Immortality Chapter 890 Stars palace
นิยาย เรื่อง อมตะ ตอนที่ 890 ตำหนักดวงดาว.
Chapter 890 Stars palace
星辰殿
ตำหนักดวงดาว.
ยามซือ(9 to 11
a.m) วันที่ 7
หลิวเยว่,เซิ่งหวังไท่ชูได้บินขึ้นสู่ท้องฟ้าบนหมู่ดาวเรียบร้อยแล้ว.
และคนที่เดินทางมาด้วยก็คือปรมาจารย์หมากซือเหม่ยนั่นเอง.
ด้วยแสงตะวันที่เจิดจ้า,สว่างไปทั่ว,จนแทบไม่สามารถมองเห็นพื้นที่รอบๆได้,ทว่า,ด้วยพลังฝึกตนระดับเซียนโบราณแล้ว,ทำให้เรื่องนี้ไม่มีปัญหา.
"เซิ่งหวัง,ท่านบอกว่าอ๋องทั้งสามก็จะมาอย่างงั้นรึ?"ปรมาจารย์หมากซือเหม่ยเอ่ยถาม.
"เกี่ยวกับสมบัติตกทอดของปราชญ์เทพเผ่าจิ้งจอก,พวกเขาทั้งสามต้องมาแน่!"เซิ่งหวังไท่ชูกล่าว.
"หวังว่าจะเป็นเช่นนั้น,หลายปีมานี้เซิ่งหวังที่สามารถรวมอ๋องทั้งสามให้คงอยู่ในไท่ชู,ก็เกินกว่าที่ข้าประมาณการแล้ว!"ปรมาจารย์หมากซือเหม่ยที่กล่าวพลางถอนหายใจ.
"อืม,สามอ๋องไท่ชู,นับตั้งแต่บิดาของข้าล่วงหล่นจากบนท้องฟ้า,และส่งต่อให้ข้าสืบทอดตำแหน่ง,แม้ว่าเรื่องนี้จะเป็นความลับ,ซ่อนเรื่องนี้จากคนทั่วหล้า,ทว่าอ๋องทั้งสามเป็นไปไม่ได้ที่จะไม่สามารถคาดเดาได้."เซิ่งหวังไท่ชูที่กล่าวพลางถอนหายใจเล็กน้อย.
"ความคิดของอดีตเซิ่งหวังนั้นเกินจะคาดการ,แม้แต่น้อยผู้น้อยยังไม่เข้าใจ,หลายปีมานี้ไม่สามารถช่วยอะไรได้เลย,เซิ่งหวังอย่าได้ตำหนิ!"ปรมาจารย์หมากซือเหม่ยที่กล่าวพร้อมกับโค้งคำนับให้.
"ไม่มีใครว่ากล่าวเจ้า!"
"เซียนเซิงหลี่เป็นน้องชายในสายโลหิตของท่าน,เชาว์ปัญญาของเขานั้นสูงมาก,ในเมื่อให้เซียนเซิงหลี่จุติแช่แข็งสายโลหิต,แต่กลับให้มาช่วยเซิ่งหวังเพียงเท่านั้นนะรึ?
ถ้าจะให้กล่าวล่ะก็,เซิ่งหวังไม่ควรที่จะมอบหน้าที่ให้กับร่างสตรี,ควรจะส่งต่อให้กับเซียนเซิงหลี่ถึงจะเข้าใจได้,ทำไมถึงได้ส่งมอบมาให้ท่านล่ะ?"ปรมาจารย์ซือเหม่ยที่ขมวดคิ้วสอบถาม.
"ท่านพ่อนั้นมีเชาว์ปัญญาที่เป็นเลิศ,เกินกว่าคนจะเข้าใจ,การที่ท่านทำเช่นนั้น,ย่อมเพราะเพื่อเป้าหมาย,ไม่ใช่เพื่อศาลเทวะ,เพื่อภารกิจของพวกเรา,ปรมาจารย์หมากซือเหม่ยอย่าได้ลืม!"เซิ่งหวังไท่ชูที่กล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม.
"ภารกิจ?
ต้องทำภารกิจให้สำเร็จอย่างงั้นรึ?"ปรมาจารย์หมากซือเหม่ยที่ฝืนยิ้มออกมา.
"เมื่อกลหมากลวงสวรรค์ของบรรพชนถูกทะลวง,ยุคสมัยต่อไปอาจจะจบลง,เพื่อเป้าหมาย,ภารกิจดังกล่าวแม้ว่าจะทุ่มพลังไปทั้งหมด,แม้แต่ต้องแลกไปด้วยชีวิต,ก็จะยอมแพ้ไม่ได้,หรือว่าท่านยอมแพ้แล้ว?"เซิ่งหวังไท่ชูที่กล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม.
"ไม่,ไม่เคยเลย!"ปรมาจารย์หมากซือเหม่ยกล่าวออกมาอย่างจริงจัง.
"หลายต่อหลายยุคสมัยต่างก็ไม่เคยลืม,ข้าเชื่อว่า,พวกเราจะเป็นคนทำภารกิจนี้เสร็จได้,ข้าต้องการปลดเปลื้องภาระที่หนักหนานี้ไปจริงๆ."เซิ่งหวังไท่ชูที่กล่าวอย่างหนักแน่น.
"อืม!"
"จากการพยากรณ์ที่ภูเขาเสวี๋ยเหม่ย,ของบรรพชนเฒ่าเสวี๋ยเหม่ย,ได้บอกสถานที่จริงเอาไว้ที่นี่,ไม่รู้ว่าเขาได้บอกกล่าวต่อผู้คนไปมากน้อยเพียงใด!"เซิ่งหวังไท่ชูที่ขมวดคิ้วไปมา.
"บรรพชนเฒ่าเสวี๋ยเหม่ยที่ได้บอกกล่าวตำหนักดวงดาราว่าอยู่ในแถบนี้,หรือว่าเขาได้วางแผนการอะไรเอาไว้ด้วย?"ปรมาจารย์หมากซือเหม่ยที่ขมวดคิ้วไปมา.
"แผนการนั้นต้องมีอย่างแน่นอน,จากท่าทางของบรรพชนเฒ่าเสวี๋ยเหม่ย,เขาจะบอกตำแหน่งที่แท้จริงกับพวกเราจริงๆอย่างงั้นรึ?
