วันพุธที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2563

Immortality Chapter 890 Stars palace

Immortality Chapter 890  Stars palace

นิยาย เรื่อง อมตะ ตอนที่ 890  ตำหนักดวงดาว.


Chapter 890  Stars palace
星辰殿
  ตำหนักดวงดาว.

ยามซือ(9 to 11 a.m) วันที่ 7 หลิวเยว่,เซิ่งหวังไท่ชูได้บินขึ้นสู่ท้องฟ้าบนหมู่ดาวเรียบร้อยแล้ว.

และคนที่เดินทางมาด้วยก็คือปรมาจารย์หมากซือเหม่ยนั่นเอง.



ด้วยแสงตะวันที่เจิดจ้า,สว่างไปทั่ว,จนแทบไม่สามารถมองเห็นพื้นที่รอบๆได้,ทว่า,ด้วยพลังฝึกตนระดับเซียนโบราณแล้ว,ทำให้เรื่องนี้ไม่มีปัญหา.

"เซิ่งหวัง,ท่านบอกว่าอ๋องทั้งสามก็จะมาอย่างงั้นรึ?"ปรมาจารย์หมากซือเหม่ยเอ่ยถาม.

"เกี่ยวกับสมบัติตกทอดของปราชญ์เทพเผ่าจิ้งจอก,พวกเขาทั้งสามต้องมาแน่!"เซิ่งหวังไท่ชูกล่าว.

"หวังว่าจะเป็นเช่นนั้น,หลายปีมานี้เซิ่งหวังที่สามารถรวมอ๋องทั้งสามให้คงอยู่ในไท่ชู,ก็เกินกว่าที่ข้าประมาณการแล้ว!"ปรมาจารย์หมากซือเหม่ยที่กล่าวพลางถอนหายใจ.

"อืม,สามอ๋องไท่ชู,นับตั้งแต่บิดาของข้าล่วงหล่นจากบนท้องฟ้า,และส่งต่อให้ข้าสืบทอดตำแหน่ง,แม้ว่าเรื่องนี้จะเป็นความลับ,ซ่อนเรื่องนี้จากคนทั่วหล้า,ทว่าอ๋องทั้งสามเป็นไปไม่ได้ที่จะไม่สามารถคาดเดาได้."เซิ่งหวังไท่ชูที่กล่าวพลางถอนหายใจเล็กน้อย.

"ความคิดของอดีตเซิ่งหวังนั้นเกินจะคาดการ,แม้แต่น้อยผู้น้อยยังไม่เข้าใจ,หลายปีมานี้ไม่สามารถช่วยอะไรได้เลย,เซิ่งหวังอย่าได้ตำหนิ!"ปรมาจารย์หมากซือเหม่ยที่กล่าวพร้อมกับโค้งคำนับให้.

"ไม่มีใครว่ากล่าวเจ้า!"

"เซียนเซิงหลี่เป็นน้องชายในสายโลหิตของท่าน,เชาว์ปัญญาของเขานั้นสูงมาก,ในเมื่อให้เซียนเซิงหลี่จุติแช่แข็งสายโลหิต,แต่กลับให้มาช่วยเซิ่งหวังเพียงเท่านั้นนะรึ? ถ้าจะให้กล่าวล่ะก็,เซิ่งหวังไม่ควรที่จะมอบหน้าที่ให้กับร่างสตรี,ควรจะส่งต่อให้กับเซียนเซิงหลี่ถึงจะเข้าใจได้,ทำไมถึงได้ส่งมอบมาให้ท่านล่ะ?"ปรมาจารย์ซือเหม่ยที่ขมวดคิ้วสอบถาม.

"ท่านพ่อนั้นมีเชาว์ปัญญาที่เป็นเลิศ,เกินกว่าคนจะเข้าใจ,การที่ท่านทำเช่นนั้น,ย่อมเพราะเพื่อเป้าหมาย,ไม่ใช่เพื่อศาลเทวะ,เพื่อภารกิจของพวกเรา,ปรมาจารย์หมากซือเหม่ยอย่าได้ลืม!"เซิ่งหวังไท่ชูที่กล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม.

"ภารกิจ? ต้องทำภารกิจให้สำเร็จอย่างงั้นรึ?"ปรมาจารย์หมากซือเหม่ยที่ฝืนยิ้มออกมา.

