Immortality Chapter 1010 break array
นิยาย เรื่อง อมตะ ตอนที่ 1010 ทะลวงค่ายกล.
Chapter 1010 break array
闯阵
ทะลวงค่ายกล.
หลี่เหินเทียน!(สวรรค์แห่งการพลัดพราก!)
กลุ่มของจงซานทั้งสี่คนที่ยื่นอยู่บนอวกาศ.
เกี่ยวกับคนที่ส่งเขาเข้ามาในช่องทางดังกล่าว,ได้หายไปแล้ว,แน่นอนจงซานรับรู้ว่าเขาได้ถูกหลอกมายังสถานที่ดังกล่าวแน่นอน.
คนทั้งสี่ที่กวาดตามองไปยังอวกาศที่กว้างใหญ่,ขณะที่จ้องมองไปยังหนานกงเซิ่งด้วยแววตาจริงจัง.
"เซิ่งหวัง!"ทันใดนั้นหนานกงเซิ่งที่อุทานออกมา.
"มีอะไรอย่างงั้นรึ?"จงซานที่กล่าวออกมาด้วยความสงสัย.
"เฉินคิดว่านี่คือค่ายกลขนาดมโหฬาร!"หนานกงเซิ่งที่กล่าวออกมาด้วยท่าทางตื่นตระหนกเล็กน้อย.
"ขนาดกลขนาดมโหฬาร?"
"ใช่แล้ว,ทว่าสิ่งนี้ไม่มีทางที่จะเรียงตัวเป็นระเบียบเช่นนี้,ดูเหมือนว่าจะไม่ใช่ของวิเศษ,ทว่ากลับมีดวงดาราอยู่มากมาย,ดวงดาวแต่ละดวงยังมีขนาดใหญ่อีกด้วย!"หนานกงเซิ่งที่กล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม.
"หืม?"จงซานที่แววตาส่ายไปมา.
ไม่ต้องบอกเลยว่าค่ายกลนี้ซับซ้อนขนาดใหญ่,ด้วยการใช้ดวงดาราเป็นแหล่งพลัง,กับคนที่สามารถสร้างค่ายกลนี้ขึ้นมาได้,ต้องแข็งแกร่งมากมายขนาดใหนกัน?
"ค่ายกลอวกาลอย่างงั้นรึ?"จงซานที่จ้องมองอย่างจริงจังไปยังพื้นที่รอบๆ.
แม้นว่าจะมองเห็นดวงดาราที่นี่โคจรไปรอบๆแต่ก็ไม่ได้ผิดปรกติอะไรนัก,ทว่าจะให้กล่าวล่ะก็,การจะมองเห็นเป็นค่ายกลนั้น,จงซานยังไม่สามารถ,ต้องไม่ลืมว่าเขาไมได้ศึกษาเฉพาะเกี่ยวกับค่ายกลนั่นเอง.
จงซานที่ศึกษาค่ายกลไม่ได้ลึกซึ้งเท่ากับหนานกงเซิ่งนั่นเอง.
ในอดีตในโลกใบเล็กนั้น,ผู้ฝึกตนค่ายกลอันดับหนึ่ง,ชื่อเสียงนี้ไม่ได้มีแค่ชื่อแน่นอน.
"ใช่แล้ว,ค่ายกลนี้ดูลึกซึ้งล้ำลึกเป็นอย่างมาก,แม้นว่าจะดูเหมือนเพียงเล็กน้อย.......!"หนานกงเซิ่งที่ขมวดคิ้วไปมาเล็กน้อย.
"เหมือนอะไรอย่างงั้นรึ?"
"เซิ่งหวังก่อนหน้านี้เคยให้เฉินยืมแผนภูมิบรรพชนก่อเกิดมาก่อน,ค่ายกลอวกาศนี้,ดูคลายแผนภูมิบรรพชนก่อเกิดสองอันมาต่อกัน!"หนานกงเซิ่งกล่าว.
"ค่ายกลหลี่เฮินเทียน,เป็นค่ายกลขนาดใหญ่ที่แผนภูมิบรรพชนก่อเกิดมาต่อกันสองส่วนรึ?!"จงซานพยักหน้ารับ,ต้องไม่ลืมว่าที่ด้านในตำหนักดุสิตนั้นเป็นที่อยู่ของไท่ซ่างเหล่าจวิน.
"ไม่เพียงเท่านั้น!"หนานกงเซิ่งที่ส่ายหน้าไปมา.
"หืม?"
"ยังมีเงาของค่ายกลดาราสวรรค์บรรจบต้าโหลวอีกด้วย!"หนานกงเซิ่งกล่าวยืนยัน.
"หืม?"
จงซานที่เผยท่าทางประหลาดใจ,หากกล่าวว่าค่ายกลนี้เกี่ยวข้องกับปราชญ์เทพไท่ซ่างย่อมเป็นไปได้,ทว่าค่ายกลดาราสวรรค์บรรจบต้าโหลวของกู่เฉิงตงนั้น,มีอะไรเกี่ยวข้องอย่างงั้นรึ?
"มันมีความซับซ้อนกว่าค่ายกลดาราสวรรค์บรรจบต้าโหลวของกู่เฉิงตงมาก!"หนานกงเซิ่งกล่าวยืนยัน.
"อืม,ค่ายกลนี้ข้าไม่สามารถเข้าใจได้เลย,คงต้องให้เป็นหน้าที่เจ้า,สามารถที่จะทะลวงค่ายกลนี้ได้หรือไม่?"จงซานที่กล่าวออกมา.
