Immortality Chapter 1013 King air of arrogance
นิยาย เรื่อง อมตะ ตอนที่ 1013 กลิ่นอายราชาผู้หยิ่งทรนง.
Chapter 1013 King air of arrogance
帝王傲气
กลิ่นอายราชาผู้หยิ่งทรนง.
เห่าเม่ยลี่ที่กุมตำราชีวิตและความตาย,ทันใดนั้นดวงตาของนางก็ส่องแสง,เป็นแสงสีดำที่แปลกประหลาด,โปล่งใสพุ่งออกไป.
แสงสีดำ,ดูเหมือนว่าจะมีปราณหยินอยู่รอบๆ,เป็นพลังอำนาจทรงพลังหมุนวนอยู่.
จักรพรรดิพิษปัจจิมที่ถอยหลังออกมาทันที,เห็นชัดเจนว่าไม่สามารถทนได้,ทว่าเซียนเซิงซือและคนอื่นๆต่างก็เผยท่าทางประหลาดใจ.
วิชาเนตรรึ?
ไม่ใช่วิชาเนตร,แม้นว่าดวงตาของเห่าเม่ยลี่จะเป็นสีดำ,แต่ลูกตาของนางที่ไม่ได้เปลี่ยนแปลง,เพียงแค่สามารถปล่อยแสงสีดำออกมาได้.
นางที่จุดจ้องมองจงซาน,สายตาของเห่าเม่ยลี่ที่ส่องประกายแสงสีดำโดยสมบูรณ์.
แสงสีดำที่ถูกส่งเข้าไปในตำราชีวิตและความตาย,เป็นแสงสีดำที่กำลังส่องกวาดล้างตราประทับเดิมออกไป,ตราประทับเดิมที่ดูเหมือนว่าจะถูกเห่าเม่ยลี่ถอนมันออกไปด้วยเนตรสีดำของนาง.
เป็นอะไรที่แปลกประหลาดมา,ทว่าทุกคนพอจะคาดเดาได้ว่าเห่าเม่ยลี่นั้นกำลังหลอมประสานตำราชีวิตและความตายอยู่.
ตำราชีวิตและความตายที่เป็นคนของคนอื่นอยู่ดังนั้นจึงไม่สามารถใช้งานได้,ทว่าต่อหน้าของเห่าเม่ยลี่คาดไม่ถึงเลยว่าจะสามารถหลอมประสานมันได้อย่างง่านได้เลยรึ?
ปราณทมิฬที่หมุนวนล้อมรอบเห่าเม่ยลี่ช้าๆ,ทำให้อากาศรอบๆเย็นลงจนเกิดหิมะฟุ้งกระจายไปทั่วบริเวณ.
ทุกคนที่รอคอยอย่างอดทน,ผ่านไปราวๆหนึ่งชั่วยาม,แสงสีดำจางลง
,ประกายแสงบนดวงตาของเห่าเม่ยลี่ก็หายไป,ทว่าตำราชีวิตและความตายในเวลานี้สามารถย่อขยายให้เล็กลง,มีขนาดเท่ากับฝ่ามือก่อนที่จะหล่นไปอยู่ในมือของเห่าเม่ยลี่.
เห่าเม่ยลี่ที่สะบัดมือเล็กน้อย,ตำราชีวิตและความตายที่หายไป,และปรากฏขึ้นในมือของนางอีกครั้ง,เป็นตำราแห่งชีวิตและความตายที่โปร่งแสงขึ้นมาในทันที.
เห่าเม่ยลี่ที่แสดงท่าทางตื่นเต้นเป็นอย่างมาก.
นางที่ตื่นเต้นดีใจจ้องมองไปยังจงซาน.
"นี่มัน,ตำราชีวิตและความตายดูเหมือนว่ามันจะฟังคำสั่งของข้า,และยังสนับสนุนการฝึกฝนคำสาปหลายอย่างอีกด้วย!"เห่าเม่ยลี่อุทานด้วยความดีใจ.
"เช่นนั้น,ตำราชีวิตและความตายมอบให้เจ้าเป็นของขวัญ!"จงซานที่กล่าวออกมาในทันที.
ในเมื่อไม่สามารถใช้งานมันได้,จงซานจึงมอบมันเป็นของขวัญให้กับเห่าเม่ยลี่นั่นเอง.
"จงซาน,เจ้าช่างดีนัก!"เห่าเม่ยลี่ที่กล่าวด้วยความตื่นเต้น.
เห็นเห่าเม่ยลี่ที่ตื่นเต้นดีใจที่ยากจะเห็น,จักรพรรดิพิษปัจจิมที่เผยรอยยิ้มที่อ่อนโยนออกมา,ต้องไม่ลืมว่าจักรพรรดิพิษปัจจิมนั้นเห็นนางตั้งแต่เด็กจนโต,กล่าวตามตรงย่อมมีความรักห่วงใยในตัวนาง,อีกทั้งยังเป็นศิษย์ของเขา,ความรู้สึกที่เปี่ยมล้นไม่ต่างจากบิดาและบุตรสาว.
"เจ้าคิดว่าเป็นอย่างไร?"จงซานที่ถามออกมาอีกครั้ง.
ได้ยินคำพูดของจงซาน,ท่าทางตื่นเต้นก็หายใจ,พร้อมกับเปลี่ยนเป็นจริงจัง.
"อย่างไร?"จงซานที่กล่าวสอบถามออกมา.
"จื่อลู่ร้ายกาจขนาดนั้นเลยรึ?"เห่าเม่ยลี่สอบถาม.
"อืม,เซียนบรรพชน!"จงซานตอบ.
"แย่แล้ว!"เห่าเม่ยลี่กล่าว.
