วันพุธที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563

Immortality Chapter 1004 forehead tomb pit

Immortality Chapter 1004 forehead tomb pit

นิยาย เรื่อง อมตะ ตอนที่ 1004 สุสานบนหน้าผาก 


Chapter 1004 forehead tomb pit

眉心墓穴

สุสานบนหน้าผาก

 

ผ่านไปถึงหนึ่งวันหนึ่งคืน,ตราประทับของปราชญ์เทพอีกอันก็ค่อยๆถูกผลักออกมาช้าๆ.

 

ต้องรู้ด้วยว่าก่อนหน้านี้ตราประทับของทงเทียน,ใช้เวลาเพียงแค่ครึ่งชั่วยามเท่านั้น,ทว่าตราบประทับของปราชญ์เทพอีกอันนี้,ใช้เวลาถึงหนึ่งวันหนึ่งคืน?

 

ระหว่างที่ทุกคนกำลังรอนั้น,ต่างก็มองเห็นและสัมผัสได้ว่าตราประทับของปราชญ์เทพนี้แข็งแกร่งมาก.

 

ตราประทับที่ค่อยถูกดึงออกมา,รวมตัวกันเป็นแสงสีขาว,ทว่าพื้นที่รอบๆนั้นมีเส้นสีดำที่หมุนวนอยู่ด้วย,เหมือนกับฝุ่นควัน,ดูยิ่งใหญ่เป็นอย่างมาก,ตราบประทับนี้,ทำให้เหล่าวิญญาณปิศาจทั่วบ่อกลายเป็นเงียบงับ,กลิ่นอายที่ปลดปล่อยออกมานี้ดูน่าเกรงขามเป็นอย่างมาก.

 

"ตูมมมมมม!"ตราประทับที่ระเบิดออกมาเสียงดังก่อนที่จะสลายหายไป.

 

"นี่มัน,นี่มันตราประทับของปราชญ์เทพหงจวิน?"อ๋องตี้จางที่อุทานออกมา.

 

จากนั้นสายตาของอ๋องตี้จางที่จ้องมองไปยังโลงศพสีม่วงด้วยความโลภเล็กน้อย,ก่อนหน้านี้เขาพอจะรับรู้ว่าโลงศพยักษ์ม่วงนี้ไม่ธรรมดา,ทว่าคาดไม่ถึงเลยว่ามันจะเกี่ยวข้องกับหงจวิน.

 

หงจวิน,ในอดีตนั้นคือตัวตนอันดับหนึ่งของโลกใบนี้.

 

แทบจะไร้เทียนทาน,ไม่มีใครสามารถเทียบได้,หากไม่เพราะว่าต่อต้านเทียนชู,ทั่วหล้าแห่งนี้,เขาคือคนที่แข็งแกร่งที่สุด,ไมว่าอะไรก็แล้วแต่,หากเกี่ยวข้องกับหงจวิน,แน่นอนว่าย่อมต้องไม่สิ่งของธรรมดา.

 

"หงจวิน?"จงซานที่ขมวดคิ้วไปมา.

 

"โลงศพนี้หงจวินเป็นคนสร้างอย่างงั้นรึ?"หนานกงเซิ่งที่กล่าวออกมาด้วยความสงสัย.

 

หงจวินสร้างอย่างงั้นรึ? อ๋องตี้จางที่พยายามสังเกตโลงศพดังกล่าวโดยระเอียด.

 

ในเวลาเดียวกันนี้,เซียนเซิงซือที่เลื่อนโลงศพม่วงในทันที.

 

ที่ข้างๆโลงศพปรากฏเจียงซือขึ้นมา,พร้อมกับยกโลกศพกลับคืนมา,ทำให้อ๋องตี้จางไม่สามารถตรวจสอบได้ระเอียดนัก.

 

แม้นว่าอ๋องตี้จางต้องการจะตรวจสอบ,ทว่าเซียนเซิงซือนั้นแสดงท่าทีชัดเจนไม่ให้เขาตรวจสอบได้,ขณะที่โลงศพยักษ์ม่วงถูกออกมา,อ๋องตี้จางที่ทำได้แค่สูดหายใจลึก.

 

"อ๋องตี้จางเคยพบหงจวินอย่างงั้นรึ?"จงซานที่กล่าวสอบถามด้วยความสงสัย.