"การจะทะลวงค่ายกลออกไปนั้นนับว่าเป็นเรื่องยาก,เฉินไม่สามารถรับประกันได้อย่างแน่นอน,เพราะว่าระหว่างทางนั้น,มีปมอยู่มากมาย,หากว่าเลือกผิดปมล่ะก็,จะถูกบดขยี้ด้วยพลังอำนาจของดวงดารา,แน่นอนว่าต้องแหลกเป็นชิ้นๆ,ถึงแม้ว่าจะเป็นข้าและทุกคนรวมกันก็ไม่สามารถต้านทานได้!"หนานกงเซิ่งกล่าว.
"กล่าวอีกอย่างหนึ่ง,ในการทะลวงนั้นมีเส้นทางที่ต้องเลือก?
และยังเป็นเส้นทางระหว่างความเป็นและความตายอย่างงั้นรึ?"จงซานสอบถาม.
"ครับ!"หนานกงเซิ่งกล่าวรับ.
"งั้น,หากว่าต้องเลือกระหว่างความเป็นและความตาย,ข้าจะเป็นคนตัดสินใจเอง!"จงซานที่กล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม.
"หืม,ครับ!"หนานกงเซิ่งที่ตอบรับในทันที.
หลายปีมานี้,เหล่าข้าราชบริพารต่างก็เชื่อมั่นในตัวจงซาน,ตราบเท่าที่เขาว่าสามารถจัดการได้,ไม่มีคำว่าพ่ายแพ้,ถึงแม้นว่าความเห็นดังกล่าวนั้นแทบจะเป็นไปไม่ได้.
เป็นหรือตาย? ผิดคือตาย! แม้ว่าผลลับจะน่าหวาดผวา,ทว่าทุกคนต่างก็มั่นใจในตัวจงซาน.
เมื่อเป็นคำสั่งจงซาน,ทุกคนก็ก้าวเข้าไปในค่ายกลขนาดมหึมาในทันที.
-----------------------------------------------------
หลี่เฮินเทียน,บนตำหนักบนอากาศที่ว่างเปล่า,มีประกายแสงวับวาว,ส่องประกายระยิบระยับ,บนท้องฟ้าที่ภาพเงาของเทพอสูร,พลังวิญญาณเซียนที่หนาแน่นเป็นอย่างมาก.
ตำหนักลอยฟ้าดุสิต,เป็นตำหนักโลหะลอยฟ้าที่ใหญ่โตเป็นอย่างมาก.
ตำหนักดุสิตได้รับการป้องกันอย่างเข็มแข็ง,ยากจะมีคนสามารถผ่านเข้ามาได้.
ตำหนักดุสิต,ที่จริงมีคนสองคน.
ที่ทิศใต้และทิศเหนือ,ทิศใต้เป็นราชันย์หยกเจ้าตำหนักถงหมิงเห่าเทียน,ส่วนทิศเหนือนั้นเป็นชายชราในชุดพรตเต่า,ไท่ซ่างเหล่าจวิน.
ทั้งสองคนที่ทำการปรุงยาอยู่,ทว่าอยู่ในขณะเตรียมการอยู่นั่นเอง,เผยให้เห็นเตาปรุงยาที่ว่างเปล่า.
ภายในเตาปรุงยานั้นยังมีน้ำที่กำลังเดือด,โดยมีเปลวไฟด้านล่างกำลังลุกโชน.
"ไม่ใช่เหล่าจื่อตงเฉินหรอกรึ?"ราชันย์หยกที่กล่าวสอบถามออกไป.
ไท่ซ่างเหล่าจวินที่ส่ายหน้าไปมาและกล่าวออกมาว่า,"ไม่ใช่!"
"ข้าเพิ่งได้ข่าวมาเมื่อเร็วๆนี้,ที่วิหารใต้เหล่ยหยินนั้น,อรหันต์อมิตาภะได้กลับมาแล้ว,ที่เทือกเขาเซิ่งซือเองศพทงเทียนก็กลับมาเคลื่อนไหว,นับจากที่นวีหว๋าได้ตกตายไป,เหล่าปราชญ์เทพทั้งหกต่างมีแผนการของตัวเอง,เหมือนว่าพวกเขาจะเริ่มปรากฏกายออกมาแล้ว!"ราชันย์หยกที่กล่าวอย่างเคร่งขรึม.
ไท่ซ่างเหล่าจวินที่จ้องมองไปยังราชันย์หยก,สูดหายใจลึกและกล่าวออกมาว่า,"ข้าเข้าใจสถานะของข้าดี,ก่อนหน้านี้ข้าเคยใช้อาคมศพผูกร่างไท่ซ่างในอดีต,ร่างหลักของข้าล่วงหล่นลงจากสวรรค์,การสร้างตัวแทนและสังหารไปก็นับเป็นสิ่งที่ชั่วร้าย,แต่ก็ทำให้ข้ารอดชีวิตมาได้,ด้วยการงดเว้นหลบเลี่ยงจากเทียนชูที่จะลงทัณฑ์ให้มีชีวิตได้,ร่างหลักของข้ากลับฟื้นคืนมามีชีวิต,ข้าที่เป็นต้นกำเนิด,ทว่าก็ไม่ใช่ทั้งหมด!"
"มีอะไรที่ไม่ใช่รึ?"ราชันย์หยกกล่าว.
"แม้ว่าข้าจะสร้างศพเทียม,ทว่าร่างหลักจริงก็ยังเป็นข้า,ความทรงจำทั้งหมดที่ได้หายไป,แม้นว่าร่างกายจะสูญสลาย,ร่องรอยเองก็ไม่ควรจะมีเหลืออยู่,และข้าเองก็สามารถอาศัยได้แต่บนตำหนักดุสิตสวรรค์ชั้น
33 เท่านั้น,ไม่สามารถก้าวไปยังสวรรค์ชั้น 36!
