วันพุธที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563

Immortality Chapter 1002 evil spirit blood pond

Immortality Chapter 1002 evil spirit blood pond

นิยาย เรื่อง อมตะ ตอนที่ 1002  บ่อโลหิตวิญญาณปิศาจ.


Chapter 1002 evil spirit blood pond

鬼血池

 บ่อโลหิตวิญญาณปิศาจ.

 

หลังจากที่ทุกคนพูดคุยกันเสร็จก็ออกมาจากห้องโถงอีกครั้ง!

 

ในเวลาเดียวกัน,เนี่ยนเปินและเนี่ยนข่านได้หายไปไม่เห็นเงาอีกแล้ว!

 

"อ๋องยามา,พี่ของข้าทั้งสองคนล่ะ?"เนียนโหยวโหยวที่เอ่ยออกมาในทันที.

 

อ๋องยามาจ้องมองเนียนโหยวโหยวด้วยความซับซ้อน,ก่อนที่จะหันหน้าไปมองปู่ซาอ๋องตี้จาง,เป็นความจริงในเวลานี้,พวกเขาได้รับความเชื่อใจจากอ๋องตี้จางโดยสมบูรณ์แล้ว.

 

ก่อนหน้านี้,สิบหกทูตจูซวินเซียว,ได้กล่าวเตือนอ๋องยามาก่อนแล้ว,ตอนนี้หากเขายังดื้อดึงหาเรื่องอ๋องตี้จาง,ตัวเขาคงจะถูกถอดจากตำแห่งอ๋องยามาเป็นแน่,การหาภรรยานั้นเรื่องเล็ก,ทว่าสถานะของเขานั้นไม่สามารถสูญเสียไปได้!

 

"พวกเขาจากไปแล้ว,นอกจากนี้ยังเร่งรีบจากไปด้วย!"อ๋องยามาที่กล่าวออกมาตามจริง.

 

"ไปแล้ว? ทำไมถึงได้เร่งรีบขนาดนั้นกัน? ไม่คิดที่จะพูดคุยกับน้องสาวของพวกเขาเลยรึ? มีอะไรที่สำคัญจนต้องรีบออกจากเมืองยามาในทันทีกัน!"เนียนโหยวโหยวที่เผยท่าทางเศร้าใจออกมา.

 

"หืม? คงจะมีเรื่องเร่งด่วน!"อ๋องยามาที่คิดอะไรบางอย่างแต่ก็หยุดเอาไว้ในทันที.

 

แน่นอน,จงซานที่อยู่ข้างๆนั้นรับรู้ถึงนิสัยของเนียนโหยวโหยวดี,ภายในห้องโถงนั้น,จงซานรู้ว่าเนียนข่านและเนียนเปินนั้นได้บังคับให้เนียนโหยวโหยวแต่งงาน,ทว่านางยังจะคิดถึงสายสัมพันธ์อยู่อย่างงั้นรึ? ทว่าจากท่าทางของนางแล้วเหมือนว่าจงใจแสดงออกมามากกว่า.

 

ในเวลาเดียวกันนั้น,เซียนเซิงซือที่ยื่นมือออกไป,บนพื้นดินปรากฏกลุ่มของเจียงซือที่แบกโลงศพผุดขึ้นมา,ก่อนที่จะก้าวตามเซียนเซิงซือมา.

 

หืม?

 

มีคนที่เผยท่าทางประหลาดใจเล็กน้อย,ทว่าก็ไม่มีใครกล่าวอะไร,ต้องไม่ลืมว่าเจียงซือรับใช้นั้น มีอยู่ให้เห็นเป็นเรื่องปรกติในนรก.

 

"ไป!"อ๋องตี้จางที่เอ่ยปากออกมา.

 

"อืม!"ทุกคนที่พยักหน้ารับ.

 

อ๋องตี้จางนำทางออกไป,ก้าวออกไปจากห้องโถงตำหนักยามา.

