วันพุธที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563

Immortality Chapter 1005 Being ruthless

Immortality Chapter 1005 Being ruthless

นิยาย เรื่อง อมตะ ตอนที่ 1005 สังหารทุกคน


Chapter 1005 Being ruthless

赶尽杀绝

สังหารทุกคน

 

บ่อโลหิตวิญญาณปิศาจ,ที่พักของจงซาน.

 

ทุกคนที่อยู่อยู่ล้อมรอบจงซาน,จงซานที่มือขวากำลังชี้นิ้วออกไป,ที่ด้านหน้านั้นปรากฏเป็นกระจก,ที่ดูเรียบเนียน,และมีเงาที่ดูเลือนลางปรากฏอยู่.

 

บนกระจกนั้น,มีชายในรูปร่างสีขาวคนหนึ่ง,ดวงตาที่หลับลง,กำลังนับนิ้วคำนวณ,ทันใดนั้น,ดวงตาของชายคนดังกล่าวก็ลืมขึ้น.

 

"ครืนนนน!"

 

ผิวกระจกที่แตกสลาย,ก่อนที่ภาพด้านในจะหายไปทั้งหมด.

 

"เป็นจื่อลู่!"โหลวซิงเฉินจ้องมองไปยังจงซาน.

 

จงซานที่พยักหน้ารับ"เป็นจื่อลู่จริงๆ,เขายังผูกใจเจ็บอยู่,ก่อนหน้านี้เขาเองก็ทำการพยาการข้ามาก่อนแล้ว,น่าจะเป็นก่อนหน้านี้ครึ่งเดือน,นับตั้งแต่พวกเราเผยตัวออกมาที่ตำหนักยามา."

 

"เซิ่งหวัง,ตอนนี้พวกเราจะทำอย่างไรดี?"โหลวซิงเฉินที่กล่าวออกมาด้วยความกังวล.

 

"จื่อลู่,ในเมื่อเขาผูกใจเจ็บอยู่ก่อนแล้ว,ไม่มีทางที่เขาจะยอมแพ้ง่ายๆ,ไม่ช้าก็เร็วเข้าจะต้องมาหาพวกเราแน่!"จงซานที่กล่าวยืนยัน.

 

"อืม!"

 

ทุกคนที่พยักหน้าและก้าวออกมาจากตำหนัก.

 

หนานกงเซิ่งที่เก็บค่ายกล,ขณะที่พวกเขากำลังจะไปแจ้งอ๋องตี้จาง.

 

อ๋องตี้จางที่อยู่ในตำหนัก,ปลดปล่อยกลิ่นอายที่หนักหน่วงทรงพลังออกมาในทันที.

 

อ๋องตี้จางที่ก้าวออกมาจากตำหนัก.

 

เงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้า,พร้อมกับสูดหายใจลึก.

 

"ท้ายที่สุดก็มาถึง!"อ๋องตี้จางที่กล่าวพลางถอนหายใจ.

 

ระหว่างที่กล่าวจบนั้น,แววตาของอ๋องตี้จางที่เปลี่ยนเป็นดุร้ายเย็นชา.

 

ก่อนที่อ๋องตี้จากจะบินออกมา,พร้อมกับมาปรากฏตัวขึ้นที่ด้านหน้าของจงซานและคนอื่นๆ.

 

"หายนะมาถึงแล้วอย่างงั้นรึ?"เซียนเซิงซือสอบถามออกไป.

 

อ๋องตี้จางพยักหน้ารับและกล่าวออกมาว่า,"อันตรายมาถึงแล้ว,ข้าเพียงแค่เดิมพันด้วยร่างกาย,ก่อนหน้านี้ต้องการให้เซิ่งวังช่วยผู้น้อยแจ้งข่าวสักเรื่อง!"

 

"หืม?"จงซานที่กล่าวออกมาด้วยความประหลาดใจ.

 

"หายนะใกล้มาถึงแล้ว,ข้าได้ใช้ร่างนี้เดิมพัน,ศักดิ์ศรีที่ได้สูญสิ้นไปหมดแล้ว,ภายในหยกนี้,รบกวนเซิ่งหวังส่งมันไปให้กับราชันย์หยกแทนข้า,โปรดส่งให้ถึงมือ,ราชันย์หยกจะต้องของคุณเรื่องนี้ต่อข้าและท่านอย่างแน่นอน!"อ๋องตี้จางที่นำแผ่นริ้วหยกชิ้นหนึ่งออกมา.