จนกระทั้งเมื่อครั้งข้าได้รับแผนภูติบรรพชนก่อเกิดกับมาจากต้าเจิ้ง,ท้ายที่สุดก็ทำให้ตัวเองเข้าใจสถานะของตัวเองเข้า!"ไท่ซ่างเหลางจวินที่ขมวดคิ้วไปมา.
"รับรู้สถานะของตัวเอง,แล้วมีอะไรเปลี่ยนแปลงอย่างงั้นรึ?"ราชันย์หยกที่ขมวดคิ้วไปมา.
"ไม่,ยังมีส่วนที่ยังขาดทว่าร่างหลักของข้าที่ล่วงหล่นนั้นได้ซ่อนมันเอาไว้ภายในค่ายกลสุดยอดหยินหยางพิสุทธิ์บดจักรวาล,บางที่อาจจะมีวิธีกลับคืนร่างเดิมหากสามารถทะลวงผ่านค่ายกลใหญ่นี้ได้!"ไท่ซ่างเหล่าจวินที่กล่าวตอบ.
"ยากเกินไปที่จะทะลวงผ่านได้!"ราชันย์หยกพยักหน้ารับ.
"ยากจนเกินไป! ค่ายกลนี้เป็นค่ายกลยากที่จะแก้ไข,7749 ปม,ขอเพียงแค่ล้มเหลวแค่ปมเดียวก็จะล้มเหลวทั้งหมด,แม้แต่เซียนบรรพชนก็ยากที่จะรอดพ้นจากความตาย!"ไท่ซ่างเหล่าจวินที่จ้องมองไปยังประกายแสงดวงดาราขณะกำลังปรุงยา.
"เป็นร่างหลักของท่านที่สร้างขึ้นมา,ไม่ช้าก็เร็วต้องแก้ได้ไม่ใช่รึ?
ถึงแม้ว่าจะทำไม่ได้,ก็สามารถขอให้คนอื่นช่วยได้."ราชันย์หยกที่ขมวดคิ้วไปมา.
"มีแต่ความตายที่รออยู่,เพราะว่าข้าได้ศึกษาและรับรู้ความลึกล้ำของมันได้,ไม่ว่าจะทางใหนก็มีแต่ความตาย,ไม่สามารถแก้ไขได้เลย,ตอนนี้ใต้สวรรค์แห่งนี้ผู้ฝึกตนค่ายกลที่เหนือกว่าข้านั้นมีน้อยมากๆ,ข้าไม่สามารถแก้ได้,แล้วใครจะแก้ได้กัน?"ไท่ซ่างเหล่าจวินที่ได้แต่ส่ายหน้าไปมา.
"เอ๊ะ?"ไท่ซ่างเหล่าจวินที่เผยท่าทางสงสัยออกมา.
สายตาของไท่ซ่างเหล่าจวินที่จับจ้องมองไปยังด้านล่าง,ราชันย์หยกเองก็ด้วย,บนดวงดาราที่เรียงกันนั้น,มีประกายแสงจากดวงดาวบางดวงที่กำลังขยับอยู่.
"นี่มัน?
มีใครบางคนกำลังทะลวงค่ายกลอยู่อย่างงั้นรึ?"ราชันย์หยกที่เผยท่าทางสงสัย.
"เป็นเช่นนั้น!"ท่างเหล่าจวินพยักหน้า,ก่อนที่จะยื่นมือไปข้างหน้าก่อนที่จะปรากฏแผนผังของค่ายกลขึ้นบนอากาศ,ขณะที่พวกเขาจดจ้องมองไปยังผังค่ายกลฉบับย่ออย่างสนใจ.
--------------------------------------------------------------------------
หลี่เฮินเทียน,ทางออกศาลสวรรค์.
เห่าเม่ยลี่,จักรพรรดิพิษ,นาจาและเหล่าข้าราชบริพารของศาลสวรรค์หลายคนที่ยืนอยู่บนอากาศที่ว่างเหล่า.
"จงซานคงจะเข้าไปแล้ว!"นาจาที่จ้องมองไปยังอากาศที่ว่างเปล่า,ใบหน้าที่เปลี่ยนเป็นซับซ้อนและอัปลักษณ์.
ใบหน้าของเห่าเม่ยลี่ที่เต็มไปด้วยความเย็นชา,จดจ้องมองไปรอบๆและกล่าวออกมาว่า,"กลับกันก่อน!"
"รับทราบ!"เหล่าข้าราชบริพารของศาลสวรรค์รับคำในทันที.
จากนั้นทุกคนที่กลับมายังห้องโถงทางเข้ากันอีกครั้ง.
หลังจากที่ทุกคนก้าวออกมาจากตำหนัก,เห่าเม่ยลี่ที่ไม่กล่าวอะไรออกมาแม้แต่คำเดียว,ใบหน้าที่เต็มไปด้วยความเย็นชา,จ้องมองไปยังรูปปั้นที่ด้านหน้าตำหนัก.
รูปปั้นน้ำแข็งที่เต็มไปด้วยปราณทมิฬหมุนวนไปทั่วอากาศ,แผ่นกระจายออกไปรอบๆนับสิบจั้ง,ภายในรูปปั้นน้ำแข็งนั้นสามารถมองเห็นภาพลางๆด้านใน,ร่างๆหนึ่งที่ส่องประกายสีเขียวออกมา,ดูเหมือนว่าจะได้รับพิษที่รุนแรงหนักหนาอีกด้วย.
"กงจูแปด,ข้าคิดว่าเจ้าควรจะแก้คำสาปให้กับหยางเจียนก่อนดีหรือไม่?"นาจาที่ฝืนยิ้มออกมา.
"ทำไมข้าต้องแก้คำสาปด้วย?"เห่าเม่ยลี่กล่าวด้วยเสียงเย็นชา.
