Immortality Chapter 877 Damaging severely day and Array Method
นิยาย เรื่อง อมตะ ตอนที่ 877 ค่ายกลโบราณ.
Chapter 877 Damaging severely day and Array
Method
大伤天和的阵法
ค่ายกลโบราณ.
"แม้แต่ปราชญ์เทพหยวนซือยังไม่ต้องการแปดเปื้อนอย่างงั้นรึ?
จะเป็นได้อย่างไร?,มีสิ่งใดที่ปราชญ์เทพต้องหวาดกลัวด้วย?"เฉิงไปอี้ที่กล่าวออกมาด้วยความประหลาดใจ.
เซิ่งหวังไท่อี้ที่จ้องมองไปยังเฉิงไปอี้,ส่ายหน้าไปมาพร้อมกับกล่าวออกมาว่า,"ปราชญ์เทพนั้นไม่ได้หวาดกลัว,ทว่าบางสิ่งบางอย่างก็ไม่ต้องการแปดเปื้อน!"
"ต่างกันอย่างงั้นรึ?"เฉิงไปอี้สอบถาม.
เซิ่งหวังไท่อี้ที่ส่ายหน้าไปมาพร้อมกับกล่าวออกมาว่า,"แน่นอนว่าแตกต่างกัน,ปราชญ์เทพนั้นคือสุดยอดฝีมือในโลกหล้า,ทว่าก็ยังมีบางสิ่งที่ไม่ต้องการแตะต้อง."
"เจ้ากล่าวแล้วทุกคนก็ต้องเชื่ออย่างงั้นรึ?"เฉิงไป่อี้กล่าวหยัน.
"หุบปาก!"ประมุขนิกายจื่อเซียวที่ตะโกนเสียงดังตวาดออกไป.
เฉิงไป่อี้ทำได้แค่เงียบปากภายในใจที่เต็มไปด้วยความห่อเหี่ยว.
ประมุขนิกายจื่อเซียวและเซิ่งหวังไท่ชูที่จ้องมองไปยังเซิ่งหวังไท่อี้.
"พวกเจ้าเชื่อข้าหรือไม่?"เซิ่งหวังไท่อี้เผยยิ้มออกมาบางๆ.
"ข้าเชื่อ!"เซิ่งหวังไท่ชูที่พยักหน้ารับ.
"เข้าเชื่อแต่ต้องการรับรู้ว่าศิลาเทวะห้าสีนี้ปรากฏขึ้นเมื่อไหร่,อยู่ในยุคของปราชญ์เทพหยวนซืออย่างงั้นรึ?"ประมุขนิกายจื่อเซียวที่ขมวดคิ้วไปมา.
"ใช่อยู่ในยุคของหงจวิน,นวีหว๋า,ซานชิง,เจี่ยหยิน,ซุนถี,ไท่ซ่างเองก็ด้วย,ในเวลานั้นปราชญ์เทพทั้งเจ็ดยังไม่คิดที่จะต่อต้านเทียนชู(สวรรค์หนึ่งเดียว),ไม่เคยแม้แต่จะคิด,มันเป็นช่วงเวลาที่ยาวนานมากแล้ว!"เซิ่งหวังไท่อี้ที่สูดหายใจลึก.
"ทำไมอาวุโสซูต้าจี้บอกว่ามีสมบัติวิเศษของชิงชิวที่เหนียงเหนียงนวีหว๋าได้ทิ้งเอาไว้กัน?
ในเมื่อไม่สามารถยึดครองมาได้,ทำไมถึงได้บอกว่าเป็นพิธีการใหญ่ที่เหนียงเหนียงนวีหว๋าได้เตรียมเอาไว้กัน?"เซิ่งหวังไท่ชูที่กล่าวออกมาเบาๆ.
"ซูต้าจี้นั้นเป็นคนที่เหนียงเหนียงนวีหว๋าโปรดมาก,ในอดีต,ราชันย์ซวินอ๋องโจว,ที่ถูกปราชญ์เทพทั้งเจ็ดตรวจสอบ,แต่ด้วยความสามารถของนาง,ทำให้ปราชญ์เทพทั้งเจ็ดไม่สามารถลงมือได้,ด้วยเชาว์ปัญญาของนาง,แม้แต่ปราชญ์เทพยังต้องจากไป,นางสามารถซ่อนความจริงจากสวรรค์ได้,แม้ว่าในเวลานั้นนางถูกกำหนดให้ต้องพังพินาศ,แม้แต่บรรพชนหงจวินวางแผนไว้อย่างดีแล้ว,สุดท้ายก็ยังต้องเสียหายไปไม่น้อย,ซูต้าจี้ในเวลานั้นได้ระเบิด,เมืองศักดิ์สิทธิ์ให้พังทลายพร้อมตกตายไปพร้อมกับนาง,อย่างไรก็ตามเหนียงเหนียงนวีหว๋าก็ได้ยืนมือไปช่วยนางเอาไว้."เซิ่งหวังไท่อี้กล่าวพลางถอนหายใจ.
เห็นชัดเจนว่า,เรื่องราวในชาติที่แล้วของเจิ้นเหรินไท่อี้นั้น,เขาเป็นคนหนึ่งที่รู้เรื่องสำคัญที่เกิดขึ้นในสวรรค์เป็นอย่างดี.
"ซูต้าจี้? นับว่าเป็นอดีตเผ่าจิ้งจอกที่มีเชาว์ปัญญาสูงที่สุด!"ประมุขนิกายจื่อเซียว.
"มากกว่านั้น,เมื่อกลุ่มปราชญ์เทพได้ตัดสินใจวางแผนที่จะต่อต้านเทียนชู,ท้ายที่สุดพวกเขาก็รับรู้เกี่ยวกับโองการสวรรค์,พวกเราไม่รู้เลยว่า,ปราชญ์เทพนั้นเป็นเพียงหมากของเทียนชู,แต่ว่าที่จริงมีซูต้าจี้นางกลับรับรู้,นางที่สามารถคาดการแผนการของเหล่าปราชญ์เทพได้,รับรู้ว่ากลุ่มปราชญ์เทพกำลังกระทำเรื่องใหญ่,นางที่มีเชาว์ปัญญาที่เทียบเท่าเท่ากลุ่มปราชญ์เทพเลย!"เซิ่งหวังไท่อี้กล่าว.
