Immortality Chapter 858 Mystical nine
นิยาย เรื่อง อมตะ ตอนที่ 858 จิวเหว่ยผู้ลึกลับ
Chapter 858 Mystical nine
神秘的九尾
จิวเหว่ยผู้ลึกลับ
"ซือหม่าชิง,ไม่ธรรมดาจริงๆ,20 หมากอย่างงั้นรึ?
ความสามารถของเขาที่ทำให้ทัณฑ์สวรรค์ถึงกับต้องการกำจัดเขาไปเลยรึ?!"ใบหน้าของซูอาโฝวที่กล่าวออกมาด้วยความอิจฉา.
ไม่ใช่แค่อาโฝวเพียงคนเดียว,เหล่ามือหมากที่อยู่รอบๆ,ก็เผยสีหน้าแววตาอิจฉาด้วยเช่นกัน,ต้องไม่ลืมว่า,คนสนิทของเซิ่งหวัง,เสนาธิการผู้มากความสามารถเซียนเซิงหลี่นั้นสามารถเดินไปได้เพียงแค่
15 หมากเท่านั้น,ซือหม่าชิง 20 หมาก,เขาอยู่ในเขตแดนที่เหนือกว่าจริงๆรึ?
ไม่ว่าอย่างไรเหล่ามือหมากที่เข้าร่วมในครั้งนี้ต่างก็รู้ดี,การก้าวเดินไปบนกระดานหมากล้อมวิญญาณนี้,มีผลต่อจิตใจอย่างรุนแรง,เป็นการเคี่ยวกรำจิตใจของตัวเองด้วยพลังงานจากสวรรค์,ความยากของมันนั้นเกินจะหยั่ง.
ซือหม่าชิงนับว่าพ่ายแพ้แต่ยอดเยี่ยม,อภินิหารของสวรรค์ที่ก่อเกิดขึ้นมานั้น,ไม่ได้เกิดขึ้นจากพลังวิเศษหรือค่ายกลแต่อย่างใด,แต่มันเป็นอำนาจของวิถีหมาก,เป็นหนึ่งในวิถีสวรรค์ของการเดินหมากนั่นเอง.
"จงซาน,เจ้าต้องล้มปรมาจารย์ซือเหม่ยให้ได้นะ."กงจูจิวเหว่ยที่กล่าวต่อจงซาน.
ซูอาฝูถึงกับพูดไม่ออก,นี่กงจูจิวเหว่ยกำลังคิดอะไรอยู่,แม้แต่คนที่อยู่ที่นี่ทั้งหมดรวมกัน
ยังสามารถเอาชนะปรมาจารย์หมาซือเหม่ยได้เลยไม่ใช่รึ?นี่คือยอดฝีมืออันดับหนึ่งของอาณาเขตเฟิงจง,จะมีใครสามารถเอาชนะได้?
จากที่ไกลออกไปนั้น,ปรมาจารย์ซือเหม่ยไม่ได้มองไปยังมือหมากคนใหนต่อ,ทว่าเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้าและกล่าวออกมาเบาๆ,"เจ้านิกายจื่อเซียวอุตสามาเยี่ยมด้วยตัวเอง,กับคนทรงเกียรติเช่นนี้,ซือเหม่ยไม่กล้ารับ,แต่การที่เจ้านิกายจื่อเซียวซ่อนตัวอยู่เช่นนั้น,ไม่คิดว่ากำลังทำลายเกียรติของตัวเองอยู่รึ?"
กับคำพูดของปรมาจารย์ซือเหม่ยทำให้ทุกคนตื่นตกใจขึ้นมาในทันที.
เจ้านิกายจื่อเซียว?
หนึ่งในกลุ่มอิทธิพลของอาณาเขตเฟิงจงนะรึ? เขามาด้วยอย่างงั้นรึ?
ขณะที่ทุกคนกำลังเต็มไปด้วยความประหลาดใจ,บนลานยอดเขาสถานที่ของปรมาจารย์ซือเหม่ย,เกิดประกายสายฟ้าสีม่วงที่ฟาดลงมา,ก่อนจะปรากฏชายในชุดพรตเต๋าสีม่วง,ชายที่หน้าผากมีกระกระดูกคู่ที่ร้ายกาจประทับอยู่.
พริบตาที่เจ้านิกายจื่อเซียวปรากฏขึ้น,แรงกดดันวิญญาณมหาศาลที่แผ่พุ่งออกไปทั่วทุกสารทิศ,เหล่าผู้ฝึกตนที่มีพลังฝึกตนถึงกับหายใจหอบกันทีเดียว.
แรงกดดันของผู้มีมรรคราระดับสูง,ทำให้ทุกคนจำต้องชำเลืองมอง.
เจ้านิกายจื่อเซียว,ก่อนหน้านี้เคยเป็นคนในกลุ่มคนที่ออกมากดดันศาลเทวะต้าเจิ้ง,จงซานที่จ้องมองไปยังเจ้านิกายจื่อเซียว,ต้องหรี่ตาจ้องมองดวงตาหดเกร็ง.
"เจ้าสำนักจื่อเซียวไม่ใช่คนที่ได้รับเชิญ,ไม่รู้ว่ามาทำอะไรที่นี่กัน?"ปรมาจารย์จื่อเซียวที่กล่าวสอบถาม.
"ทุกๆหนึ่งพันปีจะต้องมีการแข่งขันหมากล้อมวิญญาณขึ้นที่เทือกเขาม่านหมอก,ทำไม?"เจ้าสำนักจื่อเซียวที่สอบถามออกมาเบาๆ.
"เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับเผ่าจิ้งจอก,เผ่าจิ้งจอกที่เป็นอาณาจักรคู่บารมีกับศาลเทวะไท่ชู,ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับนิกายจื่อเซียวเลยไม่ใช่รึ?"ปรมาจารย์ซือเหม่ยที่กล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม.
"ไม่เกี่ยวได้อย่างไร? เผ่าจิ้งจอกอย่างงั้นรึ?
วิหารจื่อเซียวของข้าเองก็มีเผ่าจิ้งจอกเช่นกัน,ทำไมข้าประมุขนิกายจื่อเซียวถึงไม่มีสิทธิ์เข้าร่วมล่ะ?"เจ้านิกายจื่อเซียวที่กล่าวออกมาอย่างใจเย็นไม่รีบร้อน.
"ตลอดหนึ่งแสนปีที่ผ่านมา,นิกายจื่อเซียวไม่เคยสนใจเทือกเขาม่านหมอกเลย,ทำไมเวลานี้ถึงต้องการแข็งขืนที่จะเข้าร่วมล่ะ?
ตาเฒ่าเช่นข้าสงสัยนัก,ขอให้ประมุขจื่อเซียวช่วยไขข้อสงสัยนี้ด้วย!"ปรมาจารย์หมากซือเหม่ยที่ขมวดคิ้วไปมาสอบถาม.
"เพราะว่าข้าต้องการเข้าร่วมในครั้งนี้,ต้องการเห็นผลลัพธ์ไงล่ะ."ประมุขนิกายจื่อเซียวกล่าวออกมาเล็กน้อย.
ทุกคนรับรู้ดีว่าเจ้านิกายจื่อเซียวนั้นไม่ยอมพูดความจริง,หากแต่พวกเขาก็ไม่มีคุณสมบัติที่จะไปบังคับเช่นกัน,พวกเขาที่อยู่ในนี้ไม่มีใครยอมรับแม้แต่น้อย.
"เจ้านิกายจื่อเซียวเพียงแค่ต้องการเข้าร่วมหมากรุกวิญญาณอย่างงั้นรึ?
ไม่ใช่เพราะเหตุผลอื่นไม่ใช่รึ?"ปรมาจารย์ซือเหม่ยกล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม.
"ข้ามาเพื่อเขตแดนลับเซียนโบราณ!"เจ้าตำหนักจื่อเซียนเผยยิ้มออกมาเล็กน้อย.
เขตแดนลับเซียนโบราณ?
ได้ยินคำพูดของประมุขนิกายจื่อเซียว,ทำให้ใบหน้าของปรมาจารย์หมากซือเหม่ยเปลี่ยนเป็นซับซ้อน,จ้องเขม็งไปยังเจ้านิกายจื่อเซียว.
"ประมุขนิกายจื่อเซียวเป็นเซียนโบราณ,ทว่ากลับสนใจเขตแดนลับของเซียนโบราณคนอื่นอย่างงั้นรึ?