 

แผ่นริ้วหยกนั้นได้ลงอาคมพิเศษเอาไว้,เห็นชัดเจนว่ามันเป็นจดหมายลับที่ส่งให้กับราชันย์หยกเท่านั้น.

 

จงซานที่จ้องมองไปยังอ๋องตี้จาง,พยักหน้ารับและกล่าวออกมาว่า,"ข้าเองก็จะเดินทางไปยังศาลสวรรค์เพื่อพบกับสหายเก่าเช่นกัน,ข้าจะทำตามคำขอของเจ้า!"

 

"อืม!"อ๋องตี้จางที่พยักหน้ารับ.

 

จงซานที่รับแผ่นริ้วหยกมา,จากนั้นร่างของอ๋องตี้จางที่หายไปในทันที,กลิ่นอายของอ๋องตี้จางภายในบ่อโลหิตวิญญาณปิศาจเองก็หายไปโดยสมบูรณ์เช่นกัน.

 

"อ๋องตี้จางจากไปแล้ว!"เนียนโหยวโหยวกล่าว.

 

"อืม!พวกเราเองก็ไปเถอะ!"จงซานที่กล่าวออกมาในทันที.

 

ขณะที่ทุกคนตามจงซานออกมา,ทุกคนที่พุ่งไปยังประตูทางออกพร้อมกับออกมาด้านนอกในทันที.

 

เพียงแค่พ้นจากบ่อโลหิตวิญญาณปิศาจออกมาถึงตำหนักทางเข้า,กลิ่นอายที่ยิ่งใหญ่ทรงพลังโถมกระหน่ำออกไปรอบๆ.

 

ทุกคนที่ยังไม่ได้ออกมาจากตำหนักหลักด้วยซ้ำ,ทว่าสามารถมองออกไปด้านนอกได้.

 

ที่ด้านนอกนั้น,ปรากฏสนามพลังวายุที่แข็งแกร่งหนักหน่วงรุนแรง,เทียนเต๋าสามเส้นที่ปรากฏขึ้นบนท้องฟ้า,ทุกสิ่งมีชีวิตที่อยู่รอบๆแทบแบนราบก้มกราบหายใจติดขัด.

 

"เป็นกลิ่นอายที่หนักหน่วงทรงพลังขนาดนี้เลยรึ?"หนานกงเซิ่งที่เอ่ยออกมาด้วยความประหลาดใจ.

 

บนอากาศที่ไกลออกไป,อ๋องตี้จางที่ยืนอยู่ในเทียนเต๋าสีแดง,ฝ่ายตรงช้ามนั้นมีเทียนเต๋าสองเส้น.

 

ภายในเทียนเต๋านั้นมีคนหนึ่งคนยืนอยู่ในแต่ละเส้นเช่นกัน.

 

เป็นปราณที่หนักหน่วงบ้าคลั่งรุนแรงทรงพลัง,อีกหนึ่งที่ปลดปล่อยออกมายวนเย้าจนทำให้จิตสำนึกลุ่มหลงมึนงง.

 

"หม่ากู? เป๋าซือ?"จงซานที่จดจำเทียนเต๋าที่งดงามทรงพลังเช่นนั้นได้.

 

ใบหน้าที่อัปลักษณ์ของหม่ากูนั้นถูกฟื้นฟูเรียบร้อยแล้ว,เวลานี้กลายเป็นงดงาม,น่าหลงไหล,เป็นความงามที่ทำให้มัวเมาลุ่มหลง,เป็นสตรีที่งดงามไร้ที่เปรียบจริงๆ,ควรค่าแล้วที่เป็นความงามอันดับหนึ่งของโลกใบนี้.

 

ช่างน่าเสียดาย,กับความงามที่โดดเด่นน่าหลงไหลนั้น,ดวงตาของนางกับไร้ซึ่งประกาย,ไร้ซึ่งความรู้สึก,จงซานสามารถเข้าใจในทันที,ว่านางได้กลายเป็นหุ่นเชิดโดยสมบูรณ์,เป็นเพียงหุ่นเชิดที่ไร้ซึ่งความรู้สึกใดๆ.

 

"ปราชญ์เทพหมี่เทียน?

 

เทียนเต๋าทั้งสองก็คือ,ซือและเหมย.

