Immortality Chapter 911 Timely rain
นิยาย เรื่อง อมตะ ตอนที่ 911 น้ำทิพย์พิรุณปู่ลู่
Chapter 911 Timely rain
普露甘霖
น้ำทิพย์พิรุณปู่ลู่
ทัพใหญ่ของจงซานนั้นได้ตั้งอยู่ที่ด้านนอกตำหนักสังสารวัฏมาก่อนแล้ว.
พื้นที่รอบๆตำหนักสังสารวัฏนั้นเต็มไปด้วยหมอกทมิฬ,ทว่าในเวลานี้มันมีความหนาแน่นมากยิ่งกว่าเดิมเท่าหนึ่ง.
ที่ไกลออกไปนั้น,จงซานที่เดินทางมาด้วยรถเทียมราชันย์หงส์เพลิง.
จงซานที่จ้องมองออกไปจับจ้องมองปราณทมิฬที่หนาแน่นมายิ่งขึ้นกว่าเดิม,ทำให้จงซานต้องขมวดคิ้วไปมาเล็กน้อย,หนีปู่ซ่าได้ไปกระตุ้นมันอย่างงั้นรึ?
ก่อนหน้านี้หนี่ปู่ซ่าได้กล่าวว่าจะทำการเคลื่อนย้ายฮวงจุ้ยดังกล่าวด้วยตัวเอง.
รถเทียมราชันย์หงเพลิงที่มาหยุดอยู่ที่ลานแห่งหนึ่ง.
บนลานขนาดใหญ่,มีทหารประจำการอยู่มากมาย,เหยี่ยนฉงจื่อและหนี่ปู่ซ่าที่รอคอยอยู่อย่างใจเย็น.
รถเทียมราชันย์หงเพลิงที่หยุดลง,จงซานที่ก้าวลงมา,ทุกคนที่แสดงความเคารพอย่างพร้อมเพรียง.
"เซิ่งหวังขอให้เป็นอมตะ,กลายเป็นเหมือนดั่งสวรรค์ที่เป็นอมตะ!"ทหารทุกคนที่กล่าวออกมาเสียงดัง.
"คารวะเซิ่งหวัง!"หนี่ปู่ซาและเหยี่ยนฉงจื่อกล่าวออกมาในทันที.
"อืม!"จงซานพยักหน้ารับ.
"หนี่ปู่ซา,เจ้าของให้ข้าเดินทางมาที่นี่,ตอนนี้เจ้าสามารถยึดครองตำหนักสังสารวัฏได้แล้วอย่างงั้นรึ?"จงซานที่สอบถามออกไป.
"ยังไม่สามารถยึดได้,หากแต่เฉินได้พบเข้ากับปัญหาใหญ่ที่ยากลำบาก,จึงได้เชิญให้เซิ่งหวังมาตัดสินใจ!"หนี่ปู่ซ่ากล่าวออกมาด้วยความเคารพ.
"หืม?"
"เซิ่งหวังเองก็เห็นพื้นที่รอบๆตำหนักสังสารวัฏแล้ว,สถานที่แห่งนี้เต็มไปด้วยจิตสังหารที่รุนแรงใช่หรือไม่?"หนี่ปู่ซาที่ฝืนยิ้มออกมา.
"อืม!"จงซานพยักหน้ารับ.
"ภายในตำหนักสังสารวัฏเกิดเรื่องสำคัญเกิดขึ้น!"หนี่ปู่ซ่าที่ถอนหายใจเบาๆ.
"เรื่องสำคัญเกิดขึ้น?"จงซานที่ขมวดคิ้วไปมาเล็กน้อย.
"ที่ด้านข้างนั้นมีห้องโถงแห่งหนึ่ง,พวกเราไปปรึกษากันที่ดังกล่าวเถอะ!"หนี่ปู่ซ่าที่ยังไม่ได้ตอบคำตอบอะไรออกมา.
จงซานที่ตระหนักได้ถึงความตรึงเครียดของเรื่องดังกล่าว,จึงพยักหน้ารับ.
"เหยี่ยนฉงจื่อ,ปกป้องพื้นที่รอบๆนี้เอาไว้!"จงซานเอ่ย.
"รับทราบ!"เหยี่ยนฉงจื่อที่รับคำในทันที.
จงซานและหนี่ปู่ซ่าก้าวเข้าไปในตำหนักแห่งหนึ่ง.
"เอาล่ะ,มีอะไรก็กล่าวมา!"จงซานที่เอ่ยปากออกมาในทันที.
"ครับ,เซิ่งหวัง,เฉินนั้นสืบทอดชีพจรหนี่ปู่ซ่ามาจากรุ่นบรรพบุรุษ,นานมาแล้ว,บรรพบุรุษรุ่นก่อนได้ทำการสำรวจตำหนักสังสารวัฏแห่งนี้!"หนี่ปู่ซ่าที่กล่าวออกมาอย่างจริงจัง.
"อืม!"จงซานพยักหน้ารับ.
จงซานที่สามารถคาเดาได้อย่างแน่นอน,ในอดีต,ทำไมหนี่ปู่ซ่าสามารถสร้างโลกที่เชื่อมต่อ,ของตำหนักสังสารวัฏขึ้นมาได้,แต่การทำให้สามารถไปปรากฏในโลกใบเล็กได้นั้นนับว่าเป็นวิธีการที่ลึกลับมาก.
กับความสัมพันธ์ของหนี่ปู่ซ่าและตำหนักสังสารวัฏนี้คงมีอะไรอยู่มากมาย,จงซานเองก็ไม่คิดมาก่อนว่าเขาคือผู้สืบทอดที่เคยสำรวจตำหนักสังสารวัฏแห่งนี้มาก่อน.
"เฉินเองก็พอรับรู้ว่าเซิ่งหวังนั้นพอตจะคาดเดาได้อยู่แล้ว,ทว่าเรื่องในวันนี้,เฉินไมได้ต้องการเอ่ยถึงเรื่องดังกล่าว!"หนี่ปู่ซ่าที่เอ่ยออกมาอย่างจริงจัง.
