Immortality Chapter 993 The under the heavens first treasure
นิยาย เรื่อง อมตะ ตอนที่ 993 ของวิเศษลำดับหนึ่งในใต้หล้า.
Chapter 993 The under
the heavens first treasure
天下第一宝
ของวิเศษลำดับหนึ่งในใต้หล้า.
โหลวซิงเฉินที่กลับมาอยู่ข้างจงซาน,ในเวลานี้,ไม่มีใครกล้าดูแคลนคนทั้งสี่อีกแล้ว.
พื้นที่รอบๆที่กลายเป็นเงียบงัน,บนอวกาศ,สองล้ำแสงที่เข้าปะทะกันอย่างหนักหน่วงรุนแรง,เห็นชัดเจนว่าการต่อสู้ของปราชญ์เทพนั้นไม่มีทีท่าทางว่าจะจบง่ายๆ.
"เซิ่งหวัง,ตอนนี้จะทำอย่างไร?
สายตาของทุกคนได้จดจ้องมองมายังพวกเรา!"โหลวซิงเฉินที่ขมวดคิ้วไปมา.
แน่นอนจงซานก็รับรู้ว่าคนมากมายที่จ้องมองมายังพวกเขา,เวลานี้,ต้องการจับปลาน้ำขุ่นก็คงจะยากไปแล้ว.
"เมื่อน้ำใสอยู่ก็ต้องทำให้น้ำขุ่นก่อน!"จงซานกล่าว.
จากนั้น,จงซานที่ก้าวบินออกไป,คนของเขาก็บินตามเช่นกัน.
กลุ่มของจงซานจากไปแล้ว,เหล่าผู้ฝึกตนมากมายที่จับจ้องมองเขาอย่างสนใจ,นี่พวกเขาต้องการทะลวงค่ายกลอย่างงั้นรึ?
ไม่มีใครกล้าขวางทาง,ทว่าสายตาของพวกเขาที่จดจ้องมองตาเขม็ง,หลายคนที่ทำการคาดเดา,ด้วยท่าทางร้อนใจ.
สิ่งที่เหล่าผู้ฝึกตนที่อยู่รอบๆคาดหวังในเวลานี้คือทะลวงเข้าไปในค่ายกล,ทำให้สายตาของผู้คนมากมายจดจ้องมองดูท่าที่ของคนที่อยู่รอบๆที่จะเป็นผู้นำ.
เพราะไม่มีใครคิดว่าภายในตำหนักไป่โหยวนั้นว่างเปล่า.
กลุ่มของจงซานที่บินตระเวนไปรอบๆเทือกเขาเซิ่งซือ.
อ๋องพันปิศาจที่ขมวดคิ้วไปมา,หลั่นเติ้งและหมี่เล่อเองก็จดจ้องมองไปยังรอบๆด้วยความสนใจ,ก่อนที่จะเกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้น.
"ครืนน~~~~~~~~~~~~~~~~~~~!”
พื้นที่บริเวณใกล้เคียงของเทือกเขาเซิ่งซือ,ปรากฏหมอกสีชมพูปกคลุมพื้นที่รอบๆ,หลังจากที่หมอกสีชมพูหายไป,คนทั้งสี่ก็หายไปในทันที.
พื้นที่รอบๆของเทือกเขาเซิ่งซือที่ปราณศพสั่นไหวไปมา,จากนั้น,คนทั้งสี่คนก็หายไปในทันที.
คนทั้งสี่หายไปแล้ว,สายตาของทุกคนจดจ้องมองมาในทันที,พวกเขาเข้าไปด้านในอย่างงั้นรึ?
ทุกอย่างที่เปลี่ยนเป็นนิ่งงัน,ห้าลมหายใจ,สิบลมหายใจ,ยี่สิบลมหายใจ,ร้อยลมหายใจ!
หลังจากผ่านไปหนึ่งก้านธูป,ทุกคนที่มีแผนต้องการเข้าไปในตำหนักไป่โหยวถึงกับนั่งไม่ติดกันเลยทีเดียว!
คนทั้งสี่เข้าไปด้านในแล้วรึ?
นี่พวกเขาได้ของวิเศษแล้วอย่างงั้นรึ?
ทิศเหนือ,ทันใดนั้นก็มีคนมากมายกว่าห้าสิบคน,ที่สวมชุดบัณฑิต.
เป็นกลุ่มของนิกายหงหรู,ได้เคลื่อนที่ในทันที.
เหล่าศิษย์ของนิกายหงหรูที่เริ่มลงมือแล้วทำให้กลายเป็นตัวจุดชนวนให้กับเหล่าผู้ฝึกตนที่อยู่รอบๆ,เหล่าผู้ฝึกตนมากมายที่เริ่มกระจายออกไปรอบๆ,รวมทั้งอ๋องพันปิศาจ,หลั่นเติ้งและหมี่เหล่ยด้วย.
เหล่าผู้ฝึกตนมากมายที่ต่างก็พลุ้งพล่าน,พุ่งตรงไปยังเทือกเขาเซิ่งซือ.
"ตูมมมม!"
คนในชุดดำเป็นคนแรกที่ลงมือเขาได้ทิ้งระเบิดเข้าไปในค่ายกล.
เกิดระเบิดเสียงดังสนั่นหวั่นไหว,ปรากฏปราณกระบี่มากมายที่โจมตีออกมาจากภายในค่ายกล.
จากนั้น,เหล่าผู้ฝึกตนมากมายต่างก็นำของวิเศษออกมา,พร้อมกับเริ่มโจมตีออกไปพร้อมๆกัน.
"ตูมมม~~~~~~~~~~~!”
รอบๆค่ายกลนั้นมีเสียงระเบิดดังสนั่นเป็นระยะๆ,ทว่าค่ายกลกระบี่สังหารเซียนของซานั้นแข็งแกร่งมาก,ไม่มีแม้แต่ร่องรอยเลยแม้แต่น้อย.
ทว่าขณะที่เหล่าผู้ฝึกตนมากมายกำลังโจมตีออกไปไม่หยุดนั้น,ทันใดนั้นก็มีคนหยุด.