 

"องค์ยามา,พวกเขาที่กำลังเดินทางไปยังนรกชั้นที่ 18,บ่อโลหิตจิตวิญญาณอย่างงั้นรึ?"ลู่พานที่อยู่ใกล้ๆกล่าวออกมาด้วยความประหลาดใจ.

 

อ๋องยามาหันหน้า,จดจ้องมองไปยังลู่พานด้วยความเย็นชา,จนทำให้ลู่พานสั่นสะท้านทีเดียว.

 

พื้นที่รอบๆตำหนักยามานั้นกลายเป็นเศษซากไปแล้ว,เหล่าแขกที่มาร่วมงานแต่งงานเองก็ไม่มีเหลืออยู่อีกแล้ว,แต่ละคนได้กล่าวลาอ๋องยามาจากกันไปหมดแล้ว.

 

เย็นวันหนึ่งในตำหนักยามา.

 

ภายในห้องโถงแห่งหนึ่งซึ่งมีกลุ่มคนสำคัญรวมกันอยู่,ทุกคนที่จ้องมองไปยังอ๋องยามา,อ๋องยามา? ไม่ใช่ว่ากำลังจะให้ไปจับกุมคนที่ทำลายงานแต่งงานหรอกนะ?

 

ในเวลานี้,ใบหน้าของอ๋องยามาที่แดงซ่านลุกลี้ลุกลน,ขณะที่นั่งบนบัลลังก์,ใบหน้าที่เต็มไปด้วยความซับซ้อนและเศร้าใจ.

 

"องค์ยามา,ทุกอย่างให้มันจบไปเถอะ,หลังจากนี้ยังมีสตรีมากมายที่รอคอยท่านอยู่!"แม่เฒ่าเมิ่งโผที่กล่าวปลอบ.

 

"หาย,จบกัน,มันหายไปแล้ว,ไม่มีเหลือแล้ว!"ใบหน้าของอ๋องยามาที่เต็มไปด้วยความเศร้าใจ.

 

"สิ่งใดหายไปอย่างงั้นรึ?"ทุกคนที่เอ่ยออกมาด้วยความสงสัย.

 

"ตำราชีวิตและความตาย,ตำราหายไปแล้ว,ตำราชีวิตและความตายของข้า!"ใบหน้าของอ๋องยามาที่เต็มไปด้วยความร้อนใจ.

 

"องค์ยามา,ตำราชีวิตและความตายอยู่ในมือข้า!"ลู่พานที่กล่าวออกมาทันที,ก่อนที่จะนำตำราสีดำออกมา.

 

"นั่นมันของปลอม,ที่ข้าพูดถึงนั้นคือของจริง,ของจริงมันหายไป!"ดวงตาของอ๋องยามาเบิกกว้างขณะพูด.

 

"ตำราชีวิตและความตายหายไป?"ภายในห้องโถงส่งเสียงดังอื้ออึงไปในทันที,ทุกคนที่กำลังเต็มไปด้วยความร้อนใจ.

 

"องค์ยามา,อย่าได้ร้อนใจไป,ลองคิดดูว่าเห็นมันสุดท้ายเมื่อไหร่?"เมิ่งโผที่เอ่ยออกมาในทันที.

 

"ก่อนที่ข้าจะแต่งงาน,ข้ายังเห็นมันอยู่เลย,ข้าใส่มันไว้ในอกเสื้อ,มันจะหายไปได้อย่างไร?"ใบหน้าของอ๋องยามาที่เต็มไปด้วยความกังวล.

 

"ก่อนแต่งานอย่างงั้นรึ? เช่นนั้นในตอนเช้ายังมีอยู่,ตอนเย็นกลับไม่มีแล้ว,ต้องเป็นตอนกลางวัน,ใครกันที่จะสามารถขโมยตำราชีวิตและความตายไป?"แม่เฒ่าเมิ่งโผที่กล่าวสอบถาม.

 

"จงซานรึ?"

 

"จงซาน,เป็นไปไม่ได้,เข้าปรากฏขึ้นก็กลายเป็นจุดสนใจต่อผู้คนมากมาย,สายตาของทุกคนต่างก็จ้องมองไปยังเขา,เป็นไปไม่ได้ที่เขาจะขโมยตำราชีวิตและความตาย."เมิ่งโผที่ส่ายหน้าไปมา.