 

"เคยพบหลายครั้ง,ทว่าก็ผ่านมาหลายแสนปีก่อนแล้ว!"อ๋องตี้จางที่ส่ายหน้าไปมา.

 

"หงจวินล่วงหล่นลงจากสวรรค์ไปแล้วอย่างงั้นรึ?"

 

"เหล่าปราชญ์เทพต่างล่วงหล่นจากสวรรค์,คนแรกนวีหว๋า,คนที่สองทงเทียน,คนที่สามหงจวิน,คนที่สี่เจี่ยหยิน,คนที่ห้าจุนถี,คนที่หกหยวนซือ,คนที่เจ็ดไท่ซ่าง,ก่อนหน้านี้ข้าก็คิดว่าพวกเขาล่วงหล่นจากสวรรค์,ทว่าเมื่อรู้ว่าเจี่ยหยินกลับมาจุติใหม่,เหล่าปราชญ์เทพที่ล่วงหล่นจากสวรรค์ในเวลานี้คงจำเป็นต้องนำมาทบทวนใหม่แล้ว!"อ๋องตี้จางที่ไม่ได้ปิดบังแต่อย่างใด.

 

เจี่ยหยินจุติใหม่อย่างงั้นรึ? ก่อนหน้านี้อ๋องตี้จาง,หลั่นเติ้งและหมี่เล่อได้พูดคุยกันนั้น,จงซานพอจะคาดเดาได้เช่นกัน.

 

"หงจวินที่ล่วงหล่นจากท้องฟ้าหลังจากทงเทียน?"จงซานที่ขมวดคิ้วไปมา,ราวกับว่าคิดถึงเรื่องสำคัญบางอย่างได้.

 

"บางที่เป็นไปได้,เจี่ยหยินที่จุติใหม่,เหล่าปราชญ์เทพคนอื่นๆเองก็อาจจะจุติใหม่ได้!"อ๋องตี้จางที่กล่าวออกความเห็น.

 

"จุติใหม่?ไม่ใช่ว่าพวกเขาใช้วิธีเดียวกันหรอกรึ?"

 

"ไม่,มันเกี่ยวข้องกับเทียนเต๋า,หากว่าปราชญ์เทพสองคนที่จิติกลับคืนมานั้น,จะเป็นการลบหลู่เทียนชูได้,เทียนชูย่อมลงโทษพวกเขาอีกครั้ง,ดังนั้นพวกเขาจึงทำให้เหมือนว่าว่าตัวเองนั้นไม่มีตัวตน!"อ๋องตี้จางที่ส่ายหน้าไปมา.

 

"ขอฟังเหตุผล!"จงซานที่กล่าวออกมาเล็กน้อย.

 

"นี่ไม่ใช่ความลับอะไร! เซิ่งหวังจงสามารถค้นหาความจริงของเรื่องนี้จากคนอื่นๆได้!"อ๋องตี้จางที่ส่ายหน้าไปมาปฏิเสธที่จะตอบ.

 

จากนั้น,อ๋องตี้จางที่จ้องมองไปยังเซียนเซิงซือ.

 

"ท่านประมุข!"อ๋องตี้จางที่เอ่ยปากออกมาในทันที.

 

เซียนเซิงซือที่ขมวดคิ้วไปมา,เผยท่าทางสงสัย.

 

"มีเรื่องอะไรอย่างงั้นรึ?"เซียนเซิงซือสอบถามออกไป.

 

"ข้าต้องการมอบหยกชีพจรตระกูลจาง,กลับคืนเพื่อเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาตระกูลจาง!"อ๋องตี้จางที่กล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม.

 

ได้ยินคำพูดของอ๋องตี้จาง,เซียนเซิงซือดวงตาหดเกร็ง.

 

หากเป็นก่อนหน้านี้,เซียนเซิงซือย่อมรู้สึกพอใจหากเขายินดีมอบหยกชีพจรออกมา,นั่นก็อธิบายได้ว่าอ๋องตี้จางนั้นยินดีและรับรู้การมีอยู่ของตระกูลจาง,และต้องการที่จะฟื้นฟูตระกูลจางในอดีตกลับคืนมาแม้นว่าจะมีสถานะเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาก็ตาม.