หลังจากนั้นก็ส่งผลต่อคนอื่นๆไปในทันที,ทำให้ทุกคนหยุดลงในทันที,ก่อนที่จะจ้องมองไปยังทิศๆทางหนึ่งพร้อมๆกัน.
ภายในหุบเขาดังกล่าวนั้น,กลุ่มของจงซานที่ยืนอยู่ที่ตรงนั้น,จดจ้องมองพวกเขาที่เข้าโจมตี,ค่ายกลกระบี่สังหารเซียน! ด้วยท่าทางสบายๆไร้ซึ่งความกังวล.
"ไม่ใช่ว่าจงซานเข้าไปในเทือกเขาเซิ่งซือก่อนหน้านี้ไม่ใช่รึ?"เหล่าผู้ฝึกตนมากมายที่กลายเป็นงงงวย.
จากนั้นผู้ฝึกตนทั้งหมดต่างก็พูดไม่ออกราวกับตระหนักอะไรบางอย่างได้.
หลายๆคนที่เริ่มต่อว่าต่อขานในใจ,จงซานที่จงใจให้พวกเขารับรู้ว่าตัวเองเข้าไปด้าน,ล่อล่วงให้พวกเขาร้อนรนทะลวงค่ายกล,หลังจากที่ทุกคนทำลายค่ายกลแล้ว,เขาก็จะเป็นเหมือนกับชาวประมงที่คอยฉวยผลประโยชน์.
กับท่าทางนิ่งสบายใจของจงซานทำให้ทุกคนกระจายออกไปหยุดเร่งรีบทะลวงค่ายกลในทันที.
หลายๆคนที่จ้องมองอย่างชั่วร้ายไปยังจงซาน.
"ไป!"จงซานที่ส่ายหน้าไปมา.
จงซานไม่สนใจสายตาของทุกคน,ก่อนที่จะก้าวนำคนทั้งสามจากไปในทันที.
"ไม่ใช่ว่าจงซานต้องการเข้าไปในเทือกเขาเซิ่งซืออย่างงั้นรึ?"เหล่าผู้ฝึกตนที่เต็มไปด้วยความโกรธเกรี้ยวกลายเป็นงงงวย.
ความจริงแล้วจงซานไม่ได้จากไปที่แท้จริง,เขาที่หาสถานที่ซ่อนตัว,แม้นว่ามันจะเป็นอะไรง่ายๆ,ทว่าจำเป็นต้องให้เหล่าผู้ฝึกตนมากมายเห็นพวกเขาว่าได้จากไปแล้ว.
เมื่อจงซานหายไปลับตาแล้ว,เหล่าผู้ฝึกตนก็ไม่สนใจอีกต่อไป,ทว่าตอนนี้สิ่งที่พวกเขาสนใจที่สุดก็คือของวิเศษในเทือกเขาเซิ่งซือ.
จงซานและผู้ใต้บังคับบัญชาอีกสามคนที่,คนห้าเทือกเขาที่มีปากทึบ,หลบให้พ้นกับสายตาทุกคน.
"เอาล่ะ,ตอนนี้พวกเรากลับไปกันได้แล้ว,ข้าจะพาพวกเจ้าเข้าไปในเทือกเขาเซิ่งซือ!"จงซานที่เอ่ยออกมาในทันที.
"ทำไมก่อนหน้านี้เซิ่งหวังไม่เข้าไปอย่างงั้นรึ?"โหลวซิงเฉินที่แสดงท่าทางสงสัย.
"ก่อนหน้านี้นะรึ?
ก่อนหน้านี้มีสายตาคนมากมายที่จับจ้องและต้องการเข้าไปในตำหนักไป่โหยว,ซึ่งแตกต่างกับการที่พวกเขาลอบเข้าไปเงียบๆด้านใน,นอกจากนี้,เจ้าลองคิดดู,หากว่าเราได้สิ่งของอะไรก็ตามของซาออกมา,สิ่งดังกล่าวนั้นจะกลายเป็นที่จับจ้องมองของคนทั่วหล้า,แล้วคิดว่าพวกเราจะหนีออกจากทวีปซือต้าปู่ได้อย่างงั้นรึ?"จงซานที่กล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม.
"ครับ!"โหลวซิงเฉินที่พยักหน้าเข้าใจ.
สิ่งสำคัญที่สุดไม่เพียงแค่ปัดป้องเหล่าผู้ฝึกตนมากมาย,ยังหมายถึงซาและกงจื่อด้วย.
การที่ถูกจับตามองของปราชญ์เทพ,แน่นอนว่าไม่ใช่เรื่องดีเท่าใดนัก.
คนทั้งสี่ที่หายไปจากสายตาผู้คน,ได้แยกออกเป็นสองกลุ่มบินตรงไปยังเทือกเขาเซิ่งซือ.
ในเวลานี้มีคนมากมายที่กำลังทะลวงเข้าไปภายในเทือกเขาเซิ่งซือ,ทำให้ไม่มีใครสนใจกลุ่มจงซาน,ซึ่งเวลานี้ได้ปลอมตัวปกปิดเข้าไปด้านในกลุ่มพวกเขาแล้ว.
จากนั้นไม่นาน,คนทั้งสี่ที่ปลอมตัวเขามาได้มาหยุดที่เชิงเขาเซิ่งซือ.
พื้นที่รอบๆเทือกเขาเซิ่งซือในเวลานี้มีผู้ฝึกตนมากมายที่กำลังโจมตีไปยังค่ายกลไม่หยุดหย่อน,และแน่นอนว่าค่ายกลเองก็โจมตีกลับออกมาด้วยนับว่าอยู่ในสภาวะอันตรายเลยก็ว่าได้.
กลุ่มของจงซานนั้นได้ใช้ปราณกระบี่คลุมร่างพร้อมกับทะลวงเข้าไปด้านใน.
หลังจากผ่านหนึ่งหนึ่งก้านธูป.