 

ปราชญ์เทพหมี่เทียนก่อนหน้านี้ที่ต้องการสร้างสี่ภูติเทียนเต๋า.

 

ซือ,เหมย,หวางและเหลียง,ตอนนี้มีซือและเหมยแล้ว,ตอนนี้คงกำลังหาตนที่สาม.

 

หวาง? จางหวาง?

 

อ๋องตี้จาง,คือภูติตนที่สาม,หวาง?

 

"ตูมมมม~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~!”

 

เกิดระเบิดเสียงดังสนั่นผืนปฐพียังสั่นสะเทือน,เมืองยามาที่อยู่ไกลออกออกไปยังได้รับผลกระทบ,การต่อสู้นี้รุนแรงมาก,เป็นการต่อสู้ที่รุนแรงยิ่งกว่าการต่อสู้ของเซียนโบราณ,แน่นอนว่านี่คือการต่อสู้ของเซียนบรรพชน,แม้แต่ปราชญ์เทพ.

 

บนท้องฟ้าที่ไม่มีเงาของปราชญ์เทพหมี่เทียนแม้แต่น้อย.

 

ทว่าเพียงแค่หุ่นเชิด,ซือและเหมย,ก็ทรงพลังเกินพอแล้ว.

 

การโจมตีที่บ้าคลั่ง,ทำให้เกิดเป็นหลุมดำขึ้นบนท้องฟ้าในทันที,ห้วงมิติที่สั่นไหวอย่างรุนแรง,ทั่วทั้งเมืองยามาเวลานี้เกิดแผ่นดินไหวรุนแรงอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน.

 

ภูเขาหลายๆลูกที่ถูกซัดปลิวลอยออกไป,พื้นดินที่แตกแยกออกเป็นเสี่ยงๆราวกับจะพังทลายเสียหายไปทั้งหมด.

 

"ปราชญ์เทพหมี่เทียน? ปราชญ์เทพหมี่เทียนไม่สามารถเข้ามาในภพหยินได้จริงๆ!"โหลวซิงเฉินกล่าว.

 

"ปราชญ์เทพภพหยาง,ย่อมถูกจำกัดเอาไว้อย่างไม่ต้องสงสัย,ภายในภพหยินนั้น,หมี่เทียนไม่สามารถจัดการอ๋องตี้จางได้จึงได้ส่งหุ่นเชิดระดับเซียนบรรพชนมานั่นเอง!"หนานกงเซิ่งกล่าวตอบ.

 

จงซานที่ส่ายหน้าไปมา,"ปราชญ์เทพไม่ยินดีที่จะข้ามา,ทว่าไม่ใช่ว่าจะไม่สามารถข้ามมาได้,ไม่เช่นนั้นอ๋องตี้จางคงไม่สามารถสัมผัสได้ถึงคราวเคราะห์ของตัวเองได้,เห็นชัดเจนว่ามันเป็นคราวเคราะห์จากหมี่เทียน!"

 

"เซิ่งหวังกล่าวมีเหตุผล!"ทุกคนพยักหน้ารับ.

 

เกี่ยวกับเซียนบรรพชน,แม้แต่มีปราชญ์เทพมีส่วนเกี่ยวข้อง,จงซานและคนอื่นๆไม่มีคุณสมบัติพอที่จะเข้าร่วม.

 

ทุกคนที่ยืนอยู่ภายในตำหนัก,พร้อมกับจ้องมองไปยังพื้นที่ไกลออกไป.

 

บางที่เพราะว่าอยู่ไกลออกมามาก,แม้นว่าการต่อสู้จะหนักหน่วงรุนแรง,ทว่าตำหนักที่พวกเขายืนอยู่นั้นจึงไม่ได้รับความเสียหาย.

 

การต่อสู้ที่ผ่านไปถึงสามชั่วยาม.

 

อ๋องตี้จางที่ไม่แพ้,ทว่าก็ไม่ชนะ,ซือและเหมยนับว่าแข็งแกร่งทรงพลังมาก,และยังมีปราชญ์เทพเป็นผู้ควบคุม,ทำให้มีพลังต่อสู้ที่แข็งแกร่งไม่ธรรมดา.

 

บางทีคงเพราะว่าหมี่เทียนไม่ต้องการรั้งรออีกต่อไป.