"หยางเจียนนั้นเป็นเสนาธิการคนสำคัญของศาลสวรรค์,คงจะดูไม่ดีหากเขาถูกสาปเพราะเห็นแก่คนภายนอกมากกว่า!"นาจากล่าวเตือน.
"ชิ,ไม่ว่าอย่างไร,ข้าต้องการสาปมัน,ให้อวัยวะภายในทั้งห้าเต็มไปด้วยฟองพิษ,เน่าเปื่อยตั้งแต่เท้าขึ้นไป,ตกตายไร้ซึ่งทายาท!"เสียงของเห่าเม่ยลี่ที่กล่าวออกมาด้วยความโกรธ.
ระหว่างที่กล่าวนั้น,ภายในรูปปั้นน้ำแข็ง,ปราณทมิฬที่ดูเหมือนว่าจะมีมากมายยิ่งกว่าเดิม.
"ยาโถว!"จักรพรรดิพิษปัจจิมที่เอ่ยออกมาในทันที.
"ตาเฒ่า,อย่าได้กล่าวอะไร,อย่าได้ขอความเห็นใจให้กับเขา,ข้ารับรู้เรื่องนี้ดี,เป็นเขาที่แส่หาความอับยศให้กับตัวเอง,ตาเฒ่า,ศัตรูของเจ้าจงซานยังเคยแก้แค้นให้เลย,ตอนนี้เจ้าไม่จำเป็นต้องขอบคุณเทพแห่งภัยพิบัติ,ราชันย์หยก,ไท่ซ่างเหล่าจิน,การที่เจ้าสามารถฟื้นคืนชีพอีกครั้ง,เป็นเพราะข้าและจงซานต่างหาก!"เห่าเม่ยลี่ที่กล่าวออกมาเสียงแข็ง.
จักรพรรดิพิษปัจจิมที่ฝืนยิ้มออกมาและกล่าวออกมาว่า,"ข้ารู้,ข้าเองก็ไม่ได้คิดที่จะขอความเมตตาให้กับเขา,ข้าต้องการเพียงจะบอกว่าตอนนี้ต้องช่วยจงซานก่อน."
"ใช่,ช่วยจงซานก่อน,นาจา,จะช่วยจงซานออกมาอย่างไร?
เจ้าบอกมา!"เห่าเม่ยลี่ที่กล่าวออกมาในทันที.
"ข้าเองก็ไม่รู้,บางที่ไท่ซ่างเหล่าจินอาจจะรู้วิธี! ทว่าตอนนี้เขาไม่ได้กลับลงมาจากตำหนักดุสิต!"นาจาที่กล่าวออกมาทันที.
"ใช่,เจ้าเฒ่าเจ้าเล่ห์นั่นไม่รู้ว่ามีปัญหาอะไร,คาดไม่ถึงเลยว่าคำสาปของเขาไม่มีผลต่อเขา,หากว่าข้าสามารถสาปเขาได้,คงแจ้งเขาได้แล้ว!"เห่าเม่ยลี่พยักหน้ารับ.
นาจา"..........!”
เหล่าเจ้าหน้าที่คนอื่นๆ"..........!”
"พวกเจ้าลองค้นหาวิธีให้ข้า,หรือหาคนที่สามารถแก้ค่ายกลนี้ได้,หรือแจ้งเฒ่าเจ้าเล่ห์ไท่ซ่างเหล่าจวินให้ได้!"เห่าเม่ยลี่กล่าว.
"รับ,รับทราบ!"เหล่าเจ้าหน้าที่คนอื่นๆที่รับคำในทันที.
"เจ้าล่ะ?"จักรพรรดิพิษปัจจิมสอบถาม.
"ข้าจะสาปเจ้าสารเลวนี่ต่อไป!"เห่าเม่ยหลี่ที่ชี้ไปยังหวางเจียนที่ถูกแช่เป็นรูปปั้นน้ำแข็ง.
-------------------------------------------------------------
หลี่เฮินเทียน.
จงซาน,โหลวซิงเฉิน,เซียนเซิงซือและหนานกงเซิ่งบนดวงดาราแห่งหนึ่ง.
"เซิ่งหวัง,ข้าพบปมแรกแล้ว,มีเส้นทางสามสาย,ข้าไม่สามารถตัดสินใจได้,ไม่รู้ว่าควรจะเลือกเส้นทางใด,เพราะว่าหากเลือกผิดจะต้องได้รับภัยพิบัติแน่นอน!"หนานกงเซิ่งที่ขมวดคิ้วไปมา.
จงซานที่หลับตาลง,พร้อมกับสัมผัสบัวหงหลวนที่หน้าผาก,นิมิตร้าย,นิมิตดี.
"ไปเส้นทางนี้!"จงซานที่ชี้ไปยังทิศทางเส้นหนึ่ง.
"รับทราบ!"
-----------
บนตำหนักดุสิต.
"ผ่านไปได้,พวกเขาสามารถผ่านปมแรกได้อย่างคาดไม่ถึง?"ไท่ซ่างเหล่าจวินที่กล่าวออกมาด้วยความประหลาดใจ.
หลังจากนั้น.
"ปมที่สอง,พวกเขาผ่านได้อีกอย่างงั้นรึ?"ไท่ซ่างเหล่าจวินที่ดวงตาร้อนผ่าวจดจ้องมองไปยังแผ่นที่ย่อขนาดค่ายกลอย่างตั้งใจ.
"ยังมีใครในศาลสวรรค์ที่มีความสามารถเหนือกว่าเหล่าจื่ออย่างงั้นรึ?"ราชันย์หยกที่เผยท่าทางสงสัย.
Chapter 1010 break array
闯阵
ทะลวงค่ายกล.
หลี่เหินเทียน!(สวรรค์แห่งการพลัดพราก!)
กลุ่มของจงซานทั้งสี่คนที่ยื่นอยู่บนอวกาศ.