แปดหางสวรรค์ที่สร้างคลื่นกระบี่สังหารเซียนออกมาคลุมกลุ่มของพวกเขาเอาไว้,ทำให้พวกเขาสามารถเข้าไปด้านในหุบเขาได้.
ไม่จำเป็นต้องซ่อนตัวใดๆ,ค่ายกลกระบี่สังหารเซียนไม่เข้าโจมตีแปดหางสวรรค์แห่งจุดจบ,ราวกับยอมรับว่ามันเป็นส่วนหนึ่งของค่ายกล.
เซียนเซิงซือและอีกสองคนที่จ้องมองเหล่าผู้ฝึกตนที่อยู่ด้านนอกที่กำลังพยายามตะเกียกตะกายเข้ามาด้วยใบหน้าแปลกประหลาด,พวกเขาเข้ามาอย่างไร้ขีดข่วนเป็นอะไรที่คาดไม่ถึง.
"เซิ่งหวัง,พวกเราเข้ามาแล้ว,ภายในตำหนักไป่โหยวต้องมีสมบัติล้ำค่าแน่!"โหลวซิงเฉินที่เอ่ยออกมาด้วยความตื่นเต้น.
"ไม่!"จงซานที่ส่ายหน้าไปมาในทันที.
"หืม?"
"พวกเราจะอยู่ตรงนี้ไม่ไปใน,ไม่แม้แต่ใช้สัมผัสเทวะ,เซียนเซิงซือส่งเจียงซือหลบหนีระดับต้นออกไป,ตรวจสอบด้านใน!"จงซานที่กล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม.
"รับทราบ!"เซียนเซิงซือที่นำเจียงซือออกมาในทันที.
เจียงซือหลบหนี,ที่พุ่งตรงไปยังตำหนักไป่โหยว.
ทำไมจงซานไม่ยินดีเข้าไปด้านใน!
เพราะว่าจงซานยังจำได้เกี่ยวกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นในตำหนักดวงดาวในอดีต.
บนตำหนักดวงดาวนั้น,นวีหว๋าได้ทิ้งคำพูดสุดท้ายไว้ให้เผ่าจิ้งจอก.
ภาพฉายที่เกิดขึ้นในครั้งนั้น,ต่อหน้าปราชญ์เทพโม่จื่อ,ภาพของไท่ซ่างที่ผ่านมานานหลายแสนปีได้ถูกทิ้งเอาไว้,เหล่าปราชญ์เทพที่สามารถสัมผัสและบอกได้,ซาเองก็ควรจะเหมือนกัน?หากเขาสามารถรับรู้ได้,เมื่อจงซานเข้าไปในตำหนัก,แน่นอนซาเองก็ต้องรู้.
หลังจากนี้ก็ต้องรอคอยให้ซาไล่ล่าเขาอย่างแน่นอน!
เซียนเซิงซือที่นำบอลผลึกออกมา!
เป็นอุปกรณ์ฉายภาพที่เจียงซือมองเห็น.
ตำหนักไป่โหยว?
ซาไม่ได้วางข่ายอาคมเอาไว้อีก,คาดไม่ถึงเลยว่าเจียงซือจะสามารถเข้าไปด้านในตรงๆได้เลย,ขณะที่เจียงซือจ้องมองไปรอบๆ.
ตำหนักไป่โหยวนั้นกว้างมาก,กว่างยิ่งกว่าตำหนักซ่างซืออีกหลายเท่านั้น,ที่ทิศเหนือนั้นเป็นลายยกสูง,ดูเหมือนว่าจะมีบัลลังก์ของอดีตปราชญ์เทพเคยอยู่ที่นี่,ที่ด้านล่างเองก็มีแถวสองแถวให้ยืนประจำตำแหน่ง,ดูเหมือนว่าจะเป็นตำแหน่งจุดยืนของเหล่าศิษย์ในนิกาย.
ที่ทิศตะวันออกของตำหนักไป่โหยวนั้น,จงซานสามารถมองเห็นสิ่งที่กงจูต้องการ,สิ่งของชิ้นนี้อยู่ในม่านอาคมรูปดวงตา.
และด้านในนั้นมีป้ายหยกที่มีความสูงสิบจั้ง,ป้ายหยกที่มีส่วนหนึ่งจมลงไปบนพื้น,โผล่ขึ้นมาด้านบนเพียงสิบจั้งเท่านั้นเอง.
เป็นหยกที่ดูประณีตเรียบรื่นและยังส่องประกายแสงสิบสองสีออกมา.
ทว่าหาใช่เรื่องสนใจไม่,สิ่งสำคัญที่สุดนั้น,มีอักขระโบราณสองตัวสลักอยู่.
--------
เจาหัว~~ ~~
--------
เซียนเซิงซือและคนอื่นที่จดจ้องมองถึงกับทำได้ยินเสียงหัวใจเต้น,จ้องมองหน้ากันและกันก่อนที่จะจ้องมองมายังจงซานในที่สุด.
"ป้ายหยกเจาหัว,มันคือป้ายหยกเจาหัว?"เซียนเซิงซือที่เผยท่าทางตื่นเติ้นดีใจ.
"ของวิเศษที่แข็งแกร่งที่สุดของบรรพชนหงจวิน,ป้ายหยกเจาหัว,มันคือป้ายหยกเจาหัวจริงๆ?"โหลวซิงเฉินที่เผยท่าทางดีใจ.
"ไม่สงสัยเลยว่ากงจื่อต้องการมัน!"หนานกงเซิงที่เผยท่าทางตื่นเต้นด้วยเช่นกัน.
ป้ายหยกเจาหัว?
ชื่อนี้จงซานจะไม่เคยได้ยินได้อย่างไร?
ในอดีตมีปราชญ์เทพเก้าคน,บรรพชนหงจวินคือคนที่แข็งแกร่งที่สุด,และของวิเศษของบรรพชนหงจวิน,ก็คือป้ายหยกเจาหัว,ซึ่งภายในนั้นมีเคล็ดวิชาสวรรค์บันทึกเอาไว้อยู่,แน่นอว่ามันคือของล้ำค่าและเป็นสมบัติอันดับหนึ่งของโลกใบนี้!