"เรื่องในอดีตท่านเองก็ไม่รู้อย่างงั้นรึ?
รู้หรือไม่ว่าสวรรค์นั้นต้องการอะไร?"เซิ่งหวังไท่ชูที่กล่าวออกมาด้วยความประหลาดใจ.
"ข้าเองก็ไม่รู้,หากแต่คนที่รู้,ไม่เคยมีใครหนีพ้น,แม้แต่ปราชญ์เทพทั้งเจ็ดยังหนีไม่พ้น,ไม่เช่นนั้นข้าจะรอดมาได้อย่างงั้นรึ?
หากข้ารู้เรื่องที่เกิดขึ้นในอดีต,คงไม่แม้แต่สามารถจุติกลับชาติมาใหม่ได้."เซิ่งหวังไท่อี้ที่ส่ายหน้าไปมา.
"เช่นนั้นเจ้ากำลังจะบอกกว่าศิลาเทวะห้าสีก้อนนี้,เกิดก่อนที่ปราชญ์เทพทั้งเจ็ดจะต่อต้านเทียนชูอย่างงั้นรึ?"เซิ่งหวังไท่ชูที่ขมวดคิ้วไปมา.
"ถูกต้อง!"เซิ่งหวังไท่อี้ที่กล่าวตอบ.
"แล้วผนึกใครเอาไว้กันแน่?"ประมุขนิกายจื่อเซียวที่แสดงท่าทางสงสัย.
"ไม่รู้ว่าผนึกอสุรกายปิศาจตนใด,ปราชญ์เทพหยวนซือเองก็ไม่ได้กล่าวถึงเมื่อในอดีต."เซิ่งหวังไท่อี้ที่กล่าวตอบ.
คนหลายคนที่เปลี่ยนเป็นเงียบงัน,ผู้ฝึกตนมากมายที่ฟังเรื่องที่เกิดขึ้นเงียบๆ,ภายในใจที่ดูซับซ้อน,แต่กระนั้นก็ยังมีประกายความโลภที่ยังแสดงออกมาในตาของตัวเอง.
"ประมุขนิกายจื่อเซียว,เซิ่งหวังไท่ชู,โปรดกลับไปเถอะ,สิ่งของชิ้นนี้ไม่สามารถนำไปได้,ถึงแม้นว่าซูต้าจี้จะได้บอกกล่าว,แต่มันไม่ใช่สิ่งของที่จะนำไปใช้ได้!"เซิ่งหวังไท่อี้ที่ส่ายหน้าไปมา.
ทุกคนต่างก็จ้องมองไปยังเกาะกุย,แววตาที่เผยท่าทางจริงจัง,ไม่สามารถนำไปได้,ใครกันที่ถูกผนึกอยู่?
กรรมก้อนใหญ่ที่ปราชญ์เทพยังไม่ต้องการเปรอะเปื้อนอย่างงั้นรึ?
"ยิ่งแก่ยิ่งกลัวตาย!"ทันใดนั้นกงจูจิวเหว่ยที่กระซิบข้างหูของจงซานด้วยเสียงแผ่วเบา.
"หืม?"จงซานที่ตกใจเล็กน้อย.
"มีสิ่งใดต้องกลัวกัน,ศิลาเทวะห้าสีไม่ใช่สมบัติที่สามารถครอบครองได้อย่างงั้น?
อสุรกายปิศาจที่น่าสะพรึงอย่างงั้นรึ? ปิศาจก็คือปิศาจ,มีสิ่งใดน่าหวาดกลัวกัน! หากสวรรค์จะล่มสลายแล้วจะไม่มีคนแลเลยเหรอ!"กงจูจิวเหว่ยที่เบ้ปากขณะพูด.
"หมายความว่าอย่างไร?"ซูอาโฝวเองก็แสดงท่าทางประหลาดใจเช่นกัน.
"หากอสุรกายปิศาจออกมา,ปราชญ์เทพชั้นสูง,คิดว่าพวกเขาจะมองข้ามอย่างงั้นรึ?
หากว่าอสุรกายปิศาจออกมาแล้วไม่ถูกกำจัด,คิดว่าจะมีคนเช่นโพธิจู่ซือไว้ทำไม!"กงจูจิวเหว่ยที่กล่าวตอบ.
"หืม?"
"ก่อนหน้านั้นโพธิจู่ซือออกมา,เขาไม่ได้สังหารเหล่าปิศาจร้าย,ผนึกของเขาทำให้เกิดวานรศิลาจนทำให้ต้องกลายเป็นกรรมจนต้องมอบทักษะความสามารถให้ซุนอู๋คง,ตอนนี้หากว่าอสุรกายปิศาจหลุดออกมา,เขาก็ต้องชดเชยให้กับคนอื่นด้วยเช่นกัน,คงไม่ใช่แค่ศิลาเทวะห้าสีแล้ว,บางที่คงจะเป็นอุปกรณ์เซียนโบราณด้วยซ้ำ!"กงจูจิวเหว่ยที่กล่าวออกมาเบาๆ.
ทว่าแม้นว่าจะเป็นเสียงเบาๆ,ก็มีผู้ฝึกตนมากมายที่ได้ยิน,เสียงที่เข้าไปในหูผู้คนมากมาย.
ผู้ฝึกตนไม่น้อยที่สั่นสะท้าน,ดวงตาที่จับจ้องมองไปยังแผนร้ายของกงจูจิวเหว่ย.
เรื่องนี้เป็นอะไรที่น่าสนใจยิ่งนัก,ศิลาเทวะห้าสีที่ว่ายอดเยี่ยมแล้ว,ยังจะได้รับอุปกรณ์เซียนโบราณด้วยอย่างงั้นรึ?
ทันใดนั้นสายตาของทุกคนที่ลุกวาวขึ้นมาในทันที.
เซิ่งหวังไท่อี้ที่ได้ยินถึงกับพูดไม่ออกจ้องมองไปยังกงจูจิวเหว่ย,คนผู้นี้เป็นใครมาจากใหนกัน?
เขาที่เป็นเซิ่งหวังที่ต้องพูดโน้มน้าวอยู่เป็นนานสองนาน,พริบตาเดียวกลับถูกพัดปลิวหายไปในทันที.
