Immortality Chapter 856 Nine Yang Six Yin
นิยาย เรื่อง อมตะ ตอนที่ 856 เก้าหยางหกหยิน.
Chapter 856 Nine Yang Six Yin
阳九阴六
เก้าหยางหกหยิน.
จงซานและกงจูจิวเหว่ยที่ออกมาจากลานสนามแห่งขัน,มีบัตรใบหนี้,ก็สามารถเข้าไปในเทือกเขาม่านหมอกได้แล้ว.
ขณะที่กงจูจิวเหว่ยกลับมาที่ตำหนัก,นางได้กล่าวกับจงซานว่า,"จงซาน,เจ้าเป็นดาวนำโชคของข้า,ทำให้ข้าได้เดินทางไปยังเทือกเขาม่านหมอก,เจ้าพักหนึ่งวัน,พรุงนี้เดินทางไปยังสถานที่หนึ่งพร้อมกับข้า,หวังว่าจะเป็นตามคำทำนายของตาเฒ่าจื่อหยางนะ."
"ผู้เฒ่าจื่อหยาง?"จงซานที่ขมวดคิ้วไปมาแสดงท่าทางประหลาดใจ.
"อืม,เจ้าไม่รู้อะไรเลยสินะ,เขาคือผู้เชี่ยวชาญช่วงชิงโชคชะตา,ข้าเคยพบกับเขา,เขาได้ทำนายข้า,กับการเดินทางไปยังเทือกเขาม่านหมอกในครั้งนี้,ข้าอาจจะได้รับโชควาสนาใหญ่,ดังนั้น,การเดินทางไปยังเทือกเขาม่านหมอกครั้งนี้จึงสำคัญ,ข้าจึงต้องการเดินทางไปให้ได้ไงล่ะ!"จิวเหว่ยที่กล่าวออกมาตามตรง.
"ผู้เชี่ยวชาญช่วงชิงโชคชะตา?
บอกว่าจะได้รับโชควาสนาอย่างงั้นรึ?"จงซานที่ขมวดคิ้วไปมา.
เพราะว่าบุตรชายของจงซาน,จงเสวียน,ก็เป็นผู้เชี่ยวชาญช่วงชิงโชคชะตา,ช่างน่าเสียดาย,ที่การต่อสู้กับกงเสวียนทำให้เขาตายไป.
"บอกว่าข้าจะพบโชควาสนา? ไม่รู้ว่าเขาสามารถยากรได้อย่างไร,ในอดีต,ต้าแก่จื่อหยางเคยบอกว่างข้าจะพบวาสนา,บอกว่าข้าจะต้องไล่พวกกบฏออกไป,หากไม่แล้ว,อาจจะต้องตาย,และครั้งนี้ก็ได้ทำนายข้าอีกครั้ง
นั่นคือสิ่งที่เขาได้ทำการพยากรณ์."กงจูจิวเหว่ยที่สายหน้าไปมา.
"อืม!"จงซานพยักหน้ารับ.
.......
หลังจากพักหนึ่งวัน,จงซานและกงจูจิวเหว่ยก็เดินทางไปยังทิศๆทางหนึ่ง.
ในเวลาเดียวกันนั้น,เป็นเรื่องที่แปลกประหลาดเซิ่งหวังไท่ชูที่ได้กระทำเรื่องที่แปลกประหลาด,ทั้งที่เคยสังการว่าจงซานที่เป็นตัวประกัน,ไม่สามารถเดินทางออกนอกชิงชิวได้,ทว่ากงจูจิวเหว่ยกลับสามารถนำจงซานออกไปได้,ซึ่งมีด่านที่ออกมาขวางพวกเขา,ทว่าหลังจากที่กงจูจิวเหว่ยแสดงเหรียบตา,ก็สามารถผ่านไปได้.
............
พื้นที่ตำหนักของซือหม่าเฉียนจวิน.
"เส้าเหยี่ย,จงซานและกงจูจิวเห่ยออกจากชิงชิวตั้งแต่เมือวานแล้ว!"ผู้ใต้บังคับบัญชารายงาน.
"อะไร? จงซานออกไปด้านนอกอย่างงั้นรึ?
นี่เขากำลังละเมิดกฏการเป็นตัวประกันอย่างงั้นรึ?"ซือหม่าเฉียนจวินที่ดวงตาเบิกกว้าง.
"ไม่ใช่,กงจูจิวเหว่ยได้นำตราคำสั่งของเซิ่งหวังไท่ชูมา,ทำให้ทุกคนปล่อยผ่านไป!"ผู้ใต้บังคับบัญชารายงาน.
"คำสั่งของเซิ่งหวัง? อนุญาตให้ผ่าน?
นี่เซิ่งหวังคิดอะไรกัน?
ถึงได้ให้จงซานอออกจากชิงชิว?"ซือหม่าเฉียนจวินที่กล่าวออกมาด้วยความเกลียดชัง.
"เส้าเหยี่ย,โปรดระวังคำพูด!"ผู้ใต้บังคับบัญชาที่แสดงท่าทางเกรงกลัว,ที่เขาตำหนิเซิ่งหวัง,นี่ถือว่าเป็นอาชญากรรมที่รายแรง.
"ระวังคำพูด,ที่นี่คือตระกูลของข้า,เจ้าเป็นใคร,หากกลัวก็ไสหัวไปให้พ้น,ไป!"ซือหม่าเฉียนจวินที่กล่าวออกมาด้วยความจวิน.
เหล่าผู้ใต้บังคับบัญชาที่เร่งรีบถอยหนีไปในทันที.
..............
จงซานและกงจูจิวเหว่ยที่เดินทางบินตรงไปยังทิศใต้,บินไปราวๆหนึ่งเดือน.
"ที่นั่น."กงจูจิวเหว่ยที่เผยรอยยิ้มอย่างพึงพอใจ.