อย่างไรก็ตามให้ดูสถานที่ที่น่าสงสัย,ข้าสงสัยว่าเกี่ยวกับข้อมูลตำหนักดวงดาวนั้น,อาจจะมีบางสิ่งบางอย่างที่เขาวางแผนเอาไว้ก็ได้."เซิ่งหวังไท่ชูกล่าว.
"เขาต้องการสมบัติของปราชญ์เทพอย่างงั้นรึ?"
"ไม่,บรรพชนเฒ่าเสวี๋ยเหม่ยเขาไม่ได้ต้องการสมบัติปราชญ์เทพ."เซิ่งหวังที่ชูที่ส่ายหน้าไปมา.
"แล้วเขาต้องการอะไร?"
"ตำแหน่งปราชญ์เทพ!"เซิ่งหวังไท่ชูที่กล่าวยืนยัน.
"ตำแหน่งปราชญ์เทพอย่างงั้นรึ? ตอนนี้เขาอยู่ที่นี่อย่างงั้นรึ?"ปรมาจารย์หมากซือเหม่ยที่ขมวดคิ้วไปมา.
"เขา,ในเมื่อเขาได้เผยแพร่ข่าวของเกี่ยวกับตำหนักดวงดาวให้กับคนอื่นแล้ว,แน่นอนว่าเขาย่อมไม่มา,ไม่จำเป็นต้องห่วงเกี่ยวกับเขา!"เซิ่งหวังไท่ชูกล่าว.
"ทำไม?"
"เพราะว่าข่าวที่เขาปล่อยออกไปนั้น,แน่นอนว่าจะต้องเข้าหูปราชญ์เทพบางคนแน่,ข้ายืนยันได้ว่าเขานั้นไม่ต้องการเจอกับปราชญ์เทพไม่ว่าจะเป็นคนใหนก็ตาม!"เซิ่งหวังไท่ชูที่กล่าวอย่างมั่นใจ.
"อดีตเซิ่งหวังมีเชาว์ปัญญาที่เป็นเลิศ,เซียนเซิงหลี่มีกลยุทธิ์ที่น่าเกรงขาม,ดูเหมือนว่าท่านจะยอดเยี่ยมกว่าพวกเขาอีก,ซือเหม่ารู้สึกภาคภูมิใจนัก!"
ทว่าในเวลาเดียวกัน,ภายในเขตแดนบนท้องฟ้าที่พวกเขาอยู่,ดวงดาราที่เคลื่อนไหวไปมาช้าๆ,จากนั้นมิติอากาศที่อยู่ใกล้ๆทันใดนั้นก็ปรากฏอำนาจวิเศษที่ทำให้พื้นที่รอบๆนี้บิดเบี้ยว.
"ถึงยามบ่ายแล้ว!"ปรมาจารย์หมากซือเหม่ยเอ่ย.
พลังที่กำลังสะสมอยู่บนท้องฟ้า,ที่ใจกลางของทะเลดวงดาว,ปรากฏพลังงานมากมายที่กำลังถูกดูดซับเข้ามายังสถานที่แห่งหนึ่ง,ทว่าสถานที่ดังกล่าวนั้นไม่มีอะไรเลย,เป็นเพียงแค่หวงอากาศที่เวิ้งว้าง,หากแต่พลังของดวงดาราที่กำลังสะสมมากขึ้นเรื่อยๆ,หากไม่มีวัตถุอะไร,พลังมากมายจะมาสะสมได้อย่างไร.
หวงมิติเมื่อสะสมพลังงานเพิ่มขึ้นเรื่อยๆไม่หยุด,ก็เริ่มสั่นไหว,เกิดเป็นระลอกคลื่น.
"เปรี้ยง~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~!”
เกิดระเบิดดังสนั่น,มิติอากาศที่เกิดเป็นหลุมดำขนาดใหญ่ดังก้องกังวานไปทั่ว.
หลุมดำขนาดใหญ่,ทันใดนั้นก็ปรากฏตำแหน่งโผล่ออกมาช้าๆ,เป็นตำหนักขนาดมหึมาขณะที่อยู่ในหลุมดำ,ดูยิ่งใหญ่อลังการเป็นอย่างมาก.
"ตำหนักดวงดาวโผล่ออกมาอย่างงั้นรึ?
ตำแหน่งของพวกเราดูเหมือนว่าจะอยู่ใกล้ด้วย!"ปรมาจารย์หมากซือเหม่ยที่เผยใบหน้ามีความสุข.
ปรมาจารย์หมากซือเหม่ยและเซิ่งหวังไท่ชูที่บินตรงไปยังทิศทางดังกล่าวด้วยความเร็ว.
แม้ว่าจะอยู่ค่อนข้างใกล้,ทว่าด้วยอาณาเขตดวงดาวนั้นมีขนาดกว้างมากๆ,คนทั้งสองแม้ว่าจะใช้ความเร็วสูงสุด,ก็ยังต้องใช้เวลาอยู่อีกไม่น้อย.
นอกเหนือจากเซิ่งหวังไท่ชูแล้ว,ในเวลานี้ยังมีผู้ฝึกตนคนอื่นๆมองเห็นด้วยเช่นกัน.
เหมือนกับเซิ่งหวังไท่ชูว่าคนเหล่านี้ต่างก็ได้ข้อมูลมากจากบรรพชนเฒ่าเสวี๋ยเหม่ยที่ปล่อยข่าวออกไปนั่นเอง.
สมบัติตกทอดของเหนียงเหนียงนวี่หว๋า,เวลานี้ได้ดึงดูดผู้คนมากมายเข้ามาหา.
เหล่าผู้ฝึกตนจำนวนมากที่พุ่งตรงเข้าไปยังทิศทางตำหนักขนาดใหญ่.
และในเวลาเดียวกันนั้น,กลุ่มสามคนที่รวดเร็วยิ่งกว่าระดับเซียนโบราณใดๆ,เป็นกลุ่มจงซานที่โบยบินขึ้นมาจากท้องทะเลด้วยอุโมงค์แสง.
คนทั้งสามที่ขึ้นมาด้วยเส้นทางที่เหนียงเหนียงนวี่หว๋าทิ้งเอาไว้,มันเคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูงกว่าใครๆพุ่งตรงไปยังตำหนักขนาดใหญ่ในทันที.
