Immortality Chapter 818 The secret of Genesis streamer
นิยาย เรื่อง อมตะ ตอนที่ 818 ความลับของธวัชหยวนซือ.
Chapter 818 The secret
of Genesis streamer
元始幡的秘密
ความลับของธวัชหยวนซือ.
"หลังจากที่หวังเฉินมาถึง,เกิดอะไรขึ้น?"จงซานสอบถาม.
"ธารโลหิตคลั่ง,กระแสโลหิตควรค่าแล้วที่เป็นวิชาที่น่าสะพรึงกลัวของโลกใบใหญ่,ภายใต้วิชาธารโลหิตคลั่ง,หวังเฉินลอบโจมตีเหรินชุนในทันที,หลังจากนั้นก็สังหารผู้ใต้บังคับบัญชาของเหรินชุนที่เหลือ
4-5 คนไป!"เซียนเซิงซือกล่าว.
"หวังเฉินทรงพลังขนาดนั้นเลยรึ?"เจ้าโส่วเซี่ยงสอบถามออกไป.
"หวังเฉินแม้ว่าพลังฝึกตนจะไม่ได้มากนัก,ทว่าด้วยวิชาธารโลหิต,กลับทรงพลังเกินกว่าจะคาดการได้,ด้วยพลังดังกล่าวนั้น,สามารถทำลายเหล่าผู้คุ้มกันของเหรินชุนได้อย่างง่ายดาย."เซียนเซิงซือที่สูดหายใจลึก.
"เขาต้องการทำอะไร? ต่อสู้เพื่อศพปราชญ์เทพอย่างงั้นรึ?"
"ไม่,สิ่งที่เขาต้องการคือสิ่งนี้!"เซียนเซิงซือที่กวาดมือออกไปพร้อมกับนำตะปูสีดำล้วนออกมา,ตะปูแต่ละเล่มนั้นมีอักษรรูนแปลกประหลาดสลักอยู่.
"ตะปูโลงศพ?"เจ้าโส่วเซี่ยงที่ขมวดคิ้วไปมา.
"ใช่แล้ว,ตะปูโลงศพ,มันมีด้วยกันทั้งหมดสิบเล่ม,ข้าได้แย่งมันมาได้สามเล่ม,นี่คือของวิเศษล้ำค่าชั้นยอด!"เซียนเซิงซือกล่าว.
"ของวิเศษล้ำค่าชั้นยอด?"
จงซานที่พยักหน้ารับ,ก่อนหน้านี้พอจะคาดเดาความจริงได้,ตะปูที่ผนึกฝาโลงศพของปราชญ์เทพ,มีเหรอที่จะเป็นตะปูธรรมดา?
ศพของปราชญ์เทพ,แม้แต่อุปกรณ์เซียนยังไม่สามารถใช้ผนึกได้,หากแต่ตะปูทั้งสิบกลับสามารถ.
จงซานเองไม่รู้เช่นกันว่าใครเป็นคนหลอมตะปูดังกล่าวขึ้นมา,ทว่าตะปูทั้งสิบเล่มย่อมไม่อ่อนแอไปกว่าสมบัติโบราณทั้งสิบอย่างแน่นอน.
ตะปูผนึกศพปราชญ์เทพ!
"ในเวลานั้นเจ้าเองก็ลงมืออย่างงั้นรึ?"จงซานที่จ้องมองไปยังเซียนเซิงซือ.
"ครับ,ในสถานการณ์เวลานั้น,ทันทีที่โลงศพถูกเปิด,ฟ้าดินกำสรวล,ท้องฟ้าร้องไห้เป็นสายฝน,กลิ่นอายของปราณสวี,ที่พวยพุ่งออกมาอย่างรุนแรง,ข้ารับรู้ว่าในเวลานั้นคงไม่สามารถที่จะขวางกั้นอะไรได้แล้ว,ปราณทมิฬเองก็แข็งแกร่งมากยิ่งกว่าเดิมอีก,ศพปราชญ์เทพไม่สามารถที่จะบรรจุหรือผนึกได้อีกแล้ว,ข้าจึงลอบลงมือ,ช่างน่าเสียดายที่ได้ตะปูโลงศพมาได้แค่สามเล่มเท่านั้น!"เซียนเซิงซือที่ส่ายหน้าไปมา.
"หืม? สาม? อีกเจ็ดเล่มล่ะ?"
"เหรินชุนได้ไปสอง,หวังเฉินได้ไปห้าเล่ม!"เซียนเซิงซือที่ลอบถอนหายใจเบาๆ.
