วันอาทิตย์ที่ 2 สิงหาคม พ.ศ. 2563

Immortality Chapter 891 Throughout the ages prosperous, the fox roar under the heavens

Immortality Chapter 891 Throughout the ages prosperous, the fox roar under the heavens

นิยาย เรื่อง อมตะ ตอนที่ 891  ผ่านยุคสมัยแห่งเคราะห์กรรม


Chapter 891 Throughout the ages prosperous, the fox roar under the heavens
万代,天下
  ผ่านยุคสมัยแห่งเคราะห์กรรม,จิ้งจอกสวรรค์คำรามทั่วแผ่นดิน.
คนทั้งสามที่ยืนอยู่บนลานจัตุรัส,จดจ้องมองไปยังภูเขาที่ตัดราบด้วยท่าทางจริงจัง,จดจ้องมองอักษรที่เหนียงเหนียงนวี่หว๋าได้ทิ้งเอาไว้,สิ่งที่เกี่ยวข้องกับสมบัติที่ได้ทิ้งเอาไว้ให้กับชิงชิวหรือไม่?

สายตาของทุกคนที่จดจ้องมองตัวอักษร,ทั้งสามคนได้แต่เงียบ.


"ต่อต้ายเทียนชู,ยึดครองวาสนา! ต้าโจว,ปราชญ์เทพทั้งเจ็ดประมาทเทียนจี! ช่วยเทียนชู,กำจัดราชหยินซ่าง! รับปากต้าโจวต่อต้านเทียนชู,คลุมสวรรค์ลี้ลับต่อกรเทียนชู,เทียนชูโกรธเกรี้ยว,งานใหญ่ล้มเหลวในขั้นสุดท้าย!"

อักษรแถวแรกนั้น,คนทั้งสองจ้องมองถึงกับนิ่งงันไปเลยทีเดียว,สัมผัสได้ถึงความขุ่นเคืองที่หลั่งไหลออกมา! กำจัดหยินซ่างคือก้าวแรก,ก้าวที่สองคือช่วยต้าโจว,เพื่อใช้กลยุทธิ์ปิดฟ้าข้ามสมุทร,ราชันย์โจวโหยวต่อต้านเทียนชู? ปราชญ์เทพช่วยเหลือ,ถึงแม้ว่าจะพ่ายแพ้,แต่ยังคงต้องจดจำเอาไว้.

คนทั้งสามที่มองอักษรแถวที่สอง.

"ปราชญ์เทพทั้งเจ็ดพ่ายแพ้,ความโศกเศร้าเสียใจครั้งยิ่งใหญ่! แผนการนับหมื่นปีกลายเป็นความว่างเปล่า,สวรรค์โกรธเกรี้ยว,กลุ่มปราชญ์เทพล่วงหล่นลงจากท้องฟ้า,ทั้งเกลียดชังและขมขื่น!"

บรรทัดที่สอง,ความไม่ยินดีมากมายที่แผ่ออกมา! แผนการหมื่นปีกลายเป็นว่างเปล่า? ล้มเหลวในขั้นสุดท้าย,ปราชญ์เทพที่มีชีวิตไร้ที่สิ้นสุด,กับล่วงหล่นจากสวรรค์! ทั้งเกลียดและขมขื่นเป็นอย่างมาก!

กับอารมณ์มากมายที่ถูกเร้าทำให้คนทั้งสามกลายเป็นเคร่งขรึม,ก่อนที่จะจ้องมองไปยังอักษรแถวที่สาม.

"เทียนชูไม่สามารถต่อต้านได้อย่างงั้นรึ? คงรอเพียงแค่ให้ข้าตกตายไป? ข้าไม่ยินดี,ข้าหวังว่าชีวิตที่เหลือของข้าจะสามารถต่อต้านเทียนชู,สวรรค์ไม่อ่อนแอ,หากแต่ทุกสิ่งมีชีวิตก็ไม่อ่อนแอเช่นกัน!"

