วันพุธที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563

Immortality Chapter 995 Excitement of Hao Meili

Immortality Chapter 995 Excitement of Hao Meili

นิยาย เรื่อง อมตะ ตอนที่ 995  ความตื่นเต้นของเห่าเม่ยลี.


Chapter 995 Excitement of Hao Meili

昊美兴奋

  ความตื่นเต้นของเห่าเม่ยลี.

 

ทวีปซือต้าปู่,ศาลสวรรค์ต้าหง,เป็นราชวงศ์ที่เห่าเทียนปกครองอยู่.

 

ราชวงศ์แห่งนี้เต็มไปด้วยประกายแสงสีทองที่ส่องสว่างมากมายไร้ที่สุด,มีภาพเงาของ ท้องฟ้า,แม้แต่เขตแดนที่พักอาศัยก็ด้วย.

 

ตำหนักหลิงเซียวเปานั้นนับเป็นสถานที่ทรงเกียรติที่สุดของทวีปซือตาปู,สระหยก,สวนท้อนิรันดร์และสถานที่ต่างๆอีกมากมาย.

 

บนตำหนักใกล้ๆสระหยกนั้น,เป็นที่พักอาศัยของเหล่าราชวงศ์ของศาลสวรรค์,ส่วนของทิศตะวันตกนั้นเป็นของราชวงศ์ฝ่ายสตรี,ดังเช่นกงจูและคนอื่นๆ.

 

ที่มุมหนึ่งในบริเวณดังกล่าว,มีตำหนักสีขาวบริสุทธิ์,ป้ายตำหนักที่ขาวล้วน,บนป้ายที่อักษรสลักไว้ว่า,"ตำหนักกงจูแปด"ลอยอยู่.

 

กงจูแปดหางศาลสวรรค์นั้น,หลายร้อยปีก่อนราชันย์หยกได้นำนางกลับมา.

 

กงจงแปดนั้นเหมือนว่าราชันย์หยกจะให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก,ตำราโบราณมากมายของศาลสวรรค์ได้ถูกส่งให้กงจูแปดได้ศึกษาทั้งหมด,แม้แต่เทพแห่งภัยพิบัติยังสอนวิชาให้กับนางอีกด้วย.

 

ซึ่งนับว่านางได้รับความเอ็นดูจากราชันย์หยกไม่น้อย,ทำให้เหล่ากงจูคนอื่นๆดวงตาร้อนผ่าวด้วยความอิจฉาไม่รู้ว่ากงจูแปดเห่าเม่ยลี่เป็นใครมาจากใหนกัน.

 

ในวันหนึ่ง,ภายในตำหนักของกงจูแปด.

 

เห่าเมยลี่พร้อมกับเสี่ยวจินที่เล่นสนุกสนานกล่าวล้อกันอย่างมีความสุข,ทว่าทันใดนั้นก็ปรากฏชายคนหนึ่งออกมารบกวน.

 

ชายคนหนึ่งที่มีใบหน้าหล่อเหลา,สวมชุดเกราะสีขาวล้วน,ดูอลังการยิ่งใหญ่เป็นอย่างมาก,ด้วยใบหน้าและรูปร่างของเขาแล้ว,ต้องทำให้เหล่าสตรีมากมายลุ่มหลงอย่างแน่นอน.

 

อย่างไรก็ตามที่หนาผากของเขานั้น,ดูเหมือนว่าจะมีตาเพิ่มขึ้นมาหนึ่งตา,จึงทำให้ดูเหมือนปิศาจมากกว่า.

 

"เห่าเม่ยลี่,ข้านั้นเป็นลูกพี่ลูกน้องของเจ้า! ทำไมต้องทำกับข้าเช่นนี้ด้วย!"ชายคนดังกล่าวที่เอ่ยปากพูดกับเห่าเม่ยลี่.

 

"ลูกพี่ลูกน้องรึ? เอ้อหลางเสิน,ข้าบอกเจ้าแล้ว,ที่นี่เป็นตำหนักที่ต้อนรับคนในครอบครัวข้าเท่านั้น,เจ้ากล้ารุกเข้ามา,คิดว่าข้าไม่กล้าทำร้ายเจ้ารึไง!"เห่าเม่ยลี่ที่ชำเลืองมองตาขวาง.

 

"องค์รักษ์คุ้มประตู,เข้ามาหาข้า!"เห่าเมยลี่ที่กล่าวด้วยความโกรธเกรี้ยว.

