Immortality Chapter 1036 Fate Hard
นิยาย เรื่อง อมตะ ตอนที่ 1036 ชะตาแข็ง
Chapter 1036 Fate Hard
命硬
ชะตาแข็ง
"มีใครต้องการเข้าร่วมเรื่องนี้กับข้า!"หยิงที่จ้องมองไปยังทุกคน.
ล่าปราชญ์เทพ,เพียงแค่ได้ยินโลหิตก็สูบฉีดแล้ว,ราวกับว่าต้องทำ,เป็นเรื่องที่เหมือนจะตกลงกันแล้ว,อย่างไรก็ตาม,มีจงซานที่ยังคงลังเล,เพราะว่าภายในใจจงซานนั้น,ไม่ต้องการเข้าร่วมล่าปราชญ์เทพ,ไม่แม้แต่น้อย,ต้องไม่ลืมว่ามันเกินกำลังของเขา,ต้าเจิ้งในเวลานี้มีความสามารถพออย่างงั้นรึ?
ทว่า,เมื่อหยิงเอ่ยปากออกมา,นอกจากนี้ยังอยู่ในตำหนักฉงเทียน,ก็เป็นเรื่องที่ยากจะปฏิเสธได้!
ทุกคนที่เปลี่ยนเป็นเงียบงัน,ไม่มีใครเอ่ยอะไรออกมา,เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องธรรมดา,ทว่าคนอื่นๆนั้นต่างก็เหนือล้ำกว่าจงซานมากมายนัก.
"เรื่องนี้ข้ารู้,ข้ารู้!"เจี่ยหยินที่เอ่ยปากออกมาในทันที.
"อืม?"ทุกคนที่จ้องมองไปยังเจี่ยหยิน.
"ยูไลเรื่องนี้ให้เจ้าเป็นคนจัดการ,ได้เรื่องเช่นไรแจ้งมายังข้าด้วย,ข้าและจงซานนั้นไม่ได้เจอกันมานานหลายปี,มีความลับหลายอย่างที่พวกเราจะต้องพูดคุยกัน,พวกเราจะไปรอที่วิหารใต้เหล่ยหยิน!"เจี่ยหยินที่เอ่ยปากออกมา.
หยิงที่จ้องมองไปยังเจี่ยหยิน,จ้องมองไปยังจงซาน,ท้ายที่สุดก็เผยยิ้มออกมา,พยักหน้าและกล่าวออกมาว่า,"ตกลง!"
คำพูดดังกล่าวที่ทำให้จงซานไม่จำเป็นต้องเข้าร่วมชั่วคราว,เกี่ยวกับการพูดคุยนี้,จงซานจะมีความเห็นได้อย่างไร,มีเพียงแค่ผัดผ่อนไปเท่านั้น.
จงซานที่พยักหน้าให้กับหยิงและทุกคน.
เจี่ยหยินที่ก้าวนำออกมาด้านหน้าประตู,ประตูตำหนักที่เปิดออกมาเสียงดัง.
ทั้งคู่ที่ก้าวออกมา,ประตูที่ปิดลงอีกครั้ง!
หยิง,กุยกูซือ,หลาน,จุนถี,ยูไลยังคงปรึกษาเกี่ยวกับการล่าปราชญ์เทพต่อไป.
"จงซาน,เจ้าเป็นไรหรือไม่?
เมื่อกี้พูดคุยเรื่องอะไรอย่างงั้นรึ?"เห่าเม่ยลี่ที่สอบถามออกไปในทันที.
"พวกเราจะต้องไปจากเซียนหยางก่อน!"จงซานที่เอ่ยปากออกมาในทันที.
จงซานที่ทักทายหลี่ซือ,ลู่ปู้เหว่ยเล็กน้อย,ก่อนที่เจี่ยหยินจะโบกมือ,นำเขาและคนของเขา,หายไปจากลานตำหนักฉงเทียนในทันที.
ซุนเฉินที่ยืนอยู่มุมหนึ่ง,แววตาที่เผยความเกลียดชังออกมา.
จงซานไปแล้ว,ลู่ปู้เหว่ยและหลี่ซือจ้องมองหน้ากันและกัน.
"จงซานไปแล้ว,ไม่รู้ว่าจะกลับมาอีกครั้งหรือไม่!"หลี่ซือที่ถอนหายใจเล็กน้อย.
"จงซานช่วยเหลือต้าฉินเอาไว้มาก,ถึงจะไม่มา,ต้าฉินก็ยังนับว่าติดหนี้บุญคุญเขา,นอกจากนี้ยังเป็นหนี้บุญคุณก้อนใหญ่!"ลู่ปู้เหว่ยที่กล่าวพลางถอนหายใจ.
หากซุนเฉินได้ยินคงคลั่งตายแน่นอน,จงซานนั้นไม่เพียงแค่ต้าฉินติดหนี้บุญคุณเขา?
ยังเป็นจุนถีอีกด้วย.
จงซานที่ออกมานอกเมือง,พื้นที่รอบๆนี้พังทลายเสียหายไปทั้งหมด,เรื่องการเดิมพันกับเหล่ายอดฝีมือในครั้งนี้,ต้าเจิ้งไม่มีพลังที่จะรับได้แน่นอน.
"เมื่อสักครู่นี้ต้องขอบคุณด้วย!"จงซานที่กล่าวต่อเจี่ยหยิน.
"มีสิ่งใดต้องขอบคุณ? หยิงเป็นสหายของเจ้าจริงๆรึ?