"เมื่อกลหมากลวงสวรรค์ของบรรพชนถูกทะลวง,ยุคสมัยต่อไปอาจจะจบลง,เพื่อเป้าหมาย,ภารกิจดังกล่าวแม้ว่าจะทุ่มพลังไปทั้งหมด,แม้แต่ต้องแลกไปด้วยชีวิต,ก็จะยอมแพ้ไม่ได้,หรือว่าท่านยอมแพ้แล้ว?"เซิ่งหวังไท่ชูที่กล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม.

"ไม่,ไม่เคยเลย!"ปรมาจารย์หมากซือเหม่ยกล่าวออกมาอย่างจริงจัง.
 "หลายต่อหลายยุคสมัยต่างก็ไม่เคยลืม,ข้าเชื่อว่า,พวกเราจะเป็นคนทำภารกิจนี้เสร็จได้,ข้าต้องการปลดเปลื้องภาระที่หนักหนานี้ไปจริงๆ."เซิ่งหวังไท่ชูที่กล่าวอย่างหนักแน่น.

"อืม!"

"จากการพยากรณ์ที่ภูเขาเสวี๋ยเหม่ย,ของบรรพชนเฒ่าเสวี๋ยเหม่ย,ได้บอกสถานที่จริงเอาไว้ที่นี่,ไม่รู้ว่าเขาได้บอกกล่าวต่อผู้คนไปมากน้อยเพียงใด!"เซิ่งหวังไท่ชูที่ขมวดคิ้วไปมา.

"บรรพชนเฒ่าเสวี๋ยเหม่ยที่ได้บอกกล่าวตำหนักดวงดาราว่าอยู่ในแถบนี้,หรือว่าเขาได้วางแผนการอะไรเอาไว้ด้วย?"ปรมาจารย์หมากซือเหม่ยที่ขมวดคิ้วไปมา.

"แผนการนั้นต้องมีอย่างแน่นอน,จากท่าทางของบรรพชนเฒ่าเสวี๋ยเหม่ย,เขาจะบอกตำแหน่งที่แท้จริงกับพวกเราจริงๆอย่างงั้นรึ? อย่างไรก็ตามให้ดูสถานที่ที่น่าสงสัย,ข้าสงสัยว่าเกี่ยวกับข้อมูลตำหนักดวงดาวนั้น,อาจจะมีบางสิ่งบางอย่างที่เขาวางแผนเอาไว้ก็ได้."เซิ่งหวังไท่ชูกล่าว.

"เขาต้องการสมบัติของปราชญ์เทพอย่างงั้นรึ?"

"ไม่,บรรพชนเฒ่าเสวี๋ยเหม่ยเขาไม่ได้ต้องการสมบัติปราชญ์เทพ."เซิ่งหวังที่ชูที่ส่ายหน้าไปมา.

"แล้วเขาต้องการอะไร?"

"ตำแหน่งปราชญ์เทพ!"เซิ่งหวังไท่ชูที่กล่าวยืนยัน.

"ตำแหน่งปราชญ์เทพอย่างงั้นรึ? ตอนนี้เขาอยู่ที่นี่อย่างงั้นรึ?"ปรมาจารย์หมากซือเหม่ยที่ขมวดคิ้วไปมา.

"เขา,ในเมื่อเขาได้เผยแพร่ข่าวของเกี่ยวกับตำหนักดวงดาวให้กับคนอื่นแล้ว,แน่นอนว่าเขาย่อมไม่มา,ไม่จำเป็นต้องห่วงเกี่ยวกับเขา!"เซิ่งหวังไท่ชูกล่าว.

"ทำไม?"

"เพราะว่าข่าวที่เขาปล่อยออกไปนั้น,แน่นอนว่าจะต้องเข้าหูปราชญ์เทพบางคนแน่,ข้ายืนยันได้ว่าเขานั้นไม่ต้องการเจอกับปราชญ์เทพไม่ว่าจะเป็นคนใหนก็ตาม!"เซิ่งหวังไท่ชูที่กล่าวอย่างมั่นใจ.

"อดีตเซิ่งหวังมีเชาว์ปัญญาที่เป็นเลิศ,เซียนเซิงหลี่มีกลยุทธิ์ที่น่าเกรงขาม,ดูเหมือนว่าท่านจะยอดเยี่ยมกว่าพวกเขาอีก,ซือเหม่ารู้สึกภาคภูมิใจนัก!"