"แล้วจากนั้นล่ะ?"จงซานที่จ้องมองไปยังเซียนเซิงซือ.
"หลังจากเกิดชุลมุน,เหรินชุนที่ปิดโลงศพอย่างรวดเร็ว,พร้อมกับนำโลงศพออกจากแดนเทพอมตะอย่างรวดเร็ว,หวังเฉินและข้าเองก็ไล่ตามไป."เซียนเซิงซือกล่าว.
"ตามออกมาอย่างงั้นรึ?"
"เฉินไม่กล้าเข้าไปแย่งชิงศพปราชญ์เทพเพียงแค่ตามออกมาเท่านั้น,ส่วนเหรินชุนและหวังเฉินดูเหมือนว่าจะมีเหตุผลบางอย่างที่โจมตีกันอย่างรุนแรง,ข้าได้ออกมาสบทบกับสุ่ยจิง,อาวุโสเทียนและคนอื่นๆพร้อมกับถอยห่างออกมาทันที!
ปล่อยให้พวกเขาต่อสู้กัน,แม้ว่าพวกเขาจะต่อสู้กัน,ทว่าก็ไม่กล้าแสดงความไม่เคารพต่อศพปราชญ์เทพ,ด้วยกลัวทัณฑ์ศักดิ์สิทธิ์."เซียนเซิงซือกล่าว.
"เหรินชุนได้ซ่อนความลับได้อย่างลึกลับจริงๆ,หวังเฉินเองก็ซ่อนเอาไว้ลึกเช่นกัน!"อี้เหยี่ยนที่อยู่ข้างๆกล่าวออกมาพลางถอนหายใจ.
"อืม,ทั้งสองนับว่าต่อสู้กันได้อย่างสูสี,ในเวลานั้นอากาศรอบๆที่สั่นไปมาเล็กน้อย,จากนั้นก็ค่อยๆรุนแรงขึ้นอย่างรุนแรง,ทั่วทั้งแดนเทพอมตะราวจะล่มสลาย,ปรากฏพลังที่ยิ่งใหญ่เคลื่อนที่มาจากที่ไกลออกไป,จากนั้นหวังเฉินและเหริ่นชุนก็หยุดต่อสู้กัน!"เซียนเซิงซือกล่าว.
"หืม?"
"เป็นกงเชียนกำลังมาถึง,เขาที่อยู่ไกลออกไป,หากแต่เขามีวิธีบางอย่างในการเชื่อมต่อกับแดนเทพอมตะ,เพื่อเคลื่อนย้ายตัวเองมา!"เซียนเซิงซือกล่าว.
"เป็นวิชาลับที่น่าเกรงขามนัก!"จงซานกล่าวออกมาพลางถอนหายใจ.
"เหรินชุนและหวังเฉินที่จ้องมองออกไป,ทว่ากลับเกิดเรื่องที่คาดไม่ถึงขึ้น"เซียนเซิงซือกล่าว.
"อะไร?"
"เมื่อครั้งเหรินชุดนำโลงศพยักษ์สีม่วงออกมานั้น,โลงศพได้ปิดแน่นแล้ว,กล่าวอีกอย่างหนึ่งสวรรค์กำสรวลนั้นได้หายไปแล้ว,อย่างไรก็ตาม,ในเวลานั้นฟ้าดินก็เริ่มกำสรวลอีกครั้ง,เป็นความโศกเศร้า,มากมายเต็มไปด้วยความเคารพอย่างสุดซึ้ง."เซียนเซิงซือกล่าว.
"ทั้งที่ฝาโลงศพปิดแน่น,คาดไม่ถึงเลยว่าฟ้าดินกลับกำสรวลออกมาอีก,ไม่สามารถบอกได้เลยว่าเกิดสิ่งใดขึ้นกันแน่?
เกิดการปะทุขึ้นอย่างสมบูรณ์แล้ว อย่างงั้นรึ?"อี้เหยี่ยนที่ดวงตาหดเกร็ง.
"อืม,จากนั้นโลงศพสีม่วงยักษ์ก็ลอยขึ้นไปด้วยตัวเองในทันที,ลอยขึ้นไปด้วยความแปลกประหลาด,จากนั้นก็พุ่งผ่านอุโมงค์ที่เหริ่นชุนเปิดไว้,พุ่งออกไปเหมือนว่าจะออกจากโลกใบเล็กไป."เซียนเซิงซือที่กล่าวออกมาอย่างจริงจัง.