ของวิเศษลำดับหนึ่งในใต้หล้า.
ไม่ต้องเอ่ยเลยว่ามันเป็นสิ่งที่ผู้ฝึกตนทุกคนต่างหมายปอง,แม้แต่ปราชญ์เทพเองก็ต้องการมันเช่นเดียวกัน!
ทว่าในเวลาเดียวกันนี้ของวิเศษอันดับหนึ่งในใต้หล้าอยู่ต่อหน้าแล้ว,ไม่ใช่ว่าต้องคว้ามันมาให้ได้หรอกรึ?
ถึงจะเป็นจงซาน,ในเวลานี้ยังหัวใจเต้นไปมาเช่นกัน.
"เซิ่งหวัง,ข้าจะให้เจียงซือนำมันมา!"เซียนเซิงซือเอ่ยออกมาในทันที.
"ช้าก่อน!"จงซานที่กล่าวขัดในทันที.
แม้นว่าจะทำให้เขาตื่นเต้นเป็นอย่างมาก,ทว่าลึกลงภายในใจก็มีเสียงที่ห้ามจงานเอาไว้,ทำให้เขาสงบใจทันที.
จงซานที่สูดหายใจลึก,ท้ายที่สุดก็ส่ายหน้าไปมา,"ป้ายหยกเจาหัวนี้,พวกเราไม่สามารถใช้กำลังคว้ามันมาได้!"
สมบัติอันดับหนึ่งในใต้หล้า,และยังเป็นหายนะอันดับหนึ่งด้วยเช่นกัน,ไม่ใช่ว่าจงซานไม่ต้องการ,ทว่าจงซานเองก็ยังไม่ต้องการหายนะด้วยเช่นกัน! ไม่ต้องเอ่ยเลยว่ามันมีตราประทับของซา ติดอยู่เท่านั้น,ตราบเท่าที่เกิดการเคลื่อนไหว,แน่นอนว่าจะต้องดึงเหล่าเซียนบรรพชนเข้ามาหาเขาในทันที,หรือแม้แต่ปราชญ์เทพก็ตาม,มีเหรอที่เขาจะทำอะไรได้?
มีแต่ถูกแย่งชิงไปเท่านั้น!
ด้วยคำพูดของจงซาน,ทั้งสามคนที่เปลี่ยนมาเป็นสุขุม,หลังจากที่สงบใจได้,ทุกคนก็พอจะตระหนักได้เช่นกัน.
"มองหาสิ่งอื่น,ป้ายหยกเจาหัวไม่สามารถครอบครองได้,ทว่าน่าจะยังมีสิ่งอื่นของปราชญ์เทพที่ไม่ธรรมดา.
"อืม!"เซียนเซิงซือพยักหน้ารับ.
เจียงซือที่เริ่มทำการสำรวจ,ดูเหมือนว่าภายในตำหนักไป่โหยวนั้นจะว่างเปล่า,บางที่กลังจากที่ปราชญ์เทพทงเทียนตกตายไปแล้ว,สิ่งของต่างๆภายในตำหนักก็ถูกขโมยไปหมด.
และแล้วที่มุมแห่งหนึ่ง,ทุกคนก็สามารถมองเห็นอะไรบางอย่างได้.
"เป็นโลงศพยักษ์สีม่วง?"หนานกงเซิ่งที่จำได้.
"ใช่,โลงศพม่วงยักษ์,ในอดีตเป็นซาเคยนอนอยู่,ดูเหมือนว่าจะเป็นโลงศพของปราชญ์เทพ! ที่ในอดีนนั้นสามารถดูดซับป้องกัน,ปราณสวี(习气)ได้ด้วย."เซียนเซิงซือที่ดวงตาเปล่งประกลาย.
"ปราณสวี?
เป็นพลังวิเศษที่มีเพียงปราชญ์เทพสามารถครอบครองได้?"โหลวซิงเฉินที่ตกใจเล็กน้อย.
"อืม!"เซียนเซิงซือพยักหน้ารับ.
ในเวลานี้ดูเหมือนภายในตำหนักไป่โหยวที่ใหญ่โตมโหฬารนี้,จะมีสมบัติล้ำค่าเพียงสองสิ่ง,คือโลงศพยักษ์สีม่วงและป้ายหยกเจาหัว.
"เซิ่งหวัง,ข้าขอนำโลงศพยักษ์นี้ไปได้หรือไม่?
สิ่งดังกล่าวนี้สำคัญต่อข้ามาก!"เซียนเซิงซือที่จ้องมองมายังจงซาน.
"ป้ายหยกเจาหัวนั้นไม่สามารถครอบครองได้,ไม่ใช่ว่าสมบัติตอนนี้มีเพียงแค่โลงศพม่วงยักษ์รึ?
นำมันไป,หลอมประสานมันให้เร็วที่สุด,อย่างน้อยก็ต้องลบตราประทับของซาออกไป!
อย่างไรก็ตามไม่จำเป็นต้องกังวลเกี่ยวกับซาในเวลาอันสั้นนี้,แน่นอนว่าเขายังคงวุ่นวายเกี่ยวกับป้องกันป้ายหยกเจาหัวอยู่แน่นอน."จงซานที่กล่าวยืนยัน.
"ขอบคุณเซิ่งหวัง,โปรดวางใจที่ใจกลางของทวีปซือต้าปู่นั้นมีเส้นทางไปยังภพหยิน,ด้านล่างเส้นทางน้ำพุเหลืองนั้น,ข้าสามารถยืมใช้งานบ่อโลหิตปิศาจวิญญาณลบตราประทับนี้ออกได้!"เซียนเซิงที่กล่าวออกมาด้วยความตื่นเต้นเล็กน้อย.
Chapter 993 The under
the heavens first treasure
天下第一宝
ของวิเศษลำดับหนึ่งในใต้หล้า.