 

จากนั้น,องค์รักษ์สองคนที่วิ่งหน้าตาตื่นเข้ามา.

 

"กงจูแปด!"องค์รักษืทั้งสองคนที่แสดงความเคารพ.

 

"ข้าไม่ได้สั่งเอาไว้ก่อนหรือไง? ยกเว้นตาเฒ่า,ห้ามให้ใครเข้ามา,เจ้าดูแลประตูอย่างไร!"เห่าเหม่ยลี่ที่กล่าวออกมาด้วยความโกรธเกรี้ยว.

 

"กงจูแปด,เป็นเอ้อหลางเสิน,พวกเรา.......!"องค์รักษ์ทั้งสองคนที่เผยท่าทางอักอ่วน.

 

"เจ้าเป็นองค์รักษ์เฝ้าประตูให้ข้าหรือเขากัน? ชิ,พวกเจ้าทำงานบกพร่อง,จงรับโทษทัณฑ์ซะ,ข้าของสาปเจ้านับจากนี้ภายในร่างกายของเจ้าจะมีแต่ไอพิษ,หนึ่งร้อยปีหลังจากนี้พลังฝึกตนของพวกเจ้าจะไม่พัฒนาแม้แต่นิดเดียว!"เห่าเม่ยลี่ที่กล่าวตำหนิเสียงดัง.

 

"ผู้น้อยผิดไปแล้ว,กงจูโปรดอาภัยด้วย!"องค์รักษ์สองคนที่เร่งรีบคุกเข่าลงในทันที.

 

เพราะว่าในเวลานี้,องค์รักษ์ทั้งสองรับรู้ว่าตัวเองติดพิษแล้ว,ไม่ใช่ว่าพวกเขากำลังถูกคำสาปเล่นงาน.

 

องค์รักษ์ทั้งสองจำได้ดี,กงจูแปดนั้นมีลิ้นพิษ,มีพลังคำสาปไม่ได้ด้อยไปกว่าเทพแห่งภัยพิบัติ,ร้อยปีมานี้พลังฝึกตนไม่เพิ่มอย่างงั้นรึ? อีกทั้งยังติดพิษอีก?

 

ทันใดนั้น,องค์รักษ์ทั้งสองที่เต็มไปด้วยความเศร้าเสียใจ,แม้แต่เอ้อหลางเสินเจ้านายของพวกเขายังไม่ใส่ใจ.

 

"ไปให้พ้น,ตำหนักของข้าไม่ต้องการให้พวกเจ้ามาปกป้องแล้ว!"เห่าเม่ยลี่ที่กล่าวออกมาด้วยความไม่พอใจ.

 

"กงจูแปด,พวกเรา,พวกเรารู้ว่าผิดไปแล้ว,ขอให้ท่านอภัยกับพวกเรา....!"องค์รักษ์ทั้งสองที่เร่งรีบกล่าวออกมาทันที.

 

"ชิ,จงซานเคยบอกข้าว่าทุกคนต่างก็ต้องรับผิดชอบในหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด,สำหรับพวกเจ้าทำงานบกพร่องยังขอความเมตตากับข้าอีกรึ? หรือว่าต้องการให้ข้าลงโทษมากกว่านี้!"เห่าเม่ยลี่ที่กล่าวออกมาด้วยความโกรธเกรี้ยวเกรี้ยว.

 

"รับทราบ,พวกเราจะไปแล้ว!"ทหารองค์รักษ์ทั้งสองที่ฝืนยิ้มออกมาเร่งรีบถอยหนีออกไปด้วยความหวาดกลัว.

 

ขณะที่ออกมานั้น,องค์รักษ์ทั้งสองที่ลอบมองมายังเอ้อหลางเสินด้วยความโกรธเกรี้ยว.

 

เอ้อหลางเสินในเวลานี้ใบหน้าถึงกับเปลี่ยนเป็นอัปลักษณ์,นี่ไม่เท่ากับเห่าเม่ยลี่ตบหน้าเขาหรอกรึ? และยังกล่าวยกยอจงซานต่อหน้าเขาอีก,ใครคือจงซานกัน?

 

"เอาล่ะ,เอ้อหลางเสิน,เจ้าไปได้แล้ว!ที่นี่ไม่ต้อนรับเจ้า!"เห่าเมยลี่ที่กล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงเย็นชา.