ตัวอักษรแถวที่สาม,เป็นความรู้สึกของเหนียงเหนียงนวี๋หว๋า,กับสิ่งทดสอบเมื่อนางตกตายไป,ที่จริงนางได้ต่อต้านสวรรค์อยู่อย่างงั้นรึ?

"ปราชญ์เทพทั้งเจ็ดล่วงหล่นจากสวรรค์,ข้าได้เตรียมการเอาไว้สามอย่าง,อย่างไรก็ตามข้าไม่ได้หวังว่าจะให้ตัวเองมีชีวิตอยู่อีกหลายปี,ข้าได้เผาไหม้ไฟแห่งชีวิต,แม้แต่วิญญาณของข้าทั้งหมด,เมื่อข้าล่วงหล่นจากสวรรค์,การต่อต้านสวรรค์ทั้งหมดก็จะเริ่มขึ้น,เผ่าจิ้งจอก,ต้าจี้,พร้อมกับข้าต่างก็ต่อต้านสวรรค์,ทำให้สวรรค์โกรธเกรี้ยว,สองแสนปีหลังจากนี้,เผ่าจิ้งจอกจะถูกกำจัดไปทั้งหมด,หัวใจของข้านั้นไม่ยินดีแม้แต่น้อย,เพื่อเปลี่ยนลิขิตสวรรค์,ข้าได้ใช้ตัวเองทดสอบเผาไหม้ไฟแห่งชีวิต,เพื่อรับรองว่าเผ่าจิ้งจอกจะไม่ถูกทำลาย!"

อักษรแถวที่สี่,คนทั้งสามที่อ่านแล้วหัวใจรัดแน่น,และตระหนักบางอย่างได้,หลังจากที่เหนียงเหนียงนวี่หว๋าล่วงหล่นจากสวรรค์,การต่อต้านเทียนชูก็เริ่มขึ้น,สองแสนปีหลังจากนี้เผ่าจิ้งจอกจะถูกกำจัดไปทั้งหมดรึ?

แต่ว่านี้มันผ่านมาเกินสองแสนปีแล้ว,ตอนนี้ หกแสนหรืออาจถึงเจ็ดแสนปีแล้วไม่ใช่รึ? แม้ว่าเผ่าจิ้งจอกจะถดถอยลงมา,ทว่าก็ยังคงอยู่ไม่ใช่รึ?

สิ่งนี้หมายความว่าอย่างไร? หมายความว่าเหนียงเหนียงนวี่หว๋าได้เปลี่ยนลิขิตของเทียนชูเพื่อเผ่าจิ้งจอก,สำเร็จอย่างงั้นรึ?

เทียนชูไม่สามารถต่อต้านได้อย่างงั้นรึ? ทว่าด้วยเพลิงชีวิตของปราชญ์เทพ,ท้ายที่สุดก็ต่อต้านเทียนชูสำเร็จ,เผ่าจิ้งจอกจึงไม่ถูกกำจัดอย่างงั้นรึ?

คนทั้งสามที่ตระหนักถึงบางอย่างได้,ตราบเท่าที่ข่าวนี้แพร่กรายออกไป,จะต้องสั่นสะเทือนไปทั่วหล้าอย่างแน่นอน,แน่นอนจงซานที่เข้าใจเรื่องนี้ดี,และบางทีชีวิตของพวกเขาทั้งสามอาจจะจบสิ้นไปด้วย.

"การเปิดตำหนักดวงดาว,มีเพียงแค่จิ้งจอกสวรรค์เก้าหาง,เมื่อมองแท่นจารึก,หัวใจที่ถูกปลุกเร้า,แม้ว่าต้องตายเก้าชีวิตก็จะไม่เสียใจ! เผ่าจิ้งจอกเปลี่ยนเทียนชู,หลังจากความวุ่นวายที่เกิดขึ้น,หากผ่านเคราะห์กรรม,ยุคสมัยแห่งความรุ่งโรจน์,เผ่าจิ้งจอกจะคำรามทั่วแผ่นดิน!"