คนทั้งสามที่ไม่รับรู้ได้ว่าอุโมงค์แสงนั้นมีความเร็วขนาดใหน,พวกเขารับรู้เพียงว่าภาพฉากรอบๆพวกเขาที่เปลี่ยนไปด้วยความเร็วเท่านั้น.
ไม่นานหลังจากนั้น,พวกเขาก็มาปรากฏขึ้นที่หน้าตำหนักขนาดใหญ่ในทันที,ตำหนักแห่นงนี้กว้างขวางเป็นอย่างมาก,มีขนาดความสูงกว่าหมื่นจั้ง,และด้านบนตำแหน่งมีอักษรเขียนไว้ว่า,ตำหนักแห่งดวงดาว!
พื้นที่รอบๆนั้นไม่มีลมแม้แต่น้อย,แรงดึงดูดเองยังน้อยไปด้วย,หากแต่ไม่ใช่บรรยากาศที่เลวร้ายจนพวกเขาไม่สามารถทนได้.
"มาถึงแล้ว,ตำหนักดวงดาว!"ซูอาโฝวที่กล่าวออกมาด้วยความตื่นเต้น.
ซูอาโฝวที่รับรู้ได้ถึงความยอดเยี่ยมของจงซาน,เขาไม่คิดเลยว่าตัวเองจะโชคดีขนาดนี้ที่ได้มาค้นหาสมบัติของเหนียงเหนียงนวีหว๋าในครั้งนี้.
"เปิดเร็วเข้า,คนอื่นๆใกล้เข้ามาแล้ว!"จงซานกล่าวเตือน.
"อืม!"กงจูจิวเหว่ยที่พยักหน้ารับ.
กงจูจิวเหว่ยที่เคลื่อนที่เข้าไปยังประตูก่อนที่จะใช้มือประทับหน้าประตู,ดวงตาทั้งสองข้างที่หลับลง,ก่อนที่จะปล่อยแสงเก้าสีออกมาจากร่างของนาง.
พลังแสงเก้าสี,จงซานสามารถมองเห็นเป็นเหมือนกับหางยักษ์เก้าหางที่งดงามโผล่ออกมาจากร่างของกงจูจิวเหว่ย.
"ปัง!"
ประตูเปิดเสียงดัง,ก่อนที่จะค่อยๆแง้มออกมาช้าๆ.
"ไป!"กงจูจิวเหว่ยที่กล่าวออกมาด้วยความตื่นเต้น,พร้อมกับก้าวเข้าไปด้านใน.
จงซานและซูอาโฝวที่มองหน้ากันและกัน,ก่อนที่จะก้าวตามเข้าไปด้านใน.
คนทั้งสามที่ก้าวเข้าไปในตำหนักดวงดาว,จดจ้องมองไปยังเหล่าเซียนโบราณที่อยู่ไกลออกไปกำลังบินเข้ามาด้วยความเร็วสูงจดจ้องมองดวงตาลุกเป็นไฟ.
คาดไม่ถึงเลยว่าจะมีคนเข้าไปก่อน?
สองเซียนสวรรค์และหนึ่งต้าเซียน? เหล่าเซียนโบราณถึงกับลมออกหู.
"เซิ่งหวัง,กงจูจิวเหว่ยเข้าไปด้านในแล้ว,กงจูจิวเหว่ย!"ปรมาจารย์หมากซือเหม่ยที่กล่าวออกมาด้วยความตื่นเต้น.
"อืม,ขวางทางเข้าเอาไว้,ไม่ให้คนที่ไม่ใช่คนของชิงชิว,เข้าไปได้แม้แต่คนเดียว!"เซิ่งหวังไท่ชูกล่าว.
"รับทราบ!"
"ฟิ้ว!!"
เซิ่งหวังไท่ชูและประมาจารย์หมากซือเหม่ยเป็นกลุ่มแรกในบรรดาเซียนโบราณที่ไปถึง,ก่อนที่พวกเขาจะหยุดอยู่ด้านหน้าตำหนัก,พร้อมกับเริ่มวางค่ายกลสงครามในทันที.
"ฟิ้ว!!"
กลุ่มที่สองที่มาถึง,เป็นประมุขนิกายจื่อเซียว.
"ประมุขนิกายจื่อเซียว,โปรดรอก่อน,สถานที่แห่งนี้เป็นสมบัติของเหนียงเหนียงนวี่หว๋าทิ้งไว้ให้ชิงชิวของข้า,โปรดอย่าได้ขยับ!"เซิ่งหวังไท่ชูที่กล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม.
ประมุขนิกายจื่อเซียวที่จ้องมองเซิ่งหวังไท่ชู,ใบหน้าที่กระตุกแววตาเปลี่ยนเป็นซับซ้อน.
จากนั้น,เซียนโบราณอีกสองคนก็บินมาถึงด้วยเช่นกัน.
เป้าหมายของเหล่าเซียนโบราณนั้นชัดเจน,พวกเขาต้องการเข้าไปในตำหนักดวงดาว,นอกจากประมุขนิกายจื่อเซียว,ตอนนี้มีอีกสามเซียนโบราณที่ถูกขวางเอาไว้ด้านนอก,โดยเซิ่งหวังไท่ชูและปรมาจารย์หมากซือเหม่ย.
"เซิ่งหวังไท่ชู,หลบไป,เจ้ามาขวางพวกเราทำไม,คนที่ได้แลกเปลี่ยนของวิเศษกับข้อมูลจากบรรพชนเฒ่าเสวี๋ยเหม่ยนั้นไม่ได้มีแค่เพียงพวกเรา,พวกเราสามคนไม่มีทางหวาดกลัวเจ้า,คิดว่าจะขวางทางพวกเราเอาไว้อย่างงั้นรึ!"เซียนโบราณคนหนึ่งที่เอ่ยออกมาเสียงดัง.
"วีด ฟิ้ว!!"
ผู้ฝึกตนอีกกลุ่มหนึ่งก็ปรากฏขึ้นมาในทันที,สี่คนที่ไปยืนอยู่ข้างๆเซิ่งหวังไท่ชูในทันที.
"คารวะเซิ่งหวัง!"คนทั้งสี่ที่เอ่ยออกมาในทันที.
หนึ่งในคนทั้งสี่,ก็คือซือหม่าชิง.
"ซือหม่าชิง?