 

"เห่าเม่ยลี่,ลูกพี่ลูกน้องทำให้เจ้าโกรธเกรี้ยวอย่างงั้นรึ? ข้านั้นหาได้มีเจตนา."เอ้อหลางเสินที่ฝืนยิ้มออกมา.

 

"ย่าโถว,ข้ากลับมาแล้ว,ครั้งนี้,ข้านำข่าวใหญ่มาด้วย!"ที่ด้านนอกตำหนักกงจูมีเสียงตะโกนที่ตื่นเต้นดังขึ้น.

 

ชายชราในชุดหลากสี,ใบหน้าท่าทางเหมือนกับปิศาจ,ในเวลานี้แสดงท่าทางตื่นเต้นออกมา,พร้อมกับเร่งรีบเข้ามา,อาจารย์ของเห่าเม่ยลี่,จักรพรรดิพิษปัจจิม,หลังจากที่เดินทางมายังศาลสวรรค์,จักรพรรดิพิษก็ถูกชุบชีวิตฟื้นคืนชีพขึ้นมา.

 

เห่าเม่ยลี่ที่ใบหน้าแสดงท่าทางจริงจังจดจ้องมองเอ้อหลางเสินอยู่,ทว่าได้ยินเสียงของจักรพรรดิพิษ,ใบหน้าของนางที่ดูผ่อนคลายขึ้น.

 

จักรพรรดิพิษที่ก้าวเข้ามา,เห็นเอ้อหลางเสินอยู่ด้านใน.

 

"เอ๊ะ,เอ้อหลางเสินก็อยู่ด้านในรึ?!"จักรพรรดิพิษที่แสดงท่าทางนอบน้อมเล็กน้อย.

 

"อืม,จักรพรรดิพิษปัจจิมเพิ่งมาจากด้านนอกอย่างงั้นรึ? มีข่าวดีอะไรอย่างงั้นรึ?"เอ้อหลางเสินที่หันหน้ากล่าวต่อจักรพรรดิพิษในทันที.

 

จักรพรรดิพิษปัจจิม,ความจริงยังก้าวไปไม่ถึงระดับเซียนด้วยซ้ำ,ปรกติไม่อยู่ในสายตาของเอ้อหลางเสิน,ทว่าใครบอกให้นางเป็นอาจารย์ของเห่าเม่ยลี่ล่ะ?

 

เอ้อหลางเสินนั้นรับรู้ว่าเห่าเม่ยลีที่ร่างกายที่ไม่ธรรมดา,จึงได้ทำทุกสิ่งทุกอย่าง,เพื่อหวังเห่าเม่ยลี่สนใจ,หวังว่าจะได้เป็นคู่บำเพ็ญทำให้ตัวเองสามารถก้าวไปสู่ยอดฝีมือที่แข็งแกร่งขึ้นไปอีก.

 

ทว่า,ภายในศาลสวรรค์นี้,มีเพียงจักรพรรดิพิษ,ราชันย์หยกและเทพแห่งภัยพิบัติที่นางยอมพูดคุยด้วย,คนอื่นๆนั้นนางหาได้สนใจ,ดังนั้นเรื่องนี้ทำให้เอ้อหลางเสินเป็นกังวลเช่นกัน.

 

"อืม,มีข่าวใหญ่อะไรถึงได้ตื่นเต้น?"เห่าเม่ยลี่ที่สอบถามออกมาในทันที.

 

จักรพรรดิพิษที่จ้องมองไปยังเอ้อหลางเสินครุ่นคิดครู่หนึ่ง,ทว่าเรื่องนี้ก็ไม่ใช่ความลับแต่อย่างใด.

 

"เข้าเพิ่งได้รับข่าวมา,เจ้ารู้ใหมว่าใครเดินทางมายังทวีปซือต้าปู?"จักรพรรดิพิษปัจจิมที่กล่าวออกมาด้วยความตื่นเต้น.

 

"ใครรึ? มีคนมากมายที่เดินทางมาทวีปซือต้าปู,ไม่ใช่ว่าเป็นจงซานรึ?!"เห่าเม่ยลี่ที่ลอบถามออกไป.

 

"เป็นจงซาน!"จักรพรรดิพิษที่เอ่ยออกมาด้วยความดีใจเล็กน้อย.