ผ่านยุคสมัยแห่งเคราะห์,เผ่าจิ้งจอกจะคำรามทั่วแผ่นดิน? อักษรสองแถวสุดท้าย,ที่ราวกับมีความผันผวนทางวิญญาณ,จนราวกับรู้สึกถึงเสียงคำรามของจิ้งจอก.

นี่คือพิธีของเหนียงเหนียงนวี่หว๋า,กับพิธีที่เหนียงเหนียงนวี่สร้างขึ้นมานี้ไม่ได้ด้อยค่าไปกว่าอุปกรณ์ปราชญ์เทพ,หากแต่ไม่ใช่ทุกคนที่จะรับรู้ถึงคุณค่าของมัน,สิ่งที่เหนียงเหนียงนวีหว๋าต่อต้านเทียนชูนั้น,ก็เพื่อที่จะให้เผ่าจิ้งจอกรุงโรจน์เพื่อต่อไฟชีวิตของเผ่าจิ้งจอก.

การต่อต้านเทียนชูนี้,ไร้ประโยชน์ต่อคนอื่น,มีคุณค่ามากกว่าอุปกรณ์ปราชญ์เทพ,และยังปกป้องเผ่าจิ้งจอก? ทำให้เผ่าจิ้งจอกสามารถอยู่มาได้นาน.

"ใช่แล้วจงซาน,เหมือนที่เจ้าคาดการณ์,สิ่งนี้เป็นพิธีของเผ่าจิ้งจอก,เผ่าอื่นๆไม่สามารถครอบครองมันได้."กงจูจิวเหว่ยที่กล่าวพลางถอนหายใจ.

กับพิธีกรรมนี้,กงจูจิวเหว่ยรู้สึกพึงพอใจเป็นอย่างมาก.

"ฟิ้ว!!!"

ในเวลาเดียวกันนี้,ที่ไกลออกนั้น,ปรากฏร่างๆหนึ่งที่บินตรงเข้ามาด้วยความเร็ว,พริบตาที่เข้ามาใกล้,พวกเขาก็รับรู้,ซือหม่าชิง!

ซือหม่าชิงที่มาถึง,เพียงแค่มองจงซานและคนอื่นเล็กน้อย,จากนั้นก็จ้องมองไปยังแผ่นศิลาจารึก.

ข้อความของเหนียงเหนียงนวีหว๋า,จดจ้องมองข้อความดังกล่าวแล้ว,ทำให้ใบหน้าของซือหม่าชิงกลายเป็นซับซ้อน,ต่อต้านเทียนชูอย่างงั้นรึ? เทียนชูไร้เทียมทานจริงรึ?

เห็นชัดเจนว่าใบหน้าของซือหม่าชิงที่เต็มไปด้วยความตะลึง,ดวงตาเบิกกว้าง,หัวใจเต้นไปมาไม่เป็นจังหวะ.

เกี่ยวกับซือหม่าชิงนั้น,เขาที่ราวกับไม่สนใจกับคนทั้งสามที่อยู่ด้านข้างเลย.

ในเวลานี้,ที่ด้านนอกตำหนักดวงดาว,การต่อสู้ที่หนักหน่วงยังคงดำเนินอยู่,มีเซียนโบราณกว่า 20 คนแล้วที่มารวมตัวกัน.

การต่อสู้ที่ดั่งสนั่นเลือนลั่นปฐพี,ประมุขนิกายจื่อเซียวดูเหมือนว่าเขาจะทำตามคำพูดได้มาอยู่ฝั่งของศาลเทวะไท่ชู,เป็นการต่อสู้หกต่อสิบสี.