"โลหิต, ธารโลหิต!!!!!!!!!"
ทว่าในเวลาเดียวกันที่ไกลออกไปนั้น,เสียงใครบางคนก็ดังขึ้น,สายตาของทุกคนต่างก็จ้องมองออกไปเป็นสายตาเดียวกัน,ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่,พื้นที่รอบๆที่กลายเป็นสีแดงโลหิต,ธารโลหิตที่ใหญ่โตโบกพันพร้อมกับพุ่งตรงมายังเกาะกุย,มากขึ้นและก็มากขึ้น,ราวกับว่ามันกำลังจะปกคลุมพื้นที่ทั้งหมดของเกาะกุย.
"ฮึม ฮึม................!"
เสียงของภูติผีที่ดังโหยหวนน่าหวาดกลัว,ที่ดังมาพร้อมกับธารโลหิต,ธารโลหิตที่สีแดงปกคลุมผู้คนกลืนกินวิญญาณ,หลายๆคนที่กำลังพยายามตะเกียกตะกายเพื่อให้หลุด,แต่ก็ไม่สามารถหลุดออกมาได้.
"นี่มัน,ไม่ใช่กลุ่มคนที่ตกตายไปก่อนหน้านี้ภายในทะเลอ้าวไลหรอกรึ?
พวกเขาตายแล้ว,ตอนนี้กลายมาเป็นภูติผีอย่างงั้นรึ?"ไม่รู้ว่าใครที่เป็นคนร้องออกมาเสียงดัง.
"ฟิ้ว..........!"
ธารโลหิตที่ราวกับมีชีวิตยืดพุ่งทะยานออกไปหาสิ่งมีชีวิต.
"อ๊ากกกกกกกกกกก!"
เสียงร้องที่เจ็บปวดทรมานจากธารโลหิตที่กลืนกิน,พริบตาเดียวที่มันได้ห่อหุ้มร่าง,ทุกๆคนสามารถมองเห็นได้ว่าคนเหล่านั้นได้กลายเป็นกองกระดูกไปในทันที,ตกตายไปอย่างอเนจอนาถ,ธารโลหิตที่กลืนกินไปแม้แต่ดวงวิญญาณ,เลือดเนื้อทั้งหมดถูกกลืนหายไปพร้อมกับทำให้พวกเขากลายเป็นภูติโลหิตอย่างรวดเร็ว.
เป็นธารโลหิตที่น่าสะพรึงนัก,ธารโลหิตที่พุ่งตรงเข้าหาผู้ฝึกตนนับสิบในเวลาอันรวดเร็ว,เหมือนๆกับคนอื่น,มันได้กลืนกินเลือดเนื้อเปลี่ยนคนเหล่านั้นเป็นภูติโลหิตทันที,เป็นฉากที่น่าสยดสยองเป็นอย่างมาก.
"ฟิ้ว!!"
เหล่าผู้ฝึกตนมากมายที่ทะยานขึ้น,ทั้งบนชายหายและพื้นที่รอบๆตอนนี้เต็มไปด้วยความหวาดผวา,หวาดกลัวหนีตายกันจ้าละหวั่น,ธารโลหิตนี้มันคืออะไรกัน?
"ท้องฟ้า,ท้องฟ้าล่มแล้ว!!!!"
อย่างไรก็ตามในเวลานั้นขณะที่เหล่าผู้ฝึกตนทันทีที่พุ่งตรงหนีขึ้นไปบนท้องฟ้า,ทันใดนั้นบนท้องฟ้า,ก็ปรากฏดวงดาราที่ล่วงหล่นลงมาด้วยความเร็วมากมายอย่างที่สุด.
"หนีเร็วเข้า........!"
ผู้ฝึกตน 70-80
ล้าน,เร่งรีบหนีตายกันจากระหวั่น,พื้นที่รอบๆกลายเป็นปั่นป่วนวุ่นวายขึ้นมาในทันที.
ผู้คนมากมายต่างก็นำของวิเศษออกมา,เพื่อช่วยปกป้องชีวิต,เมื่อต้องเผชิญหน้ากับความตาย,ความโลภก่อนหน้านี้หายไปในทันที,เวลานี้คือต้องหนีออกไปให้ได้.
แต่ว่า,จะสามารถหนีได้อย่างงั้นรึ?
เซิ่งหวังไท่ชู,เซิ่งหวังไท่อี้,ประมุขนิกายจื่อเซียว,สามยอดฝีมือ,ในเวลานี้ไม่มีใครขยับ,กำลังครุ่นคิดเรื่องที่เกิดขึ้น,แววตาที่เผยท่าทางประหลาดใจออกมา.
"หมายความว่าอย่างไรกัน?
ปิดท้องฟ้าได้อย่างงั้นรึ? กินพื้นที่ขนาดใหญ่มาก!"ประมุขนิกายจื่อเซียว.
"พื้นที่รอบๆ,ถูกปิดเอาไว้ทั้งหมด,บางที่นี่เป็นค่ายกลที่ทรงพลังยิ่งกว่าค่ายกลหยกลวงคุนหลุนอีกอย่างงั้นรึ?
ดูเหมือนว่าจะทรงพลังยิ่งกว่าค่ายกระบี่สังหารเซียนด้วย?
"เซิ่งหวังไท่ชูที่เผยท่าทางประหลาดใจออกมา.
"พิธีสังเวยวิญญาณธารโลหิตเบิกฟ้า?
เป็นไปได้อย่างไร?
ใครกันที่สามารถสร้างค่ายกลโบราณเช่นนี้ได้?"เซิ่งหวังไท่อี้ที่กล่าวออกมาด้วยความประหลาดใจ.
"เจิ้นเหรินไท่อี้?
ท่านรู้จักอย่างงั้นรึ?"เซิ่งหวังไท่ชูที่กล่าวออกมาด้วยความประหลาดใจ.
"ทะลวงผนึก,มีบางคนต้องการทะลวงผนึกของอสุรกายปิศาจ!"เซิ่งหวังไท่อี้ที่ขมวดคิ้วไปมา.
"ทะลวงผนึกอย่างงั้นรึ?"