ทว่าเขาต้องการให้เจ้าเข้าร่วม!
ข้าจึงต้องออกตัว,เจ้ามีระดับต้าเซียนขั้นที่ 8 มันหนักเกินไป,ข้าไม่สามารถทนได้!
จะไม่ให้ข้าออกตัวได้อย่างไร?"เจี่ยหยินที่กล่าวออกมาอย่างไม่พอใจ.
"หืม?"จงซานที่ตกใจเล็กน้อย.
เมื่อสักครู่นี้เจี่ยหยินที่ดูเหมือนกับผิดปรกติไป.
"ตอนนี้เจ้าคือซูอาฝู,หรือว่าเจี่ยหยินกัน?"จงซานที่ลอบสอบถามออกไป.
เพราะว่าท่าทางของเจี่ยหยินนั้นดูแปลกๆเหมือนกัน.
เจี่ยหยินที่จ้องมองไปยังจงซาน,พร้อมกับยกมือขึ้นตบบ่าของจงซานและกล่าวออกมาว่า,"อืม,ขึ้นอยู่ที่เจ้าจะมอง,สายตาของเจ้านั้นกว้างไกล!"
จงซาน"...............!”
กับนิสัยของเขาที่เปลี่ยนไปเล็กน้อย,ใครจะมองไม่เห็นล่ะ?
"ข้าคือซูอาฝู,ข้าคือเจี่ยหยินด้วย,เจี่ยหยินคืออดีตชาติ,ชาตินี้ก็คือซูอาฝู,บางครั้งข้าก็มีนิสัยของซูอาฝู,บางครั้งก็มีนิสัยของเจี่ยหยิน,ไม่สามารถที่จะลบเจี่ยหยินและซูอาฝูคนใดคนหนึ่งออกไปได้,เพราะว่าคือคนๆเดียวกัน,สองความทรงจำที่ไม่ขัดแย้ง,ข้าจำเป็นต้องใช้พลังและอำนาจของเจี่ยหยิน,และใช้ชีวิตเหมือนดั่งซูอาฝู,ทำให้ข้าเปี่ยมด้วยความสุข!"เจี่ยหยินที่กล่าวอย่างพอใจ.
จงซาน"...............!”
"ทว่า,ทุกคนต่างก็เรียกข้าว่าเจี่ยหยินตามชื่อเดิม,เจ้าเรียกข้าว่าเจี่ยหยินก็แล้วกัน!"เจี่ยหยินกล่าว.
"อืม!"จงซานพยักหน้ารับ.
"เจ้าบอกว่าหยิงต้องการให้ข้าเข้าร่วมอย่างงั้นรึ?"จงซานที่จ้องมองไปยังเจี่ยหยิน.
"แน่นอน,ใครบอกให้เจ้า............!”เจี่ยหยินที่กล่าวได้ครึ่งคำหากแต่หยุดเอาไว้.
ทุกคนที่จ้องมองไปยังเจี่ยหยิน,เจี่ยหยินที่เอ่ยออกมาว่า,"ไว้ไปถึงวิหารใต้เหล่ยหยินก่อนค่อยพูดคุยกันเป็นการส่วนตัวดีกว่า.
จงซานต้องการที่จะกล่าวที่นี่เช่นกัน,ทว่าก็เป็นเรื่องที่ต้องคิด,ต้องไม่ลืมว่าเจี่ยหยินที่เป็นสหายของเขา,บางที่อาจจะมีความลับบางอย่างที่ต้องปิด.
------------------------------------------------
วิหารใต้เหล่ยหยิน,ตั้งอยู่บนเขตแดนซือหนิวตะวันตก.
ทั่วทุกบริเวณนั้นเต็มไปด้วยกลิ่นอายศักดิ์สิทธิ์,วิหารใต้เหล่ยหยินตั้งอยู่บนเทือกเขาจิตวิญญาณ,พื้นที่รอบๆนั้นมีวิหารขนาดใหญ่,และมีราชวงศ์วาสนาที่สังกัดต่อวิหารใต้เหล่ยหยินอีกด้วย.
บนท้องฟ้าเทือกเขาจิตวิญญาณนั้น,มีกรรมวาสนามากมายที่กระจายไปทั่วทุกสารทิศ.
เมื่อเจี่ยหยินนำกลุ่มของจงซานมาถึงเทือกเขาจิตวิญญาณ,มีเหล่าอรหันต์มากมายพบเข้า,ทว่าไม่มีอรหันต์หรือปู่ซาคนใหนขวางพวกเขาเอาไว้.
ใครคือเจี่ยหยิน?
ภายในวิหารใต้เหล่ยหยินนั้น,เหล่าอรหันต์และปู่ซาต่างก็เคารพอรหันต์ยูไลและอีกคนก็คืออรหันต์อมิตาภะ!
บนเทือกเขาแห่งหนึ่ง,หลั่นเติ้งและหมี่เล่อยืนอยู่,พวกเขาที่เห็นคนกลุ่มดังกล่าวที่มาแต่ไกล,ทั้งคู่จดจ้องมองหน้ากันด้วยความงงวยก่อนที่จะบินเข้าไปหา.
"คารวะอรหันต์เจี่ยหยิน!"ทั้งคู่ที่แสดงความเคารพต่อเจี่ยหยิน,จากนั้นก็จ้องมองไปยังกลุ่มของจงซานด้วยความสงสัย.