กับใบหน้าที่งดงาม,ที่ทำให้สวรรค์และปฐพีสว่างสดใส,กับชุดแพรไหมที่ราวกับมีปีก,พานางร่อนลงไปยังเทือกเขาแห่งหนึ่ง.
"กรรมเวร!"จงซานที่ส่ายหน้าไปมา.
กงจูจิวเหว่ยที่มาหยุดอยู่ในหุบเขาเทือกเขาแห่งหนึ่ง,ที่ด้านหน้านั้นเป็นป่าขนาดสี่เหลี่ยม,มีจิ้งจอกมากมายวิ่งเข้าวิ่งออก,เป็นกงจูจิวเหว่ยที่บินมาที่นี่,เหล่าจิ้งจอกมากมายที่หยุดนิ่งกลายเป็นงงงวย,เห็นชัดเจนว่าพวกมันกำลังตื่นตะลึงตกใจ.
"ที่นี่ที่ใหน?"จงซานสอบถามออกไ/ป.
"เจ้ารอข้าที่นี่! ข้าจะไปนำสิ่งของบางอย่างมาจากท่านพ่อ!"กงจูจิวเหว่ยที่กล่าวออกมาในทันที.
"อืม!"
กงจูจิวเหว่ยที่บินเข้าไปในหุบเขาลึก,ซึ่งมีศิลาขนาดใหญ่ขว้างกั้นอยู่,นางที่เข้าไปในถ้ำแห่งหนึ่ง,จากนั้นก็หายไปในทันที.
จงซานที่ไม่ได้แสดงความสงสัยอะไรออกมา,เขายังคงรออย่างอดทน,พร้อมกับครุ่นคิดเกี่ยวกับเทือกเขาม่านหมอก,มันคือที่ใหนกัน.
"กวี๊กๆๆๆๆๆๆๆ!"
ในเวลาเดียวกันนั้น,เสียงคำรามของหงเพลิงก็ปรากฏขึ้นในทันที.
จงซานที่จ้องมองออกไปบนเทือกเขาแห่งหนึ่งปรากฏภาพเงาของหงเพลิงสีแดง,ที่กำลังทะยานขึ้นบนท้องฟ้า,พลังของหงเพลิง,จากนั้นก็เป็นมังกรทองที่บินขึ้นไป.
"จิวเหว่ยยังไม่เสร็จอีกรึ? ไม่ได้การแล้ว!"
จงซานที่พบกับเหตุการณ์ที่น่าอัศจรรย์ใจนี้,ไม่ได้ปรากฏบนเทือกเขาของกงจิวเหว่ยเท่านั้น,ทว่ามันยังเกิดขึ้นทั่วทุกทิศทาง,ภาพเงาของเทพอสูรที่ร่องลอยอยู่บนท้องฟ้า,หงส์เพลิง,กิเลน,มังกร,นกกระเรียนขาว,กำลังร่ายรำอยู่บนอากาศ,สายรุ้งที่ปรากฏขึ้นบนท้องฟ้าทอดยาวลงมาบนพื้นโลก.
สวรรค์บรรเลงเพลิง,กลิ่นหอมที่ตลบอบอวนไปทั่วสวรรค์และปฐพี,แสงดวงตะวันที่ส่องประกายแวววาว,งดงามเป็นอย่างมาก.
"นี่,นี่มัน?"จงซานที่จ้องมองด้วยความตกใจ.
สวรรค์ชำละล้าง? แยกสวรรค์อย่างงั้นรึ?
มีใครบางคนที่กำลังแยกสวรรค์? ทำให้สวรรค์กำลังประทานพรรึ?หรือไม่ก็เป็นทักษะอย่างหนึ่ง,มันคืออะไรกัน?
"จงซาน,เกิดอะไรขึ้นอย่างงั้นรึ?"เสียงทของจิวเหว่ยที่ดังขึ้นในทันที.
ไม่รู้ว่านางโผล่ออกมาตอนใหนตอนนี้กลับมาอยู่ข้างกายของจงซานแล้ว.
"ไม่รู้เช่นกัน,คล้ายกับเหตุการณ์เมื่อครั้งแยกสวรรค์ของข้าเป็นอย่างมาก!"จงซานที่ขมวดคิ้วไปมา.
"มีบางคนกำลังแยกสวรรค์อย่างงั้นรึ?"กงจูจิวเหว่ยที่ดวงตาเป็นประกาย.
"อาจจะไม่ใช่!"จงซานที่ส่ายหน้าไปมา.
ทั้งคู่ที่ยืนอยู่บนยอดเข้าเฝ้ามองอภินิหารที่เกิดขึ้นตลอดทั้งวัน.
หนึ่งวันหลังจากนั้น,เหตุการณ์ที่แปลกประหลาด,เหตุการณ์ที่งดงาม,เหล่าภาพมายาของเหล่าเทพอสูร,เสียงดนตรีจากสวรรค์,กลิ่นที่หอมของสวรรค์ก็ได้หายไป,ราวกับว่าไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้น.
จงซานรู้สึกประหลาดใจเป็นอย่างมาก,เพราะว่าจงซานสามารถยืนยันได้ว่านี่ไม่ใช่การแยกสวรรค์แน่.
ทว่า,หากไม่ได้แยกสวรรค์,แล้วอภินิหารที่เกิดขึ้นนี้คืออะไร?
"ข้ารู้,ข้ารู้!"กงจูจิวเหว่ยทันใดนั้นก็โพล่งออกมา.
"รู้?
เจ้ารู้อย่างงั้นรึ?"จงซานที่แสดงท่าทางประหลาดใจ.
"แน่นอน,ข้าเป็นใคร!"กงจูจิวเหว่ยที่กล่าวด้วยน้ำเสียงภาคภูมิ.
"หมายความว่าอย่างไร?"