เกี่ยวกับคนที่ส่งเขาเข้ามาในช่องทางดังกล่าว,ได้หายไปแล้ว,แน่นอนจงซานรับรู้ว่าเขาได้ถูกหลอกมายังสถานที่ดังกล่าวแน่นอน.
คนทั้งสี่ที่กวาดตามองไปยังอวกาศที่กว้างใหญ่,ขณะที่จ้องมองไปยังหนานกงเซิ่งด้วยแววตาจริงจัง.
"เซิ่งหวัง!"ทันใดนั้นหนานกงเซิ่งที่อุทานออกมา.
"มีอะไรอย่างงั้นรึ?"จงซานที่กล่าวออกมาด้วยความสงสัย.
"เฉินคิดว่านี่คือค่ายกลขนาดมโหฬาร!"หนานกงเซิ่งที่กล่าวออกมาด้วยท่าทางตื่นตระหนกเล็กน้อย.
"ขนาดกลขนาดมโหฬาร?"
"ใช่แล้ว,ทว่าสิ่งนี้ไม่มีทางที่จะเรียงตัวเป็นระเบียบเช่นนี้,ดูเหมือนว่าจะไม่ใช่ของวิเศษ,ทว่ากลับมีดวงดาราอยู่มากมาย,ดวงดาวแต่ละดวงยังมีขนาดใหญ่อีกด้วย!"หนานกงเซิ่งที่กล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม.
"หืม?"จงซานที่แววตาส่ายไปมา.
ไม่ต้องบอกเลยว่าค่ายกลนี้ซับซ้อนขนาดใหญ่,ด้วยการใช้ดวงดาราเป็นแหล่งพลัง,กับคนที่สามารถสร้างค่ายกลนี้ขึ้นมาได้,ต้องแข็งแกร่งมากมายขนาดใหนกัน?
"ค่ายกลอวกาลอย่างงั้นรึ?"จงซานที่จ้องมองอย่างจริงจังไปยังพื้นที่รอบๆ.
แม้นว่าจะมองเห็นดวงดาราที่นี่โคจรไปรอบๆแต่ก็ไม่ได้ผิดปรกติอะไรนัก,ทว่าจะให้กล่าวล่ะก็,การจะมองเห็นเป็นค่ายกลนั้น,จงซานยังไม่สามารถ,ต้องไม่ลืมว่าเขาไมได้ศึกษาเฉพาะเกี่ยวกับค่ายกลนั่นเอง.
จงซานที่ศึกษาค่ายกลไม่ได้ลึกซึ้งเท่ากับหนานกงเซิ่งนั่นเอง.
ในอดีตในโลกใบเล็กนั้น,ผู้ฝึกตนค่ายกลอันดับหนึ่ง,ชื่อเสียงนี้ไม่ได้มีแค่ชื่อแน่นอน.
"ใช่แล้ว,ค่ายกลนี้ดูลึกซึ้งล้ำลึกเป็นอย่างมาก,แม้นว่าจะดูเหมือนเพียงเล็กน้อย.......!"หนานกงเซิ่งที่ขมวดคิ้วไปมาเล็กน้อย.
"เหมือนอะไรอย่างงั้นรึ?"
"เซิ่งหวังก่อนหน้านี้เคยให้เฉินยืมแผนภูมิบรรพชนก่อเกิดมาก่อน,ค่ายกลอวกาศนี้,ดูคลายแผนภูมิบรรพชนก่อเกิดสองอันมาต่อกัน!"หนานกงเซิ่งกล่าว.
"ค่ายกลหลี่เฮินเทียน,เป็นค่ายกลขนาดใหญ่ที่แผนภูมิบรรพชนก่อเกิดมาต่อกันสองส่วนรึ?!"จงซานพยักหน้ารับ,ต้องไม่ลืมว่าที่ด้านในตำหนักดุสิตนั้นเป็นที่อยู่ของไท่ซ่างเหล่าจวิน.
"ไม่เพียงเท่านั้น!"หนานกงเซิ่งที่ส่ายหน้าไปมา.
"หืม?"
"ยังมีเงาของค่ายกลดาราสวรรค์บรรจบต้าโหลวอีกด้วย!"หนานกงเซิ่งกล่าวยืนยัน.
"หืม?"
จงซานที่เผยท่าทางประหลาดใจ,หากกล่าวว่าค่ายกลนี้เกี่ยวข้องกับปราชญ์เทพไท่ซ่างย่อมเป็นไปได้,ทว่าค่ายกลดาราสวรรค์บรรจบต้าโหลวของกู่เฉิงตงนั้น,มีอะไรเกี่ยวข้องอย่างงั้นรึ?
"มันมีความซับซ้อนกว่าค่ายกลดาราสวรรค์บรรจบต้าโหลวของกู่เฉิงตงมาก!"หนานกงเซิ่งกล่าวยืนยัน.
"อืม,ค่ายกลนี้ข้าไม่สามารถเข้าใจได้เลย,คงต้องให้เป็นหน้าที่เจ้า,สามารถที่จะทะลวงค่ายกลนี้ได้หรือไม่?"จงซานที่กล่าวออกมา.
"การจะทะลวงค่ายกลออกไปนั้นนับว่าเป็นเรื่องยาก,เฉินไม่สามารถรับประกันได้อย่างแน่นอน,เพราะว่าระหว่างทางนั้น,มีปมอยู่มากมาย,หากว่าเลือกผิดปมล่ะก็,จะถูกบดขยี้ด้วยพลังอำนาจของดวงดารา,แน่นอนว่าต้องแหลกเป็นชิ้นๆ,ถึงแม้ว่าจะเป็นข้าและทุกคนรวมกันก็ไม่สามารถต้านทานได้!"หนานกงเซิ่งกล่าว.
