Immortality Chapter 964 Most difficult time
นิยาย เรื่อง อมตะ ตอนที่ 964 ช่วงเวลาที่ยากลำบาก.
Chapter 964 Most difficult time
最艰难的时刻
ช่วงเวลาที่ยากลำบาก.
"เรื่องนี้ข้าขอกล่าวตามตรง,ข้านั้นได้ตัดสินใจที่จะให้สุสานแห่งนี้บินไปยังแดนไร้ขอบเขต,ก้าวลึกเข้าไปในปมกาลอากาศที่ลึกเข้าไปอีก!"ฟู่ซี่ที่กล่าวออกมาเล็กน้อย.
หมอกที่ดูเหมือนว่าจะหนาขึ้นเรื่อยๆ,สายตาของจงซานที่ราวกับหดกว้าง,สัมผัสได้ถึงการเคลื่อนไหวของลานแห่งนึ้.
ก้าวเข้าไปในดินแดนไร้ขอบเขต?
ไม่ใช่ว่ามันยากจะทะลวงผ่านเข้าไปง่ายๆไม่ใชรึ?
ใบหน้าที่โศกเศร้าเสียใจปรากฏขึ้นบนใบหน้าเฟิงซิงอวิ๋น.
"ไม่จำเป็นต้องเป็นกังวล,ข้าและหนี่หว่านั้นถูกคลุมด้วยอำนาจแห่งความว่างเปล่า,ภายในสุสานโบราณนี้,ไม่มีใครทำอะไรพวกเราได้,การจะออกจากสุสานนี้,กลับไปนั้นเพียงแค่กุมธวัชเจาเหยาไว้,มันจะนำเจ้าจากไป,ธวัชเจาเหยานั้นเป็นสมบัติของชิงชิว,จงจำไว้ให้ดีจะต้องส่งคืนชิงชิว,จำเอาไว้ให้มั่น!"ฟู่ซีกล่าว.
ระหว่างที่กล่าวนั้น,ร่างจำแลงของฟู่ซี่ก็ค่อยๆจางลง,เห็นชัดเจนว่าคำพูดที่ถูกทิ้งเอาไว้นั้นได้จบลงแล้ว.
เฟิงชิงอวิ๋นที่คุกเข่าคำนับให้กับฟู่ซี่อย่างจริงจัง.
ในเวลาเดียวกันธวัชเจาเหยาที่ปล่อยแสงสีฟ้าออกมาอีกครั้ง.
จงซานและเฟิงซิงอวิ๋นที่กุมไปยังธวัชเจาเหยา,แสงสีฟ้าทันใดนั้นก็โอบร่างจงซานและเฟิงซิงอวิ๋น,พร้อมกับพาพวกเขาออกมาจากสุสานของนวีหว๋า.
แสงสีฟ้า,ที่นำร่างทั้งสองพุ่งผ่านตัดอากาศออกมา.
สายตาของทั้งคู่ที่เห็นสุสานดังกล่าวลอยออกไปเรื่อยๆ,จนหายไปสุดสายตา.
ธวัชเจาเหยาที่สร้างรังไหมแห่งแสงปกคลุมคนทั้งสอง,ก่อนที่จะพุ่งผ่านท้องฟ้าหมู่ดาวด้วยความเร็วสูง.
จงซานและเฟิงชิงอวิ๋นที่นั่งสมาธิบำเพ็ญลมหายใจอยู่ด้านใน,พวกเขาทั้งคู่คาดไม่ถึงเลยว่าจะต้องนั่งอยู่ในรังไหมแสงนั้นเป็นเวลาถึงหนึ่งปี.
รังไหมแสงนั้นได้นำทั้งคู่,กลับมายังหุบเขาแห่งหนึ่ง,ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากสถานที่ที่เต็มไปด้วยซากปรักหักพัง,แผ่นดินเลื่อน,และยังมีรอยแยกของผืนปฐพีขนาดใหญ่.
"ที่นี่?
นิกายเสอโห่ว?"เฟิงซิงอวิ๋นที่ดวงตาเบิกกว้างกลมโต.
นิหายเสอโหว,ในเวลานี้ล่มสลายพังทลายแล้ว,บนท้องฟ้า,ทางเข้าสู่โลกนวีหว๋าเองก็สลายหายไปแล้วเช่นกัน.
"เซิ่งหวังจง,ครั้งนี้ต้องขอบคุณยิ่งนัก,ผู้น้อยจะจดจำสลักเอาไว้ในใจ!"เฟิงซิงอวิ๋นที่หันหน้าบอกกล่าวต่อจงซาน.
"อย่าได้เกรงใจ,ข้าเองก็ได้รับประสบการณ์มากมาย!"จงซานพยักหน้า.
"ผู้น้อยเองก็มีเรื่องที่ต้องทำ,หลังจากนี้หากมีวาสนาคงจะได้พบกัน,ธวัชเจาเหยานี้ของให้เซิ่งหวังโปรดมอบมันให้กับชิงชิว!"เฟิงซิงอวิ๋นที่กล่าวอย่างจริงจัง.
"โปรดวางใจ,ข้าจะต้องทำมันอย่างแน่นอน,หลังจากนี้หวังว่าคงจะได้พบกัน!"
"ขอลา!"เฟิงซิงอวิ๋นที่กล่าวเสร็จก็บินตรงไปยังทิศทางของนิกายเสอโห่วที่ล่มสลาย,ก่อนที่จะพุ่งตรงไปยังทิศทางอื่นด้วยความเร็ว.
จงซานจ้องมองไปยังรอบๆ,แม้นว่าไม่รู้สถานการณ์ต่างๆนั้นเกิดสิ่งใดขึ้นมาบ้าง,ทว่าบอกได้ว่ามันผ่านไปเป็นเวลานานเหมือนกัน,ธวัชเจาเหยานำเขามายังที่แห่งนี้ด้วยการใช้เวลาหนึ่งปี,ทว่าด้วยการเดินทางบนปมของกาลอากาศแท้จริงแล้วใช้เวลาไปเท่าไหร่กัน?