 

ทันใดนั้นก็ปรากฏประกายแสงสีขาวขึ้น,ทั่วทั้งท้องฟ้าที่เจิดจรัสกระจายไปทั่ว,การต่อสู้ที่ดูเหมือนว่าจะหยุดลง.

 

"ปราชญ์เทพหมี่เทียน,ท้ายที่สุดเจ้าก็มา!"ที่ไกลออกไปนั้น,เสียงของอ๋องตี้จางที่เต็มไปด้วยความเย็นชา.

 

เป็นปราชญ์เทพหมี่เทียน,ร่างกายของเขาที่เหมือนกับผู้เยาว์คนหนึ่ง,เขาที่ปรากฏขึ้นที่ด้านข้างๆ ซือและเหมยทันที.

 

พื้นที่รอบๆนั้นมีคนมากมายที่กำลังเงยหน้าขึ้นไปมองบนท้องฟ้า.

 

การต่อสู้ของปราชญ์เทพและอ๋องตี้จาง? คาดไม่ถึงเลยว่าจะปรากฏผู้คนมากมายขึ้นมา,ในเวลานี้ทุกคนแทบหายใจไม่ทั่วท้อง.

 

กับการปรากฏตัวของปราชญ์เทพหมี่เทียน,แรงกดดันมหาศาลที่ราวจะชอนไชเข้าไปในจิตวิญญาณ,อำนาจของปราชญ์เทพที่อยู่สูงเหนือล้ำ,จนไม่มีใครกล้าขัดขืน.

 

ในเวลาเดียวกันนั้น,จงซานที่ราวกับสัมผัสได้ถึงสายตาของใครบางคนในฝูงชน.

 

สายตาของเขาที่จ้องมองออกไป,จดจ้องอย่างตั้งใจ.

 

ภายในกลุ่มคนนั้นมีใครคนหนึ่ง.

 

"จื่อลู่?"โหลวซิงเฉินที่ขมวดคิ้วไปมา.

 

"ไม่ได้การ,บางที่อ๋องตี้จาง,ยังสามารถขวางเซียนบรรพชนจื่อลู่ได้,ทว่าตอนนี้ล่ะ?"หนานกงเซิ่งที่เผยท่าทางอักอ่วน.

 

"ปิด!"จงซานที่เอ่ยออกมาในทันที.

 

"ครืนน!"หนานกงเซิ่งที่ปิดประตูตำหนักในทันที.

 

จื่อลู่มา?แน่นอนว่าอ๋องตี้จางไม่สามารถล้มปราชญ์เทพหมี่เทียนได้อย่างแน่นอน,เมื่ออ๋องตี้จางกำลังจัดการเรื่องปราชญ์เทพหมี่เทียนอยู่,จื่อลู่ย่อมฉวยโอกาสจัดการกับพวกเขา.

 

ทุกคนที่จ้องมองมายังจงซาน,รอคอยให้จงซานตัดสินใจ.

 

จงซานที่ยื่นมือออกไป,ก่อนที่จะนำตำราสีดำออกมาจากภายในหน้าอก.

 

ตำราชีวิตและความตาย!

 

ตำราชีวิตและความตายที่แปลกประหลาด,หลายวันมานี้จงซานที่พยายามที่จะศึกษามัน.

 

บนตำราด้านซ้ายมีอักษรว่าชีวิต,ส่วนด้านขวานั้นมีอักษรว่าความตาย.

 

"จงซาน,น่าจะลองดู,ข้าได้ยินมาจากเซิ่งหวังอู๋เซียงว่าตำราชีวิตและความตายนั้น,สามารถตัดสินความเป็นความตายของคนได้,เป็นวิชาลับอาคมของผู้ฝึกตนคำสาป,แม้นว่าพวกเราจะเปิดได้เพียงแค่หน้าเดียว,และไม่เข้าใจเกี่ยวกับอาคมด้านใน,ทว่าข้าคิดว่าลองทดสอบเขียนชื่อจื่อลู่ลงไปก็ไม่เห็นจะเสียหายตรงใหน!"เนียนโหยวโหยวที่เสนอความคิด.

 

จงซานพยักหน้ารับและกล่าวออกมาว่า,"ข้าเองก็คิดอยู่เหมือนกัน!"

 

จงซานที่เริ่มตวัดพู่กัน,อักษรลงบนหน้ากระดาษที่เขียนไว้ว่าความตาย.

-----

จื่อลู่.