"กล่าวอีกอย่างหนึ่ง,ในการทะลวงนั้นมีเส้นทางที่ต้องเลือก?
และยังเป็นเส้นทางระหว่างความเป็นและความตายอย่างงั้นรึ?"จงซานสอบถาม.
"ครับ!"หนานกงเซิ่งกล่าวรับ.
"งั้น,หากว่าต้องเลือกระหว่างความเป็นและความตาย,ข้าจะเป็นคนตัดสินใจเอง!"จงซานที่กล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม.
"หืม,ครับ!"หนานกงเซิ่งที่ตอบรับในทันที.
หลายปีมานี้,เหล่าข้าราชบริพารต่างก็เชื่อมั่นในตัวจงซาน,ตราบเท่าที่เขาว่าสามารถจัดการได้,ไม่มีคำว่าพ่ายแพ้,ถึงแม้นว่าความเห็นดังกล่าวนั้นแทบจะเป็นไปไม่ได้.
เป็นหรือตาย? ผิดคือตาย! แม้ว่าผลลับจะน่าหวาดผวา,ทว่าทุกคนต่างก็มั่นใจในตัวจงซาน.
เมื่อเป็นคำสั่งจงซาน,ทุกคนก็ก้าวเข้าไปในค่ายกลขนาดมหึมาในทันที.
-----------------------------------------------------
หลี่เฮินเทียน,บนตำหนักบนอากาศที่ว่างเปล่า,มีประกายแสงวับวาว,ส่องประกายระยิบระยับ,บนท้องฟ้าที่ภาพเงาของเทพอสูร,พลังวิญญาณเซียนที่หนาแน่นเป็นอย่างมาก.
ตำหนักลอยฟ้าดุสิต,เป็นตำหนักโลหะลอยฟ้าที่ใหญ่โตเป็นอย่างมาก.
ตำหนักดุสิตได้รับการป้องกันอย่างเข็มแข็ง,ยากจะมีคนสามารถผ่านเข้ามาได้.
ตำหนักดุสิต,ที่จริงมีคนสองคน.
ที่ทิศใต้และทิศเหนือ,ทิศใต้เป็นราชันย์หยกเจ้าตำหนักถงหมิงเห่าเทียน,ส่วนทิศเหนือนั้นเป็นชายชราในชุดพรตเต่า,ไท่ซ่างเหล่าจวิน.
ทั้งสองคนที่ทำการปรุงยาอยู่,ทว่าอยู่ในขณะเตรียมการอยู่นั่นเอง,เผยให้เห็นเตาปรุงยาที่ว่างเปล่า.
ภายในเตาปรุงยานั้นยังมีน้ำที่กำลังเดือด,โดยมีเปลวไฟด้านล่างกำลังลุกโชน.
"ไม่ใช่เหล่าจื่อตงเฉินหรอกรึ?"ราชันย์หยกที่กล่าวสอบถามออกไป.
ไท่ซ่างเหล่าจวินที่ส่ายหน้าไปมาและกล่าวออกมาว่า,"ไม่ใช่!"
"ข้าเพิ่งได้ข่าวมาเมื่อเร็วๆนี้,ที่วิหารใต้เหล่ยหยินนั้น,อรหันต์อมิตาภะได้กลับมาแล้ว,ที่เทือกเขาเซิ่งซือเองศพทงเทียนก็กลับมาเคลื่อนไหว,นับจากที่นวีหว๋าได้ตกตายไป,เหล่าปราชญ์เทพทั้งหกต่างมีแผนการของตัวเอง,เหมือนว่าพวกเขาจะเริ่มปรากฏกายออกมาแล้ว!"ราชันย์หยกที่กล่าวอย่างเคร่งขรึม.
ไท่ซ่างเหล่าจวินที่จ้องมองไปยังราชันย์หยก,สูดหายใจลึกและกล่าวออกมาว่า,"ข้าเข้าใจสถานะของข้าดี,ก่อนหน้านี้ข้าเคยใช้อาคมศพผูกร่างไท่ซ่างในอดีต,ร่างหลักของข้าล่วงหล่นลงจากสวรรค์,การสร้างตัวแทนและสังหารไปก็นับเป็นสิ่งที่ชั่วร้าย,แต่ก็ทำให้ข้ารอดชีวิตมาได้,ด้วยการงดเว้นหลบเลี่ยงจากเทียนชูที่จะลงทัณฑ์ให้มีชีวิตได้,ร่างหลักของข้ากลับฟื้นคืนมามีชีวิต,ข้าที่เป็นต้นกำเนิด,ทว่าก็ไม่ใช่ทั้งหมด!"
"มีอะไรที่ไม่ใช่รึ?"ราชันย์หยกกล่าว.
"แม้ว่าข้าจะสร้างศพเทียม,ทว่าร่างหลักจริงก็ยังเป็นข้า,ความทรงจำทั้งหมดที่ได้หายไป,แม้นว่าร่างกายจะสูญสลาย,ร่องรอยเองก็ไม่ควรจะมีเหลืออยู่,และข้าเองก็สามารถอาศัยได้แต่บนตำหนักดุสิตสวรรค์ชั้น
33 เท่านั้น,ไม่สามารถก้าวไปยังสวรรค์ชั้น 36!
จนกระทั้งเมื่อครั้งข้าได้รับแผนภูติบรรพชนก่อเกิดกับมาจากต้าเจิ้ง,ท้ายที่สุดก็ทำให้ตัวเองเข้าใจสถานะของตัวเองเข้า!"ไท่ซ่างเหลางจวินที่ขมวดคิ้วไปมา.
"รับรู้สถานะของตัวเอง,แล้วมีอะไรเปลี่ยนแปลงอย่างงั้นรึ?"ราชันย์หยกที่ขมวดคิ้วไปมา.