"ไม่ได้การ,พวกเขากำลังทะลวงผนึก,พวกเขาต้องการเพิ่มพลังให้ปิศาจร้าย,โดยการสังเวยดวงวิญญาณร้อยล้านดวง,เพื่อเพิ่มพลังให้กับอสุรกายปิศาจ,บ้าไปแล้ว,พวกเขาบ้าไปแล้ว,ใครกัน?
ใครกันถึงได้ทำเรื่องชั่วร้ายเช่นนี้?"เซิ่งหวังไท่อี้ที่เผยน้ำเสียงตื่นตระหนกออกมา.
"เจิ้นเหรินไท่อี้,หมายความว่าอย่างไร?"เซิ่งหวังไท่ชูที่ขมวดคิ้วไปมา.
"ค่ายกลฮวงจุ้ย,นี่คือค่ายกลฮวงจุ้ย,ทีสามารถฉีกกระชากสวรรค์,ในอดีตนั้น,บรรพชนหงจวินเคยลงมือด้วยตัวเอง,เมื่อครั้งต่อต้านสวรรค์,ค่ายกลนี้จึงได้มีบันทึกเอาไว้ในบันทึกโบราณ,ใครเป็นคนสร้างกัน,มันเคยถูกบรรพชนหงจวินทำลายไปแล้ว,ทำไมมันมาปรากฏขึ้นที่นี่กัน?"เซิ่งหวังทีอี้ที่ขมวดคิ้วไปมา.
"บรรพชนหงจวินได้ทำลายไปแล้วอย่างงั้นรึ?
แล้วเจ้ารู้ได้อย่างไร?"
"บรรพชนหงจวินได้ทำลาย72 ค่ายกลปกป้องสวรรค์,ด้วยการใช้วิชาบำเพ็ญและของวิเศษ,ปราชญ์เทพหยวนซือเองก็เป็นหนึ่งในนั้น,ข้าก็อยู่ในเหตุการณ์นั้นด้วยเช่นกัน."แววตาของเซิ่งหวังไท่อี้ที่เผยแววตาไม่อยากเชื่อ.
"สุดท้ายบรรพชนหงจวินก็ทำไม่สำเร็จสินะ!"เจ้านิกายจื่อเซียวที่ขมวดคิ้วไปมา.
"เป็นไปได้อย่างไร,บรรพชนหงจวินได้บอกว่าทำลายไปเรียบร้อย,มันจะยังคงหลงเหลืออยู่ได้อย่างไร?"
"แล้วมันจะมาปรากฏขึ้นที่นี่ได้อย่างไร?"
"ข้าจะไปรู้ได้อย่างไร!"เซิ่งหวังไท่อี้ที่ดูร้อนรนเช่นกัน.
"แล้วค่ายกลนี้,จะทะลวงได้อย่างไร?"
"ไม่มีใครสามารถทะลวงได้,มีเพียงปราชญ์เทพเท่านั้น,ไม่เช่นนั้นไม่มีทาง,ไม่เช่นนั้นบรรพชนหงจวินจะให้ความสำคัญอย่างงั้นรึ?
ถึงแม้นว่าจะร่วมมือกันก็ไม่มีทางทะลวงออกไปได้,พวกเราทำได้แค่ระวังตัวเองเท่านั้น!"เซิ่งหวังไท่อี้ที่ส่ายหน้าไปมา.
"เสนาธิการศาลเทวะไท่ชูรับคำสัง,ปกป้องตัวเองเอาไว้,ชีวิตและความตายขึ้นอยู่กับพวกเจ้าเองแล้ว!"เซิ่งหวังไท่ชูที่กล่าวออกมาในทันที.
"รับทราบ!"
ชีวิตและความตายอยู่ในมือของตัวเองอย่างงั้นรึ?
กับคำพูดดังกล่าวบ่งบอกได้ถึงสถานะการณ์ที่ย่ำแย่อย่างที่สุด,อสุรกายที่แสนร้ายกาจกำลังจะออกมาอย่างงั้นรึ?
ธารโลหิตในเวลานี้กำลังลอยอยู่เหนือเกาะแล้ว.
เหรินชุนที่ยืนอยู่ด้านนอก,จ้องมองไปยังธารโลหิตที่กำลังปิดบังท้องฟ้าอยู่ในเวลานี้.
"ต้าเหริน,หนึ่งพันเซียนสวรรค์,ได้ถูกสังเวยชะตาวิถีไปแล้ว,ค่ายกลในเวลานี้ถูกเปิดใช้งานแล้ว!"ผู้ใต้บังคับบัญชาผู้หนึ่งรายงาน.
"อืม!"เหรินชุนพยักหน้ารับ.
"ต้าเหริน,ธารโลหิตที่ปิดท้องฟ้านี้,จะมีใครคนใหนสามารถทะลวงออกมาได้หรือไม่?"ผู้ใต้บังคับบัญชาผู้หนึ่งกล่าวออกมาด้วยความกังวล.
"ทะลวงอย่างงั้นรึ?
นี่คือค่ายกลที่จักรพรรดิเทวะได้สร้างขึ้นมาในอดีต,จะมีคนทะลวงได้อย่างงั้นรึ?
มีเพียงปราชญ์เทพเท่านั้น,ช่างน่าสงสารที่ปราชญ์เทพเป็นไปไม่ได้ที่จะมา."เหรินชุนที่กล่าวออกมาด้วยความมั่นใจ.
"จักรพรรดิเทวะยิ่งใหญ่ทรงพลัง!"ผู้ใต้บังคับบัญชาที่แสดงความเคารพด้วยความนับถือ.
"เกี่ยวกับเรื่องที่พวกเราได้จัดเตรียมวิญญาณหลายร้อยล้านดวงเพื่อทะลวงผนึกแห่งนี้,ถึงแม้ว่าจะมีศิลาเทวะห้าสี,ก็ไม่สามารถผนึกต้าเหรินได้อีกแล้ว,ท้ายที่สุดเรื่องที่ทะเลอ้าวไลพวกเราก็สามารถทำสำเร็จ."เหรินชุนที่กล่าวพลางถอนหายใจ.
"ครับ!"
Chapter 877 Damaging severely day and Array
Method
大伤天和的阵法
ค่ายกลโบราณ.
"แม้แต่ปราชญ์เทพหยวนซือยังไม่ต้องการแปดเปื้อนอย่างงั้นรึ?