สายตาของกงจูจิวเหว่ยที่จ้องมอง,กล่าวออกมาด้วยความภูมิใจ,"เจ้าเป็นเหมินเค่อ,เช่นนั้นเจ้าจะต้องเรียกข้าว่า
เหมิ่นจู่."
门主 เหมินจู่
นายท่าน.
จงซาน ".....!"
"เจ้ายังไม่เคยเรียกข้าว่าเหมิ่นจู่เลย,หากเรียกข้าว่าเหมินจู่,ข้าจะบอกเจ้า!"กงจูจิวเหว่ยที่กล่าวยียวน.
จงซานถึงกับพูดไม่ออก.
"เจ้าไม่รู้สินะ!"จงซานส่ายหน้าไปมา,ไม่ยินดีที่จะเรียก.
"ใครบอกว่าข้าไม่รู้ล่ะ? เซิ่งหวังเคยบอกกับข้าด้วยตัวเอง."กงจูจิวเหว่ยแสดงท่าทางไม่พอใจ.
"ข้าคือเซิ่งหวัง,ยังไม่รู้?
เจ้าจะไปรู้ได้อย่างไร?"จงซานที่ไม่ยินดีเรียกนางว่าเหมินจู่.
"ฮึ,เจ้านี่ช่าง..,เจ้าเป็นเหมินเค่อของข้า,ยังไม่ยอมเข้าใจอีก,ก็ได้ข้าจะไม่บังคับเจ้าก็ได้,แต่เมื่อไปถึงเทือกเขาม่านหมอกแล้ว,เจ้าต้องพยายามเอาชนะให้ข้าด้วย!"กงจูจิวเหว่ยที่กล่าวออกมา.
"เรื่องนี้โปรดวางใจ!"จงซานที่เผยยิ้มออกมาเล็กน้อย.
นางที่จ้องมองไปยังรอยยิ้มของจงซาน,พร้อมแสดงท่าทางแบบช่วยไม่ได้.
"นี่คือการเกิดของปราชญ์เทพ,เป็นอภินิหารที่เกิดขึ้นทั่วสวรรค์,เกิดขึ้นทุกที่."กจงจูจิวเหว่ยกล่าว.
"ปราชญ์เทพ?
เจ้ารู้ได้อย่างไร?"จงซานที่แสดงท่าทางประหลาดใจ.
"หลายร้อยปีก่อนมีปราชญ์เทพตกตายไป,เจ้ารู้หรือไม่?"
"อืม,ในเวลานั้นภายในโลกใบเล็ก,ต่างก็มองเห็นสวรรค์หลั่งฝนสีแดงโลหิต,กระจายไปทั่วสวรรค์และปฐพี!"จงซานพยักหน้า.
"ภพหยางมีปราชญ์เทพเก้าคน,เมื่อตกตายไป,ก็จะต้องเกิดขึ้นมาใหม่,มันเป็นวิถีสวรรค์ที่ต้องทำให้สมดุล!"กงจูจิวเหว่ยที่กล่าวออกมาอย่างภาคภูมิ.
"ภพหยาง,มีปราชญ์เทพเก้าคนอย่างงั้นรึ?
แล้วทำไมถึงมีเก้า?"
"แน่นอน,เจ้าไม่เคยได้ยินเก้าหยางหกหยินอย่างงั้นรึ?
ภพหยางนั้นมีเก้าคน,ภพหยินมีหกคน,ในจำนวนนี้หากมีคนใดตกตายไป,ก็จะมีปราชญ์เทพคนใหม่เกิดขึ้นมา,เป็นไปได้ว่าอาจจะเป็นจวงจื่อ."กงจูจิวเหว่ยที่เอ่ยออกมา.
"ปราชญ์เทพจวงจื่ออย่างงั้นรึ?"จงซานที่แสดงความสงสัย.
"มีความเป็นไปได้,ใช่แล้วข้าได้ยินมาว่า,เมื่อครั้งเจ้าแยกสวรรค์,ศิษย์ของกงจื่อและจวงจื่อ,เกือบที่จะต่อสู้กันอย่างงั้นรึ?"หมายความว่าอหย่างไร?"กงจูจิวเหว่ยที่สอบถามออกมาด้วยท่าทางอย่างรู้.
จงซานที่ไร้คำพูด.
"พูด!"
"ข้าคิดว่านี่ก็สายมากแล้ว,พวกเราไม่รีบเดินทางไปเทือกเขาเมฆหมอกเดียวก็พลาดโอกาสหรอก!"จงซานที่เปลี่ยนหัวข้อในทันที.
หนึ่งเดือนหลังจากนั้น,ท้ายที่สุดทั้งคู่ก็เข้าสู่เขตแดนของเทือกเขาม่านหมอก.
เทือกเขาม่านหมอกนั้น,อยู่บนทะเลที่เต็มไปด้วยหมอก,เป็นเกาะแห่งหนึ่งที่มีขนาดใหญ่มาก.
ทว่า,สภาพภูมิอากาศนั้นเลวร้ายเป็นอย่างมาก,ไม่สามารถมองเห็นทิศทางได้เลย.
"แย่แล้ว,แย่แล้ว,สายแล้ว!"กงจูจิเหว่ยที่เต็มไปด้วยท่าทางร้อนใจ.
"ค่ายกลขนาดใหญ่,ปกคลุมผืนทะเลเอาไว้อย่างงั้นรึ?"จงซานที่หรี่ตาเล็กลง,แววตาที่เผยท่าทางเต็มไปด้วยความประหลาดใจ.
"พื้นที่แห่งนี้เป็นโลกเขตแดนที่ไม่มีใครเข้าไปได้,แน่นอนว่ามันเป็นดินแดนลวงตาที่ไม่สามารถผ่านเข้าไปได้ง่ายๆ!"กงจูจิวเหว่ยที่กล่าวออกมาด้วยความกังวล.