นอกจากนี้มันยังเป็นของเผ่าจิ้งจอกของข้า,ไม่กลัวว่าจะล่วงเกินทุกคนทั่วทั้งชิงชิวหรอกรึ?"ปรมาจารย์หมากซือเหม่ยกล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม.
"เซียนโบราณ?
ข้าเป็นเซียนโบราณ,ทว่าเซียนโบราณที่อยู่ในเขตแดนลับเซียนโบราณนั้นแตกต่างออกไป,เซียนโบราณผู้นั้นเป็นผู้ติดตามปราชญ์เทพ,เขาที่เป็นเซียนโบราณที่ติดตามปราชญ์เทพโบราณ,วันนี้ข้าต้องการเดินหมากเพื่อตัดสินว่าข้าจะมีคุณสมบัติพอได้เข้าไปด้านในนั้นหรือไม่!"เจ้านิกายจื่อเซียวที่กล่าวเสียงดังพร้อมกับเผยยิ้มออกมาเล็กน้อย.
เจ้านิกายจื่อเซียวที่กำลังข่มขู่ปรมาจารย์หมากจื่อเซียวอยู่อย่างงั้นรึ?
สายตาของเหล่ามือหมากทั้งหมดที่อยู่ที่นี่เผยท่าทางโกรธเกรี้ยวออกมา,ทว่าก็ไม่ใช่ธุระของพวกด้วยเช่นกัน,จึงไม่มีใครกระโดดเข้าไป.
อีกอย่างการเข้าไปหาเรื่องกับเจ้านิกายจื่อเซียว,ไม่ใช่ว่าเป็นการแส่หาความตายหรอกรึ?
ปรมาจารย์หมากซือเหม่ยที่จ้องมองเจ้านิกายจื่อเซียว,"ก็ดี,เกี่ยวกับกฏระเบียบ,หากประมุขจื่อเซียวสามารถทะลวงค่ายกลลวงสวรรค์ของข้าได้ล่ะก็,นับจากนี้เทือกเขาม่านหมอกจะให้วิหารจื่อเซียวเข้าร่วมได้,หากไม่,ขอเชิญกลับไปยังที่ของท่าน!"
เจ้าตำหนักจื่อเซียวนั่งลงเบาๆ,ไม่ตอบรับ,และไม่ปฏิเสธ.
เขาที่ถือหมากดำ,ก่อนที่จะเริ่มวางหมากทันที.
สมแล้วที่เป็นเจ้านิกาย,มีความสามารถที่น่าอัศจรรย์มาก,เขาที่สามารถเดินหมากได้เร็วกว่าซือหม่าชิงและเซียนเซิงหลี่ซะอีก.
"เขตแดนลับเซียนโบราณ?
โอ้วเทพธิดา,ไม่ใช่ว่ามีอุปกรณ์เซียนโบราณอยู่ด้านในหรอกรึ?"ซูอาโฝวที่ดวงตาเรียวเล็กเป็นประกาย.
"ไม่เคยเห็นรึไง,ภายในศาลเทวะไท่ชูก็มีอุปกรณ์เซียนโบราณเช่นกัน,ต้องการเพียงแค่นั้นรึยังไง?"กงจูจิวเหว่ยที่กล่าวหยัน.
เห็นท่าทางดูแคลนของกงจูจิวเหว่ย,ซูอาโฝวที่พูดไม่ออกเช่นกัน.
"กงจู,ข้าจะเทียบกับท่านได้อย่างไรล่ะ,ปู่ของข้าเป็นเพียงแค่กง,ของล้ำค่าที่สุดของตระกูลก็แค่อุปกรณ์ต้าเซียนเท่านั้น,จะเอาไปเทียบกับท่านที่ออกมาจากวังหลวงได้อย่างไร,อีกอย่างสมบัติของเซิ่งหวังพวกเรามีสิทธิ์เห็นได้อย่างไร?
จากที่ท่านกล่าวแปลว่าเซิ่งหวังมีอุปกรณ์เซียนโบราณอย่างงั้นรึ?
เซิ่งหวังก็ควรจะมีพลังฝึกตนอยู่ในระดับเซียนโบราณ,การมีอุปกรณ์เซียนโบราณก็ไม่ใช่เรื่องผิดปรกติแต่อย่างใด,นอกจากนี้ศาลเทวะไท่ชูยังมีประวัติความเป็นมายาวนาน,แน่นอนจะต้องมีสมบัติมากมาย."ซูอาโฝวที่จ้องมองกงจูจิวเหว่ยด้วยความหวัง.
"รู้หรือไม่รู้ทำไมข้าต้องบอกเจ้าด้วย!"กงจูจิวเหว่ยที่กล่าวปัดไปในทันที.
ซูอาโฝวทำได้แค่เงียบพูดอะไรไม่ได้,ส่วนจงซานเวลานี้จับจ้องมองไปที่กระดานหมาก.
ประมุขนิกายจื่อเซียวแข็งแกร่งจริงๆ,กับกลหมากลวงสวรรค์ที่กินพื้นที่มากมายบนท้องฟ้า,เมฆสายฟ้ามากมายที่ถูกปัดเป่าออกไป,ทุกๆคนที่นั่งจับจ้องมอง,สายฟ้าที่ถูกทำลาย,ไม่สามารถเข้าใกล้พื้นที่รอบๆเลยแม้แต่น้อย.
อย่างไรก็ตามเจ้านิกายจื่อเซียว,แม้นว่าจะแข็งแกร่งอย่างไร,ก็เต็มไปด้วยท่าทางจริงจังด้วยเช่นกัน.
ปรมาจารย์หมากอันดับหนึ่งของอาณาเขตเฟิงจงไม่ง่ายที่จะจัดการ,หมากที่ถูกวางหมากแล้วหมากเล่า.
เมื่อถึงตาที่ 16
,ประมุขนิกายจื่อเซียวที่วางหมากลงอีกครั้ง,ท้องฟ้าปิด,สายฟ้าที่แล่นเปรี๊ยๆ,อำนาจสวรรค์ที่กดลงมาในทันที,ปรากฏอภินิหารที่น่ากลัวเกิดขึ้นอีกแล้ว.
"คาดไม่ถึงเลยว่าเจ้านิกายจื่อเซียวจะก้าวไปถึงเขตแดนเต๋าแล้ว!"จงซานที่ขมวดคิ้วไปมา.
"ใช่,ไม่รู้ว่าจะต้านได้นานขนาดใหน!"ซูอาโฝวพยักหน้ารับ.
หมากแล้วหมากเล่าที่ถูกวางลงอย่างรวดเร็ว,ปรมาจารย์หมากซือเหม่ยคู่ควรต่อเป็นยอดฝีมืออันดับหนึ่งของอาณาเขตเฟิงจงอย่างแท้จริง,วิถีหมากของเขานั้นทรงพลังกล้าหาญ,ไร้ซึ่งความหวาดกลัว,แม้นว่าปรมาจารย์ซือเหม่ยจะเต็มไปด้วยความจริงจัง,ทว่าประมุขนิกายจื่อเซียนกลับจริงจังมากกว่า.
ทั่วร่างของประมุขจื่อเซียวเวลานี้มีสายฟ้าพุ่งเข้าหา,ร่างของเขาที่ราวกับห่อหุ้มด้วยบอลสายฟ้า.
"ประมุขนิกายจื่อเซียวเดินไปถึงหมากที่ 23
แล้ว."เหล่ามือหมากมากมายต่างก็เผยท่าทางประหลาดใจ.
แต่แล้ว,หลังจากที่ปรมาจารย์ซือเหม่ยวางหมากที่
23 ลงมา,ประมุขนิกายจื่อเซียวก็นิ่งงันไม่สามารถวางหมากต่อไปได้.
ทุกคนที่จ้องมองลงไปยังกระดานหมาก,จ้องมองไปยังประมุขนิกายจื่อเซียวที่เงียบงัน,สายฟ้าที่มากมายกำลังพุ่งเข้าสู่ร่างเขาไม่หยุด,ก่อนที่จะเกิดประกายพุ่งออกไปรอบๆอย่างบ้าคลั่ง.
จากนั้น,ร่างของประมุขจื่อเซียวที่กลายเป็นดำไหม้มากขึ้นและก็มากขึ้นจนไม่สามารถคงเอาไว้ได้อีกต่อไป.