อีกฝั่งหนึ่ง,ก็มีชายในชุดเกาะรบหมวกเหล็กสีทองที่ก้าวเข้ามา.
หงเซียว?
เขาคือแม่ทัพของศาลเทวะไท่ชูในอดีตนั่นเอง.
"อรหันต์!"หงเซียวที่กล่าวออกมาด้วยความเคารพ,จากนั้นก็จ้องมองจงซานด้วยความสงสัย.
"นี่คือแขกผู้ทรงเกียรติของข้า,หงเซียวจัดหารที่พักและสิ่งอำนวยความสะดวกให้พวกเขาด้วย!
ข้าและจงซานไม่ได้เจอกันนาน,พวกเราจะเข้าไปปรึกษาหารือกันก่อน,ต้อนรับพวกเขาให้ดี!"เจี่ยหยินกล่าว.
"ครับ!"หงเซียวพยักหน้ารับ.
หลั่นเติ้งและหมี่เล่อจ้องมองหน้ากันด้วยความประหลาดใจ,ใครคือจงซาน,เมื่อไม่นานมานี้ที่ภพหยิน,อ๋องตี้จางได้ต้อนรับพวกเขาเป็นอย่างดี,มาที่นี่,ดูเหมือนว่าเขาจะเป็นสหายเก่ากับเจี่ยหยินอีกรึ?
"พวกเจ้าไปยังที่พักก่อน,แล้วข้าจะตามไป!"จงซานที่สั่งการต่อผู้ใต้บังคับบัญชา.
"รับทราบ!"หนานกงเซิ่งและคนอื่นๆที่รับคำในทันที.
แม้นว่าเห่าเม่ยลี่จะไม่ค่อยพอใจ,ทว่าก็พยักหน้ารับ.
จงซานและเจี่ยหยินที่เดินเข้าไปในห้องโถงใหญ่,ประตูด้านหน้าที่ปิดสนิท.
ภายในนั้นมีอาสนะดอกบัวหลายอัน,และด้านในยังมีสระขนาดเล็กที่มีดอกบัวลอยอยู่,ดูงดงามเป็นอย่างมาก.
จงซานที่นั่งลงบนอาสนะดอกบัวที่เจี่ยหยินได้เตรียมไว้,ขณะที่เจี่ยหยินนำชาออกมาเสริ์ฟจงซาน.
จงซานที่ยกชาขึ้นชิม,ชาดังกล่าวนั้นทำให้ร่างกายผ่อนคล้าย,รับรู้ราวกับว่าทำให้รูขุมขนทั่วร่างเปิดกว้าง!
ต้องต้องบอกเลยว่า,เป็นชาคุณภาพสูง,ยังเป็นชาที่จิตวิญญาณที่สมบูรณ์อายุหลายร้อยปี.
"เป็นชาที่ยอดเยี่ยมมาก!"จงซานที่เอ่ยออกมาในทันที.
"หากว่าเจ้าชอบ,ข้าจะมอบมันให้เจ้าสักสองสามจิน!"เจี่ยหยินที่แสดงราวกับเป็นผู้มั่งคั่งร่ำรวย.
จงซาน".................!”
"เอาล่ะ,คำพูดที่เจ้าพูดมาได้แค่ครึ่งคำ,หมายความว่าอย่างไร?
หยิงต้องการให้ข้าเข้าร่วมอย่างงั้นรึ?"จงซานที่กล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม.
"แน่นอน,เวลานั้นเขาขอให้เจ้าเดินทางมายังเมืองเซียนหยางเป็นการเฉพาะ,ไม่ใช่ว่าต้องการให้เจ้าเข้าร่วมแล้วหรอกรึ?ไม่ใช่ว่ามีแขกอยู่มากมายอย่างงั้นรึ?"เจี่ยหยินที่เอ่ยออกมาในทันที.
"หืม? หมายความว่าอย่างไรรึ?"จงซานที่กล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม.
"ทำไมหยิงถึงต้องให้ความสำคัญกับเจ้า,ด้วยความสามารถของเจ้า,และนิสัยของเจ้า,ยังมีเซิ่งหวังอีกมากมาย,ทำไมเขาจึงได้เจาะจงไปที่เจ้าล่ะ?"เจี่ยหยินกล่าว.
"ทำไม?"จงซานที่แสดงท่าทางสงสัย.
"เพราะว่าเจ้ามีชะตาแข็ง."เจี่ยหยินกล่าว.
"ชะตาแข็ง?"จงซานที่ไม่เข้าใจ.
"ใช่แล้ว,ชะตาวิถีของเจ้าคือสุดยอดแข็ง,เรื่องนี้คือเหตุผลหลักของหยิง,พรสวรรค์ร่างกายของเจ้าที่จริงมันไม่ได้แย่,แม้แต่ยอดเยี่ยมมาก,มันกว้างขวางมาก,มันบริสุทธิ์มาก,เพราะว่าเจ้ามีชะตาแข็งไงล่ะ."เจี่ยหยินกล่าว.
"ชะตาแข็ง?
มีประโยชน์อะไรกัน?"จงซานที่กล่าวออกมาด้วยความสงสัย.
เจี่ยหยินบอกว่าชะตาแข็งดี,ทว่าไม่ใช่ว่าพรสวรรค์ทางร่างกายไม่ดีไม่ใช่รึ?
"ข้าของสอบถามเจ้าก่อน,ในโลกใบเล็กมีแดนเทพพิสุทธิ์ใช่หรือไม่?"เจี่ยหยินกล่าวถาม.