ในเวลาเดียวกันนั้น,ภายในทะเลที่มีหมอกหนาจัด,ก็ปรากฏเรือลำสีทองที่แล่นผ่านอากาศมา.
"หยุนโซว?"ใบหน้าของกงจูจิวเหว่ยที่เต็มไปด้วยความสุข.
"หยุนโซว,มาแล้ว,พาพวกเราไปยังเทือกเขาม่านหมอกเร็วเข้า."กงจูจิวเหว่ยที่ตะโกนออกไปเสียงดัง.
จากนั้น,เรือลำสีทองก็แล่นมาเทียบฝั่ง.
คนที่ควบคุมเรือ,เป็นมนุษย์ที่มีหัวเป็นอสูรจิ้งจอก,มองไกลๆก็จะเห็นเป็นมนุษย์จิ้งจอก,กึ่งมนุษย์จิ้งจอกอย่างงั้นรึ?จงซานที่เต็มไปด้วยความประหลาดใจ.
"นี่คือบัตรตำหนักกงจูจิวเหว่ย,พาพวกเราไปด้านใน!"กงจูจิวเหว่นที่ยื่นบัตรของจงซานออกไปในทันที.
กึ่งมนุษย์,มนุษย์จิ้งจอกที่รับมา,ตรวจสอบอย่างระเอียดและกล่าวว่า,"ตกลง!"
ตกลง,สองคำที่ดูโอหังนัก,ไม่,น่าจะบอกว่าเหมือนกับเครื่องยนต์มากกว่า.
จงซานและกงจูจิวเหว่ยที่ขึ้นเรื่อง,จงซานที่จ้องมองกึ่งมนุษย์จิ้งจอกด้วยท่าทางแปลกประหลาด.
"แปลกเหรอ,นี่คือมนุษย์หุ่นค่ายกล,มันสามารถพาพวกเราผ่านเข้าในค่ายกลของเทือกเขาม่านหมอกได้."กงจูจิวเหว่ยที่เผยยิ้มออกมา.
"เจ้าบอกว่านี่คือหุ่นกลอย่างงั้นรึ?"จงซานที่กล่าวออกมาด้วยความประหลาดใจ.
"แน่นอน,ไม่เช่นนั้นจะมีรูปร่างเช่นนี้รึ?"จิวเหว่ยตอบ.
จงซานที่จ้องมองไปยังกึ่งมนุษย์,ไม่,เป็นหุ่นจริงๆ,หากมองอย่างระเอียดแล้ว,ดวงตาของมันที่ไม่ขยับ,นี่คือหุ่นค่ายกลเป็นสิ่งที่ประดิษฐ์ขึ้นจริงๆ.
"การแข่งขันหมากล้อมวิญญาณจะเริ่มขึ้นเมื่อไหร่?"กงจูจิวเหว่ยกล่าว.
"เริ่มขึ้นสิบวันที่แล้ว!"หุ่นกลตอบ.
"เร็วขนาดนั้นเลยรึ? แย่แล้ว,แย่แล้ว,เร็วเข้า,เพิ่มความเร็วเลย!"กงจูจิวเหว่ยที่ท่าทางร้อนใจ.
"รับทราบ!"
หยุนโซวที่พาข้ามผ่านทะเลม่านหมอก,ตัดผ่านอากาศเข้าไปอย่างรวดเร็ว,แม้นว่าพื้นที่จะกว้างเป็นอย่างมาก,แต่ด้วยความเร็วที่น่าตื่นตะลึง,หลังจากนั้นหนึ่งวันหนึ่งคืนก็มาถึงเกาะแห่งหนึ่งที่มีหมอกอันเลวร้ายปกคลุม.
เป็นเกาะที่มีขนาดใหญ่เป็นอย่างมาก.
"เร็วเข้า,ตามข้ามา!"กงจูจิวเหวยที่ลากจงซานบินเข้าไปในเกาะ.
บนท้องฟ้า,จงซานสามารถมองเห็นเหล่าจิ้งจ้องมองกมา,อยู่เต็มไปด้วย,และสถานที่แห่งนี้ปราณหยวนฟ้าดินยังหนาแน่นยิ่งกว่าสถานที่อื่นๆเป็นอย่างมาก.
เกาะแห่งนี้อยู่ใจกลางชัยภูมิที่ดี,พื้นที่รอบๆนั้นมียอเขาเล็กมากมายกระจายไปทั่ว.
บนยอดเขาเล็กๆเหล่านี้,ในเวลานี้มีคนยืนอยู่ยึดครองพื้นที่เอาไว้เต็มไปหมด,พวกเขาทั้งหมดต่างเป็นมือหมากที่ได้รับสิทธิ์ในการเดินทางเข้าชุมนุมในครั้งนี้ทั้งหมดนั่นเอง.
ทว่าบนภูเขาครึ่งซีกแห่งหนึ่งที่มีลานขนาดใหญ่,บนนั้นมีกระดานหมากขนาดใหญ่ตั้งอยู่,ที่ฝั่งหนึ่งนั้นมีคนที่จงซานรู้จัก,เซียนเซิงหลี่.
ส่วนอีกฝั่งตรงข้ามของเซียนเซิงหลี่นั้นเป็นชายชราผมสีขาว,ทั้งสองคนนั้นกำลังเล่นหมากล้อมกันอยู่นั่นเอง.
"เซียนเซิง,ไป๋ฮุยจื่อ,ยอดฝืมือหมากอันดับหนึ่งของเขตแดนชิงชิว,ข้าเผ่าจิ้งจอกโบราณ,ปรมาจารย์หมากซือเหม่ย! หมากล้อมวิญญาณกระดานนี้,ขอคำแนะนำด้วย."
Chapter 856 Nine Yang Six Yin
阳九阴六
เก้าหยางหกหยิน.