"ตูมมมมมมมม!"
เสียงระเบิดดังสนั่น,ร่างของประมุขนิกายจื่อเซียว,คาดไม่ถึงเลยว่าจะระเบิดออกมาเสียงดังสนั่น.
ทุกคนที่อยู่รอบๆตื่นตะลึงตาค้าง,ระเบิดอย่างงั้นรึ?
ร่างของประมุขนิกายจื่อเซียวระเบิดอย่างงั้นรึ?
นอกจากนี้ยังแตกสลายไม่เหลือแม้แต่ซากเลยรึ? หายไปแล้วรึ?
ประมุขนิกายจื่อเซียนตายแล้วรึ?
ทุกคนไม่อยากเชื่อเลยแม้แต่น้อย,ไม่ใช่ความจริง,กับระดับประมุขนิกายจะตกตายง่ายๆได้อย่างไร?
"ปรมาจารย์หมากซือเหม่ย,ร้ายกาจมาก!"ซูอาโฝวที่เผยท่าทางประหลาดใจ.
ปรมาจารย์หมากซือเหม่ยสังหารประมุขนิกายจื่อเซียวแล้วอย่างงั้นรึ?
หลายๆคนที่คิดเช่นนั้น,ทว่าบนยอดเขา เซียนเซิงหลี่,ซือหม่าชิง,ซือหม่าจงเหิงและอีกหลายคนที่แสดงท่าทางจริงจัง,ก่อนที่จะจ้องมองไปยังลานแข่ง.
พริบตาเดียว,หลังจากสายฟ้าระเบิดและสลายหายไป,จากนั้นจากพื้นที่ดังกล่าวนั้น,เศษฝุ่นผงก็รวมตัวกันอย่างรวดเร็ว,จนกลายเป็นคนๆหนึ่ง,ประมุขนิกายจื่อเซียว.
ประมุขนิกายจื่อเซียวฟื้นคืนชีพ? ทุกคนก่อนหน้านี้ตื่นตะลึง,จากนั้นก็เปลี่ยนเป็นตกใจ,ความรู้สึกสับสนที่ตามเรื่องที่เกิดขึ้นไม่ทัน.
"ปรมาจารย์หมากซือเหม่ย,คู่ควรแล้วที่เป็นมือหมากอันดับหนึ่งของอาณาเขตเฟิงจง,เหมาะกับชื่อเสียงจริงๆ!"ประมุขนิกายจื่อเซียวที่กล่าวออกมาเสียงดัง.
"ประมุขนิกาย,ร่างเงาสายฟ้าม่วง,สมแล้วที่มีชื่อเสียง,ด้วยร่างเงาสายฟ้าของวิหารจื่อเซียว,ทำให้สามารถเดินทางมาถึงที่นี่,ซือเหม่ยขอชื่นชม!"ปรมาจารย์หมากซือเหม่ยกล่าว.
"สละร่างเงาสักร่างเพื่อวิถีหมาก,เพื่อพัฒนาวิถีแห่งหมากก็ไม่แย่นัก!"ประมุขนิกายจื่อเซียวที่ใบหน้าไม่น่าดูเท่าใดนัก.
"ประมุขนิกายจื่อเซียวที่มีพลังเหนือกว่าระดับเซียนโบราณ,ไม่รู้ว่ามีร่างแยกเงามากเท่าไหร่?"
ในเวลานี้เป็นปรมาจารย์หมากซือเหม่ยที่กล่าวข่มประมุขนิกายจื่อเซียวคืน.
ประมุขนิกายจื่อเซียนที่ขมวดคิ้วไปมาจ้องมองปรมาจารย์หมากจื่อเซียว,ก่อนที่จะกล่าวออกมาเบาๆ,"ในเมื่อฝีมือของเจ้าเหนือกว่า,ประมุขเช่นนั้นคงไม่ขอรบกวน!"
ระหว่างที่กล่าวนั้น,ประมุขนิกายจื่อเซียนก็สลายหายไปจากผู้คนทั้งหมด.
ประมุขนิกายจื่อเซียวจากไปแล้ว,ทว่าปรมาจารย์ซือเหม่ยและเซียนเซิงหลี่ยังคงมองไปรอบๆ,ราวกับว่าต้องการพิสูจน์ว่าประมุขจื่อเซียวจากไปแล้วหรือไม่,ทว่า,ในครั้งนี้กลับไม่มีใครสามารถมองเห็นได้.
เซียนเซิงหลี่ที่ส่ายหน้าจ้องมองมายังปรมาจารย์หมาซือเหม่ย,ปรมาจารย์หมากซือเหม่ยที่พยักหน้ารับ.
"ต่อไปเป็นใคร?"ปรมาจารย์หมากซือเหม่ยจ้องมองไปยังมือหมากที่อยู่รอบๆ.
ทว่า,ยอดฝีมือทั้งซือหม่าชิงและประมุขนิกายจื่อเซียวที่แสดงออกมาได้อย่างลึกล้ำ,ตอนนี้จะมีใครกล้าก้าวออกมา.
ซือหม่าชิง?
ก่อนหน้านี้ทุกคนสามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน,เป็นซือหม่าจงเหิงที่ยื่นมือเข้าไปช่วยยับยั้งสมาธิและจิตใจที่บ้าคลั่ง,กลหมากนี้อันตรายเป็นอย่างมาก,พวกเขาหาได้มีใครที่จะออกไปช่วย
ดั่งเช่นซือหม่าชิง,และยังไม่มีความสามารถฟื้นชีพดั่งประมุขจื่อเซียวอีก.
กับประมุขนิกายจื่อเซียวที่แข็งแกร่ง,นับเป็นยอดฝีมือลำดับต้นๆของอาณาเขตเฟิงจง,ท้ายที่สุดคาดไม่ถึงว่าจะระเบิดออกเป็นเสี่ยงๆ,แม้ว่านี่จะเป็นเพียงร่างแยกก็ตาม,ทว่าก็สร้างความหวาดกลัวให้กับเหล่ามือหมากว่าพวกเขาจะไม่โชคดีเช่นนั้น.
เล่นหมากต่อไปรึ? นี่ไม่เท่ากับแส่หาความตาย.
ปรมาจารย์หมากซือเหม่ยที่จ้องมองไปรอบๆ,เห็นไม่มีใครกล้า,ก็ถอนหายใจเบาๆ,ขณะที่จะกล่าวอะไรออกไป,ที่มุมหนึ่งของยอดเขาก็ได้ยินเสียงของสตรีผู้หนึ่งดังขึ้นมา.
"จงซาน,ตาเจ้าแล้ว,ล้มปรมาจารย์ซือเหม่ย,นำเกียรติยศมาให้ข้า!"เสียงของกงจูจิวเหว่ยที่กล่าวออกมาเสียงดัง.
ล้มปรมาจารย์หมากซือเหม่ยอย่างงั้นรึ?
ใบหน้าของทุกคนที่อยู่รอบๆถึงกับกระตุก,คิดจะล้มปรมาจารย์หมากซือเหม่ยเลยรึ?
ใครกันช่างพูดจาใหญ่โตหน้าไม่อาย.
สายตาของทุกคนที่จ้องมองออกไปเป็นสายตาเดียวกัน.
สายตาของทุกคนที่จ้องมองออกไป,เซียนเซิงหลี่ที่ขมวดคิ้วเล็กน้อย,ซือหม่าชิงที่เผยท่าทางสงสัยจึงถามออกมา,"เป็นเขาที่เอาชนะเจ้าได้อย่างงั้นรึ?"
"ใช่!"ซือหม่าจงเหิงที่พยักหน้ารับ,ไม่มีอะไรที่ต้องปิดบัง.
ทว่าเหล่ามือหมากมากมายที่จ้องมองอย่างเหยียดหยันมาพร้อมๆกัน,ซูอาโฝวที่อยู่ข้างๆที่สัมผัสได้ถึงสายตาเหยียดหยันจำนวนมากที่กำลังจับจ้องมอง,ทำให้เขาถึงกับตัวสั่น,ใบหน้าที่เผยยิ้มอย่างข่มขื่นออกมา,บรรพชนน้อยๆไม่เข้าใจเกี่ยวกับวิถีหมากแม้แต่น้อย,จึงไม่เข้าใจความร้ายกาจทรงพลังของปรมาจารย์หมากซือเหม่ย! จึงคิดว่าล้มเขาได้อย่างงั้นรึ?