"ใช่,พวกเขากล่าวว่าตัวข้านั้นมี,ชะตาภัยพิบัติ,เป็นเหตุให้แดนเทพพิสุทธิ์ล่มสลาย,ทว่าข้ารู้ว่านั่นเป็นเพียงเรื่องรอง!"จงซานที่ส่ายหน้าไปมา.
"ไม่,เจ้าคือเหตุผลหลัก,ชะตาภัยพิบัติอย่างงั้นรึ?
นั่นคือความเห็นของคนอื่น,เจ้านั้นมีชะตาแข็ง,เป็นเพราะมีเจ้า ถึงกำราบแดนเทพพิสุทธิ์ได้!"เจี่ยหยินกล่าว.
"มีข้าถึงกำราบพวกเขาได้?"ใบหน้าของจงซานที่เผยท่าทางแปลกประหลาด.
"ถูก,มีเจ้าถึงกำราบได้,มีคนมากมายที่ตายไปด้วยผู้ใต้บังคับบัญชาเจ้า,หรือถูกเจ้ากำราบ,เจ้าลองคิดเรื่องนี้ให้ดี?"เจี่ยหยินที่กล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม.
เจี่ยหยินกล่าวเรื่องลึกลับ,ทว่ากลับทำให้จงซานได้ครุ่นคิด.
เพราะว่าจงซานคิดถึงเรื่องหนึ่งขึ้นมา,เกี่ยวกับเซียนเซิงซือ,ขณะที่เขากำราบเซียนเซิงซือ,เซียนเซิงซือกล่าวอะไรบางอย่างออกมา.
"ต้องการให้ข้าเข้าร่วมต้าเจิ้ง,จำนนต่อเจ้า,เจ้าต้องมีชะตาแข็งก่อน,ชีวิตที่ไม่แข็ง,มีหรือที่จะเป็นจ้าวสวรรค์ได้?"
ก่อนที่จะกำราบเซียนเซิงซือนั้น,เซียนเซิงซือได้เอ่ย,ได้กล่าวถึงชะตาแข็งอยู่เช่นกัน.
"ชะตาชีวิตแข็งของเจ้าเหนือกว่ามาก,เหล่าแขกที่เข้าร่วมงานของหยิงนั้น,ทุกคนล้วนแล้วแต่มีชะตาแข็งทั้งนั้น,หลาน,จุนถีหรือแม้แต่ยูไล,ดูเหมือนหยิงเองก็เช่นกัน,ถึงแม้นว่าความแข็งแกร่งของเจ้าจะไม่ได้มากมาย,แต่เพราะชะตาแข็งของเจ้าก็สามารถช่วยสนับสนุนคนอื่นๆได้,ไม่มีใครจัดการเจ้าได้ง่ายๆ,เพราะว่าชะตาแข็งของเจ้านั้นมากกว่าใครๆ!"เจี่ยหยินที่กล่าวพลางถอนหายใจ.
"ชะตาวิถีคาดไม่ถึงเลยว่าจะมีประโยชน์เช่นนี้ด้วย?"จงซานที่ถอยหายใจเบาๆ.
"ชะตาชีวิตคือที่หนึ่ง,โชคคือที่สอง,ที่สามฮวงจุ้ย,ที่สี่กรรม,ที่ห้าชื่อเสียง,และนั่นจึงทำให้"ชะตะชีวิต"ถึงอยู่ลำดับแรก,คนที่มีชะตาแข็งที่สุด,ย่อมสามารถที่จะกำราบฝ่ายตรงข้ามได้,บางคนไม่สามารถทำได้สำเร็จ,รวมทั้งหยิง,ที่มีร่างกายเฉิน,ไม่ใช่คนทั่วไปจะมีกันได้,นอกจากนี้ระดับของเจ้ายังเหนือกว่าใคร,ในอดีตนั้นผานกู,ถือว่าเป็นคนที่มีชะตาแข็งเช่นกัน!"เจี่ยหยินที่กล่าวพลางถอนหายใจ.
"ผ่านกู๋?"จงซานที่ขมวดคิ้วไปมา.
ใครคือผานกู๋?เมื่อครั้งจงซานยังเด็ก,เขาที่ได้ยินเรื่องเล่าเกี่ยวกับตัวตนที่แข็งแกร่งที่สุด,แข็งแกร่งยิ่งกว่าปราชญ์เทพ,ทว่าได้ยินจากเจี่ยหยินที่เอ่ยถึงวันนี้,ทำให้จงซานอยากรู้เป็นอย่างมาก.
ผ่านกู๋?
เป็นเรื่องจริง,นี่ผ่านกู๋มีจริงอย่างงั้นรึ?
"ผ่านกู๋? บางที่เขาคือคนที่แข็งแกร่งที่สุดคนหนึ่ง,แม้นว่าจะล่วงหล่นลงจากสวรรค์ไปแล้ว,ทว่าชื่อเสียงของเขาก็ไม่มีวันจางหาย,ในอดีตพวกเราเจ็ดปราชญ์เทพที่ต่อต้านสวรรค์,แต่ก็ยังมีชื่อเสียงและอิทธิพลน้อยกว่าเขา."เจี่ยหยินที่ระลึกถึง.
Chapter 1036 Fate Hard
命硬
ชะตาแข็ง
"มีใครต้องการเข้าร่วมเรื่องนี้กับข้า!"หยิงที่จ้องมองไปยังทุกคน.