จงซานและกงจูจิวเหว่ยที่ออกมาจากลานสนามแห่งขัน,มีบัตรใบหนี้,ก็สามารถเข้าไปในเทือกเขาม่านหมอกได้แล้ว.
ขณะที่กงจูจิวเหว่ยกลับมาที่ตำหนัก,นางได้กล่าวกับจงซานว่า,"จงซาน,เจ้าเป็นดาวนำโชคของข้า,ทำให้ข้าได้เดินทางไปยังเทือกเขาม่านหมอก,เจ้าพักหนึ่งวัน,พรุงนี้เดินทางไปยังสถานที่หนึ่งพร้อมกับข้า,หวังว่าจะเป็นตามคำทำนายของตาเฒ่าจื่อหยางนะ."
"ผู้เฒ่าจื่อหยาง?"จงซานที่ขมวดคิ้วไปมาแสดงท่าทางประหลาดใจ.
"อืม,เจ้าไม่รู้อะไรเลยสินะ,เขาคือผู้เชี่ยวชาญช่วงชิงโชคชะตา,ข้าเคยพบกับเขา,เขาได้ทำนายข้า,กับการเดินทางไปยังเทือกเขาม่านหมอกในครั้งนี้,ข้าอาจจะได้รับโชควาสนาใหญ่,ดังนั้น,การเดินทางไปยังเทือกเขาม่านหมอกครั้งนี้จึงสำคัญ,ข้าจึงต้องการเดินทางไปให้ได้ไงล่ะ!"จิวเหว่ยที่กล่าวออกมาตามตรง.
"ผู้เชี่ยวชาญช่วงชิงโชคชะตา?
บอกว่าจะได้รับโชควาสนาอย่างงั้นรึ?"จงซานที่ขมวดคิ้วไปมา.
เพราะว่าบุตรชายของจงซาน,จงเสวียน,ก็เป็นผู้เชี่ยวชาญช่วงชิงโชคชะตา,ช่างน่าเสียดาย,ที่การต่อสู้กับกงเสวียนทำให้เขาตายไป.
"บอกว่าข้าจะพบโชควาสนา? ไม่รู้ว่าเขาสามารถยากรได้อย่างไร,ในอดีต,ต้าแก่จื่อหยางเคยบอกว่างข้าจะพบวาสนา,บอกว่าข้าจะต้องไล่พวกกบฏออกไป,หากไม่แล้ว,อาจจะต้องตาย,และครั้งนี้ก็ได้ทำนายข้าอีกครั้ง
นั่นคือสิ่งที่เขาได้ทำการพยากรณ์."กงจูจิวเหว่ยที่สายหน้าไปมา.
"อืม!"จงซานพยักหน้ารับ.
.......
หลังจากพักหนึ่งวัน,จงซานและกงจูจิวเหว่ยก็เดินทางไปยังทิศๆทางหนึ่ง.
ในเวลาเดียวกันนั้น,เป็นเรื่องที่แปลกประหลาดเซิ่งหวังไท่ชูที่ได้กระทำเรื่องที่แปลกประหลาด,ทั้งที่เคยสังการว่าจงซานที่เป็นตัวประกัน,ไม่สามารถเดินทางออกนอกชิงชิวได้,ทว่ากงจูจิวเหว่ยกลับสามารถนำจงซานออกไปได้,ซึ่งมีด่านที่ออกมาขวางพวกเขา,ทว่าหลังจากที่กงจูจิวเหว่ยแสดงเหรียบตา,ก็สามารถผ่านไปได้.
............
พื้นที่ตำหนักของซือหม่าเฉียนจวิน.
"เส้าเหยี่ย,จงซานและกงจูจิวเห่ยออกจากชิงชิวตั้งแต่เมือวานแล้ว!"ผู้ใต้บังคับบัญชารายงาน.
"อะไร? จงซานออกไปด้านนอกอย่างงั้นรึ?
นี่เขากำลังละเมิดกฏการเป็นตัวประกันอย่างงั้นรึ?"ซือหม่าเฉียนจวินที่ดวงตาเบิกกว้าง.
"ไม่ใช่,กงจูจิวเหว่ยได้นำตราคำสั่งของเซิ่งหวังไท่ชูมา,ทำให้ทุกคนปล่อยผ่านไป!"ผู้ใต้บังคับบัญชารายงาน.
"คำสั่งของเซิ่งหวัง? อนุญาตให้ผ่าน?
นี่เซิ่งหวังคิดอะไรกัน?
ถึงได้ให้จงซานอออกจากชิงชิว?"ซือหม่าเฉียนจวินที่กล่าวออกมาด้วยความเกลียดชัง.
"เส้าเหยี่ย,โปรดระวังคำพูด!"ผู้ใต้บังคับบัญชาที่แสดงท่าทางเกรงกลัว,ที่เขาตำหนิเซิ่งหวัง,นี่ถือว่าเป็นอาชญากรรมที่รายแรง.
"ระวังคำพูด,ที่นี่คือตระกูลของข้า,เจ้าเป็นใคร,หากกลัวก็ไสหัวไปให้พ้น,ไป!"ซือหม่าเฉียนจวินที่กล่าวออกมาด้วยความจวิน.
เหล่าผู้ใต้บังคับบัญชาที่เร่งรีบถอยหนีไปในทันที.
..............
จงซานและกงจูจิวเหว่ยที่เดินทางบินตรงไปยังทิศใต้,บินไปราวๆหนึ่งเดือน.
"ที่นั่น."กงจูจิวเหว่ยที่เผยรอยยิ้มอย่างพึงพอใจ.
กับใบหน้าที่งดงาม,ที่ทำให้สวรรค์และปฐพีสว่างสดใส,กับชุดแพรไหมที่ราวกับมีปีก,พานางร่อนลงไปยังเทือกเขาแห่งหนึ่ง.
"กรรมเวร!"จงซานที่ส่ายหน้าไปมา.