 

"?"เห่าเม่ยลีที่อ้าปากค้างด้วยท่าทางไม่อยากเชื่อ,จากนั้นก็เผยตื่นเต้นดีใจออกมา,"ตาเฒ่า,เจ้าไม่ได้หลอกข้าใช่ใหม?"

 

เอ้อหลางเสินที่ใบหน้าเปลี่ยนเป็นมืดมน,จงซาน,ใครคือจงซาน? แล้วจงซานเป็นอะไรกับนาง?

 

"ข้าจะหลอกเจ้าไปเพื่ออะไร? ข้าเพิ่งได้รับข่าวที่กระจายไปทั่วเทือกเขาเซิ่งซือ,ผู้ใต้บังคับบัญชาของจงซาน,ไล่สังหารซุนเฉินจนบรรพชนโพธิออกมาช่วยซุนเฉินเอาไว้,ไม่เช่นนั้นซุนเฉินคงตกตายไปแล้ว!"จักรพรรดิพิษที่กล่าวยืนยัน.

 

ไล่สังหารซุนเฉินอย่างงั้นรึ? ดวงตาของเอ้อหลางเสินที่หดเกร็ง,ความแข็งแกร่งของซุนเฉินนั้นเอ้อหลางเสินรู้ดี,คนแข็งแกร่งเช่นนั้น,เกือบถูกสังหารรึ?

 

"ข้าบอกแล้วว่าจงซานต้องมาหาข้า,ท้ายที่สุดเขาก็มา!"เห่าเม่ยลี่ที่เต็มไปด้วยความตื่นเต้นดีใจ,เผยความสุขออกมาอย่างปิดไม่มิด.

 

"ตาเฒ่า,ไป,พวกเราไปหาจงซานกัน!"เห่าเม่ยลี่ที่อารมณ์ดีเป็นอย่างมาก.

 

"แต่ว่า,ไม่ใช่ว่าเจ้าไม่ได้รับอนุญาตให้ออกจากศาลสวรรค์หรอกรึ?"จักรพรรดิพิษปัจจิมกล่าว.

 

"ราชันย์หยกบัดซบ,ทำไมไม่ให้ข้าออกไปกัน!"ใบหน้าของเห่าเม่ยลี่ที่แสดงท่าทางไม่พอใจ.

 

ใบหน้าของเอ้อหลางเสินถึงกับกระตุก,ราชันย์หยกบัดซบ?,บางที่ในศาลสวรรค์คงมีเพียงเห่าเม่ยลีที่กล้าพูดเช่นนี้.

 

"ราชันย์หยกทำเพื่อความปลอดภัยของเจ้า,ด้วยความแข็งแกร่งของเจ้านั้นยังไม่พอ,ออกไปก็มีแต่อันตราย,นอกจากนี้ไม่รู้ว่าจงซานเดินทางไปใหน,พวกเราจะไปหาที่ใหนกัน? ในเมื่อจงซานมาแล้ว,เขาจะต้องมายังศาลสวรรค์แน่!"จักรพรรดิพิษกล่าว.

 

"อืม,ดี,เช่นนั้นข้าจะรอ!"

 

ภายในศาลสวรรค์แห่งนี้,ดูเหมือนว่าจะมีเพียงแค่จักรพรรดิพิษที่พอจะกล่าวเตือนเห่าเม่ยลี่ได้.

 

"เอ้อหลางเสิน,เจ้ายังไม่ไปอีก!"เห่าเม่ยลี่ที่จ้องมองไปยังเอ้อหลานเสินด้วยอารมณ์ขุ่นเคือง.

 

จากนั้นเอ้อหลางเสินที่กล่าวลาจักรพรรดิพิษและบินจากไปในทันที.

 

หลังจากที่ออกมาจากตำหนักกงจู,ใบหน้าของเอ้อหลางเสินที่เปลี่ยนเป็นมืดมน,และกล่าวออกมาด้วยเสียงเย็นชา,"จงซานอย่างงั้นรึ?"

------------------------------------------------------------------

 

เมืองเฟิงตู!

 

ขณะที่เซียนเซิงซือกับจงซานกำลังพูดคุยกันอยู่นั้น,หนานกงเซิ่งและโหลวซิงเฉินก็เร่งรีบกลับมา.

 

"เซิงหวังพวกเราได้ไปสอบถามแล้ว,เส้นทางแม่น้ำเหลืองที่จะเปิดนั้นคือ,นรกแห่งเสียงหวีดร้องอย่างหนัก(มหาโรรุวนรก),ซึ่งเป็นหนึ่งในซือตานทั้งสิบ!"หนานกงเซิ่งที่เอ่ยรายงาน.

