Immortality Chapter 1002 evil spirit blood pond
นิยาย เรื่อง อมตะ ตอนที่ 1002 บ่อโลหิตวิญญาณปิศาจ.
Chapter 1002 evil spirit blood pond
恶鬼血池
บ่อโลหิตวิญญาณปิศาจ.
หลังจากที่ทุกคนพูดคุยกันเสร็จก็ออกมาจากห้องโถงอีกครั้ง!
ในเวลาเดียวกัน,เนี่ยนเปินและเนี่ยนข่านได้หายไปไม่เห็นเงาอีกแล้ว!
"อ๋องยามา,พี่ของข้าทั้งสองคนล่ะ?"เนียนโหยวโหยวที่เอ่ยออกมาในทันที.
อ๋องยามาจ้องมองเนียนโหยวโหยวด้วยความซับซ้อน,ก่อนที่จะหันหน้าไปมองปู่ซาอ๋องตี้จาง,เป็นความจริงในเวลานี้,พวกเขาได้รับความเชื่อใจจากอ๋องตี้จางโดยสมบูรณ์แล้ว.
ก่อนหน้านี้,สิบหกทูตจูซวินเซียว,ได้กล่าวเตือนอ๋องยามาก่อนแล้ว,ตอนนี้หากเขายังดื้อดึงหาเรื่องอ๋องตี้จาง,ตัวเขาคงจะถูกถอดจากตำแห่งอ๋องยามาเป็นแน่,การหาภรรยานั้นเรื่องเล็ก,ทว่าสถานะของเขานั้นไม่สามารถสูญเสียไปได้!
"พวกเขาจากไปแล้ว,นอกจากนี้ยังเร่งรีบจากไปด้วย!"อ๋องยามาที่กล่าวออกมาตามจริง.
"ไปแล้ว? ทำไมถึงได้เร่งรีบขนาดนั้นกัน?
ไม่คิดที่จะพูดคุยกับน้องสาวของพวกเขาเลยรึ?
มีอะไรที่สำคัญจนต้องรีบออกจากเมืองยามาในทันทีกัน!"เนียนโหยวโหยวที่เผยท่าทางเศร้าใจออกมา.
"หืม? คงจะมีเรื่องเร่งด่วน!"อ๋องยามาที่คิดอะไรบางอย่างแต่ก็หยุดเอาไว้ในทันที.
แน่นอน,จงซานที่อยู่ข้างๆนั้นรับรู้ถึงนิสัยของเนียนโหยวโหยวดี,ภายในห้องโถงนั้น,จงซานรู้ว่าเนียนข่านและเนียนเปินนั้นได้บังคับให้เนียนโหยวโหยวแต่งงาน,ทว่านางยังจะคิดถึงสายสัมพันธ์อยู่อย่างงั้นรึ?
ทว่าจากท่าทางของนางแล้วเหมือนว่าจงใจแสดงออกมามากกว่า.
ในเวลาเดียวกันนั้น,เซียนเซิงซือที่ยื่นมือออกไป,บนพื้นดินปรากฏกลุ่มของเจียงซือที่แบกโลงศพผุดขึ้นมา,ก่อนที่จะก้าวตามเซียนเซิงซือมา.
หืม?
มีคนที่เผยท่าทางประหลาดใจเล็กน้อย,ทว่าก็ไม่มีใครกล่าวอะไร,ต้องไม่ลืมว่าเจียงซือรับใช้นั้น
มีอยู่ให้เห็นเป็นเรื่องปรกติในนรก.
"ไป!"อ๋องตี้จางที่เอ่ยปากออกมา.
"อืม!"ทุกคนที่พยักหน้ารับ.
อ๋องตี้จางนำทางออกไป,ก้าวออกไปจากห้องโถงตำหนักยามา.
"องค์ยามา,พวกเขาที่กำลังเดินทางไปยังนรกชั้นที่
18,บ่อโลหิตจิตวิญญาณอย่างงั้นรึ?"ลู่พานที่อยู่ใกล้ๆกล่าวออกมาด้วยความประหลาดใจ.
อ๋องยามาหันหน้า,จดจ้องมองไปยังลู่พานด้วยความเย็นชา,จนทำให้ลู่พานสั่นสะท้านทีเดียว.
พื้นที่รอบๆตำหนักยามานั้นกลายเป็นเศษซากไปแล้ว,เหล่าแขกที่มาร่วมงานแต่งงานเองก็ไม่มีเหลืออยู่อีกแล้ว,แต่ละคนได้กล่าวลาอ๋องยามาจากกันไปหมดแล้ว.
เย็นวันหนึ่งในตำหนักยามา.
ภายในห้องโถงแห่งหนึ่งซึ่งมีกลุ่มคนสำคัญรวมกันอยู่,ทุกคนที่จ้องมองไปยังอ๋องยามา,อ๋องยามา?
ไม่ใช่ว่ากำลังจะให้ไปจับกุมคนที่ทำลายงานแต่งงานหรอกนะ?
ในเวลานี้,ใบหน้าของอ๋องยามาที่แดงซ่านลุกลี้ลุกลน,ขณะที่นั่งบนบัลลังก์,ใบหน้าที่เต็มไปด้วยความซับซ้อนและเศร้าใจ.
"องค์ยามา,ทุกอย่างให้มันจบไปเถอะ,หลังจากนี้ยังมีสตรีมากมายที่รอคอยท่านอยู่!"แม่เฒ่าเมิ่งโผที่กล่าวปลอบ.
"หาย,จบกัน,มันหายไปแล้ว,ไม่มีเหลือแล้ว!"ใบหน้าของอ๋องยามาที่เต็มไปด้วยความเศร้าใจ.
"สิ่งใดหายไปอย่างงั้นรึ?"ทุกคนที่เอ่ยออกมาด้วยความสงสัย.
