Immortality Chapter 899 Three fight the field
นิยาย เรื่อง อมตะ ตอนที่ 899 การต่อสู้สามสนามรบ
Chapter 899 Three fight
the field
三处斗场
การต่อสู้สามสนามรบ
ห้าปี,ตามกำหนดนัดหมาย,มาถึงอย่างรวดเร็ว,ศาลเทวะต้าเจิ้งและวิหารซือกง,พร้อมจะประลองเป็นตายกัน.
ในวันนี้,รองประมุขนิกายซือกง,เฉินจื่อเห่าที่อยู่ดูแลวิหาร,ส่วนโหลวซิงเฉินได้นำภรรยาสุดที่รักพร้อมกับเหล่าผู้ฝึกตนหลายร้อยบินตรงไปยังเขตแดนตำหนักสังสารวัฏ.
"สามี,หลายปีมานี้,ท่านมีอะไรแปลกไปหรือไม่?"ท่านหญิงประมุขที่กล่าวออกมาด้วยความสงสัย.
"ไม่!"โหลวซิงเฉินที่ส่ายหน้าไปมา,ทว่ารอยคล้ำบนหน้าผากของเขานั้นไม่ได้ปรากฏออกมาให้คนอื่นได้เห็น.
"ไม่มีอย่างงั้นรึ? หากมีเรื่องอันใด! ท่านควรกล่าวมันออกมา!"ท่านหญิงประมุขที่กอดแขนของโหลวซิงเฉินขณะบินอยู่.
โหลวชิงเฉินที่ส่ายหน้าไปมาจดจ้องภรรยาที่รัก,ขมวดคิ้วแน่น,แววตาที่อาทร,แต่หัวใจเจ็บปวดร้าว,แต่ก็ยังมีเยื้อใยที่ไม่สามารถตัดขาดได้.
"ยังไม่มีอะไรจะพูด,รอให้ข้าล้างแค้นเสร็จก่อนก็แล้วกัน!"โหลวซิงเฉินที่ถอนหายใจเล็กน้อย.
หญิงสาวที่พบว่าโหลวซิงเฉินแสดงท่าทางผิดปรกติก็รู้สึกขลาดเขาขึ้นมาเช่นกัน,"ท่านรู้แล้วอย่างงั้นรึ?
หลายปีก่อนเป็นข้าที่ส่งเทียนเหอไปสังหารตี้เซียนเซียน,ทว่าข้าก็ไม่คิดว่าผลจะเป็นเช่นนี้,ข้ากลัวว่าท่านจะตำหนิเลยไม่ได้กล่าว!"
โหลวซิงเฉินที่ส่ายหน้าไปมา,ไม่ได้กล่าวสิ่งใดออกไป,เห็นชัดเจนว่าโหลวซิงเฉินนั้นรู้สึกหงุดหงิดฉุนเฉียวอยู่ด้วย,นี่ไม่ใช่เพราะว่าโหลวเทียนเหอได้ตายไป,ทว่ามันเป็นบางอย่างที่เกิดความขัดแย้งขึ้นในใจ.
ห้าปีที่แล้วเมื่อเขาเกิดความสงสัย,โหลวซิงเฉินได้ใช้เวลาค้นหาข้อมูลอย่างจริงจัง,แม้ว่าภายในห้าปีนี้,เฉินจื่อเห่าและภรรยารักของเขาจะไม่แสดงความผิดปรกติออกมา,ทว่ามันกับทำให้โหลวซิงเฉิงได้พบกับเรื่องบางอย่างที่เขาไม่ต้องการเห็นเป็นอย่างมาก.
โหลวซิงเฉินที่คิดว่าตัวเองฝันไป,ไม่ยินดีที่จะรับรู้ตอนนี้มันเจ็บปวดเกินจะทนได้,ทว่าความรู้สึกที่มีต่อภรรยาสุดที่รักก็มากมายจนไม่สามารถละทิ้งได้.
ในเวลานี้,เขารู้สึกราวกับว่า โลกทั้งใบได้กลับข้างไปแล้ว.
โหลวซิงเฉินที่รู้สึกพ่ายแพ้,ก่อนหน้านี้เขาที่คิดว่าได้เดินบนเส้นทางที่ยอดเยี่ยมแล้ว,ไม่คิดเลยว่ามันจะเบี่ยงเบนออกนอกเส้นทางเช่นนี้,เขาควรที่จะก้าวออกจากเส้นทางแห่งความเศร้านี้หรือไม่?
โหลวซิงเฉินและคนของนิกายซือกง,ได้ออกจากนิกายไปแล้ว,บนเทือกเขาในป่าทึบแห่งหนึ่ง.
ที่ยอดเขานั้น,ในเวลานี้มีคนสามคน,เซียนเซียน,หวังคูและอาวุโสจิวโถว.
"วิหารซือกง?
แผนการล่อเสือออกจากถ้ำสินะ,แต่,ข้าถูกใจจริงๆ!"เซียนเซียนที่กล่าวออกมาด้วยความตื่นเต้น.
เพราะว่าก่อนหน้านี้เคยใช้แผนการนี้เช่นกัน,เมื่อครั้งจัดการกับโลกอมตะที่โลกใบเล็ก,แผนการในครั้งนั้น,นางไม่ได้เข้าร่วมด้วยนั่นเอง.
"วิหารซือกง,ทว่าก็ยังเหลือต้าเซียนอีกหลายคน,พวกเราจำเป็นต้องระมัดระวัง!"หวังคูกล่าว.
"ต้องกลัวอะไร,ที่ด้านล่างนั้น,มีนักรบหมาป่าระดับสูง,และยังมีกองกำลังจากวิหารต้าหมิงอีก,รวมเจ้ากับข้า,ต้องกลัวด้วยรึ?
อาวุโสจิวโถว,เจ้าคิดว่าอย่างไร?"เซียนเซียนสอบถาม.
อาวุโสจิวโถวที่มีสุราอยู่ข้างกายตลอด,จดจ้องมองไปยังพื้นที่ไกลออกไป,พร้อมกับพยักหน้า,"ข้าไม่สามารถสัมผัสได้ถึงอันตรายเลย,โปรดวางใจ,ตราบเท่าที่ได้รับคำสั่งจากเซิ่งหวังมาถึง,พวกเราจะต้องสามารถยึดครองวิหารซือกงได้อย่างแน่นอน!"
"แม่ทัพหวังคู,ท่านโปรดวางใจ! จงซานยังวางใจ,มีสิ่งใดที่ท่านต้องกังวลอีก?"เซียนเซียนกล่าวล้อ.
หวังคูถึงกับพูดไม่ออก,ไม่ได้กล่าวออกมาว่าที่เซิ่งหวังเป็นห่วงก็เป็นเพราะนำเจ้ามาด้วยต่างหาก.
-------------------------------------------------------------------------------
ศาลเทวะต้าเจิ้งภาคเหนือ,สถานที่ที่เรียกว่าตำหนักสังสารวัฏ.
ตำหนักสังสารวัฏนั้นมีชื่อเสียงมาก,เป็นสิ่งก่อสร้างยุคโบราณที่ตกทอดมา,ซึ่งมีอยู่ด้วยกันทั้งหมดสิบตำหนัก,ซึ่งถูกเรียกว่าซือตาน,และเวลานี้ยังไม่มีใครครอบครองได้.
หนึ่งในสิบตำหนักเวลานี้อยู่ในอาณาเขตจวงหลุน,พื้นที่รอบๆนี้มีปราณทมิฬมากมาย,หมุนวนปะทุม้วนกวาดกระจายไปทั่ว,กลิ่นอายที่รุนแรงหนักหน่วงปกคลุมรอบๆตำหนักขนาดใหญ่อย่างหนาแน่น.