 

"อืม!"จงซานพยักหน้ารับ.

 

"แท่นบูชาหลักของตำหนักยามาหนึ่งในซือตาน,ทว่าข้าได้ยินมาว่าซือตานทั้งสิบนั้น,รวมทั้งตำหนักสังสารวัฏแล้วในภพหยินพบเพียงแค่เก้าแห่งเท่านั้น,ดูเหมือนอีกแห่งหนึ่งนั้นไม่มีร่องรอย,อย่างไรก็ตาม,ตำหนักยามานี้มีอ๋องยามาเป็นคนดูแลอยู่!"หนานกงเซิ่งกล่าว.

 

"อืม!"

 

"เส้นทางน้ำพุเหลือง,เป็นนรกแห่งเสียงหวีดร้องอย่างหนัก(มหาโรรุวนรก) 16 ชั้นดูเหมือนว่าจะเป็นนรกขนาดเล็กเท่านั้น,มีเพียงแค่ชั้นที่ 17 และชั้นที่ 18 เท่านั้น,ถึงจะมีบ่อโลหิตวิญญาณปิศาจ,ที่เซียนเซิงซือกล่าวถึงและมีอ๋องตี้จางเป็นคนดูแล,ดูเหมือนว่าที่นั่นจะเต็มไปด้วยกลิ่นอายแห่งความโชคร้ายแม้แต่ภูติผียังไม่กล้าเข้าไป!"หนานกงเซิ่งกล่าว.

 

"อ๋องตี้จั้ง?"จงซานที่ขมวดคิ้วไปมา.

 

"นรกแห่งนี้พิเศษเป็นอย่างมาก,แม้แต่อรหันต์ของวิหารใต้เหล่ยหยินยังสาบานว่าจะไม่ไปเยือนสถานที่ดังกล่าว,สี่ปู่ซาที่แข็งแกร่งที่สุด,ยังไม่สามารถหนีออกมาจากบ่อโลหิตวิญญาณปิศาจได้,พื้นที่แห่งนี้มีวิญญาณปิศาจมากมาย,ได้ยินมาว่าหากไม่ได้รับอนุญาตจากอ๋องตี้จางก็ไม่สามารถไปได้,ดูเหมือนว่าจะมีเพียงแค่ประมุขของวิหารต้าเหล่ยหยินเท่านั้นที่มีคุณสมบัติพอ,อย่างไรก็ตามความแข็งแกร่งของอ๋องตี้จางนั้นได้ข่าวมาว่าเขาอยู่ในระดับเซียนบรรพชนแล้ว!"หนานกงเซิ่งครุ่นคิดและกล่าวออกมา.

 

"ดูเหมือนว่าการจะเข้าไปในบ่อโลหิตวิญญาณปิศาจนั้น,จะต้องได้รับอนุญาตจากอ๋องตี้จางอย่างงั้นรึ?"จงซานครุ่นคิดและกล่าวออกมา.

 

"เซิ่งหวังโปรดวางใจ,อ๋องตี้จางนั้น,เฉินสามารถโน้มน้าวเขาได้!"เซียนเซิงซือที่กล่าวออกมาในทันที.

 

"หืม?"ทุกคนที่จ้องมองไปยังเซียนเซิงซือด้วยความประหลาดใจ.

 

"ความจริงหากว่าเป็นสายโลหิตของอ๋องตี้จาง,แม้ว่าเฉินจะไม่สามารถสั่งการเขาได้,ทว่าก็สามารถที่จะขอร้องเขาได้อย่างไม่ยากแน่นอน!"เซียนเซิงซือที่กล่าวยืนยัน.

 

"อืม!"จงซานพยักหน้ารับ.

 

โหลวซิงเฉินและหนานกงเซิ่งจ้องมองไปยังเซียนเซิงซือด้วยความลึกล้ำ.

 

ภูมิหลังของเซียนเซิงซือนั้นดูแปลกประหลาด,แม้ว่าจะไม่เคยได้ยินเกี่ยวกับเรื่องของเซียนเซิงซือในโลกใบใหญ่,ทว่าดูเหมือนว่าเขาจะรู้จักกับอ๋องตี้จางมานานแล้วอย่างงั้นรึ?