"หืม?"
"ตำหนักสังสารวัฏ,นี่ไม่ใช่ตำหนักเดิมในอดีต,เกี่ยวกับข้อมูลที่ได้มาจากผู้ก่อตั้งนั้น,ข้าได้ทำการสำรวจภายในแล้ว,ที่ด้านในนั้น,ที่จริงได้พบอะไรบางอย่าง,นับตั้งแต่ผู้สืบทอดชีพจรหนี่ปู่ซ่าได้เข้าสู่โลกใบเล็ก,พื้นที่แห่งนี้ก็ได้เปลี่ยนไป!"หนี่ปู่ซ่าที่ขมวดคิ้วไปมา.
"มีสิ่งที่เปลี่ยนไปอย่างงั้นรึ? อะไรเปลี่ยนไป?"จงซานที่ขมวดคิ้วไปมา.
"มีบางอย่างที่เพิ่มขึ้นมา,ไม่รู้ว่าเป็นฝีมือใครที่ได้ผนึกบางสิ่งบางอย่างเอาไว้ที่นี่,และไม่รู้ว่าอะไรถูกผนึก,ทว่าสิ่งที่ถูกผนึกนั้นดูเหมือนอสูรปิศาจที่ร้ายกาจตนหนึ่ง.
"เกิดขึ้นหลังจากผู้สืบทอดชีพจรปู่ซาเข้าไปยังโลกใบเล็กอย่างงั้นรึ?"จงซานกล่าวออกมาด้วยความสงสัย.
"ครับ,เชื้อสายของชีพจรหนี่ปู่ซ่านั้นได้เข้าไปในโลกใบเล็กเมื่อ
800,000
ปีที่แล้ว,และผนึกอสุรกายปิศาจที่ปรากฏขึ้นเองจะเป็นคนที่ทรงพลังในเวลานั้นเช่นกัน,ค่ายกลนี้มีทั้ง,ค่ายกลกรรมวาสนา,วาสนา,ฮวงจุ้ย,แม้แต่ค่ายกลชะตาอีก!"ดวงตาของหนี่ปู่ซาที่ส่ายไปมา.
"มันหมายความว่าอย่างไร?"จงซานที่เอ่ยออกมาด้วยท่าทางสนใจ.
"ผนึกอสุรกายปิศาจนี้,อาจเป็นปราชญ์เทพ,หรือใครที่อยู่ห่างจากปราชญ์เทพไม่ไกล! นอกจากนี้ยังไม่ใช่คนเดียวเป็นคนลงมือ!"หนี่ปู่ซ่าที่ขมวดคิ้วไปมา.
จงซานที่ขมวดคิ้วไปมา,ผนึกอย่างงั้นรึ?นึกถึงผนึกที่เกาะกุยภพหยาง,มีผนึกที่ใช้ศิลาเทวะห้าสีในการผนึกอสุรกายปิศาจ,กุยเช่อเอาไว้!
และยังมีผนึกที่อยู่ในตำหนักสังสารวัฏ,ผนึกจากยอดฝีมือไร้คู่เปรียบอย่างงั้นรึ?
"ผนึกมันเริ่มเปิดออกมาอย่างงั้นรึ?"จงซานที่ขมวดคิ้วไปมา.
"ครับ,ที่ด้านในนั้นบางทีอาจจะเป็นยอดฝีมือทีแข็งแกร่งมาก,บางที่เพราะว่าการต่อสู้ของเซิ่งหวังและโหลวซิงเฉินได้ทำลายค่ายกลฮวงจุ้ยบางส่วนไป,ข้าคิดว่าอสุรกายปิศาจที่อยู่ด้านในนั้นกำลังพยายามที่จะออกมาซึ่งน่าจะอีกไม่นานก็จะผุดออกมาได้แล้ว!"หนี่ปู่ซ่าที่ขมวดคิ้วไปมา.
จงซานที่ก้าวไปรอบๆในห้องโถง,ซึ่งมีหนี่ปู่ซ่ายืนอยู่ไม่ไกล.
"เขตแดนจวงหลุนแห่งนี้,ดูเหมือนว่าจะมีกลุ่มอิทธิพลไม่มาก,ศาลเทวะ,นิกายใหญ่ต่างๆ,ไม่ยินดีนักที่จะอยู่ในอาณาเขตแห่งนี้,ดูเหมือนว่าทุกคนต่างก็รับรู้ได้ถึงความลับของอาณาเขตจวงหลุนแห่งหนึ่ง,ความลับดังกล่าวนั้นคงซ่อนอยู่ในตำหนักสังสารวัฏ! ทำให้เหล่าผู้ฝึกตนหลีกหนีมันให้ไกล!"จงซานกล่าวและครุ่นคิดไปมา.
"ควรจะเป็นเช่นนั้น!"หนี่ปู่ซาพยักหน้ารับ.
"เป็นใครกันที่ผู้ฝึกตนมากมายหลีกหนี,ทว่ามันผ่านมานานแล้ว,ยากที่จะบอกว่าเป็นใคร?
หลายแสนปีก่อน,น่าจะอยู่ในยุคเดียวกับบรรพชนหงจวินกับกลุ่มปราชญ์เทพที่ต่อต้านเทียนชูในครั้งนั้น,ภายในภพหยางเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่,แล้วภพหยินล่ะเกิดสิ่งใดขึ้น?"จงซานที่สูดหายใจลึก.
"เซิ่งหวัง,แท่นบูชาหลักของตำหนักสังสารวัฏนั้น,ข้าไม่มีความสามารถพอที่จะเปิดในตอนนี้,ทว่าผนึกของตำหนักรอบๆนั้น,ข้าได้เปิดออกมาแล้ว,ทำให้ปราณทมิฬเติบโตพลุ้งพล่านขึ้นมา,จนทำให้อสุรกายปิศาจด้านในกำลังจะทะลวงผนึกออกมาได้!"นี่ปู่ซ่ากล่าว.