 

ทว่าเวลานี้เซียนเซิงซือติดตามจงซานมาหลายปี,เกี่ยวกับจิตใจนิสัยมนุษย์นั้นทำให้เขาเข้าใจและยกระดับไปจนถึงระดับสูงแล้ว,เกี่ยวกับอ๋องตี้จางที่เป็นลูกหลานที่ผ่านมาเก้ารุ่นแล้ว,เขาคงไม่ยินดีที่จะเป็นเพียงผู้ใต้บังคับบัญชาแน่นอน,ทว่าในเวลานี้ทำไมเขาถึงยินดีที่จะยอมจำนนในทันทีทันใดล่ะ?

 

นอกจากนี้เซียนเซิงซือยังอ่อนแอกว่าเขา,เขาไม่มีทางที่จะยินย้อมน้อมรับแต่นอน,กับสถานะที่ต่ำกว่า,ไม่มีทางแน่นอนที่เขาจะโง่ขนาดนั้น,อีกอย่างอ๋องตี้จางยังนับว่าเป็นยอดฝีมือที่โดดเด่นอีกด้วย.

 

ในเวลานี้การที่เขาต้องการกลับคือสถานะผู้ใต้บังคับบัญชาของตระกูลจาง,เห็นชัดเจนว่ามันเป็นเรื่องที่น่าขัน,ในเวลานี้เขาต้องมีแผนการบางอย่างอยู่อย่างแน่นอน.

 

เซียนเซิงซือที่จ้องมองไปยังอ๋องตี้จาง,ส่ายหน้าไปมาและกล่าวออกมาว่า,"ตระกูลจางนั้นไม่สามารถฟื้นฟูกลับมาได้แล้ว,ตอนนี้เจ้าไม่จำเป็นต้องทำเช่นนั้น!"

 

อ๋องตี้จางที่ฝืนยิ้มออกมาและกล่าวออกมาว่า,"ใต้สวรรค์แห่งนี้ที่รับรู้ว่าข้าเป็นคนตระกูจางนั้นมีไม่กี่คนนัก,ทว่าในเวลานี้ข้านั้นรับรู้แล้ว่ามีใครที่จะดูแลป้ายหยกวิญญาณของข้า!"

 

อ๋องตี้จางที่นำหยกสลักวงกลมครึ่งหนึ่งออกมา,เป็นหยกที่มีสีดำ,ที่ใจกลางนั้น,มีอักขระสีแดงสลักอยู่,ซึ่งเป็นอักษรที่มีครึ่งซีกนั่นเอง.

 

เห็นหยกครึ่งซีก,เซียนเซิงซือดวงตาหดเกร็ง.

 

"ป้ายหยกวิญญาณจาง,อาคมเส้นหัวใจโลหิต,ท่านควรรู้ว่ามันหมายความว่าอย่างไร?"อ๋องตี้จางที่จ้องมองไปยังเซียนเซิงซือ.

 

"อาคมเส้นหัวใจโลหิต,กำลังอยู่ในอันตราย!"เซียนเซิงซือที่กล่าวออกมาในทันที.

 

คนอื่นๆที่ไม่เข้าใจความหมาย,ทว่าก็ไม่ได้กล่าวขัดแต่อย่างใด.

 

"ใช่,อยู่ในอันตราย,ทว่าหากเป็นคนอื่นย่อมต่างออกไป,ทว่าสำหรับตระกูลจางนั้นมันมีความหมาย,เรื่องนี้ข้าเองก็ไม่ต้องการทำ,ความจริงข้าต้องการเก็บเป็นความลับ,ไม่ต้องการให้คนอื่นรู้แม้แต่น้อย,ทว่าท่านคือประมุขตระกูลจาก,ข้าจึงต้องการมอบให้ท่าน,ซึ่งจะทำให้ข้าวางใจ,ในฐานตระกูลจางก็ขอตายในฐานตระกูลจาง,หากว่าข้าสามารถก้าวข้ามผ่านภัยพิบัตินี้ได้,ข้าก็ขอปรารถนาที่จะเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของตระกูลจาง!"อ๋องตี้จางที่กล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม.

 

เซียนเซิงซือส่ายหน้าไปมา,"หยกนี้,ข้าจะเก็บเอาไว้,เพื่อให้เจ้าอุ่นใจ,หากว่าภัยพิบัติของเจ้าที่จะมาถึง! หากสามารถหลบหนีมันได้,ค่อยตัดสินใจอีกครั้งเถอะ!"

 

"อืม!"อ๋องตี้จางพยักหน้ารับ.