"ตำราชีวิตและความตาย,ตำราหายไปแล้ว,ตำราชีวิตและความตายของข้า!"ใบหน้าของอ๋องยามาที่เต็มไปด้วยความร้อนใจ.
"องค์ยามา,ตำราชีวิตและความตายอยู่ในมือข้า!"ลู่พานที่กล่าวออกมาทันที,ก่อนที่จะนำตำราสีดำออกมา.
"นั่นมันของปลอม,ที่ข้าพูดถึงนั้นคือของจริง,ของจริงมันหายไป!"ดวงตาของอ๋องยามาเบิกกว้างขณะพูด.
"ตำราชีวิตและความตายหายไป?"ภายในห้องโถงส่งเสียงดังอื้ออึงไปในทันที,ทุกคนที่กำลังเต็มไปด้วยความร้อนใจ.
"องค์ยามา,อย่าได้ร้อนใจไป,ลองคิดดูว่าเห็นมันสุดท้ายเมื่อไหร่?"เมิ่งโผที่เอ่ยออกมาในทันที.
"ก่อนที่ข้าจะแต่งงาน,ข้ายังเห็นมันอยู่เลย,ข้าใส่มันไว้ในอกเสื้อ,มันจะหายไปได้อย่างไร?"ใบหน้าของอ๋องยามาที่เต็มไปด้วยความกังวล.
"ก่อนแต่งานอย่างงั้นรึ? เช่นนั้นในตอนเช้ายังมีอยู่,ตอนเย็นกลับไม่มีแล้ว,ต้องเป็นตอนกลางวัน,ใครกันที่จะสามารถขโมยตำราชีวิตและความตายไป?"แม่เฒ่าเมิ่งโผที่กล่าวสอบถาม.
"จงซานรึ?"
"จงซาน,เป็นไปไม่ได้,เข้าปรากฏขึ้นก็กลายเป็นจุดสนใจต่อผู้คนมากมาย,สายตาของทุกคนต่างก็จ้องมองไปยังเขา,เป็นไปไม่ได้ที่เขาจะขโมยตำราชีวิตและความตาย."เมิ่งโผที่ส่ายหน้าไปมา.
"ข้ารู้,ข้ารู้แล้ว!"อ๋องยามาที่ตะโกนออกมาในทันที.
"ใคร?"ทุกคนต่างก็จ้องมองไปยังอ๋องยามา.
"เนียนเปินและเนียนข่าน,พวกเขาดูมีพิรุธ,ทำไมพวกเขาเร่งรีบเดินทางจากไปล่ะ?
ไม่แม้แต่รอพูดคุยกับเนียนโหยวโหยว,พวกเขาจากไปไม่รอแม้แต่น้อย?
แน่นอนว่าพวกเขาต้องรู้สึกหวาดกลัว,เพราะกำลังนำตำราชีวิตและความตายหนีไปไงล่ะ!"ทันใดนั้นอ๋องยามาที่ราวกับว่าตระหนักได้.
"แล้วทำอย่างไร?"เมิ่งโผที่ใบหน้ากลายเป็นอัปลักษณ์ในทันที.
ทั้งสองเป็นเซียนโบราณนั่นเอง.
ใบหน้าของอ๋องยามาเปลี่ยนเป็นมืดคลึ้มลังเล,ครุ่นคิดท้ายที่สุดก็กล่าวมาว่า,"คงต้องเชิญทูตจูซวินเซียวแล้ว,ขอให้พวกเขาไล่ล่าคนทั้งสอง,และนำตำราชีวิตและความตายกลับมา!"
-----------------------------------------------------------------
กลุ่มของจงซานที่ก้าวตามอ๋องตี้จางเข้าไปในตำหนักแห่งหนึ่ง,ตำหนักดังกล่าวนั้นมีประตูที่มีบันไดพาลงไปด้านล่าง,ทุกคนที่ก้าวตามลงไปด้านล่าง,ทุกๆก้าวที่พวกเขาก้าวผ่าน,พื้นที่รอบๆจะส่องประกายแสงออกมาเป็นระยะๆ.
จงซานรับรู้ว่ามันไม่ใช่สถานที่,ทว่ามันคือโลกใบเล็กอีกใบหนึ่ง,ที่ดูคล้ายกลับตำหนักในดินแดนเทพอมตะ.
ทุกคนที่ก้าวมาได้ราวๆ 13 ขั้น,ก็สัมผัสได้ถึงกลิ่นของโลหิตที่แผ่ซานออกมา.
”!”
”โฮกก!”
”!”
........................
............
......
เสียงโหยหวนคำรามดังออกมาหวีดก้องเสียงหลงเสียงที่ดุร้าย,ขมขืน,เจ็บปวด,ร้องไห้ทุกระทมดังออกมาจากเหล่าภูติ,กลิ่นอายที่หนักหน่วงรุนแรงน่าหวาดผวา,วิญญาณปิศาจ,นี่คือนรกชั้นที่
18 ,วิญญาณปิศาจ.
ทุกคนที่ผ่านเข้ามาในอุโมงค์,จากนั้นก็ไปหยุดอยู่ที่เส้นทางเส้นหนึ่ง.
ที่ด้านหน้านั้นเป็นธารโลหิตที่กว้างใหญ่ยาวไร้ที่สิ้นสุด.
ยาวจนไม่สามารถมองเห็นจุดสิ้นสิ้น.
ธารโลหิตที่สาดซัด,ม้วนกลิ้งสร้างคลื่นที่ใหญ่โตราวกับภูเขา,กวาดออกไปรอบๆเป็นระยะๆ.