จะเป็นได้อย่างไร?,มีสิ่งใดที่ปราชญ์เทพต้องหวาดกลัวด้วย?"เฉิงไปอี้ที่กล่าวออกมาด้วยความประหลาดใจ.
เซิ่งหวังไท่อี้ที่จ้องมองไปยังเฉิงไปอี้,ส่ายหน้าไปมาพร้อมกับกล่าวออกมาว่า,"ปราชญ์เทพนั้นไม่ได้หวาดกลัว,ทว่าบางสิ่งบางอย่างก็ไม่ต้องการแปดเปื้อน!"
"ต่างกันอย่างงั้นรึ?"เฉิงไปอี้สอบถาม.
เซิ่งหวังไท่อี้ที่ส่ายหน้าไปมาพร้อมกับกล่าวออกมาว่า,"แน่นอนว่าแตกต่างกัน,ปราชญ์เทพนั้นคือสุดยอดฝีมือในโลกหล้า,ทว่าก็ยังมีบางสิ่งที่ไม่ต้องการแตะต้อง."
"เจ้ากล่าวแล้วทุกคนก็ต้องเชื่ออย่างงั้นรึ?"เฉิงไป่อี้กล่าวหยัน.
"หุบปาก!"ประมุขนิกายจื่อเซียวที่ตะโกนเสียงดังตวาดออกไป.
เฉิงไป่อี้ทำได้แค่เงียบปากภายในใจที่เต็มไปด้วยความห่อเหี่ยว.
ประมุขนิกายจื่อเซียวและเซิ่งหวังไท่ชูที่จ้องมองไปยังเซิ่งหวังไท่อี้.
"พวกเจ้าเชื่อข้าหรือไม่?"เซิ่งหวังไท่อี้เผยยิ้มออกมาบางๆ.
"ข้าเชื่อ!"เซิ่งหวังไท่ชูที่พยักหน้ารับ.
"เข้าเชื่อแต่ต้องการรับรู้ว่าศิลาเทวะห้าสีนี้ปรากฏขึ้นเมื่อไหร่,อยู่ในยุคของปราชญ์เทพหยวนซืออย่างงั้นรึ?"ประมุขนิกายจื่อเซียวที่ขมวดคิ้วไปมา.
"ใช่อยู่ในยุคของหงจวิน,นวีหว๋า,ซานชิง,เจี่ยหยิน,ซุนถี,ไท่ซ่างเองก็ด้วย,ในเวลานั้นปราชญ์เทพทั้งเจ็ดยังไม่คิดที่จะต่อต้านเทียนชู(สวรรค์หนึ่งเดียว),ไม่เคยแม้แต่จะคิด,มันเป็นช่วงเวลาที่ยาวนานมากแล้ว!"เซิ่งหวังไท่อี้ที่สูดหายใจลึก.
"ทำไมอาวุโสซูต้าจี้บอกว่ามีสมบัติวิเศษของชิงชิวที่เหนียงเหนียงนวีหว๋าได้ทิ้งเอาไว้กัน?
ในเมื่อไม่สามารถยึดครองมาได้,ทำไมถึงได้บอกว่าเป็นพิธีการใหญ่ที่เหนียงเหนียงนวีหว๋าได้เตรียมเอาไว้กัน?"เซิ่งหวังไท่ชูที่กล่าวออกมาเบาๆ.
"ซูต้าจี้นั้นเป็นคนที่เหนียงเหนียงนวีหว๋าโปรดมาก,ในอดีต,ราชันย์ซวินอ๋องโจว,ที่ถูกปราชญ์เทพทั้งเจ็ดตรวจสอบ,แต่ด้วยความสามารถของนาง,ทำให้ปราชญ์เทพทั้งเจ็ดไม่สามารถลงมือได้,ด้วยเชาว์ปัญญาของนาง,แม้แต่ปราชญ์เทพยังต้องจากไป,นางสามารถซ่อนความจริงจากสวรรค์ได้,แม้ว่าในเวลานั้นนางถูกกำหนดให้ต้องพังพินาศ,แม้แต่บรรพชนหงจวินวางแผนไว้อย่างดีแล้ว,สุดท้ายก็ยังต้องเสียหายไปไม่น้อย,ซูต้าจี้ในเวลานั้นได้ระเบิด,เมืองศักดิ์สิทธิ์ให้พังทลายพร้อมตกตายไปพร้อมกับนาง,อย่างไรก็ตามเหนียงเหนียงนวีหว๋าก็ได้ยืนมือไปช่วยนางเอาไว้."เซิ่งหวังไท่อี้กล่าวพลางถอนหายใจ.
เห็นชัดเจนว่า,เรื่องราวในชาติที่แล้วของเจิ้นเหรินไท่อี้นั้น,เขาเป็นคนหนึ่งที่รู้เรื่องสำคัญที่เกิดขึ้นในสวรรค์เป็นอย่างดี.
"ซูต้าจี้? นับว่าเป็นอดีตเผ่าจิ้งจอกที่มีเชาว์ปัญญาสูงที่สุด!"ประมุขนิกายจื่อเซียว.
"มากกว่านั้น,เมื่อกลุ่มปราชญ์เทพได้ตัดสินใจวางแผนที่จะต่อต้านเทียนชู,ท้ายที่สุดพวกเขาก็รับรู้เกี่ยวกับโองการสวรรค์,พวกเราไม่รู้เลยว่า,ปราชญ์เทพนั้นเป็นเพียงหมากของเทียนชู,แต่ว่าที่จริงมีซูต้าจี้นางกลับรับรู้,นางที่สามารถคาดการแผนการของเหล่าปราชญ์เทพได้,รับรู้ว่ากลุ่มปราชญ์เทพกำลังกระทำเรื่องใหญ่,นางที่มีเชาว์ปัญญาที่เทียบเท่าเท่ากลุ่มปราชญ์เทพเลย!"เซิ่งหวังไท่อี้กล่าว.
"เรื่องในอดีตท่านเองก็ไม่รู้อย่างงั้นรึ?
รู้หรือไม่ว่าสวรรค์นั้นต้องการอะไร?"เซิ่งหวังไท่ชูที่กล่าวออกมาด้วยความประหลาดใจ.