 

อ๋องตี้จั้งนั้นเป็นคนที่ลึกล้ำเป็นอย่างมาก,ว่าแต่เขามีส่วนเกี่ยวข้องอะไรกัน?

 

อย่างไรก็ตามทุกคนเองก็ไม่ได้สอบถามเกี่ยวกับความลับของเซียนเซิงซือ,หากเขาไม่เล่า,พวกเขาก็จะไม่ถาม,อีกทั้งดูเหมือนว่ามันจะเป็นเรื่องที่ไม่ใคร่ดีนัก,ดังนั้นทุกคนจึงไม่ได้เอ่ยถึงมัน.

 

"อืม,เซิ่งหวัง,เฉินเองก็ได้ข่าวหนึ่งมาด้วย!"โหลวซิงเฉินที่เอ่ยปากออกมาในทันที.

 

"หืม?"

 

"อ๋องยามาจะจัดงานแต่งงานใหญ่เร็วๆนี้,ตอนนี้ข่าวได้กระจายไปยังเหว่ยเซียนไปทั่ว,เหล่ายอดฝีมือมากมายต่างก็เดินทางไปเพื่อร่วมยินดีกับอ๋องยามา!"โหลวซิงเฉินกล่าว.

 

"อ๋องยามากำลังจะแต่งงานใหญ่?"จงซานที่เผยท่าทางแปลกประหลาด,ก่อนที่จะยกน้ำยาขึ้นจิบ.

 

"ครับได้ยินมาว่าอ๋องยามากล่าวว่าเป็นรักแรกพบ เพียงแค่เห็นนางก็รักแล้ว,สตรีดังกล่าวน่าจะมีนามว่า,เนียนโหยวโหยว!"โหลวซิงเฉินที่ครุ่นคิดและกล่าวออกมา.

 

"เพล้ง!"

 

ถ้วยน้ำชาที่ล่วงหล่นกระแทกโต๊ะเสียงดัง.

 

คนทั้งสามที่จ้องมองกันและกันด้วยท่าทางงงวย,มีอะไรอย่างงั้นรึ?

 

"เจ้ามั่นใจนะว่ามีนามว่าเนียนโหยวโหยว?"จงซานที่ขมวดคิ้วไปมา.

 

"ครับ,เฉินสามารถยืนยันได้!"โหลวซิงเฉินที่กล่าวยืนยันอีกครั้ง.

 

หนานกงเซิ่งและเซียนเซิงซือจ้องมองไปยังจงซาน.

 

"เซิ่งหวัง,บางทีอาจจะเป็นคนที่มีชื่อซ้ำกันก็เป็นได้!"เซียนเซิงซือกล่าว.

 

"อืม,ดูเหมือนว่า,พวกเราจะต้องเดินทางไปจริงๆแล้ว! หลังจากนี้สามวัน,ประตูนรกเปิดพวกเราจะเดินทางผ่านแม้น้ำเหลืองผ่านเข้าไปในนรกกัน!"จงซานที่กล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม.

 

 "ครับ!"


***********************************

 

มหานรกแปดภูมิ

1. สัญชีวนรก ("นรกแห่งการเกิดอีกหน") 等活地獄 : นรกขุมนี้มีผนังทำจากเหล็กร้อนกั้นรอบด้าน มองไปไม่เห็นขอบ มีอาณาเขตไพศาลยิ่งนัก และทั่วบริเวณมีไฟลุกโชนหาที่ว่างเว้นมิได้เลย ในไฟนรกนี้ปรากฏอาวุธต่าง ๆ เช่น หอก ดาบ มีด สัตว์ในขุมนี้จะวิ่งพล่านอยู่บนไฟนรกดังกล่าว เมื่อวิ่งแล้วก็กระทบกับอาวุธเหล่านั้นได้รับบาดเจ็บเป็นนักหนา เมื่อถึงแก่ชีวิตก็ดี หรืออวัยวะขาดไปก็ดี ร่างกายจะกลับมามีพลานามัยสมบูรณ์อีกครั้ง เพื่อให้รับโทษในขุมนี้จนกว่าจะสิ้นโทษ สัตว์นรกนี้ต้องรับโทษเป็นเวลาสี่พันห้าร้อยล้าน (4,500,000,000) ปีมนุษย์ หรือห้าร้อยปีนรก เหตุที่ทำให้ไปตกในนรกใหญ่ขุมนี้ คือ บาป หรือ อกุศลกรรมที่สัตว์นรกเหล่านั้นกระทำไว้ เมื่อครั้งเป็นมนุษย์ คือ ได้ฆ่าสัตว์ ทรมานสัตว์ ใหได้รับทุกขเวทนา ด้วยตนเองบ้าง มอบอาวุธให้คนอื่นทำแทนตนบ้าง เป็นโจรปล้นฆ่าเจ้าทรัพย์บ้าง บางคนเป็นข้าราชการมีตำแหน่งใหญ่โต แต่ขาดความยุติธรรม กดขี่ข่มเหงชาวบ้าน ใช้หน้าที่โดยมิชอบ โกงเอาเรือกสวนไร่นาของชาวบ้านบ้าง หรือตลอดจนถึงโกงที่ดินวัด หรือกลั่นแกล้งสั่งย้ายข้าราชการผู้น้อย โดยไม่เป็นธรรม ทำให้ผู้อื่นพลัดพรากจากที่อยู่ที่ทำกิน บาปกรรมเหล่านี้เป็นต้นที่ส่งผลให้เขาต้องไปตกนรกในสัญชีวนรก