 

"ข้ารู้,ข้ารู้แล้ว!"อ๋องยามาที่ตะโกนออกมาในทันที.

 

"ใคร?"ทุกคนต่างก็จ้องมองไปยังอ๋องยามา.

 

"เนียนเปินและเนียนข่าน,พวกเขาดูมีพิรุธ,ทำไมพวกเขาเร่งรีบเดินทางจากไปล่ะ? ไม่แม้แต่รอพูดคุยกับเนียนโหยวโหยว,พวกเขาจากไปไม่รอแม้แต่น้อย? แน่นอนว่าพวกเขาต้องรู้สึกหวาดกลัว,เพราะกำลังนำตำราชีวิตและความตายหนีไปไงล่ะ!"ทันใดนั้นอ๋องยามาที่ราวกับว่าตระหนักได้.

 

"แล้วทำอย่างไร?"เมิ่งโผที่ใบหน้ากลายเป็นอัปลักษณ์ในทันที.

 

ทั้งสองเป็นเซียนโบราณนั่นเอง.

 

ใบหน้าของอ๋องยามาเปลี่ยนเป็นมืดคลึ้มลังเล,ครุ่นคิดท้ายที่สุดก็กล่าวมาว่า,"คงต้องเชิญทูตจูซวินเซียวแล้ว,ขอให้พวกเขาไล่ล่าคนทั้งสอง,และนำตำราชีวิตและความตายกลับมา!"

-----------------------------------------------------------------

 

กลุ่มของจงซานที่ก้าวตามอ๋องตี้จางเข้าไปในตำหนักแห่งหนึ่ง,ตำหนักดังกล่าวนั้นมีประตูที่มีบันไดพาลงไปด้านล่าง,ทุกคนที่ก้าวตามลงไปด้านล่าง,ทุกๆก้าวที่พวกเขาก้าวผ่าน,พื้นที่รอบๆจะส่องประกายแสงออกมาเป็นระยะๆ.

 

จงซานรับรู้ว่ามันไม่ใช่สถานที่,ทว่ามันคือโลกใบเล็กอีกใบหนึ่ง,ที่ดูคล้ายกลับตำหนักในดินแดนเทพอมตะ.

 

ทุกคนที่ก้าวมาได้ราวๆ 13 ขั้น,ก็สัมผัสได้ถึงกลิ่นของโลหิตที่แผ่ซานออกมา.

”!”

โฮกก!”

”!”

........................

............

......

 

เสียงโหยหวนคำรามดังออกมาหวีดก้องเสียงหลงเสียงที่ดุร้าย,ขมขืน,เจ็บปวด,ร้องไห้ทุกระทมดังออกมาจากเหล่าภูติ,กลิ่นอายที่หนักหน่วงรุนแรงน่าหวาดผวา,วิญญาณปิศาจ,นี่คือนรกชั้นที่ 18 ,วิญญาณปิศาจ.

 

ทุกคนที่ผ่านเข้ามาในอุโมงค์,จากนั้นก็ไปหยุดอยู่ที่เส้นทางเส้นหนึ่ง.

 

ที่ด้านหน้านั้นเป็นธารโลหิตที่กว้างใหญ่ยาวไร้ที่สิ้นสุด.

 

ยาวจนไม่สามารถมองเห็นจุดสิ้นสิ้น.

 

ธารโลหิตที่สาดซัด,ม้วนกลิ้งสร้างคลื่นที่ใหญ่โตราวกับภูเขา,กวาดออกไปรอบๆเป็นระยะๆ.

 

ทว่าภายในธารโลหิตนั้น,มีจุดสีดำที่เหวี่ยงไปมา,ร่างสีดำที่ส่ายไปมา,และพยายามตะเกียกตะกายหนี,แต่ก็ไม่สามารถหนีพ้น,เสียงโหยหวนเจ็บปวดที่ดังออกมาเป็นระยะ,เสียงครวญครางที่ดังหวิดหวิวทรมานทรมาทรกรรม

 

เนียนโหยวโหยวที่สั่นสะท้านเร่งรีบกุมแขนจงซานไว้แน่น.