แม้นว่าเซิ่งหวังไท่ชูและคนอื่นๆจะมีอุปกรณ์เซียนโบราณ,แต่ก็มีเพียงแค่หกคน,ไม่สามารถที่จะรับมือได้ง่ายๆ.

ทว่าในเวลาเดียวนั้น,บนท้องฟ้าไกลก็เกิดระเบิดเสียงดังสนั่น.

"ตูมมมมมมมมมมมม!"

แสงสามแสงที่สดใสส่งลงมาจากท้องฟ้าไกลออกไป.

ขณะที่ลำแสงทั้งสามพุ่งตรงมา,เซิ่งหวังไท่ชูและคนอื่นๆถึงกับใบหน้าเปลี่ยนไป,เพราะว่าลำแสงดังกล่าวนั่นดูคล้ายคลึงเป็นอย่างมาก,เหมือนกับที่เกิดขึ้นที่เกาะกุยในครั้งนั้น.

ปราชญ์เทพมาถึงแล้ว?

สองลำแสงที่พุ่งกระแทกเข้าไปยังสองเซียนโบราณที่อยู่ด้านนอกในทันที,ทว่าอีกลำแสงนั้นกลับทะลวงผ่านตำหนักแห่งดวงดาราเข้าไปด้านในทันที.

ภายในตำหนักดวงดารา,ลำแสงที่พุ่งเข้ามาในทันที.

ซือหม่าชิง,จงซานที่สัมผัสได้ถึงลำแสงที่พุ่งมาด้วยความเร็วสูง,บัวหงหลวนที่เป็นสีแดงกลายเป็นสีนำเงินในทันที,นิมิตโชคร้าย?

แรงกดดันมหาศาลที่โถมทับลงมาในทันที,ดูเหมือนว่ากำลังจะมายึดครองร่างของพวกเขา.

ใบหน้าของจงซานที่เปลี่ยนไป,มือขวาของเขาที่สะบัด,พร้อมกับนำตราลัญจกรครรลองสวรรค์ออกมา.

มันเป็นสัญชาติญาณ,แม้แต่จงซานเองก็ไม่รู้ว่าตราลัญจกรครรลองสวรรค์จะช่วยได้หรือไม่.

จงซานที่กุมครรลองสวรรค์,แสงสีแดงจากมุกสีแดงชาติเปล่งประกายออกมาพร้อมกับเปล่งลำแสงเจ็ดสีออกมา,แสงสีทองที่ปะทุขึ้นอาบไปทั่วร่างของเขาทันที.

"ครืนนนนนนน!"

ด้วยพลังของจงซานที่ปกป้องไม่ให้แสงยึดครองร่างของเขาเอาไว้,จงซานสามารถป้องกันตัวเอาไว้ได้?

"ฟิ้ว!!"

บนร่างของกงจูจิวเหว่ยเองก็ปรากฏแสงเก้าสีออกมาเช่นกัน,ราวกับว่ามันแผ่พุ่งออกมาตามสัญชาติญาณ,เป็นอำนาจของเก้าหางคลุมร่างของนางเอาไว้ด้วยเช่นกัน.

"ปัง!"

ลำแสงดังกล่าวที่ป้องกันร่างของกงจูจิวเหว่ยเอาไว้.

ทว่าในเวลาเดียวกัน,แสงสีขาวที่มาจากขอบฟ้าไม่ได้พุ่งตรงไปยังซูอาโฝวต่อ,ทว่าพุ่งตรงไปยังร่างของซือหม่าชิงในทันที.

แสงสีขาวที่พุ่งเข้าไปในร่างซือหม่าชิง,กำลังจะยึดครองร่างของซือหม่าชิงแล้ว?