ปราณทมิฬที่เต็มไปด้วยจิตสังหารที่น่าเกรงขาม,จนไม่สามารถหายใจได้สะดวก,ยิ่งเข้าไปใกล้ตำหนักเท่าไหร่,ยิ่งสัมผัสได้ถึงแรงกดดันที่ยิ่งใหญ่,จนยากที่คนทั่วไปจะทนได้.
ปราณทมิฬนี้,มีอำนาจของนิมิตร้ายแฝงอยู่อีกด้วย.
กลุ่มคนที่มีพลังฝึกตนต่ำไม่กล้าสัมผัสแน่นอน,แม้แต่คนที่มีพลังฝึกตนสูง,ยังต้องระมัดระวัง,มีเพียงแค่ยอดฝีมือระดับสูงเท่านั้นถึงจะเข้าออกได้โดยปรกติ,ซึ่งต้องอยู่ในระดับเดียวกับปราชญ์เทพ,ในภพหยางนั้นที่เกาะกุย,ศิลาเทวะห้าสีที่ใช้ผนึกอสุรกายปิศาจกุยเช่อ,ดูเหมือนว่ารอบๆตำหนักสังสารวัฏแห่งนี้จะมีปราณทมิฬที่ดูคล้ายกันเป็นอย่างมาก.
เหล่ายอดฝีมือมากมายที่เดินทางมากันอย่างคับคั่ง,ทว่าพวกเขาทุกคนต่างก็หลบเลี่ยงที่จะเข้าใกล้ตำหนักสังสารวัฏ,ราวกับว่าหวั่นเกรงคำสาปที่จะได้รับหากว่าสัมผัสกับปราณทมิฬ.
ตำหนักสังสารวัฏนั้นเต็มไปด้วยความลับ,ปราณทมิฬที่ปกคลุมพื้นที่ดังกล่าวนั้น,ไม่ว่าจะเป็นใครต่างก็หลีกเลี่ยงกันทุกคน.
และในวันนี้,พื้นที่ใกล้ๆตำหนักสังสารวัฏนั้นมีคนมากมายที่มาชุมนุมกัน.
ทุกคนในอาณาเขตจวงหลุน,เหล่ากลุ่มอิทธิพลใหญ่ต่างก็เดินทางมาสังเกตการณ์.
จงซานที่ท้าทายยอดฝีมืออันดับหนึ่งของอาณาเขตจวงหลุน?
นี่คือการต่อสู้ของยอดฝีมือ,พวกเขาจะพลาดกันได้อย่างไร?
การต่อสู้ของยอดฝีมือครั้งนี้,ไม่ได้เกิดขึ้นมานานแล้วในอาณาเขตแห่งนี้.
สถานที่แห่งนี้ไม่ใช่เมืองซ่าง,และไม่ใช่วิหารซือกง,จึงไม่มีใครสามารถยืมพลังจากวาสนาหรือกรรมวาสนาได้,นี่คือการต่อสู้ด้วยทักษะของตัวเอง.
จงซานเดินทางมาถึงนานแล้ว.
บนบัลลังก์เก้ามังกรที่ลอยอยู่บนอากาศ,จงซานพร้อมกับเหล่าเสนาธิการของต้าเจิ้ง,และยังมีกองทัพขนาดใหญ่ของต้าเจิ้งด้วย.
จงซานหลับตาลง,รอคอยการมาถึงของโหลวซิงเฉิน.
ที่ไกลออกไปนั้น,บนยอดเขาสูงแห่งหนึ่ง,มีคนห้าคน,ซึ่งผู้นำมาก็คือไท่จื่อสามจากตำหนักเทียนซี่ของศาลเทวะอู๋เซี่ยง.
"ไท่จื่อสาม,นั่นจงซาน,เขาแข็งแกร่งจริงๆรึ?"หนึ่งในนั้นที่กล่าวสอบถามออกมา.
"เซียนสวรรค์,ขั้นที่แปด!"ไท่จื่อสามที่ขมวดคิ้วไปมา.
"?"เหล่าคนที่อยู่ด้านหลังถึงกับสะดุ้งตกใจ,จ้องมองไปยังไท่จื่อสามเป็นสายตาเดียวกัน.
ทุกคนต่างก็ไม่อยากเชื่อ,ไท่จื่อสามที่หัวใจเต้นไปมา,นี่จงซานมีแผนร้ายอะไรกัน?
เซียนสวรรค์อย่างงั้นรึ? เขามีระดับเพียงแค่เซียนสวรรค์? เซียนสวรรค์ขั้นที่แปด? นี่กลับคิดที่จะประลองกับโหลวซิงเฉินอย่างงั้นรึ?
ต่างกันถึงสองอาณาจักร,ไม่ใช่สองธรรมดาทั่วไป,ยังแตกต่างราวกับว่ากับเหว,นี่จงซานไปเอาความมั่นใจมาจากใหนกัน?
"ไท่จื่อสาม?
นี่เขา,เขามีระดับแปดเซียนสวรรค์เองรึ? จะเป็นไปได้อย่างไร?"
"นี่เจ้าคิดว่าข้าหลอกเจ้าอย่างงั้นรึ?"ไท่จื่อสามที่ขมวดคิ้วไปมา.
"ไม่,ผู้น้อยมิกล้า!"ชายคนดังกล่าวเร่งรีบแก้ตัวเป็นพัลวัล.
ไม่ใช่แค่ผู้ใต้บังคับบัญชาของเขา,ไท่จื่อสามเองก็เต็มไปด้วยความงงงวย,เซิ่งหวังที่มีระดับเซียนสวรรค์?
นี่ไม่ใช่ว่าเป็นเซิ่งหวังที่อ่อนแอที่สุดในประวัติศาตร์หรอกรึ?
เซิ่งหวังที่อ่อนแอที่สุดท้าประลองโหลวซิงเฉิน?
ไม่เข้าใจ,ไม่เข้าใจแม้แต่น้อย!
กับความไม่เข้าใจนี้,ทำให้ไท่จื่อสามเต็มไปด้วยความจริงจังมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม.
"ฟิ้ว~~~ ~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~!”
เกิดพายุที่รุนแรง,โบกพัดบนอากาศ,ก่อนที่จะปรากฏคนหลายร้อยคนขึ้น.
โหลวซิงเฉินในชุดสีน้ำเงิน,ภรรยาสุดที่รักของเขาและเหล่าศิษย์ของนิกายซือกง.
ในเวลาเดียวกันนี้ทุกคนที่อยู่รอบๆต่างก็จดจ้องมองมายังพื้นที่ดังกล่าว.
โหลวซิงเฉิงที่อยู่ไกลออกไป,จับจ้องมองไปยังจงซานด้วยสายตาเย็นชา.
จงซานที่รออยู่นานแล้วลืมตาขึ้น,แววตาที่มีประกายสายฟ้าออกมาเช่นกัน,จดจ้องมองไปยังโหลวซิงเฉิน.
จงซานที่ลุกขึ้นจากเก้าอี้,ก่อนที่จะโบกมือ,อี้เหยี่ยนที่โค้งรับ,ราวกับว่ารับคำสั่งอะไรบางอย่างจากจงซาน.
........
อีกส่วนที่หนึ่งในหุบเขาที่อยู่ห่างออกมาจากวิหารซือกงไม่ไกล.
"จงซานออกคำสั่งแล้ว,ทุกคนเตรียมพร้อม,บุกเข้าไปยังวิหารซือกงพร้อมกับข้า!"เซียนเซียนที่กล่าวออกมาด้วยความตื่นเต้น.
------------------------------------------
จงซานและโหลวซิงเฉินที่สบตากันด้วยแววตาเย็นชา.
ในเวลานี้,โหลวซิงเฉินเองก็ไม่เข้าใจ,จงซานกล้าที่จะท้าทายตัวเขาได้อย่างไร.