"ข้าต้องการไปดูผนึก!"จงซานที่กล่าวอย่างเคร่งขรึม.
"รับทราบ!"
เมื่อออกมาจากตำหนัก,หนี่ปู่ซาก็นำจงซานเข้าไปในด้านในปราณทมิฬที่มีอยู่มากมาย.
หนี่ปู่ซาที่สะบัดมือนำมุกแสงออกมา,มุกแสงที่กลายเป็นม่านพลังป้องกันเขาเอาไว้,กันปราณทมิฬด้านนอกไม่ให้เข้ามาใกล้,ทำให้จงซานและหนี่ปู่ซาไม่ได้รับผลกระทบกับการกัดกร่อนของปราณทมิฬนั่นเอง.
ทั้งสองที่ก้าวเข้าไปด้านใน.
ฝ่าลึกเข้าไปในตำหนักสังสารวัฏช้าๆ.
ที่ไกลออกไปนั้น,บนเทือกเขาแห่งหนึ่ง,ในเวลานี้ปรากฏชายในชุดคลุมสีม่วงคนหนึ่ง.
ชายชุดสีม่วงที่เพิ่งร่อนลงมานั่นเอง,จากนั้นก็ปรากฏคนอื่นๆค่อยๆตามมาคนแล้วคนเล่าปรากฏขึ้นมาสบทบเขา.
"เซิ่งซ่างชิงหมิง,จงซานมาแล้วอย่างงั้นรึ?"หนึ่งในนั้นกล่าวออกมา.
"มาแล้ว,พวกเขาอยู่ด้านในนั้น."ชายในชุดคลุมสีม่วงเซิ่งซ่างชิงหมิงกล่าวอย่างเคร่งขรึม.
"แล้วอยู่ใหนกัน?"
"จงซาน,เข้าไปในพื้นที่ปราณทมิฬตรงไปยังตำหนักสังสารวัฏ."เซิ่งซ่างชิงหมิงที่กล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม.
"เขาเข้าไปอย่างงั้นรึ?
แล้วเข้าไปได้อย่างไร?"คนผู้หนึ่งที่เอ่ยออกมาด้วยความประหลาดใจ.
"ใช่,เขาเข้าไปด้านใน,แต่ไม่ใช่เพราะความแข็งแกร่งของเขา,แต่เป็นของวิเศษต่างหาก,เขามีของวิเศษที่ใช้ปกป้องกายจึงสามารถเข้าไปได้ในได้!"เซิ่งซ่างชิงหมิงที่กล่าวออกมาด้วยท่าทางอิจฉา.
"ตำหนักสังสารวัฏ?
ภายในนั้นมีความลับอะไรกัน?
ด้วยความแข็งแกร่งของจงซานสามารถเข้าไปด้านในได้อย่างงั้นรึ?"คนอีกคนที่เอ่ยสอบถามออกมา.
"ข้าเองก็ไม่รู้,ตำหนักสังสารวัฏนั้น,ผ่านมาหลายแสนปีแล้ว,ทุกคนต่างก็หลบหนีไปให้ไกล,ปราชญ์เทพภพหยินเองยังไม่ต้องการเข้าใกล้พื้นที่แห่งนี้,ราวกับว่ากลัวก้อนกรรมอะไรบางอย่างจะเกี่ยวเข้า,นี่จงซานเขาไม่หวาดกลัวเลยรึไง!"เซิ่งซ่างชิงหมิงที่ส่ายหน้าไปมา.
"ตอนนี้พวกเราต้องทำอะไร?"อีกคนยังคงสอบถามต่อ.
"รอให้กลุ่มต้าเซียนเตรียมการเสร็จสิ้น,และรอให้จงซานออกมา!"เซิ่งซ่างชิงหมิงกล่าว.
"เหล่ายอดฝีมือจากราชวงศ์สวรรค์และแดนเทวะ,เป็นต้าเซียนกว่าห้าสิบคน,พวกเราจะลงมือพร้อมกันอย่างงั้นรึ?"อีกคนที่กล่าวออกมา.
"ใช่แล้ว,พวกเราจะใช้ค่ายกลเซียนโบราณ,ข่ายสวรรค์,เจ้าคิดว่าอย่างไร?"เซิ่งซ่างชิงหมิงที่กล่าวออกมาอย่างมั่นใจ.
"ค่ายกลเซียนโบราณข่ายสวรรค์อย่างงั้นรึ?
หากเป็นเช่นนั้น,จงซานจะต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัย!"อีกคนที่กล่าวออกมาด้วยความตื่นเต้น.
"ใช่แล้ว,ให้ทุกคนเตรียมตัว!"เซิ่งซ่างชิงชิวกล่าว.
"อืม!"ทุกคนพยักหน้ารับ.
---------------------------------------------------------
จงซานที่ก้าวเข้าไปกับหนี่ปู่ซากว่าหนึ่งชั่วยาม,ก็เข้ามาถึงตำหนักขนาดใหญ่ด้านใน.
เป็นตำหนักที่ใหญ่มาก,จงซานที่ถอนหายใจ,ตำหนักขนาดใหญ่นี้เท่ากับเมืองซ่างทั้งเมืองเลยก็ว่าได้.
ตำหนักสังสารวัฏนั้นมีอยู่ด้วยกันสิบตำหนัก,นี่คือหนึ่งในนั้น,สถานที่เป็นแห่งแรกที่ผู้คนพบเห็นอย่างงั้นรึ?
แล้วอีกเก้าตำหนักอยู่ที่ใดกัน?
พื้นที่ใหญ่โตที่ยืดยาวออกไป,พื้นที่แห่งนี้ดูเหมือนว่าจะเคยเป็นหนึ่งในดินแดนผู้ทรงอิทธิพลหรือไม่?
จงซานที่เข้ามาใกล้ตำหนักขนาดใหญ่พร้อมกับหนี่ปู่ซ่า.
ประตูตำหนักที่ไม่ได้ปิด,ที่ด้านในนั้นมีปราณทมิฬกำลังพ่นออกมาไม่หยุด.