"ทำไม?"
เห่าเม่ยลี่ที่เปิดตำราชีวิตและความตาย,จ้องมองไปยังชื่อจื่อลู่.
"ชีวิตและความตายมีส่วนเกี่ยวพันกัน,เจ้าเขียนชื่อจื่อลู่ลงไป,แม้นว่าจะมีผลกับจื่อลู่,ทว่าที่จริงก็มีผลต่อเจ้าด้วย!"เห่าเม่ยลี่กล่าว.
"ข้า?หมายความว่าอย่างไร?"จงซานที่แสดงท่าทางสงสัย.
"ชีวิตและความตายเกี่ยวพัน,คนหนึ่งจะต้องตกตาย,เจ้าเป็นคนเขียนชื่อจื่อลู่,ภายในสามปีหนึ่งคนต้องตาย,หากเขาไม่ตายเจ้าก็ต้องตาย,คนที่ตาย,อายุไขหนึ่งในสิบก็จะมาเพิ่มให้กับอีกฝ่าย,ในสามปี,เจ้าจะต้องสังหารจื่อลู่,ไม่เช่นนั้นแล้วจะต้องได้รับโทษทัณฑ์จากสวรรค์และเจ้าก็ต้องตายไป!"เห่าเม่ยลี่กล่าว.
”........................!”
จงซานที่แสดงท่าทางประหลาดใจเล็กน้อย,ดูคำสาปจะไม่มีผลต่อฝ่ายตรงข้าม,ในครั้งนี้เขาเขียนชื่อจื่อลู่,หากเป็นชื่อปราชญ์เทพแล้วคงแย่แน่,ไม่ใช่ว่าเขาต้องตายหรอกรึ?
"แล้วทำอย่างไรถึงจะทำให้จื่อลู่ออกมาได้?"เซียนเซิงซือที่กล่าวสอบถามไปในทันที.
ใช่,หากว่าไม่เห็นจื่อลู่,ไม่ต้องย่ำแยหรอกรึ?
"ไม่,พันธะสิบเปอร์เซ็นต์นั้นเกี่ยวข้องกัน,ส่งผลต่อเทียนชูทำให้ก่อให้เกิดชะตา,ภายในสามปี,เจ้าจะต้องพบกันอย่างแน่นอน!"เห่าเม่ยลี่กล่าว.
”..................!”
จงซานที่ได้แต่เงียบ,ก่อนที่จะรู้สึกประหลาดใจ,"ตำราชีวิตและความตายเป็นของวิเศษแบบใด?
ถึงได้แปลกประหลาดเช่นนี้?"
"ข้าเองก็ยังไม่รู้ทั้งหมด,ทว่าข้าได้ยินเทพแห่งภัยพิบัติกล่าวส่าตำราชีวิตและความตายนั้น,เป็นเคล็ดวิชาคำสาบหนึ่งในสี่สุดยอดของโลกใบนี้!"เห่าเม่ยลี่กล่าว.
"อืม!"จงซานพยักหน้ารับ.
ยังไม่รู้ทั้งหมด,ทว่าจำเป็นต้องศึกษา,สิ่งสำคัญในเวลานี้คือจัดการกับจื่อลู่,หนึ่งในสองคนต้องมีคนตกตายอย่างงั้นรึ?
"เรื่องพอเท่านี้,เจ้ารู้ใหม,เกี่ยวกับการต่อสู้ที่เทือกเขาเซิ่งซือ,เป็นใครกันที่ได้หยกเจาหัวมาครอง?"
"ข้าไม่รู้,ตาเฒ่าเจ้ารู้หรือไม่?"เห่าเม่ยลี่ที่สอบถามออกไปในทันที.
"ถึงรู้ก็ไม่สามารถทำอะไรได้,อย่างไรก็ตามเรื่องนี้ไม่มีคนรู้เช่นกัน!"จักรพรรดิพิษปัจจิมที่กล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม.
"ข้าไม่ค่อยมีเวลานัก!"เห่าเม่ยลี่ที่กล่าวออกมาด้วยท่าทางขวยเขิน.
"หยกเจาหัวที่ปรากฏ,ในเวลานั้นได้ส่งผลกระทบไปทั่วทุกสารทิศ,ช่างน่าเสียหายในเวลานั้นกลับหายไปในที่สุด!"จักรพรรดิพิษปัจจิมที่กล่าวออกมา.
"หายไปอย่างงั้นรึ?"จงซานที่แสดงท่าทางสงสัย.
"ใช่,ในเวลานั้นมีคนมากมายที่เข้าต่อสู้กันอย่างหนักหน่วง,หยกเจาหัวอยู่ๆก็กลายเป็นแสงสีขาวพุ่งออกไป,จากนั้นก็หายไปต่อหน้าทุกคน!
บางคนก็บอกว่ามีคนนำมันไป,บางคนก็บอกว่าเป็นหยกเจาหัวที่หายไปเอง,บางคนก็กล่าวว่ามันได้กลับสู่สวรรค์และปฐพี,หลายๆข่าวลือ,ไม่ว่าจะเป็นข่าวใหนก็สรุปได้ว่ามันได้หายไปแล้ว!"จักรพรรดิพิษปัจจิมที่ส่ายหน้าขณะกล่าว.
"หายไป?
เป็นไปไม่ได้,หลายต่อหลายปีไม่หายไป,พอถึงเวลาจะหายไปได้อย่างไร?
แล้วหลังจากนั้นเกิดอะไรขึ้นอย่างงั้นรึ?"จงซานครุ่นคิดและกล่าวสอบถามออกไป.