"ห้าปี,ประมุขโหลวซิงเฉิน,อาจจะเห็นแล้ว!"จงซานที่กล่าวออกมาอย่างนุ่มนวล.
ดวงตาของโหลวซิงเฉินที่หดเกร็ง,จดจ้องมองไปยังจงซานด้วยสายตาดุร้าย.
"?
สามี,เห็นอะไรอย่างงั้นรึ?"เฉินเสี่ยวเชี่ยนที่กล่าวออกมาด้วยความสงสัย.
"เจ้าไปเอาข่าวเรื่องนี้มาจากที่ใหน?"โหลวซิงเฉินที่ขมวดคิ้วแน่น.
แม้นว่าเขายังไม่ยินดีที่จะยอมรับทว่าก็ทำให้เขาไม่สบายใจเช่นกัน,ทำไมมันถึงเป็นเช่นนี้?
"สามี,ท่านเป็นอย่างไร?"
เฉินเสี่ยวเชี่ยนที่จ้องมองไปยังจงซาน,นางราวกับรับรู้ว่าทั้งคู่กำลังพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องที่เกี่ยวกับตัวเอง.
"ข้าไปเอามาจากใหนอย่างงั้นรึ?
เจ้าไม่เห็นด้วยตัวเองหรอกรึ? ไม่ใช่ว่าคนของนิกายซือกงรับรู้กันทุกคนหรอกรึ?
ไม่ใช่สิทุกคนในอาณาเขตจวงหลุนต่างก็รู้ดี,มีเพียงเจ้าคนเดียวที่ไม่รู้."จงซานทีกล่าวออกมาด้วยเสียงเย็นชา.
"สามี,ท่านพูดอะไรบ้าง?"เฉินเสี่ยวเชี่ยงที่เต็มไปด้วยความกังวลพร้อมกับกุมแขนของโหลวซิงเฉินแน่น.
โหลวซิงเฉินที่ส่ายหน้าไปมาให้กับเฉินเสี่ยวเฉียน,ไม่ได้ตอบสิ่งใดออกไป,ทว่าสายตาของเขานั้นจดจ้องมองจงซานด้วยแววตาเคร่งขรึมแทบไม่กระพริบ.
ทุกๆคนรู้อย่างงั้นรึ?
มีเพียงข้าไม่รู้อย่างงั้นรึ?
"ฮ่า,ฮ่าฮ่า,ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า..............................!”โหลวซิงเฉิงที่เต็มไปด้วยความข่มขืนอย่างที่สุด,ขณะที่หัวเราะอย่างมาอย่างเคร่งเครียด.
"สามี!"ใบหน้าของเฉินเสี่ยวเชี่ยนที่ซีดขาวสั่นกระตุกไปมา.
"จงซาน,ไม่ว่าอย่างไร,โหลวเทียนเหอก็ต้องตายไปเพราะเจ้า,สังหารศิษย์ของข้า,จะต้องชดใช้ด้วยชีวิต,เจ้าที่ประกาศท้าทายต่อคนทั่วหล้ากับการประลองเป็นตาย,สำหรับความตายของเจ้าเรื่องนี้ยังไม่สาสมกับความผิดของเจ้าที่ได้กระทำ!"โหลวซิงเฉินที่กล่าวออกมาด้วยความเกลียดชัง,และยังเผยท่าทางโกรธเกรี้ยวจงซานอย่างที่สุด.
"การต่อสู้เป็นตาย,แน่นอนว่ามันคือการต่อสู้ตัดสินเป็นตาย,หากไม่ต้าเจิ้งม้วยก็เป็นนิกายซือกงพังทลาย,ข้ารู้ว่าหัวใจของเจ้าเต็มไปด้วยความทุกข์,หัวใจที่กำลังแตกร้าว! ห้าปีกับความโกรธเกรี้ยวของเจ้า,ให้ข้าได้เห็น,ตัวเจ้าจะมีคุณค่าแค่ใหน!"จงซานที่กล่าวออกไปเสียงดัง.
ที่ไกลออกไปนั้น,ทิศทางตำแหน่งของไท่จื่อสาม.
"เอ๊ะ?"เสียงของไท่จื่อสามดูอึมครึม.
คำพูดของจงซานนั่น? ไท่จื่อสามราวกับว่าเคยได้ยินมาก่อน,เป็นเซิ่งหวังอู๋เซี่ยงขณะที่ต้องการกำราบข้าราชบริพาร,เคยใช้คำพูดเช่นนี้,นี่จงซานกำลังจะกำราบโหลวซิงเฉินอย่างงั้นรึ?
เป็นเช่นนั้นจริงรึ?
เป็นอะไรที่แปลกประหลาดเป็นอย่างมาก,พิสูจน์คุณค่าของเจ้า,คำพูดนี้,หากว่ากลับเป็นโหลวซิงเฉินพูดกับจงซานมันยังน่าจะสมเหตุสมผลกว่านี้.
ไท่จื่อสามรู้สึกแปลกประหลาดเป็นอย่างมาก,ราวกับว่าทุกอย่างมันพลิกกลับตาลปัตรไปหมด
จงซานที่สะบัดแขนเสื้อ,คนของต้าเจิ้งที่เริ่มถอยออกไปในทันที.
นี่คือเวทีของเซิ่งหวังและประมุขนิกาย.
ความรู้สึกของโหลวซิงเฉินเองก็ปะทุขึ้นมาเช่นกัน,เขาไม่ได้แย้งคำพูดของจงซานแม้แต่คำเดียว,เมื่อเห็นจงซานสังการคนของเขาออกไป,เขาก็สั่งคนของเขาให้ถอยห่างออกไปเช่นกัน.
"สามี,ข้าเชื่อท่าน,กำจัดมันซะ!"เฉินเสี่ยวเชี่ยนที่กล่าวให้กำลังใจ.
เห็นท่าทางของเมียรัก,หัวใจของเขาที่เจ็บช้ำแทบพุ่งออกมาจากอก,กับท่าทางห่วงใยนี้,เป็นจริงหรือเท็จ?
แสร้งทำอยู่อย่างงั้นรึ? แต่ทำไมเขากับคาดหวังไปด้วย.
คนของวิหารซือกงในเวลานี้ได้ถอยห่างออกมายังพื้นที่ไกลออกไป.
บนลานที่อยู่ตรงกลาง,มีเพียงแค่จงซานและโหลวซิงเฉินสองคน,พวกเขาอยู่ทางฝั่งทิศตะวันออกของตำหนักสังสารวัฏ,เหล่าผู้ฝึกตนมากมายต่างก็มาชมการประลองในครั้งนี้.
การประลองกำลังจะเริ่มแล้ว!
ส่วนอีกฟากหนึ่งในเวลานี้การบุกนิกายซือกงก็เริ่มขึ้นด้วยเช่นกัน.
เซียนเซียนที่รุกเข้าไปในวิหารซือกง,ด้วยการใช้แผนล่อเสื้ออกจากถ้ำ,ในขณะที่จงซานกำลังทำการประลองอยู่นั้น.
เมืองหลวง,เมืองซ่างเวลานี้,บนยอดเขาสูงที่อยู่รอบเมือง.
แปดราชวงศ์สวรรค์ที่ทำสงครามกับต้าเจิ้งนั้น,ได้ใช้โอกาสนี้ส่งยอดฝีมือมา.
"เริ่มแล้วรึ??"คนผู้หนึ่งที่สอบถามออกไป.
"แปดราชวงศ์สวรรค์ดูเหมือนว่าจะเกลียดชังต้าเจิ้งเป็นอย่างมาก,ถึงกับต้องร่วมมือกันเลย?,สงครามที่ตำหนักสังสารวัฏน่าจะเริ่มแล้ว,พวกเราเองก็ควรจะเริ่มเช่นกัน!"