เมื่อเข้าไปในตำหนักด้านใน.
เป็นโถงที่ใหญ่โต,พื้นและผนังเป็นสีดำ,และมีบ่อน้ำขนาดใหญ่ที่มีของเหลวสีดำมืดเหมือนหมึก.
ปราณทมิฬมากมายนั่นดูเหมือนว่าจะแผ่พุ่งออกมาจากบ่อน้ำแห่งนี้.
บนบ่อน้ำนั้น,มีดอกกุหลาบดอกหนึ่งที่เติบโตขึ้นมา,ส่องประกายแสงสีดำออกมา,ดูงดงามไม่น้อย.
"นี่มัน?"คิ้วของจงซานที่ขมวดไปมา.
"เป็นอสุรกายปิศาจ,ถูกผนึกเอาไว้ด้านล่าง,น้ำสีดำหมกนั้นปนเปื้อนด้วยจิตสังหาร,ส่วนด้านบนนั้นคือกุหลาบอเวจี,มันคือผนึกอย่างหนึ่ง,หากกุหลาบดังกล่าวนั้นถูกทำลาย,ผนึกก็จะค่อยๆถูกทะลวง,และปลดปล่อยอสุรกายปิศาจออกมา,ยากที่จะต้านได้,เซิ่งหวังท่านคิดว่าควรจะทำเช่นไร?"หนี่ปู่ซ่าที่ขมวดคิ้วไปมา.
จงซานที่จ้องมองไปยังกุหลาบอเวจี,พลางขมวดคิ้วแน่นใช้ความคิด.
หนี่ปู่ซาอยู่ข้างๆไม่กล้ารบกวน.
จงซานที่ครุ่นคิดและพ่นลมหายใจออกมาเบาๆ,"อสุรกายปิศาจ?
ใครบอกว่าด้านในนั้นเป็นอสุรกายปิศาจอย่างแน่นอนกัน?"
"หืม?"
"เขากำลังทลายผนึกทีละน้อยๆ,คงไม่ได้ต่างกันนักหากว่าเราช่วยเขาคลายผนึก!"จงซานที่กล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม.
หนี่ปู่ซาที่ตื่นตกใจเล็กน้อย,จากนั้นก็ครุ่นคิดไปมา,ภายในใจที่เข้าใจได้อย่างชัดเจน,พยักหน้ารับอย่างจริงจัง.
หนี่ปู่ซาเองก็ไม่รู้,และไม่จำเป็นต้องรู้,อสุรกายปิศาจอย่างงั้นรึ?
ไม่ว่าอย่างไรอสุรกายปิศาจตนนี้ก็ต้องออกมาได้อย่างแน่นอน,ในเวลานั้นศาลเทวะต้าเจิ้งไม่มีทางที่จะไม่ได้รับผลกระทบ,หากรอคอยเวลาให้อสุรกายปิศาจตนดังกล่าวออกมา,คงไม่สามารถบอกได้ถึงชะตากรรมต้าเจิ้งได้อย่างแน่นอน,ทางที่ดีการช่วยเขาออกมา,อย่างน้อยก็ยังกลายเป็นเบี้ยเล็กๆ,อาจจะเป็นการสร้างบุญคุณกับเขาเล็กน้อยก็ได้.
"เฉินจะทำลายผนึกในทันที!"หนี่ปู่ซากล่าวรายงาน.
"ไม่ต้องรีบร้อน,กุหลาบอเวจีนั่นเก็บมาได้หรือไม่?"จงซานที่กล่าวออกไปด้วยความสงสัย.
"เก็บ,ดูเหมือนว่าจะไม่ง่ายนัก!"หนี่ปู่ซากล่าว.
"หืม?"
"สิ่งนี้เกิดจากจิตสังหารที่มารวมตัวกัน,หากว่าเก็บมา,ไม่มีทางที่จะคงรูปอยู่ได้เว้นแต่มี......"หนี่ปู่ซาที่ขมวดคิ้วไปมา.
"หึ?"
"การหล่อเลี้ยงจากน้ำทิพย์พิรุณปู่ลู่!"หนี่ปู่ซ่าที่เอ่ยตอบ.
"น้ำทิพย์พิรุณปู่ลู่?"จงซานที่เผยท่าทางประหลาดใจ.
"ใช่แล้ว,น้ำทิพย์พิรุณปู่ลู่,ช่างหน้าเศร้าภายในอาณาเขตของพวกเรานั้นไม่มีน้ำทิพย์พิรุณปู่ลู่,ภายในภพหยางเองก็มีเพียงแค่บางแห่งเท่านั้น!"หนี่ปู่ซ่าส่ายหน้าไปมา,แสดงท่าทางช่วยไม่ได้.
"หากกล่าวถึงน้ำทิพย์พิรุณปู่ลู่ล่ะก็,ข้ามี!"จงซานเอ่ยออกมาในทันที.
"หืม?"หนี่ปู่ซาที่เผยท่าทางแปลกประหลาดจดจ้องมองไปยังจงซาน,เป็นจริงหรือเท็จ?
เซิ่งหวังมีน้ำทิพย์พิรุณปู่ลู่อย่างงั้นรึ?
เป็นไปไม่ได้สิ่งนี้ไม่มีในโลกใบเล็ก.
จงซานมีน้ำทิพย์พิรุณปู่ลู่,เป็นเพราะในอดีต,ไท่ซ่างเหล่าจินมองขวดหยกพิสุทธิ์ให้กับเขานั่นเอง,ด้านในนั้นมีวารี
36
ชนิด,ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือ,น้ำทิพย์พิรุณปู่ลู่,ซึ่งจงซานภพหยินสามารถส่งมันมาจากภพหยางได้,และวิธีในการส่งมานั้นเป็นความลับที่มีเพียงจงซานคนเดียวเท่านั้นที่รู้.
Chapter 911 Timely rain
普露甘霖
น้ำทิพย์พิรุณปู่ลู่
ทัพใหญ่ของจงซานนั้นได้ตั้งอยู่ที่ด้านนอกตำหนักสังสารวัฏมาก่อนแล้ว.