จงซานที่รู้สึกหวาดหวั่นขึ้นมาทันที,เพราะว่าจงซานรับรู้ได้ว่า,แสงสีขาวได้พุ่งมายังร่างของเขาก่อน,แต่ถูกป้องกันเอาไว้,จากนั้นก็พุ่งไปยังร่างของกงจูจิวเหว่ยแต่ก็ถูกกันเอาไว้เช่นกัน,จนท้ายที่สุดก็พุ่งเข้าไปยึดร่างซือหม่าชิง.

แสงสีขาวที่ค่อยแผ่ซึมไปทั่วร่างซือหม่าชิง,และสติของเขาก็หายไปในทันที.

ปราชญ์เทพ? ดวงตาของจงซานที่ส่ายไปมาไม่หยุด,ปราชญ์เทพมาถึง.

"ครืนนนนนนนนน!"

ร่างกายของซือหม่าชิงที่ฟุบลง,ปราชญ์เทพยึดครองร่างกายเขาได้สำเร็จ.

ปราชญ์เทพ,จงซานสัมผัสได้,ความรู้สึกที่หนักหน่วงรุนแรงน่าเกรงขามเมื่อครั้งที่เกิดขึ้นที่เกาะกุย,กลิ่นอายนี้เขาไม่มีทางลืม.

เพียงแค่สะบัดมือออกไป,ก็กำราบทุกคนได้แล้ว.

กลิ่นอายของปราชญ์เทพอย่างงั้นรึ?

ปราชญ์เทพที่กวาดตามองจงซานและคนที่เหลือ,ซึ่งทำให้พวกเขาหัวใจเต้นไปมาไม่เป็นจังหวะไม่กล้าแม้แต่มองกลับไปด้วยซ้ำ.

จากนั้นปราชญ์เทพก็หันหน้ากลับไปมองที่ด้านนอกตำหนัก,พร้อมกับขมวดคิ้วไปมา,ราวกับว่ารออะไรบางอย่าง,แต่ทว่าคนที่รอกลับไม่เข้ามา.

ท้ายที่สุด,เขาก็หันหน้าไปมาแท่นจารึก.

จดจ้องมองคำพูดที่เหนียงเหนียงนวีหว๋าได้ทิ้งเอาไว้,ดวงตาถึงกับหดเกร็ง,ขมวดคิ้วแน่น,จากนั้นก็เปลี่ยนมาเป็นสงบ,สามารถเข้าใจทุกอย่างได้ในทันที.

ต้องไม่ลืมว่า,เรื่องที่เหนียงเหนียงนวี่หว๋าได้ต่อต้านเทียนชูเป็นเรื่องที่น่าอัศจรรย์สร้างความตระหนกไปทั่วโลก,แม้แต่ปราชญ์เทพในเวลานั้น,ยังรู้สึกหวาดผวา.

ด้วยแรงกดดันมหาศาลของปราชญ์เทพ,จงซานและคนอื่นๆไม่แม้แต่อ้าปากออกมาได้,กับแรงกดดันมหาศาลที่โถมทับมายังร่างของพวกเขานี้,ทำให้ภายในใจจงซานสังหารใจไม่ดีนัก.

เหล่าปราชญ์เทพที่มองเห็นพวกเขาไม่ต่างจากก้อนกรวด,เพื่อรักษาความลับของเทียนชู,พวกเขาจะไม่ถูกสังหารหรอกรึ? มีความเป็นไปได้มาก,ไม่,พวกเขาจะต้องถูกสังหารแน่.

ปราชญ์เทพคงไม่แม้แต่ชำเลืองมองหากต้องการสังหารพวกเขา,หากแต่คิดจะหนี,ไม่มีทางเลยที่จะหนีได้,เวลานี้ต้องทำอย่างไรดี?

ขณะเดียวกันนี้ปราชญ์เทพคนดังกล่าวไม่สนใจกลุ่มของจงซานแม้แต่น้อย,ยังคงมองถ้อยคำที่เหลืออยู่ของเหนียงเหนียงนวี่หว๋า,ราวกับว่ากำลังครุ่นคิดอะไรบางอย่าง.