"ไม่ต้องใจร้อน,รอให้ถึงตอนบ่าย,ให้ผู้คุ้มกันเปลี่ยนกะซะก่อน!"
อีกฝั่งหนึ่งภายในเมืองซ่าง,ที่ด้านตำหนักปู่ซือ.
หนานกงเซิ่งที่ให้สัญญาณกับเสี่ยวหวังที่รอคอยอยู่.
"มาแล้วอย่างงั้นรึ?"เสี่ยวหวังสอบถามออกไป.
"มาแล้ว,แปดต้าเซียน,สามร้อยเซียนสวรรค์,แปดร้อยเซียนปฐพี,เมื่อพวกเขามาแล้วก็อย่าให้ได้กลับไป,หากว่าสำเร็จขวัญกำลังใจของราชวงศ์สวรรค์ทั้งแปดคงจะลดลงเป็นอย่างมาก,นอกจากนี้หากว่าเซิ่งหวังล้มโหลวซิงเฉินได้อีกล่ะก็,แปดราชวงศ์สวรรค์ก็จะไร้ซึ่งพลังต้านทานพวกเราแล้ว!"หนานกงเซิ่งที่กล่าวอย่างเคร่งขรึม.
"เจ้ามั่นใจในค่ายกลมากเท่าไหร่?"เสี่ยวหวังที่สอบถามออกไป.
"ค่ายกลนี้ถูกเรียกว่า,กลหมากลวงสวรรค์."หนานกงเซิ่งที่กล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม.
"หืม?กลหมากลวงสวรรค์? ไม่ใช่ว่ามัน......!"เสี่ยวหวังที่ขมวดคิ้วไปมา.
"ถูกแล้ว,มันมาจากภพหยาง,แม้นว่าขั้นแรกข้าจะสามารถแก้กลหมากได้,ทว่าการจะเข้าใจมันนั้นไม่ง่ายเลย,หลายปีมานี้ข้าศึกษาไม่หยุด,ทำการวิจัย,ครุ่นคิดอย่างระเอียด,แม้แต่สามารถนำมาใช้งานได้,นี่เป็นค่ายกลที่ร้ายกาจ,เป็นโอกาสดีที่จะใช้กับคนของแปดราชวงศ์สวรรค์,ไม่มีทางหนีไปได้! แม้แต่คนเดียว!"แววตาของหนานกงเซิ่งที่กล่าวออกมาด้วยความมั่นใจ.
"อืม!"
ระหว่างที่หนานกงเซิ่งกล่าวนี้,รอบๆเมืองซ่างก็ปรากฏหมอกขึ้นมาในทันที,อีกทั้งบนท้องฟ้าและแม้แต่อากาศยังปรากฏสายฟ้าลั่นแป๊บๆๆ,เหมือนเมื่อครั้งที่จงซานได้ทะลวงหมากของซูต้าจี้เพื่อเข้าไปในแดนลับ,แต่ละหมากที่เดินนั้นเต็มไปด้วยภัยพิบัติไร้ที่สิ้นสุด.
ที่ไกลออกไปนั้น,เหล่ายอดฝีมือที่แปดราชวงศ์สวรรค์ส่งมา,ทันใดนั้นก็ขมวดคิ้วไปมา.
"ไม่ได้การ,ไม่ได้การแล้ว,ทำไมท้องฟ้าถึงได้แปรปรวนเช่นนี้?"
"แย่แล้ว,บนเทือกเขาเวลานี้มืดไปหมดเลย!"
"ดูนั่น,ภูเขาอื่นๆกลายเป็นสีชาวโพลนไปแล้ว,เกิดอะไรขึ้นกัน!"
"ไม่ได้การแล้ว,พวกเราตกอยู่ในกับดักแล้ว,นี่มันค่ายกล!"คนผู้หนึ่งที่เข้าใจเรื่องค่ายกลกล่าวออกมาในทันที.
"ค่ายกล? หลิวถงเสวย,เจ้ามีความรู้เรื่องค่ายกลมากที่สุด,จะทำทะลวงออกไปอย่างไร?"
ทุกคนที่จ้องมองไปยังชายคนหนึ่ง.
แววตาของชายคนดังกล่าวที่สั่นไหวไปมา,ที่หน้าผากหลั่งเหงื่อที่เย็นยะเยือบออกมา.
"หายนะ,นี่มันค่ายกลโบราณ,พวกเขาจะมีค่ายกลเช่นนี้ได้อย่าง?
คนของโลกใบเล็กมีค่ายกลเช่นนี้ได้อย่างไร? น่ากลัวเกินไปแล้ว,น่ากลัวเกินไปแล้ว!"แววตาของชายคนดังกล่าวเผยท่าทางตื่นตระหนกตกใจเป็นอย่างมาก.
"หลิวถงเสวย,หมายความว่าอย่างไร? เจ้าพูดมา!"
"หนีก็ไม่ได้,บุกก็ไม่ได้,พวกเราทำอะไรไม่ได้แล้ว,ขยับไม่ได้อีกแล้ว!"หลิวถงเสวยที่เต็มไปด้วยความหวาดกลัว.
"หนีไม่ได้อย่างงั้นรึ? เช่นนั้นพวกเราจะบุกทะลวงเมืองซ่างทันที,เพียงแค่ทะลวงค่ายกล,พวกเรามียอดฝีมือมากมาย,มีเหรอที่จะไม่สามารถจัดการเมืองเล็กๆได้!"อีกคนที่กล่าวออกมาเสียงดัง.
"ไม่สามารถบุกได้,หนีก็ไม่ได้,อย่าขยับดีกว่า!"หลิวถงเสวยที่ใบหน้าเปลี่ยนเป็นร้อนรนหวาดกลัว.
"ขี้ขลาดตาขาว,ชิ!"ชายอีกคนที่แค่นเสียงเย็นชาพร้อมกับบินออกไป.
"ทุกคนตามข้ามา,ถล่มเมืองซ่าง!"ชายคนดังกล่าวที่ตะโกนออกไปเสียงดัง,ก่อนที่จะพุ่งตรงไปยังทิศทางของเมืองซ่าง.
ทว่าในเวลาเดียวกันนั้น,จากท้องฟ้าบนดวงดาว,สายฟ้าสีทองที่ทรงพลังแข็งแกร่งรวมตัวกันขึ้น,ถูกยิงตรงลงมาจากบนท้องฟ้า.
เร็วมาก,เร็วเกินไปแล้ว,ทะลวงผ่านหมู่มวลเมฆา.
"แม่ทัพหม่า,ระวัง!"หลายๆคนที่ร้องตะโกนเสียงดัง.
แม่ทัพหน้าที่เงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้า,พร้อมกับปรากฏสายฟ้าสีทองที่น่าหวาดกลัวฟาดลงมาด้วยความเร็วสูง.
"โล่สวรรค์!"
"ตูมมม ~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~!”
แม่ทัพหม่าที่กางโล่ขนาดใหญ่ออกมา,ทว่ากับถูกฟาดด้วยสายฟ้าที่ทรงพลังระเบิดเสียงดังสนั่น,แม่ทัพหม่าที่ล่วงหล่นลงจากบนท้องฟ้า,ต่อหน้าทุกคน,ไม่มีใครรับรู้ว่าเป็นหรือตายไปแล้ว.
"นี่มันค่ายกลอะไรกัน?"หลายๆคนที่เวลานี้ถึงกับสะดุ้งตื่นตกใจเป็นอย่างมาก.
Chapter 899 Three fight
the field
三处斗场
การต่อสู้สามสนามรบ
ห้าปี,ตามกำหนดนัดหมาย,มาถึงอย่างรวดเร็ว,ศาลเทวะต้าเจิ้งและวิหารซือกง,พร้อมจะประลองเป็นตายกัน.