ทว่าภายในธารโลหิตนั้น,มีจุดสีดำที่เหวี่ยงไปมา,ร่างสีดำที่ส่ายไปมา,และพยายามตะเกียกตะกายหนี,แต่ก็ไม่สามารถหนีพ้น,เสียงโหยหวนเจ็บปวดที่ดังออกมาเป็นระยะ,เสียงครวญครางที่ดังหวิดหวิวทรมานทรมาทรกรรม
เนียนโหยวโหยวที่สั่นสะท้านเร่งรีบกุมแขนจงซานไว้แน่น.
บนท้องฟ้าบนธารโลหิตนั้นมีอักขระหว่าง," 卍’
ส่องประกายแสงสีทองลอยอยู่,อักษรรูนดังกล่าวนั้นปลดปล่อยกลิ่นอายที่ยิ่งใหญ่ทรงพลังแผ่ออกมา,แม้แต่ได้ยินเสียงสวดมนต์ของอรหันต์ดังก้องไปทั่วด้วยเช่นกัน.
"นี่คือกษิติครรภโพธิสัตว์มูลปณิธานสูตร
อย่างงั้นรึ?"จงซานที่เอ่ยสอบถามออกไป.
บทสวดองค์กษิติครรภโพธิสัตว์มูลปณิธานสูตร,เป็นบทสวดที่มีบันทึกอยู่ในพระไตรปิฎก,จงซานที่เคยศึกษามาเมื่อตอนเด็ก,ว่ากล่าวเกี่ยวกับจุติในสรวงสวรรค์,หากว่าได้รับอานิสงค์จากบนสวดดังกล่าวนี้.
"อืม,เป็นบทสวดที่ตระกูลจางได้ส่งผ่านมา!"อ๋องตี้จางที่กล่าวออกมาโดยตรง.
จงซานที่จ้องมองไปยังเซียนเซิงซือด้วยความประหลาดใจ,ตระกูลจางนั้นมีภูมิหลังเช่นใดกัน?
"โลงศพยักษ์นี้,มีตราประทับของปราชญ์เทพอย่างงั้นรึ?"อ๋องตี้จางนั้นจดจ้องมองไปยังโลงศพที่เจียงซือหลายตนที่แบกมา,ด้วยแววตาที่ดูเหมือนว่ามันเป็นเพียงเรื่องเล็กน้อยยิ่งนัก.
"อืม!"เซียนเซิงซือพยักหน้ารับ.
"ไม่เห็นต้องให้ข้าพามายังบ่อโลหิตวิญญาณปิศาจเลย,ข้าสามารถที่จะลบตราประทับได้!"อ๋องตี้จางที่เอ่ยปากออกมา.
อ๋องตี้จางไม่ได้คุยโวแต่อย่างใด,เขาที่มีระดับเซียนบรรพชน,ย่อมมีความสามารถที่จะลบตราประทับของปราชญ์เทพที่อ่อนแอออกได้.
"ไม่จำเป็น?"เซียนเซิงซือที่ปฏิเสธอ๋องตี้จางในทันที.
สายโลหิตตระกูลจาง,ได้ผ่านมาถึงเก้ารุ่น,เซียนเซิงซือที่เชื่อใจได้ชั่วคราว,ทว่าไม่สามารถเชื่อใจอย่างสมบูรแน่นอน.
อ๋องตี้จางทีพยักหน้ารับ,ตระหนักได้ถึงบางเรื่อง,จึงไม่กล่าวสิ่งใดต่อไป,"อืม,มีที่พักอยู่,สามารถที่จะไปพักที่นั่นได้ชั่วคราว!"
"อืม!"เซียนเซิงซือพยักหน้ารับ.
"ข้าอยู่ที่นั่น,หากว่ามีอะไรให้มาหาข้าก็แล้วกัน!"อ๋องตี้จางที่ชี้ไปยังอีกทิศทาง.
"อืม!"เซียนเซิงซือพยักหน้า.
"อาวุโสอ๋องตี้จาง!"จงซานที่กล่าวออกมาในทันที.
"หืม?"อ๋องตี้จางที่จ้องมองไปยังจงซาน.
"ได้ยินมาว่าอ๋องตี้จางนั้นมีเทพอสูร,ที่มีนามว่า,ติ้ทิง,ไม่รู้ว่าจะสามารถแนะนำ,เพื่อให้จงซานได้บรรเทาความอยากรู้ได้หรือไม่?!"จงซานที่กล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม.
เกี่ยวกับอ๋องตี้จางนั้น,จงซานไม่สามารถที่จะวางใจได้เช่นกัน,กับท่าทางที่เขาแสดงออกมาแล้ว,เขาอาจจะใช้มันออกมาก็ได้,ซึ่งเขาได้ยินมาว่าเทพอสูรตี้ทิงนั้น,สามารถที่จะลอบรับฟังเรื่องราวต่างๆจากทั่วหล้า,หากว่ามันอยู่ที่นี่,เป็นไปได้ว่ามันอาจจะทำการล่วงเกินความเป็นส่วนตัวของเขาได้.
"ตี้ทิง? ที่นี่ข้าไมไม่ได้ให้มันเข้ามาแต่อย่างใด!"อ๋องตี้จางที่กล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม.
"จริงๆรึ?"จงซานที่จ้องมองไปยังอ๋องตี้จาง.
"เป็นความจริง!"อ๋องตี้จางที่กล่าวยืนยัน.
"ช่างน่าเสียดายจริงๆ!"จงซานที่ส่ายหน้าไปมา.
"เอาล่ะ,สถานที่แห่งนี้เองก็ยังมีอสุรกายปิศาจที่ร้ายกาจหลงเหลืออยู่เช่นกัน,อสุรกายปิศาจที่ร้ายกาจ,ที่ทำให้บ่อโลหิตแห่งนี้ยังยากที่จะจัดการ,ก่อนหน้านี้หลายเดือน,ข้าได้ทำให้มันได้รับบาดเจ็บ,มันได้หนีเข้าไปในส่วนลึกของบ่อโลหิตแห่งนี้,มันเป็นอสุรกายที่เจ้าเล่ห์มาก,หากว่ามันปรากฏตัวขึ้นมา,โปรดทำลายหยกนี้,แล้วข้าจะเร่งรีบมาในทันที!"อ่องตี้จางที่ยื่นหยกอักขระส่งให้กับเซียนเซิงซือ.