 

อ๋องตี้จางไม่ได้ได้ขัดขืนแต่อย่างใด,เพราะว่าอ๋องตี้จางสามารถมองเห็นได้ว่าเซียนเซิงซือนั้นไม่คิดที่จะหลอกเขาแต่อย่างใด.

 

จากนั้นอ๋องตี้จางก็กลับไปยังตำหนักของเขาอีกครั้ง.

 

ค่ายกลที่เปิดออกมาอีกครั้ง,เจียงซือที่นำโลงศพเข้าไปในห้องโถง.

 

"เซิ่งหวัง,อ๋องตี้จางมอบหยกวิญญาณให้ข้า,เขากำลังประสบภัยพิบัติ,ไม่มีประโยชน์อะไรกับพวกเรา,ก่อนน้านี้ข้าต้องการหาสถานที่สงบ,ตอนนี้ดูเหมือนว่า,ที่นี่จะไม่ใช่สถานที่สงบแล้ว,ข้าควรจะจัดการเรื่องของข้าให้เสร็จเร็วที่สุด!"เซียนเซิงซือกล่าว.

 

"อืม!"

 

เซียนเซิงซือที่เริ่มทำการลงอาคมบนโลงศพและพื้นที่รอบๆห้องโถงใหม่อีกรอบ,ส่วนจงซานเวลานี้อยู่อีกตำหนักแห่งหนึ่ง,เขาที่จำเป็นต้องเก็บตัวเล็กน้อย,หลังจากที่กลืนกินอสุรกายปิศาจไร้คู่เปรียบไปแล้ว,พลังมากมายมหาศาลที่ถูกส่งมาจากแปดหางสวรรค์แห่งจุดจบนั้นมีมากมาย,กระจายไปทั่วร่างของจงซาน.

 

ต้าเซียน,ระดับห้า!

 

"เป็นความจริงนับว่าเป็นอสุรกายระดับเซียนบรรพชนที่น่าเกรงขามจริงๆ! หากว่าได้มากกว่านี้ก็คงจะดี!"จงซานที่กล่าวพลางถอนหายใจ.

 

หากมีคนอื่นๆรู้ความคิดของจงซาน,เวลานี้พวกเขาคงเศร้าแทบกระอักโลหิตแล้ว,ต้าเซียนกลืนกินเซียนบรรพชน,ไม่เคยมีอะไรเช่นนี้แน่นอน.

 

หนึ่งวันหลังจากนั้น.

 

ระหว่างนี้รอบๆห้องโถง,ที่เซียนเซิงซือลงอักขระเอาไว้รอบๆ,อักขระที่เริ่มส่องแสง,พร้อมกับอักขระบนโลงยักษ์สีม่วง.

 

ขณะที่ทุกคนกำลังรอคอยอย่างอดทน,เซียนเซิงซือที่ก้าวไปด้านหน้าโลงศพยักษ์,ก่อนที่จะยื่นมือออกมา,นำหัวใจดวงหนึ่งที่ยังคงเต้นไปมาออกมา.

 

"ตึก,ตึก..................!”

 

หัวใจที่กำลังเต้นไปมาในมือของเซียนเซิงซือ,พร้อมกับปล่อยพลังปิศาจที่แปลกประหลาดออกมา.

 

โหลวซิงเฉินและหนานกงเซิ่งที่จ้องมองดวงตาไม่กระพริบ,ต้องไม่ลืมว่านี่เป็นเรื่องที่แปลกประหลาดเป็นอย่างมาก,เพราะว่าหัวใจในมือของเซียนเซิงซือนั้น,เห็นชัดเจนว่าไม่ใช่ของวิเศษ,ทว่ากับเป็นสิ่งมีชีวิตที่ตายแล้ว,ทว่าทำไมยังคงเต้นอยู่กัน?

 

เซียนเซิงซือที่นำหัวใจสีแดงชาติวางลงไปในโลงศพช้าๆ.

 

"วูซซซซ~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~!”

 

ดูเหมือนว่าปรากฏกระแสลมที่หนักหน่วงรุนแรงพัดขึ้นมาในทันที,ปราณทมิฬที่สามารถมองเห็นด้วยตาเปล่ากำลังไหลมารวมกันภายในโลงศพยักในทันที.