คาดไม่ถึงเลยว่าจะก้าวไปถึงระดับเซียนโบราณแล้ว,นับว่าน่ายินดีนัก!"เซิ่งหวังไท่ชูเอ่ย.
"ด้วยการสนับสนุนจากเซิ่งหวัง,ซือหม่าชิงได้ตัดผ่านระดับเมื่อไม่กี่วันที่แล้ว,ตอนนี้ยังไม่เสถียรนัก."ซือหม่าชิงที่กล่าวออกมาในทันที.
ฝั่งของศาลเทวะไท่ชูในเวลานี้ได้เปลี่ยนเป็นหกคนในทันที,และฝั่งตรงข้ามเองก็มีหกคนเช่นกัน,เวลานี้พวกเขาปฏิเสธที่จะยอมกัน.
ซือหม่าชิงที่ลอบมองเป็นระยะ,ขณะที่จับจ้องเฝ้ามองกันกับฝ่ายตรงข้ามอยู่นั้น,พริบตาเดียวเขาได้เคลื่อนย้ายตัวเอง,ลอบเข้าไปในตำหนักดวงดาวในทันที.
ทุกคนที่ขมวดคิ้วไปมา.
"เซิ่งหวังอย่าได้ตำหนิ,บุตรของข้านั้นถูกตามใจมาแต่เด็ก,นิสัยที่เอาแน่นอนไม่ได้,ทว่าอย่างไรก็เป็นคนของชิงชิว,การเข้าไปด้านในก็ไม่มีปัญหา,บางทีอาจจะช่วยเหลือกงจูจิวเหว่ยได้ด้วย!"หนึ่งในนั้นชายในชุดสีดำที่ส่ายหน้าไปมากล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม.
เห็นชัดเจนว่า,ชายในชุดสีดำก็คือประมุขใหญ่ของตระกูลซือหม่า,เป็นหนึ่งในสามอ๋องของศาลเทวะไท่ชู.
"เซียนโบราณ?
เซิ่งหวังทีชูมีเซียนโบราณถึงหกคนอย่างงั้นรึ? ดี,นับว่าไท่ชูแข็งแกร่งไม่น้อย,ทว่านี่คืออาณาเขตดวงดาว,ไม่ใช่ดินแดนของพวกเขา,ข้าจะดูว่าพวกเจ้าจะขวางเอาไว้ได้นานเท่าไหร่!"เซียนโบราณอีกคนที่กล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม.
ในเวลาเดียวกันนั้น,ประมุขนิกายจื่อเซียวที่จ้องมองซือหม่าชิงที่ลอบเขาไปด้วยสายตาลึกล้ำ,ก่อนที่จะเผยยิ้มออกมาเล็กน้อย.
"เมื่อไม่นานมานี้,คนของศาลเทวะไท่ชูได้ช่วยเหลือเซิ่งหนี่ของนิกายจื่อเซียว,ข้ายังไม่ได้ขอบคุณเลย,ในเวลานี้,ข้ายินดีที่จะช่วยศาลเทวะไท่ชูต้านทานเหล่าศัตรู,ปกป้องตำหนักดวงดาว!"ประมุขนิกายจื่อเซียวที่กล่าวออกมาในทันที.
"หืม?"
กับคำพูดของประมุขนิกายจื่อเซียวทำให้ทุกคนกลายเป็นงงงวยในทันที,หลายๆคนที่กำลังขมวดคิ้วไปมาครุ่นคิดอย่างหนัก.
จากนั้น,ที่ไกลออกไปดูเหมือนว่าจะมีเซียนโบราณที่เดินทางมาถึงอีก,พวกเขาที่ถูกขวางเอาไว้ด้วยนอก,การต่อสู้ก็ถูกเปิดฉากขึ้นในทันที.
...........
ภายในตำหนักดวงดาว.
จงซาน,กงจูจิวเหว่ยและซูอาโฝวที่เข้ามาในตำหนัก,จ้องมองพื้นที่รอบๆที่กว้างขวางเป็นอย่างมาก.
พื้นที่รอบๆที่เต็มไปด้วยความมืดมิด,ราวกับหลุมดำ,พื้นที่โลกเขตแดนของแดนเทพอมตะ,ยังถือว่าเล็กกว่าด้วยซ้ำ,อย่างไรก็ตาม,พื้นที่รอบๆดูผิดปรกติ,ด้านในเป็นเหมือนกับท้องฟ้าจำลองขนาดใหญ่.
มีดวงดาวมากมายแม้ว่าจะมีขนาดไม่ใหญ่,ทว่าขนาดใหญ่สุดเท่ากับสวนสวรรค์ลอยฟ้าหลิงเซียว.
กงจูจิวเหว่ยที่เงยหน้าขึ้นมารอบๆ.
"ข้าสัมผัสได้,ที่นั่น,ตามข้ามา!"กงจูจิวเหว่ยที่กล่าวออกมาในทันที.
จากนั้นพวกเขาก็บินตรงไปยังดวงดาวขนาดเล็กดวงหนึ่ง.
จงซานและซูอาโฝวที่ตามไป,มองเห็นดวงดาวดังกล่าวปรากฏเป็นริ้วแสงสีมรกตส่องประกายระยิบระยับ,พื้นที่รอบๆดูเหมือนว่าจะมีค่ายกลปกป้องคุ้มครองดาวดวงนี้อยู่.
กงจูจิวเหว่ยที่พบลานจัตุรัสบนดวงดาวได้อย่างรวดเร็ว,ที่ทิศเหนือมีลานขนาดใหญ่,เป็นภูเขาที่ตัดสร้างเป็นลานที่เรียบเนียน.
คนทั้งสามที่ได้บินลงไปยืนบนลาน,พร้อมกับจ้องมองไปยังรอบๆด้วยสายตาจริงจัง,ดูเหมือนว่าจะมีอักษรที่เหนียงเหนียงนวี่หว๋าได้ทิ้งเอาไว้,มันเป็นข้อมูลเกี่ยวกับสมบัติตกทอดของเหนียงเหนียงนวี่หว๋าที่ได้ทิ้งเอาไว้หรือไม่?
Chapter 890 Stars palace
星辰殿
ตำหนักดวงดาว.