ในวันนี้,รองประมุขนิกายซือกง,เฉินจื่อเห่าที่อยู่ดูแลวิหาร,ส่วนโหลวซิงเฉินได้นำภรรยาสุดที่รักพร้อมกับเหล่าผู้ฝึกตนหลายร้อยบินตรงไปยังเขตแดนตำหนักสังสารวัฏ.
"สามี,หลายปีมานี้,ท่านมีอะไรแปลกไปหรือไม่?"ท่านหญิงประมุขที่กล่าวออกมาด้วยความสงสัย.
"ไม่!"โหลวซิงเฉินที่ส่ายหน้าไปมา,ทว่ารอยคล้ำบนหน้าผากของเขานั้นไม่ได้ปรากฏออกมาให้คนอื่นได้เห็น.
"ไม่มีอย่างงั้นรึ? หากมีเรื่องอันใด! ท่านควรกล่าวมันออกมา!"ท่านหญิงประมุขที่กอดแขนของโหลวซิงเฉินขณะบินอยู่.
โหลวชิงเฉินที่ส่ายหน้าไปมาจดจ้องภรรยาที่รัก,ขมวดคิ้วแน่น,แววตาที่อาทร,แต่หัวใจเจ็บปวดร้าว,แต่ก็ยังมีเยื้อใยที่ไม่สามารถตัดขาดได้.
"ยังไม่มีอะไรจะพูด,รอให้ข้าล้างแค้นเสร็จก่อนก็แล้วกัน!"โหลวซิงเฉินที่ถอนหายใจเล็กน้อย.
หญิงสาวที่พบว่าโหลวซิงเฉินแสดงท่าทางผิดปรกติก็รู้สึกขลาดเขาขึ้นมาเช่นกัน,"ท่านรู้แล้วอย่างงั้นรึ?
หลายปีก่อนเป็นข้าที่ส่งเทียนเหอไปสังหารตี้เซียนเซียน,ทว่าข้าก็ไม่คิดว่าผลจะเป็นเช่นนี้,ข้ากลัวว่าท่านจะตำหนิเลยไม่ได้กล่าว!"
โหลวซิงเฉินที่ส่ายหน้าไปมา,ไม่ได้กล่าวสิ่งใดออกไป,เห็นชัดเจนว่าโหลวซิงเฉินนั้นรู้สึกหงุดหงิดฉุนเฉียวอยู่ด้วย,นี่ไม่ใช่เพราะว่าโหลวเทียนเหอได้ตายไป,ทว่ามันเป็นบางอย่างที่เกิดความขัดแย้งขึ้นในใจ.
ห้าปีที่แล้วเมื่อเขาเกิดความสงสัย,โหลวซิงเฉินได้ใช้เวลาค้นหาข้อมูลอย่างจริงจัง,แม้ว่าภายในห้าปีนี้,เฉินจื่อเห่าและภรรยารักของเขาจะไม่แสดงความผิดปรกติออกมา,ทว่ามันกับทำให้โหลวซิงเฉิงได้พบกับเรื่องบางอย่างที่เขาไม่ต้องการเห็นเป็นอย่างมาก.
โหลวซิงเฉินที่คิดว่าตัวเองฝันไป,ไม่ยินดีที่จะรับรู้ตอนนี้มันเจ็บปวดเกินจะทนได้,ทว่าความรู้สึกที่มีต่อภรรยาสุดที่รักก็มากมายจนไม่สามารถละทิ้งได้.
ในเวลานี้,เขารู้สึกราวกับว่า โลกทั้งใบได้กลับข้างไปแล้ว.
โหลวซิงเฉินที่รู้สึกพ่ายแพ้,ก่อนหน้านี้เขาที่คิดว่าได้เดินบนเส้นทางที่ยอดเยี่ยมแล้ว,ไม่คิดเลยว่ามันจะเบี่ยงเบนออกนอกเส้นทางเช่นนี้,เขาควรที่จะก้าวออกจากเส้นทางแห่งความเศร้านี้หรือไม่?
โหลวซิงเฉินและคนของนิกายซือกง,ได้ออกจากนิกายไปแล้ว,บนเทือกเขาในป่าทึบแห่งหนึ่ง.
ที่ยอดเขานั้น,ในเวลานี้มีคนสามคน,เซียนเซียน,หวังคูและอาวุโสจิวโถว.
"วิหารซือกง?
แผนการล่อเสือออกจากถ้ำสินะ,แต่,ข้าถูกใจจริงๆ!"เซียนเซียนที่กล่าวออกมาด้วยความตื่นเต้น.
เพราะว่าก่อนหน้านี้เคยใช้แผนการนี้เช่นกัน,เมื่อครั้งจัดการกับโลกอมตะที่โลกใบเล็ก,แผนการในครั้งนั้น,นางไม่ได้เข้าร่วมด้วยนั่นเอง.
"วิหารซือกง,ทว่าก็ยังเหลือต้าเซียนอีกหลายคน,พวกเราจำเป็นต้องระมัดระวัง!"หวังคูกล่าว.
"ต้องกลัวอะไร,ที่ด้านล่างนั้น,มีนักรบหมาป่าระดับสูง,และยังมีกองกำลังจากวิหารต้าหมิงอีก,รวมเจ้ากับข้า,ต้องกลัวด้วยรึ?
อาวุโสจิวโถว,เจ้าคิดว่าอย่างไร?"เซียนเซียนสอบถาม.
อาวุโสจิวโถวที่มีสุราอยู่ข้างกายตลอด,จดจ้องมองไปยังพื้นที่ไกลออกไป,พร้อมกับพยักหน้า,"ข้าไม่สามารถสัมผัสได้ถึงอันตรายเลย,โปรดวางใจ,ตราบเท่าที่ได้รับคำสั่งจากเซิ่งหวังมาถึง,พวกเราจะต้องสามารถยึดครองวิหารซือกงได้อย่างแน่นอน!"
"แม่ทัพหวังคู,ท่านโปรดวางใจ! จงซานยังวางใจ,มีสิ่งใดที่ท่านต้องกังวลอีก?"เซียนเซียนกล่าวล้อ.
หวังคูถึงกับพูดไม่ออก,ไม่ได้กล่าวออกมาว่าที่เซิ่งหวังเป็นห่วงก็เป็นเพราะนำเจ้ามาด้วยต่างหาก.
-------------------------------------------------------------------------------
ศาลเทวะต้าเจิ้งภาคเหนือ,สถานที่ที่เรียกว่าตำหนักสังสารวัฏ.
ตำหนักสังสารวัฏนั้นมีชื่อเสียงมาก,เป็นสิ่งก่อสร้างยุคโบราณที่ตกทอดมา,ซึ่งมีอยู่ด้วยกันทั้งหมดสิบตำหนัก,ซึ่งถูกเรียกว่าซือตาน,และเวลานี้ยังไม่มีใครครอบครองได้.
หนึ่งในสิบตำหนักเวลานี้อยู่ในอาณาเขตจวงหลุน,พื้นที่รอบๆนี้มีปราณทมิฬมากมาย,หมุนวนปะทุม้วนกวาดกระจายไปทั่ว,กลิ่นอายที่รุนแรงหนักหน่วงปกคลุมรอบๆตำหนักขนาดใหญ่อย่างหนาแน่น.
ปราณทมิฬที่เต็มไปด้วยจิตสังหารที่น่าเกรงขาม,จนไม่สามารถหายใจได้สะดวก,ยิ่งเข้าไปใกล้ตำหนักเท่าไหร่,ยิ่งสัมผัสได้ถึงแรงกดดันที่ยิ่งใหญ่,จนยากที่คนทั่วไปจะทนได้.