ทว่าในเวลาเดียวกัน,ภายในเขตแดนบนท้องฟ้าที่พวกเขาอยู่,ดวงดาราที่เคลื่อนไหวไปมาช้าๆ,จากนั้นมิติอากาศที่อยู่ใกล้ๆทันใดนั้นก็ปรากฏอำนาจวิเศษที่ทำให้พื้นที่รอบๆนี้บิดเบี้ยว.

"ถึงยามบ่ายแล้ว!"ปรมาจารย์หมากซือเหม่ยเอ่ย.

พลังที่กำลังสะสมอยู่บนท้องฟ้า,ที่ใจกลางของทะเลดวงดาว,ปรากฏพลังงานมากมายที่กำลังถูกดูดซับเข้ามายังสถานที่แห่งหนึ่ง,ทว่าสถานที่ดังกล่าวนั้นไม่มีอะไรเลย,เป็นเพียงแค่หวงอากาศที่เวิ้งว้าง,หากแต่พลังของดวงดาราที่กำลังสะสมมากขึ้นเรื่อยๆ,หากไม่มีวัตถุอะไร,พลังมากมายจะมาสะสมได้อย่างไร.

หวงมิติเมื่อสะสมพลังงานเพิ่มขึ้นเรื่อยๆไม่หยุด,ก็เริ่มสั่นไหว,เกิดเป็นระลอกคลื่น.

"เปรี้ยง~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~!”

เกิดระเบิดดังสนั่น,มิติอากาศที่เกิดเป็นหลุมดำขนาดใหญ่ดังก้องกังวานไปทั่ว.

หลุมดำขนาดใหญ่,ทันใดนั้นก็ปรากฏตำแหน่งโผล่ออกมาช้าๆ,เป็นตำหนักขนาดมหึมาขณะที่อยู่ในหลุมดำ,ดูยิ่งใหญ่อลังการเป็นอย่างมาก.

"ตำหนักดวงดาวโผล่ออกมาอย่างงั้นรึ? ตำแหน่งของพวกเราดูเหมือนว่าจะอยู่ใกล้ด้วย!"ปรมาจารย์หมากซือเหม่ยที่เผยใบหน้ามีความสุข.

ปรมาจารย์หมากซือเหม่ยและเซิ่งหวังไท่ชูที่บินตรงไปยังทิศทางดังกล่าวด้วยความเร็ว.

แม้ว่าจะอยู่ค่อนข้างใกล้,ทว่าด้วยอาณาเขตดวงดาวนั้นมีขนาดกว้างมากๆ,คนทั้งสองแม้ว่าจะใช้ความเร็วสูงสุด,ก็ยังต้องใช้เวลาอยู่อีกไม่น้อย.

นอกเหนือจากเซิ่งหวังไท่ชูแล้ว,ในเวลานี้ยังมีผู้ฝึกตนคนอื่นๆมองเห็นด้วยเช่นกัน.

เหมือนกับเซิ่งหวังไท่ชูว่าคนเหล่านี้ต่างก็ได้ข้อมูลมากจากบรรพชนเฒ่าเสวี๋ยเหม่ยที่ปล่อยข่าวออกไปนั่นเอง.

สมบัติตกทอดของเหนียงเหนียงนวี่หว๋า,เวลานี้ได้ดึงดูดผู้คนมากมายเข้ามาหา.

เหล่าผู้ฝึกตนจำนวนมากที่พุ่งตรงเข้าไปยังทิศทางตำหนักขนาดใหญ่.

และในเวลาเดียวกันนั้น,กลุ่มสามคนที่รวดเร็วยิ่งกว่าระดับเซียนโบราณใดๆ,เป็นกลุ่มจงซานที่โบยบินขึ้นมาจากท้องทะเลด้วยอุโมงค์แสง.

คนทั้งสามที่ขึ้นมาด้วยเส้นทางที่เหนียงเหนียงนวี่หว๋าทิ้งเอาไว้,มันเคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูงกว่าใครๆพุ่งตรงไปยังตำหนักขนาดใหญ่ในทันที.