ยามซือ(9 to 11
a.m) วันที่ 7
หลิวเยว่,เซิ่งหวังไท่ชูได้บินขึ้นสู่ท้องฟ้าบนหมู่ดาวเรียบร้อยแล้ว.
และคนที่เดินทางมาด้วยก็คือปรมาจารย์หมากซือเหม่ยนั่นเอง.
ด้วยแสงตะวันที่เจิดจ้า,สว่างไปทั่ว,จนแทบไม่สามารถมองเห็นพื้นที่รอบๆได้,ทว่า,ด้วยพลังฝึกตนระดับเซียนโบราณแล้ว,ทำให้เรื่องนี้ไม่มีปัญหา.
"เซิ่งหวัง,ท่านบอกว่าอ๋องทั้งสามก็จะมาอย่างงั้นรึ?"ปรมาจารย์หมากซือเหม่ยเอ่ยถาม.
"เกี่ยวกับสมบัติตกทอดของปราชญ์เทพเผ่าจิ้งจอก,พวกเขาทั้งสามต้องมาแน่!"เซิ่งหวังไท่ชูกล่าว.
"หวังว่าจะเป็นเช่นนั้น,หลายปีมานี้เซิ่งหวังที่สามารถรวมอ๋องทั้งสามให้คงอยู่ในไท่ชู,ก็เกินกว่าที่ข้าประมาณการแล้ว!"ปรมาจารย์หมากซือเหม่ยที่กล่าวพลางถอนหายใจ.
"อืม,สามอ๋องไท่ชู,นับตั้งแต่บิดาของข้าล่วงหล่นจากบนท้องฟ้า,และส่งต่อให้ข้าสืบทอดตำแหน่ง,แม้ว่าเรื่องนี้จะเป็นความลับ,ซ่อนเรื่องนี้จากคนทั่วหล้า,ทว่าอ๋องทั้งสามเป็นไปไม่ได้ที่จะไม่สามารถคาดเดาได้."เซิ่งหวังไท่ชูที่กล่าวพลางถอนหายใจเล็กน้อย.
"ความคิดของอดีตเซิ่งหวังนั้นเกินจะคาดการ,แม้แต่น้อยผู้น้อยยังไม่เข้าใจ,หลายปีมานี้ไม่สามารถช่วยอะไรได้เลย,เซิ่งหวังอย่าได้ตำหนิ!"ปรมาจารย์หมากซือเหม่ยที่กล่าวพร้อมกับโค้งคำนับให้.
"ไม่มีใครว่ากล่าวเจ้า!"
"เซียนเซิงหลี่เป็นน้องชายในสายโลหิตของท่าน,เชาว์ปัญญาของเขานั้นสูงมาก,ในเมื่อให้เซียนเซิงหลี่จุติแช่แข็งสายโลหิต,แต่กลับให้มาช่วยเซิ่งหวังเพียงเท่านั้นนะรึ?
ถ้าจะให้กล่าวล่ะก็,เซิ่งหวังไม่ควรที่จะมอบหน้าที่ให้กับร่างสตรี,ควรจะส่งต่อให้กับเซียนเซิงหลี่ถึงจะเข้าใจได้,ทำไมถึงได้ส่งมอบมาให้ท่านล่ะ?"ปรมาจารย์ซือเหม่ยที่ขมวดคิ้วสอบถาม.
"ท่านพ่อนั้นมีเชาว์ปัญญาที่เป็นเลิศ,เกินกว่าคนจะเข้าใจ,การที่ท่านทำเช่นนั้น,ย่อมเพราะเพื่อเป้าหมาย,ไม่ใช่เพื่อศาลเทวะ,เพื่อภารกิจของพวกเรา,ปรมาจารย์หมากซือเหม่ยอย่าได้ลืม!"เซิ่งหวังไท่ชูที่กล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม.
"ภารกิจ?
ต้องทำภารกิจให้สำเร็จอย่างงั้นรึ?"ปรมาจารย์หมากซือเหม่ยที่ฝืนยิ้มออกมา.
"เมื่อกลหมากลวงสวรรค์ของบรรพชนถูกทะลวง,ยุคสมัยต่อไปอาจจะจบลง,เพื่อเป้าหมาย,ภารกิจดังกล่าวแม้ว่าจะทุ่มพลังไปทั้งหมด,แม้แต่ต้องแลกไปด้วยชีวิต,ก็จะยอมแพ้ไม่ได้,หรือว่าท่านยอมแพ้แล้ว?"เซิ่งหวังไท่ชูที่กล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม.
"ไม่,ไม่เคยเลย!"ปรมาจารย์หมากซือเหม่ยกล่าวออกมาอย่างจริงจัง.
"หลายต่อหลายยุคสมัยต่างก็ไม่เคยลืม,ข้าเชื่อว่า,พวกเราจะเป็นคนทำภารกิจนี้เสร็จได้,ข้าต้องการปลดเปลื้องภาระที่หนักหนานี้ไปจริงๆ."เซิ่งหวังไท่ชูที่กล่าวอย่างหนักแน่น.
"อืม!"
"จากการพยากรณ์ที่ภูเขาเสวี๋ยเหม่ย,ของบรรพชนเฒ่าเสวี๋ยเหม่ย,ได้บอกสถานที่จริงเอาไว้ที่นี่,ไม่รู้ว่าเขาได้บอกกล่าวต่อผู้คนไปมากน้อยเพียงใด!"เซิ่งหวังไท่ชูที่ขมวดคิ้วไปมา.
"บรรพชนเฒ่าเสวี๋ยเหม่ยที่ได้บอกกล่าวตำหนักดวงดาราว่าอยู่ในแถบนี้,หรือว่าเขาได้วางแผนการอะไรเอาไว้ด้วย?"ปรมาจารย์หมากซือเหม่ยที่ขมวดคิ้วไปมา.
"แผนการนั้นต้องมีอย่างแน่นอน,จากท่าทางของบรรพชนเฒ่าเสวี๋ยเหม่ย,เขาจะบอกตำแหน่งที่แท้จริงกับพวกเราจริงๆอย่างงั้นรึ?
อย่างไรก็ตามให้ดูสถานที่ที่น่าสงสัย,ข้าสงสัยว่าเกี่ยวกับข้อมูลตำหนักดวงดาวนั้น,อาจจะมีบางสิ่งบางอย่างที่เขาวางแผนเอาไว้ก็ได้."เซิ่งหวังไท่ชูกล่าว.