"อืม!"เซียนเซิงซือพยักหน้ารับ.
จากนั้น,ทุกคนที่ก้าวเดินตรงไปยังสถานที่พักชั่วคราวที่อ๋องตี้จางกล่าว.
มันเป็นเหมือนกับพื้นที่รอบเป็นทุ่งกว้างซะมากกว่า,ในเวลานี้หนานกงเซิ่งได้ทำการสร้างค่ายกลรอบๆ.
ค่ายกลที่หนานกงเซิ่งสร้างขึ้นนี้เป็นหนึ่งในค่ายกลที่ได้รับรู้มาจาก,"ตำราปฐพี"และค่ายกลลวงสวรรค์,เขาได้ทำการจัดเตรียมสร้างค่ายกลที่สมบูรณ์แบบขึ้น,ซึ่งใช้เวลาในการสร้างขึ้นมาหนึ่งวันหนึ่งคืนทีเดียว.
"จงเปิด!"หนานกงเซิ่งที่ได้ทำการเปิดทำงานของค่ายกลในทันที.
ทันทีที่ค่ายกลเปิดทำงานพื้นที่รอบๆก็ส่องประกายแสงวับวาวออกมามากมาย,จนทำให้อำนาจโลหิตและพลังแห่งความโชคร้ายถูกผลักดันออกไปโดยสมบูรณ์.
อีกสถานที่หนึ่งที่ห่างออกมาจากบ่อโลหิตวิญญาณปิศาจ,บนบัลลังก์ดอกบัว.
ใบหน้าของอ๋องตี้จางที่กระตุกไปมา,จากนั้นก็สายหน้าไปมา,เผยรอยยิ้มบางๆออกมา,"ตระกูลจางที่ตกต่ำมานานเกินไปแล้ว,ลูกหลานตระกูลจากคาดไม่ถึงเลยว่าจะระมัดระวังตัวขนาดนี้,เป็นค่ายกลที่ดี,แม้แต่ข้ายังไม่สามารถตรวจสอบได้,เอาล่ะ,โชคร้ายของขาเวลานี้ได้ลดลงแล้ว,ไม่จำเป็นต้องสนใจเรื่องใดๆ,รอให้ข้าผ่านทัณฑ์ครั้งนี้ไปได้,ค่อยครุ่นคิดเกี่ยวกับเรื่องของตระกูลจางอีกครั้งก็แล้วกัน,หวังว่าเทพอสูรตี้ติงที่จะปล่อยออกไปครั้งนี้จะไม่ทำให้ข้าผิดหวัง!"
กล่าวเสร็จ,อ๋องตี้จางก็นำไม้ไผ่สีม่วงออกมา,ก่อนที่มันจะกลมกลืนไปกับความว่างเปล่า,ขณะที่กำลังเตรียมการอยู่นั้น,อ๋องตี้จางที่ขมวดคิ้วไปมาเล็กน้อย.
"นิมิตร้าย,เป็นนิมิตร้ายที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้,ดูเหมือนว่าข้าคงจะต้องเข้าร่วมเดิมพันครั้งนี้ด้วยร่างของข้าแล้ว!"อ๋องตี้จางที่เผยแววตาร้อนรน.
ระหว่างนี้อ๋องตี้จางที่เข้าไปในห้องโถงแห่งหนึ่งจากนั้นทุกอย่างก็เปลี่ยนเป็นเงียบงัน.
ส่วนกลุ่มของจงซาน,ในเวลานี้กำลังจ้องมองไปยังโลงศพ.
"เซียนเซิงซือ,จะเริ่มแล้วรึ?"จงซานที่กล่าวออกมาด้วยความจริงจัง.
"ต้องรอให้ถึงวันพรุ่งนี้,ตอนนี้จำเป็นต้องเตรียมความพร้อมก่อน!"เซียนเซิงซือกล่าว.
"อืม!
เช่นนั้น,พวกเราจะเป็นคนปกป้องเซียนเซิงซือเอง!"จงซานที่กล่าวออกมา.
เซียนเซิงซือที่พยักหน้ารับ.
เซียนเซิงซือที่นำพูกันออกมา,พร้อมกับน้ำหมึกสีทอง,ก่อนที่จะค่อยๆเขียดลวดลาดอักขระลงบนผิวของโลงศพ.
ทุกคนที่ลอบมองเพียงชั่วขณะเท่านั้น,เพราะว่าไม่รู้ว่าเพราะเหตุผลใด,ไม่มีเสียงไม่ได้ยิน,แต่กลับทำให้พวกเขากลายเป็นหน้ามืดได้.
เริ่มวันพรุ่งนี้,ขณะที่รอนั้น,เนียนโหยวโหยวที่นำตำราสีดำออกมา.
"นี่คือตำราชีวิตและความตายของเจ้าเฒ่าปิศาจอ๋องยามานั่น,บิดาบรรพชนของข้าถึงได้ส่งข้าและสองไท่จื่อมาเพื่อแย่งชิงมัน,ข้าได้ขโมยมันมา,ชิ,เจ้าสองคนนั่นทรยศข้า,ข้าจะไม่ให้พวกมันได้ตำราชีวิตและความตายไปแน่."เนียนโหยวโหยวที่กล่าวออกมาด้วยความขมขื่น.
"ตำราชีวิตและความตายรึ?"
Chapter 1002 evil spirit blood pond
恶鬼血池
บ่อโลหิตวิญญาณปิศาจ.