จากนั้นไม่นาน,ปราชญ์เทพคนดังกล่าวทื่ยื่นมือออกไปทว่า,ทันใดนั้นมิติอากาศก็สั่นไหว,ก่อนที่จะปรากฏเป็นแสงสว่างจ้าพุ่งออกมา.

ประกายแสงสว่างจ้า,หลังจากนั้นหนึ่งลมหายใจ,ทุกอย่างก็สงบลง,ซึ่งในเวลานี้ได้ปรากฏร่างๆหนึ่งปรากฏขึ้นมา.

ร่างของคนผู้นี้ที่ปรากฏตัวขึ้นมาจากความว่างเปล่า.

จงซานที่เห็นร่างของคนดังนั้น,ภายในใจที่รู้สึกประหลาดใจเพราะว่าจงซานเคยเห็นมาก่อน,ไท่ซ่างเหล่าจวิน? เมื่อครั้งแยกสวรรค์สะบั้นปฐพีนั้น,คนผู้นี้เดินทางมาพร้อมกับเห่าเทียน,หลังจากนั้นได้แลกเปลี่ยนแผนที่บรรพกาลก่อเกิด กับขวดหยกพิสุทธิ์กับเขาไม่ใช่รึ?

แม้นว่าท่าทางจะดูคล้าย,แต่ก็ไม่เหมือนซะทีเดียว,คนผู้นี้เป็นเพียงร่างเงา,ดูทรงพลังยิ่งใหญ่กว่ามาก!

"ไท่ซ่าง? เจ้าเคยมาที่นี่จริงๆสินะ!"ปราชญ์เทพคนก่อนหน้านี้ขมวดคิ้วไปมา.

ไท่ซ่าง? ปราชญ์เทพไท่ซ่าง? เป็นปราชญ์เทพที่ล่วงหล่นลงจากสวรรค์คนสุดท้ายที่ทะเลอ้าวไลไม่ใชรึ? แต่ทำไมเขาถึงได้ดูคล้ายกับไท่ซ่างเหล่าจวินกัน?

ร่างเงา,ปราชญ์เทพไท่ซ่างที่เดินมาด้านหน้าศิลาจาลึก,ก่อนที่จะส่ายหน้าไปมาพลางถอนหายใจ.

"เฟิงลี่ซือ,ข้าได้มาเยือนสุสานอากาศของเจ้าแล้ว,และยังได้ปกป้องเหล่าคนที่ซื่อสัตย์ต่อเจ้า,ทว่าเจ้าไม่เห็นต้องใช้ไฟชีวิตของตัวเองเพื่อเปลี่ยนลิขิตเทียนชูเลย,ทุกอย่างล้วนแล้วแต่เหล่าประโยชน์,ปราชญ์เทพทั้งเจ็ดล่วงหล่นจากท้องฟ้า,สวรรค์โกรธเกรี้ยว,ไม่มีทางที่จะหลีกหนีชะตาได้ง่ายๆ,การเปลี่ยนชะตาเปลี่ยนเทียนชูในครั้งนี้,ไม่รู้ว่าเป็นภัยพิบัติหรือโชค,อย่างไรก็ตาม,ถอนขนเส้นเดียวสะดุ้งไปทั่วร่าง,หลายๆอย่างเปลี่ยนไป,ปราชญ์เทพทั้งเจ็ด,ข้าเป็นคนสุดท้ายที่ล่วงหล่นจากสวรรค์,ข้าได้ค้นหาสถานที่ตาย,เพื่อที่จะได้ตกตายไปพร้อมกับเจ้า!"ปราชญ์เทพไท่ซ่างที่กล่าวออกมาด้วยความเศร้า.

ปราชญ์เทพไท่ซ่าง? นี่เขาได้ตั้งใจเดินทางมายังสุสานเหนียงเหนียงนวี่หว๋าอย่างงั้นรึ?