สถานที่ดังกล่าวนี้แม้นว่าจะผ่านไปนานแล้วทว่าการจะหาใครสักคนก็ไม่ใช่เรื่องยากอะไรนัก.
ผ่านไปไม่นาน,จงซานที่พบผู้ฝึกตนคนหนึ่ง,ผู้ฝึกตนคนดังกล่าวถึงกับขนลุกชูชันด้วยความหวาดกลัว,ข่าวเรื่องที่มีคนต่อสู้กับบรรพชนชราเสวี๋ยเหมยนั้นได้ผ่านมาห้าปีแล้ว.
หลังจากที่เขาออกมาจากโลกนวีหว๋า,โลกหนี่หว๋าก็เกิดเรื่องที่น่าเกรงขามมาก,หลังจากที่เขาออกมา,หนึ่งปีก่อน,ผังเซียนป้ากั้วก็ปรากฏ,จากนั้นโลกนวีหซ่าก็พังทลายลง,ทุกคนต่างก็หนีแยกย้ายไปคนละทิศละทาง.
เรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดผ่านมาห้าปีแล้ว?
ภายในใจของจงซานที่ตื่นตกใจ,จงซานที่ครุ่นคิดเล็กน้อย,ก่อนที่จะพุ่งเป็นลำแสงไปยังทิศๆหนึ่งด้วยความเร็ว.
------------------------------------------------------------------
ภพหยาง,เหล่ากลุ่มอิทธิพลใหญ่มากมายต่างก็เข้ารุมล้อมต้าเจิ้ง.
ต้าเจิ้งในเวลานี้,ราวกับเป็นของหวานชิ้นใหญ่,แม้นว่าวาสนาจะหายไปหมดแล้ว,แต่เขตแดนยังอยู่,ราชวงศ์วาสนาเช่นนี้,เหมาะอย่างยิ่งที่จะขโมยแย่งชิงแบ่งกันอย่างช้าๆ!
นอกจากนี้,ต้าเจิ้งไม่มีวาสนาแล้ว,ทำให้เหล่าผู้มากความสามารถมากมายละทิ้ง,ความแข็งแกร่งของต้าเจิ้งที่ถดถอยอยู่ในสถานการไม่ใคร่ดีนัก.
สวนสวรรค์ลอยฟ้าหลิงเซียว,ภายในท้องพระโรง,มีเสนาธิการเหลือเพียงหนึ่งในสาม,หนึ่งในสามถึงสังหาร,หนึ่งหนึ่งส่วนได้จากไปแล้ว.
ที่เหลืออยู่เวลานี้ยังดูไร้จิตใจเรี่ยวแรง.
สุ่ยอู๋เหินที่ยังคงนั่งอยู่ในบัลลังก์อ๋อง,จ้องมองไปยังเหล่าขุนนางที่ยังคงเหลืออยู่.
"ข้ารู้สึกมีความสุข,ที่เช้านี้,ยังคงมีรองเสนาธิการกระบวนพิธีการยังอยู่!
ต้าเจิ้งอยู่ในช่วงเวลาที่ยากลำบาก,ทว่าข้าเชื่อว่าเซิ่งหวังจะต้องกลับมา,ข้าคิดว่าทุกคนที่อยู่ที่นี่,คงจะเชื่อมั่นเหมือนกังที่ข้าเชื่อเช่นกัน!"สุ่ยอู๋เหินที่กล่าวออกมาอย่างหนักแน่น.
ด้วยการปลอบใจเหล่าขุนนาง,สุ่ยอู๋เหินที่ทำอยู่ทุกวัน,วาสนาหายไปแล้ว,เรื่องนี้ทำให้เหล่าขุนนางหวาดหวั่นไม่น้อย,อีกทั้ง,ข่าวเกี่ยวกับโลกนวีหว๋าเองก็แพร่กระจายไปทั่วทุกสารทิศ,แม้แต่มีหยกบันทึกเกี่ยวกับเหตุการณ์ภายในนั่นด้วย.
เหล่าขุนนางหลายคนที่คิดจากไป,เพราะเข้าใจว่าเซิ่งหวังได้ตกตายไปแล้ว,ในหยกบันทึกนั้น,มีเหตุการณ์ที่ทุกคนสนใจ,หลายๆคนที่สรุปว่าจงซานได้ล่วงหล่นไปแล้ว,แม้นว่าจะไม่มีใครยื่นยันเต็มร้อย,ทว่าคนส่วนมากก็เชื่อเช่นนั้น.
การอยู่ในต้าเจิ้งเวลานี้นะรึ?
ไม่ต่างจากรอคอยความตาย?
ดังนั้นจึงมีเจ้าหน้าที่ระดับสูงหลายคนที่ถูกลุ่มอิทธิพลอื่นชักจูงและแยกจากต้าเจิ้งไป.
ยิ่งเวลาผ่านไป,โอกาสที่จงซานจะรอดชีวิตก็น้อยลงเรื่อยๆ,แรงกดดันที่สุ่ยอู๋เหินมีนั้นก็มีมากขึ้นเรื่อยๆด้วยเช่นกัน.
"เรียนอ๋องจื่อเฉิน,ที่ด้านนอกนั้นมีทูตของศาลเทวะไท่จีของเขาพบ!"องค์รักษ์คนหนึ่งที่กล่าวรายงานออกมา.
ดวงตาของสุ่ยอู๋เหินที่สั่นไหวไปมา,นี่คือครั้งที่
19 แล้ว, 18 ครั้งนั้นเขาที่ไม่ต้อนรับแม้แต่สังหารทูตเหล่านั้นไป,นี่ก็ครั้งที่
19
แล้ว,ไม่คิดเลยว่าพวกเขายังไม่ยอมแพ้,เหล่าเสนาธิการเวลานี้ต่างก็จับจ้องมองไปยังสุ่ยอู๋เหิน,รอคอยการตัดสินใจของเขา.