หลังจากที่ทุกคนพูดคุยกันเสร็จก็ออกมาจากห้องโถงอีกครั้ง!
ในเวลาเดียวกัน,เนี่ยนเปินและเนี่ยนข่านได้หายไปไม่เห็นเงาอีกแล้ว!
"อ๋องยามา,พี่ของข้าทั้งสองคนล่ะ?"เนียนโหยวโหยวที่เอ่ยออกมาในทันที.
อ๋องยามาจ้องมองเนียนโหยวโหยวด้วยความซับซ้อน,ก่อนที่จะหันหน้าไปมองปู่ซาอ๋องตี้จาง,เป็นความจริงในเวลานี้,พวกเขาได้รับความเชื่อใจจากอ๋องตี้จางโดยสมบูรณ์แล้ว.
ก่อนหน้านี้,สิบหกทูตจูซวินเซียว,ได้กล่าวเตือนอ๋องยามาก่อนแล้ว,ตอนนี้หากเขายังดื้อดึงหาเรื่องอ๋องตี้จาง,ตัวเขาคงจะถูกถอดจากตำแห่งอ๋องยามาเป็นแน่,การหาภรรยานั้นเรื่องเล็ก,ทว่าสถานะของเขานั้นไม่สามารถสูญเสียไปได้!
"พวกเขาจากไปแล้ว,นอกจากนี้ยังเร่งรีบจากไปด้วย!"อ๋องยามาที่กล่าวออกมาตามจริง.
"ไปแล้ว? ทำไมถึงได้เร่งรีบขนาดนั้นกัน?
ไม่คิดที่จะพูดคุยกับน้องสาวของพวกเขาเลยรึ?
มีอะไรที่สำคัญจนต้องรีบออกจากเมืองยามาในทันทีกัน!"เนียนโหยวโหยวที่เผยท่าทางเศร้าใจออกมา.
"หืม? คงจะมีเรื่องเร่งด่วน!"อ๋องยามาที่คิดอะไรบางอย่างแต่ก็หยุดเอาไว้ในทันที.
แน่นอน,จงซานที่อยู่ข้างๆนั้นรับรู้ถึงนิสัยของเนียนโหยวโหยวดี,ภายในห้องโถงนั้น,จงซานรู้ว่าเนียนข่านและเนียนเปินนั้นได้บังคับให้เนียนโหยวโหยวแต่งงาน,ทว่านางยังจะคิดถึงสายสัมพันธ์อยู่อย่างงั้นรึ?
ทว่าจากท่าทางของนางแล้วเหมือนว่าจงใจแสดงออกมามากกว่า.
ในเวลาเดียวกันนั้น,เซียนเซิงซือที่ยื่นมือออกไป,บนพื้นดินปรากฏกลุ่มของเจียงซือที่แบกโลงศพผุดขึ้นมา,ก่อนที่จะก้าวตามเซียนเซิงซือมา.
หืม?
มีคนที่เผยท่าทางประหลาดใจเล็กน้อย,ทว่าก็ไม่มีใครกล่าวอะไร,ต้องไม่ลืมว่าเจียงซือรับใช้นั้น
มีอยู่ให้เห็นเป็นเรื่องปรกติในนรก.
"ไป!"อ๋องตี้จางที่เอ่ยปากออกมา.
"อืม!"ทุกคนที่พยักหน้ารับ.
อ๋องตี้จางนำทางออกไป,ก้าวออกไปจากห้องโถงตำหนักยามา.
"องค์ยามา,พวกเขาที่กำลังเดินทางไปยังนรกชั้นที่
18,บ่อโลหิตจิตวิญญาณอย่างงั้นรึ?"ลู่พานที่อยู่ใกล้ๆกล่าวออกมาด้วยความประหลาดใจ.
อ๋องยามาหันหน้า,จดจ้องมองไปยังลู่พานด้วยความเย็นชา,จนทำให้ลู่พานสั่นสะท้านทีเดียว.
พื้นที่รอบๆตำหนักยามานั้นกลายเป็นเศษซากไปแล้ว,เหล่าแขกที่มาร่วมงานแต่งงานเองก็ไม่มีเหลืออยู่อีกแล้ว,แต่ละคนได้กล่าวลาอ๋องยามาจากกันไปหมดแล้ว.
เย็นวันหนึ่งในตำหนักยามา.
ภายในห้องโถงแห่งหนึ่งซึ่งมีกลุ่มคนสำคัญรวมกันอยู่,ทุกคนที่จ้องมองไปยังอ๋องยามา,อ๋องยามา?
ไม่ใช่ว่ากำลังจะให้ไปจับกุมคนที่ทำลายงานแต่งงานหรอกนะ?
ในเวลานี้,ใบหน้าของอ๋องยามาที่แดงซ่านลุกลี้ลุกลน,ขณะที่นั่งบนบัลลังก์,ใบหน้าที่เต็มไปด้วยความซับซ้อนและเศร้าใจ.
"องค์ยามา,ทุกอย่างให้มันจบไปเถอะ,หลังจากนี้ยังมีสตรีมากมายที่รอคอยท่านอยู่!"แม่เฒ่าเมิ่งโผที่กล่าวปลอบ.
"หาย,จบกัน,มันหายไปแล้ว,ไม่มีเหลือแล้ว!"ใบหน้าของอ๋องยามาที่เต็มไปด้วยความเศร้าใจ.
"สิ่งใดหายไปอย่างงั้นรึ?"ทุกคนที่เอ่ยออกมาด้วยความสงสัย.
"ตำราชีวิตและความตาย,ตำราหายไปแล้ว,ตำราชีวิตและความตายของข้า!"ใบหน้าของอ๋องยามาที่เต็มไปด้วยความร้อนใจ.
"องค์ยามา,ตำราชีวิตและความตายอยู่ในมือข้า!"ลู่พานที่กล่าวออกมาทันที,ก่อนที่จะนำตำราสีดำออกมา.