"เขาต้องการสมบัติของปราชญ์เทพอย่างงั้นรึ?"
"ไม่,บรรพชนเฒ่าเสวี๋ยเหม่ยเขาไม่ได้ต้องการสมบัติปราชญ์เทพ."เซิ่งหวังที่ชูที่ส่ายหน้าไปมา.
"แล้วเขาต้องการอะไร?"
"ตำแหน่งปราชญ์เทพ!"เซิ่งหวังไท่ชูที่กล่าวยืนยัน.
"ตำแหน่งปราชญ์เทพอย่างงั้นรึ? ตอนนี้เขาอยู่ที่นี่อย่างงั้นรึ?"ปรมาจารย์หมากซือเหม่ยที่ขมวดคิ้วไปมา.
"เขา,ในเมื่อเขาได้เผยแพร่ข่าวของเกี่ยวกับตำหนักดวงดาวให้กับคนอื่นแล้ว,แน่นอนว่าเขาย่อมไม่มา,ไม่จำเป็นต้องห่วงเกี่ยวกับเขา!"เซิ่งหวังไท่ชูกล่าว.
"ทำไม?"
"เพราะว่าข่าวที่เขาปล่อยออกไปนั้น,แน่นอนว่าจะต้องเข้าหูปราชญ์เทพบางคนแน่,ข้ายืนยันได้ว่าเขานั้นไม่ต้องการเจอกับปราชญ์เทพไม่ว่าจะเป็นคนใหนก็ตาม!"เซิ่งหวังไท่ชูที่กล่าวอย่างมั่นใจ.
"อดีตเซิ่งหวังมีเชาว์ปัญญาที่เป็นเลิศ,เซียนเซิงหลี่มีกลยุทธิ์ที่น่าเกรงขาม,ดูเหมือนว่าท่านจะยอดเยี่ยมกว่าพวกเขาอีก,ซือเหม่ารู้สึกภาคภูมิใจนัก!"
ทว่าในเวลาเดียวกัน,ภายในเขตแดนบนท้องฟ้าที่พวกเขาอยู่,ดวงดาราที่เคลื่อนไหวไปมาช้าๆ,จากนั้นมิติอากาศที่อยู่ใกล้ๆทันใดนั้นก็ปรากฏอำนาจวิเศษที่ทำให้พื้นที่รอบๆนี้บิดเบี้ยว.
"ถึงยามบ่ายแล้ว!"ปรมาจารย์หมากซือเหม่ยเอ่ย.
พลังที่กำลังสะสมอยู่บนท้องฟ้า,ที่ใจกลางของทะเลดวงดาว,ปรากฏพลังงานมากมายที่กำลังถูกดูดซับเข้ามายังสถานที่แห่งหนึ่ง,ทว่าสถานที่ดังกล่าวนั้นไม่มีอะไรเลย,เป็นเพียงแค่หวงอากาศที่เวิ้งว้าง,หากแต่พลังของดวงดาราที่กำลังสะสมมากขึ้นเรื่อยๆ,หากไม่มีวัตถุอะไร,พลังมากมายจะมาสะสมได้อย่างไร.
หวงมิติเมื่อสะสมพลังงานเพิ่มขึ้นเรื่อยๆไม่หยุด,ก็เริ่มสั่นไหว,เกิดเป็นระลอกคลื่น.
"เปรี้ยง~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~!”
เกิดระเบิดดังสนั่น,มิติอากาศที่เกิดเป็นหลุมดำขนาดใหญ่ดังก้องกังวานไปทั่ว.
หลุมดำขนาดใหญ่,ทันใดนั้นก็ปรากฏตำแหน่งโผล่ออกมาช้าๆ,เป็นตำหนักขนาดมหึมาขณะที่อยู่ในหลุมดำ,ดูยิ่งใหญ่อลังการเป็นอย่างมาก.
"ตำหนักดวงดาวโผล่ออกมาอย่างงั้นรึ?
ตำแหน่งของพวกเราดูเหมือนว่าจะอยู่ใกล้ด้วย!"ปรมาจารย์หมากซือเหม่ยที่เผยใบหน้ามีความสุข.
ปรมาจารย์หมากซือเหม่ยและเซิ่งหวังไท่ชูที่บินตรงไปยังทิศทางดังกล่าวด้วยความเร็ว.
แม้ว่าจะอยู่ค่อนข้างใกล้,ทว่าด้วยอาณาเขตดวงดาวนั้นมีขนาดกว้างมากๆ,คนทั้งสองแม้ว่าจะใช้ความเร็วสูงสุด,ก็ยังต้องใช้เวลาอยู่อีกไม่น้อย.
นอกเหนือจากเซิ่งหวังไท่ชูแล้ว,ในเวลานี้ยังมีผู้ฝึกตนคนอื่นๆมองเห็นด้วยเช่นกัน.
เหมือนกับเซิ่งหวังไท่ชูว่าคนเหล่านี้ต่างก็ได้ข้อมูลมากจากบรรพชนเฒ่าเสวี๋ยเหม่ยที่ปล่อยข่าวออกไปนั่นเอง.
สมบัติตกทอดของเหนียงเหนียงนวี่หว๋า,เวลานี้ได้ดึงดูดผู้คนมากมายเข้ามาหา.
เหล่าผู้ฝึกตนจำนวนมากที่พุ่งตรงเข้าไปยังทิศทางตำหนักขนาดใหญ่.
และในเวลาเดียวกันนั้น,กลุ่มสามคนที่รวดเร็วยิ่งกว่าระดับเซียนโบราณใดๆ,เป็นกลุ่มจงซานที่โบยบินขึ้นมาจากท้องทะเลด้วยอุโมงค์แสง.
คนทั้งสามที่ขึ้นมาด้วยเส้นทางที่เหนียงเหนียงนวี่หว๋าทิ้งเอาไว้,มันเคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูงกว่าใครๆพุ่งตรงไปยังตำหนักขนาดใหญ่ในทันที.
คนทั้งสามที่ไม่รับรู้ได้ว่าอุโมงค์แสงนั้นมีความเร็วขนาดใหน,พวกเขารับรู้เพียงว่าภาพฉากรอบๆพวกเขาที่เปลี่ยนไปด้วยความเร็วเท่านั้น.