"หยกเจาหัวที่หายไป,จากนั้น,ซาก็กลับมาจากอวกาศ! ซึ่งมีคนจำนวนไม่น้อยได้จากไปแล้ว,ทว่าก็ยังมีคนอีกจำนวนหนึ่งที่ยังไม่หายไป,ซึ่งในเวลานั้น,ซาได้ใช้กระบี่ชิงปิง,ปล่อยปราณกระบี่ออกไปนับล้านลี้,เหล่าผู้ฝึกตนทั้งหมดในรัศมีดั่งกล่าวตกตายไปไม่มีเหลือ!"จักรพรรดิพิษปัจจิมกล่าว.
"ระบายความโกรธอย่างงั้นรึ?!"จงซานที่กล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม.
"อืม!"จักรพรรดิพิษปัจจิมพยักหน้ารับ.
"กงจื่อล่ะ?"
"กงจื่อไม่ปรากฏอีกแล้ว,บางทีคงจะรู้ว่าหยกเจาหัวหายไปแล้ว,บนเทือกเขาและพื้นที่รอบๆเทือกเขาเซิ่งซือเวลานี้เต็มไปด้วยกลิ่นอายแห่งความตาย,หลังจากที่ซาสังหารคนไปมากมาย,ก็ไม่มีใครกล้าเข้าใกล้ที่นั่นอีก!"จักรพรรดิพิษปัจจิมที่กล่าวตอบออกมา.
-------------------------------------------------------
จงซานที่พำนักอยู่ในศาลสวรรค์อีกหลายวัน,หลายวันมานี้,ราชันย์หยกไม่ปรากฏออกมาให้จงซานได้กล่าวลาเลย,จงซานเองก็ไม่ได้กังวลอะไรนัก,ทว่าพอจะรับรู้ว่าภายในศาลสวรรค์ในเวลานี้ได้ปรากฏเรื่องสำคัญเกิดขึ้นอย่างแน่นอน.
และดูเหมือนว่าเรื่องสำคัญที่เกิดขึ้นต้องเกี่ยวข้องกับแผ่นริ้วหยกของอ๋องตี้จางอย่างแน่นอน.
ในวันหนึ่ง,จงซานที่ได้พูดคุยปรึกษาเกี่ยวกับวิชาคำสาปกับเห่าเม่ยลี่,แม้ว่าจงซานจะไม่เข้าใจเกี่ยวกับวิชาดังกล่าวได้ลึกเท่าใด,แต่อย่างน้อยก็ต้องรับรู้วิธีในการป้องกันตัวเองเอาไว้.
เห่าเม่ยลี่ที่บอกวิธีต่างๆอีกหลายอย่างเกี่ยวกับการป้องกันคำสาป.
"ตูมมมม~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~!”
ทันใดนั้นก็เกิดระเบิดดังนั่น,กระจายไปทั่วทุกสารทิศจนทำให้ศิลาที่อยู่ใกล้ๆแตกสลายไปในทันที.
"เกิดอะไรขึ้น?"เห่าเม่ยลี่ถึงกับตื่นตะหนักกับเสียงระเบิดที่เกิดขึ้น.
"ไป!"จงซานที่ตอบสนองนำทุกคนออกไปด้านนอกในทันที.
"ที่ใหน?"เห่าเม่ยลี่กล่าวสอบถาม.
"วิหารหลิงเซียวเปา!"จงซานกล่าว.
ทุกคนที่บินตรงไปยังวิหารหลิงเซียวเปาในทันที.
วิหารหลิงเซียวเปา,คือวิหารอันดับหนึ่งของทวีปซือตาปู,บนศาลสวรรค์ยังคงมีการประชุมกันอยู่,กลุ่มของจงซานที่เร่งรีบเดินทางไปในทันที.
ตำหนักขนาดใหญ่ที่มีความสูงใหญ่นับร้อยจั้ง,เป็นตำหนักหยกขาวบริสิทธิ์ทั้งตำหนัก,ดูยิ่งใหญ่น่าเกรงขามมาก.
ที่ด้านบนมีป้ายหยกเจ็ดสี,สลักอักษรลอยเด่น,ตำหนักหลิงเซียวเปา.
กลุ่มของจงซานที่มาหยุดอยู่ไม่ไกลออกไป.
ที่หน้าลานตำหนักหลิงเซียวเปานั้น,มีเหล่านักรบศักดิ์สิทธิ์ยืนอยู่,ที่ใจกลางนั้นมีบัลลังก์เก้ามังกรสีทองขนาดใหญ่ตั้งอยู่,บนบัลลังก์เก้ามังกรในเวลานี้,มีราชันย์หยกที่น่าเกรงขามนั่งอยู่.
ที่ด้านข้างนั้นมีหวังมู,เทพแห่งภัยพิบัติและคนอื่นๆที่จ้องมองด้วยความจริงจังไปยังประตูสวรรค์ทิศใต้.
ประตูสวรรค์ทิศใต้,ปรากฏเป็นเทียนเต๋าที่ยืนขยายไปถึงสวรรค์,และปรากฏชายคนหนึ่งในชุดนักบวชอยู่ด้านในเทียนเต๋าดังกล่าวนั่น.
เห็นชายคนดังกล่าว,ดวงตาของจงซานที่หดเกร็ง,ไม่ใช่อ๋องตี้จางหรอกรึ?
นี่มัน?
ดวงตาของอ๋องตี้จางไร้ซึ่งประกาย,ดูเหมือนว่าจะถูกควบคุมโดยสมบูรณ์,เวลานี้เป็นเพียงแค่หุ่นเชิดเท่านั้น,ทว่าในเวลานี้กำลังยืนอยู่ในเทียนเต๋า.
"ชิ!"ราชันย์หยกที่แค่นเสียงเย็นชา.