โหลวซิงเฉินที่กลับมาอยู่ข้างจงซาน,ในเวลานี้,ไม่มีใครกล้าดูแคลนคนทั้งสี่อีกแล้ว.
พื้นที่รอบๆที่กลายเป็นเงียบงัน,บนอวกาศ,สองล้ำแสงที่เข้าปะทะกันอย่างหนักหน่วงรุนแรง,เห็นชัดเจนว่าการต่อสู้ของปราชญ์เทพนั้นไม่มีทีท่าทางว่าจะจบง่ายๆ.
"เซิ่งหวัง,ตอนนี้จะทำอย่างไร?
สายตาของทุกคนได้จดจ้องมองมายังพวกเรา!"โหลวซิงเฉินที่ขมวดคิ้วไปมา.
แน่นอนจงซานก็รับรู้ว่าคนมากมายที่จ้องมองมายังพวกเขา,เวลานี้,ต้องการจับปลาน้ำขุ่นก็คงจะยากไปแล้ว.
"เมื่อน้ำใสอยู่ก็ต้องทำให้น้ำขุ่นก่อน!"จงซานกล่าว.
จากนั้น,จงซานที่ก้าวบินออกไป,คนของเขาก็บินตามเช่นกัน.
กลุ่มของจงซานจากไปแล้ว,เหล่าผู้ฝึกตนมากมายที่จับจ้องมองเขาอย่างสนใจ,นี่พวกเขาต้องการทะลวงค่ายกลอย่างงั้นรึ?
ไม่มีใครกล้าขวางทาง,ทว่าสายตาของพวกเขาที่จดจ้องมองตาเขม็ง,หลายคนที่ทำการคาดเดา,ด้วยท่าทางร้อนใจ.
สิ่งที่เหล่าผู้ฝึกตนที่อยู่รอบๆคาดหวังในเวลานี้คือทะลวงเข้าไปในค่ายกล,ทำให้สายตาของผู้คนมากมายจดจ้องมองดูท่าที่ของคนที่อยู่รอบๆที่จะเป็นผู้นำ.
เพราะไม่มีใครคิดว่าภายในตำหนักไป่โหยวนั้นว่างเปล่า.
กลุ่มของจงซานที่บินตระเวนไปรอบๆเทือกเขาเซิ่งซือ.
อ๋องพันปิศาจที่ขมวดคิ้วไปมา,หลั่นเติ้งและหมี่เล่อเองก็จดจ้องมองไปยังรอบๆด้วยความสนใจ,ก่อนที่จะเกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้น.
"ครืนน~~~~~~~~~~~~~~~~~~~!”
พื้นที่บริเวณใกล้เคียงของเทือกเขาเซิ่งซือ,ปรากฏหมอกสีชมพูปกคลุมพื้นที่รอบๆ,หลังจากที่หมอกสีชมพูหายไป,คนทั้งสี่ก็หายไปในทันที.
พื้นที่รอบๆของเทือกเขาเซิ่งซือที่ปราณศพสั่นไหวไปมา,จากนั้น,คนทั้งสี่คนก็หายไปในทันที.
คนทั้งสี่หายไปแล้ว,สายตาของทุกคนจดจ้องมองมาในทันที,พวกเขาเข้าไปด้านในอย่างงั้นรึ?
ทุกอย่างที่เปลี่ยนเป็นนิ่งงัน,ห้าลมหายใจ,สิบลมหายใจ,ยี่สิบลมหายใจ,ร้อยลมหายใจ!
หลังจากผ่านไปหนึ่งก้านธูป,ทุกคนที่มีแผนต้องการเข้าไปในตำหนักไป่โหยวถึงกับนั่งไม่ติดกันเลยทีเดียว!
คนทั้งสี่เข้าไปด้านในแล้วรึ?
นี่พวกเขาได้ของวิเศษแล้วอย่างงั้นรึ?
ทิศเหนือ,ทันใดนั้นก็มีคนมากมายกว่าห้าสิบคน,ที่สวมชุดบัณฑิต.
เป็นกลุ่มของนิกายหงหรู,ได้เคลื่อนที่ในทันที.
เหล่าศิษย์ของนิกายหงหรูที่เริ่มลงมือแล้วทำให้กลายเป็นตัวจุดชนวนให้กับเหล่าผู้ฝึกตนที่อยู่รอบๆ,เหล่าผู้ฝึกตนมากมายที่เริ่มกระจายออกไปรอบๆ,รวมทั้งอ๋องพันปิศาจ,หลั่นเติ้งและหมี่เหล่ยด้วย.
เหล่าผู้ฝึกตนมากมายที่ต่างก็พลุ้งพล่าน,พุ่งตรงไปยังเทือกเขาเซิ่งซือ.
"ตูมมมม!"
คนในชุดดำเป็นคนแรกที่ลงมือเขาได้ทิ้งระเบิดเข้าไปในค่ายกล.
เกิดระเบิดเสียงดังสนั่นหวั่นไหว,ปรากฏปราณกระบี่มากมายที่โจมตีออกมาจากภายในค่ายกล.
จากนั้น,เหล่าผู้ฝึกตนมากมายต่างก็นำของวิเศษออกมา,พร้อมกับเริ่มโจมตีออกไปพร้อมๆกัน.
"ตูมมม~~~~~~~~~~~!”
รอบๆค่ายกลนั้นมีเสียงระเบิดดังสนั่นเป็นระยะๆ,ทว่าค่ายกลกระบี่สังหารเซียนของซานั้นแข็งแกร่งมาก,ไม่มีแม้แต่ร่องรอยเลยแม้แต่น้อย.
ทว่าขณะที่เหล่าผู้ฝึกตนมากมายกำลังโจมตีออกไปไม่หยุดนั้น,ทันใดนั้นก็มีคนหยุด.
หลังจากนั้นก็ส่งผลต่อคนอื่นๆไปในทันที,ทำให้ทุกคนหยุดลงในทันที,ก่อนที่จะจ้องมองไปยังทิศๆทางหนึ่งพร้อมๆกัน.