กงจูจิวเหว่ยที่มาหยุดอยู่ในหุบเขาเทือกเขาแห่งหนึ่ง,ที่ด้านหน้านั้นเป็นป่าขนาดสี่เหลี่ยม,มีจิ้งจอกมากมายวิ่งเข้าวิ่งออก,เป็นกงจูจิวเหว่ยที่บินมาที่นี่,เหล่าจิ้งจอกมากมายที่หยุดนิ่งกลายเป็นงงงวย,เห็นชัดเจนว่าพวกมันกำลังตื่นตะลึงตกใจ.
"ที่นี่ที่ใหน?"จงซานสอบถามออกไ/ป.
"เจ้ารอข้าที่นี่! ข้าจะไปนำสิ่งของบางอย่างมาจากท่านพ่อ!"กงจูจิวเหว่ยที่กล่าวออกมาในทันที.
"อืม!"
กงจูจิวเหว่ยที่บินเข้าไปในหุบเขาลึก,ซึ่งมีศิลาขนาดใหญ่ขว้างกั้นอยู่,นางที่เข้าไปในถ้ำแห่งหนึ่ง,จากนั้นก็หายไปในทันที.
จงซานที่ไม่ได้แสดงความสงสัยอะไรออกมา,เขายังคงรออย่างอดทน,พร้อมกับครุ่นคิดเกี่ยวกับเทือกเขาม่านหมอก,มันคือที่ใหนกัน.
"กวี๊กๆๆๆๆๆๆๆ!"
ในเวลาเดียวกันนั้น,เสียงคำรามของหงเพลิงก็ปรากฏขึ้นในทันที.
จงซานที่จ้องมองออกไปบนเทือกเขาแห่งหนึ่งปรากฏภาพเงาของหงเพลิงสีแดง,ที่กำลังทะยานขึ้นบนท้องฟ้า,พลังของหงเพลิง,จากนั้นก็เป็นมังกรทองที่บินขึ้นไป.
"จิวเหว่ยยังไม่เสร็จอีกรึ? ไม่ได้การแล้ว!"
จงซานที่พบกับเหตุการณ์ที่น่าอัศจรรย์ใจนี้,ไม่ได้ปรากฏบนเทือกเขาของกงจิวเหว่ยเท่านั้น,ทว่ามันยังเกิดขึ้นทั่วทุกทิศทาง,ภาพเงาของเทพอสูรที่ร่องลอยอยู่บนท้องฟ้า,หงส์เพลิง,กิเลน,มังกร,นกกระเรียนขาว,กำลังร่ายรำอยู่บนอากาศ,สายรุ้งที่ปรากฏขึ้นบนท้องฟ้าทอดยาวลงมาบนพื้นโลก.
สวรรค์บรรเลงเพลิง,กลิ่นหอมที่ตลบอบอวนไปทั่วสวรรค์และปฐพี,แสงดวงตะวันที่ส่องประกายแวววาว,งดงามเป็นอย่างมาก.
"นี่,นี่มัน?"จงซานที่จ้องมองด้วยความตกใจ.
สวรรค์ชำละล้าง? แยกสวรรค์อย่างงั้นรึ?
มีใครบางคนที่กำลังแยกสวรรค์? ทำให้สวรรค์กำลังประทานพรรึ?หรือไม่ก็เป็นทักษะอย่างหนึ่ง,มันคืออะไรกัน?
"จงซาน,เกิดอะไรขึ้นอย่างงั้นรึ?"เสียงทของจิวเหว่ยที่ดังขึ้นในทันที.
ไม่รู้ว่านางโผล่ออกมาตอนใหนตอนนี้กลับมาอยู่ข้างกายของจงซานแล้ว.
"ไม่รู้เช่นกัน,คล้ายกับเหตุการณ์เมื่อครั้งแยกสวรรค์ของข้าเป็นอย่างมาก!"จงซานที่ขมวดคิ้วไปมา.
"มีบางคนกำลังแยกสวรรค์อย่างงั้นรึ?"กงจูจิวเหว่ยที่ดวงตาเป็นประกาย.
"อาจจะไม่ใช่!"จงซานที่ส่ายหน้าไปมา.
ทั้งคู่ที่ยืนอยู่บนยอดเข้าเฝ้ามองอภินิหารที่เกิดขึ้นตลอดทั้งวัน.
หนึ่งวันหลังจากนั้น,เหตุการณ์ที่แปลกประหลาด,เหตุการณ์ที่งดงาม,เหล่าภาพมายาของเหล่าเทพอสูร,เสียงดนตรีจากสวรรค์,กลิ่นที่หอมของสวรรค์ก็ได้หายไป,ราวกับว่าไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้น.
จงซานรู้สึกประหลาดใจเป็นอย่างมาก,เพราะว่าจงซานสามารถยืนยันได้ว่านี่ไม่ใช่การแยกสวรรค์แน่.
ทว่า,หากไม่ได้แยกสวรรค์,แล้วอภินิหารที่เกิดขึ้นนี้คืออะไร?
"ข้ารู้,ข้ารู้!"กงจูจิวเหว่ยทันใดนั้นก็โพล่งออกมา.
"รู้?
เจ้ารู้อย่างงั้นรึ?"จงซานที่แสดงท่าทางประหลาดใจ.
"แน่นอน,ข้าเป็นใคร!"กงจูจิวเหว่ยที่กล่าวด้วยน้ำเสียงภาคภูมิ.
"หมายความว่าอย่างไร?"
สายตาของกงจูจิวเหว่ยที่จ้องมอง,กล่าวออกมาด้วยความภูมิใจ,"เจ้าเป็นเหมินเค่อ,เช่นนั้นเจ้าจะต้องเรียกข้าว่า
เหมิ่นจู่."
门主 เหมินจู่
นายท่าน.
จงซาน ".....!"