"เกิดการปะทุโดยสมบูรณ์อย่างงั้นรึ?"
"ข้าเองก็ไม่รู้!"เซียนเซิงซือที่ส่ายหน้าไปมา.
"ท่านไม่รู้อย่างงั้นรึ?
ไม่ใช่ว่าท่านศึกษาเรื่องนี้อยู่หรอกรึ?"เจ้าโส่วเซี่ยงที่กล่าวสอบถามออกมาทันที.
"ข้าศึกษาเกี่ยวกับศพ,ทว่าไม่ได้ศึกษาเกี่ยวกับศพของปราชญ์เทพ,ด้วยระดับศพปราชญ์เทพนั้น,ข้าทำได้แค่คาดเดาตามประสบการเท่านั้น,ไม่สามารถที่จะนำมายืนยันอะไรได้เลย,ในเวลานี้,โลงศพม่วงที่ลอยออกไป,ด้วยความเร็วสูงมาก,เป็นความเร็วที่เกินจะบรรยาย,หนำซ้ำยังมีปราณทมิฬมากมายหมุนวน,แม้แต่เหรินชุนและหวังเฉินที่ต้องการคว้าเอาไว้,เพียงแค่สัมผัสก็ระเบิดเสียงดังสนั่น,แต่พวกเขาก็ยังคงไล่ตามโลงศพดังกล่าวไป!"เซียนเ.งซือที่ขมวดคิ้วไปมา.
"หวังเฉินที่เป็นมนุษย์,สามารถออกจากโลกใบเล็กได้ด้วยรึ?"อี้เหยี่ยนที่ขมวดคิ้วไปมา.
"เขาได้ใช้ธารโลหิตห่อหุ้มร่างตัวเองเอาไว้,ทำให้สามารถออกจากโลกใบเล็กผ่านอุโมงค์ที่เปิดได้,นอกจากนี้ในเวลานั้น,กงเชียนที่มาถึงแล้วเช่นกัน,เขากำลังเห็นโลงศพยักษ์สีม่วงกำลังจากไป,กงเชียนที่สะบัดมือนำโลกเขตแดน,แดนเทพอมตะเก็บกลับมา,พร้อมกับพุ่งตรงขึ้นไปบนฟ้า,อย่างไรก็ตามขณะที่เขากำลังจะจากไป,เขาก็พบกับพวกเรา."เซียนเซิงซือกล่าว.
"หืม?"
"พริบตาที่กงเชียนจะจากไป,เขาจ้องมองมายังข้า! จากนั้นก็โยนสิ่งหนึ่งลงมา! บอกว่าให้มอบให้กับฝ่าบาท!"สุ่ยจิงที่กล่าวออกมาในทันที.
"หืม?"จงซานที่เผยท่าทางประหลาดใจ.
สุ่ยจิงที่นำแผ่นริ้วหยกสีเขียว,พร้อมกับส่งมอบให้กับจงซานอย่างนุ่มนวล.
"หลังจากที่กงเชียนได้โยนสิ่งนี้ลงมา,จากนั้นก็บินเข้าอุโมงค์และจากนั้นอุโมงค์ก็ปิดลง,เหรินชิน,หวังเฉิน,กงเชียน,ดูเหมือนว่าพวกเขาจะไล่ตามศพปราชญ์เทพไป,จึงได้หายไปทั้งหมด!"สุ่ยจิงกล่าว.
แผ่นริ้วหยกมรกตอย่างงั้นรึ?
จงซานที่จ้องมองด้วยความสงสัย.
กงเชียนส่งข้อความให้เขา? เพื่ออะไรกัน?
เหล่าข้าราชบริพารที่จ้องมองไปยังจงซาน.
จงซานที่ตรวจสอบแผ่นริ้วหยก,ก่อนที่จะคลายผนึก,พร้อมกับตรวจสอบอย่างระมัดระวัง,เหล่าข้าราชบริพารที่รอคอยอย่างใจเย็น.
จงซานที่จ้องมองเข้าไปในแผ่นริ้วหยก,ใบหน้าที่เปลี่ยนเป็นซับซ้อน,ราวกับพบเรื่องสำคัญที่สั่นสะเทือนสวรรค์เลยทีเดียว.
ที่หน้าผากของจงซานนั้นหลั่งเหงื่อที่เย็นเยือบออกมา,แววตาที่เผยท่าทางเศร้าใจ,ความเศร้าที่ถูกปล่อยกลิ่นอายตลบอบอวลทั่วห้องอักษรในทันที.