คนทั้งสามที่ไม่รับรู้ได้ว่าอุโมงค์แสงนั้นมีความเร็วขนาดใหน,พวกเขารับรู้เพียงว่าภาพฉากรอบๆพวกเขาที่เปลี่ยนไปด้วยความเร็วเท่านั้น.

ไม่นานหลังจากนั้น,พวกเขาก็มาปรากฏขึ้นที่หน้าตำหนักขนาดใหญ่ในทันที,ตำหนักแห่นงนี้กว้างขวางเป็นอย่างมาก,มีขนาดความสูงกว่าหมื่นจั้ง,และด้านบนตำแหน่งมีอักษรเขียนไว้ว่า,ตำหนักแห่งดวงดาว!

พื้นที่รอบๆนั้นไม่มีลมแม้แต่น้อย,แรงดึงดูดเองยังน้อยไปด้วย,หากแต่ไม่ใช่บรรยากาศที่เลวร้ายจนพวกเขาไม่สามารถทนได้.

"มาถึงแล้ว,ตำหนักดวงดาว!"ซูอาโฝวที่กล่าวออกมาด้วยความตื่นเต้น.

ซูอาโฝวที่รับรู้ได้ถึงความยอดเยี่ยมของจงซาน,เขาไม่คิดเลยว่าตัวเองจะโชคดีขนาดนี้ที่ได้มาค้นหาสมบัติของเหนียงเหนียงนวีหว๋าในครั้งนี้.

"เปิดเร็วเข้า,คนอื่นๆใกล้เข้ามาแล้ว!"จงซานกล่าวเตือน.

"อืม!"กงจูจิวเหว่ยที่พยักหน้ารับ.

กงจูจิวเหว่ยที่เคลื่อนที่เข้าไปยังประตูก่อนที่จะใช้มือประทับหน้าประตู,ดวงตาทั้งสองข้างที่หลับลง,ก่อนที่จะปล่อยแสงเก้าสีออกมาจากร่างของนาง.

พลังแสงเก้าสี,จงซานสามารถมองเห็นเป็นเหมือนกับหางยักษ์เก้าหางที่งดงามโผล่ออกมาจากร่างของกงจูจิวเหว่ย.

"ปัง!"

ประตูเปิดเสียงดัง,ก่อนที่จะค่อยๆแง้มออกมาช้าๆ.

"ไป!"กงจูจิวเหว่ยที่กล่าวออกมาด้วยความตื่นเต้น,พร้อมกับก้าวเข้าไปด้านใน.

จงซานและซูอาโฝวที่มองหน้ากันและกัน,ก่อนที่จะก้าวตามเข้าไปด้านใน.

คนทั้งสามที่ก้าวเข้าไปในตำหนักดวงดาว,จดจ้องมองไปยังเหล่าเซียนโบราณที่อยู่ไกลออกไปกำลังบินเข้ามาด้วยความเร็วสูงจดจ้องมองดวงตาลุกเป็นไฟ.

คาดไม่ถึงเลยว่าจะมีคนเข้าไปก่อน? สองเซียนสวรรค์และหนึ่งต้าเซียน? เหล่าเซียนโบราณถึงกับลมออกหู.

"เซิ่งหวัง,กงจูจิวเหว่ยเข้าไปด้านในแล้ว,กงจูจิวเหว่ย!"ปรมาจารย์หมากซือเหม่ยที่กล่าวออกมาด้วยความตื่นเต้น.

"อืม,ขวางทางเข้าเอาไว้,ไม่ให้คนที่ไม่ใช่คนของชิงชิว,เข้าไปได้แม้แต่คนเดียว!"เซิ่งหวังไท่ชูกล่าว.

"รับทราบ!"

"ฟิ้ว!!"

เซิ่งหวังไท่ชูและประมาจารย์หมากซือเหม่ยเป็นกลุ่มแรกในบรรดาเซียนโบราณที่ไปถึง,ก่อนที่พวกเขาจะหยุดอยู่ด้านหน้าตำหนัก,พร้อมกับเริ่มวางค่ายกลสงครามในทันที.

"ฟิ้ว!!"

กลุ่มที่สองที่มาถึง,เป็นประมุขนิกายจื่อเซียว.

"ประมุขนิกายจื่อเซียว,โปรดรอก่อน,สถานที่แห่งนี้เป็นสมบัติของเหนียงเหนียงนวี่หว๋าทิ้งไว้ให้ชิงชิวของข้า,โปรดอย่าได้ขยับ!"เซิ่งหวังไท่ชูที่กล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม.