"ข้าเองก็ไม่รู้,หากแต่คนที่รู้,ไม่เคยมีใครหนีพ้น,แม้แต่ปราชญ์เทพทั้งเจ็ดยังหนีไม่พ้น,ไม่เช่นนั้นข้าจะรอดมาได้อย่างงั้นรึ?
หากข้ารู้เรื่องที่เกิดขึ้นในอดีต,คงไม่แม้แต่สามารถจุติกลับชาติมาใหม่ได้."เซิ่งหวังไท่อี้ที่ส่ายหน้าไปมา.
"เช่นนั้นเจ้ากำลังจะบอกกว่าศิลาเทวะห้าสีก้อนนี้,เกิดก่อนที่ปราชญ์เทพทั้งเจ็ดจะต่อต้านเทียนชูอย่างงั้นรึ?"เซิ่งหวังไท่ชูที่ขมวดคิ้วไปมา.
"ถูกต้อง!"เซิ่งหวังไท่อี้ที่กล่าวตอบ.
"แล้วผนึกใครเอาไว้กันแน่?"ประมุขนิกายจื่อเซียวที่แสดงท่าทางสงสัย.
"ไม่รู้ว่าผนึกอสุรกายปิศาจตนใด,ปราชญ์เทพหยวนซือเองก็ไม่ได้กล่าวถึงเมื่อในอดีต."เซิ่งหวังไท่อี้ที่กล่าวตอบ.
คนหลายคนที่เปลี่ยนเป็นเงียบงัน,ผู้ฝึกตนมากมายที่ฟังเรื่องที่เกิดขึ้นเงียบๆ,ภายในใจที่ดูซับซ้อน,แต่กระนั้นก็ยังมีประกายความโลภที่ยังแสดงออกมาในตาของตัวเอง.
"ประมุขนิกายจื่อเซียว,เซิ่งหวังไท่ชู,โปรดกลับไปเถอะ,สิ่งของชิ้นนี้ไม่สามารถนำไปได้,ถึงแม้นว่าซูต้าจี้จะได้บอกกล่าว,แต่มันไม่ใช่สิ่งของที่จะนำไปใช้ได้!"เซิ่งหวังไท่อี้ที่ส่ายหน้าไปมา.
ทุกคนต่างก็จ้องมองไปยังเกาะกุย,แววตาที่เผยท่าทางจริงจัง,ไม่สามารถนำไปได้,ใครกันที่ถูกผนึกอยู่?
กรรมก้อนใหญ่ที่ปราชญ์เทพยังไม่ต้องการเปรอะเปื้อนอย่างงั้นรึ?
"ยิ่งแก่ยิ่งกลัวตาย!"ทันใดนั้นกงจูจิวเหว่ยที่กระซิบข้างหูของจงซานด้วยเสียงแผ่วเบา.
"หืม?"จงซานที่ตกใจเล็กน้อย.
"มีสิ่งใดต้องกลัวกัน,ศิลาเทวะห้าสีไม่ใช่สมบัติที่สามารถครอบครองได้อย่างงั้น?
อสุรกายปิศาจที่น่าสะพรึงอย่างงั้นรึ? ปิศาจก็คือปิศาจ,มีสิ่งใดน่าหวาดกลัวกัน! หากสวรรค์จะล่มสลายแล้วจะไม่มีคนแลเลยเหรอ!"กงจูจิวเหว่ยที่เบ้ปากขณะพูด.
"หมายความว่าอย่างไร?"ซูอาโฝวเองก็แสดงท่าทางประหลาดใจเช่นกัน.
"หากอสุรกายปิศาจออกมา,ปราชญ์เทพชั้นสูง,คิดว่าพวกเขาจะมองข้ามอย่างงั้นรึ?
หากว่าอสุรกายปิศาจออกมาแล้วไม่ถูกกำจัด,คิดว่าจะมีคนเช่นโพธิจู่ซือไว้ทำไม!"กงจูจิวเหว่ยที่กล่าวตอบ.
"หืม?"
"ก่อนหน้านั้นโพธิจู่ซือออกมา,เขาไม่ได้สังหารเหล่าปิศาจร้าย,ผนึกของเขาทำให้เกิดวานรศิลาจนทำให้ต้องกลายเป็นกรรมจนต้องมอบทักษะความสามารถให้ซุนอู๋คง,ตอนนี้หากว่าอสุรกายปิศาจหลุดออกมา,เขาก็ต้องชดเชยให้กับคนอื่นด้วยเช่นกัน,คงไม่ใช่แค่ศิลาเทวะห้าสีแล้ว,บางที่คงจะเป็นอุปกรณ์เซียนโบราณด้วยซ้ำ!"กงจูจิวเหว่ยที่กล่าวออกมาเบาๆ.
ทว่าแม้นว่าจะเป็นเสียงเบาๆ,ก็มีผู้ฝึกตนมากมายที่ได้ยิน,เสียงที่เข้าไปในหูผู้คนมากมาย.
ผู้ฝึกตนไม่น้อยที่สั่นสะท้าน,ดวงตาที่จับจ้องมองไปยังแผนร้ายของกงจูจิวเหว่ย.
เรื่องนี้เป็นอะไรที่น่าสนใจยิ่งนัก,ศิลาเทวะห้าสีที่ว่ายอดเยี่ยมแล้ว,ยังจะได้รับอุปกรณ์เซียนโบราณด้วยอย่างงั้นรึ?
ทันใดนั้นสายตาของทุกคนที่ลุกวาวขึ้นมาในทันที.
เซิ่งหวังไท่อี้ที่ได้ยินถึงกับพูดไม่ออกจ้องมองไปยังกงจูจิวเหว่ย,คนผู้นี้เป็นใครมาจากใหนกัน?
เขาที่เป็นเซิ่งหวังที่ต้องพูดโน้มน้าวอยู่เป็นนานสองนาน,พริบตาเดียวกลับถูกพัดปลิวหายไปในทันที.
"โลหิต, ธารโลหิต!!!!!!!!!"