 

บนท้องฟ้าบนธารโลหิตนั้นมีอักขระหว่าง," ส่องประกายแสงสีทองลอยอยู่,อักษรรูนดังกล่าวนั้นปลดปล่อยกลิ่นอายที่ยิ่งใหญ่ทรงพลังแผ่ออกมา,แม้แต่ได้ยินเสียงสวดมนต์ของอรหันต์ดังก้องไปทั่วด้วยเช่นกัน.

 

"นี่คือกษิติครรภโพธิสัตว์มูลปณิธานสูตร อย่างงั้นรึ?"จงซานที่เอ่ยสอบถามออกไป.

 

บทสวดองค์กษิติครรภโพธิสัตว์มูลปณิธานสูตร,เป็นบทสวดที่มีบันทึกอยู่ในพระไตรปิฎก,จงซานที่เคยศึกษามาเมื่อตอนเด็ก,ว่ากล่าวเกี่ยวกับจุติในสรวงสวรรค์,หากว่าได้รับอานิสงค์จากบนสวดดังกล่าวนี้.

 

"อืม,เป็นบทสวดที่ตระกูลจางได้ส่งผ่านมา!"อ๋องตี้จางที่กล่าวออกมาโดยตรง.

 

จงซานที่จ้องมองไปยังเซียนเซิงซือด้วยความประหลาดใจ,ตระกูลจางนั้นมีภูมิหลังเช่นใดกัน?

 

"โลงศพยักษ์นี้,มีตราประทับของปราชญ์เทพอย่างงั้นรึ?"อ๋องตี้จางนั้นจดจ้องมองไปยังโลงศพที่เจียงซือหลายตนที่แบกมา,ด้วยแววตาที่ดูเหมือนว่ามันเป็นเพียงเรื่องเล็กน้อยยิ่งนัก.

 

"อืม!"เซียนเซิงซือพยักหน้ารับ.

 

"ไม่เห็นต้องให้ข้าพามายังบ่อโลหิตวิญญาณปิศาจเลย,ข้าสามารถที่จะลบตราประทับได้!"อ๋องตี้จางที่เอ่ยปากออกมา.

 

อ๋องตี้จางไม่ได้คุยโวแต่อย่างใด,เขาที่มีระดับเซียนบรรพชน,ย่อมมีความสามารถที่จะลบตราประทับของปราชญ์เทพที่อ่อนแอออกได้.

 

"ไม่จำเป็น?"เซียนเซิงซือที่ปฏิเสธอ๋องตี้จางในทันที.

 

สายโลหิตตระกูลจาง,ได้ผ่านมาถึงเก้ารุ่น,เซียนเซิงซือที่เชื่อใจได้ชั่วคราว,ทว่าไม่สามารถเชื่อใจอย่างสมบูรแน่นอน.

 

อ๋องตี้จางทีพยักหน้ารับ,ตระหนักได้ถึงบางเรื่อง,จึงไม่กล่าวสิ่งใดต่อไป,"อืม,มีที่พักอยู่,สามารถที่จะไปพักที่นั่นได้ชั่วคราว!"

 

"อืม!"เซียนเซิงซือพยักหน้ารับ.

 

"ข้าอยู่ที่นั่น,หากว่ามีอะไรให้มาหาข้าก็แล้วกัน!"อ๋องตี้จางที่ชี้ไปยังอีกทิศทาง.

 

"อืม!"เซียนเซิงซือพยักหน้า.

 

"อาวุโสอ๋องตี้จาง!"จงซานที่กล่าวออกมาในทันที.

 

"หืม?"อ๋องตี้จางที่จ้องมองไปยังจงซาน.

 

"ได้ยินมาว่าอ๋องตี้จางนั้นมีเทพอสูร,ที่มีนามว่า,ติ้ทิง,ไม่รู้ว่าจะสามารถแนะนำ,เพื่อให้จงซานได้บรรเทาความอยากรู้ได้หรือไม่?!"จงซานที่กล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม.