เสียงที่เย็นชา,ดังก้องทำให้เทียนเต๋าที่อยู่ไกลออกไปสั่นไหว.
"ตูมมมม!"
จากนั้นเกิดระเบิดดังสนั่น,ร่างของอ๋องตี้จางที่พ่นโลหิตลอยออกไปในทันที.
"ตูมมม~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~!”
จากนั้นเทียนเต๋าอีกสองสายก็ปรากฏขึ้น,ซือและเหมย,พร้อมกับเกิดระเบิดดังขึ้นรอบๆ,อ๋องตี้จาง,ที่ถูกช่วยเอาไว้.
ซือ,เหมย,และหวัง?
ปราชญ์เทพหมี่เทียนก็มาอย่างงั้นรึ?
จงซานที่เผยท่าทางจริงจังจดจ้องมองหาปราชญ์เทพหมี่เทียน,ดูเหมือนว่าอ๋องตี้จางจะรับรู้ว่าหมี่เทียนจะเดินทางมาศาลสวรรค์ต่อ,ภายในแผ่นริ้วหยกนั่นจะเป็นการกล่าวเตือนราชันย์หยกอย่างงั้นรึ?
ทว่า,จากท่าทางของราชันย์หยกแล้ว,เขาต้องรับรู้ว่าศัตรูเป็นปราชญ์เทพหมี่เทียน?
หากรู้แล้วทำไมไม่ได้หวาดกลัวเลยอย่างงั้นรึ?
ราชันย์หยกที่จ้องมองไปยังประตูสวรรค์ทิศใต้,ทันใดนั้นก็แค่นเสียงเย็นชา,"เดิมที,เป็นปราชญ์เทพที่ทำตัวลับๆล่อๆไก่ขันสุนัขขโมย,มีปัญหาอะไร,เดินทางมายังศาลสวรรค์ของข้า,กลับไม่กล้าเผยหางออกมาอย่างงั้นรึ?
นี่รึ? สวรรค์?"
"ราชันย์หยกเขารู้อย่างงั้นรึ?"
ที่ไกลออกไปนั้นจงซานที่เผยท่าทางจริงจังออกมา.
"วูซซซซ!"
ที่ไกลออกไปบนท้องฟ้า,ท่ามกลางซือและเหมย,ปรากฏคนในชุดสีขาวออกมาในทันที.
ทันทีคนในชุดขาวปรากฏออกมา,กลิ่นอายที่หนักหน่วงรุนแรงแผ่พุ่งออกมา,โถมทับกดดันทุกสิ่งมีชีวิตที่อยู่รอบๆในทันที.
"โฮกกกก~~~~~~~~~~~~~~!”
บนศาลสวรรค์,บนเมฆสีทอง,มังกรวาสนาทองคำ,ที่คำรามออกมาเสียงดัง,พร้อมกับแผ่พลังต้านกลิ่นอายของปราชญ์เทพในทันที.
"ราชันย์หยกตำหนักถงเหมิงเห่าเทียน? ในอดีตเป็นเพียงพรตน้อยรับใช้หงจวิน?
มีปัญหาอะไร?
หงจวินล่วงหล่นจากท้องฟ้าแล้ว,ยังคิดว่าตัวเองจะกำแหงได้อยู่อีกรึ?"ปราชญ์เทพหมี่เทียนที่กล่าวออกมาเบาๆ.
"ปราชญ์เทพหมี่เทียน?
เจ้าคิดว่าสามารถประเมินบรรพชนหงจวินได้จริงๆรึ?!"ราชันย์หยกที่กล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม.
"ประเมินหงจวินอย่างงั้นรึ?"หมี่เทียนที่จ้องมองไปยังราชันย์หยก,เห็นชัดเจนว่าเขารู้สึกระวังเกี่ยวกับหงจวินเช่นกัน.
"เป็นหมารับใช้เทียนชู,ภายในใจย่อมไม่รู้สึกผิด,ไม่ต้องทนกับการกระทำชั้นต่ำใดๆทั้งนั้น!"ราชันย์หยกที่กล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม.
โอหัง,เป็นคำยโสโอหังเป็นอย่างมาก.
รอบๆทั่วทุกสารทิศเปลี่ยนเป็นเงียบงัน,แม้แต่สายลมที่รุนแรงยังหยุดลง,เหล่านักรบศักดิ์ศาลสวรรค์,แน่นอนไม่กล้าแม้แต่จะเอ่ยอะไรออกมา,ไม่มีใครกล้าหัวเราะ,ทำได้แค่จดจ้องมองอย่างเย็นชาเท่านั้น.
ส่วนปราชญ์เทพหมี่เทียน,ในเวลานี้ถึงกับยืนนิ่งอยู่บนอากาศ,ไม่สามารถมองเห็นท่าทางใบหน้าของเขาได้,ทว่าจงซานสามารถคาดเดาความรู้สึกของปราชญ์เทพหมี่เทียนได้,กับความสงสัยของหมี่เทียนก่อนหน้านี้,ดูเหมือนว่าจะใส่ใจเกี่ยวกับหงจวินเป็นอย่างมาก,ดูเหมือนว่าพลังอำนาจของหงจวินนั้นไม่สามารถที่จะประมาทได้เลย,แม้แต่หมี่เทียนเองก็ยังรับรู้.
ราชันย์หยกที่ไร้ซึ่งความหวาดกลัว,เงยหน้าขึ้นมองปราชญ์เทพหมี่เทียน,กลิ่นอายของราชาที่อหังการพวยพุ่งออกไป.
Chapter 1013 King air of arrogance
帝王傲气
กลิ่นอายราชาผู้หยิ่งทรนง.