ทว่าในเวลาเดียวกันที่ไกลออกไปนั้น,เสียงใครบางคนก็ดังขึ้น,สายตาของทุกคนต่างก็จ้องมองออกไปเป็นสายตาเดียวกัน,ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่,พื้นที่รอบๆที่กลายเป็นสีแดงโลหิต,ธารโลหิตที่ใหญ่โตโบกพันพร้อมกับพุ่งตรงมายังเกาะกุย,มากขึ้นและก็มากขึ้น,ราวกับว่ามันกำลังจะปกคลุมพื้นที่ทั้งหมดของเกาะกุย.
"ฮึม ฮึม................!"
เสียงของภูติผีที่ดังโหยหวนน่าหวาดกลัว,ที่ดังมาพร้อมกับธารโลหิต,ธารโลหิตที่สีแดงปกคลุมผู้คนกลืนกินวิญญาณ,หลายๆคนที่กำลังพยายามตะเกียกตะกายเพื่อให้หลุด,แต่ก็ไม่สามารถหลุดออกมาได้.
"นี่มัน,ไม่ใช่กลุ่มคนที่ตกตายไปก่อนหน้านี้ภายในทะเลอ้าวไลหรอกรึ?
พวกเขาตายแล้ว,ตอนนี้กลายมาเป็นภูติผีอย่างงั้นรึ?"ไม่รู้ว่าใครที่เป็นคนร้องออกมาเสียงดัง.
"ฟิ้ว..........!"
ธารโลหิตที่ราวกับมีชีวิตยืดพุ่งทะยานออกไปหาสิ่งมีชีวิต.
"อ๊ากกกกกกกกกกก!"
เสียงร้องที่เจ็บปวดทรมานจากธารโลหิตที่กลืนกิน,พริบตาเดียวที่มันได้ห่อหุ้มร่าง,ทุกๆคนสามารถมองเห็นได้ว่าคนเหล่านั้นได้กลายเป็นกองกระดูกไปในทันที,ตกตายไปอย่างอเนจอนาถ,ธารโลหิตที่กลืนกินไปแม้แต่ดวงวิญญาณ,เลือดเนื้อทั้งหมดถูกกลืนหายไปพร้อมกับทำให้พวกเขากลายเป็นภูติโลหิตอย่างรวดเร็ว.
เป็นธารโลหิตที่น่าสะพรึงนัก,ธารโลหิตที่พุ่งตรงเข้าหาผู้ฝึกตนนับสิบในเวลาอันรวดเร็ว,เหมือนๆกับคนอื่น,มันได้กลืนกินเลือดเนื้อเปลี่ยนคนเหล่านั้นเป็นภูติโลหิตทันที,เป็นฉากที่น่าสยดสยองเป็นอย่างมาก.
"ฟิ้ว!!"
เหล่าผู้ฝึกตนมากมายที่ทะยานขึ้น,ทั้งบนชายหายและพื้นที่รอบๆตอนนี้เต็มไปด้วยความหวาดผวา,หวาดกลัวหนีตายกันจ้าละหวั่น,ธารโลหิตนี้มันคืออะไรกัน?
"ท้องฟ้า,ท้องฟ้าล่มแล้ว!!!!"
อย่างไรก็ตามในเวลานั้นขณะที่เหล่าผู้ฝึกตนทันทีที่พุ่งตรงหนีขึ้นไปบนท้องฟ้า,ทันใดนั้นบนท้องฟ้า,ก็ปรากฏดวงดาราที่ล่วงหล่นลงมาด้วยความเร็วมากมายอย่างที่สุด.
"หนีเร็วเข้า........!"
ผู้ฝึกตน 70-80
ล้าน,เร่งรีบหนีตายกันจากระหวั่น,พื้นที่รอบๆกลายเป็นปั่นป่วนวุ่นวายขึ้นมาในทันที.
ผู้คนมากมายต่างก็นำของวิเศษออกมา,เพื่อช่วยปกป้องชีวิต,เมื่อต้องเผชิญหน้ากับความตาย,ความโลภก่อนหน้านี้หายไปในทันที,เวลานี้คือต้องหนีออกไปให้ได้.
แต่ว่า,จะสามารถหนีได้อย่างงั้นรึ?
เซิ่งหวังไท่ชู,เซิ่งหวังไท่อี้,ประมุขนิกายจื่อเซียว,สามยอดฝีมือ,ในเวลานี้ไม่มีใครขยับ,กำลังครุ่นคิดเรื่องที่เกิดขึ้น,แววตาที่เผยท่าทางประหลาดใจออกมา.
"หมายความว่าอย่างไรกัน?
ปิดท้องฟ้าได้อย่างงั้นรึ? กินพื้นที่ขนาดใหญ่มาก!"ประมุขนิกายจื่อเซียว.
"พื้นที่รอบๆ,ถูกปิดเอาไว้ทั้งหมด,บางที่นี่เป็นค่ายกลที่ทรงพลังยิ่งกว่าค่ายกลหยกลวงคุนหลุนอีกอย่างงั้นรึ?
ดูเหมือนว่าจะทรงพลังยิ่งกว่าค่ายกระบี่สังหารเซียนด้วย?
"เซิ่งหวังไท่ชูที่เผยท่าทางประหลาดใจออกมา.
"พิธีสังเวยวิญญาณธารโลหิตเบิกฟ้า?
เป็นไปได้อย่างไร?
ใครกันที่สามารถสร้างค่ายกลโบราณเช่นนี้ได้?"เซิ่งหวังไท่อี้ที่กล่าวออกมาด้วยความประหลาดใจ.
"เจิ้นเหรินไท่อี้?
ท่านรู้จักอย่างงั้นรึ?"เซิ่งหวังไท่ชูที่กล่าวออกมาด้วยความประหลาดใจ.
"ทะลวงผนึก,มีบางคนต้องการทะลวงผนึกของอสุรกายปิศาจ!"เซิ่งหวังไท่อี้ที่ขมวดคิ้วไปมา.
"ทะลวงผนึกอย่างงั้นรึ?"
"ไม่ได้การ,พวกเขากำลังทะลวงผนึก,พวกเขาต้องการเพิ่มพลังให้ปิศาจร้าย,โดยการสังเวยดวงวิญญาณร้อยล้านดวง,เพื่อเพิ่มพลังให้กับอสุรกายปิศาจ,บ้าไปแล้ว,พวกเขาบ้าไปแล้ว,ใครกัน?