เหล่าข้าราชบริพารที่เต็มไปด้วยความประหลาดใจ,ฝ่าบาท?
กงเชียนได้ฝากคำพูดใดให้กับฝ่าบาท,ถึงได้ทำให้ฝ่าบาทเศร้าใจเช่นนี้?
ยังมีเรื่องอะไรที่จะทำให้ฝ่าบาทต้องโศกเศร้าเสียใจได้ขนาดนี้กัน?
”!”
จงซานที่เผยความเศร้าใจอย่างที่สุด,ก่อนที่จะบีบทำลายแผ่นริ้วหยกไปในทันที,ทว่าทันทีที่แผ่นริ้วหยกถูกทำลาย,ก็เกิดเป็นเรื่องที่แปลกประหลาดเกิดขึ้นเป็นควันอักษรสีน้ำเงินแจ้งสาร.
"จงซาน,เรื่องในโลกใบเล็กแห่งนี้นั้น,ข้าไม่มีเวลาพอที่จะจัดการ,ทว่าข้าเองก็รู้สึกไม่สบายใจนัก,ข้ากงเชียนคาดไม่ถึงเลยว่าจะพลาดท่าต่อมนุษย์ถึงสองครั้ง,ข้าไม่ยินดีนัก,ทว่าข้าเองก็ไม่ต้องการทำให้เจ้ารู้สึกกระหยิ่มใจเช่นกัน,เจ้าเห็นข้อมูลที่ข้าส่งให้แล้ว,เจ้ารู้สึกโศกเศร้าใช่หรือไม่?
ข้าต้องการให้เจ้านับจากวันนี้,ได้รับแต่ความเจ็บปวด!"ควันสีน้ำเงินที่มีเสียงของกงเชียนดังออกมาด้วย.
กับสารของกงเชียนที่ถูกส่งมา,ทว่าก็ทำให้เหล่าข้าราชบริพารได้ยินรู้สึกไม่ดีกับข้อความดังกล่าวด้วยเช่นกัน.
"อ๊ากกกกกก!"
"ฮืออออออ!"
เสียงโกรธเกรี้ยวเศร้าใจที่ปะทุขึ้นของจงซาน.
เหล่าข้าราชบริพารที่ไม่กล้าขัด,กับความโกรธเกรี้ยวคำรามของจงซานที่ดั่งลั่นนั่น,ทำให้เหล่าฮวงโหวที่อยู่ตำหนักตัวเองเร่งรีบมาในทันที.
"จงซาน,เจ้าเป็นอย่างไรบ้าง?"เทียนหลิงเอ๋อที่เร่งรีบเข้ามาหา.
"เหล่าเยว่,เป็นไรหรือไม่?"เป่าเอ๋อที่เร่งรีบกล่าวออกมาเช่นกัน.
กู่เฉียนโหยวและเป่ยชิงซือต่างก็จดจ้องมองไปยังจงซาน.
ในเวลาเดียวกันนี้ดวงตาของจงซานที่แดงซ่าน,เต็มไปด้วยความโกรธเกรี้ยว.
ภายใต้การปลอบประโลมของสตรีของจงซาน,จงซานที่ค่อยๆระงับความเศร้าความโกรธเอาไว้,ทุกๆคนที่จ้องมองไปยังจงซาน.
จงซานที่นั่งลง,ดวงตาที่ค่อยๆกลับคืนสู่สภาพเดิม,หากแต่ใบหน้ายังคงซีดเซียว,ยังมีความโกรธเกรี้ยวแปลกๆอยู่บนใบหน้าของจงซาน.
ทุกคนที่ไม่กล้ากล่าวสิ่งใด,ฝ่าบาทเป็นอะไรอย่างงั้นรึ?
"อี้เหยี่ยนรับคำสั่ง!"จงซานที่กล่าวออกมาเสียงดัง.
"เฉินอยู่นี่แล้ว!"อี้เหยี่ยนที่ตอบรับในทันที.
"ข้าจะมอบหน้าที่พิเศษให้เจ้า,ที่ตำหนักกงเหล่ยเทียนก่อนหน้านี้,มีการต่อสู้เกิดขึ้น,ทุกๆคนที่อยู่ในวังหลวงวันนั้นให้ควบคุมตัวมาให้ข้า."จงซานที่กล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม.
"รับทราบ,ทว่า,จากนั้นต้องการให้เฉินทำอะไรต่อบ้าง?"