ล่าปราชญ์เทพ,เพียงแค่ได้ยินโลหิตก็สูบฉีดแล้ว,ราวกับว่าต้องทำ,เป็นเรื่องที่เหมือนจะตกลงกันแล้ว,อย่างไรก็ตาม,มีจงซานที่ยังคงลังเล,เพราะว่าภายในใจจงซานนั้น,ไม่ต้องการเข้าร่วมล่าปราชญ์เทพ,ไม่แม้แต่น้อย,ต้องไม่ลืมว่ามันเกินกำลังของเขา,ต้าเจิ้งในเวลานี้มีความสามารถพออย่างงั้นรึ?
ทว่า,เมื่อหยิงเอ่ยปากออกมา,นอกจากนี้ยังอยู่ในตำหนักฉงเทียน,ก็เป็นเรื่องที่ยากจะปฏิเสธได้!
ทุกคนที่เปลี่ยนเป็นเงียบงัน,ไม่มีใครเอ่ยอะไรออกมา,เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องธรรมดา,ทว่าคนอื่นๆนั้นต่างก็เหนือล้ำกว่าจงซานมากมายนัก.
"เรื่องนี้ข้ารู้,ข้ารู้!"เจี่ยหยินที่เอ่ยปากออกมาในทันที.
"อืม?"ทุกคนที่จ้องมองไปยังเจี่ยหยิน.
"ยูไลเรื่องนี้ให้เจ้าเป็นคนจัดการ,ได้เรื่องเช่นไรแจ้งมายังข้าด้วย,ข้าและจงซานนั้นไม่ได้เจอกันมานานหลายปี,มีความลับหลายอย่างที่พวกเราจะต้องพูดคุยกัน,พวกเราจะไปรอที่วิหารใต้เหล่ยหยิน!"เจี่ยหยินที่เอ่ยปากออกมา.
หยิงที่จ้องมองไปยังเจี่ยหยิน,จ้องมองไปยังจงซาน,ท้ายที่สุดก็เผยยิ้มออกมา,พยักหน้าและกล่าวออกมาว่า,"ตกลง!"
คำพูดดังกล่าวที่ทำให้จงซานไม่จำเป็นต้องเข้าร่วมชั่วคราว,เกี่ยวกับการพูดคุยนี้,จงซานจะมีความเห็นได้อย่างไร,มีเพียงแค่ผัดผ่อนไปเท่านั้น.
จงซานที่พยักหน้าให้กับหยิงและทุกคน.
เจี่ยหยินที่ก้าวนำออกมาด้านหน้าประตู,ประตูตำหนักที่เปิดออกมาเสียงดัง.
ทั้งคู่ที่ก้าวออกมา,ประตูที่ปิดลงอีกครั้ง!
หยิง,กุยกูซือ,หลาน,จุนถี,ยูไลยังคงปรึกษาเกี่ยวกับการล่าปราชญ์เทพต่อไป.
"จงซาน,เจ้าเป็นไรหรือไม่?
เมื่อกี้พูดคุยเรื่องอะไรอย่างงั้นรึ?"เห่าเม่ยลี่ที่สอบถามออกไปในทันที.
"พวกเราจะต้องไปจากเซียนหยางก่อน!"จงซานที่เอ่ยปากออกมาในทันที.
จงซานที่ทักทายหลี่ซือ,ลู่ปู้เหว่ยเล็กน้อย,ก่อนที่เจี่ยหยินจะโบกมือ,นำเขาและคนของเขา,หายไปจากลานตำหนักฉงเทียนในทันที.
ซุนเฉินที่ยืนอยู่มุมหนึ่ง,แววตาที่เผยความเกลียดชังออกมา.
จงซานไปแล้ว,ลู่ปู้เหว่ยและหลี่ซือจ้องมองหน้ากันและกัน.
"จงซานไปแล้ว,ไม่รู้ว่าจะกลับมาอีกครั้งหรือไม่!"หลี่ซือที่ถอนหายใจเล็กน้อย.
"จงซานช่วยเหลือต้าฉินเอาไว้มาก,ถึงจะไม่มา,ต้าฉินก็ยังนับว่าติดหนี้บุญคุญเขา,นอกจากนี้ยังเป็นหนี้บุญคุณก้อนใหญ่!"ลู่ปู้เหว่ยที่กล่าวพลางถอนหายใจ.
หากซุนเฉินได้ยินคงคลั่งตายแน่นอน,จงซานนั้นไม่เพียงแค่ต้าฉินติดหนี้บุญคุณเขา?
ยังเป็นจุนถีอีกด้วย.
จงซานที่ออกมานอกเมือง,พื้นที่รอบๆนี้พังทลายเสียหายไปทั้งหมด,เรื่องการเดิมพันกับเหล่ายอดฝีมือในครั้งนี้,ต้าเจิ้งไม่มีพลังที่จะรับได้แน่นอน.
"เมื่อสักครู่นี้ต้องขอบคุณด้วย!"จงซานที่กล่าวต่อเจี่ยหยิน.
"มีสิ่งใดต้องขอบคุณ? หยิงเป็นสหายของเจ้าจริงๆรึ?
ทว่าเขาต้องการให้เจ้าเข้าร่วม!
ข้าจึงต้องออกตัว,เจ้ามีระดับต้าเซียนขั้นที่ 8 มันหนักเกินไป,ข้าไม่สามารถทนได้!