ปราณทมิฬนี้,มีอำนาจของนิมิตร้ายแฝงอยู่อีกด้วย.
กลุ่มคนที่มีพลังฝึกตนต่ำไม่กล้าสัมผัสแน่นอน,แม้แต่คนที่มีพลังฝึกตนสูง,ยังต้องระมัดระวัง,มีเพียงแค่ยอดฝีมือระดับสูงเท่านั้นถึงจะเข้าออกได้โดยปรกติ,ซึ่งต้องอยู่ในระดับเดียวกับปราชญ์เทพ,ในภพหยางนั้นที่เกาะกุย,ศิลาเทวะห้าสีที่ใช้ผนึกอสุรกายปิศาจกุยเช่อ,ดูเหมือนว่ารอบๆตำหนักสังสารวัฏแห่งนี้จะมีปราณทมิฬที่ดูคล้ายกันเป็นอย่างมาก.
เหล่ายอดฝีมือมากมายที่เดินทางมากันอย่างคับคั่ง,ทว่าพวกเขาทุกคนต่างก็หลบเลี่ยงที่จะเข้าใกล้ตำหนักสังสารวัฏ,ราวกับว่าหวั่นเกรงคำสาปที่จะได้รับหากว่าสัมผัสกับปราณทมิฬ.
ตำหนักสังสารวัฏนั้นเต็มไปด้วยความลับ,ปราณทมิฬที่ปกคลุมพื้นที่ดังกล่าวนั้น,ไม่ว่าจะเป็นใครต่างก็หลีกเลี่ยงกันทุกคน.
และในวันนี้,พื้นที่ใกล้ๆตำหนักสังสารวัฏนั้นมีคนมากมายที่มาชุมนุมกัน.
ทุกคนในอาณาเขตจวงหลุน,เหล่ากลุ่มอิทธิพลใหญ่ต่างก็เดินทางมาสังเกตการณ์.
จงซานที่ท้าทายยอดฝีมืออันดับหนึ่งของอาณาเขตจวงหลุน?
นี่คือการต่อสู้ของยอดฝีมือ,พวกเขาจะพลาดกันได้อย่างไร?
การต่อสู้ของยอดฝีมือครั้งนี้,ไม่ได้เกิดขึ้นมานานแล้วในอาณาเขตแห่งนี้.
สถานที่แห่งนี้ไม่ใช่เมืองซ่าง,และไม่ใช่วิหารซือกง,จึงไม่มีใครสามารถยืมพลังจากวาสนาหรือกรรมวาสนาได้,นี่คือการต่อสู้ด้วยทักษะของตัวเอง.
จงซานเดินทางมาถึงนานแล้ว.
บนบัลลังก์เก้ามังกรที่ลอยอยู่บนอากาศ,จงซานพร้อมกับเหล่าเสนาธิการของต้าเจิ้ง,และยังมีกองทัพขนาดใหญ่ของต้าเจิ้งด้วย.
จงซานหลับตาลง,รอคอยการมาถึงของโหลวซิงเฉิน.
ที่ไกลออกไปนั้น,บนยอดเขาสูงแห่งหนึ่ง,มีคนห้าคน,ซึ่งผู้นำมาก็คือไท่จื่อสามจากตำหนักเทียนซี่ของศาลเทวะอู๋เซี่ยง.
"ไท่จื่อสาม,นั่นจงซาน,เขาแข็งแกร่งจริงๆรึ?"หนึ่งในนั้นที่กล่าวสอบถามออกมา.
"เซียนสวรรค์,ขั้นที่แปด!"ไท่จื่อสามที่ขมวดคิ้วไปมา.
"?"เหล่าคนที่อยู่ด้านหลังถึงกับสะดุ้งตกใจ,จ้องมองไปยังไท่จื่อสามเป็นสายตาเดียวกัน.
ทุกคนต่างก็ไม่อยากเชื่อ,ไท่จื่อสามที่หัวใจเต้นไปมา,นี่จงซานมีแผนร้ายอะไรกัน?
เซียนสวรรค์อย่างงั้นรึ? เขามีระดับเพียงแค่เซียนสวรรค์? เซียนสวรรค์ขั้นที่แปด? นี่กลับคิดที่จะประลองกับโหลวซิงเฉินอย่างงั้นรึ?
ต่างกันถึงสองอาณาจักร,ไม่ใช่สองธรรมดาทั่วไป,ยังแตกต่างราวกับว่ากับเหว,นี่จงซานไปเอาความมั่นใจมาจากใหนกัน?
"ไท่จื่อสาม?
นี่เขา,เขามีระดับแปดเซียนสวรรค์เองรึ? จะเป็นไปได้อย่างไร?"
"นี่เจ้าคิดว่าข้าหลอกเจ้าอย่างงั้นรึ?"ไท่จื่อสามที่ขมวดคิ้วไปมา.
"ไม่,ผู้น้อยมิกล้า!"ชายคนดังกล่าวเร่งรีบแก้ตัวเป็นพัลวัล.
ไม่ใช่แค่ผู้ใต้บังคับบัญชาของเขา,ไท่จื่อสามเองก็เต็มไปด้วยความงงงวย,เซิ่งหวังที่มีระดับเซียนสวรรค์?
นี่ไม่ใช่ว่าเป็นเซิ่งหวังที่อ่อนแอที่สุดในประวัติศาตร์หรอกรึ?
เซิ่งหวังที่อ่อนแอที่สุดท้าประลองโหลวซิงเฉิน?
ไม่เข้าใจ,ไม่เข้าใจแม้แต่น้อย!
กับความไม่เข้าใจนี้,ทำให้ไท่จื่อสามเต็มไปด้วยความจริงจังมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม.
"ฟิ้ว~~~ ~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~!”
เกิดพายุที่รุนแรง,โบกพัดบนอากาศ,ก่อนที่จะปรากฏคนหลายร้อยคนขึ้น.
โหลวซิงเฉินในชุดสีน้ำเงิน,ภรรยาสุดที่รักของเขาและเหล่าศิษย์ของนิกายซือกง.
ในเวลาเดียวกันนี้ทุกคนที่อยู่รอบๆต่างก็จดจ้องมองมายังพื้นที่ดังกล่าว.
โหลวซิงเฉิงที่อยู่ไกลออกไป,จับจ้องมองไปยังจงซานด้วยสายตาเย็นชา.
จงซานที่รออยู่นานแล้วลืมตาขึ้น,แววตาที่มีประกายสายฟ้าออกมาเช่นกัน,จดจ้องมองไปยังโหลวซิงเฉิน.
จงซานที่ลุกขึ้นจากเก้าอี้,ก่อนที่จะโบกมือ,อี้เหยี่ยนที่โค้งรับ,ราวกับว่ารับคำสั่งอะไรบางอย่างจากจงซาน.
........
อีกส่วนที่หนึ่งในหุบเขาที่อยู่ห่างออกมาจากวิหารซือกงไม่ไกล.
"จงซานออกคำสั่งแล้ว,ทุกคนเตรียมพร้อม,บุกเข้าไปยังวิหารซือกงพร้อมกับข้า!"เซียนเซียนที่กล่าวออกมาด้วยความตื่นเต้น.
------------------------------------------
จงซานและโหลวซิงเฉินที่สบตากันด้วยแววตาเย็นชา.
ในเวลานี้,โหลวซิงเฉินเองก็ไม่เข้าใจ,จงซานกล้าที่จะท้าทายตัวเขาได้อย่างไร.
"ห้าปี,ประมุขโหลวซิงเฉิน,อาจจะเห็นแล้ว!"จงซานที่กล่าวออกมาอย่างนุ่มนวล.
ดวงตาของโหลวซิงเฉินที่หดเกร็ง,จดจ้องมองไปยังจงซานด้วยสายตาดุร้าย.