 

เกี่ยวกับอ๋องตี้จางนั้น,จงซานไม่สามารถที่จะวางใจได้เช่นกัน,กับท่าทางที่เขาแสดงออกมาแล้ว,เขาอาจจะใช้มันออกมาก็ได้,ซึ่งเขาได้ยินมาว่าเทพอสูรตี้ทิงนั้น,สามารถที่จะลอบรับฟังเรื่องราวต่างๆจากทั่วหล้า,หากว่ามันอยู่ที่นี่,เป็นไปได้ว่ามันอาจจะทำการล่วงเกินความเป็นส่วนตัวของเขาได้.

 

"ตี้ทิง? ที่นี่ข้าไมไม่ได้ให้มันเข้ามาแต่อย่างใด!"อ๋องตี้จางที่กล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม.

 

"จริงๆรึ?"จงซานที่จ้องมองไปยังอ๋องตี้จาง.

 

"เป็นความจริง!"อ๋องตี้จางที่กล่าวยืนยัน.

 

"ช่างน่าเสียดายจริงๆ!"จงซานที่ส่ายหน้าไปมา.

 

"เอาล่ะ,สถานที่แห่งนี้เองก็ยังมีอสุรกายปิศาจที่ร้ายกาจหลงเหลืออยู่เช่นกัน,อสุรกายปิศาจที่ร้ายกาจ,ที่ทำให้บ่อโลหิตแห่งนี้ยังยากที่จะจัดการ,ก่อนหน้านี้หลายเดือน,ข้าได้ทำให้มันได้รับบาดเจ็บ,มันได้หนีเข้าไปในส่วนลึกของบ่อโลหิตแห่งนี้,มันเป็นอสุรกายที่เจ้าเล่ห์มาก,หากว่ามันปรากฏตัวขึ้นมา,โปรดทำลายหยกนี้,แล้วข้าจะเร่งรีบมาในทันที!"อ่องตี้จางที่ยื่นหยกอักขระส่งให้กับเซียนเซิงซือ.

 

"อืม!"เซียนเซิงซือพยักหน้ารับ.

 

จากนั้น,ทุกคนที่ก้าวเดินตรงไปยังสถานที่พักชั่วคราวที่อ๋องตี้จางกล่าว.

 

มันเป็นเหมือนกับพื้นที่รอบเป็นทุ่งกว้างซะมากกว่า,ในเวลานี้หนานกงเซิ่งได้ทำการสร้างค่ายกลรอบๆ.

 

ค่ายกลที่หนานกงเซิ่งสร้างขึ้นนี้เป็นหนึ่งในค่ายกลที่ได้รับรู้มาจาก,"ตำราปฐพี"และค่ายกลลวงสวรรค์,เขาได้ทำการจัดเตรียมสร้างค่ายกลที่สมบูรณ์แบบขึ้น,ซึ่งใช้เวลาในการสร้างขึ้นมาหนึ่งวันหนึ่งคืนทีเดียว.

 

"จงเปิด!"หนานกงเซิ่งที่ได้ทำการเปิดทำงานของค่ายกลในทันที.

 

ทันทีที่ค่ายกลเปิดทำงานพื้นที่รอบๆก็ส่องประกายแสงวับวาวออกมามากมาย,จนทำให้อำนาจโลหิตและพลังแห่งความโชคร้ายถูกผลักดันออกไปโดยสมบูรณ์.

 

อีกสถานที่หนึ่งที่ห่างออกมาจากบ่อโลหิตวิญญาณปิศาจ,บนบัลลังก์ดอกบัว.

