก็ถือกำเนิดและวิวัฒนาการไปอีกอย่างงั้นรึ?
ไม่ใช่,ในเวลานี้ในโลกมนุษย์ดูเหมือนว่าจะมีต้าฉินอยู่ด้วย!
"เอาล่ะ,เกี่ยวกับโลกที่หงจวินผนึกเอาไว้นั้น,ที่ด้านในนั้นมีพลังอำนาจของกาลอากาศที่ไม่ธรรมดา,ทำให้เวลาของที่นั่นเดินช้ากว่าปรกติมากยิ่งกว่ามาก,ที่ด้านนอกผ่านไปหลายแสนปี,บางที่ที่ด้านในนั้นอาจผ่านไปเพียงแค่หลายพันปีเท่านั้น!"เจี่ยหยินครุ่นคิดและกล่าวออกมา.
"แล้วตอนนี้โลกอยู่ที่ใหน?"จงซานสอบถามออกไปด้วยความสงสัย.
"ไม่มีใครรู้,มีเพียงแค่หงจวินที่เชี่ยวชาญเรื่องอวกาศ,บางที่อาจจะไม่สามารถพบได้อีกครั้ง,ได้ยินมาว่าผนึกของหงจวินนั้นทรงพลังมาก,ทำให้ปราชญ์เทพต่างก็ค้นหากันไม่หยุด,ทว่าก็ไม่มีใครหาเจอ!"เจี่ยหยินที่ส่ายหน้าไปมา.
จงซานที่ใจหนึ่งยอมรับอีกใจหนึ่งก็ไม่ยอมรับ,เพราะว่าจงซานรู้ว่าหยิงต้องพบมันเข้าแล้ว,ยุคราชวงศ์ต้าฉิน,แน่นอนหยิงต้องเคยเข้าไปที่นั่นผ่านทางวิชาลับสวรรค์ลี้ลับผ่านดินแดนฝันของเขา.
โลกก็คือตำหนักจื่อเซียว,ตำหนักจื่อเซียวคือโลก,เรื่องนี้ทำให้จงซานรู้สึกประหลาดใจเป็นอย่างมาก.
ที่มาจากhttps://lnmtl.com/novel/immortality
#นิยาย เรื่องอมตะ #Immortality#นิยายแปลไทย
Author(s)
สนใจสนับสนุนพวกเรา,เข้าร่วมกลุ่ม VIP ====> Click
ปัจจุบันแปลจบแล้ว 1672 ตอน สนใจติดต่อเข้ากลุ่มลับได้ครับ
***เว็ปฟรีอัพ สองวันหนึ่งตอน
***กลุ่มลับ แปลจบแล้ว.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น