ประมุขนิกายจื่อเซียวที่จ้องมองเซิ่งหวังไท่ชู,ใบหน้าที่กระตุกแววตาเปลี่ยนเป็นซับซ้อน.

จากนั้น,เซียนโบราณอีกสองคนก็บินมาถึงด้วยเช่นกัน.

เป้าหมายของเหล่าเซียนโบราณนั้นชัดเจน,พวกเขาต้องการเข้าไปในตำหนักดวงดาว,นอกจากประมุขนิกายจื่อเซียว,ตอนนี้มีอีกสามเซียนโบราณที่ถูกขวางเอาไว้ด้านนอก,โดยเซิ่งหวังไท่ชูและปรมาจารย์หมากซือเหม่ย.

"เซิ่งหวังไท่ชู,หลบไป,เจ้ามาขวางพวกเราทำไม,คนที่ได้แลกเปลี่ยนของวิเศษกับข้อมูลจากบรรพชนเฒ่าเสวี๋ยเหม่ยนั้นไม่ได้มีแค่เพียงพวกเรา,พวกเราสามคนไม่มีทางหวาดกลัวเจ้า,คิดว่าจะขวางทางพวกเราเอาไว้อย่างงั้นรึ!"เซียนโบราณคนหนึ่งที่เอ่ยออกมาเสียงดัง.

"วีด ฟิ้ว!!"

ผู้ฝึกตนอีกกลุ่มหนึ่งก็ปรากฏขึ้นมาในทันที,สี่คนที่ไปยืนอยู่ข้างๆเซิ่งหวังไท่ชูในทันที.

"คารวะเซิ่งหวัง!"คนทั้งสี่ที่เอ่ยออกมาในทันที.

หนึ่งในคนทั้งสี่,ก็คือซือหม่าชิง.

"ซือหม่าชิง? คาดไม่ถึงเลยว่าจะก้าวไปถึงระดับเซียนโบราณแล้ว,นับว่าน่ายินดีนัก!"เซิ่งหวังไท่ชูเอ่ย.

"ด้วยการสนับสนุนจากเซิ่งหวัง,ซือหม่าชิงได้ตัดผ่านระดับเมื่อไม่กี่วันที่แล้ว,ตอนนี้ยังไม่เสถียรนัก."ซือหม่าชิงที่กล่าวออกมาในทันที.

ฝั่งของศาลเทวะไท่ชูในเวลานี้ได้เปลี่ยนเป็นหกคนในทันที,และฝั่งตรงข้ามเองก็มีหกคนเช่นกัน,เวลานี้พวกเขาปฏิเสธที่จะยอมกัน.

ซือหม่าชิงที่ลอบมองเป็นระยะ,ขณะที่จับจ้องเฝ้ามองกันกับฝ่ายตรงข้ามอยู่นั้น,พริบตาเดียวเขาได้เคลื่อนย้ายตัวเอง,ลอบเข้าไปในตำหนักดวงดาวในทันที.

ทุกคนที่ขมวดคิ้วไปมา.

"เซิ่งหวังอย่าได้ตำหนิ,บุตรของข้านั้นถูกตามใจมาแต่เด็ก,นิสัยที่เอาแน่นอนไม่ได้,ทว่าอย่างไรก็เป็นคนของชิงชิว,การเข้าไปด้านในก็ไม่มีปัญหา,บางทีอาจจะช่วยเหลือกงจูจิวเหว่ยได้ด้วย!"หนึ่งในนั้นชายในชุดสีดำที่ส่ายหน้าไปมากล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม.

เห็นชัดเจนว่า,ชายในชุดสีดำก็คือประมุขใหญ่ของตระกูลซือหม่า,เป็นหนึ่งในสามอ๋องของศาลเทวะไท่ชู.
 "เซียนโบราณ? เซิ่งหวังทีชูมีเซียนโบราณถึงหกคนอย่างงั้นรึ? ดี,นับว่าไท่ชูแข็งแกร่งไม่น้อย,ทว่านี่คืออาณาเขตดวงดาว,ไม่ใช่ดินแดนของพวกเขา,ข้าจะดูว่าพวกเจ้าจะขวางเอาไว้ได้นานเท่าไหร่!"เซียนโบราณอีกคนที่กล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม.