พื้นที่รอบๆตำหนักสังสารวัฏนั้นเต็มไปด้วยหมอกทมิฬ,ทว่าในเวลานี้มันมีความหนาแน่นมากยิ่งกว่าเดิมเท่าหนึ่ง.
ที่ไกลออกไปนั้น,จงซานที่เดินทางมาด้วยรถเทียมราชันย์หงส์เพลิง.
จงซานที่จ้องมองออกไปจับจ้องมองปราณทมิฬที่หนาแน่นมายิ่งขึ้นกว่าเดิม,ทำให้จงซานต้องขมวดคิ้วไปมาเล็กน้อย,หนีปู่ซ่าได้ไปกระตุ้นมันอย่างงั้นรึ?
ก่อนหน้านี้หนี่ปู่ซ่าได้กล่าวว่าจะทำการเคลื่อนย้ายฮวงจุ้ยดังกล่าวด้วยตัวเอง.
รถเทียมราชันย์หงเพลิงที่มาหยุดอยู่ที่ลานแห่งหนึ่ง.
บนลานขนาดใหญ่,มีทหารประจำการอยู่มากมาย,เหยี่ยนฉงจื่อและหนี่ปู่ซ่าที่รอคอยอยู่อย่างใจเย็น.
รถเทียมราชันย์หงเพลิงที่หยุดลง,จงซานที่ก้าวลงมา,ทุกคนที่แสดงความเคารพอย่างพร้อมเพรียง.
"เซิ่งหวังขอให้เป็นอมตะ,กลายเป็นเหมือนดั่งสวรรค์ที่เป็นอมตะ!"ทหารทุกคนที่กล่าวออกมาเสียงดัง.
"คารวะเซิ่งหวัง!"หนี่ปู่ซาและเหยี่ยนฉงจื่อกล่าวออกมาในทันที.
"อืม!"จงซานพยักหน้ารับ.
"หนี่ปู่ซา,เจ้าของให้ข้าเดินทางมาที่นี่,ตอนนี้เจ้าสามารถยึดครองตำหนักสังสารวัฏได้แล้วอย่างงั้นรึ?"จงซานที่สอบถามออกไป.
"ยังไม่สามารถยึดได้,หากแต่เฉินได้พบเข้ากับปัญหาใหญ่ที่ยากลำบาก,จึงได้เชิญให้เซิ่งหวังมาตัดสินใจ!"หนี่ปู่ซ่ากล่าวออกมาด้วยความเคารพ.
"หืม?"
"เซิ่งหวังเองก็เห็นพื้นที่รอบๆตำหนักสังสารวัฏแล้ว,สถานที่แห่งนี้เต็มไปด้วยจิตสังหารที่รุนแรงใช่หรือไม่?"หนี่ปู่ซาที่ฝืนยิ้มออกมา.
"อืม!"จงซานพยักหน้ารับ.
"ภายในตำหนักสังสารวัฏเกิดเรื่องสำคัญเกิดขึ้น!"หนี่ปู่ซ่าที่ถอนหายใจเบาๆ.
"เรื่องสำคัญเกิดขึ้น?"จงซานที่ขมวดคิ้วไปมาเล็กน้อย.
"ที่ด้านข้างนั้นมีห้องโถงแห่งหนึ่ง,พวกเราไปปรึกษากันที่ดังกล่าวเถอะ!"หนี่ปู่ซ่าที่ยังไม่ได้ตอบคำตอบอะไรออกมา.
จงซานที่ตระหนักได้ถึงความตรึงเครียดของเรื่องดังกล่าว,จึงพยักหน้ารับ.
"เหยี่ยนฉงจื่อ,ปกป้องพื้นที่รอบๆนี้เอาไว้!"จงซานเอ่ย.
"รับทราบ!"เหยี่ยนฉงจื่อที่รับคำในทันที.
จงซานและหนี่ปู่ซ่าก้าวเข้าไปในตำหนักแห่งหนึ่ง.
"เอาล่ะ,มีอะไรก็กล่าวมา!"จงซานที่เอ่ยปากออกมาในทันที.
"ครับ,เซิ่งหวัง,เฉินนั้นสืบทอดชีพจรหนี่ปู่ซ่ามาจากรุ่นบรรพบุรุษ,นานมาแล้ว,บรรพบุรุษรุ่นก่อนได้ทำการสำรวจตำหนักสังสารวัฏแห่งนี้!"หนี่ปู่ซ่าที่กล่าวออกมาอย่างจริงจัง.
"อืม!"จงซานพยักหน้ารับ.
จงซานที่สามารถคาเดาได้อย่างแน่นอน,ในอดีต,ทำไมหนี่ปู่ซ่าสามารถสร้างโลกที่เชื่อมต่อ,ของตำหนักสังสารวัฏขึ้นมาได้,แต่การทำให้สามารถไปปรากฏในโลกใบเล็กได้นั้นนับว่าเป็นวิธีการที่ลึกลับมาก.
กับความสัมพันธ์ของหนี่ปู่ซ่าและตำหนักสังสารวัฏนี้คงมีอะไรอยู่มากมาย,จงซานเองก็ไม่คิดมาก่อนว่าเขาคือผู้สืบทอดที่เคยสำรวจตำหนักสังสารวัฏแห่งนี้มาก่อน.
"เฉินเองก็พอรับรู้ว่าเซิ่งหวังนั้นพอตจะคาดเดาได้อยู่แล้ว,ทว่าเรื่องในวันนี้,เฉินไมได้ต้องการเอ่ยถึงเรื่องดังกล่าว!"หนี่ปู่ซ่าที่เอ่ยออกมาอย่างจริงจัง.
"หืม?"