ภายในหุบเขาดังกล่าวนั้น,กลุ่มของจงซานที่ยืนอยู่ที่ตรงนั้น,จดจ้องมองพวกเขาที่เข้าโจมตี,ค่ายกลกระบี่สังหารเซียน! ด้วยท่าทางสบายๆไร้ซึ่งความกังวล.
"ไม่ใช่ว่าจงซานเข้าไปในเทือกเขาเซิ่งซือก่อนหน้านี้ไม่ใช่รึ?"เหล่าผู้ฝึกตนมากมายที่กลายเป็นงงงวย.
จากนั้นผู้ฝึกตนทั้งหมดต่างก็พูดไม่ออกราวกับตระหนักอะไรบางอย่างได้.
หลายๆคนที่เริ่มต่อว่าต่อขานในใจ,จงซานที่จงใจให้พวกเขารับรู้ว่าตัวเองเข้าไปด้าน,ล่อล่วงให้พวกเขาร้อนรนทะลวงค่ายกล,หลังจากที่ทุกคนทำลายค่ายกลแล้ว,เขาก็จะเป็นเหมือนกับชาวประมงที่คอยฉวยผลประโยชน์.
กับท่าทางนิ่งสบายใจของจงซานทำให้ทุกคนกระจายออกไปหยุดเร่งรีบทะลวงค่ายกลในทันที.
หลายๆคนที่จ้องมองอย่างชั่วร้ายไปยังจงซาน.
"ไป!"จงซานที่ส่ายหน้าไปมา.
จงซานไม่สนใจสายตาของทุกคน,ก่อนที่จะก้าวนำคนทั้งสามจากไปในทันที.
"ไม่ใช่ว่าจงซานต้องการเข้าไปในเทือกเขาเซิ่งซืออย่างงั้นรึ?"เหล่าผู้ฝึกตนที่เต็มไปด้วยความโกรธเกรี้ยวกลายเป็นงงงวย.
ความจริงแล้วจงซานไม่ได้จากไปที่แท้จริง,เขาที่หาสถานที่ซ่อนตัว,แม้นว่ามันจะเป็นอะไรง่ายๆ,ทว่าจำเป็นต้องให้เหล่าผู้ฝึกตนมากมายเห็นพวกเขาว่าได้จากไปแล้ว.
เมื่อจงซานหายไปลับตาแล้ว,เหล่าผู้ฝึกตนก็ไม่สนใจอีกต่อไป,ทว่าตอนนี้สิ่งที่พวกเขาสนใจที่สุดก็คือของวิเศษในเทือกเขาเซิ่งซือ.
จงซานและผู้ใต้บังคับบัญชาอีกสามคนที่,คนห้าเทือกเขาที่มีปากทึบ,หลบให้พ้นกับสายตาทุกคน.
"เอาล่ะ,ตอนนี้พวกเรากลับไปกันได้แล้ว,ข้าจะพาพวกเจ้าเข้าไปในเทือกเขาเซิ่งซือ!"จงซานที่เอ่ยออกมาในทันที.
"ทำไมก่อนหน้านี้เซิ่งหวังไม่เข้าไปอย่างงั้นรึ?"โหลวซิงเฉินที่แสดงท่าทางสงสัย.
"ก่อนหน้านี้นะรึ?
ก่อนหน้านี้มีสายตาคนมากมายที่จับจ้องและต้องการเข้าไปในตำหนักไป่โหยว,ซึ่งแตกต่างกับการที่พวกเขาลอบเข้าไปเงียบๆด้านใน,นอกจากนี้,เจ้าลองคิดดู,หากว่าเราได้สิ่งของอะไรก็ตามของซาออกมา,สิ่งดังกล่าวนั้นจะกลายเป็นที่จับจ้องมองของคนทั่วหล้า,แล้วคิดว่าพวกเราจะหนีออกจากทวีปซือต้าปู่ได้อย่างงั้นรึ?"จงซานที่กล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม.
"ครับ!"โหลวซิงเฉินที่พยักหน้าเข้าใจ.
สิ่งสำคัญที่สุดไม่เพียงแค่ปัดป้องเหล่าผู้ฝึกตนมากมาย,ยังหมายถึงซาและกงจื่อด้วย.
การที่ถูกจับตามองของปราชญ์เทพ,แน่นอนว่าไม่ใช่เรื่องดีเท่าใดนัก.
คนทั้งสี่ที่หายไปจากสายตาผู้คน,ได้แยกออกเป็นสองกลุ่มบินตรงไปยังเทือกเขาเซิ่งซือ.
ในเวลานี้มีคนมากมายที่กำลังทะลวงเข้าไปภายในเทือกเขาเซิ่งซือ,ทำให้ไม่มีใครสนใจกลุ่มจงซาน,ซึ่งเวลานี้ได้ปลอมตัวปกปิดเข้าไปด้านในกลุ่มพวกเขาแล้ว.
จากนั้นไม่นาน,คนทั้งสี่ที่ปลอมตัวเขามาได้มาหยุดที่เชิงเขาเซิ่งซือ.
พื้นที่รอบๆเทือกเขาเซิ่งซือในเวลานี้มีผู้ฝึกตนมากมายที่กำลังโจมตีไปยังค่ายกลไม่หยุดหย่อน,และแน่นอนว่าค่ายกลเองก็โจมตีกลับออกมาด้วยนับว่าอยู่ในสภาวะอันตรายเลยก็ว่าได้.
กลุ่มของจงซานนั้นได้ใช้ปราณกระบี่คลุมร่างพร้อมกับทะลวงเข้าไปด้านใน.
หลังจากผ่านหนึ่งหนึ่งก้านธูป.
แปดหางสวรรค์ที่สร้างคลื่นกระบี่สังหารเซียนออกมาคลุมกลุ่มของพวกเขาเอาไว้,ทำให้พวกเขาสามารถเข้าไปด้านในหุบเขาได้.