จะไม่ให้ข้าออกตัวได้อย่างไร?"เจี่ยหยินที่กล่าวออกมาอย่างไม่พอใจ.
"หืม?"จงซานที่ตกใจเล็กน้อย.
เมื่อสักครู่นี้เจี่ยหยินที่ดูเหมือนกับผิดปรกติไป.
"ตอนนี้เจ้าคือซูอาฝู,หรือว่าเจี่ยหยินกัน?"จงซานที่ลอบสอบถามออกไป.
เพราะว่าท่าทางของเจี่ยหยินนั้นดูแปลกๆเหมือนกัน.
เจี่ยหยินที่จ้องมองไปยังจงซาน,พร้อมกับยกมือขึ้นตบบ่าของจงซานและกล่าวออกมาว่า,"อืม,ขึ้นอยู่ที่เจ้าจะมอง,สายตาของเจ้านั้นกว้างไกล!"
จงซาน"...............!”
กับนิสัยของเขาที่เปลี่ยนไปเล็กน้อย,ใครจะมองไม่เห็นล่ะ?
"ข้าคือซูอาฝู,ข้าคือเจี่ยหยินด้วย,เจี่ยหยินคืออดีตชาติ,ชาตินี้ก็คือซูอาฝู,บางครั้งข้าก็มีนิสัยของซูอาฝู,บางครั้งก็มีนิสัยของเจี่ยหยิน,ไม่สามารถที่จะลบเจี่ยหยินและซูอาฝูคนใดคนหนึ่งออกไปได้,เพราะว่าคือคนๆเดียวกัน,สองความทรงจำที่ไม่ขัดแย้ง,ข้าจำเป็นต้องใช้พลังและอำนาจของเจี่ยหยิน,และใช้ชีวิตเหมือนดั่งซูอาฝู,ทำให้ข้าเปี่ยมด้วยความสุข!"เจี่ยหยินที่กล่าวอย่างพอใจ.
จงซาน"...............!”
"ทว่า,ทุกคนต่างก็เรียกข้าว่าเจี่ยหยินตามชื่อเดิม,เจ้าเรียกข้าว่าเจี่ยหยินก็แล้วกัน!"เจี่ยหยินกล่าว.
"อืม!"จงซานพยักหน้ารับ.
"เจ้าบอกว่าหยิงต้องการให้ข้าเข้าร่วมอย่างงั้นรึ?"จงซานที่จ้องมองไปยังเจี่ยหยิน.
"แน่นอน,ใครบอกให้เจ้า............!”เจี่ยหยินที่กล่าวได้ครึ่งคำหากแต่หยุดเอาไว้.
ทุกคนที่จ้องมองไปยังเจี่ยหยิน,เจี่ยหยินที่เอ่ยออกมาว่า,"ไว้ไปถึงวิหารใต้เหล่ยหยินก่อนค่อยพูดคุยกันเป็นการส่วนตัวดีกว่า.
จงซานต้องการที่จะกล่าวที่นี่เช่นกัน,ทว่าก็เป็นเรื่องที่ต้องคิด,ต้องไม่ลืมว่าเจี่ยหยินที่เป็นสหายของเขา,บางที่อาจจะมีความลับบางอย่างที่ต้องปิด.
------------------------------------------------
วิหารใต้เหล่ยหยิน,ตั้งอยู่บนเขตแดนซือหนิวตะวันตก.
ทั่วทุกบริเวณนั้นเต็มไปด้วยกลิ่นอายศักดิ์สิทธิ์,วิหารใต้เหล่ยหยินตั้งอยู่บนเทือกเขาจิตวิญญาณ,พื้นที่รอบๆนั้นมีวิหารขนาดใหญ่,และมีราชวงศ์วาสนาที่สังกัดต่อวิหารใต้เหล่ยหยินอีกด้วย.
บนท้องฟ้าเทือกเขาจิตวิญญาณนั้น,มีกรรมวาสนามากมายที่กระจายไปทั่วทุกสารทิศ.
เมื่อเจี่ยหยินนำกลุ่มของจงซานมาถึงเทือกเขาจิตวิญญาณ,มีเหล่าอรหันต์มากมายพบเข้า,ทว่าไม่มีอรหันต์หรือปู่ซาคนใหนขวางพวกเขาเอาไว้.
ใครคือเจี่ยหยิน?
ภายในวิหารใต้เหล่ยหยินนั้น,เหล่าอรหันต์และปู่ซาต่างก็เคารพอรหันต์ยูไลและอีกคนก็คืออรหันต์อมิตาภะ!
บนเทือกเขาแห่งหนึ่ง,หลั่นเติ้งและหมี่เล่อยืนอยู่,พวกเขาที่เห็นคนกลุ่มดังกล่าวที่มาแต่ไกล,ทั้งคู่จดจ้องมองหน้ากันด้วยความงงวยก่อนที่จะบินเข้าไปหา.
"คารวะอรหันต์เจี่ยหยิน!"ทั้งคู่ที่แสดงความเคารพต่อเจี่ยหยิน,จากนั้นก็จ้องมองไปยังกลุ่มของจงซานด้วยความสงสัย.
อีกฝั่งหนึ่ง,ก็มีชายในชุดเกาะรบหมวกเหล็กสีทองที่ก้าวเข้ามา.
หงเซียว?
เขาคือแม่ทัพของศาลเทวะไท่ชูในอดีตนั่นเอง.
"อรหันต์!"หงเซียวที่กล่าวออกมาด้วยความเคารพ,จากนั้นก็จ้องมองจงซานด้วยความสงสัย.