ไม่นานหลังจากนั้น,พวกเขาก็มาปรากฏขึ้นที่หน้าตำหนักขนาดใหญ่ในทันที,ตำหนักแห่นงนี้กว้างขวางเป็นอย่างมาก,มีขนาดความสูงกว่าหมื่นจั้ง,และด้านบนตำแหน่งมีอักษรเขียนไว้ว่า,ตำหนักแห่งดวงดาว!
พื้นที่รอบๆนั้นไม่มีลมแม้แต่น้อย,แรงดึงดูดเองยังน้อยไปด้วย,หากแต่ไม่ใช่บรรยากาศที่เลวร้ายจนพวกเขาไม่สามารถทนได้.
"มาถึงแล้ว,ตำหนักดวงดาว!"ซูอาโฝวที่กล่าวออกมาด้วยความตื่นเต้น.
ซูอาโฝวที่รับรู้ได้ถึงความยอดเยี่ยมของจงซาน,เขาไม่คิดเลยว่าตัวเองจะโชคดีขนาดนี้ที่ได้มาค้นหาสมบัติของเหนียงเหนียงนวีหว๋าในครั้งนี้.
"เปิดเร็วเข้า,คนอื่นๆใกล้เข้ามาแล้ว!"จงซานกล่าวเตือน.
"อืม!"กงจูจิวเหว่ยที่พยักหน้ารับ.
กงจูจิวเหว่ยที่เคลื่อนที่เข้าไปยังประตูก่อนที่จะใช้มือประทับหน้าประตู,ดวงตาทั้งสองข้างที่หลับลง,ก่อนที่จะปล่อยแสงเก้าสีออกมาจากร่างของนาง.
พลังแสงเก้าสี,จงซานสามารถมองเห็นเป็นเหมือนกับหางยักษ์เก้าหางที่งดงามโผล่ออกมาจากร่างของกงจูจิวเหว่ย.
"ปัง!"
ประตูเปิดเสียงดัง,ก่อนที่จะค่อยๆแง้มออกมาช้าๆ.
"ไป!"กงจูจิวเหว่ยที่กล่าวออกมาด้วยความตื่นเต้น,พร้อมกับก้าวเข้าไปด้านใน.
จงซานและซูอาโฝวที่มองหน้ากันและกัน,ก่อนที่จะก้าวตามเข้าไปด้านใน.
คนทั้งสามที่ก้าวเข้าไปในตำหนักดวงดาว,จดจ้องมองไปยังเหล่าเซียนโบราณที่อยู่ไกลออกไปกำลังบินเข้ามาด้วยความเร็วสูงจดจ้องมองดวงตาลุกเป็นไฟ.
คาดไม่ถึงเลยว่าจะมีคนเข้าไปก่อน?
สองเซียนสวรรค์และหนึ่งต้าเซียน? เหล่าเซียนโบราณถึงกับลมออกหู.
"เซิ่งหวัง,กงจูจิวเหว่ยเข้าไปด้านในแล้ว,กงจูจิวเหว่ย!"ปรมาจารย์หมากซือเหม่ยที่กล่าวออกมาด้วยความตื่นเต้น.
"อืม,ขวางทางเข้าเอาไว้,ไม่ให้คนที่ไม่ใช่คนของชิงชิว,เข้าไปได้แม้แต่คนเดียว!"เซิ่งหวังไท่ชูกล่าว.
"รับทราบ!"
"ฟิ้ว!!"
เซิ่งหวังไท่ชูและประมาจารย์หมากซือเหม่ยเป็นกลุ่มแรกในบรรดาเซียนโบราณที่ไปถึง,ก่อนที่พวกเขาจะหยุดอยู่ด้านหน้าตำหนัก,พร้อมกับเริ่มวางค่ายกลสงครามในทันที.
"ฟิ้ว!!"
กลุ่มที่สองที่มาถึง,เป็นประมุขนิกายจื่อเซียว.
"ประมุขนิกายจื่อเซียว,โปรดรอก่อน,สถานที่แห่งนี้เป็นสมบัติของเหนียงเหนียงนวี่หว๋าทิ้งไว้ให้ชิงชิวของข้า,โปรดอย่าได้ขยับ!"เซิ่งหวังไท่ชูที่กล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม.
ประมุขนิกายจื่อเซียวที่จ้องมองเซิ่งหวังไท่ชู,ใบหน้าที่กระตุกแววตาเปลี่ยนเป็นซับซ้อน.
จากนั้น,เซียนโบราณอีกสองคนก็บินมาถึงด้วยเช่นกัน.
เป้าหมายของเหล่าเซียนโบราณนั้นชัดเจน,พวกเขาต้องการเข้าไปในตำหนักดวงดาว,นอกจากประมุขนิกายจื่อเซียว,ตอนนี้มีอีกสามเซียนโบราณที่ถูกขวางเอาไว้ด้านนอก,โดยเซิ่งหวังไท่ชูและปรมาจารย์หมากซือเหม่ย.
"เซิ่งหวังไท่ชู,หลบไป,เจ้ามาขวางพวกเราทำไม,คนที่ได้แลกเปลี่ยนของวิเศษกับข้อมูลจากบรรพชนเฒ่าเสวี๋ยเหม่ยนั้นไม่ได้มีแค่เพียงพวกเรา,พวกเราสามคนไม่มีทางหวาดกลัวเจ้า,คิดว่าจะขวางทางพวกเราเอาไว้อย่างงั้นรึ!"เซียนโบราณคนหนึ่งที่เอ่ยออกมาเสียงดัง.
"วีด ฟิ้ว!!"
ผู้ฝึกตนอีกกลุ่มหนึ่งก็ปรากฏขึ้นมาในทันที,สี่คนที่ไปยืนอยู่ข้างๆเซิ่งหวังไท่ชูในทันที.
"คารวะเซิ่งหวัง!"คนทั้งสี่ที่เอ่ยออกมาในทันที.
หนึ่งในคนทั้งสี่,ก็คือซือหม่าชิง.
"ซือหม่าชิง?
คาดไม่ถึงเลยว่าจะก้าวไปถึงระดับเซียนโบราณแล้ว,นับว่าน่ายินดีนัก!"เซิ่งหวังไท่ชูเอ่ย.