2. กาฬสุตนรก ("นรกด้ายดำ") 黒縄(こくじょう)地獄 : มีลักษณะเพิ่มเติมจากนรกขุมที่แล้วคือ สัตว์ในขุมนี้จะถูกตีเส้นบนเนื้อตัวโดยนายนิรยบาลด้วยการนำเส้นเหล็กเผาไฟมานาบเป็นลายบนตัว และจะถูกผ่า เลื่อย หรือตัดตามเส้นนั้น สัตว์นรกนี้ต้องรับโทษเป็นเวลาสามหมื่นหกพันล้าน (36,000,000,000) ปีมนุษย์ หรือหนึ่งพันปีนรก

3. สังฆาฏนรก ("นรกตีกระทบ") 衆合(しゅごう、しゅうごう)地獄 : มีลักษณะเพิ่มเติมจากนรกขุมที่แล้วคือ นรกนี้จะห้อมล้อมไปด้วยภูเขาเหล็กลูกมหึมามีไฟลุกท่วมคอยกลิ้งเข้ากระทบกระแทกสัตว์นรกจนเหลวเป็นวุ้นเลือด ผู้วิ่งหนีมิเข้าไปในระหว่างเขานี้จะถูกนายนิรยบาลไล่แทงไล่ฟันเป็นต้น เมื่อตายแล้วก็กลับเป็นปรกติเพื่อรับโทษอีกครั้งเหมือนในขุมก่อน ๆ สัตว์นรกนี้ต้องรับโทษเป็นเวลาสองแสนเก้าหมื่นล้าน (290,000,000,000) ปีมนุษย์ หรือสองพันปีนรก

 

 

 

4. โรรุวนรก ("นรกแห่งเสียงหวีดร้อง") 叫喚地獄 : มีลักษณะเพิ่มเติมจากนรกขุมที่แล้วคือ ใจกลางขุมมีเหล่าดอกบัวกลีบเป็นเหล็กมีไฟลุกโชน สัตว์นรกจะถูกกรรมดลใจให้ดำผุดลงไปในดอกบัวเหล่านั้น กลีบบัวก็จะงับอวัยวะต่าง ๆ เช่น ศีรษะ แขน และขา เป็นต้น เมื่องับไว้แล้วก็ไม่ปล่อย ไฟจากบัวก็จะเผาผลาญสัตว์นั้น สัตว์นรกนี้ต้องรับโทษเป็นเวลาเก้าแสนสามหมื่นหกพันล้าน (936,000,000,000) ปีมนุษย์ หรือสี่พันปีนรก

5. มหาโรรุวนรก ("นรกแห่งเสียงหวีดร้องอย่างหนัก") 大叫喚地獄 : มีลักษณะเพิ่มเติมจากนรกขุมที่แล้วคือ เหล่าบัวมิได้มีแต่ในกลางขุม แต่ขึ้นอยู่ทั่วไป และกลีบบัวนั้นเป็นกรด ช่องว่างที่บัวมิได้งอกจะมีอาวุธลุกเป็นไฟ เช่น แหลน หลาว หอก เป็นต้น งอกขึ้นมาแทน บัวจะไม่งับสัตว์นรกไว้แน่นนักเพื่อให้ดิ้นพร่านไปถูกอาวุธที่งอกขึ้น เมื่อดิ้นไปมาจนตกลงสู่พื้นแล้วจะมีสุนัขร้ายเข้ามากัดทึ้งจนเหลือแต่กระดูก และกลับมาสมบูรณ์เพื่อรับโทษใหม่อีกจนกว่าจะหมดโทษเหมือนในนรกที่แล้ว ๆ มา สัตว์นรกนี้ต้องรับโทษเป็นเวลาเจ็ดหมื่นสามพันล้านเจ็ดแสนสองหมื่นแปดพันล้านล้าน (73,000,728,000,000,000) ปีมนุษย์ หรือแปดพันปีนรก