"เจ้ายังไม่เคยเรียกข้าว่าเหมิ่นจู่เลย,หากเรียกข้าว่าเหมินจู่,ข้าจะบอกเจ้า!"กงจูจิวเหว่ยที่กล่าวยียวน.
จงซานถึงกับพูดไม่ออก.
"เจ้าไม่รู้สินะ!"จงซานส่ายหน้าไปมา,ไม่ยินดีที่จะเรียก.
"ใครบอกว่าข้าไม่รู้ล่ะ? เซิ่งหวังเคยบอกกับข้าด้วยตัวเอง."กงจูจิวเหว่ยแสดงท่าทางไม่พอใจ.
"ข้าคือเซิ่งหวัง,ยังไม่รู้?
เจ้าจะไปรู้ได้อย่างไร?"จงซานที่ไม่ยินดีเรียกนางว่าเหมินจู่.
"ฮึ,เจ้านี่ช่าง..,เจ้าเป็นเหมินเค่อของข้า,ยังไม่ยอมเข้าใจอีก,ก็ได้ข้าจะไม่บังคับเจ้าก็ได้,แต่เมื่อไปถึงเทือกเขาม่านหมอกแล้ว,เจ้าต้องพยายามเอาชนะให้ข้าด้วย!"กงจูจิวเหว่ยที่กล่าวออกมา.
"เรื่องนี้โปรดวางใจ!"จงซานที่เผยยิ้มออกมาเล็กน้อย.
นางที่จ้องมองไปยังรอยยิ้มของจงซาน,พร้อมแสดงท่าทางแบบช่วยไม่ได้.
"นี่คือการเกิดของปราชญ์เทพ,เป็นอภินิหารที่เกิดขึ้นทั่วสวรรค์,เกิดขึ้นทุกที่."กจงจูจิวเหว่ยกล่าว.
"ปราชญ์เทพ?
เจ้ารู้ได้อย่างไร?"จงซานที่แสดงท่าทางประหลาดใจ.
"หลายร้อยปีก่อนมีปราชญ์เทพตกตายไป,เจ้ารู้หรือไม่?"
"อืม,ในเวลานั้นภายในโลกใบเล็ก,ต่างก็มองเห็นสวรรค์หลั่งฝนสีแดงโลหิต,กระจายไปทั่วสวรรค์และปฐพี!"จงซานพยักหน้า.
"ภพหยางมีปราชญ์เทพเก้าคน,เมื่อตกตายไป,ก็จะต้องเกิดขึ้นมาใหม่,มันเป็นวิถีสวรรค์ที่ต้องทำให้สมดุล!"กงจูจิวเหว่ยที่กล่าวออกมาอย่างภาคภูมิ.
"ภพหยาง,มีปราชญ์เทพเก้าคนอย่างงั้นรึ?
แล้วทำไมถึงมีเก้า?"
"แน่นอน,เจ้าไม่เคยได้ยินเก้าหยางหกหยินอย่างงั้นรึ?
ภพหยางนั้นมีเก้าคน,ภพหยินมีหกคน,ในจำนวนนี้หากมีคนใดตกตายไป,ก็จะมีปราชญ์เทพคนใหม่เกิดขึ้นมา,เป็นไปได้ว่าอาจจะเป็นจวงจื่อ."กงจูจิวเหว่ยที่เอ่ยออกมา.
"ปราชญ์เทพจวงจื่ออย่างงั้นรึ?"จงซานที่แสดงความสงสัย.
"มีความเป็นไปได้,ใช่แล้วข้าได้ยินมาว่า,เมื่อครั้งเจ้าแยกสวรรค์,ศิษย์ของกงจื่อและจวงจื่อ,เกือบที่จะต่อสู้กันอย่างงั้นรึ?"หมายความว่าอหย่างไร?"กงจูจิวเหว่ยที่สอบถามออกมาด้วยท่าทางอย่างรู้.
จงซานที่ไร้คำพูด.
"พูด!"
"ข้าคิดว่านี่ก็สายมากแล้ว,พวกเราไม่รีบเดินทางไปเทือกเขาเมฆหมอกเดียวก็พลาดโอกาสหรอก!"จงซานที่เปลี่ยนหัวข้อในทันที.
หนึ่งเดือนหลังจากนั้น,ท้ายที่สุดทั้งคู่ก็เข้าสู่เขตแดนของเทือกเขาม่านหมอก.
เทือกเขาม่านหมอกนั้น,อยู่บนทะเลที่เต็มไปด้วยหมอก,เป็นเกาะแห่งหนึ่งที่มีขนาดใหญ่มาก.
ทว่า,สภาพภูมิอากาศนั้นเลวร้ายเป็นอย่างมาก,ไม่สามารถมองเห็นทิศทางได้เลย.
"แย่แล้ว,แย่แล้ว,สายแล้ว!"กงจูจิเหว่ยที่เต็มไปด้วยท่าทางร้อนใจ.
"ค่ายกลขนาดใหญ่,ปกคลุมผืนทะเลเอาไว้อย่างงั้นรึ?"จงซานที่หรี่ตาเล็กลง,แววตาที่เผยท่าทางเต็มไปด้วยความประหลาดใจ.
"พื้นที่แห่งนี้เป็นโลกเขตแดนที่ไม่มีใครเข้าไปได้,แน่นอนว่ามันเป็นดินแดนลวงตาที่ไม่สามารถผ่านเข้าไปได้ง่ายๆ!"กงจูจิวเหว่ยที่กล่าวออกมาด้วยความกังวล.
ในเวลาเดียวกันนั้น,ภายในทะเลที่มีหมอกหนาจัด,ก็ปรากฏเรือลำสีทองที่แล่นผ่านอากาศมา.
"หยุนโซว?"ใบหน้าของกงจูจิวเหว่ยที่เต็มไปด้วยความสุข.