สุ่ยอู๋เหินที่เห็นใบหน้าของแต่ละคนแล้ว,ก็เผยท่าทางกังวลออกมาเช่นกัน,ครั้งที่
19
แล้ว,คงจะต้องพบ,ไม่เช่นนั้นอาจจะมีเรื่องสำคัญบางอย่าง,จนทำให้ทูตเหล่านั้นเลือกที่จะเข้าไปติดต่อกับเหล่าขุนนางโดยตรง.
"ให้เขาเข้ามา!"สุ่ยอู๋เหินกล่าว.
"รับทราบ!"
จากนั้น,ทูตของศาลเทวะไท่อี้ก็ก้าวเข้ามา,ที่ด้านหลังนั้นมีผู้ใต้บังคับบัญชาของเขาสองคน.
"ทูตไท่อี้,คารวะอ่องจื่อเฉิน,ยินดีที่ได้พบกับขุนนางทุกท่าน!"ทูตไท่อี้ที่กล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม.
"มีอะไรก็พูดมา?"สุ่ยอู๋เหินกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม.
"เกี่ยวกับการจัดการทัพของต้าเจิ้ง,ศาลเทวะไท่อี้ของข้านั้นได้หยุดแล้ว,เพื่อแสดงความจริงใจ!"ทูตไท่อี้ที่กล่าวออกมา.
สุ่ยจิงที่พยักหน้ารับ,ความจริงเขาได้รับรายงานแล้วว่า,ทัพของศาลเทวะไท่อี้นั้นได้หยุดรุกเข้ามาแล้ว,ตอนนี้มีเพียงแค่ราชวงศ์สวรรค์บางแห่งเท่านั้นที่เคลื่อนทัพรุกเข้ามา.
"อืม!"สุ่ยจิงที่พยักหน้าอย่างจริงจัง.
"เกี่ยวกับข่าวของเซิ่งหวังต้าเจิ้ง,เซิ่งหวังของพวกเรารู้สึกเสียใจอย่างสุดซึ้ง,เซิ่งหวังจงนั้นทรงพลังเป็นอย่างมาก,ช่างน่าเศร้านัก,ข้าคิดว่าเรื่องนี้ทุกท่านคงรับรู้กันแล้ว,จึงไม่จำเป็นต้องกล่าวอะไรอีก!"ทูตไท่อี้ที่กล่าวแสดงความเสียใจ.
เหล่าเสนาธิการหลายคนที่ขมวดคิ้วไปมา,หลายคนที่ไม่ยินดียอมรับว่าจงซานตายไปแล้ว,แม้ว่าจะได้รับข่าวมาแล้วก็ตาม.
"วาสนาของต้าเจิ้งนั้นไม่มี,เซิ่งหวังไท่อี้ต้องการทำอะไร?"สุ่ยอู๋เหินที่กล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงเย็นชา.
"เซิ่งหวังได้บอกกับผู้น้อยว่า,อาณาเขตต้าเจิ้งจะอยู่ได้อีกไม่นาน,อย่างมาก็สี่ปี,หรือน้อยกว่านั้น,ข้ากล่าวถูกใหม?"ทูตไท่อี้ที่กล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม.
แววตาของสุ่ยอู๋เหินที่เต็มไปด้วยความเย็นชา,ทว่าก็ไม่ได้ปฏิเสธแต่อย่างใด,เพราะว่าไม่ใช่ความลับอะไรนัก.
สุ่ยจิง,หลินเซียวที่ขมวดคิ้วไปมา,สี่ปี?
มากสุดสี่ปีรึ?!
"ศาลเทวะของพวกเรานั้นได้ส่งช้ามาที่นี่,เพื่อโน้มน้าวบอกกล่าวต่อทุกท่าน,หากว่าสนใจในศาลเทวะไท่อี้?
เซิ่งหวังของพวกเราก็ยินดีต้อนรับเหล่าคนที่มีพรสวรรค์,เข้าร่วมศาลเทวะไท่อี้,แน่นอนว่าศาลเทวะไท่อี้ย่อมปฏิบัติต่อทุกคนอย่างดีแน่นอน."ทูตไท่อี้ที่กล่าวออกมา.
"หืม? อ้าแขนรับอย่างงั้นรึ?
เซิ่งหวังไท่อี้นับว่าให้ค่าพวกเราขนาดนั้นเลยรึ?"สุ่ยอู๋เหินแค่นเสียงเย็นชา.
"ไม่จำเป็นต้องถ่อมตน,นี่คือความจริง,ต้าเจิ้งที่คงอยู่เวลานี้มีเพยงชื่อเท่านั้นห้าปีที่แล้ว,หากว่าไม่มีอ๋องจื่อฉิน,สุ่ยจิง,หลินเซียวและเสนาธิการทุกคน,ต้าเจิ้งคงจะล่มสลายไปแล้ว,ตราบท่าที่เข้าร่วมศาลเทวะไท่อี้ของข้า,อนาคตของทุกคนจะต้องไม่ธรรมดา,ผู้น้อยของรับประกัน!"ทูตไท่อี้กล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม.
เหล่าเสนาธิการ,เกือบทั้งหมดที่ยังมีแววตาหนักแน่น,ทว่าก็มีบางคนที่ดวงตาลุกวาวเช่นกัน.
ก่อนหน้านี้ก็มีหลายคนที่หลบหนีเข้าซบราชวงศ์สวรรค์,เวลานี้ถึงกับมีราชวงศ์ศาลเทวะที่อ้าแขนรับ,จะไม่ให้พวกเราสั่นไหวได้อย่างไร?
เสนาบดีสุ่ยจิงและแม่ทัพใหญ่,ยังคงนิ่งเงียบไม่พูดจา.