เห่าเม่ยลี่ที่กุมตำราชีวิตและความตาย,ทันใดนั้นดวงตาของนางก็ส่องแสง,เป็นแสงสีดำที่แปลกประหลาด,โปล่งใสพุ่งออกไป.
แสงสีดำ,ดูเหมือนว่าจะมีปราณหยินอยู่รอบๆ,เป็นพลังอำนาจทรงพลังหมุนวนอยู่.
จักรพรรดิพิษปัจจิมที่ถอยหลังออกมาทันที,เห็นชัดเจนว่าไม่สามารถทนได้,ทว่าเซียนเซิงซือและคนอื่นๆต่างก็เผยท่าทางประหลาดใจ.
วิชาเนตรรึ?
ไม่ใช่วิชาเนตร,แม้นว่าดวงตาของเห่าเม่ยลี่จะเป็นสีดำ,แต่ลูกตาของนางที่ไม่ได้เปลี่ยนแปลง,เพียงแค่สามารถปล่อยแสงสีดำออกมาได้.
นางที่จุดจ้องมองจงซาน,สายตาของเห่าเม่ยลี่ที่ส่องประกายแสงสีดำโดยสมบูรณ์.
แสงสีดำที่ถูกส่งเข้าไปในตำราชีวิตและความตาย,เป็นแสงสีดำที่กำลังส่องกวาดล้างตราประทับเดิมออกไป,ตราประทับเดิมที่ดูเหมือนว่าจะถูกเห่าเม่ยลี่ถอนมันออกไปด้วยเนตรสีดำของนาง.
เป็นอะไรที่แปลกประหลาดมา,ทว่าทุกคนพอจะคาดเดาได้ว่าเห่าเม่ยลี่นั้นกำลังหลอมประสานตำราชีวิตและความตายอยู่.
ตำราชีวิตและความตายที่เป็นคนของคนอื่นอยู่ดังนั้นจึงไม่สามารถใช้งานได้,ทว่าต่อหน้าของเห่าเม่ยลี่คาดไม่ถึงเลยว่าจะสามารถหลอมประสานมันได้อย่างง่านได้เลยรึ?
ปราณทมิฬที่หมุนวนล้อมรอบเห่าเม่ยลี่ช้าๆ,ทำให้อากาศรอบๆเย็นลงจนเกิดหิมะฟุ้งกระจายไปทั่วบริเวณ.
ทุกคนที่รอคอยอย่างอดทน,ผ่านไปราวๆหนึ่งชั่วยาม,แสงสีดำจางลง
,ประกายแสงบนดวงตาของเห่าเม่ยลี่ก็หายไป,ทว่าตำราชีวิตและความตายในเวลานี้สามารถย่อขยายให้เล็กลง,มีขนาดเท่ากับฝ่ามือก่อนที่จะหล่นไปอยู่ในมือของเห่าเม่ยลี่.
เห่าเม่ยลี่ที่สะบัดมือเล็กน้อย,ตำราชีวิตและความตายที่หายไป,และปรากฏขึ้นในมือของนางอีกครั้ง,เป็นตำราแห่งชีวิตและความตายที่โปร่งแสงขึ้นมาในทันที.
เห่าเม่ยลี่ที่แสดงท่าทางตื่นเต้นเป็นอย่างมาก.
นางที่ตื่นเต้นดีใจจ้องมองไปยังจงซาน.
"นี่มัน,ตำราชีวิตและความตายดูเหมือนว่ามันจะฟังคำสั่งของข้า,และยังสนับสนุนการฝึกฝนคำสาปหลายอย่างอีกด้วย!"เห่าเม่ยลี่อุทานด้วยความดีใจ.
"เช่นนั้น,ตำราชีวิตและความตายมอบให้เจ้าเป็นของขวัญ!"จงซานที่กล่าวออกมาในทันที.
ในเมื่อไม่สามารถใช้งานมันได้,จงซานจึงมอบมันเป็นของขวัญให้กับเห่าเม่ยลี่นั่นเอง.
"จงซาน,เจ้าช่างดีนัก!"เห่าเม่ยลี่ที่กล่าวด้วยความตื่นเต้น.
เห็นเห่าเม่ยลี่ที่ตื่นเต้นดีใจที่ยากจะเห็น,จักรพรรดิพิษปัจจิมที่เผยรอยยิ้มที่อ่อนโยนออกมา,ต้องไม่ลืมว่าจักรพรรดิพิษปัจจิมนั้นเห็นนางตั้งแต่เด็กจนโต,กล่าวตามตรงย่อมมีความรักห่วงใยในตัวนาง,อีกทั้งยังเป็นศิษย์ของเขา,ความรู้สึกที่เปี่ยมล้นไม่ต่างจากบิดาและบุตรสาว.
"เจ้าคิดว่าเป็นอย่างไร?"จงซานที่ถามออกมาอีกครั้ง.
ได้ยินคำพูดของจงซาน,ท่าทางตื่นเต้นก็หายใจ,พร้อมกับเปลี่ยนเป็นจริงจัง.
"อย่างไร?"จงซานที่กล่าวสอบถามออกมา.
"จื่อลู่ร้ายกาจขนาดนั้นเลยรึ?"เห่าเม่ยลี่สอบถาม.
"อืม,เซียนบรรพชน!"จงซานตอบ.
"แย่แล้ว!"เห่าเม่ยลี่กล่าว.
"ทำไม?"
เห่าเม่ยลี่ที่เปิดตำราชีวิตและความตาย,จ้องมองไปยังชื่อจื่อลู่.
"ชีวิตและความตายมีส่วนเกี่ยวพันกัน,เจ้าเขียนชื่อจื่อลู่ลงไป,แม้นว่าจะมีผลกับจื่อลู่,ทว่าที่จริงก็มีผลต่อเจ้าด้วย!"เห่าเม่ยลี่กล่าว.