 

ภายในโลงศพยักษ์,ปราณสีดำที่ดูเหมือนว่าจะขดหมุนวนอยู่ในโลงหนาแน่นขึ้นเรื่อยๆ,โดยมีหัวใจสีแดงเป็นจุดศูนย์กลาง,เซียนเซิงซือที่ปิดฝาของโลงศพอย่างรวดเร็ว.

 

ทว่าภายในโลงศพนั้นก็ยังคงดูดซับปราณทมิฬอยู่เช่นเดิม,มันไหลแผ่พุ่งเข้าไปในโลงไม่หยุด.

 

"นี่คือ?"โหลวซิงเฉินที่ดวงตาหดเกร็ง.

 

ดูเหมือว่าปราณทมิฬนั้นมีมากมายและเพิ่มขึ้นเรื่อยๆไม่หยุดเลย.

 

ทว่าที่ด้านนอกตำหนักภายนอกค่ายกล.

 

ที่ไกลออกไปสถานที่พักของอ๋องตี้จาง,อ๋องตี้จางที่กำลังบำเพ็ญลมหายใจอยู่,ทันใดนั้นดวงตาของเขาที่เบิกกว้าง,จดจ้องมองไปยังทิศทางที่พักของจงซานในทันที.

 

"ปราณสวี? ซือตระกูลจาง? นี่คือซือที่โดดเด่นที่สุดของตระกูล! เป็นไปได้ว่าตระกูลจางคนอื่นๆเองก็ยังคงอยู่,เพราะอะไรเขาถึงไม่ได้ปรากฏตัวต่อหน้าผู้คนล่ะ? หากว่าเป็นจริงดั่งที่ข้าคิด,ปราชญ์เทพในเวลานี้ไม่รู้ว่าจะทำหน้าอย่างไร!"อ๋องตี้จางที่เผยรอยยิ้มที่แปลกประหลาดออกมา.

 

ปราณทมิฬมากมายที่แผ่พุ่งทะลวงเข้าไปในโลงศพยักษ์,ดูเหมือนว่าจะใช้เวลาไปถึงสิบวันเต็ม,ปราณทมิฬจึงค่อยๆจางลง,มันที่ค่อยๆจางจนไม่สามารถมองเห็นได้.

 

เซียนเซิงซือที่เปิดโลงศพออกมาช้าๆ,จงซานที่สามารถจำหัวใจก่อนหน้านี้ได้,ทว่าในเวลานี้มันถูกห่อหุ้มด้วยปราณทมิฬ,ปราณทมิฬที่รวมตัวกันจนสร้างร่างเป็นคนผู้หนึ่งซึ่งมองเห็นเป็นเงาที่เลือนลาง!

 

ใบหน้าของเซียนเซิงซือที่เผยความสุขออกมา.

 

ก่อนที่จะสะบัดมือปิดโลงศพเอาไว้.

 

จากนั้นเซียนเซิงซือที่หลับตาลง,พร้อมกับเริ่มร่ายอาคมที่ดูซับซ้อน,ทันใดนั้นที่หน้าผากของเขาที่เริ่มแยกออกมาเป็นเหมือนกับรอยตะเข็บที่กำลังถูกคลายออก.

 

รอยตะเข็บสีดำ,ทันใดนั้นก็ค่อยๆสูบโลงศพสีม่วงเข้าไป,โลงศพสีม่วงที่ใหญ่ยักษ์นั้นค่อยๆย่อขนาดลงและพุ่งเข้าไปในหน้าผากของเซียนเซิงซือ.

 

หน้าผากของเขาที่กำลังเย็บเข้าหาก่อนไปมา,ก่อนที่จะหายไปไร้ซึ่งร่องรอย.

 

โลงศพยักษ์นั้นหายไปแล้ว,หายไปต่อหน้าต่อตา,จนทุกคนแทบไม่อยากเชื่อ.

 

หายเข้าไปในหน้าผาก? ดวงตาของจงซานที่ส่ายไปมา,นี่มันวิชาอะไร?

 

จากนั้นเซียนเซิงซือที่นั่งสมาธิอีกครั้งในทันที,ปราณทมิฬมากมายเวลานี้กำลังพุ่งทะลวงมายังหน้าผากของเซียนเซิงซือ,เป็นปราณสวีที่มากมายกำลังส่องประกายแสงเรืองรองออกมา.

 

ทุกคนคอยปกป้องเซียนเซิงซือ.