"ไม่,ยังมีส่วนที่ยังขาดทว่าร่างหลักของข้าที่ล่วงหล่นนั้นได้ซ่อนมันเอาไว้ภายในค่ายกลสุดยอดหยินหยางพิสุทธิ์บดจักรวาล,บางที่อาจจะมีวิธีกลับคืนร่างเดิมหากสามารถทะลวงผ่านค่ายกลใหญ่นี้ได้!"ไท่ซ่างเหล่าจวินที่กล่าวตอบ.
"ยากเกินไปที่จะทะลวงผ่านได้!"ราชันย์หยกพยักหน้ารับ.
"ยากจนเกินไป! ค่ายกลนี้เป็นค่ายกลยากที่จะแก้ไข,7749 ปม,ขอเพียงแค่ล้มเหลวแค่ปมเดียวก็จะล้มเหลวทั้งหมด,แม้แต่เซียนบรรพชนก็ยากที่จะรอดพ้นจากความตาย!"ไท่ซ่างเหล่าจวินที่จ้องมองไปยังประกายแสงดวงดาราขณะกำลังปรุงยา.
"เป็นร่างหลักของท่านที่สร้างขึ้นมา,ไม่ช้าก็เร็วต้องแก้ได้ไม่ใช่รึ?
ถึงแม้ว่าจะทำไม่ได้,ก็สามารถขอให้คนอื่นช่วยได้."ราชันย์หยกที่ขมวดคิ้วไปมา.
"มีแต่ความตายที่รออยู่,เพราะว่าข้าได้ศึกษาและรับรู้ความลึกล้ำของมันได้,ไม่ว่าจะทางใหนก็มีแต่ความตาย,ไม่สามารถแก้ไขได้เลย,ตอนนี้ใต้สวรรค์แห่งนี้ผู้ฝึกตนค่ายกลที่เหนือกว่าข้านั้นมีน้อยมากๆ,ข้าไม่สามารถแก้ได้,แล้วใครจะแก้ได้กัน?"ไท่ซ่างเหล่าจวินที่ได้แต่ส่ายหน้าไปมา.
"เอ๊ะ?"ไท่ซ่างเหล่าจวินที่เผยท่าทางสงสัยออกมา.
สายตาของไท่ซ่างเหล่าจวินที่จับจ้องมองไปยังด้านล่าง,ราชันย์หยกเองก็ด้วย,บนดวงดาราที่เรียงกันนั้น,มีประกายแสงจากดวงดาวบางดวงที่กำลังขยับอยู่.
"นี่มัน?
มีใครบางคนกำลังทะลวงค่ายกลอยู่อย่างงั้นรึ?"ราชันย์หยกที่เผยท่าทางสงสัย.
"เป็นเช่นนั้น!"ท่างเหล่าจวินพยักหน้า,ก่อนที่จะยื่นมือไปข้างหน้าก่อนที่จะปรากฏแผนผังของค่ายกลขึ้นบนอากาศ,ขณะที่พวกเขาจดจ้องมองไปยังผังค่ายกลฉบับย่ออย่างสนใจ.
--------------------------------------------------------------------------
หลี่เฮินเทียน,ทางออกศาลสวรรค์.
เห่าเม่ยลี่,จักรพรรดิพิษ,นาจาและเหล่าข้าราชบริพารของศาลสวรรค์หลายคนที่ยืนอยู่บนอากาศที่ว่างเหล่า.
"จงซานคงจะเข้าไปแล้ว!"นาจาที่จ้องมองไปยังอากาศที่ว่างเปล่า,ใบหน้าที่เปลี่ยนเป็นซับซ้อนและอัปลักษณ์.
ใบหน้าของเห่าเม่ยลี่ที่เต็มไปด้วยความเย็นชา,จดจ้องมองไปรอบๆและกล่าวออกมาว่า,"กลับกันก่อน!"
"รับทราบ!"เหล่าข้าราชบริพารของศาลสวรรค์รับคำในทันที.
จากนั้นทุกคนที่กลับมายังห้องโถงทางเข้ากันอีกครั้ง.
หลังจากที่ทุกคนก้าวออกมาจากตำหนัก,เห่าเม่ยลี่ที่ไม่กล่าวอะไรออกมาแม้แต่คำเดียว,ใบหน้าที่เต็มไปด้วยความเย็นชา,จ้องมองไปยังรูปปั้นที่ด้านหน้าตำหนัก.
รูปปั้นน้ำแข็งที่เต็มไปด้วยปราณทมิฬหมุนวนไปทั่วอากาศ,แผ่นกระจายออกไปรอบๆนับสิบจั้ง,ภายในรูปปั้นน้ำแข็งนั้นสามารถมองเห็นภาพลางๆด้านใน,ร่างๆหนึ่งที่ส่องประกายสีเขียวออกมา,ดูเหมือนว่าจะได้รับพิษที่รุนแรงหนักหนาอีกด้วย.
"กงจูแปด,ข้าคิดว่าเจ้าควรจะแก้คำสาปให้กับหยางเจียนก่อนดีหรือไม่?"นาจาที่ฝืนยิ้มออกมา.
"ทำไมข้าต้องแก้คำสาปด้วย?"เห่าเม่ยลี่กล่าวด้วยเสียงเย็นชา.
"หยางเจียนนั้นเป็นเสนาธิการคนสำคัญของศาลสวรรค์,คงจะดูไม่ดีหากเขาถูกสาปเพราะเห็นแก่คนภายนอกมากกว่า!"นาจากล่าวเตือน.