"ข้า?หมายความว่าอย่างไร?"จงซานที่แสดงท่าทางสงสัย.
"ชีวิตและความตายเกี่ยวพัน,คนหนึ่งจะต้องตกตาย,เจ้าเป็นคนเขียนชื่อจื่อลู่,ภายในสามปีหนึ่งคนต้องตาย,หากเขาไม่ตายเจ้าก็ต้องตาย,คนที่ตาย,อายุไขหนึ่งในสิบก็จะมาเพิ่มให้กับอีกฝ่าย,ในสามปี,เจ้าจะต้องสังหารจื่อลู่,ไม่เช่นนั้นแล้วจะต้องได้รับโทษทัณฑ์จากสวรรค์และเจ้าก็ต้องตายไป!"เห่าเม่ยลี่กล่าว.
”........................!”
จงซานที่แสดงท่าทางประหลาดใจเล็กน้อย,ดูคำสาปจะไม่มีผลต่อฝ่ายตรงข้าม,ในครั้งนี้เขาเขียนชื่อจื่อลู่,หากเป็นชื่อปราชญ์เทพแล้วคงแย่แน่,ไม่ใช่ว่าเขาต้องตายหรอกรึ?
"แล้วทำอย่างไรถึงจะทำให้จื่อลู่ออกมาได้?"เซียนเซิงซือที่กล่าวสอบถามไปในทันที.
ใช่,หากว่าไม่เห็นจื่อลู่,ไม่ต้องย่ำแยหรอกรึ?
"ไม่,พันธะสิบเปอร์เซ็นต์นั้นเกี่ยวข้องกัน,ส่งผลต่อเทียนชูทำให้ก่อให้เกิดชะตา,ภายในสามปี,เจ้าจะต้องพบกันอย่างแน่นอน!"เห่าเม่ยลี่กล่าว.
”..................!”
จงซานที่ได้แต่เงียบ,ก่อนที่จะรู้สึกประหลาดใจ,"ตำราชีวิตและความตายเป็นของวิเศษแบบใด?
ถึงได้แปลกประหลาดเช่นนี้?"
"ข้าเองก็ยังไม่รู้ทั้งหมด,ทว่าข้าได้ยินเทพแห่งภัยพิบัติกล่าวส่าตำราชีวิตและความตายนั้น,เป็นเคล็ดวิชาคำสาบหนึ่งในสี่สุดยอดของโลกใบนี้!"เห่าเม่ยลี่กล่าว.
"อืม!"จงซานพยักหน้ารับ.
ยังไม่รู้ทั้งหมด,ทว่าจำเป็นต้องศึกษา,สิ่งสำคัญในเวลานี้คือจัดการกับจื่อลู่,หนึ่งในสองคนต้องมีคนตกตายอย่างงั้นรึ?
"เรื่องพอเท่านี้,เจ้ารู้ใหม,เกี่ยวกับการต่อสู้ที่เทือกเขาเซิ่งซือ,เป็นใครกันที่ได้หยกเจาหัวมาครอง?"
"ข้าไม่รู้,ตาเฒ่าเจ้ารู้หรือไม่?"เห่าเม่ยลี่ที่สอบถามออกไปในทันที.
"ถึงรู้ก็ไม่สามารถทำอะไรได้,อย่างไรก็ตามเรื่องนี้ไม่มีคนรู้เช่นกัน!"จักรพรรดิพิษปัจจิมที่กล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม.
"ข้าไม่ค่อยมีเวลานัก!"เห่าเม่ยลี่ที่กล่าวออกมาด้วยท่าทางขวยเขิน.
"หยกเจาหัวที่ปรากฏ,ในเวลานั้นได้ส่งผลกระทบไปทั่วทุกสารทิศ,ช่างน่าเสียหายในเวลานั้นกลับหายไปในที่สุด!"จักรพรรดิพิษปัจจิมที่กล่าวออกมา.
"หายไปอย่างงั้นรึ?"จงซานที่แสดงท่าทางสงสัย.
"ใช่,ในเวลานั้นมีคนมากมายที่เข้าต่อสู้กันอย่างหนักหน่วง,หยกเจาหัวอยู่ๆก็กลายเป็นแสงสีขาวพุ่งออกไป,จากนั้นก็หายไปต่อหน้าทุกคน!
บางคนก็บอกว่ามีคนนำมันไป,บางคนก็บอกว่าเป็นหยกเจาหัวที่หายไปเอง,บางคนก็กล่าวว่ามันได้กลับสู่สวรรค์และปฐพี,หลายๆข่าวลือ,ไม่ว่าจะเป็นข่าวใหนก็สรุปได้ว่ามันได้หายไปแล้ว!"จักรพรรดิพิษปัจจิมที่ส่ายหน้าขณะกล่าว.
"หายไป?
เป็นไปไม่ได้,หลายต่อหลายปีไม่หายไป,พอถึงเวลาจะหายไปได้อย่างไร?
แล้วหลังจากนั้นเกิดอะไรขึ้นอย่างงั้นรึ?"จงซานครุ่นคิดและกล่าวสอบถามออกไป.
"หยกเจาหัวที่หายไป,จากนั้น,ซาก็กลับมาจากอวกาศ! ซึ่งมีคนจำนวนไม่น้อยได้จากไปแล้ว,ทว่าก็ยังมีคนอีกจำนวนหนึ่งที่ยังไม่หายไป,ซึ่งในเวลานั้น,ซาได้ใช้กระบี่ชิงปิง,ปล่อยปราณกระบี่ออกไปนับล้านลี้,เหล่าผู้ฝึกตนทั้งหมดในรัศมีดั่งกล่าวตกตายไปไม่มีเหลือ!"จักรพรรดิพิษปัจจิมกล่าว.