"ตำหนักสังสารวัฏ,นี่ไม่ใช่ตำหนักเดิมในอดีต,เกี่ยวกับข้อมูลที่ได้มาจากผู้ก่อตั้งนั้น,ข้าได้ทำการสำรวจภายในแล้ว,ที่ด้านในนั้น,ที่จริงได้พบอะไรบางอย่าง,นับตั้งแต่ผู้สืบทอดชีพจรหนี่ปู่ซ่าได้เข้าสู่โลกใบเล็ก,พื้นที่แห่งนี้ก็ได้เปลี่ยนไป!"หนี่ปู่ซ่าที่ขมวดคิ้วไปมา.
"มีสิ่งที่เปลี่ยนไปอย่างงั้นรึ? อะไรเปลี่ยนไป?"จงซานที่ขมวดคิ้วไปมา.
"มีบางอย่างที่เพิ่มขึ้นมา,ไม่รู้ว่าเป็นฝีมือใครที่ได้ผนึกบางสิ่งบางอย่างเอาไว้ที่นี่,และไม่รู้ว่าอะไรถูกผนึก,ทว่าสิ่งที่ถูกผนึกนั้นดูเหมือนอสูรปิศาจที่ร้ายกาจตนหนึ่ง.
"เกิดขึ้นหลังจากผู้สืบทอดชีพจรปู่ซาเข้าไปยังโลกใบเล็กอย่างงั้นรึ?"จงซานกล่าวออกมาด้วยความสงสัย.
"ครับ,เชื้อสายของชีพจรหนี่ปู่ซ่านั้นได้เข้าไปในโลกใบเล็กเมื่อ
800,000
ปีที่แล้ว,และผนึกอสุรกายปิศาจที่ปรากฏขึ้นเองจะเป็นคนที่ทรงพลังในเวลานั้นเช่นกัน,ค่ายกลนี้มีทั้ง,ค่ายกลกรรมวาสนา,วาสนา,ฮวงจุ้ย,แม้แต่ค่ายกลชะตาอีก!"ดวงตาของหนี่ปู่ซาที่ส่ายไปมา.
"มันหมายความว่าอย่างไร?"จงซานที่เอ่ยออกมาด้วยท่าทางสนใจ.
"ผนึกอสุรกายปิศาจนี้,อาจเป็นปราชญ์เทพ,หรือใครที่อยู่ห่างจากปราชญ์เทพไม่ไกล! นอกจากนี้ยังไม่ใช่คนเดียวเป็นคนลงมือ!"หนี่ปู่ซ่าที่ขมวดคิ้วไปมา.
จงซานที่ขมวดคิ้วไปมา,ผนึกอย่างงั้นรึ?นึกถึงผนึกที่เกาะกุยภพหยาง,มีผนึกที่ใช้ศิลาเทวะห้าสีในการผนึกอสุรกายปิศาจ,กุยเช่อเอาไว้!
และยังมีผนึกที่อยู่ในตำหนักสังสารวัฏ,ผนึกจากยอดฝีมือไร้คู่เปรียบอย่างงั้นรึ?
"ผนึกมันเริ่มเปิดออกมาอย่างงั้นรึ?"จงซานที่ขมวดคิ้วไปมา.
"ครับ,ที่ด้านในนั้นบางทีอาจจะเป็นยอดฝีมือทีแข็งแกร่งมาก,บางที่เพราะว่าการต่อสู้ของเซิ่งหวังและโหลวซิงเฉินได้ทำลายค่ายกลฮวงจุ้ยบางส่วนไป,ข้าคิดว่าอสุรกายปิศาจที่อยู่ด้านในนั้นกำลังพยายามที่จะออกมาซึ่งน่าจะอีกไม่นานก็จะผุดออกมาได้แล้ว!"หนี่ปู่ซ่าที่ขมวดคิ้วไปมา.
จงซานที่ก้าวไปรอบๆในห้องโถง,ซึ่งมีหนี่ปู่ซ่ายืนอยู่ไม่ไกล.
"เขตแดนจวงหลุนแห่งนี้,ดูเหมือนว่าจะมีกลุ่มอิทธิพลไม่มาก,ศาลเทวะ,นิกายใหญ่ต่างๆ,ไม่ยินดีนักที่จะอยู่ในอาณาเขตแห่งนี้,ดูเหมือนว่าทุกคนต่างก็รับรู้ได้ถึงความลับของอาณาเขตจวงหลุนแห่งหนึ่ง,ความลับดังกล่าวนั้นคงซ่อนอยู่ในตำหนักสังสารวัฏ! ทำให้เหล่าผู้ฝึกตนหลีกหนีมันให้ไกล!"จงซานกล่าวและครุ่นคิดไปมา.
"ควรจะเป็นเช่นนั้น!"หนี่ปู่ซาพยักหน้ารับ.
"เป็นใครกันที่ผู้ฝึกตนมากมายหลีกหนี,ทว่ามันผ่านมานานแล้ว,ยากที่จะบอกว่าเป็นใคร?
หลายแสนปีก่อน,น่าจะอยู่ในยุคเดียวกับบรรพชนหงจวินกับกลุ่มปราชญ์เทพที่ต่อต้านเทียนชูในครั้งนั้น,ภายในภพหยางเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่,แล้วภพหยินล่ะเกิดสิ่งใดขึ้น?"จงซานที่สูดหายใจลึก.
"เซิ่งหวัง,แท่นบูชาหลักของตำหนักสังสารวัฏนั้น,ข้าไม่มีความสามารถพอที่จะเปิดในตอนนี้,ทว่าผนึกของตำหนักรอบๆนั้น,ข้าได้เปิดออกมาแล้ว,ทำให้ปราณทมิฬเติบโตพลุ้งพล่านขึ้นมา,จนทำให้อสุรกายปิศาจด้านในกำลังจะทะลวงผนึกออกมาได้!"นี่ปู่ซ่ากล่าว.
"ข้าต้องการไปดูผนึก!"จงซานที่กล่าวอย่างเคร่งขรึม.
"รับทราบ!"
เมื่อออกมาจากตำหนัก,หนี่ปู่ซาก็นำจงซานเข้าไปในด้านในปราณทมิฬที่มีอยู่มากมาย.