ในเวลาเดียวกันนั้น,ประมุขนิกายจื่อเซียวที่จ้องมองซือหม่าชิงที่ลอบเขาไปด้วยสายตาลึกล้ำ,ก่อนที่จะเผยยิ้มออกมาเล็กน้อย.

"เมื่อไม่นานมานี้,คนของศาลเทวะไท่ชูได้ช่วยเหลือเซิ่งหนี่ของนิกายจื่อเซียว,ข้ายังไม่ได้ขอบคุณเลย,ในเวลานี้,ข้ายินดีที่จะช่วยศาลเทวะไท่ชูต้านทานเหล่าศัตรู,ปกป้องตำหนักดวงดาว!"ประมุขนิกายจื่อเซียวที่กล่าวออกมาในทันที.

"หืม?"

กับคำพูดของประมุขนิกายจื่อเซียวทำให้ทุกคนกลายเป็นงงงวยในทันที,หลายๆคนที่กำลังขมวดคิ้วไปมาครุ่นคิดอย่างหนัก.

จากนั้น,ที่ไกลออกไปดูเหมือนว่าจะมีเซียนโบราณที่เดินทางมาถึงอีก,พวกเขาที่ถูกขวางเอาไว้ด้วยนอก,การต่อสู้ก็ถูกเปิดฉากขึ้นในทันที.
...........

ภายในตำหนักดวงดาว.

จงซาน,กงจูจิวเหว่ยและซูอาโฝวที่เข้ามาในตำหนัก,จ้องมองพื้นที่รอบๆที่กว้างขวางเป็นอย่างมาก.

พื้นที่รอบๆที่เต็มไปด้วยความมืดมิด,ราวกับหลุมดำ,พื้นที่โลกเขตแดนของแดนเทพอมตะ,ยังถือว่าเล็กกว่าด้วยซ้ำ,อย่างไรก็ตาม,พื้นที่รอบๆดูผิดปรกติ,ด้านในเป็นเหมือนกับท้องฟ้าจำลองขนาดใหญ่.

มีดวงดาวมากมายแม้ว่าจะมีขนาดไม่ใหญ่,ทว่าขนาดใหญ่สุดเท่ากับสวนสวรรค์ลอยฟ้าหลิงเซียว.

กงจูจิวเหว่ยที่เงยหน้าขึ้นมารอบๆ.

"ข้าสัมผัสได้,ที่นั่น,ตามข้ามา!"กงจูจิวเหว่ยที่กล่าวออกมาในทันที.

จากนั้นพวกเขาก็บินตรงไปยังดวงดาวขนาดเล็กดวงหนึ่ง.

จงซานและซูอาโฝวที่ตามไป,มองเห็นดวงดาวดังกล่าวปรากฏเป็นริ้วแสงสีมรกตส่องประกายระยิบระยับ,พื้นที่รอบๆดูเหมือนว่าจะมีค่ายกลปกป้องคุ้มครองดาวดวงนี้อยู่.

กงจูจิวเหว่ยที่พบลานจัตุรัสบนดวงดาวได้อย่างรวดเร็ว,ที่ทิศเหนือมีลานขนาดใหญ่,เป็นภูเขาที่ตัดสร้างเป็นลานที่เรียบเนียน.


คนทั้งสามที่ได้บินลงไปยืนบนลาน,พร้อมกับจ้องมองไปยังรอบๆด้วยสายตาจริงจัง,ดูเหมือนว่าจะมีอักษรที่เหนียงเหนียงนวี่หว๋าได้ทิ้งเอาไว้,มันเป็นข้อมูลเกี่ยวกับสมบัติตกทอดของเหนียงเหนียงนวี่หว๋าที่ได้ทิ้งเอาไว้หรือไม่?






ที่มาจากhttps://lnmtl.com/novel/immortality

#นิยาย เรื่องอมตะ #Immortality#นิยายแปลไทย
Author(s)


สนใจสนับสนุนพวกเรา,เข้าร่วมกลุ่ม VIP ====> Click

ปัจจุบันแปลจบแล้ว 1672 ตอน สนใจติดต่อเข้ากลุ่มลับได้ครับ

***เว็ปฟรีอัพ สองวันหนึ่งตอน
***กลุ่มลับ แปลจบแล้ว.

 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น