ปรมาจารย์หมากซือเหม่ยที่จ้องมองไปยังจงซาน,"เจ้าเป็นใคร?"
"ข้าคือกงจูจิวเหว่ย,เขาคือเหมินเค่อของข้า,จงซาน!"กงจูจิวเหว่ยที่เอ่ยออกมาทันที.
เพราะว่าเหล่ามือหมากเกือบทั้งหมดเป็นคนของศาลเทวะไท่ชู,ดังนั้นกับนามกงจูจิวเหว่ย,จึงยังพอรับฟังอ้างเหตุผลได้.
"กงจูจิวเหว่ย?
ชิงชิวไม่มีใครที่เคยได้รับบรรดาศักดิ์ "จิวเหว่ย"มานานแล้ว,เจ้าคือ
จิวเหว่ยคนใหม่อย่างงั้นรึ?" ปรมาจารย์ซือเหม่ยที่ตื่นตกใจอยู่เล็กน้อยเช่นกัน.
"กงจูจิวเหว่ย,เซิ่งหวังเพิ่งมอบบรรดาศักดิ์"กงจูจิวเหว่ย"ให้เมื่อสามร้อยปีที่แล้ว."เซียนเซิงหลี่ที่เอ่ยออกมาในทันที.
"กงจูจิวเหว่ย? ซือเหม่ยเสียมารยาทแล้ว!"ปรมาจารย์ซือเหม่ยที่กล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม.
คนที่ปรมารจารย์ซือเหม่ยก้มหัวให้,ทำให้ผู้คนมากมายต่างก็เต็มไปด้วยความอยากรู้,กงจูจิวเหว่ย?
มีสถานะใดกันแน่?
เป็นไปได้ว่าปรมาจารย์ซือเหม่ยจะรู้อย่างงั้นรึ?ในเวลานี้สายตาของทุกส่ายไปมาด้วยความสงสัย.
กงจูจิวเหว่ย,มีที่มาที่ไป ไม่ธรรมดา,ทั่วทั้งชิงชิวนี้,บางที่คงมีเพียงเซิ่งหวังที่รู้,และนางยังเป็นคนที่เซิ่งหวังโปรดที่สุดอีกด้วย,สามร้อยปีมานี้,นางที่หาเรื่องไปทั่วทั้งชิงชิว,ใครขวางล้วนแล้วแต่ถูกสังหาร,ถูกทำร้ายโดยที่นางไม่ผิดแม้แต่น้อย,ในชิงชิวแห่งนี้จึงไม่มีใครกล้าล่วงเกินปิศาจน้อยตนนี้เลย.
อีกอย่างแม้นว่าทุกคนจะต้องการรับรู้ตัวตนของนาง,หลายๆคนที่ต้องการสืบเรื่องสถานะของตาง,ทว่ากลับถูกสั่งห้ามเอาไว้,จนทำให้ทุกคนไม่สามารถตามเรื่องนี้ต่อ,ไม่มีใครหาข้อมูลอะไรได้เลยแม้แต่นิดเดียว.
ในวันนี้กับท่าทางของปรมาจารย์ซือเหม่ยเช่นนี้,เป็นไปได้ว่าเขารับรู้ที่มาที่ไปของนางอย่างงั้นรึ?
"อืม!"กงจูจิวเหว่ยที่พยักหน้าพึงพอใจ,ราวกับว่ายินดีกับท่าทางของผู้คนมากมายที่กำลังตะลึงงัน.
"จิวเหว่ยเป็นเพียงนามบรรดาศักดิ์,ข้าขอถามนามที่แท้จริงได้หรือไม่!"ปรมาจารย์ซือเหม่ยที่สอบถามออกมา.
"หืม?"ทุกๆคนที่ตื่นตกใจเล็กน้อย.
นางไม่ได้มีนามว่าจื่อเหว่ยหรอกรึ?
แล้วนางมีนามว่าอะไร?
"เซิ่งหวังบอกว่านามของข้านั้นห้ามบอกใคร,และข้าก็จะไม่บอกเจ้า!"กงจูจิวเหว่ยที่ส่ายหน้าไปมา.
ทุกคนถึงกับพูดไม่ออก,ทำไมถึงไม่ยอกบอกชื่อกับทุกคนล่ะ?
เรื่องตลกอันใด,นามนั้นเป็นรหัสลับอย่างงั้นรึ? ทำไมถึงไม่สามารถบอกคนอื่นได้?
ในเวลานี้ทุกคนต่างก็คิดว่าเป็นเพียงแค่ความซุกซนของนางเท่านั้นจึงไม่ได้บอกใคร,ตอนนี้ถึงกับพูดไม่ออก.
มีเพียงจงซานที่ตื่นตกใจเล็กน้อย,เพราะว่าจงซานคิดถึงเรื่องของเซียนเซิงซือในทันที,ชื่อของเขาไม่สามารถบอกคนอื่นได้,ทำไมจึงไม่สามารถเผยต่อคนอื่นๆได้ล่ะ?
มีเพียงแค่ปรมาจารย์ซือเหม่ยที่สั่นไหวไปมา,ราวกับคิดอะไรบางอย่างได้,พร้อมกับพยักหน้ารับ"ล่วงเกินแล้ว!"
ทุกคนที่กลายเป็นโง่งม,ไม่คิดเลยว่าปรมาจารย์ซือเหม่ยนอกจากจะไม่โกรธยังกล่าวขอโทษอีกด้วยรึ?
"เอาล่ะ,จงซาน,เจ้าไปได้แล้ว!
จำไว้ว่าจะต้องนำเกียรติกลับมาให้ตำหนักกงจูจิวเหว่ย,ถึงแม้ว่าจะไม่สามารถชนะเขาได้,อย่างน้อยก็ต้องเดินให้ได้มากกว่า
25
ตา,อย่าเป็นเหมือนกับคนบ้า,มีตาเดินมากมาย,กลับไม่ยอมวาง,เจ้าจงวางมันลงไปในช่องว่างเลยอย่าได้สนใจสิ่งใด."กงจูจิวเหว่ยที่กล่าวราวกับว่ากำลังสั่งสอนจงซาน.
จงซานถึงกับพูดไม่ออก,เต็มไปด้วยความงงงวย,กงจูจิวเหว่ยกล่าวออกมานั้นไม่ได้รับรู้เกี่ยวกับกฎเกณฑ์การเดินหมากเลยแม้แต่น้อย,ใช่ว่าจะวางลงตำแหน่งใหนก็ได้,หากวางอย่างไม่คิดอะไร,อย่าว่าแต่
25 หมากเลย,ต่อเป็นสองร้อยหมาก็ไม่มีปัญหา,ทว่าจงซานจะทำเช่นนั้นอย่างงั้นรึ?
"ข้าจะทำทุกอย่างเท่าที่ทำได้!"จงซานถึงกับปาดเหงื่อที่เย็นเยือบออกมา.
พร้อมกับบินตรงไปยังลานแข่งขัน.
"จงซาน!"จงซานที่กล่าวนามของตัวเองออกมา.
"ในเมื่อกงจูจิวเหว่ยได้มอบหมายความคาดหวังไว้กับเจ้า,จงแสดงมันออกมาให้เต็มที่!"ปรมาจารย์หมากซือเหม่ยที่กล่าวออกมาเล็กน้อย,ก่อนที่จะสะบัดมือล้างหมากที่เดินกับประมุขจื่อเซียวออกไป,พร้อมกับรอให้จงซานเป็นฝ่ายเริ่ม.
จงซานพยักหน้า,พร้อมกับหยิบหมากสีดำขึ้นมา,เตรียมวางหมาก.
ในเวลาเดียวกัน,เมืองซ่างภพหยิน,ตำหนักอี้เทียนเจียน.
ร่างแยกเงาจงซานและหนานกงเซิ่งนั่งอยู่ในลานที่พัก,ทีด้านหน้านั้นมีกระดานหมากอยู่.
"หนานกงเซิ่ง,ที่ภพหยางมีกลหมากลวงสวรรค์,ขอให้เจ้าแสดงฝีมือเต็มที่,แก้ไขกลหมากนี้ให้ได้!"จงซานที่กล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม.
"น้อมรับบัญชา!"
Chapter 858 Mystical nine
神秘的九尾
จิวเหว่ยผู้ลึกลับ
"ซือหม่าชิง,ไม่ธรรมดาจริงๆ,20 หมากอย่างงั้นรึ?