"นี่คือแขกผู้ทรงเกียรติของข้า,หงเซียวจัดหารที่พักและสิ่งอำนวยความสะดวกให้พวกเขาด้วย!
ข้าและจงซานไม่ได้เจอกันนาน,พวกเราจะเข้าไปปรึกษาหารือกันก่อน,ต้อนรับพวกเขาให้ดี!"เจี่ยหยินกล่าว.
"ครับ!"หงเซียวพยักหน้ารับ.
หลั่นเติ้งและหมี่เล่อจ้องมองหน้ากันด้วยความประหลาดใจ,ใครคือจงซาน,เมื่อไม่นานมานี้ที่ภพหยิน,อ๋องตี้จางได้ต้อนรับพวกเขาเป็นอย่างดี,มาที่นี่,ดูเหมือนว่าเขาจะเป็นสหายเก่ากับเจี่ยหยินอีกรึ?
"พวกเจ้าไปยังที่พักก่อน,แล้วข้าจะตามไป!"จงซานที่สั่งการต่อผู้ใต้บังคับบัญชา.
"รับทราบ!"หนานกงเซิ่งและคนอื่นๆที่รับคำในทันที.
แม้นว่าเห่าเม่ยลี่จะไม่ค่อยพอใจ,ทว่าก็พยักหน้ารับ.
จงซานและเจี่ยหยินที่เดินเข้าไปในห้องโถงใหญ่,ประตูด้านหน้าที่ปิดสนิท.
ภายในนั้นมีอาสนะดอกบัวหลายอัน,และด้านในยังมีสระขนาดเล็กที่มีดอกบัวลอยอยู่,ดูงดงามเป็นอย่างมาก.
จงซานที่นั่งลงบนอาสนะดอกบัวที่เจี่ยหยินได้เตรียมไว้,ขณะที่เจี่ยหยินนำชาออกมาเสริ์ฟจงซาน.
จงซานที่ยกชาขึ้นชิม,ชาดังกล่าวนั้นทำให้ร่างกายผ่อนคล้าย,รับรู้ราวกับว่าทำให้รูขุมขนทั่วร่างเปิดกว้าง!
ต้องต้องบอกเลยว่า,เป็นชาคุณภาพสูง,ยังเป็นชาที่จิตวิญญาณที่สมบูรณ์อายุหลายร้อยปี.
"เป็นชาที่ยอดเยี่ยมมาก!"จงซานที่เอ่ยออกมาในทันที.
"หากว่าเจ้าชอบ,ข้าจะมอบมันให้เจ้าสักสองสามจิน!"เจี่ยหยินที่แสดงราวกับเป็นผู้มั่งคั่งร่ำรวย.
จงซาน".................!”
"เอาล่ะ,คำพูดที่เจ้าพูดมาได้แค่ครึ่งคำ,หมายความว่าอย่างไร?
หยิงต้องการให้ข้าเข้าร่วมอย่างงั้นรึ?"จงซานที่กล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม.
"แน่นอน,เวลานั้นเขาขอให้เจ้าเดินทางมายังเมืองเซียนหยางเป็นการเฉพาะ,ไม่ใช่ว่าต้องการให้เจ้าเข้าร่วมแล้วหรอกรึ?ไม่ใช่ว่ามีแขกอยู่มากมายอย่างงั้นรึ?"เจี่ยหยินที่เอ่ยออกมาในทันที.
"หืม? หมายความว่าอย่างไรรึ?"จงซานที่กล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม.
"ทำไมหยิงถึงต้องให้ความสำคัญกับเจ้า,ด้วยความสามารถของเจ้า,และนิสัยของเจ้า,ยังมีเซิ่งหวังอีกมากมาย,ทำไมเขาจึงได้เจาะจงไปที่เจ้าล่ะ?"เจี่ยหยินกล่าว.
"ทำไม?"จงซานที่แสดงท่าทางสงสัย.
"เพราะว่าเจ้ามีชะตาแข็ง."เจี่ยหยินกล่าว.
"ชะตาแข็ง?"จงซานที่ไม่เข้าใจ.
"ใช่แล้ว,ชะตาวิถีของเจ้าคือสุดยอดแข็ง,เรื่องนี้คือเหตุผลหลักของหยิง,พรสวรรค์ร่างกายของเจ้าที่จริงมันไม่ได้แย่,แม้แต่ยอดเยี่ยมมาก,มันกว้างขวางมาก,มันบริสุทธิ์มาก,เพราะว่าเจ้ามีชะตาแข็งไงล่ะ."เจี่ยหยินกล่าว.
"ชะตาแข็ง?
มีประโยชน์อะไรกัน?"จงซานที่กล่าวออกมาด้วยความสงสัย.
เจี่ยหยินบอกว่าชะตาแข็งดี,ทว่าไม่ใช่ว่าพรสวรรค์ทางร่างกายไม่ดีไม่ใช่รึ?
"ข้าของสอบถามเจ้าก่อน,ในโลกใบเล็กมีแดนเทพพิสุทธิ์ใช่หรือไม่?"เจี่ยหยินกล่าวถาม.
"ใช่,พวกเขากล่าวว่าตัวข้านั้นมี,ชะตาภัยพิบัติ,เป็นเหตุให้แดนเทพพิสุทธิ์ล่มสลาย,ทว่าข้ารู้ว่านั่นเป็นเพียงเรื่องรอง!"จงซานที่ส่ายหน้าไปมา.