ไม่จำเป็นต้องซ่อนตัวใดๆ,ค่ายกลกระบี่สังหารเซียนไม่เข้าโจมตีแปดหางสวรรค์แห่งจุดจบ,ราวกับยอมรับว่ามันเป็นส่วนหนึ่งของค่ายกล.
เซียนเซิงซือและอีกสองคนที่จ้องมองเหล่าผู้ฝึกตนที่อยู่ด้านนอกที่กำลังพยายามตะเกียกตะกายเข้ามาด้วยใบหน้าแปลกประหลาด,พวกเขาเข้ามาอย่างไร้ขีดข่วนเป็นอะไรที่คาดไม่ถึง.
"เซิ่งหวัง,พวกเราเข้ามาแล้ว,ภายในตำหนักไป่โหยวต้องมีสมบัติล้ำค่าแน่!"โหลวซิงเฉินที่เอ่ยออกมาด้วยความตื่นเต้น.
"ไม่!"จงซานที่ส่ายหน้าไปมาในทันที.
"หืม?"
"พวกเราจะอยู่ตรงนี้ไม่ไปใน,ไม่แม้แต่ใช้สัมผัสเทวะ,เซียนเซิงซือส่งเจียงซือหลบหนีระดับต้นออกไป,ตรวจสอบด้านใน!"จงซานที่กล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม.
"รับทราบ!"เซียนเซิงซือที่นำเจียงซือออกมาในทันที.
เจียงซือหลบหนี,ที่พุ่งตรงไปยังตำหนักไป่โหยว.
ทำไมจงซานไม่ยินดีเข้าไปด้านใน!
เพราะว่าจงซานยังจำได้เกี่ยวกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นในตำหนักดวงดาวในอดีต.
บนตำหนักดวงดาวนั้น,นวีหว๋าได้ทิ้งคำพูดสุดท้ายไว้ให้เผ่าจิ้งจอก.
ภาพฉายที่เกิดขึ้นในครั้งนั้น,ต่อหน้าปราชญ์เทพโม่จื่อ,ภาพของไท่ซ่างที่ผ่านมานานหลายแสนปีได้ถูกทิ้งเอาไว้,เหล่าปราชญ์เทพที่สามารถสัมผัสและบอกได้,ซาเองก็ควรจะเหมือนกัน?หากเขาสามารถรับรู้ได้,เมื่อจงซานเข้าไปในตำหนัก,แน่นอนซาเองก็ต้องรู้.
หลังจากนี้ก็ต้องรอคอยให้ซาไล่ล่าเขาอย่างแน่นอน!
เซียนเซิงซือที่นำบอลผลึกออกมา!
เป็นอุปกรณ์ฉายภาพที่เจียงซือมองเห็น.
ตำหนักไป่โหยว?
ซาไม่ได้วางข่ายอาคมเอาไว้อีก,คาดไม่ถึงเลยว่าเจียงซือจะสามารถเข้าไปด้านในตรงๆได้เลย,ขณะที่เจียงซือจ้องมองไปรอบๆ.
ตำหนักไป่โหยวนั้นกว้างมาก,กว่างยิ่งกว่าตำหนักซ่างซืออีกหลายเท่านั้น,ที่ทิศเหนือนั้นเป็นลายยกสูง,ดูเหมือนว่าจะมีบัลลังก์ของอดีตปราชญ์เทพเคยอยู่ที่นี่,ที่ด้านล่างเองก็มีแถวสองแถวให้ยืนประจำตำแหน่ง,ดูเหมือนว่าจะเป็นตำแหน่งจุดยืนของเหล่าศิษย์ในนิกาย.
ที่ทิศตะวันออกของตำหนักไป่โหยวนั้น,จงซานสามารถมองเห็นสิ่งที่กงจูต้องการ,สิ่งของชิ้นนี้อยู่ในม่านอาคมรูปดวงตา.
และด้านในนั้นมีป้ายหยกที่มีความสูงสิบจั้ง,ป้ายหยกที่มีส่วนหนึ่งจมลงไปบนพื้น,โผล่ขึ้นมาด้านบนเพียงสิบจั้งเท่านั้นเอง.
เป็นหยกที่ดูประณีตเรียบรื่นและยังส่องประกายแสงสิบสองสีออกมา.
ทว่าหาใช่เรื่องสนใจไม่,สิ่งสำคัญที่สุดนั้น,มีอักขระโบราณสองตัวสลักอยู่.
--------
เจาหัว~~ ~~
--------
เซียนเซิงซือและคนอื่นที่จดจ้องมองถึงกับทำได้ยินเสียงหัวใจเต้น,จ้องมองหน้ากันและกันก่อนที่จะจ้องมองมายังจงซานในที่สุด.
"ป้ายหยกเจาหัว,มันคือป้ายหยกเจาหัว?"เซียนเซิงซือที่เผยท่าทางตื่นเติ้นดีใจ.
"ของวิเศษที่แข็งแกร่งที่สุดของบรรพชนหงจวิน,ป้ายหยกเจาหัว,มันคือป้ายหยกเจาหัวจริงๆ?"โหลวซิงเฉินที่เผยท่าทางดีใจ.
"ไม่สงสัยเลยว่ากงจื่อต้องการมัน!"หนานกงเซิงที่เผยท่าทางตื่นเต้นด้วยเช่นกัน.
ป้ายหยกเจาหัว?
ชื่อนี้จงซานจะไม่เคยได้ยินได้อย่างไร?
ในอดีตมีปราชญ์เทพเก้าคน,บรรพชนหงจวินคือคนที่แข็งแกร่งที่สุด,และของวิเศษของบรรพชนหงจวิน,ก็คือป้ายหยกเจาหัว,ซึ่งภายในนั้นมีเคล็ดวิชาสวรรค์บันทึกเอาไว้อยู่,แน่นอว่ามันคือของล้ำค่าและเป็นสมบัติอันดับหนึ่งของโลกใบนี้!
ของวิเศษลำดับหนึ่งในใต้หล้า.
ไม่ต้องเอ่ยเลยว่ามันเป็นสิ่งที่ผู้ฝึกตนทุกคนต่างหมายปอง,แม้แต่ปราชญ์เทพเองก็ต้องการมันเช่นเดียวกัน!