ความสามารถของเขาที่ทำให้ทัณฑ์สวรรค์ถึงกับต้องการกำจัดเขาไปเลยรึ?!"ใบหน้าของซูอาโฝวที่กล่าวออกมาด้วยความอิจฉา.
ไม่ใช่แค่อาโฝวเพียงคนเดียว,เหล่ามือหมากที่อยู่รอบๆ,ก็เผยสีหน้าแววตาอิจฉาด้วยเช่นกัน,ต้องไม่ลืมว่า,คนสนิทของเซิ่งหวัง,เสนาธิการผู้มากความสามารถเซียนเซิงหลี่นั้นสามารถเดินไปได้เพียงแค่
15 หมากเท่านั้น,ซือหม่าชิง 20 หมาก,เขาอยู่ในเขตแดนที่เหนือกว่าจริงๆรึ?
ไม่ว่าอย่างไรเหล่ามือหมากที่เข้าร่วมในครั้งนี้ต่างก็รู้ดี,การก้าวเดินไปบนกระดานหมากล้อมวิญญาณนี้,มีผลต่อจิตใจอย่างรุนแรง,เป็นการเคี่ยวกรำจิตใจของตัวเองด้วยพลังงานจากสวรรค์,ความยากของมันนั้นเกินจะหยั่ง.
ซือหม่าชิงนับว่าพ่ายแพ้แต่ยอดเยี่ยม,อภินิหารของสวรรค์ที่ก่อเกิดขึ้นมานั้น,ไม่ได้เกิดขึ้นจากพลังวิเศษหรือค่ายกลแต่อย่างใด,แต่มันเป็นอำนาจของวิถีหมาก,เป็นหนึ่งในวิถีสวรรค์ของการเดินหมากนั่นเอง.
"จงซาน,เจ้าต้องล้มปรมาจารย์ซือเหม่ยให้ได้นะ."กงจูจิวเหว่ยที่กล่าวต่อจงซาน.
ซูอาฝูถึงกับพูดไม่ออก,นี่กงจูจิวเหว่ยกำลังคิดอะไรอยู่,แม้แต่คนที่อยู่ที่นี่ทั้งหมดรวมกัน
ยังสามารถเอาชนะปรมาจารย์หมาซือเหม่ยได้เลยไม่ใช่รึ?นี่คือยอดฝีมืออันดับหนึ่งของอาณาเขตเฟิงจง,จะมีใครสามารถเอาชนะได้?
จากที่ไกลออกไปนั้น,ปรมาจารย์ซือเหม่ยไม่ได้มองไปยังมือหมากคนใหนต่อ,ทว่าเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้าและกล่าวออกมาเบาๆ,"เจ้านิกายจื่อเซียวอุตสามาเยี่ยมด้วยตัวเอง,กับคนทรงเกียรติเช่นนี้,ซือเหม่ยไม่กล้ารับ,แต่การที่เจ้านิกายจื่อเซียวซ่อนตัวอยู่เช่นนั้น,ไม่คิดว่ากำลังทำลายเกียรติของตัวเองอยู่รึ?"
กับคำพูดของปรมาจารย์ซือเหม่ยทำให้ทุกคนตื่นตกใจขึ้นมาในทันที.
เจ้านิกายจื่อเซียว?
หนึ่งในกลุ่มอิทธิพลของอาณาเขตเฟิงจงนะรึ? เขามาด้วยอย่างงั้นรึ?
ขณะที่ทุกคนกำลังเต็มไปด้วยความประหลาดใจ,บนลานยอดเขาสถานที่ของปรมาจารย์ซือเหม่ย,เกิดประกายสายฟ้าสีม่วงที่ฟาดลงมา,ก่อนจะปรากฏชายในชุดพรตเต๋าสีม่วง,ชายที่หน้าผากมีกระกระดูกคู่ที่ร้ายกาจประทับอยู่.
พริบตาที่เจ้านิกายจื่อเซียวปรากฏขึ้น,แรงกดดันวิญญาณมหาศาลที่แผ่พุ่งออกไปทั่วทุกสารทิศ,เหล่าผู้ฝึกตนที่มีพลังฝึกตนถึงกับหายใจหอบกันทีเดียว.
แรงกดดันของผู้มีมรรคราระดับสูง,ทำให้ทุกคนจำต้องชำเลืองมอง.
เจ้านิกายจื่อเซียว,ก่อนหน้านี้เคยเป็นคนในกลุ่มคนที่ออกมากดดันศาลเทวะต้าเจิ้ง,จงซานที่จ้องมองไปยังเจ้านิกายจื่อเซียว,ต้องหรี่ตาจ้องมองดวงตาหดเกร็ง.
"เจ้าสำนักจื่อเซียวไม่ใช่คนที่ได้รับเชิญ,ไม่รู้ว่ามาทำอะไรที่นี่กัน?"ปรมาจารย์จื่อเซียวที่กล่าวสอบถาม.
"ทุกๆหนึ่งพันปีจะต้องมีการแข่งขันหมากล้อมวิญญาณขึ้นที่เทือกเขาม่านหมอก,ทำไม?"เจ้าสำนักจื่อเซียวที่สอบถามออกมาเบาๆ.
"เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับเผ่าจิ้งจอก,เผ่าจิ้งจอกที่เป็นอาณาจักรคู่บารมีกับศาลเทวะไท่ชู,ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับนิกายจื่อเซียวเลยไม่ใช่รึ?"ปรมาจารย์ซือเหม่ยที่กล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม.
"ไม่เกี่ยวได้อย่างไร? เผ่าจิ้งจอกอย่างงั้นรึ?
วิหารจื่อเซียวของข้าเองก็มีเผ่าจิ้งจอกเช่นกัน,ทำไมข้าประมุขนิกายจื่อเซียวถึงไม่มีสิทธิ์เข้าร่วมล่ะ?"เจ้านิกายจื่อเซียวที่กล่าวออกมาอย่างใจเย็นไม่รีบร้อน.
"ตลอดหนึ่งแสนปีที่ผ่านมา,นิกายจื่อเซียวไม่เคยสนใจเทือกเขาม่านหมอกเลย,ทำไมเวลานี้ถึงต้องการแข็งขืนที่จะเข้าร่วมล่ะ?
ตาเฒ่าเช่นข้าสงสัยนัก,ขอให้ประมุขจื่อเซียวช่วยไขข้อสงสัยนี้ด้วย!"ปรมาจารย์หมากซือเหม่ยที่ขมวดคิ้วไปมาสอบถาม.
"เพราะว่าข้าต้องการเข้าร่วมในครั้งนี้,ต้องการเห็นผลลัพธ์ไงล่ะ."ประมุขนิกายจื่อเซียวกล่าวออกมาเล็กน้อย.
ทุกคนรับรู้ดีว่าเจ้านิกายจื่อเซียวนั้นไม่ยอมพูดความจริง,หากแต่พวกเขาก็ไม่มีคุณสมบัติที่จะไปบังคับเช่นกัน,พวกเขาที่อยู่ในนี้ไม่มีใครยอมรับแม้แต่น้อย.
"เจ้านิกายจื่อเซียวเพียงแค่ต้องการเข้าร่วมหมากรุกวิญญาณอย่างงั้นรึ?
ไม่ใช่เพราะเหตุผลอื่นไม่ใช่รึ?"ปรมาจารย์ซือเหม่ยกล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม.
"ข้ามาเพื่อเขตแดนลับเซียนโบราณ!"เจ้าตำหนักจื่อเซียนเผยยิ้มออกมาเล็กน้อย.
เขตแดนลับเซียนโบราณ?
ได้ยินคำพูดของประมุขนิกายจื่อเซียว,ทำให้ใบหน้าของปรมาจารย์หมากซือเหม่ยเปลี่ยนเป็นซับซ้อน,จ้องเขม็งไปยังเจ้านิกายจื่อเซียว.
"ประมุขนิกายจื่อเซียวเป็นเซียนโบราณ,ทว่ากลับสนใจเขตแดนลับของเซียนโบราณคนอื่นอย่างงั้นรึ?
นอกจากนี้มันยังเป็นของเผ่าจิ้งจอกของข้า,ไม่กลัวว่าจะล่วงเกินทุกคนทั่วทั้งชิงชิวหรอกรึ?"ปรมาจารย์หมากซือเหม่ยกล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม.