"?
สามี,เห็นอะไรอย่างงั้นรึ?"เฉินเสี่ยวเชี่ยนที่กล่าวออกมาด้วยความสงสัย.
"เจ้าไปเอาข่าวเรื่องนี้มาจากที่ใหน?"โหลวซิงเฉินที่ขมวดคิ้วแน่น.
แม้นว่าเขายังไม่ยินดีที่จะยอมรับทว่าก็ทำให้เขาไม่สบายใจเช่นกัน,ทำไมมันถึงเป็นเช่นนี้?
"สามี,ท่านเป็นอย่างไร?"
เฉินเสี่ยวเชี่ยนที่จ้องมองไปยังจงซาน,นางราวกับรับรู้ว่าทั้งคู่กำลังพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องที่เกี่ยวกับตัวเอง.
"ข้าไปเอามาจากใหนอย่างงั้นรึ?
เจ้าไม่เห็นด้วยตัวเองหรอกรึ? ไม่ใช่ว่าคนของนิกายซือกงรับรู้กันทุกคนหรอกรึ?
ไม่ใช่สิทุกคนในอาณาเขตจวงหลุนต่างก็รู้ดี,มีเพียงเจ้าคนเดียวที่ไม่รู้."จงซานทีกล่าวออกมาด้วยเสียงเย็นชา.
"สามี,ท่านพูดอะไรบ้าง?"เฉินเสี่ยวเชี่ยงที่เต็มไปด้วยความกังวลพร้อมกับกุมแขนของโหลวซิงเฉินแน่น.
โหลวซิงเฉินที่ส่ายหน้าไปมาให้กับเฉินเสี่ยวเฉียน,ไม่ได้ตอบสิ่งใดออกไป,ทว่าสายตาของเขานั้นจดจ้องมองจงซานด้วยแววตาเคร่งขรึมแทบไม่กระพริบ.
ทุกๆคนรู้อย่างงั้นรึ?
มีเพียงข้าไม่รู้อย่างงั้นรึ?
"ฮ่า,ฮ่าฮ่า,ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า..............................!”โหลวซิงเฉิงที่เต็มไปด้วยความข่มขืนอย่างที่สุด,ขณะที่หัวเราะอย่างมาอย่างเคร่งเครียด.
"สามี!"ใบหน้าของเฉินเสี่ยวเชี่ยนที่ซีดขาวสั่นกระตุกไปมา.
"จงซาน,ไม่ว่าอย่างไร,โหลวเทียนเหอก็ต้องตายไปเพราะเจ้า,สังหารศิษย์ของข้า,จะต้องชดใช้ด้วยชีวิต,เจ้าที่ประกาศท้าทายต่อคนทั่วหล้ากับการประลองเป็นตาย,สำหรับความตายของเจ้าเรื่องนี้ยังไม่สาสมกับความผิดของเจ้าที่ได้กระทำ!"โหลวซิงเฉินที่กล่าวออกมาด้วยความเกลียดชัง,และยังเผยท่าทางโกรธเกรี้ยวจงซานอย่างที่สุด.
"การต่อสู้เป็นตาย,แน่นอนว่ามันคือการต่อสู้ตัดสินเป็นตาย,หากไม่ต้าเจิ้งม้วยก็เป็นนิกายซือกงพังทลาย,ข้ารู้ว่าหัวใจของเจ้าเต็มไปด้วยความทุกข์,หัวใจที่กำลังแตกร้าว! ห้าปีกับความโกรธเกรี้ยวของเจ้า,ให้ข้าได้เห็น,ตัวเจ้าจะมีคุณค่าแค่ใหน!"จงซานที่กล่าวออกไปเสียงดัง.
ที่ไกลออกไปนั้น,ทิศทางตำแหน่งของไท่จื่อสาม.
"เอ๊ะ?"เสียงของไท่จื่อสามดูอึมครึม.
คำพูดของจงซานนั่น? ไท่จื่อสามราวกับว่าเคยได้ยินมาก่อน,เป็นเซิ่งหวังอู๋เซี่ยงขณะที่ต้องการกำราบข้าราชบริพาร,เคยใช้คำพูดเช่นนี้,นี่จงซานกำลังจะกำราบโหลวซิงเฉินอย่างงั้นรึ?
เป็นเช่นนั้นจริงรึ?
เป็นอะไรที่แปลกประหลาดเป็นอย่างมาก,พิสูจน์คุณค่าของเจ้า,คำพูดนี้,หากว่ากลับเป็นโหลวซิงเฉินพูดกับจงซานมันยังน่าจะสมเหตุสมผลกว่านี้.
ไท่จื่อสามรู้สึกแปลกประหลาดเป็นอย่างมาก,ราวกับว่าทุกอย่างมันพลิกกลับตาลปัตรไปหมด
จงซานที่สะบัดแขนเสื้อ,คนของต้าเจิ้งที่เริ่มถอยออกไปในทันที.
นี่คือเวทีของเซิ่งหวังและประมุขนิกาย.
ความรู้สึกของโหลวซิงเฉินเองก็ปะทุขึ้นมาเช่นกัน,เขาไม่ได้แย้งคำพูดของจงซานแม้แต่คำเดียว,เมื่อเห็นจงซานสังการคนของเขาออกไป,เขาก็สั่งคนของเขาให้ถอยห่างออกไปเช่นกัน.
"สามี,ข้าเชื่อท่าน,กำจัดมันซะ!"เฉินเสี่ยวเชี่ยนที่กล่าวให้กำลังใจ.
เห็นท่าทางของเมียรัก,หัวใจของเขาที่เจ็บช้ำแทบพุ่งออกมาจากอก,กับท่าทางห่วงใยนี้,เป็นจริงหรือเท็จ?
แสร้งทำอยู่อย่างงั้นรึ? แต่ทำไมเขากับคาดหวังไปด้วย.
คนของวิหารซือกงในเวลานี้ได้ถอยห่างออกมายังพื้นที่ไกลออกไป.
บนลานที่อยู่ตรงกลาง,มีเพียงแค่จงซานและโหลวซิงเฉินสองคน,พวกเขาอยู่ทางฝั่งทิศตะวันออกของตำหนักสังสารวัฏ,เหล่าผู้ฝึกตนมากมายต่างก็มาชมการประลองในครั้งนี้.
การประลองกำลังจะเริ่มแล้ว!
ส่วนอีกฟากหนึ่งในเวลานี้การบุกนิกายซือกงก็เริ่มขึ้นด้วยเช่นกัน.
เซียนเซียนที่รุกเข้าไปในวิหารซือกง,ด้วยการใช้แผนล่อเสื้ออกจากถ้ำ,ในขณะที่จงซานกำลังทำการประลองอยู่นั้น.
เมืองหลวง,เมืองซ่างเวลานี้,บนยอดเขาสูงที่อยู่รอบเมือง.
แปดราชวงศ์สวรรค์ที่ทำสงครามกับต้าเจิ้งนั้น,ได้ใช้โอกาสนี้ส่งยอดฝีมือมา.
"เริ่มแล้วรึ??"คนผู้หนึ่งที่สอบถามออกไป.
"แปดราชวงศ์สวรรค์ดูเหมือนว่าจะเกลียดชังต้าเจิ้งเป็นอย่างมาก,ถึงกับต้องร่วมมือกันเลย?,สงครามที่ตำหนักสังสารวัฏน่าจะเริ่มแล้ว,พวกเราเองก็ควรจะเริ่มเช่นกัน!"
"ไม่ต้องใจร้อน,รอให้ถึงตอนบ่าย,ให้ผู้คุ้มกันเปลี่ยนกะซะก่อน!"
อีกฝั่งหนึ่งภายในเมืองซ่าง,ที่ด้านตำหนักปู่ซือ.