ทว่าในเวลาเดียวกันนี้ของวิเศษอันดับหนึ่งในใต้หล้าอยู่ต่อหน้าแล้ว,ไม่ใช่ว่าต้องคว้ามันมาให้ได้หรอกรึ?
ถึงจะเป็นจงซาน,ในเวลานี้ยังหัวใจเต้นไปมาเช่นกัน.
"เซิ่งหวัง,ข้าจะให้เจียงซือนำมันมา!"เซียนเซิงซือเอ่ยออกมาในทันที.
"ช้าก่อน!"จงซานที่กล่าวขัดในทันที.
แม้นว่าจะทำให้เขาตื่นเต้นเป็นอย่างมาก,ทว่าลึกลงภายในใจก็มีเสียงที่ห้ามจงานเอาไว้,ทำให้เขาสงบใจทันที.
จงซานที่สูดหายใจลึก,ท้ายที่สุดก็ส่ายหน้าไปมา,"ป้ายหยกเจาหัวนี้,พวกเราไม่สามารถใช้กำลังคว้ามันมาได้!"
สมบัติอันดับหนึ่งในใต้หล้า,และยังเป็นหายนะอันดับหนึ่งด้วยเช่นกัน,ไม่ใช่ว่าจงซานไม่ต้องการ,ทว่าจงซานเองก็ยังไม่ต้องการหายนะด้วยเช่นกัน! ไม่ต้องเอ่ยเลยว่ามันมีตราประทับของซา ติดอยู่เท่านั้น,ตราบเท่าที่เกิดการเคลื่อนไหว,แน่นอนว่าจะต้องดึงเหล่าเซียนบรรพชนเข้ามาหาเขาในทันที,หรือแม้แต่ปราชญ์เทพก็ตาม,มีเหรอที่เขาจะทำอะไรได้?
มีแต่ถูกแย่งชิงไปเท่านั้น!
ด้วยคำพูดของจงซาน,ทั้งสามคนที่เปลี่ยนมาเป็นสุขุม,หลังจากที่สงบใจได้,ทุกคนก็พอจะตระหนักได้เช่นกัน.
"มองหาสิ่งอื่น,ป้ายหยกเจาหัวไม่สามารถครอบครองได้,ทว่าน่าจะยังมีสิ่งอื่นของปราชญ์เทพที่ไม่ธรรมดา.
"อืม!"เซียนเซิงซือพยักหน้ารับ.
เจียงซือที่เริ่มทำการสำรวจ,ดูเหมือนว่าภายในตำหนักไป่โหยวนั้นจะว่างเปล่า,บางที่กลังจากที่ปราชญ์เทพทงเทียนตกตายไปแล้ว,สิ่งของต่างๆภายในตำหนักก็ถูกขโมยไปหมด.
และแล้วที่มุมแห่งหนึ่ง,ทุกคนก็สามารถมองเห็นอะไรบางอย่างได้.
"เป็นโลงศพยักษ์สีม่วง?"หนานกงเซิ่งที่จำได้.
"ใช่,โลงศพม่วงยักษ์,ในอดีตเป็นซาเคยนอนอยู่,ดูเหมือนว่าจะเป็นโลงศพของปราชญ์เทพ! ที่ในอดีนนั้นสามารถดูดซับป้องกัน,ปราณสวี(习气)ได้ด้วย."เซียนเซิงซือที่ดวงตาเปล่งประกลาย.
"ปราณสวี?
เป็นพลังวิเศษที่มีเพียงปราชญ์เทพสามารถครอบครองได้?"โหลวซิงเฉินที่ตกใจเล็กน้อย.
"อืม!"เซียนเซิงซือพยักหน้ารับ.
ในเวลานี้ดูเหมือนภายในตำหนักไป่โหยวที่ใหญ่โตมโหฬารนี้,จะมีสมบัติล้ำค่าเพียงสองสิ่ง,คือโลงศพยักษ์สีม่วงและป้ายหยกเจาหัว.
"เซิ่งหวัง,ข้าขอนำโลงศพยักษ์นี้ไปได้หรือไม่?
สิ่งดังกล่าวนี้สำคัญต่อข้ามาก!"เซียนเซิงซือที่จ้องมองมายังจงซาน.
"ป้ายหยกเจาหัวนั้นไม่สามารถครอบครองได้,ไม่ใช่ว่าสมบัติตอนนี้มีเพียงแค่โลงศพม่วงยักษ์รึ?
นำมันไป,หลอมประสานมันให้เร็วที่สุด,อย่างน้อยก็ต้องลบตราประทับของซาออกไป!
อย่างไรก็ตามไม่จำเป็นต้องกังวลเกี่ยวกับซาในเวลาอันสั้นนี้,แน่นอนว่าเขายังคงวุ่นวายเกี่ยวกับป้องกันป้ายหยกเจาหัวอยู่แน่นอน."จงซานที่กล่าวยืนยัน.
"ขอบคุณเซิ่งหวัง,โปรดวางใจที่ใจกลางของทวีปซือต้าปู่นั้นมีเส้นทางไปยังภพหยิน,ด้านล่างเส้นทางน้ำพุเหลืองนั้น,ข้าสามารถยืมใช้งานบ่อโลหิตปิศาจวิญญาณลบตราประทับนี้ออกได้!"เซียนเซิงที่กล่าวออกมาด้วยความตื่นเต้นเล็กน้อย.
ที่มาจากhttps://lnmtl.com/novel/immortality
#นิยาย เรื่องอมตะ #Immortality#นิยายแปลไทย
Author(s)
สนใจสนับสนุนพวกเรา,เข้าร่วมกลุ่ม VIP ====> Click
ปัจจุบันแปลจบแล้ว 1672 ตอน สนใจติดต่อเข้ากลุ่มลับได้ครับ
***เว็ปฟรีอัพ สองวันหนึ่งตอน
***กลุ่มลับ แปลจบแล้ว.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น