"เซียนโบราณ?
ข้าเป็นเซียนโบราณ,ทว่าเซียนโบราณที่อยู่ในเขตแดนลับเซียนโบราณนั้นแตกต่างออกไป,เซียนโบราณผู้นั้นเป็นผู้ติดตามปราชญ์เทพ,เขาที่เป็นเซียนโบราณที่ติดตามปราชญ์เทพโบราณ,วันนี้ข้าต้องการเดินหมากเพื่อตัดสินว่าข้าจะมีคุณสมบัติพอได้เข้าไปด้านในนั้นหรือไม่!"เจ้านิกายจื่อเซียวที่กล่าวเสียงดังพร้อมกับเผยยิ้มออกมาเล็กน้อย.
เจ้านิกายจื่อเซียวที่กำลังข่มขู่ปรมาจารย์หมากจื่อเซียวอยู่อย่างงั้นรึ?
สายตาของเหล่ามือหมากทั้งหมดที่อยู่ที่นี่เผยท่าทางโกรธเกรี้ยวออกมา,ทว่าก็ไม่ใช่ธุระของพวกด้วยเช่นกัน,จึงไม่มีใครกระโดดเข้าไป.
อีกอย่างการเข้าไปหาเรื่องกับเจ้านิกายจื่อเซียว,ไม่ใช่ว่าเป็นการแส่หาความตายหรอกรึ?
ปรมาจารย์หมากซือเหม่ยที่จ้องมองเจ้านิกายจื่อเซียว,"ก็ดี,เกี่ยวกับกฏระเบียบ,หากประมุขจื่อเซียวสามารถทะลวงค่ายกลลวงสวรรค์ของข้าได้ล่ะก็,นับจากนี้เทือกเขาม่านหมอกจะให้วิหารจื่อเซียวเข้าร่วมได้,หากไม่,ขอเชิญกลับไปยังที่ของท่าน!"
เจ้าตำหนักจื่อเซียวนั่งลงเบาๆ,ไม่ตอบรับ,และไม่ปฏิเสธ.
เขาที่ถือหมากดำ,ก่อนที่จะเริ่มวางหมากทันที.
สมแล้วที่เป็นเจ้านิกาย,มีความสามารถที่น่าอัศจรรย์มาก,เขาที่สามารถเดินหมากได้เร็วกว่าซือหม่าชิงและเซียนเซิงหลี่ซะอีก.
"เขตแดนลับเซียนโบราณ?
โอ้วเทพธิดา,ไม่ใช่ว่ามีอุปกรณ์เซียนโบราณอยู่ด้านในหรอกรึ?"ซูอาโฝวที่ดวงตาเรียวเล็กเป็นประกาย.
"ไม่เคยเห็นรึไง,ภายในศาลเทวะไท่ชูก็มีอุปกรณ์เซียนโบราณเช่นกัน,ต้องการเพียงแค่นั้นรึยังไง?"กงจูจิวเหว่ยที่กล่าวหยัน.
เห็นท่าทางดูแคลนของกงจูจิวเหว่ย,ซูอาโฝวที่พูดไม่ออกเช่นกัน.
"กงจู,ข้าจะเทียบกับท่านได้อย่างไรล่ะ,ปู่ของข้าเป็นเพียงแค่กง,ของล้ำค่าที่สุดของตระกูลก็แค่อุปกรณ์ต้าเซียนเท่านั้น,จะเอาไปเทียบกับท่านที่ออกมาจากวังหลวงได้อย่างไร,อีกอย่างสมบัติของเซิ่งหวังพวกเรามีสิทธิ์เห็นได้อย่างไร?
จากที่ท่านกล่าวแปลว่าเซิ่งหวังมีอุปกรณ์เซียนโบราณอย่างงั้นรึ?
เซิ่งหวังก็ควรจะมีพลังฝึกตนอยู่ในระดับเซียนโบราณ,การมีอุปกรณ์เซียนโบราณก็ไม่ใช่เรื่องผิดปรกติแต่อย่างใด,นอกจากนี้ศาลเทวะไท่ชูยังมีประวัติความเป็นมายาวนาน,แน่นอนจะต้องมีสมบัติมากมาย."ซูอาโฝวที่จ้องมองกงจูจิวเหว่ยด้วยความหวัง.
"รู้หรือไม่รู้ทำไมข้าต้องบอกเจ้าด้วย!"กงจูจิวเหว่ยที่กล่าวปัดไปในทันที.
ซูอาโฝวทำได้แค่เงียบพูดอะไรไม่ได้,ส่วนจงซานเวลานี้จับจ้องมองไปที่กระดานหมาก.
ประมุขนิกายจื่อเซียวแข็งแกร่งจริงๆ,กับกลหมากลวงสวรรค์ที่กินพื้นที่มากมายบนท้องฟ้า,เมฆสายฟ้ามากมายที่ถูกปัดเป่าออกไป,ทุกๆคนที่นั่งจับจ้องมอง,สายฟ้าที่ถูกทำลาย,ไม่สามารถเข้าใกล้พื้นที่รอบๆเลยแม้แต่น้อย.
อย่างไรก็ตามเจ้านิกายจื่อเซียว,แม้นว่าจะแข็งแกร่งอย่างไร,ก็เต็มไปด้วยท่าทางจริงจังด้วยเช่นกัน.
ปรมาจารย์หมากอันดับหนึ่งของอาณาเขตเฟิงจงไม่ง่ายที่จะจัดการ,หมากที่ถูกวางหมากแล้วหมากเล่า.
เมื่อถึงตาที่ 16
,ประมุขนิกายจื่อเซียวที่วางหมากลงอีกครั้ง,ท้องฟ้าปิด,สายฟ้าที่แล่นเปรี๊ยๆ,อำนาจสวรรค์ที่กดลงมาในทันที,ปรากฏอภินิหารที่น่ากลัวเกิดขึ้นอีกแล้ว.
"คาดไม่ถึงเลยว่าเจ้านิกายจื่อเซียวจะก้าวไปถึงเขตแดนเต๋าแล้ว!"จงซานที่ขมวดคิ้วไปมา.
"ใช่,ไม่รู้ว่าจะต้านได้นานขนาดใหน!"ซูอาโฝวพยักหน้ารับ.
หมากแล้วหมากเล่าที่ถูกวางลงอย่างรวดเร็ว,ปรมาจารย์หมากซือเหม่ยคู่ควรต่อเป็นยอดฝีมืออันดับหนึ่งของอาณาเขตเฟิงจงอย่างแท้จริง,วิถีหมากของเขานั้นทรงพลังกล้าหาญ,ไร้ซึ่งความหวาดกลัว,แม้นว่าปรมาจารย์ซือเหม่ยจะเต็มไปด้วยความจริงจัง,ทว่าประมุขนิกายจื่อเซียนกลับจริงจังมากกว่า.
ทั่วร่างของประมุขจื่อเซียวเวลานี้มีสายฟ้าพุ่งเข้าหา,ร่างของเขาที่ราวกับห่อหุ้มด้วยบอลสายฟ้า.
"ประมุขนิกายจื่อเซียวเดินไปถึงหมากที่ 23
แล้ว."เหล่ามือหมากมากมายต่างก็เผยท่าทางประหลาดใจ.
แต่แล้ว,หลังจากที่ปรมาจารย์ซือเหม่ยวางหมากที่
23 ลงมา,ประมุขนิกายจื่อเซียวก็นิ่งงันไม่สามารถวางหมากต่อไปได้.
ทุกคนที่จ้องมองลงไปยังกระดานหมาก,จ้องมองไปยังประมุขนิกายจื่อเซียวที่เงียบงัน,สายฟ้าที่มากมายกำลังพุ่งเข้าสู่ร่างเขาไม่หยุด,ก่อนที่จะเกิดประกายพุ่งออกไปรอบๆอย่างบ้าคลั่ง.
จากนั้น,ร่างของประมุขจื่อเซียวที่กลายเป็นดำไหม้มากขึ้นและก็มากขึ้นจนไม่สามารถคงเอาไว้ได้อีกต่อไป.
"ตูมมมมมมมม!"
เสียงระเบิดดังสนั่น,ร่างของประมุขนิกายจื่อเซียว,คาดไม่ถึงเลยว่าจะระเบิดออกมาเสียงดังสนั่น.
ทุกคนที่อยู่รอบๆตื่นตะลึงตาค้าง,ระเบิดอย่างงั้นรึ?