สายตาของทูตไท่อี้ที่จ้องมองไปยังสุ่ยจิง,หลินเซียวและสุ่ยอู๋เหิน,พวกเขาที่มีความสำคัญเป็นอย่างมาก,และมีความสามารถสูง,กล่าวตามจริงเซิ่งหวังที่ส่งเขาคาดหวังในคนทั้งสาม,ให้เขาเสนอโน้มน้าวใจคนทั้งสามให้ได้.
"ขอบคุณเซิ่งหวังไท่อี้,ขอให้เจ้ากลับไปแจ้งเซิ่งหวังไท่อี้,พวกเราเป็นคนของต้าเจิ้ง,และจะเป็นของต้าเจิ้งตลอดไป!"สุ่ยอู๋เหินที่กล่าวออกมาด้วยความเย็นชา.
ทูตไท่อี้ที่จ้องมองไปยังสุ่ยอู๋เหิน,เขาคิดว่าเรื่องนี้ไม่ง่าย,เขาจำเป็นต้องวางแผนให้ดี,ไม่ว่าจะเป็นแผนร้ายหรือโหดร้ายเพียงใด,หนึ่งในสามนี้เขาจะต้องล่อล่วงมาให้ได้.
"ยังไม่หวัง,แต่ก็มีเรื่องหนึ่งที่ทุกคนรับรู้เกี่ยวกับสถานะการณ์.ต้าเจิ้ง,ผู้น้อยขอบังอาจแนะนำ,ไม่รู้ว่าอ๋องจื่อเฉินยินดีจะรับฟังหรือไม่?"ทูตของไท่อี้ที่กล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม.
"หืม?"
เหล่าเสนาธิการทุกคนที่จับจ้องมองไปยังทูตของไท่อี้.
"ในเวลานี้,ความรู้สึกของปวงชนได้หดหาย,จงซานไม่อยู่อีกต่อไป,การจะต้านศัตรูภายนอกนั้น,เป็นเรื่องที่แทบเป็นไปไม่ได้,มีเพียงแค่วาสนากลับมาต้าเจิ้งเท่านั้น,ที่จริง,อ๋องจื่อเฉินเองก็สามารถที่จะก้าวขึ้นไปทดแทน,สามารถที่จะกลายเป็นราชา,เข้ารับบัญชาสวรรค์,เก็บเกี่ยววาสนา,ปกป้องศัตรูจากภายนออกได้!"ทูตไท่อี้ที่กล่าวออกมาด้วยรอยยิ้มอันช่วยร้าย.
รับบัญชาสวรรค์?ก้าวขึ้นไปรับตำแหน่งราชาอย่างงั้นรึ?
เปลี่ยนราชวงศ์เป็นอีกราชวงศ์?
กับแผนการนี้มันได้ซัดกระหน่ำภายในใจของหลายคน,หัวใจของเหล่าขุนนางที่สั่นไหวไปมาในทันที,แม้แต่สุ่ยจิงและหลิวเซียวยังก้มหน้ากำหมัดแน่น,แต่ก็ยังไม่กล่าวสิ่งใดออกมา.
เปลี่ยนราชวงศ์เป็นอีกราชวงศ์?
เพื่อเก็บเกี่ยววาสนา,ต่อต้านศัตรูอย่างงั้นรึ?
"บังอาจ~~~~~~~~~~~~~~~~~~!”
สุ่ยอู่เหินที่ระเบิดความโกรธออกมา!
เห็นท่าทางของสุ่ยอู่เหินที่กลายเป็นบ้าคลั่ง,เหล่าขุนนางที่ราวกับรับรู้อะไรบางอย่าง,แม้แต่ทูตของไท่อี้เวลานี้ก็รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย.
"ทูตของศาลเทวะไท่อี้,กล้ามาสร้างความวุ่นวายถึงในท้องพระโรงต้าเจิ้งรึ?
นี่คืออาชญากรรมร้ายแรง!
เข้ามาลางพวกมันไปตัดหัวต่อหน้าประตุสวรรค์ทิศใต้,กล่าวเตือนต่อทุกคนที่บังอาจกล้าเอาพวกมันเป็นตัวอย่าง!"สุ่ยอู่เหินที่คำรามออกมาเสียงดัง.
"รับทราบ!"เหล่าทหารองค์รักษ์ที่เข้ามาอย่างรวดเร็ว.
"ข้าเป็นทูต,เจ้าจะทำเช่นนี้ไม่ได้,จะทำเช่นนี้ไม่ได้!"ทูตไท่อี้ที่คำรามออกมาด้วยท่าทางร้อนรน.
"พวกเจ้ามาสามคน,ให้สองคนกลับไปรายงานก็พอ,ส่วนเจ้า,ตาย!"สุ่ยอู๋เหินที่คำรามเสียงดัง.
"เจ้าจะสังหารข้าไม่ได้,จะสังหารข้าไม่ได้~~~~~~~~~~~~~!”
ทูตไท่อี้ที่ตะโกนออกมาเสียงดัง,ก่อนที่จะถูกนำตัวไป,ส่วนทูตอีกสองคนในเวลานี้ได้ถอยกลับไปด้วยความหวาดกลัว.
สุ่ยอู๋เหินที่กวาดตามองไปยังขุนนางทุกคนและกล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึมว่า,"ต้าเจิ้งจะคงอยู่ชั่วนิรันดร์,หากว่าใครกล้าคิดใส่ร้ายเซิ่งหวัง,มันจะได้รับการลงโทษตัดหัวเก้าชั่วโคตร! เลิกประชุม!"
สุ่ยอู๋เหินที่สะบัดแขนเสื้อก่อนที่จะจากตำหนักซ่างเฉินไป.
เหล่าขุนนางที่จ้องมองหน้ากันและกันและจากไปด้วยเช่นกัน.
Chapter 964 Most difficult time
最艰难的时刻
ช่วงเวลาที่ยากลำบาก.