"นั่นมันของปลอม,ที่ข้าพูดถึงนั้นคือของจริง,ของจริงมันหายไป!"ดวงตาของอ๋องยามาเบิกกว้างขณะพูด.
"ตำราชีวิตและความตายหายไป?"ภายในห้องโถงส่งเสียงดังอื้ออึงไปในทันที,ทุกคนที่กำลังเต็มไปด้วยความร้อนใจ.
"องค์ยามา,อย่าได้ร้อนใจไป,ลองคิดดูว่าเห็นมันสุดท้ายเมื่อไหร่?"เมิ่งโผที่เอ่ยออกมาในทันที.
"ก่อนที่ข้าจะแต่งงาน,ข้ายังเห็นมันอยู่เลย,ข้าใส่มันไว้ในอกเสื้อ,มันจะหายไปได้อย่างไร?"ใบหน้าของอ๋องยามาที่เต็มไปด้วยความกังวล.
"ก่อนแต่งานอย่างงั้นรึ? เช่นนั้นในตอนเช้ายังมีอยู่,ตอนเย็นกลับไม่มีแล้ว,ต้องเป็นตอนกลางวัน,ใครกันที่จะสามารถขโมยตำราชีวิตและความตายไป?"แม่เฒ่าเมิ่งโผที่กล่าวสอบถาม.
"จงซานรึ?"
"จงซาน,เป็นไปไม่ได้,เข้าปรากฏขึ้นก็กลายเป็นจุดสนใจต่อผู้คนมากมาย,สายตาของทุกคนต่างก็จ้องมองไปยังเขา,เป็นไปไม่ได้ที่เขาจะขโมยตำราชีวิตและความตาย."เมิ่งโผที่ส่ายหน้าไปมา.
"ข้ารู้,ข้ารู้แล้ว!"อ๋องยามาที่ตะโกนออกมาในทันที.
"ใคร?"ทุกคนต่างก็จ้องมองไปยังอ๋องยามา.
"เนียนเปินและเนียนข่าน,พวกเขาดูมีพิรุธ,ทำไมพวกเขาเร่งรีบเดินทางจากไปล่ะ?
ไม่แม้แต่รอพูดคุยกับเนียนโหยวโหยว,พวกเขาจากไปไม่รอแม้แต่น้อย?
แน่นอนว่าพวกเขาต้องรู้สึกหวาดกลัว,เพราะกำลังนำตำราชีวิตและความตายหนีไปไงล่ะ!"ทันใดนั้นอ๋องยามาที่ราวกับว่าตระหนักได้.
"แล้วทำอย่างไร?"เมิ่งโผที่ใบหน้ากลายเป็นอัปลักษณ์ในทันที.
ทั้งสองเป็นเซียนโบราณนั่นเอง.
ใบหน้าของอ๋องยามาเปลี่ยนเป็นมืดคลึ้มลังเล,ครุ่นคิดท้ายที่สุดก็กล่าวมาว่า,"คงต้องเชิญทูตจูซวินเซียวแล้ว,ขอให้พวกเขาไล่ล่าคนทั้งสอง,และนำตำราชีวิตและความตายกลับมา!"
-----------------------------------------------------------------
กลุ่มของจงซานที่ก้าวตามอ๋องตี้จางเข้าไปในตำหนักแห่งหนึ่ง,ตำหนักดังกล่าวนั้นมีประตูที่มีบันไดพาลงไปด้านล่าง,ทุกคนที่ก้าวตามลงไปด้านล่าง,ทุกๆก้าวที่พวกเขาก้าวผ่าน,พื้นที่รอบๆจะส่องประกายแสงออกมาเป็นระยะๆ.
จงซานรับรู้ว่ามันไม่ใช่สถานที่,ทว่ามันคือโลกใบเล็กอีกใบหนึ่ง,ที่ดูคล้ายกลับตำหนักในดินแดนเทพอมตะ.
ทุกคนที่ก้าวมาได้ราวๆ 13 ขั้น,ก็สัมผัสได้ถึงกลิ่นของโลหิตที่แผ่ซานออกมา.
”!”
”โฮกก!”
”!”
........................
............
......
เสียงโหยหวนคำรามดังออกมาหวีดก้องเสียงหลงเสียงที่ดุร้าย,ขมขืน,เจ็บปวด,ร้องไห้ทุกระทมดังออกมาจากเหล่าภูติ,กลิ่นอายที่หนักหน่วงรุนแรงน่าหวาดผวา,วิญญาณปิศาจ,นี่คือนรกชั้นที่
18 ,วิญญาณปิศาจ.
ทุกคนที่ผ่านเข้ามาในอุโมงค์,จากนั้นก็ไปหยุดอยู่ที่เส้นทางเส้นหนึ่ง.
ที่ด้านหน้านั้นเป็นธารโลหิตที่กว้างใหญ่ยาวไร้ที่สิ้นสุด.
ยาวจนไม่สามารถมองเห็นจุดสิ้นสิ้น.
ธารโลหิตที่สาดซัด,ม้วนกลิ้งสร้างคลื่นที่ใหญ่โตราวกับภูเขา,กวาดออกไปรอบๆเป็นระยะๆ.
ทว่าภายในธารโลหิตนั้น,มีจุดสีดำที่เหวี่ยงไปมา,ร่างสีดำที่ส่ายไปมา,และพยายามตะเกียกตะกายหนี,แต่ก็ไม่สามารถหนีพ้น,เสียงโหยหวนเจ็บปวดที่ดังออกมาเป็นระยะ,เสียงครวญครางที่ดังหวิดหวิวทรมานทรมาทรกรรม
เนียนโหยวโหยวที่สั่นสะท้านเร่งรีบกุมแขนจงซานไว้แน่น.