"กงเหล่ยเทียนแน่นอนว่าคงจะหนีจากตำหนักหลวงได้,กับการต่อสู้ในเวลานั้นจะต้องมีใครรับรู้อะไรบ้าง,ข้าต้องการให้เจ้าสอบสวนคนเหล่านั้น,พวกเขารับรู้อะไรบางเกี่ยวกับธวัชหยวนซือ,ข้าต้องการรายระเอียดทุกอย่างที่สามารถหาได้เกี่ยวกับมัน,ข้าต้องการเกี่ยวกับเส้นทางของธวัชหยวนซือว่าอยู่ที่ใด!"จงซานที่กล่าวอย่างเคร่งขรึม.
"รับทราบ!"
"เอาล่ะ,ทุกคนกลับไปก่อน!"จงซานกล่าว.
"ครับ!"เสนาธิการทุกคนที่รับคำ,จากนั้นก็แยกย้ายไป,ตอนนี้เหลือเพียงแค่ฮวงโหวที้งสี่.
"เหล่าเยว่,ก่อนหน้านี้เป็นอะไรไปอย่างงั้นรึ?"เป่าเอ๋อที่กล่าวออกมาในทันที.
สตรีอีกสามคนเองก็จ้องมองไปยังจงซานด้วยเช่นกัน.
"กงเชียนที่ได้มอบแผ่นริ้วหยกให้กับข้า,ด้านในนั้นเป็นข้อมูลเกี่ยวกับธวัชหยวนซือ,กุยเอ๋อนั้นมีชะตาวิถีพิเศษ,เวลานี้น่าจะยังอยู่ในธวัชหยวนซือ!"จงซานที่เผยท่าทางคาดหวังอยู่ไม่น้อย.
"จริงรึ?"
"ภายในธวัชหยวนซือนั้น,ข้าได้เข้าไปด้านใน,ดูเหมือนว่ามันจะเป็นดั่งที่กงเชียนได้ให้ข้อมูลข้ามา,เขาจำเป็นต้องสร้างเสาแห่งสวรรค์
12
แห่งขึ้นภายในธวัชหยวนซือ,ทว่าเสาแห่งสวรรค์นั้นจำเป็นต้องใช้สตรีที่มีชะตาวิถีเกิดในวันหยินเดือนหยินปีหยิน,เป็นไปได้ว่ากงเหล่ยเทียนกำลังรวบรวมอยู่อย่างแน่นอน,ไม่ว่าดวงวิญญาณจะยังคงอยู่หรือไม่,ทว่าด้วยชะตาวิถีของนางที่ยังอยู่,ก็นับว่าเป็นข่าวดี,ทว่าข่าวร้ายข้าได้พลาดการคว้าธวัชหยวนซือกลับมา!"ใบหน้าของจงซานที่เต็มไปด้วยความเศร้า.
"เหล่าเย่ว,อย่าได้เศร้า,ไม่ว่าอย่างไร,นี่ก็นับว่าเป็นข่าวดี,หลังจากนี้ยังมีโอกาส,แม้ว่าธวัชหยวนซือจะหลุดมือไป,หลังจากนี้จะต้องพบอย่างแน่นอน,ท่านได้ทำร้ายกงเชียนจนเจ็บหนักเช่นนั้น,เรื่องนี้อาจจะเป็นบ่วงที่กงเชียนต้องการจะวางล่อท่าน,เพื่อให้ท่านได้รับความเจ็บปวดก็เป็นได้."เป่าเอ๋อที่กล่าวปลอบด้วยเสียงเบาๆ.
จงซานที่สูดหายใจลึก,พร้อมกับพยักหน้าและกล่าวว่า,"โปรดวางใจ,ความเกลียดชัง,แม้นว่ามันจะมีเหลือ,ทว่าข้าก่อนหน้านี้และตอนนี้แตกต่างกัน,หลุมพลางของกงเชียน,เขาคงจะประเมินข้าต่ำไปหน่อย!"
"จริงๆรึ?"เป๋าเอ๋อที่กล่าวสอบถามเพื่อยืนยัน.
เป่าเอ๋อที่ยืนมือออกมาวางบนบ่าของจงซาน,จงซานที่พยักหน้ารับและกล่าวออกมาว่า"
การโจมตีของกงเชียนครั้งนี้,ไม่ได้ทำให้ข้าเจ็บปวดนัก,หนำซ้ำยังจะทำให้ข้าทรงพลังมากยิ่งขึ้น."
"อืม!!"เหล่าสตรีที่กล่าวออกมาด้วยความรู้สึกเบาใจ.