6. ตาปนรก ("นรกแห่งความร้อน") 焦熱地獄 / 炎熱地獄 : มีลักษณะเพิ่มเติมจากนรกขุมที่แล้วคือ นรกนี้มีไฟลุกท่วม ในไฟมีอาวุธ เช่น หอก แหลน หลาว เป็นต้น คอยพุ่งเข้าทิ่มแทงสัตว์นรกขึ้นตั้งไว้ย่างไฟ เมื่อเนื้อหนังมังสาของสัตว์นั้นกรอบหลุดร่วงลงมาจะยังให้สัตว์นั้นร่วงลงมาด้วย ครั้นร่วงแล้วจะถูกสุนัขขนาดใหญ่เท่าช้างวิ่งเข้ามากัดทึ้งจนเหลือแต่กระดูก สัตว์ใดหนีสุนัขได้จะถูกนายนิรยาลจับทิ่มหอกแล้วตั้งขึ้นย่างอีกครั้ง และเช่นเดิม เมื่อตายแล้วจะลับมาสมบูรณ์เพื่อรับโทษใหม่อีกจนกว่าจะหมดโทษ สัตว์นรกนี้ต้องรับโทษเป็นเวลา สองพันเก้าร้อยสี่สิบเจ็ดล้านสามแสนเก้าหมื่นสองพันล้านล้านปีมนุษย์ (2,947,392,000,000,000) หรือหนึ่งหมื่นหกพันปีนรก

7. มหาตาปนรก ("นรกแห่งความร้อนอย่างหนัก") 大焦熱地獄 / 大炎熱地獄 : มีลักษณะเพิ่มเติมจากนรกขุมที่แล้วคือ ไฟนรกนั้นจะพุ่งซัดเข้ามาจากกำแพงนรกรอบด้าน และใจกลางนรกก็จะมีภูเขาเหล็กลุกเป็นไฟ เมื่อสัตว์นรกหนีไฟที่พุ่งมาโดยปีนขึ้นไปบนเขาก็จะถูกย่างสด และเมื่อร่วงลงมาก็จะถูกอาวุธร้อนที่พุ่งขึ้นมาจากพื้นเสียบตัวตั้งไว้ย่างไฟอีกเหมือนนรกขุมที่แล้ว สัตว์นรกนี้ต้องรับโทษเป็นเวลาครึ่งกัลป์หรือคือเวลาอันประมาณมิได้

8. อเวจีมหานรก ("นรกอันมิขาดสาย") 阿鼻地獄 / 無間地獄 : มีลักษณะเพิ่มเติมจากนรกขุมที่แล้วคือ นรกขุมนี้มีกำแพงหกด้านอยู่ขุมเดียว โดยสัตว์นรกจะเคลื่อนไหวร่างกายมิได้เลยเพราะถูกอาวุธร้อนตรึงไว้กับพื้นหมดในท่ายืนกางแขนและขา โดยมีไฟลุกท่วมย่างสัตว์นั้น นอกจากนี่ยังมีเตาเผาใหญ่ นายนิรยบาลจะจับสัตว์โยนลงไปย่างในเตานั้นด้วย สัตว์นรกนี้ต้องรับโทษเป็นเวลาหนึ่งกัลป์หรือคือเวลาอันประมาณมิได้






ที่มาจากhttps://lnmtl.com/novel/immortality

#นิยาย เรื่องอมตะ #Immortality#นิยายแปลไทย
Author(s)


สนใจสนับสนุนพวกเรา,เข้าร่วมกลุ่ม VIP ====> Click

ปัจจุบันแปลจบแล้ว 1672 ตอน สนใจติดต่อเข้ากลุ่มลับได้ครับ

***เว็ปฟรีอัพ สองวันหนึ่งตอน
***กลุ่มลับ แปลจบแล้ว.

 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น