หนี่ปู่ซาที่สะบัดมือนำมุกแสงออกมา,มุกแสงที่กลายเป็นม่านพลังป้องกันเขาเอาไว้,กันปราณทมิฬด้านนอกไม่ให้เข้ามาใกล้,ทำให้จงซานและหนี่ปู่ซาไม่ได้รับผลกระทบกับการกัดกร่อนของปราณทมิฬนั่นเอง.
ทั้งสองที่ก้าวเข้าไปด้านใน.
ฝ่าลึกเข้าไปในตำหนักสังสารวัฏช้าๆ.
ที่ไกลออกไปนั้น,บนเทือกเขาแห่งหนึ่ง,ในเวลานี้ปรากฏชายในชุดคลุมสีม่วงคนหนึ่ง.
ชายชุดสีม่วงที่เพิ่งร่อนลงมานั่นเอง,จากนั้นก็ปรากฏคนอื่นๆค่อยๆตามมาคนแล้วคนเล่าปรากฏขึ้นมาสบทบเขา.
"เซิ่งซ่างชิงหมิง,จงซานมาแล้วอย่างงั้นรึ?"หนึ่งในนั้นกล่าวออกมา.
"มาแล้ว,พวกเขาอยู่ด้านในนั้น."ชายในชุดคลุมสีม่วงเซิ่งซ่างชิงหมิงกล่าวอย่างเคร่งขรึม.
"แล้วอยู่ใหนกัน?"
"จงซาน,เข้าไปในพื้นที่ปราณทมิฬตรงไปยังตำหนักสังสารวัฏ."เซิ่งซ่างชิงหมิงที่กล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม.
"เขาเข้าไปอย่างงั้นรึ?
แล้วเข้าไปได้อย่างไร?"คนผู้หนึ่งที่เอ่ยออกมาด้วยความประหลาดใจ.
"ใช่,เขาเข้าไปด้านใน,แต่ไม่ใช่เพราะความแข็งแกร่งของเขา,แต่เป็นของวิเศษต่างหาก,เขามีของวิเศษที่ใช้ปกป้องกายจึงสามารถเข้าไปได้ในได้!"เซิ่งซ่างชิงหมิงที่กล่าวออกมาด้วยท่าทางอิจฉา.
"ตำหนักสังสารวัฏ?
ภายในนั้นมีความลับอะไรกัน?
ด้วยความแข็งแกร่งของจงซานสามารถเข้าไปด้านในได้อย่างงั้นรึ?"คนอีกคนที่เอ่ยสอบถามออกมา.
"ข้าเองก็ไม่รู้,ตำหนักสังสารวัฏนั้น,ผ่านมาหลายแสนปีแล้ว,ทุกคนต่างก็หลบหนีไปให้ไกล,ปราชญ์เทพภพหยินเองยังไม่ต้องการเข้าใกล้พื้นที่แห่งนี้,ราวกับว่ากลัวก้อนกรรมอะไรบางอย่างจะเกี่ยวเข้า,นี่จงซานเขาไม่หวาดกลัวเลยรึไง!"เซิ่งซ่างชิงหมิงที่ส่ายหน้าไปมา.
"ตอนนี้พวกเราต้องทำอะไร?"อีกคนยังคงสอบถามต่อ.
"รอให้กลุ่มต้าเซียนเตรียมการเสร็จสิ้น,และรอให้จงซานออกมา!"เซิ่งซ่างชิงหมิงกล่าว.
"เหล่ายอดฝีมือจากราชวงศ์สวรรค์และแดนเทวะ,เป็นต้าเซียนกว่าห้าสิบคน,พวกเราจะลงมือพร้อมกันอย่างงั้นรึ?"อีกคนที่กล่าวออกมา.
"ใช่แล้ว,พวกเราจะใช้ค่ายกลเซียนโบราณ,ข่ายสวรรค์,เจ้าคิดว่าอย่างไร?"เซิ่งซ่างชิงหมิงที่กล่าวออกมาอย่างมั่นใจ.
"ค่ายกลเซียนโบราณข่ายสวรรค์อย่างงั้นรึ?
หากเป็นเช่นนั้น,จงซานจะต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัย!"อีกคนที่กล่าวออกมาด้วยความตื่นเต้น.
"ใช่แล้ว,ให้ทุกคนเตรียมตัว!"เซิ่งซ่างชิงชิวกล่าว.
"อืม!"ทุกคนพยักหน้ารับ.
---------------------------------------------------------
จงซานที่ก้าวเข้าไปกับหนี่ปู่ซากว่าหนึ่งชั่วยาม,ก็เข้ามาถึงตำหนักขนาดใหญ่ด้านใน.
เป็นตำหนักที่ใหญ่มาก,จงซานที่ถอนหายใจ,ตำหนักขนาดใหญ่นี้เท่ากับเมืองซ่างทั้งเมืองเลยก็ว่าได้.
ตำหนักสังสารวัฏนั้นมีอยู่ด้วยกันสิบตำหนัก,นี่คือหนึ่งในนั้น,สถานที่เป็นแห่งแรกที่ผู้คนพบเห็นอย่างงั้นรึ?
แล้วอีกเก้าตำหนักอยู่ที่ใดกัน?
พื้นที่ใหญ่โตที่ยืดยาวออกไป,พื้นที่แห่งนี้ดูเหมือนว่าจะเคยเป็นหนึ่งในดินแดนผู้ทรงอิทธิพลหรือไม่?
จงซานที่เข้ามาใกล้ตำหนักขนาดใหญ่พร้อมกับหนี่ปู่ซ่า.
ประตูตำหนักที่ไม่ได้ปิด,ที่ด้านในนั้นมีปราณทมิฬกำลังพ่นออกมาไม่หยุด.
เมื่อเข้าไปในตำหนักด้านใน.
เป็นโถงที่ใหญ่โต,พื้นและผนังเป็นสีดำ,และมีบ่อน้ำขนาดใหญ่ที่มีของเหลวสีดำมืดเหมือนหมึก.