ร่างของประมุขนิกายจื่อเซียวระเบิดอย่างงั้นรึ?
นอกจากนี้ยังแตกสลายไม่เหลือแม้แต่ซากเลยรึ? หายไปแล้วรึ?
ประมุขนิกายจื่อเซียนตายแล้วรึ?
ทุกคนไม่อยากเชื่อเลยแม้แต่น้อย,ไม่ใช่ความจริง,กับระดับประมุขนิกายจะตกตายง่ายๆได้อย่างไร?
"ปรมาจารย์หมากซือเหม่ย,ร้ายกาจมาก!"ซูอาโฝวที่เผยท่าทางประหลาดใจ.
ปรมาจารย์หมากซือเหม่ยสังหารประมุขนิกายจื่อเซียวแล้วอย่างงั้นรึ?
หลายๆคนที่คิดเช่นนั้น,ทว่าบนยอดเขา เซียนเซิงหลี่,ซือหม่าชิง,ซือหม่าจงเหิงและอีกหลายคนที่แสดงท่าทางจริงจัง,ก่อนที่จะจ้องมองไปยังลานแข่ง.
พริบตาเดียว,หลังจากสายฟ้าระเบิดและสลายหายไป,จากนั้นจากพื้นที่ดังกล่าวนั้น,เศษฝุ่นผงก็รวมตัวกันอย่างรวดเร็ว,จนกลายเป็นคนๆหนึ่ง,ประมุขนิกายจื่อเซียว.
ประมุขนิกายจื่อเซียวฟื้นคืนชีพ? ทุกคนก่อนหน้านี้ตื่นตะลึง,จากนั้นก็เปลี่ยนเป็นตกใจ,ความรู้สึกสับสนที่ตามเรื่องที่เกิดขึ้นไม่ทัน.
"ปรมาจารย์หมากซือเหม่ย,คู่ควรแล้วที่เป็นมือหมากอันดับหนึ่งของอาณาเขตเฟิงจง,เหมาะกับชื่อเสียงจริงๆ!"ประมุขนิกายจื่อเซียวที่กล่าวออกมาเสียงดัง.
"ประมุขนิกาย,ร่างเงาสายฟ้าม่วง,สมแล้วที่มีชื่อเสียง,ด้วยร่างเงาสายฟ้าของวิหารจื่อเซียว,ทำให้สามารถเดินทางมาถึงที่นี่,ซือเหม่ยขอชื่นชม!"ปรมาจารย์หมากซือเหม่ยกล่าว.
"สละร่างเงาสักร่างเพื่อวิถีหมาก,เพื่อพัฒนาวิถีแห่งหมากก็ไม่แย่นัก!"ประมุขนิกายจื่อเซียวที่ใบหน้าไม่น่าดูเท่าใดนัก.
"ประมุขนิกายจื่อเซียวที่มีพลังเหนือกว่าระดับเซียนโบราณ,ไม่รู้ว่ามีร่างแยกเงามากเท่าไหร่?"
ในเวลานี้เป็นปรมาจารย์หมากซือเหม่ยที่กล่าวข่มประมุขนิกายจื่อเซียวคืน.
ประมุขนิกายจื่อเซียนที่ขมวดคิ้วไปมาจ้องมองปรมาจารย์หมากจื่อเซียว,ก่อนที่จะกล่าวออกมาเบาๆ,"ในเมื่อฝีมือของเจ้าเหนือกว่า,ประมุขเช่นนั้นคงไม่ขอรบกวน!"
ระหว่างที่กล่าวนั้น,ประมุขนิกายจื่อเซียนก็สลายหายไปจากผู้คนทั้งหมด.
ประมุขนิกายจื่อเซียวจากไปแล้ว,ทว่าปรมาจารย์ซือเหม่ยและเซียนเซิงหลี่ยังคงมองไปรอบๆ,ราวกับว่าต้องการพิสูจน์ว่าประมุขจื่อเซียวจากไปแล้วหรือไม่,ทว่า,ในครั้งนี้กลับไม่มีใครสามารถมองเห็นได้.
เซียนเซิงหลี่ที่ส่ายหน้าจ้องมองมายังปรมาจารย์หมาซือเหม่ย,ปรมาจารย์หมากซือเหม่ยที่พยักหน้ารับ.
"ต่อไปเป็นใคร?"ปรมาจารย์หมากซือเหม่ยจ้องมองไปยังมือหมากที่อยู่รอบๆ.
ทว่า,ยอดฝีมือทั้งซือหม่าชิงและประมุขนิกายจื่อเซียวที่แสดงออกมาได้อย่างลึกล้ำ,ตอนนี้จะมีใครกล้าก้าวออกมา.
ซือหม่าชิง?
ก่อนหน้านี้ทุกคนสามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน,เป็นซือหม่าจงเหิงที่ยื่นมือเข้าไปช่วยยับยั้งสมาธิและจิตใจที่บ้าคลั่ง,กลหมากนี้อันตรายเป็นอย่างมาก,พวกเขาหาได้มีใครที่จะออกไปช่วย
ดั่งเช่นซือหม่าชิง,และยังไม่มีความสามารถฟื้นชีพดั่งประมุขจื่อเซียวอีก.
กับประมุขนิกายจื่อเซียวที่แข็งแกร่ง,นับเป็นยอดฝีมือลำดับต้นๆของอาณาเขตเฟิงจง,ท้ายที่สุดคาดไม่ถึงว่าจะระเบิดออกเป็นเสี่ยงๆ,แม้ว่านี่จะเป็นเพียงร่างแยกก็ตาม,ทว่าก็สร้างความหวาดกลัวให้กับเหล่ามือหมากว่าพวกเขาจะไม่โชคดีเช่นนั้น.
เล่นหมากต่อไปรึ? นี่ไม่เท่ากับแส่หาความตาย.
ปรมาจารย์หมากซือเหม่ยที่จ้องมองไปรอบๆ,เห็นไม่มีใครกล้า,ก็ถอนหายใจเบาๆ,ขณะที่จะกล่าวอะไรออกไป,ที่มุมหนึ่งของยอดเขาก็ได้ยินเสียงของสตรีผู้หนึ่งดังขึ้นมา.
"จงซาน,ตาเจ้าแล้ว,ล้มปรมาจารย์ซือเหม่ย,นำเกียรติยศมาให้ข้า!"เสียงของกงจูจิวเหว่ยที่กล่าวออกมาเสียงดัง.
ล้มปรมาจารย์หมากซือเหม่ยอย่างงั้นรึ?
ใบหน้าของทุกคนที่อยู่รอบๆถึงกับกระตุก,คิดจะล้มปรมาจารย์หมากซือเหม่ยเลยรึ?
ใครกันช่างพูดจาใหญ่โตหน้าไม่อาย.
สายตาของทุกคนที่จ้องมองออกไปเป็นสายตาเดียวกัน.
สายตาของทุกคนที่จ้องมองออกไป,เซียนเซิงหลี่ที่ขมวดคิ้วเล็กน้อย,ซือหม่าชิงที่เผยท่าทางสงสัยจึงถามออกมา,"เป็นเขาที่เอาชนะเจ้าได้อย่างงั้นรึ?"
"ใช่!"ซือหม่าจงเหิงที่พยักหน้ารับ,ไม่มีอะไรที่ต้องปิดบัง.
ทว่าเหล่ามือหมากมากมายที่จ้องมองอย่างเหยียดหยันมาพร้อมๆกัน,ซูอาโฝวที่อยู่ข้างๆที่สัมผัสได้ถึงสายตาเหยียดหยันจำนวนมากที่กำลังจับจ้องมอง,ทำให้เขาถึงกับตัวสั่น,ใบหน้าที่เผยยิ้มอย่างข่มขื่นออกมา,บรรพชนน้อยๆไม่เข้าใจเกี่ยวกับวิถีหมากแม้แต่น้อย,จึงไม่เข้าใจความร้ายกาจทรงพลังของปรมาจารย์หมากซือเหม่ย! จึงคิดว่าล้มเขาได้อย่างงั้นรึ?
ปรมาจารย์หมากซือเหม่ยที่จ้องมองไปยังจงซาน,"เจ้าเป็นใคร?"
"ข้าคือกงจูจิวเหว่ย,เขาคือเหมินเค่อของข้า,จงซาน!"กงจูจิวเหว่ยที่เอ่ยออกมาทันที.