"เรื่องนี้ข้าขอกล่าวตามตรง,ข้านั้นได้ตัดสินใจที่จะให้สุสานแห่งนี้บินไปยังแดนไร้ขอบเขต,ก้าวลึกเข้าไปในปมกาลอากาศที่ลึกเข้าไปอีก!"ฟู่ซี่ที่กล่าวออกมาเล็กน้อย.
หมอกที่ดูเหมือนว่าจะหนาขึ้นเรื่อยๆ,สายตาของจงซานที่ราวกับหดกว้าง,สัมผัสได้ถึงการเคลื่อนไหวของลานแห่งนึ้.
ก้าวเข้าไปในดินแดนไร้ขอบเขต?
ไม่ใช่ว่ามันยากจะทะลวงผ่านเข้าไปง่ายๆไม่ใชรึ?
ใบหน้าที่โศกเศร้าเสียใจปรากฏขึ้นบนใบหน้าเฟิงซิงอวิ๋น.
"ไม่จำเป็นต้องเป็นกังวล,ข้าและหนี่หว่านั้นถูกคลุมด้วยอำนาจแห่งความว่างเปล่า,ภายในสุสานโบราณนี้,ไม่มีใครทำอะไรพวกเราได้,การจะออกจากสุสานนี้,กลับไปนั้นเพียงแค่กุมธวัชเจาเหยาไว้,มันจะนำเจ้าจากไป,ธวัชเจาเหยานั้นเป็นสมบัติของชิงชิว,จงจำไว้ให้ดีจะต้องส่งคืนชิงชิว,จำเอาไว้ให้มั่น!"ฟู่ซีกล่าว.
ระหว่างที่กล่าวนั้น,ร่างจำแลงของฟู่ซี่ก็ค่อยๆจางลง,เห็นชัดเจนว่าคำพูดที่ถูกทิ้งเอาไว้นั้นได้จบลงแล้ว.
เฟิงชิงอวิ๋นที่คุกเข่าคำนับให้กับฟู่ซี่อย่างจริงจัง.
ในเวลาเดียวกันธวัชเจาเหยาที่ปล่อยแสงสีฟ้าออกมาอีกครั้ง.
จงซานและเฟิงซิงอวิ๋นที่กุมไปยังธวัชเจาเหยา,แสงสีฟ้าทันใดนั้นก็โอบร่างจงซานและเฟิงซิงอวิ๋น,พร้อมกับพาพวกเขาออกมาจากสุสานของนวีหว๋า.
แสงสีฟ้า,ที่นำร่างทั้งสองพุ่งผ่านตัดอากาศออกมา.
สายตาของทั้งคู่ที่เห็นสุสานดังกล่าวลอยออกไปเรื่อยๆ,จนหายไปสุดสายตา.
ธวัชเจาเหยาที่สร้างรังไหมแห่งแสงปกคลุมคนทั้งสอง,ก่อนที่จะพุ่งผ่านท้องฟ้าหมู่ดาวด้วยความเร็วสูง.
จงซานและเฟิงชิงอวิ๋นที่นั่งสมาธิบำเพ็ญลมหายใจอยู่ด้านใน,พวกเขาทั้งคู่คาดไม่ถึงเลยว่าจะต้องนั่งอยู่ในรังไหมแสงนั้นเป็นเวลาถึงหนึ่งปี.
รังไหมแสงนั้นได้นำทั้งคู่,กลับมายังหุบเขาแห่งหนึ่ง,ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากสถานที่ที่เต็มไปด้วยซากปรักหักพัง,แผ่นดินเลื่อน,และยังมีรอยแยกของผืนปฐพีขนาดใหญ่.
"ที่นี่?
นิกายเสอโห่ว?"เฟิงซิงอวิ๋นที่ดวงตาเบิกกว้างกลมโต.
นิหายเสอโหว,ในเวลานี้ล่มสลายพังทลายแล้ว,บนท้องฟ้า,ทางเข้าสู่โลกนวีหว๋าเองก็สลายหายไปแล้วเช่นกัน.
"เซิ่งหวังจง,ครั้งนี้ต้องขอบคุณยิ่งนัก,ผู้น้อยจะจดจำสลักเอาไว้ในใจ!"เฟิงซิงอวิ๋นที่หันหน้าบอกกล่าวต่อจงซาน.
"อย่าได้เกรงใจ,ข้าเองก็ได้รับประสบการณ์มากมาย!"จงซานพยักหน้า.
"ผู้น้อยเองก็มีเรื่องที่ต้องทำ,หลังจากนี้หากมีวาสนาคงจะได้พบกัน,ธวัชเจาเหยานี้ของให้เซิ่งหวังโปรดมอบมันให้กับชิงชิว!"เฟิงซิงอวิ๋นที่กล่าวอย่างจริงจัง.
"โปรดวางใจ,ข้าจะต้องทำมันอย่างแน่นอน,หลังจากนี้หวังว่าคงจะได้พบกัน!"
"ขอลา!"เฟิงซิงอวิ๋นที่กล่าวเสร็จก็บินตรงไปยังทิศทางของนิกายเสอโห่วที่ล่มสลาย,ก่อนที่จะพุ่งตรงไปยังทิศทางอื่นด้วยความเร็ว.
จงซานจ้องมองไปยังรอบๆ,แม้นว่าไม่รู้สถานการณ์ต่างๆนั้นเกิดสิ่งใดขึ้นมาบ้าง,ทว่าบอกได้ว่ามันผ่านไปเป็นเวลานานเหมือนกัน,ธวัชเจาเหยานำเขามายังที่แห่งนี้ด้วยการใช้เวลาหนึ่งปี,ทว่าด้วยการเดินทางบนปมของกาลอากาศแท้จริงแล้วใช้เวลาไปเท่าไหร่กัน?
สถานที่ดังกล่าวนี้แม้นว่าจะผ่านไปนานแล้วทว่าการจะหาใครสักคนก็ไม่ใช่เรื่องยากอะไรนัก.