เฟิงลี่ซือ? ดวงตาของจงซานที่หดเกร็ง,เฟิงลี่ซือ? เป็นนามของนวี่หว๋า? ที่อาณาเขตเฟิงจง,สุสานของเฟิงลี่ซือ? ปราชญ์เทพไท่ซ่างบอกว่ามาตายอยู่เคียงข้างเหนียงเหนียงนวี่หว๋า,ปราชญ์เทพไท่ซ่างตกตายอยู่ในทะเลอ้าวไห่,และเหนียงเหนียงนวี่หว่าเองก็ถูกฝังอยู่ในอาณาเขตเฟิงจงอย่างงั้นรึ?

ไม่แปลกใจเลยว่าเรียกที่นี่ว่าสุสานอากาศ,ที่นี่คือสุสานอากาศ

จากนั้นภาพเงาของปราชญ์เทพไท่ซ่างก็สลายหายไป.

ทว่าในเวลาเดียวกันนี้,จงซานรับรู้ว่า,สถานการณ์เวลานี้ไม่ดีแล้ว,ปราชญ์เทพทั้งหมดรับรู้แล้ว,เช่นนั้นคงไม่ปล่อยเขาแน่,รวมทั้งกงจูจิวเหว่ยและซูอาโฝวด้วย.

เป็นความจริงหลังจากนั้น,ปราชญ์เทพคนดังกล่าวใบหน้าที่ดูบิดเบี้ยว,ราวกับว่าไม่ต้องการที่จะให้ใครรับรู้เรื่องราวของนวี่หว๋าและไท่ซ่างที่ล่วงหล่นจากบนสวรรค์อีก.

ใบหน้าที่อึมคลึมนั้นแม้ว่าจะยังไม่หันมาก,ทว่าจงซานก็พอรับรู้แล้วว่า,เขาเตรียมจัดการพวกเขาทั้งสามแล้ว.

ใบหน้าของปราชญ์เทพที่ค่อยๆหันหน้ามา,แม้ว่าจงซานจะไม่สามารถสบตาได้,ทว่าก็รับรู้ความหมายด้านในทันที.

ปราชญ์เทพต้องการสังหารเขาอย่างงั้นรึ? ไม่ได้การ,หากเขายังลังเล,เขาต้องตกตายแน่,คนผู้นี้ต้องการลบข้อมูลทั้งหมด.

ภายในใจจงซานที่สั่นไหว,ตกใจเขา,เขาจะตายไปไม่ได้,เขาจะตายไม่ได้แน่นอน,ที่มือขวาของเขาที่กุมตราหยกครรลองสวรรค์,ประกายแสงสีแดงที่ส่องสว่างก่อนที่จะทำให้ร่างกายของเขาสามารถขยับได้.

ด้วยการสนับสนุนจากอำนาจของตาหยก,ทำให้จงซานสามารถรับแรงกดดันมหาศาลได้.

เขาที่เงยหน้าขึ้นช้าๆ.


แสงสีทองที่ปกคลุมไปทั่วร่างกาย,กลิ่นอายของเขาที่แผ่ออกไปรอบๆ,อำนาจวิเศษที่ต้านทานกลิ่นอายที่ยิ่งใหญ่,ดวงตาของเขาที่ค่อยๆจ้องมองไปยังปราชญ์เทพที่อยู่ด้านหน้า.






ที่มาจากhttps://lnmtl.com/novel/immortality

#นิยาย เรื่องอมตะ #Immortality#นิยายแปลไทย
Author(s)


สนใจสนับสนุนพวกเรา,เข้าร่วมกลุ่ม VIP ====> Click

ปัจจุบันแปลจบแล้ว 1672 ตอน สนใจติดต่อเข้ากลุ่มลับได้ครับ

***เว็ปฟรีอัพ สองวันหนึ่งตอน
***กลุ่มลับ แปลจบแล้ว.

 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น