เพราะว่าเหล่ามือหมากเกือบทั้งหมดเป็นคนของศาลเทวะไท่ชู,ดังนั้นกับนามกงจูจิวเหว่ย,จึงยังพอรับฟังอ้างเหตุผลได้.
"กงจูจิวเหว่ย?
ชิงชิวไม่มีใครที่เคยได้รับบรรดาศักดิ์ "จิวเหว่ย"มานานแล้ว,เจ้าคือ
จิวเหว่ยคนใหม่อย่างงั้นรึ?" ปรมาจารย์ซือเหม่ยที่ตื่นตกใจอยู่เล็กน้อยเช่นกัน.
"กงจูจิวเหว่ย,เซิ่งหวังเพิ่งมอบบรรดาศักดิ์"กงจูจิวเหว่ย"ให้เมื่อสามร้อยปีที่แล้ว."เซียนเซิงหลี่ที่เอ่ยออกมาในทันที.
"กงจูจิวเหว่ย? ซือเหม่ยเสียมารยาทแล้ว!"ปรมาจารย์ซือเหม่ยที่กล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม.
คนที่ปรมารจารย์ซือเหม่ยก้มหัวให้,ทำให้ผู้คนมากมายต่างก็เต็มไปด้วยความอยากรู้,กงจูจิวเหว่ย?
มีสถานะใดกันแน่?
เป็นไปได้ว่าปรมาจารย์ซือเหม่ยจะรู้อย่างงั้นรึ?ในเวลานี้สายตาของทุกส่ายไปมาด้วยความสงสัย.
กงจูจิวเหว่ย,มีที่มาที่ไป ไม่ธรรมดา,ทั่วทั้งชิงชิวนี้,บางที่คงมีเพียงเซิ่งหวังที่รู้,และนางยังเป็นคนที่เซิ่งหวังโปรดที่สุดอีกด้วย,สามร้อยปีมานี้,นางที่หาเรื่องไปทั่วทั้งชิงชิว,ใครขวางล้วนแล้วแต่ถูกสังหาร,ถูกทำร้ายโดยที่นางไม่ผิดแม้แต่น้อย,ในชิงชิวแห่งนี้จึงไม่มีใครกล้าล่วงเกินปิศาจน้อยตนนี้เลย.
อีกอย่างแม้นว่าทุกคนจะต้องการรับรู้ตัวตนของนาง,หลายๆคนที่ต้องการสืบเรื่องสถานะของตาง,ทว่ากลับถูกสั่งห้ามเอาไว้,จนทำให้ทุกคนไม่สามารถตามเรื่องนี้ต่อ,ไม่มีใครหาข้อมูลอะไรได้เลยแม้แต่นิดเดียว.
ในวันนี้กับท่าทางของปรมาจารย์ซือเหม่ยเช่นนี้,เป็นไปได้ว่าเขารับรู้ที่มาที่ไปของนางอย่างงั้นรึ?
"อืม!"กงจูจิวเหว่ยที่พยักหน้าพึงพอใจ,ราวกับว่ายินดีกับท่าทางของผู้คนมากมายที่กำลังตะลึงงัน.
"จิวเหว่ยเป็นเพียงนามบรรดาศักดิ์,ข้าขอถามนามที่แท้จริงได้หรือไม่!"ปรมาจารย์ซือเหม่ยที่สอบถามออกมา.
"หืม?"ทุกๆคนที่ตื่นตกใจเล็กน้อย.
นางไม่ได้มีนามว่าจื่อเหว่ยหรอกรึ?
แล้วนางมีนามว่าอะไร?
"เซิ่งหวังบอกว่านามของข้านั้นห้ามบอกใคร,และข้าก็จะไม่บอกเจ้า!"กงจูจิวเหว่ยที่ส่ายหน้าไปมา.
ทุกคนถึงกับพูดไม่ออก,ทำไมถึงไม่ยอกบอกชื่อกับทุกคนล่ะ?
เรื่องตลกอันใด,นามนั้นเป็นรหัสลับอย่างงั้นรึ? ทำไมถึงไม่สามารถบอกคนอื่นได้?
ในเวลานี้ทุกคนต่างก็คิดว่าเป็นเพียงแค่ความซุกซนของนางเท่านั้นจึงไม่ได้บอกใคร,ตอนนี้ถึงกับพูดไม่ออก.
มีเพียงจงซานที่ตื่นตกใจเล็กน้อย,เพราะว่าจงซานคิดถึงเรื่องของเซียนเซิงซือในทันที,ชื่อของเขาไม่สามารถบอกคนอื่นได้,ทำไมจึงไม่สามารถเผยต่อคนอื่นๆได้ล่ะ?
มีเพียงแค่ปรมาจารย์ซือเหม่ยที่สั่นไหวไปมา,ราวกับคิดอะไรบางอย่างได้,พร้อมกับพยักหน้ารับ"ล่วงเกินแล้ว!"
ทุกคนที่กลายเป็นโง่งม,ไม่คิดเลยว่าปรมาจารย์ซือเหม่ยนอกจากจะไม่โกรธยังกล่าวขอโทษอีกด้วยรึ?
"เอาล่ะ,จงซาน,เจ้าไปได้แล้ว!
จำไว้ว่าจะต้องนำเกียรติกลับมาให้ตำหนักกงจูจิวเหว่ย,ถึงแม้ว่าจะไม่สามารถชนะเขาได้,อย่างน้อยก็ต้องเดินให้ได้มากกว่า
25
ตา,อย่าเป็นเหมือนกับคนบ้า,มีตาเดินมากมาย,กลับไม่ยอมวาง,เจ้าจงวางมันลงไปในช่องว่างเลยอย่าได้สนใจสิ่งใด."กงจูจิวเหว่ยที่กล่าวราวกับว่ากำลังสั่งสอนจงซาน.
จงซานถึงกับพูดไม่ออก,เต็มไปด้วยความงงงวย,กงจูจิวเหว่ยกล่าวออกมานั้นไม่ได้รับรู้เกี่ยวกับกฎเกณฑ์การเดินหมากเลยแม้แต่น้อย,ใช่ว่าจะวางลงตำแหน่งใหนก็ได้,หากวางอย่างไม่คิดอะไร,อย่าว่าแต่
25 หมากเลย,ต่อเป็นสองร้อยหมาก็ไม่มีปัญหา,ทว่าจงซานจะทำเช่นนั้นอย่างงั้นรึ?
"ข้าจะทำทุกอย่างเท่าที่ทำได้!"จงซานถึงกับปาดเหงื่อที่เย็นเยือบออกมา.
พร้อมกับบินตรงไปยังลานแข่งขัน.
"จงซาน!"จงซานที่กล่าวนามของตัวเองออกมา.
"ในเมื่อกงจูจิวเหว่ยได้มอบหมายความคาดหวังไว้กับเจ้า,จงแสดงมันออกมาให้เต็มที่!"ปรมาจารย์หมากซือเหม่ยที่กล่าวออกมาเล็กน้อย,ก่อนที่จะสะบัดมือล้างหมากที่เดินกับประมุขจื่อเซียวออกไป,พร้อมกับรอให้จงซานเป็นฝ่ายเริ่ม.
จงซานพยักหน้า,พร้อมกับหยิบหมากสีดำขึ้นมา,เตรียมวางหมาก.
ในเวลาเดียวกัน,เมืองซ่างภพหยิน,ตำหนักอี้เทียนเจียน.
ร่างแยกเงาจงซานและหนานกงเซิ่งนั่งอยู่ในลานที่พัก,ทีด้านหน้านั้นมีกระดานหมากอยู่.
"หนานกงเซิ่ง,ที่ภพหยางมีกลหมากลวงสวรรค์,ขอให้เจ้าแสดงฝีมือเต็มที่,แก้ไขกลหมากนี้ให้ได้!"จงซานที่กล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม.
"น้อมรับบัญชา!"
ที่มาจากhttps://lnmtl.com/novel/immortality
#นิยาย เรื่องอมตะ #Immortality#นิยายแปลไทย
Author(s)
สนใจสนับสนุนพวกเรา,เข้าร่วมกลุ่ม VIP ====> Click
ปัจจุบันแปลจบแล้ว 1672 ตอน สนใจติดต่อเข้ากลุ่มลับได้ครับ
***เว็ปฟรีอัพ สองวันหนึ่งตอน
***กลุ่มลับ แปลจบแล้ว.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น