"ระบายความโกรธอย่างงั้นรึ?!"จงซานที่กล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม.
"อืม!"จักรพรรดิพิษปัจจิมพยักหน้ารับ.
"กงจื่อล่ะ?"
"กงจื่อไม่ปรากฏอีกแล้ว,บางทีคงจะรู้ว่าหยกเจาหัวหายไปแล้ว,บนเทือกเขาและพื้นที่รอบๆเทือกเขาเซิ่งซือเวลานี้เต็มไปด้วยกลิ่นอายแห่งความตาย,หลังจากที่ซาสังหารคนไปมากมาย,ก็ไม่มีใครกล้าเข้าใกล้ที่นั่นอีก!"จักรพรรดิพิษปัจจิมที่กล่าวตอบออกมา.
-------------------------------------------------------
จงซานที่พำนักอยู่ในศาลสวรรค์อีกหลายวัน,หลายวันมานี้,ราชันย์หยกไม่ปรากฏออกมาให้จงซานได้กล่าวลาเลย,จงซานเองก็ไม่ได้กังวลอะไรนัก,ทว่าพอจะรับรู้ว่าภายในศาลสวรรค์ในเวลานี้ได้ปรากฏเรื่องสำคัญเกิดขึ้นอย่างแน่นอน.
และดูเหมือนว่าเรื่องสำคัญที่เกิดขึ้นต้องเกี่ยวข้องกับแผ่นริ้วหยกของอ๋องตี้จางอย่างแน่นอน.
ในวันหนึ่ง,จงซานที่ได้พูดคุยปรึกษาเกี่ยวกับวิชาคำสาปกับเห่าเม่ยลี่,แม้ว่าจงซานจะไม่เข้าใจเกี่ยวกับวิชาดังกล่าวได้ลึกเท่าใด,แต่อย่างน้อยก็ต้องรับรู้วิธีในการป้องกันตัวเองเอาไว้.
เห่าเม่ยลี่ที่บอกวิธีต่างๆอีกหลายอย่างเกี่ยวกับการป้องกันคำสาป.
"ตูมมมม~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~!”
ทันใดนั้นก็เกิดระเบิดดังนั่น,กระจายไปทั่วทุกสารทิศจนทำให้ศิลาที่อยู่ใกล้ๆแตกสลายไปในทันที.
"เกิดอะไรขึ้น?"เห่าเม่ยลี่ถึงกับตื่นตะหนักกับเสียงระเบิดที่เกิดขึ้น.
"ไป!"จงซานที่ตอบสนองนำทุกคนออกไปด้านนอกในทันที.
"ที่ใหน?"เห่าเม่ยลี่กล่าวสอบถาม.
"วิหารหลิงเซียวเปา!"จงซานกล่าว.
ทุกคนที่บินตรงไปยังวิหารหลิงเซียวเปาในทันที.
วิหารหลิงเซียวเปา,คือวิหารอันดับหนึ่งของทวีปซือตาปู,บนศาลสวรรค์ยังคงมีการประชุมกันอยู่,กลุ่มของจงซานที่เร่งรีบเดินทางไปในทันที.
ตำหนักขนาดใหญ่ที่มีความสูงใหญ่นับร้อยจั้ง,เป็นตำหนักหยกขาวบริสิทธิ์ทั้งตำหนัก,ดูยิ่งใหญ่น่าเกรงขามมาก.
ที่ด้านบนมีป้ายหยกเจ็ดสี,สลักอักษรลอยเด่น,ตำหนักหลิงเซียวเปา.
กลุ่มของจงซานที่มาหยุดอยู่ไม่ไกลออกไป.
ที่หน้าลานตำหนักหลิงเซียวเปานั้น,มีเหล่านักรบศักดิ์สิทธิ์ยืนอยู่,ที่ใจกลางนั้นมีบัลลังก์เก้ามังกรสีทองขนาดใหญ่ตั้งอยู่,บนบัลลังก์เก้ามังกรในเวลานี้,มีราชันย์หยกที่น่าเกรงขามนั่งอยู่.
ที่ด้านข้างนั้นมีหวังมู,เทพแห่งภัยพิบัติและคนอื่นๆที่จ้องมองด้วยความจริงจังไปยังประตูสวรรค์ทิศใต้.
ประตูสวรรค์ทิศใต้,ปรากฏเป็นเทียนเต๋าที่ยืนขยายไปถึงสวรรค์,และปรากฏชายคนหนึ่งในชุดนักบวชอยู่ด้านในเทียนเต๋าดังกล่าวนั่น.
เห็นชายคนดังกล่าว,ดวงตาของจงซานที่หดเกร็ง,ไม่ใช่อ๋องตี้จางหรอกรึ?
นี่มัน?
ดวงตาของอ๋องตี้จางไร้ซึ่งประกาย,ดูเหมือนว่าจะถูกควบคุมโดยสมบูรณ์,เวลานี้เป็นเพียงแค่หุ่นเชิดเท่านั้น,ทว่าในเวลานี้กำลังยืนอยู่ในเทียนเต๋า.
"ชิ!"ราชันย์หยกที่แค่นเสียงเย็นชา.
เสียงที่เย็นชา,ดังก้องทำให้เทียนเต๋าที่อยู่ไกลออกไปสั่นไหว.
"ตูมมมม!"
จากนั้นเกิดระเบิดดังสนั่น,ร่างของอ๋องตี้จางที่พ่นโลหิตลอยออกไปในทันที.
"ตูมมม~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~!”