ใครกันถึงได้ทำเรื่องชั่วร้ายเช่นนี้?"เซิ่งหวังไท่อี้ที่เผยน้ำเสียงตื่นตระหนกออกมา.
"เจิ้นเหรินไท่อี้,หมายความว่าอย่างไร?"เซิ่งหวังไท่ชูที่ขมวดคิ้วไปมา.
"ค่ายกลฮวงจุ้ย,นี่คือค่ายกลฮวงจุ้ย,ทีสามารถฉีกกระชากสวรรค์,ในอดีตนั้น,บรรพชนหงจวินเคยลงมือด้วยตัวเอง,เมื่อครั้งต่อต้านสวรรค์,ค่ายกลนี้จึงได้มีบันทึกเอาไว้ในบันทึกโบราณ,ใครเป็นคนสร้างกัน,มันเคยถูกบรรพชนหงจวินทำลายไปแล้ว,ทำไมมันมาปรากฏขึ้นที่นี่กัน?"เซิ่งหวังทีอี้ที่ขมวดคิ้วไปมา.
"บรรพชนหงจวินได้ทำลายไปแล้วอย่างงั้นรึ?
แล้วเจ้ารู้ได้อย่างไร?"
"บรรพชนหงจวินได้ทำลาย72 ค่ายกลปกป้องสวรรค์,ด้วยการใช้วิชาบำเพ็ญและของวิเศษ,ปราชญ์เทพหยวนซือเองก็เป็นหนึ่งในนั้น,ข้าก็อยู่ในเหตุการณ์นั้นด้วยเช่นกัน."แววตาของเซิ่งหวังไท่อี้ที่เผยแววตาไม่อยากเชื่อ.
"สุดท้ายบรรพชนหงจวินก็ทำไม่สำเร็จสินะ!"เจ้านิกายจื่อเซียวที่ขมวดคิ้วไปมา.
"เป็นไปได้อย่างไร,บรรพชนหงจวินได้บอกว่าทำลายไปเรียบร้อย,มันจะยังคงหลงเหลืออยู่ได้อย่างไร?"
"แล้วมันจะมาปรากฏขึ้นที่นี่ได้อย่างไร?"
"ข้าจะไปรู้ได้อย่างไร!"เซิ่งหวังไท่อี้ที่ดูร้อนรนเช่นกัน.
"แล้วค่ายกลนี้,จะทะลวงได้อย่างไร?"
"ไม่มีใครสามารถทะลวงได้,มีเพียงปราชญ์เทพเท่านั้น,ไม่เช่นนั้นไม่มีทาง,ไม่เช่นนั้นบรรพชนหงจวินจะให้ความสำคัญอย่างงั้นรึ?
ถึงแม้นว่าจะร่วมมือกันก็ไม่มีทางทะลวงออกไปได้,พวกเราทำได้แค่ระวังตัวเองเท่านั้น!"เซิ่งหวังไท่อี้ที่ส่ายหน้าไปมา.
"เสนาธิการศาลเทวะไท่ชูรับคำสัง,ปกป้องตัวเองเอาไว้,ชีวิตและความตายขึ้นอยู่กับพวกเจ้าเองแล้ว!"เซิ่งหวังไท่ชูที่กล่าวออกมาในทันที.
"รับทราบ!"
ชีวิตและความตายอยู่ในมือของตัวเองอย่างงั้นรึ?
กับคำพูดดังกล่าวบ่งบอกได้ถึงสถานะการณ์ที่ย่ำแย่อย่างที่สุด,อสุรกายที่แสนร้ายกาจกำลังจะออกมาอย่างงั้นรึ?
ธารโลหิตในเวลานี้กำลังลอยอยู่เหนือเกาะแล้ว.
เหรินชุนที่ยืนอยู่ด้านนอก,จ้องมองไปยังธารโลหิตที่กำลังปิดบังท้องฟ้าอยู่ในเวลานี้.
"ต้าเหริน,หนึ่งพันเซียนสวรรค์,ได้ถูกสังเวยชะตาวิถีไปแล้ว,ค่ายกลในเวลานี้ถูกเปิดใช้งานแล้ว!"ผู้ใต้บังคับบัญชาผู้หนึ่งรายงาน.
"อืม!"เหรินชุนพยักหน้ารับ.
"ต้าเหริน,ธารโลหิตที่ปิดท้องฟ้านี้,จะมีใครคนใหนสามารถทะลวงออกมาได้หรือไม่?"ผู้ใต้บังคับบัญชาผู้หนึ่งกล่าวออกมาด้วยความกังวล.
"ทะลวงอย่างงั้นรึ?
นี่คือค่ายกลที่จักรพรรดิเทวะได้สร้างขึ้นมาในอดีต,จะมีคนทะลวงได้อย่างงั้นรึ?
มีเพียงปราชญ์เทพเท่านั้น,ช่างน่าสงสารที่ปราชญ์เทพเป็นไปไม่ได้ที่จะมา."เหรินชุนที่กล่าวออกมาด้วยความมั่นใจ.
"จักรพรรดิเทวะยิ่งใหญ่ทรงพลัง!"ผู้ใต้บังคับบัญชาที่แสดงความเคารพด้วยความนับถือ.
"เกี่ยวกับเรื่องที่พวกเราได้จัดเตรียมวิญญาณหลายร้อยล้านดวงเพื่อทะลวงผนึกแห่งนี้,ถึงแม้ว่าจะมีศิลาเทวะห้าสี,ก็ไม่สามารถผนึกต้าเหรินได้อีกแล้ว,ท้ายที่สุดเรื่องที่ทะเลอ้าวไลพวกเราก็สามารถทำสำเร็จ."เหรินชุนที่กล่าวพลางถอนหายใจ.
"ครับ!"
ที่มาจากhttps://lnmtl.com/novel/immortality
#นิยาย เรื่องอมตะ #Immortality#นิยายแปลไทย
Author(s)
สนใจสนับสนุนพวกเรา,เข้าร่วมกลุ่ม VIP ====> Click
ปัจจุบันแปลจบแล้ว 1672 ตอน สนใจติดต่อเข้ากลุ่มลับได้ครับ
***เว็ปฟรีอัพ สองวันหนึ่งตอน
***กลุ่มลับ แปลจบแล้ว.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น