"ชิ,ไม่ว่าอย่างไร,ข้าต้องการสาปมัน,ให้อวัยวะภายในทั้งห้าเต็มไปด้วยฟองพิษ,เน่าเปื่อยตั้งแต่เท้าขึ้นไป,ตกตายไร้ซึ่งทายาท!"เสียงของเห่าเม่ยลี่ที่กล่าวออกมาด้วยความโกรธ.
ระหว่างที่กล่าวนั้น,ภายในรูปปั้นน้ำแข็ง,ปราณทมิฬที่ดูเหมือนว่าจะมีมากมายยิ่งกว่าเดิม.
"ยาโถว!"จักรพรรดิพิษปัจจิมที่เอ่ยออกมาในทันที.
"ตาเฒ่า,อย่าได้กล่าวอะไร,อย่าได้ขอความเห็นใจให้กับเขา,ข้ารับรู้เรื่องนี้ดี,เป็นเขาที่แส่หาความอับยศให้กับตัวเอง,ตาเฒ่า,ศัตรูของเจ้าจงซานยังเคยแก้แค้นให้เลย,ตอนนี้เจ้าไม่จำเป็นต้องขอบคุณเทพแห่งภัยพิบัติ,ราชันย์หยก,ไท่ซ่างเหล่าจิน,การที่เจ้าสามารถฟื้นคืนชีพอีกครั้ง,เป็นเพราะข้าและจงซานต่างหาก!"เห่าเม่ยลี่ที่กล่าวออกมาเสียงแข็ง.
จักรพรรดิพิษปัจจิมที่ฝืนยิ้มออกมาและกล่าวออกมาว่า,"ข้ารู้,ข้าเองก็ไม่ได้คิดที่จะขอความเมตตาให้กับเขา,ข้าต้องการเพียงจะบอกว่าตอนนี้ต้องช่วยจงซานก่อน."
"ใช่,ช่วยจงซานก่อน,นาจา,จะช่วยจงซานออกมาอย่างไร?
เจ้าบอกมา!"เห่าเม่ยลี่ที่กล่าวออกมาในทันที.
"ข้าเองก็ไม่รู้,บางที่ไท่ซ่างเหล่าจินอาจจะรู้วิธี! ทว่าตอนนี้เขาไม่ได้กลับลงมาจากตำหนักดุสิต!"นาจาที่กล่าวออกมาทันที.
"ใช่,เจ้าเฒ่าเจ้าเล่ห์นั่นไม่รู้ว่ามีปัญหาอะไร,คาดไม่ถึงเลยว่าคำสาปของเขาไม่มีผลต่อเขา,หากว่าข้าสามารถสาปเขาได้,คงแจ้งเขาได้แล้ว!"เห่าเม่ยลี่พยักหน้ารับ.
นาจา"..........!”
เหล่าเจ้าหน้าที่คนอื่นๆ"..........!”
"พวกเจ้าลองค้นหาวิธีให้ข้า,หรือหาคนที่สามารถแก้ค่ายกลนี้ได้,หรือแจ้งเฒ่าเจ้าเล่ห์ไท่ซ่างเหล่าจวินให้ได้!"เห่าเม่ยลี่กล่าว.
"รับ,รับทราบ!"เหล่าเจ้าหน้าที่คนอื่นๆที่รับคำในทันที.
"เจ้าล่ะ?"จักรพรรดิพิษปัจจิมสอบถาม.
"ข้าจะสาปเจ้าสารเลวนี่ต่อไป!"เห่าเม่ยหลี่ที่ชี้ไปยังหวางเจียนที่ถูกแช่เป็นรูปปั้นน้ำแข็ง.
-------------------------------------------------------------
หลี่เฮินเทียน.
จงซาน,โหลวซิงเฉิน,เซียนเซิงซือและหนานกงเซิ่งบนดวงดาราแห่งหนึ่ง.
"เซิ่งหวัง,ข้าพบปมแรกแล้ว,มีเส้นทางสามสาย,ข้าไม่สามารถตัดสินใจได้,ไม่รู้ว่าควรจะเลือกเส้นทางใด,เพราะว่าหากเลือกผิดจะต้องได้รับภัยพิบัติแน่นอน!"หนานกงเซิ่งที่ขมวดคิ้วไปมา.
จงซานที่หลับตาลง,พร้อมกับสัมผัสบัวหงหลวนที่หน้าผาก,นิมิตร้าย,นิมิตดี.
"ไปเส้นทางนี้!"จงซานที่ชี้ไปยังทิศทางเส้นหนึ่ง.
"รับทราบ!"
-----------
บนตำหนักดุสิต.
"ผ่านไปได้,พวกเขาสามารถผ่านปมแรกได้อย่างคาดไม่ถึง?"ไท่ซ่างเหล่าจวินที่กล่าวออกมาด้วยความประหลาดใจ.
หลังจากนั้น.
"ปมที่สอง,พวกเขาผ่านได้อีกอย่างงั้นรึ?"ไท่ซ่างเหล่าจวินที่ดวงตาร้อนผ่าวจดจ้องมองไปยังแผ่นที่ย่อขนาดค่ายกลอย่างตั้งใจ.
"ยังมีใครในศาลสวรรค์ที่มีความสามารถเหนือกว่าเหล่าจื่ออย่างงั้นรึ?"ราชันย์หยกที่เผยท่าทางสงสัย.
ที่มาจากhttps://lnmtl.com/novel/immortality
#นิยาย เรื่องอมตะ #Immortality#นิยายแปลไทย
Author(s)
สนใจสนับสนุนพวกเรา,เข้าร่วมกลุ่ม VIP ====> Click
ปัจจุบันแปลจบแล้ว 1672 ตอน สนใจติดต่อเข้ากลุ่มลับได้ครับ
***เว็ปฟรีอัพ สองวันหนึ่งตอน
***กลุ่มลับ แปลจบแล้ว.
หวางเจียนคือใครอ่ะ
ตอบลบ