บนท้องฟ้าบนธารโลหิตนั้นมีอักขระหว่าง," 卍’
ส่องประกายแสงสีทองลอยอยู่,อักษรรูนดังกล่าวนั้นปลดปล่อยกลิ่นอายที่ยิ่งใหญ่ทรงพลังแผ่ออกมา,แม้แต่ได้ยินเสียงสวดมนต์ของอรหันต์ดังก้องไปทั่วด้วยเช่นกัน.
"นี่คือกษิติครรภโพธิสัตว์มูลปณิธานสูตร
อย่างงั้นรึ?"จงซานที่เอ่ยสอบถามออกไป.
บทสวดองค์กษิติครรภโพธิสัตว์มูลปณิธานสูตร,เป็นบทสวดที่มีบันทึกอยู่ในพระไตรปิฎก,จงซานที่เคยศึกษามาเมื่อตอนเด็ก,ว่ากล่าวเกี่ยวกับจุติในสรวงสวรรค์,หากว่าได้รับอานิสงค์จากบนสวดดังกล่าวนี้.
"อืม,เป็นบทสวดที่ตระกูลจางได้ส่งผ่านมา!"อ๋องตี้จางที่กล่าวออกมาโดยตรง.
จงซานที่จ้องมองไปยังเซียนเซิงซือด้วยความประหลาดใจ,ตระกูลจางนั้นมีภูมิหลังเช่นใดกัน?
"โลงศพยักษ์นี้,มีตราประทับของปราชญ์เทพอย่างงั้นรึ?"อ๋องตี้จางนั้นจดจ้องมองไปยังโลงศพที่เจียงซือหลายตนที่แบกมา,ด้วยแววตาที่ดูเหมือนว่ามันเป็นเพียงเรื่องเล็กน้อยยิ่งนัก.
"อืม!"เซียนเซิงซือพยักหน้ารับ.
"ไม่เห็นต้องให้ข้าพามายังบ่อโลหิตวิญญาณปิศาจเลย,ข้าสามารถที่จะลบตราประทับได้!"อ๋องตี้จางที่เอ่ยปากออกมา.
อ๋องตี้จางไม่ได้คุยโวแต่อย่างใด,เขาที่มีระดับเซียนบรรพชน,ย่อมมีความสามารถที่จะลบตราประทับของปราชญ์เทพที่อ่อนแอออกได้.
"ไม่จำเป็น?"เซียนเซิงซือที่ปฏิเสธอ๋องตี้จางในทันที.
สายโลหิตตระกูลจาง,ได้ผ่านมาถึงเก้ารุ่น,เซียนเซิงซือที่เชื่อใจได้ชั่วคราว,ทว่าไม่สามารถเชื่อใจอย่างสมบูรแน่นอน.
อ๋องตี้จางทีพยักหน้ารับ,ตระหนักได้ถึงบางเรื่อง,จึงไม่กล่าวสิ่งใดต่อไป,"อืม,มีที่พักอยู่,สามารถที่จะไปพักที่นั่นได้ชั่วคราว!"
"อืม!"เซียนเซิงซือพยักหน้ารับ.
"ข้าอยู่ที่นั่น,หากว่ามีอะไรให้มาหาข้าก็แล้วกัน!"อ๋องตี้จางที่ชี้ไปยังอีกทิศทาง.
"อืม!"เซียนเซิงซือพยักหน้า.
"อาวุโสอ๋องตี้จาง!"จงซานที่กล่าวออกมาในทันที.
"หืม?"อ๋องตี้จางที่จ้องมองไปยังจงซาน.
"ได้ยินมาว่าอ๋องตี้จางนั้นมีเทพอสูร,ที่มีนามว่า,ติ้ทิง,ไม่รู้ว่าจะสามารถแนะนำ,เพื่อให้จงซานได้บรรเทาความอยากรู้ได้หรือไม่?!"จงซานที่กล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม.
เกี่ยวกับอ๋องตี้จางนั้น,จงซานไม่สามารถที่จะวางใจได้เช่นกัน,กับท่าทางที่เขาแสดงออกมาแล้ว,เขาอาจจะใช้มันออกมาก็ได้,ซึ่งเขาได้ยินมาว่าเทพอสูรตี้ทิงนั้น,สามารถที่จะลอบรับฟังเรื่องราวต่างๆจากทั่วหล้า,หากว่ามันอยู่ที่นี่,เป็นไปได้ว่ามันอาจจะทำการล่วงเกินความเป็นส่วนตัวของเขาได้.
"ตี้ทิง? ที่นี่ข้าไมไม่ได้ให้มันเข้ามาแต่อย่างใด!"อ๋องตี้จางที่กล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม.
"จริงๆรึ?"จงซานที่จ้องมองไปยังอ๋องตี้จาง.
"เป็นความจริง!"อ๋องตี้จางที่กล่าวยืนยัน.
"ช่างน่าเสียดายจริงๆ!"จงซานที่ส่ายหน้าไปมา.
"เอาล่ะ,สถานที่แห่งนี้เองก็ยังมีอสุรกายปิศาจที่ร้ายกาจหลงเหลืออยู่เช่นกัน,อสุรกายปิศาจที่ร้ายกาจ,ที่ทำให้บ่อโลหิตแห่งนี้ยังยากที่จะจัดการ,ก่อนหน้านี้หลายเดือน,ข้าได้ทำให้มันได้รับบาดเจ็บ,มันได้หนีเข้าไปในส่วนลึกของบ่อโลหิตแห่งนี้,มันเป็นอสุรกายที่เจ้าเล่ห์มาก,หากว่ามันปรากฏตัวขึ้นมา,โปรดทำลายหยกนี้,แล้วข้าจะเร่งรีบมาในทันที!"อ่องตี้จางที่ยื่นหยกอักขระส่งให้กับเซียนเซิงซือ.