-----

 

อักษรสองตนที่ถูกสลักลงไป,จงซานที่สัมผัสได้ถึงแรงกดดันที่หนักหน่วงกำลังบีบรัดหัวใจ,ทำให้หัวใจของเขาสั่นไหวเช่นกัน.

 

"เป็นอย่างไรบ้าง?"เนียนโหยวโหยวที่สอบออกไป.

 

"ไม่เข้าใจเช่นกัน,ข้ารู้สึกแปลกๆ!"จงซานที่ส่ายหน้าไปมา,ก่อนที่จะเก็บตำราชีวิตและความตายไป.

 

ฝั่งจงซานที่รู้สึกแปลกประหลาด,ส่วนฝังของจื่อลู่เองก็รู้สึกสั่นสะท้านหัวใจที่สั่นไหวขึ้นมาเช่นกัน.

 

ทำไมไม่รู้,ภายในใจของจื่อลู่ที่รู้สึกบังเกิดความเศร้าสร้อยขึ้นมาอย่างกะทันหัน.

 

ที่บนเทือกเขาเซิ่งซือนั้น,จื่อลู่รับรู้ว่าจงซานได้เดินทางมายังทวีปซือต้าปู่,ในเวลานั้นเขาที่ต้องการจับกุมจงซานเอาไว้,ชำระแค้นที่มีมาในอดีต,ทว่าจงซานกลับหายไปอย่างไรร่องรอย,จนกระทั่งไม่นานก็ได้ยินข่าวว่าจงซานไปปรากฏตัวขึ้นที่เมืองยามา,จากนั้นก็เดินทางไปยังบ่อโลหิตวิญญาณปิศาจ,ดังนั้นจื่อลู่จึงเดินทางมาที่นี่.

 

เขาที่ติดตามรอคอยมาตลอดสองวัน,ทว่าด้วยตัวตนของอ๋องตี้จางยังคงอยู่,ดังนั้นเขาจึงยังไม่เริ่ม,จนกระทั้ง,อ๋องตี้จางออกมาในทันที,พร้อมกับต่อสู้กับเซียนบรรพชนสองคน,และยังปรากฏปราชญ์เทพหมี่เทียนขึ้นที่ภพหยินอีก,เรื่องนี้จึงทำให้จื่อลู่เต็มไปด้วยความสงสัย.

 

ในเวลานั้น,จื่อลู่เห็นกลุ่มจงซานที่อยู่ในสถานที่ไกลออกไป.

 

ขณะที่จื่อลู่เผยรอยยิ้มเหยียดหยัน,จงซานที่อยู่ไกลออกไป,กลับปิดประตูตำหนักในทันที.

 

หลังจากนั้น,จู่ๆเขาก็ปรากฏความเศร้าในจิตใจขึ้นมาในทันที.

 

เวลานี้เขาไม่ต้องการดูการต่อสู้อีกต่อไปแล้ว,จื่อลู่ค้นหาสถานที่เก็บตัวในทันที.

 

"คำสาป? คาดไม่ถึงเลยว่าจะมีใครบางคนสาปข้า?"จื่อลู่ที่พูดคุยกับตัวเอง.

 

ทว่าคำสาปนี้,ทำให้เขาต้องชำเลืองตาโต,ไม่สามารถลบออกไปได้.

 

"ตูมมมมม!"

 

ที่ไกลออกไปนั้น,อ๋องตี้จางที่โจมตีไปยังปราชญ์เทพหมี่เทียนทันที,ทว่าช่างน่าเศร้า,ปราชญ์เทพหมี่เทียนไม่ใช่เซียนบรรพชนทั่วไปจะเทียบได้.

 

เกิดเป็นคลื่นที่หนักหน่วงใหญ่โต,หลุมดำขนาดใหญ่ที่ปกคลุมคนทั้งสอง.

 

หลุมดำที่ใหญ่ยักษ์,เกิดจากการต่อสู้ที่รุนแรงหนักหน่วงอยู่ด้านใน.

 

หลังจากผ่านไปหนึ่งก้านธูป,หลุมดำขนาดใหญ่ที่ค่อยๆหายไป.

 

ทว่าอ๋องตี้จางเวลานี้ได้หายไปแล้ว.

 

เหลือเพียงปราชญ์เทพหมี่เทียน,ปราชญ์เทพหมี่เทียนที่สะบัดมือ,หุ่นเชิดมนุษย์ซือและเหมยก็ถูกเก็บไป.