ผ่านไปไม่นาน,จงซานที่พบผู้ฝึกตนคนหนึ่ง,ผู้ฝึกตนคนดังกล่าวถึงกับขนลุกชูชันด้วยความหวาดกลัว,ข่าวเรื่องที่มีคนต่อสู้กับบรรพชนชราเสวี๋ยเหมยนั้นได้ผ่านมาห้าปีแล้ว.
หลังจากที่เขาออกมาจากโลกนวีหว๋า,โลกหนี่หว๋าก็เกิดเรื่องที่น่าเกรงขามมาก,หลังจากที่เขาออกมา,หนึ่งปีก่อน,ผังเซียนป้ากั้วก็ปรากฏ,จากนั้นโลกนวีหซ่าก็พังทลายลง,ทุกคนต่างก็หนีแยกย้ายไปคนละทิศละทาง.
เรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดผ่านมาห้าปีแล้ว?
ภายในใจของจงซานที่ตื่นตกใจ,จงซานที่ครุ่นคิดเล็กน้อย,ก่อนที่จะพุ่งเป็นลำแสงไปยังทิศๆหนึ่งด้วยความเร็ว.
------------------------------------------------------------------
ภพหยาง,เหล่ากลุ่มอิทธิพลใหญ่มากมายต่างก็เข้ารุมล้อมต้าเจิ้ง.
ต้าเจิ้งในเวลานี้,ราวกับเป็นของหวานชิ้นใหญ่,แม้นว่าวาสนาจะหายไปหมดแล้ว,แต่เขตแดนยังอยู่,ราชวงศ์วาสนาเช่นนี้,เหมาะอย่างยิ่งที่จะขโมยแย่งชิงแบ่งกันอย่างช้าๆ!
นอกจากนี้,ต้าเจิ้งไม่มีวาสนาแล้ว,ทำให้เหล่าผู้มากความสามารถมากมายละทิ้ง,ความแข็งแกร่งของต้าเจิ้งที่ถดถอยอยู่ในสถานการไม่ใคร่ดีนัก.
สวนสวรรค์ลอยฟ้าหลิงเซียว,ภายในท้องพระโรง,มีเสนาธิการเหลือเพียงหนึ่งในสาม,หนึ่งในสามถึงสังหาร,หนึ่งหนึ่งส่วนได้จากไปแล้ว.
ที่เหลืออยู่เวลานี้ยังดูไร้จิตใจเรี่ยวแรง.
สุ่ยอู๋เหินที่ยังคงนั่งอยู่ในบัลลังก์อ๋อง,จ้องมองไปยังเหล่าขุนนางที่ยังคงเหลืออยู่.
"ข้ารู้สึกมีความสุข,ที่เช้านี้,ยังคงมีรองเสนาธิการกระบวนพิธีการยังอยู่!
ต้าเจิ้งอยู่ในช่วงเวลาที่ยากลำบาก,ทว่าข้าเชื่อว่าเซิ่งหวังจะต้องกลับมา,ข้าคิดว่าทุกคนที่อยู่ที่นี่,คงจะเชื่อมั่นเหมือนกังที่ข้าเชื่อเช่นกัน!"สุ่ยอู๋เหินที่กล่าวออกมาอย่างหนักแน่น.
ด้วยการปลอบใจเหล่าขุนนาง,สุ่ยอู๋เหินที่ทำอยู่ทุกวัน,วาสนาหายไปแล้ว,เรื่องนี้ทำให้เหล่าขุนนางหวาดหวั่นไม่น้อย,อีกทั้ง,ข่าวเกี่ยวกับโลกนวีหว๋าเองก็แพร่กระจายไปทั่วทุกสารทิศ,แม้แต่มีหยกบันทึกเกี่ยวกับเหตุการณ์ภายในนั่นด้วย.
เหล่าขุนนางหลายคนที่คิดจากไป,เพราะเข้าใจว่าเซิ่งหวังได้ตกตายไปแล้ว,ในหยกบันทึกนั้น,มีเหตุการณ์ที่ทุกคนสนใจ,หลายๆคนที่สรุปว่าจงซานได้ล่วงหล่นไปแล้ว,แม้นว่าจะไม่มีใครยื่นยันเต็มร้อย,ทว่าคนส่วนมากก็เชื่อเช่นนั้น.
การอยู่ในต้าเจิ้งเวลานี้นะรึ?
ไม่ต่างจากรอคอยความตาย?
ดังนั้นจึงมีเจ้าหน้าที่ระดับสูงหลายคนที่ถูกลุ่มอิทธิพลอื่นชักจูงและแยกจากต้าเจิ้งไป.
ยิ่งเวลาผ่านไป,โอกาสที่จงซานจะรอดชีวิตก็น้อยลงเรื่อยๆ,แรงกดดันที่สุ่ยอู๋เหินมีนั้นก็มีมากขึ้นเรื่อยๆด้วยเช่นกัน.
"เรียนอ๋องจื่อเฉิน,ที่ด้านนอกนั้นมีทูตของศาลเทวะไท่จีของเขาพบ!"องค์รักษ์คนหนึ่งที่กล่าวรายงานออกมา.
ดวงตาของสุ่ยอู๋เหินที่สั่นไหวไปมา,นี่คือครั้งที่
19 แล้ว, 18 ครั้งนั้นเขาที่ไม่ต้อนรับแม้แต่สังหารทูตเหล่านั้นไป,นี่ก็ครั้งที่
19
แล้ว,ไม่คิดเลยว่าพวกเขายังไม่ยอมแพ้,เหล่าเสนาธิการเวลานี้ต่างก็จับจ้องมองไปยังสุ่ยอู๋เหิน,รอคอยการตัดสินใจของเขา.