จากนั้นเทียนเต๋าอีกสองสายก็ปรากฏขึ้น,ซือและเหมย,พร้อมกับเกิดระเบิดดังขึ้นรอบๆ,อ๋องตี้จาง,ที่ถูกช่วยเอาไว้.
ซือ,เหมย,และหวัง?
ปราชญ์เทพหมี่เทียนก็มาอย่างงั้นรึ?
จงซานที่เผยท่าทางจริงจังจดจ้องมองหาปราชญ์เทพหมี่เทียน,ดูเหมือนว่าอ๋องตี้จางจะรับรู้ว่าหมี่เทียนจะเดินทางมาศาลสวรรค์ต่อ,ภายในแผ่นริ้วหยกนั่นจะเป็นการกล่าวเตือนราชันย์หยกอย่างงั้นรึ?
ทว่า,จากท่าทางของราชันย์หยกแล้ว,เขาต้องรับรู้ว่าศัตรูเป็นปราชญ์เทพหมี่เทียน?
หากรู้แล้วทำไมไม่ได้หวาดกลัวเลยอย่างงั้นรึ?
ราชันย์หยกที่จ้องมองไปยังประตูสวรรค์ทิศใต้,ทันใดนั้นก็แค่นเสียงเย็นชา,"เดิมที,เป็นปราชญ์เทพที่ทำตัวลับๆล่อๆไก่ขันสุนัขขโมย,มีปัญหาอะไร,เดินทางมายังศาลสวรรค์ของข้า,กลับไม่กล้าเผยหางออกมาอย่างงั้นรึ?
นี่รึ? สวรรค์?"
"ราชันย์หยกเขารู้อย่างงั้นรึ?"
ที่ไกลออกไปนั้นจงซานที่เผยท่าทางจริงจังออกมา.
"วูซซซซ!"
ที่ไกลออกไปบนท้องฟ้า,ท่ามกลางซือและเหมย,ปรากฏคนในชุดสีขาวออกมาในทันที.
ทันทีคนในชุดขาวปรากฏออกมา,กลิ่นอายที่หนักหน่วงรุนแรงแผ่พุ่งออกมา,โถมทับกดดันทุกสิ่งมีชีวิตที่อยู่รอบๆในทันที.
"โฮกกกก~~~~~~~~~~~~~~!”
บนศาลสวรรค์,บนเมฆสีทอง,มังกรวาสนาทองคำ,ที่คำรามออกมาเสียงดัง,พร้อมกับแผ่พลังต้านกลิ่นอายของปราชญ์เทพในทันที.
"ราชันย์หยกตำหนักถงเหมิงเห่าเทียน? ในอดีตเป็นเพียงพรตน้อยรับใช้หงจวิน?
มีปัญหาอะไร?
หงจวินล่วงหล่นจากท้องฟ้าแล้ว,ยังคิดว่าตัวเองจะกำแหงได้อยู่อีกรึ?"ปราชญ์เทพหมี่เทียนที่กล่าวออกมาเบาๆ.
"ปราชญ์เทพหมี่เทียน?
เจ้าคิดว่าสามารถประเมินบรรพชนหงจวินได้จริงๆรึ?!"ราชันย์หยกที่กล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม.
"ประเมินหงจวินอย่างงั้นรึ?"หมี่เทียนที่จ้องมองไปยังราชันย์หยก,เห็นชัดเจนว่าเขารู้สึกระวังเกี่ยวกับหงจวินเช่นกัน.
"เป็นหมารับใช้เทียนชู,ภายในใจย่อมไม่รู้สึกผิด,ไม่ต้องทนกับการกระทำชั้นต่ำใดๆทั้งนั้น!"ราชันย์หยกที่กล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม.
โอหัง,เป็นคำยโสโอหังเป็นอย่างมาก.
รอบๆทั่วทุกสารทิศเปลี่ยนเป็นเงียบงัน,แม้แต่สายลมที่รุนแรงยังหยุดลง,เหล่านักรบศักดิ์ศาลสวรรค์,แน่นอนไม่กล้าแม้แต่จะเอ่ยอะไรออกมา,ไม่มีใครกล้าหัวเราะ,ทำได้แค่จดจ้องมองอย่างเย็นชาเท่านั้น.
ส่วนปราชญ์เทพหมี่เทียน,ในเวลานี้ถึงกับยืนนิ่งอยู่บนอากาศ,ไม่สามารถมองเห็นท่าทางใบหน้าของเขาได้,ทว่าจงซานสามารถคาดเดาความรู้สึกของปราชญ์เทพหมี่เทียนได้,กับความสงสัยของหมี่เทียนก่อนหน้านี้,ดูเหมือนว่าจะใส่ใจเกี่ยวกับหงจวินเป็นอย่างมาก,ดูเหมือนว่าพลังอำนาจของหงจวินนั้นไม่สามารถที่จะประมาทได้เลย,แม้แต่หมี่เทียนเองก็ยังรับรู้.
ราชันย์หยกที่ไร้ซึ่งความหวาดกลัว,เงยหน้าขึ้นมองปราชญ์เทพหมี่เทียน,กลิ่นอายของราชาที่อหังการพวยพุ่งออกไป.
ที่มาจากhttps://lnmtl.com/novel/immortality
#นิยาย เรื่องอมตะ #Immortality#นิยายแปลไทย
Author(s)
สนใจสนับสนุนพวกเรา,เข้าร่วมกลุ่ม VIP ====> Click
ปัจจุบันแปลจบแล้ว 1672 ตอน สนใจติดต่อเข้ากลุ่มลับได้ครับ
***เว็ปฟรีอัพ สองวันหนึ่งตอน
***กลุ่มลับ แปลจบแล้ว.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น