"อืม!"เซียนเซิงซือพยักหน้ารับ.
จากนั้น,ทุกคนที่ก้าวเดินตรงไปยังสถานที่พักชั่วคราวที่อ๋องตี้จางกล่าว.
มันเป็นเหมือนกับพื้นที่รอบเป็นทุ่งกว้างซะมากกว่า,ในเวลานี้หนานกงเซิ่งได้ทำการสร้างค่ายกลรอบๆ.
ค่ายกลที่หนานกงเซิ่งสร้างขึ้นนี้เป็นหนึ่งในค่ายกลที่ได้รับรู้มาจาก,"ตำราปฐพี"และค่ายกลลวงสวรรค์,เขาได้ทำการจัดเตรียมสร้างค่ายกลที่สมบูรณ์แบบขึ้น,ซึ่งใช้เวลาในการสร้างขึ้นมาหนึ่งวันหนึ่งคืนทีเดียว.
"จงเปิด!"หนานกงเซิ่งที่ได้ทำการเปิดทำงานของค่ายกลในทันที.
ทันทีที่ค่ายกลเปิดทำงานพื้นที่รอบๆก็ส่องประกายแสงวับวาวออกมามากมาย,จนทำให้อำนาจโลหิตและพลังแห่งความโชคร้ายถูกผลักดันออกไปโดยสมบูรณ์.
อีกสถานที่หนึ่งที่ห่างออกมาจากบ่อโลหิตวิญญาณปิศาจ,บนบัลลังก์ดอกบัว.
ใบหน้าของอ๋องตี้จางที่กระตุกไปมา,จากนั้นก็สายหน้าไปมา,เผยรอยยิ้มบางๆออกมา,"ตระกูลจางที่ตกต่ำมานานเกินไปแล้ว,ลูกหลานตระกูลจากคาดไม่ถึงเลยว่าจะระมัดระวังตัวขนาดนี้,เป็นค่ายกลที่ดี,แม้แต่ข้ายังไม่สามารถตรวจสอบได้,เอาล่ะ,โชคร้ายของขาเวลานี้ได้ลดลงแล้ว,ไม่จำเป็นต้องสนใจเรื่องใดๆ,รอให้ข้าผ่านทัณฑ์ครั้งนี้ไปได้,ค่อยครุ่นคิดเกี่ยวกับเรื่องของตระกูลจางอีกครั้งก็แล้วกัน,หวังว่าเทพอสูรตี้ติงที่จะปล่อยออกไปครั้งนี้จะไม่ทำให้ข้าผิดหวัง!"
กล่าวเสร็จ,อ๋องตี้จางก็นำไม้ไผ่สีม่วงออกมา,ก่อนที่มันจะกลมกลืนไปกับความว่างเปล่า,ขณะที่กำลังเตรียมการอยู่นั้น,อ๋องตี้จางที่ขมวดคิ้วไปมาเล็กน้อย.
"นิมิตร้าย,เป็นนิมิตร้ายที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้,ดูเหมือนว่าข้าคงจะต้องเข้าร่วมเดิมพันครั้งนี้ด้วยร่างของข้าแล้ว!"อ๋องตี้จางที่เผยแววตาร้อนรน.
ระหว่างนี้อ๋องตี้จางที่เข้าไปในห้องโถงแห่งหนึ่งจากนั้นทุกอย่างก็เปลี่ยนเป็นเงียบงัน.
ส่วนกลุ่มของจงซาน,ในเวลานี้กำลังจ้องมองไปยังโลงศพ.
"เซียนเซิงซือ,จะเริ่มแล้วรึ?"จงซานที่กล่าวออกมาด้วยความจริงจัง.
"ต้องรอให้ถึงวันพรุ่งนี้,ตอนนี้จำเป็นต้องเตรียมความพร้อมก่อน!"เซียนเซิงซือกล่าว.
"อืม!
เช่นนั้น,พวกเราจะเป็นคนปกป้องเซียนเซิงซือเอง!"จงซานที่กล่าวออกมา.
เซียนเซิงซือที่พยักหน้ารับ.
เซียนเซิงซือที่นำพูกันออกมา,พร้อมกับน้ำหมึกสีทอง,ก่อนที่จะค่อยๆเขียดลวดลาดอักขระลงบนผิวของโลงศพ.
ทุกคนที่ลอบมองเพียงชั่วขณะเท่านั้น,เพราะว่าไม่รู้ว่าเพราะเหตุผลใด,ไม่มีเสียงไม่ได้ยิน,แต่กลับทำให้พวกเขากลายเป็นหน้ามืดได้.
เริ่มวันพรุ่งนี้,ขณะที่รอนั้น,เนียนโหยวโหยวที่นำตำราสีดำออกมา.
"นี่คือตำราชีวิตและความตายของเจ้าเฒ่าปิศาจอ๋องยามานั่น,บิดาบรรพชนของข้าถึงได้ส่งข้าและสองไท่จื่อมาเพื่อแย่งชิงมัน,ข้าได้ขโมยมันมา,ชิ,เจ้าสองคนนั่นทรยศข้า,ข้าจะไม่ให้พวกมันได้ตำราชีวิตและความตายไปแน่."เนียนโหยวโหยวที่กล่าวออกมาด้วยความขมขื่น.
"ตำราชีวิตและความตายรึ?"
ที่มาจากhttps://lnmtl.com/novel/immortality
#นิยาย เรื่องอมตะ #Immortality#นิยายแปลไทย
Author(s)
สนใจสนับสนุนพวกเรา,เข้าร่วมกลุ่ม VIP ====> Click
ปัจจุบันแปลจบแล้ว 1672 ตอน สนใจติดต่อเข้ากลุ่มลับได้ครับ
***เว็ปฟรีอัพ สองวันหนึ่งตอน
***กลุ่มลับ แปลจบแล้ว.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น