"หยุนโซว,มาแล้ว,พาพวกเราไปยังเทือกเขาม่านหมอกเร็วเข้า."กงจูจิวเหว่ยที่ตะโกนออกไปเสียงดัง.
จากนั้น,เรือลำสีทองก็แล่นมาเทียบฝั่ง.
คนที่ควบคุมเรือ,เป็นมนุษย์ที่มีหัวเป็นอสูรจิ้งจอก,มองไกลๆก็จะเห็นเป็นมนุษย์จิ้งจอก,กึ่งมนุษย์จิ้งจอกอย่างงั้นรึ?จงซานที่เต็มไปด้วยความประหลาดใจ.
"นี่คือบัตรตำหนักกงจูจิวเหว่ย,พาพวกเราไปด้านใน!"กงจูจิวเหว่นที่ยื่นบัตรของจงซานออกไปในทันที.
กึ่งมนุษย์,มนุษย์จิ้งจอกที่รับมา,ตรวจสอบอย่างระเอียดและกล่าวว่า,"ตกลง!"
ตกลง,สองคำที่ดูโอหังนัก,ไม่,น่าจะบอกว่าเหมือนกับเครื่องยนต์มากกว่า.
จงซานและกงจูจิวเหว่ยที่ขึ้นเรื่อง,จงซานที่จ้องมองกึ่งมนุษย์จิ้งจอกด้วยท่าทางแปลกประหลาด.
"แปลกเหรอ,นี่คือมนุษย์หุ่นค่ายกล,มันสามารถพาพวกเราผ่านเข้าในค่ายกลของเทือกเขาม่านหมอกได้."กงจูจิวเหว่ยที่เผยยิ้มออกมา.
"เจ้าบอกว่านี่คือหุ่นกลอย่างงั้นรึ?"จงซานที่กล่าวออกมาด้วยความประหลาดใจ.
"แน่นอน,ไม่เช่นนั้นจะมีรูปร่างเช่นนี้รึ?"จิวเหว่ยตอบ.
จงซานที่จ้องมองไปยังกึ่งมนุษย์,ไม่,เป็นหุ่นจริงๆ,หากมองอย่างระเอียดแล้ว,ดวงตาของมันที่ไม่ขยับ,นี่คือหุ่นค่ายกลเป็นสิ่งที่ประดิษฐ์ขึ้นจริงๆ.
"การแข่งขันหมากล้อมวิญญาณจะเริ่มขึ้นเมื่อไหร่?"กงจูจิวเหว่ยกล่าว.
"เริ่มขึ้นสิบวันที่แล้ว!"หุ่นกลตอบ.
"เร็วขนาดนั้นเลยรึ? แย่แล้ว,แย่แล้ว,เร็วเข้า,เพิ่มความเร็วเลย!"กงจูจิวเหว่ยที่ท่าทางร้อนใจ.
"รับทราบ!"
หยุนโซวที่พาข้ามผ่านทะเลม่านหมอก,ตัดผ่านอากาศเข้าไปอย่างรวดเร็ว,แม้นว่าพื้นที่จะกว้างเป็นอย่างมาก,แต่ด้วยความเร็วที่น่าตื่นตะลึง,หลังจากนั้นหนึ่งวันหนึ่งคืนก็มาถึงเกาะแห่งหนึ่งที่มีหมอกอันเลวร้ายปกคลุม.
เป็นเกาะที่มีขนาดใหญ่เป็นอย่างมาก.
"เร็วเข้า,ตามข้ามา!"กงจูจิวเหวยที่ลากจงซานบินเข้าไปในเกาะ.
บนท้องฟ้า,จงซานสามารถมองเห็นเหล่าจิ้งจ้องมองกมา,อยู่เต็มไปด้วย,และสถานที่แห่งนี้ปราณหยวนฟ้าดินยังหนาแน่นยิ่งกว่าสถานที่อื่นๆเป็นอย่างมาก.
เกาะแห่งนี้อยู่ใจกลางชัยภูมิที่ดี,พื้นที่รอบๆนั้นมียอเขาเล็กมากมายกระจายไปทั่ว.
บนยอดเขาเล็กๆเหล่านี้,ในเวลานี้มีคนยืนอยู่ยึดครองพื้นที่เอาไว้เต็มไปหมด,พวกเขาทั้งหมดต่างเป็นมือหมากที่ได้รับสิทธิ์ในการเดินทางเข้าชุมนุมในครั้งนี้ทั้งหมดนั่นเอง.
ทว่าบนภูเขาครึ่งซีกแห่งหนึ่งที่มีลานขนาดใหญ่,บนนั้นมีกระดานหมากขนาดใหญ่ตั้งอยู่,ที่ฝั่งหนึ่งนั้นมีคนที่จงซานรู้จัก,เซียนเซิงหลี่.
ส่วนอีกฝั่งตรงข้ามของเซียนเซิงหลี่นั้นเป็นชายชราผมสีขาว,ทั้งสองคนนั้นกำลังเล่นหมากล้อมกันอยู่นั่นเอง.
"เซียนเซิง,ไป๋ฮุยจื่อ,ยอดฝืมือหมากอันดับหนึ่งของเขตแดนชิงชิว,ข้าเผ่าจิ้งจอกโบราณ,ปรมาจารย์หมากซือเหม่ย! หมากล้อมวิญญาณกระดานนี้,ขอคำแนะนำด้วย."
ที่มาจากhttps://lnmtl.com/novel/immortality
#นิยาย เรื่องอมตะ #Immortality#นิยายแปลไทย
Author(s)
สนใจสนับสนุนพวกเรา,เข้าร่วมกลุ่ม VIP ====> Click
ปัจจุบันแปลจบแล้ว 1672 ตอน สนใจติดต่อเข้ากลุ่มลับได้ครับ
***เว็ปฟรีอัพ สองวันหนึ่งตอน
***กลุ่มลับ แปลจบแล้ว.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น