"ด้วยการสนับสนุนจากเซิ่งหวัง,ซือหม่าชิงได้ตัดผ่านระดับเมื่อไม่กี่วันที่แล้ว,ตอนนี้ยังไม่เสถียรนัก."ซือหม่าชิงที่กล่าวออกมาในทันที.
ฝั่งของศาลเทวะไท่ชูในเวลานี้ได้เปลี่ยนเป็นหกคนในทันที,และฝั่งตรงข้ามเองก็มีหกคนเช่นกัน,เวลานี้พวกเขาปฏิเสธที่จะยอมกัน.
ซือหม่าชิงที่ลอบมองเป็นระยะ,ขณะที่จับจ้องเฝ้ามองกันกับฝ่ายตรงข้ามอยู่นั้น,พริบตาเดียวเขาได้เคลื่อนย้ายตัวเอง,ลอบเข้าไปในตำหนักดวงดาวในทันที.
ทุกคนที่ขมวดคิ้วไปมา.
"เซิ่งหวังอย่าได้ตำหนิ,บุตรของข้านั้นถูกตามใจมาแต่เด็ก,นิสัยที่เอาแน่นอนไม่ได้,ทว่าอย่างไรก็เป็นคนของชิงชิว,การเข้าไปด้านในก็ไม่มีปัญหา,บางทีอาจจะช่วยเหลือกงจูจิวเหว่ยได้ด้วย!"หนึ่งในนั้นชายในชุดสีดำที่ส่ายหน้าไปมากล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม.
เห็นชัดเจนว่า,ชายในชุดสีดำก็คือประมุขใหญ่ของตระกูลซือหม่า,เป็นหนึ่งในสามอ๋องของศาลเทวะไท่ชู.
"เซียนโบราณ?
เซิ่งหวังทีชูมีเซียนโบราณถึงหกคนอย่างงั้นรึ? ดี,นับว่าไท่ชูแข็งแกร่งไม่น้อย,ทว่านี่คืออาณาเขตดวงดาว,ไม่ใช่ดินแดนของพวกเขา,ข้าจะดูว่าพวกเจ้าจะขวางเอาไว้ได้นานเท่าไหร่!"เซียนโบราณอีกคนที่กล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม.
ในเวลาเดียวกันนั้น,ประมุขนิกายจื่อเซียวที่จ้องมองซือหม่าชิงที่ลอบเขาไปด้วยสายตาลึกล้ำ,ก่อนที่จะเผยยิ้มออกมาเล็กน้อย.
"เมื่อไม่นานมานี้,คนของศาลเทวะไท่ชูได้ช่วยเหลือเซิ่งหนี่ของนิกายจื่อเซียว,ข้ายังไม่ได้ขอบคุณเลย,ในเวลานี้,ข้ายินดีที่จะช่วยศาลเทวะไท่ชูต้านทานเหล่าศัตรู,ปกป้องตำหนักดวงดาว!"ประมุขนิกายจื่อเซียวที่กล่าวออกมาในทันที.
"หืม?"
กับคำพูดของประมุขนิกายจื่อเซียวทำให้ทุกคนกลายเป็นงงงวยในทันที,หลายๆคนที่กำลังขมวดคิ้วไปมาครุ่นคิดอย่างหนัก.
จากนั้น,ที่ไกลออกไปดูเหมือนว่าจะมีเซียนโบราณที่เดินทางมาถึงอีก,พวกเขาที่ถูกขวางเอาไว้ด้วยนอก,การต่อสู้ก็ถูกเปิดฉากขึ้นในทันที.
...........
ภายในตำหนักดวงดาว.
จงซาน,กงจูจิวเหว่ยและซูอาโฝวที่เข้ามาในตำหนัก,จ้องมองพื้นที่รอบๆที่กว้างขวางเป็นอย่างมาก.
พื้นที่รอบๆที่เต็มไปด้วยความมืดมิด,ราวกับหลุมดำ,พื้นที่โลกเขตแดนของแดนเทพอมตะ,ยังถือว่าเล็กกว่าด้วยซ้ำ,อย่างไรก็ตาม,พื้นที่รอบๆดูผิดปรกติ,ด้านในเป็นเหมือนกับท้องฟ้าจำลองขนาดใหญ่.
มีดวงดาวมากมายแม้ว่าจะมีขนาดไม่ใหญ่,ทว่าขนาดใหญ่สุดเท่ากับสวนสวรรค์ลอยฟ้าหลิงเซียว.
กงจูจิวเหว่ยที่เงยหน้าขึ้นมารอบๆ.
"ข้าสัมผัสได้,ที่นั่น,ตามข้ามา!"กงจูจิวเหว่ยที่กล่าวออกมาในทันที.
จากนั้นพวกเขาก็บินตรงไปยังดวงดาวขนาดเล็กดวงหนึ่ง.
จงซานและซูอาโฝวที่ตามไป,มองเห็นดวงดาวดังกล่าวปรากฏเป็นริ้วแสงสีมรกตส่องประกายระยิบระยับ,พื้นที่รอบๆดูเหมือนว่าจะมีค่ายกลปกป้องคุ้มครองดาวดวงนี้อยู่.
กงจูจิวเหว่ยที่พบลานจัตุรัสบนดวงดาวได้อย่างรวดเร็ว,ที่ทิศเหนือมีลานขนาดใหญ่,เป็นภูเขาที่ตัดสร้างเป็นลานที่เรียบเนียน.
คนทั้งสามที่ได้บินลงไปยืนบนลาน,พร้อมกับจ้องมองไปยังรอบๆด้วยสายตาจริงจัง,ดูเหมือนว่าจะมีอักษรที่เหนียงเหนียงนวี่หว๋าได้ทิ้งเอาไว้,มันเป็นข้อมูลเกี่ยวกับสมบัติตกทอดของเหนียงเหนียงนวี่หว๋าที่ได้ทิ้งเอาไว้หรือไม่?
ที่มาจากhttps://lnmtl.com/novel/immortality
#นิยาย เรื่องอมตะ #Immortality#นิยายแปลไทย
Author(s)
สนใจสนับสนุนพวกเรา,เข้าร่วมกลุ่ม VIP ====> Click
ปัจจุบันแปลจบแล้ว 1672 ตอน สนใจติดต่อเข้ากลุ่มลับได้ครับ
***เว็ปฟรีอัพ สองวันหนึ่งตอน
***กลุ่มลับ แปลจบแล้ว.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น