"ไม่,เจ้าคือเหตุผลหลัก,ชะตาภัยพิบัติอย่างงั้นรึ?
นั่นคือความเห็นของคนอื่น,เจ้านั้นมีชะตาแข็ง,เป็นเพราะมีเจ้า ถึงกำราบแดนเทพพิสุทธิ์ได้!"เจี่ยหยินกล่าว.
"มีข้าถึงกำราบพวกเขาได้?"ใบหน้าของจงซานที่เผยท่าทางแปลกประหลาด.
"ถูก,มีเจ้าถึงกำราบได้,มีคนมากมายที่ตายไปด้วยผู้ใต้บังคับบัญชาเจ้า,หรือถูกเจ้ากำราบ,เจ้าลองคิดเรื่องนี้ให้ดี?"เจี่ยหยินที่กล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม.
เจี่ยหยินกล่าวเรื่องลึกลับ,ทว่ากลับทำให้จงซานได้ครุ่นคิด.
เพราะว่าจงซานคิดถึงเรื่องหนึ่งขึ้นมา,เกี่ยวกับเซียนเซิงซือ,ขณะที่เขากำราบเซียนเซิงซือ,เซียนเซิงซือกล่าวอะไรบางอย่างออกมา.
"ต้องการให้ข้าเข้าร่วมต้าเจิ้ง,จำนนต่อเจ้า,เจ้าต้องมีชะตาแข็งก่อน,ชีวิตที่ไม่แข็ง,มีหรือที่จะเป็นจ้าวสวรรค์ได้?"
ก่อนที่จะกำราบเซียนเซิงซือนั้น,เซียนเซิงซือได้เอ่ย,ได้กล่าวถึงชะตาแข็งอยู่เช่นกัน.
"ชะตาชีวิตแข็งของเจ้าเหนือกว่ามาก,เหล่าแขกที่เข้าร่วมงานของหยิงนั้น,ทุกคนล้วนแล้วแต่มีชะตาแข็งทั้งนั้น,หลาน,จุนถีหรือแม้แต่ยูไล,ดูเหมือนหยิงเองก็เช่นกัน,ถึงแม้นว่าความแข็งแกร่งของเจ้าจะไม่ได้มากมาย,แต่เพราะชะตาแข็งของเจ้าก็สามารถช่วยสนับสนุนคนอื่นๆได้,ไม่มีใครจัดการเจ้าได้ง่ายๆ,เพราะว่าชะตาแข็งของเจ้านั้นมากกว่าใครๆ!"เจี่ยหยินที่กล่าวพลางถอนหายใจ.
"ชะตาวิถีคาดไม่ถึงเลยว่าจะมีประโยชน์เช่นนี้ด้วย?"จงซานที่ถอยหายใจเบาๆ.
"ชะตาชีวิตคือที่หนึ่ง,โชคคือที่สอง,ที่สามฮวงจุ้ย,ที่สี่กรรม,ที่ห้าชื่อเสียง,และนั่นจึงทำให้"ชะตะชีวิต"ถึงอยู่ลำดับแรก,คนที่มีชะตาแข็งที่สุด,ย่อมสามารถที่จะกำราบฝ่ายตรงข้ามได้,บางคนไม่สามารถทำได้สำเร็จ,รวมทั้งหยิง,ที่มีร่างกายเฉิน,ไม่ใช่คนทั่วไปจะมีกันได้,นอกจากนี้ระดับของเจ้ายังเหนือกว่าใคร,ในอดีตนั้นผานกู,ถือว่าเป็นคนที่มีชะตาแข็งเช่นกัน!"เจี่ยหยินที่กล่าวพลางถอนหายใจ.
"ผ่านกู๋?"จงซานที่ขมวดคิ้วไปมา.
ใครคือผานกู๋?เมื่อครั้งจงซานยังเด็ก,เขาที่ได้ยินเรื่องเล่าเกี่ยวกับตัวตนที่แข็งแกร่งที่สุด,แข็งแกร่งยิ่งกว่าปราชญ์เทพ,ทว่าได้ยินจากเจี่ยหยินที่เอ่ยถึงวันนี้,ทำให้จงซานอยากรู้เป็นอย่างมาก.
ผ่านกู๋?
เป็นเรื่องจริง,นี่ผ่านกู๋มีจริงอย่างงั้นรึ?
"ผ่านกู๋? บางที่เขาคือคนที่แข็งแกร่งที่สุดคนหนึ่ง,แม้นว่าจะล่วงหล่นลงจากสวรรค์ไปแล้ว,ทว่าชื่อเสียงของเขาก็ไม่มีวันจางหาย,ในอดีตพวกเราเจ็ดปราชญ์เทพที่ต่อต้านสวรรค์,แต่ก็ยังมีชื่อเสียงและอิทธิพลน้อยกว่าเขา."เจี่ยหยินที่ระลึกถึง.
ที่มาจากhttps://lnmtl.com/novel/immortality
#นิยาย เรื่องอมตะ #Immortality#นิยายแปลไทย
Author(s)
สนใจสนับสนุนพวกเรา,เข้าร่วมกลุ่ม VIP ====> Click
ปัจจุบันแปลจบแล้ว 1672 ตอน สนใจติดต่อเข้ากลุ่มลับได้ครับ
***เว็ปฟรีอัพ สองวันหนึ่งตอน
***กลุ่มลับ แปลจบแล้ว.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น