หนานกงเซิ่งที่ให้สัญญาณกับเสี่ยวหวังที่รอคอยอยู่.
"มาแล้วอย่างงั้นรึ?"เสี่ยวหวังสอบถามออกไป.
"มาแล้ว,แปดต้าเซียน,สามร้อยเซียนสวรรค์,แปดร้อยเซียนปฐพี,เมื่อพวกเขามาแล้วก็อย่าให้ได้กลับไป,หากว่าสำเร็จขวัญกำลังใจของราชวงศ์สวรรค์ทั้งแปดคงจะลดลงเป็นอย่างมาก,นอกจากนี้หากว่าเซิ่งหวังล้มโหลวซิงเฉินได้อีกล่ะก็,แปดราชวงศ์สวรรค์ก็จะไร้ซึ่งพลังต้านทานพวกเราแล้ว!"หนานกงเซิ่งที่กล่าวอย่างเคร่งขรึม.
"เจ้ามั่นใจในค่ายกลมากเท่าไหร่?"เสี่ยวหวังที่สอบถามออกไป.
"ค่ายกลนี้ถูกเรียกว่า,กลหมากลวงสวรรค์."หนานกงเซิ่งที่กล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม.
"หืม?กลหมากลวงสวรรค์? ไม่ใช่ว่ามัน......!"เสี่ยวหวังที่ขมวดคิ้วไปมา.
"ถูกแล้ว,มันมาจากภพหยาง,แม้นว่าขั้นแรกข้าจะสามารถแก้กลหมากได้,ทว่าการจะเข้าใจมันนั้นไม่ง่ายเลย,หลายปีมานี้ข้าศึกษาไม่หยุด,ทำการวิจัย,ครุ่นคิดอย่างระเอียด,แม้แต่สามารถนำมาใช้งานได้,นี่เป็นค่ายกลที่ร้ายกาจ,เป็นโอกาสดีที่จะใช้กับคนของแปดราชวงศ์สวรรค์,ไม่มีทางหนีไปได้! แม้แต่คนเดียว!"แววตาของหนานกงเซิ่งที่กล่าวออกมาด้วยความมั่นใจ.
"อืม!"
ระหว่างที่หนานกงเซิ่งกล่าวนี้,รอบๆเมืองซ่างก็ปรากฏหมอกขึ้นมาในทันที,อีกทั้งบนท้องฟ้าและแม้แต่อากาศยังปรากฏสายฟ้าลั่นแป๊บๆๆ,เหมือนเมื่อครั้งที่จงซานได้ทะลวงหมากของซูต้าจี้เพื่อเข้าไปในแดนลับ,แต่ละหมากที่เดินนั้นเต็มไปด้วยภัยพิบัติไร้ที่สิ้นสุด.
ที่ไกลออกไปนั้น,เหล่ายอดฝีมือที่แปดราชวงศ์สวรรค์ส่งมา,ทันใดนั้นก็ขมวดคิ้วไปมา.
"ไม่ได้การ,ไม่ได้การแล้ว,ทำไมท้องฟ้าถึงได้แปรปรวนเช่นนี้?"
"แย่แล้ว,บนเทือกเขาเวลานี้มืดไปหมดเลย!"
"ดูนั่น,ภูเขาอื่นๆกลายเป็นสีชาวโพลนไปแล้ว,เกิดอะไรขึ้นกัน!"
"ไม่ได้การแล้ว,พวกเราตกอยู่ในกับดักแล้ว,นี่มันค่ายกล!"คนผู้หนึ่งที่เข้าใจเรื่องค่ายกลกล่าวออกมาในทันที.
"ค่ายกล? หลิวถงเสวย,เจ้ามีความรู้เรื่องค่ายกลมากที่สุด,จะทำทะลวงออกไปอย่างไร?"
ทุกคนที่จ้องมองไปยังชายคนหนึ่ง.
แววตาของชายคนดังกล่าวที่สั่นไหวไปมา,ที่หน้าผากหลั่งเหงื่อที่เย็นยะเยือบออกมา.
"หายนะ,นี่มันค่ายกลโบราณ,พวกเขาจะมีค่ายกลเช่นนี้ได้อย่าง?
คนของโลกใบเล็กมีค่ายกลเช่นนี้ได้อย่างไร? น่ากลัวเกินไปแล้ว,น่ากลัวเกินไปแล้ว!"แววตาของชายคนดังกล่าวเผยท่าทางตื่นตระหนกตกใจเป็นอย่างมาก.
"หลิวถงเสวย,หมายความว่าอย่างไร? เจ้าพูดมา!"
"หนีก็ไม่ได้,บุกก็ไม่ได้,พวกเราทำอะไรไม่ได้แล้ว,ขยับไม่ได้อีกแล้ว!"หลิวถงเสวยที่เต็มไปด้วยความหวาดกลัว.
"หนีไม่ได้อย่างงั้นรึ? เช่นนั้นพวกเราจะบุกทะลวงเมืองซ่างทันที,เพียงแค่ทะลวงค่ายกล,พวกเรามียอดฝีมือมากมาย,มีเหรอที่จะไม่สามารถจัดการเมืองเล็กๆได้!"อีกคนที่กล่าวออกมาเสียงดัง.
"ไม่สามารถบุกได้,หนีก็ไม่ได้,อย่าขยับดีกว่า!"หลิวถงเสวยที่ใบหน้าเปลี่ยนเป็นร้อนรนหวาดกลัว.
"ขี้ขลาดตาขาว,ชิ!"ชายอีกคนที่แค่นเสียงเย็นชาพร้อมกับบินออกไป.
"ทุกคนตามข้ามา,ถล่มเมืองซ่าง!"ชายคนดังกล่าวที่ตะโกนออกไปเสียงดัง,ก่อนที่จะพุ่งตรงไปยังทิศทางของเมืองซ่าง.
ทว่าในเวลาเดียวกันนั้น,จากท้องฟ้าบนดวงดาว,สายฟ้าสีทองที่ทรงพลังแข็งแกร่งรวมตัวกันขึ้น,ถูกยิงตรงลงมาจากบนท้องฟ้า.
เร็วมาก,เร็วเกินไปแล้ว,ทะลวงผ่านหมู่มวลเมฆา.
"แม่ทัพหม่า,ระวัง!"หลายๆคนที่ร้องตะโกนเสียงดัง.
แม่ทัพหน้าที่เงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้า,พร้อมกับปรากฏสายฟ้าสีทองที่น่าหวาดกลัวฟาดลงมาด้วยความเร็วสูง.
"โล่สวรรค์!"
"ตูมมม ~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~!”
แม่ทัพหม่าที่กางโล่ขนาดใหญ่ออกมา,ทว่ากับถูกฟาดด้วยสายฟ้าที่ทรงพลังระเบิดเสียงดังสนั่น,แม่ทัพหม่าที่ล่วงหล่นลงจากบนท้องฟ้า,ต่อหน้าทุกคน,ไม่มีใครรับรู้ว่าเป็นหรือตายไปแล้ว.
"นี่มันค่ายกลอะไรกัน?"หลายๆคนที่เวลานี้ถึงกับสะดุ้งตื่นตกใจเป็นอย่างมาก.
ที่มาจากhttps://lnmtl.com/novel/immortality
#นิยาย เรื่องอมตะ #Immortality#นิยายแปลไทย
Author(s)
สนใจสนับสนุนพวกเรา,เข้าร่วมกลุ่ม VIP ====> Click
ปัจจุบันแปลจบแล้ว 1672 ตอน สนใจติดต่อเข้ากลุ่มลับได้ครับ
***เว็ปฟรีอัพ สองวันหนึ่งตอน
***กลุ่มลับ แปลจบแล้ว.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น