 

จวบจนเวลาสามวันสามคืน,ปราณทมิฬที่ค่อยบางลงอีกครั้ง.

 

"ตูมม ตูมม ตูมมม!"

 

ราวกับว่าเกิดระเบิดดังเรื่อๆอยู่ในร่างของเซียนเซิงซือ,ท้ายที่สุดเซียนเซิงซือก็ค่อยๆลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง.

 

ดวงตาที่ลืมขึ้นมา,แววตาส่องประกายแสงวับวาว.

 

"นี่เจ้า,ก้าวไปถึงระดับต้าเซียนแล้วอย่างงั้นรึ?"โหลวซิงเฉินที่กล่าวออกมาด้วยความประหลาดใจ.

 

เขาที่นับว่าเป็นคนที่แข็งแกร่งที่สุดที่อยู่ข้างเซิ่งหวัง,ทว่าในเวลานี้เขาพบได้แล้วว่า,คนที่อยู่ข้างเซิ่งหวังนั้นเป็นคนที่ไม่สามารถตัดสินได้,โดยเฉพาะเซิ่งหวัง,ที่ไม่สามารถใช้เกณฑ์ทั่วไปตัดสินได้,คนอื่นๆเองก็คงจะเช่นกัน.

 

เนียนโหยวโหยวเนตรดวงตาทองคำ,นี่เป็นวิชาที่สามารถผนึกได้แม้แต่ระดับเซียนบรรพชน,และยังมีเซียนเซิงซือที่แปลกประหลาด.

 

เซียนเซิงซือที่ลุกขึ้น,พยักหน้ารับแต่ไม่ได้กล่าวอะไร.

 

"หน้าผากของเจ้า..?"จงซานที่สอบถามออกมาด้วยความสงสัย.

 

"ที่หน้าผากของข้านั้นคือสุสานที่ดีที่สุด,โลงศพได้พบกับสุสานฟ้าดินที่ดีที่สุดแล้ว,เพราะว่าโลงศพนี้สามารถดูดซับปราณสวีได้,ทำให้พลังฝึกตนของผู้ใต้บังคับบัญชาจะเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว,อีกไม่นานถึงแม้นว่าจะไม่ต้องการแต่จะสามารถก้าวไปถึงเซียนโบราณได้,ย่อมสามารถแบ่งเบาภาระของเซิ่งหวังได้!"เซียนเซิงซือที่กล่าวออกมาด้วยความตื่นเต้น.

 

ส่วนโหลวซิงเฉินที่อยู่ข้างๆถึงกับพูดไม่ออก,อีกม่นาน,ก็จะก้าวไปถึงระดับเซียนโบราณอย่างงั้นรึ? กับพลังฝึกตนที่เปลี่ยนเป็นมากมายง่ายๆเช่นนี้นะรึ? เพราะว่าตัวเขานับว่าเป็นคนที่มีพรสวรรค์มีทักษะเทวะเวลา,ทำให้สามารถก้าวหน้าได้อย่างรวดเร็ว,ทว่าเซียนเซิงซือเวลานี้,ถึงแม้ว่าจะยังไม่ต้องการแต่ก็จะก้าวไปถึงระดับเซียนโบราณอย่างงั้นรึ?

 

อย่างไรก็ตามคิดถึงอาวุโสเทียนที่สวนสวรรค์ลอยฟ้าหลิงเซียว,ก็ไม่ได้ทำให้โหลวซิงเฉิงประหลาดใจมากมายนัก,เพราะว่าความเกินจริงของอาวุโสเทียนนั้นมีมากกว่า,ครึ่งชั่วโมงสามารถเลื่อนระดับจากเซียนสวรรค์ไปยังเซียนโบราณได้.

 

"ยอดเยี่ยม!"จงซานที่พยักหน้าด้วยความพึงพอใจ.

 







ที่มาจากhttps://lnmtl.com/novel/immortality

#นิยาย เรื่องอมตะ #Immortality#นิยายแปลไทย
Author(s)


สนใจสนับสนุนพวกเรา,เข้าร่วมกลุ่ม VIP ====> Click

ปัจจุบันแปลจบแล้ว 1672 ตอน สนใจติดต่อเข้ากลุ่มลับได้ครับ

***เว็ปฟรีอัพ สองวันหนึ่งตอน
***กลุ่มลับ แปลจบแล้ว.

 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น