 

จากนั้น,ปราชญ์เทพหมี่เทียนก็สะบัดมืด,พร้อมกับหายไปต่อหน้าทุกคน.

 

การต่อสู้ของเซียนบรรพชน,ดูเหมือนจะจบแล้ว,ทว่าเมืองยามานั้นได้พังทลายย่อยยับไปแล้ว,มีเพียงแค่ตำหนักยามาเท่านั้นที่ยังคงอยู่.

 

เหล่าผู้ฝึกตนภูติมากมายที่นอนเกลื่อนพื้น,ร่างกายที่ได้รับบาดเจ็บเสียหาย,หลากหลายสิ่งมีชีวิตที่กำลังสั่นสะท้านด้วยความหวาดกลัว.

 

ภายในตำหนักยามา.

 

อ๋องยามา,เมิงโผ,ลู่พานและคนอื่นๆที่ตัวสั่นงันงก.

 

อ๋องตี้จาง? ในสายตาของพวกเขาคือยอดฝีมือที่น่าเกรงขามอย่างที่สุด,กลับตกตายไปแล้ว? โดยปราชญ์เทพ,น่าหวาดกลัวเกินไปแล้ว.

 

นั่นเซียนบรรพชน!

 

ทุกคนที่ไม่กล้าออกจากตำหนักเป็นเวลานาน,ทำได้แค่จ้องมองหน้ากันและกัน,ไม่รู้ว่าจะกล่าวอะไรออกมาเป็นเวลานาน.

 

 

"จงซาน,ไสหัวออกมา!"

 

ขณะที่เหล่าผู้ฝึกตนภูติมากมายกำลังอยู่ในความหวาดกลัวอยู่นั้น,ก็ปรากฏเสียงที่ดังสนั่นก้องไปทั่วท้องฟ้าและปฐพี.

 

"เป็นจื่อลู่,เซียนบรรพชนอีกคน?"ลู่พานที่กล่าวเสียงสั่น.

 

เมิ่งโผและคนอื่นๆจ้องมองออกไปด้านนอก,บนท้องฟ้าปรากฏชายในชุดสีขาว,จดจ้องมองด้วยสายตาเย็นชาไปยังตำหนักใหญ่ด้านล่าง.

 

"นั่นไม่ใช่ทางเข้าไปยังบ่อโลหิตวิญญาณปิศาจหรอกรึ?"ลู่พ่านที่เอ่ยออกมาในทันที.

 

"จื่อลุ่? เซียนบรรพชนจื่อลู่? ไม่ใช่ว่าเขาและจงซานมีความแค้นกันอยู่หรอกรึ?"แววตาของอ๋องยามาที่เผยแววตาตื่นเต้นดีใจในทันที.

 

เหล่าผู้ฝึกตนภูติที่ยังรอดชีวิตอยู่,จดจ้องมองไปยังตำหนักที่ปิดแน่.

 

"จื่อลู่,เจ้าต้องการสังหารทุกคนเลยอย่างงั้นรึ?"เสียงจากภายในตำหนัก,เป็นเสียงที่เคร่งขรึมของจงซานก็ดังขึ้นในทันที.






ที่มาจากhttps://lnmtl.com/novel/immortality

#นิยาย เรื่องอมตะ #Immortality#นิยายแปลไทย
Author(s)


สนใจสนับสนุนพวกเรา,เข้าร่วมกลุ่ม VIP ====> Click

ปัจจุบันแปลจบแล้ว 1672 ตอน สนใจติดต่อเข้ากลุ่มลับได้ครับ

***เว็ปฟรีอัพ สองวันหนึ่งตอน
***กลุ่มลับ แปลจบแล้ว.

 

6 ความคิดเห็น:

  1. ตอนฟรีนี้กี่วันถึงจะอัพทีครับ รอจะ2อาทิตแล้ว อยากรู้จะได้ทำใจถูก

    ตอบลบ
  2. เมื่อไหร่จะมาน้อ

    ตอบลบ
  3. รอบนี้มาช้าอีกแล้วววววงะ

    ตอบลบ
  4. รอบนี้เลยแน่เลยคง3 อาทิตย์

    ตอบลบ
  5. 3 สัปดาห์แล้ว เมื่อไรจะมาาาา

    ตอบลบ