สุ่ยอู๋เหินที่เห็นใบหน้าของแต่ละคนแล้ว,ก็เผยท่าทางกังวลออกมาเช่นกัน,ครั้งที่
19
แล้ว,คงจะต้องพบ,ไม่เช่นนั้นอาจจะมีเรื่องสำคัญบางอย่าง,จนทำให้ทูตเหล่านั้นเลือกที่จะเข้าไปติดต่อกับเหล่าขุนนางโดยตรง.
"ให้เขาเข้ามา!"สุ่ยอู๋เหินกล่าว.
"รับทราบ!"
จากนั้น,ทูตของศาลเทวะไท่อี้ก็ก้าวเข้ามา,ที่ด้านหลังนั้นมีผู้ใต้บังคับบัญชาของเขาสองคน.
"ทูตไท่อี้,คารวะอ่องจื่อเฉิน,ยินดีที่ได้พบกับขุนนางทุกท่าน!"ทูตไท่อี้ที่กล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม.
"มีอะไรก็พูดมา?"สุ่ยอู๋เหินกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม.
"เกี่ยวกับการจัดการทัพของต้าเจิ้ง,ศาลเทวะไท่อี้ของข้านั้นได้หยุดแล้ว,เพื่อแสดงความจริงใจ!"ทูตไท่อี้ที่กล่าวออกมา.
สุ่ยจิงที่พยักหน้ารับ,ความจริงเขาได้รับรายงานแล้วว่า,ทัพของศาลเทวะไท่อี้นั้นได้หยุดรุกเข้ามาแล้ว,ตอนนี้มีเพียงแค่ราชวงศ์สวรรค์บางแห่งเท่านั้นที่เคลื่อนทัพรุกเข้ามา.
"อืม!"สุ่ยจิงที่พยักหน้าอย่างจริงจัง.
"เกี่ยวกับข่าวของเซิ่งหวังต้าเจิ้ง,เซิ่งหวังของพวกเรารู้สึกเสียใจอย่างสุดซึ้ง,เซิ่งหวังจงนั้นทรงพลังเป็นอย่างมาก,ช่างน่าเศร้านัก,ข้าคิดว่าเรื่องนี้ทุกท่านคงรับรู้กันแล้ว,จึงไม่จำเป็นต้องกล่าวอะไรอีก!"ทูตไท่อี้ที่กล่าวแสดงความเสียใจ.
เหล่าเสนาธิการหลายคนที่ขมวดคิ้วไปมา,หลายคนที่ไม่ยินดียอมรับว่าจงซานตายไปแล้ว,แม้ว่าจะได้รับข่าวมาแล้วก็ตาม.
"วาสนาของต้าเจิ้งนั้นไม่มี,เซิ่งหวังไท่อี้ต้องการทำอะไร?"สุ่ยอู๋เหินที่กล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงเย็นชา.
"เซิ่งหวังได้บอกกับผู้น้อยว่า,อาณาเขตต้าเจิ้งจะอยู่ได้อีกไม่นาน,อย่างมาก็สี่ปี,หรือน้อยกว่านั้น,ข้ากล่าวถูกใหม?"ทูตไท่อี้ที่กล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม.
แววตาของสุ่ยอู๋เหินที่เต็มไปด้วยความเย็นชา,ทว่าก็ไม่ได้ปฏิเสธแต่อย่างใด,เพราะว่าไม่ใช่ความลับอะไรนัก.
สุ่ยจิง,หลินเซียวที่ขมวดคิ้วไปมา,สี่ปี?
มากสุดสี่ปีรึ?!
"ศาลเทวะของพวกเรานั้นได้ส่งช้ามาที่นี่,เพื่อโน้มน้าวบอกกล่าวต่อทุกท่าน,หากว่าสนใจในศาลเทวะไท่อี้?
เซิ่งหวังของพวกเราก็ยินดีต้อนรับเหล่าคนที่มีพรสวรรค์,เข้าร่วมศาลเทวะไท่อี้,แน่นอนว่าศาลเทวะไท่อี้ย่อมปฏิบัติต่อทุกคนอย่างดีแน่นอน."ทูตไท่อี้ที่กล่าวออกมา.
"หืม? อ้าแขนรับอย่างงั้นรึ?
เซิ่งหวังไท่อี้นับว่าให้ค่าพวกเราขนาดนั้นเลยรึ?"สุ่ยอู๋เหินแค่นเสียงเย็นชา.
"ไม่จำเป็นต้องถ่อมตน,นี่คือความจริง,ต้าเจิ้งที่คงอยู่เวลานี้มีเพยงชื่อเท่านั้นห้าปีที่แล้ว,หากว่าไม่มีอ๋องจื่อฉิน,สุ่ยจิง,หลินเซียวและเสนาธิการทุกคน,ต้าเจิ้งคงจะล่มสลายไปแล้ว,ตราบท่าที่เข้าร่วมศาลเทวะไท่อี้ของข้า,อนาคตของทุกคนจะต้องไม่ธรรมดา,ผู้น้อยของรับประกัน!"ทูตไท่อี้กล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม.
เหล่าเสนาธิการ,เกือบทั้งหมดที่ยังมีแววตาหนักแน่น,ทว่าก็มีบางคนที่ดวงตาลุกวาวเช่นกัน.
ก่อนหน้านี้ก็มีหลายคนที่หลบหนีเข้าซบราชวงศ์สวรรค์,เวลานี้ถึงกับมีราชวงศ์ศาลเทวะที่อ้าแขนรับ,จะไม่ให้พวกเราสั่นไหวได้อย่างไร?
เสนาบดีสุ่ยจิงและแม่ทัพใหญ่,ยังคงนิ่งเงียบไม่พูดจา.
สายตาของทูตไท่อี้ที่จ้องมองไปยังสุ่ยจิง,หลินเซียวและสุ่ยอู๋เหิน,พวกเขาที่มีความสำคัญเป็นอย่างมาก,และมีความสามารถสูง,กล่าวตามจริงเซิ่งหวังที่ส่งเขาคาดหวังในคนทั้งสาม,ให้เขาเสนอโน้มน้าวใจคนทั้งสามให้ได้.