 

ใบหน้าของอ๋องตี้จางที่กระตุกไปมา,จากนั้นก็สายหน้าไปมา,เผยรอยยิ้มบางๆออกมา,"ตระกูลจางที่ตกต่ำมานานเกินไปแล้ว,ลูกหลานตระกูลจากคาดไม่ถึงเลยว่าจะระมัดระวังตัวขนาดนี้,เป็นค่ายกลที่ดี,แม้แต่ข้ายังไม่สามารถตรวจสอบได้,เอาล่ะ,โชคร้ายของขาเวลานี้ได้ลดลงแล้ว,ไม่จำเป็นต้องสนใจเรื่องใดๆ,รอให้ข้าผ่านทัณฑ์ครั้งนี้ไปได้,ค่อยครุ่นคิดเกี่ยวกับเรื่องของตระกูลจางอีกครั้งก็แล้วกัน,หวังว่าเทพอสูรตี้ติงที่จะปล่อยออกไปครั้งนี้จะไม่ทำให้ข้าผิดหวัง!"

 

กล่าวเสร็จ,อ๋องตี้จางก็นำไม้ไผ่สีม่วงออกมา,ก่อนที่มันจะกลมกลืนไปกับความว่างเปล่า,ขณะที่กำลังเตรียมการอยู่นั้น,อ๋องตี้จางที่ขมวดคิ้วไปมาเล็กน้อย.

 

"นิมิตร้าย,เป็นนิมิตร้ายที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้,ดูเหมือนว่าข้าคงจะต้องเข้าร่วมเดิมพันครั้งนี้ด้วยร่างของข้าแล้ว!"อ๋องตี้จางที่เผยแววตาร้อนรน.

 

ระหว่างนี้อ๋องตี้จางที่เข้าไปในห้องโถงแห่งหนึ่งจากนั้นทุกอย่างก็เปลี่ยนเป็นเงียบงัน.

 

ส่วนกลุ่มของจงซาน,ในเวลานี้กำลังจ้องมองไปยังโลงศพ.

 

"เซียนเซิงซือ,จะเริ่มแล้วรึ?"จงซานที่กล่าวออกมาด้วยความจริงจัง.

 

"ต้องรอให้ถึงวันพรุ่งนี้,ตอนนี้จำเป็นต้องเตรียมความพร้อมก่อน!"เซียนเซิงซือกล่าว.

 

"อืม! เช่นนั้น,พวกเราจะเป็นคนปกป้องเซียนเซิงซือเอง!"จงซานที่กล่าวออกมา.

 

เซียนเซิงซือที่พยักหน้ารับ.

 

เซียนเซิงซือที่นำพูกันออกมา,พร้อมกับน้ำหมึกสีทอง,ก่อนที่จะค่อยๆเขียดลวดลาดอักขระลงบนผิวของโลงศพ.

 

ทุกคนที่ลอบมองเพียงชั่วขณะเท่านั้น,เพราะว่าไม่รู้ว่าเพราะเหตุผลใด,ไม่มีเสียงไม่ได้ยิน,แต่กลับทำให้พวกเขากลายเป็นหน้ามืดได้.

 

เริ่มวันพรุ่งนี้,ขณะที่รอนั้น,เนียนโหยวโหยวที่นำตำราสีดำออกมา.

 

"นี่คือตำราชีวิตและความตายของเจ้าเฒ่าปิศาจอ๋องยามานั่น,บิดาบรรพชนของข้าถึงได้ส่งข้าและสองไท่จื่อมาเพื่อแย่งชิงมัน,ข้าได้ขโมยมันมา,ชิ,เจ้าสองคนนั่นทรยศข้า,ข้าจะไม่ให้พวกมันได้ตำราชีวิตและความตายไปแน่."เนียนโหยวโหยวที่กล่าวออกมาด้วยความขมขื่น.

 

"ตำราชีวิตและความตายรึ?"






ที่มาจากhttps://lnmtl.com/novel/immortality

#นิยาย เรื่องอมตะ #Immortality#นิยายแปลไทย
Author(s)


สนใจสนับสนุนพวกเรา,เข้าร่วมกลุ่ม VIP ====> Click

ปัจจุบันแปลจบแล้ว 1672 ตอน สนใจติดต่อเข้ากลุ่มลับได้ครับ

***เว็ปฟรีอัพ สองวันหนึ่งตอน
***กลุ่มลับ แปลจบแล้ว.

 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น