ปราณทมิฬมากมายนั่นดูเหมือนว่าจะแผ่พุ่งออกมาจากบ่อน้ำแห่งนี้.
บนบ่อน้ำนั้น,มีดอกกุหลาบดอกหนึ่งที่เติบโตขึ้นมา,ส่องประกายแสงสีดำออกมา,ดูงดงามไม่น้อย.
"นี่มัน?"คิ้วของจงซานที่ขมวดไปมา.
"เป็นอสุรกายปิศาจ,ถูกผนึกเอาไว้ด้านล่าง,น้ำสีดำหมกนั้นปนเปื้อนด้วยจิตสังหาร,ส่วนด้านบนนั้นคือกุหลาบอเวจี,มันคือผนึกอย่างหนึ่ง,หากกุหลาบดังกล่าวนั้นถูกทำลาย,ผนึกก็จะค่อยๆถูกทะลวง,และปลดปล่อยอสุรกายปิศาจออกมา,ยากที่จะต้านได้,เซิ่งหวังท่านคิดว่าควรจะทำเช่นไร?"หนี่ปู่ซ่าที่ขมวดคิ้วไปมา.
จงซานที่จ้องมองไปยังกุหลาบอเวจี,พลางขมวดคิ้วแน่นใช้ความคิด.
หนี่ปู่ซาอยู่ข้างๆไม่กล้ารบกวน.
จงซานที่ครุ่นคิดและพ่นลมหายใจออกมาเบาๆ,"อสุรกายปิศาจ?
ใครบอกว่าด้านในนั้นเป็นอสุรกายปิศาจอย่างแน่นอนกัน?"
"หืม?"
"เขากำลังทลายผนึกทีละน้อยๆ,คงไม่ได้ต่างกันนักหากว่าเราช่วยเขาคลายผนึก!"จงซานที่กล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม.
หนี่ปู่ซาที่ตื่นตกใจเล็กน้อย,จากนั้นก็ครุ่นคิดไปมา,ภายในใจที่เข้าใจได้อย่างชัดเจน,พยักหน้ารับอย่างจริงจัง.
หนี่ปู่ซาเองก็ไม่รู้,และไม่จำเป็นต้องรู้,อสุรกายปิศาจอย่างงั้นรึ?
ไม่ว่าอย่างไรอสุรกายปิศาจตนนี้ก็ต้องออกมาได้อย่างแน่นอน,ในเวลานั้นศาลเทวะต้าเจิ้งไม่มีทางที่จะไม่ได้รับผลกระทบ,หากรอคอยเวลาให้อสุรกายปิศาจตนดังกล่าวออกมา,คงไม่สามารถบอกได้ถึงชะตากรรมต้าเจิ้งได้อย่างแน่นอน,ทางที่ดีการช่วยเขาออกมา,อย่างน้อยก็ยังกลายเป็นเบี้ยเล็กๆ,อาจจะเป็นการสร้างบุญคุณกับเขาเล็กน้อยก็ได้.
"เฉินจะทำลายผนึกในทันที!"หนี่ปู่ซากล่าวรายงาน.
"ไม่ต้องรีบร้อน,กุหลาบอเวจีนั่นเก็บมาได้หรือไม่?"จงซานที่กล่าวออกไปด้วยความสงสัย.
"เก็บ,ดูเหมือนว่าจะไม่ง่ายนัก!"หนี่ปู่ซากล่าว.
"หืม?"
"สิ่งนี้เกิดจากจิตสังหารที่มารวมตัวกัน,หากว่าเก็บมา,ไม่มีทางที่จะคงรูปอยู่ได้เว้นแต่มี......"หนี่ปู่ซาที่ขมวดคิ้วไปมา.
"หึ?"
"การหล่อเลี้ยงจากน้ำทิพย์พิรุณปู่ลู่!"หนี่ปู่ซ่าที่เอ่ยตอบ.
"น้ำทิพย์พิรุณปู่ลู่?"จงซานที่เผยท่าทางประหลาดใจ.
"ใช่แล้ว,น้ำทิพย์พิรุณปู่ลู่,ช่างหน้าเศร้าภายในอาณาเขตของพวกเรานั้นไม่มีน้ำทิพย์พิรุณปู่ลู่,ภายในภพหยางเองก็มีเพียงแค่บางแห่งเท่านั้น!"หนี่ปู่ซ่าส่ายหน้าไปมา,แสดงท่าทางช่วยไม่ได้.
"หากกล่าวถึงน้ำทิพย์พิรุณปู่ลู่ล่ะก็,ข้ามี!"จงซานเอ่ยออกมาในทันที.
"หืม?"หนี่ปู่ซาที่เผยท่าทางแปลกประหลาดจดจ้องมองไปยังจงซาน,เป็นจริงหรือเท็จ?
เซิ่งหวังมีน้ำทิพย์พิรุณปู่ลู่อย่างงั้นรึ?
เป็นไปไม่ได้สิ่งนี้ไม่มีในโลกใบเล็ก.
จงซานมีน้ำทิพย์พิรุณปู่ลู่,เป็นเพราะในอดีต,ไท่ซ่างเหล่าจินมองขวดหยกพิสุทธิ์ให้กับเขานั่นเอง,ด้านในนั้นมีวารี
36
ชนิด,ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือ,น้ำทิพย์พิรุณปู่ลู่,ซึ่งจงซานภพหยินสามารถส่งมันมาจากภพหยางได้,และวิธีในการส่งมานั้นเป็นความลับที่มีเพียงจงซานคนเดียวเท่านั้นที่รู้.
ที่มาจากhttps://lnmtl.com/novel/immortality
#นิยาย เรื่องอมตะ #Immortality#นิยายแปลไทย
Author(s)
สนใจสนับสนุนพวกเรา,เข้าร่วมกลุ่ม VIP ====> Click
ปัจจุบันแปลจบแล้ว 1672 ตอน สนใจติดต่อเข้ากลุ่มลับได้ครับ
***เว็ปฟรีอัพ สองวันหนึ่งตอน
***กลุ่มลับ แปลจบแล้ว.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น