"ขอบคุณเซิ่งหวังไท่อี้,ขอให้เจ้ากลับไปแจ้งเซิ่งหวังไท่อี้,พวกเราเป็นคนของต้าเจิ้ง,และจะเป็นของต้าเจิ้งตลอดไป!"สุ่ยอู๋เหินที่กล่าวออกมาด้วยความเย็นชา.
ทูตไท่อี้ที่จ้องมองไปยังสุ่ยอู๋เหิน,เขาคิดว่าเรื่องนี้ไม่ง่าย,เขาจำเป็นต้องวางแผนให้ดี,ไม่ว่าจะเป็นแผนร้ายหรือโหดร้ายเพียงใด,หนึ่งในสามนี้เขาจะต้องล่อล่วงมาให้ได้.
"ยังไม่หวัง,แต่ก็มีเรื่องหนึ่งที่ทุกคนรับรู้เกี่ยวกับสถานะการณ์.ต้าเจิ้ง,ผู้น้อยขอบังอาจแนะนำ,ไม่รู้ว่าอ๋องจื่อเฉินยินดีจะรับฟังหรือไม่?"ทูตของไท่อี้ที่กล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม.
"หืม?"
เหล่าเสนาธิการทุกคนที่จับจ้องมองไปยังทูตของไท่อี้.
"ในเวลานี้,ความรู้สึกของปวงชนได้หดหาย,จงซานไม่อยู่อีกต่อไป,การจะต้านศัตรูภายนอกนั้น,เป็นเรื่องที่แทบเป็นไปไม่ได้,มีเพียงแค่วาสนากลับมาต้าเจิ้งเท่านั้น,ที่จริง,อ๋องจื่อเฉินเองก็สามารถที่จะก้าวขึ้นไปทดแทน,สามารถที่จะกลายเป็นราชา,เข้ารับบัญชาสวรรค์,เก็บเกี่ยววาสนา,ปกป้องศัตรูจากภายนออกได้!"ทูตไท่อี้ที่กล่าวออกมาด้วยรอยยิ้มอันช่วยร้าย.
รับบัญชาสวรรค์?ก้าวขึ้นไปรับตำแหน่งราชาอย่างงั้นรึ?
เปลี่ยนราชวงศ์เป็นอีกราชวงศ์?
กับแผนการนี้มันได้ซัดกระหน่ำภายในใจของหลายคน,หัวใจของเหล่าขุนนางที่สั่นไหวไปมาในทันที,แม้แต่สุ่ยจิงและหลิวเซียวยังก้มหน้ากำหมัดแน่น,แต่ก็ยังไม่กล่าวสิ่งใดออกมา.
เปลี่ยนราชวงศ์เป็นอีกราชวงศ์?
เพื่อเก็บเกี่ยววาสนา,ต่อต้านศัตรูอย่างงั้นรึ?
"บังอาจ~~~~~~~~~~~~~~~~~~!”
สุ่ยอู่เหินที่ระเบิดความโกรธออกมา!
เห็นท่าทางของสุ่ยอู่เหินที่กลายเป็นบ้าคลั่ง,เหล่าขุนนางที่ราวกับรับรู้อะไรบางอย่าง,แม้แต่ทูตของไท่อี้เวลานี้ก็รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย.
"ทูตของศาลเทวะไท่อี้,กล้ามาสร้างความวุ่นวายถึงในท้องพระโรงต้าเจิ้งรึ?
นี่คืออาชญากรรมร้ายแรง!
เข้ามาลางพวกมันไปตัดหัวต่อหน้าประตุสวรรค์ทิศใต้,กล่าวเตือนต่อทุกคนที่บังอาจกล้าเอาพวกมันเป็นตัวอย่าง!"สุ่ยอู่เหินที่คำรามออกมาเสียงดัง.
"รับทราบ!"เหล่าทหารองค์รักษ์ที่เข้ามาอย่างรวดเร็ว.
"ข้าเป็นทูต,เจ้าจะทำเช่นนี้ไม่ได้,จะทำเช่นนี้ไม่ได้!"ทูตไท่อี้ที่คำรามออกมาด้วยท่าทางร้อนรน.
"พวกเจ้ามาสามคน,ให้สองคนกลับไปรายงานก็พอ,ส่วนเจ้า,ตาย!"สุ่ยอู๋เหินที่คำรามเสียงดัง.
"เจ้าจะสังหารข้าไม่ได้,จะสังหารข้าไม่ได้~~~~~~~~~~~~~!”
ทูตไท่อี้ที่ตะโกนออกมาเสียงดัง,ก่อนที่จะถูกนำตัวไป,ส่วนทูตอีกสองคนในเวลานี้ได้ถอยกลับไปด้วยความหวาดกลัว.
สุ่ยอู๋เหินที่กวาดตามองไปยังขุนนางทุกคนและกล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึมว่า,"ต้าเจิ้งจะคงอยู่ชั่วนิรันดร์,หากว่าใครกล้าคิดใส่ร้ายเซิ่งหวัง,มันจะได้รับการลงโทษตัดหัวเก้าชั่วโคตร! เลิกประชุม!"
สุ่ยอู๋เหินที่สะบัดแขนเสื้อก่อนที่จะจากตำหนักซ่างเฉินไป.
เหล่าขุนนางที่จ้องมองหน้ากันและกันและจากไปด้วยเช่นกัน.
ที่มาจากhttps://lnmtl.com/novel/immortality
#นิยาย เรื่องอมตะ #Immortality#นิยายแปลไทย
Author(s)
สนใจสนับสนุนพวกเรา,เข้าร่วมกลุ่ม VIP ====> Click
ปัจจุบันแปลจบแล้ว 1672 ตอน สนใจติดต่อเข้ากลุ่มลับได้ครับ
***เว็ปฟรีอัพ สองวันหนึ่งตอน
***กลุ่มลับ แปลจบแล้ว.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น