จากนั้นเหล่าสตีก็จากไป,จงซานที่นั่งอยู่คนเดียวในห้องอักษร,เขาที่นั่งอยู่เช่นนั้น,เป็นเวลา
3-4
ชั่วยาม,ระหว่างนี้จงซานไม่ได้วางแผนอะไรในใจ,ไม่ได้วางแผนอะไรในอนาคต,ภายในใจของเขาที่ปรากฏภาพเหว่ยกุยเอ๋อขึ้นมา.
Chapter 818 The secret
of Genesis streamer
元始幡的秘密
ความลับของธวัชหยวนซือ.
"หลังจากที่หวังเฉินมาถึง,เกิดอะไรขึ้น?"จงซานสอบถาม.
"ธารโลหิตคลั่ง,กระแสโลหิตควรค่าแล้วที่เป็นวิชาที่น่าสะพรึงกลัวของโลกใบใหญ่,ภายใต้วิชาธารโลหิตคลั่ง,หวังเฉินลอบโจมตีเหรินชุนในทันที,หลังจากนั้นก็สังหารผู้ใต้บังคับบัญชาของเหรินชุนที่เหลือ
4-5 คนไป!"เซียนเซิงซือกล่าว.
"หวังเฉินทรงพลังขนาดนั้นเลยรึ?"เจ้าโส่วเซี่ยงสอบถามออกไป.
"หวังเฉินแม้ว่าพลังฝึกตนจะไม่ได้มากนัก,ทว่าด้วยวิชาธารโลหิต,กลับทรงพลังเกินกว่าจะคาดการได้,ด้วยพลังดังกล่าวนั้น,สามารถทำลายเหล่าผู้คุ้มกันของเหรินชุนได้อย่างง่ายดาย."เซียนเซิงซือที่สูดหายใจลึก.
"เขาต้องการทำอะไร? ต่อสู้เพื่อศพปราชญ์เทพอย่างงั้นรึ?"
"ไม่,สิ่งที่เขาต้องการคือสิ่งนี้!"เซียนเซิงซือที่กวาดมือออกไปพร้อมกับนำตะปูสีดำล้วนออกมา,ตะปูแต่ละเล่มนั้นมีอักษรรูนแปลกประหลาดสลักอยู่.
"ตะปูโลงศพ?"เจ้าโส่วเซี่ยงที่ขมวดคิ้วไปมา.
"ใช่แล้ว,ตะปูโลงศพ,มันมีด้วยกันทั้งหมดสิบเล่ม,ข้าได้แย่งมันมาได้สามเล่ม,นี่คือของวิเศษล้ำค่าชั้นยอด!"เซียนเซิงซือกล่าว.
"ของวิเศษล้ำค่าชั้นยอด?"
จงซานที่พยักหน้ารับ,ก่อนหน้านี้พอจะคาดเดาความจริงได้,ตะปูที่ผนึกฝาโลงศพของปราชญ์เทพ,มีเหรอที่จะเป็นตะปูธรรมดา?
ศพของปราชญ์เทพ,แม้แต่อุปกรณ์เซียนยังไม่สามารถใช้ผนึกได้,หากแต่ตะปูทั้งสิบกลับสามารถ.
จงซานเองไม่รู้เช่นกันว่าใครเป็นคนหลอมตะปูดังกล่าวขึ้นมา,ทว่าตะปูทั้งสิบเล่มย่อมไม่อ่อนแอไปกว่าสมบัติโบราณทั้งสิบอย่างแน่นอน.
ตะปูผนึกศพปราชญ์เทพ!
"ในเวลานั้นเจ้าเองก็ลงมืออย่างงั้นรึ?"จงซานที่จ้องมองไปยังเซียนเซิงซือ.
"ครับ,ในสถานการณ์เวลานั้น,ทันทีที่โลงศพถูกเปิด,ฟ้าดินกำสรวล,ท้องฟ้าร้องไห้เป็นสายฝน,กลิ่นอายของปราณสวี,ที่พวยพุ่งออกมาอย่างรุนแรง,ข้ารับรู้ว่าในเวลานั้นคงไม่สามารถที่จะขวางกั้นอะไรได้แล้ว,ปราณทมิฬเองก็แข็งแกร่งมากยิ่งกว่าเดิมอีก,ศพปราชญ์เทพไม่สามารถที่จะบรรจุหรือผนึกได้อีกแล้ว,ข้าจึงลอบลงมือ,ช่างน่าเสียดายที่ได้ตะปูโลงศพมาได้แค่สามเล่มเท่านั้น!"เซียนเซิงซือที่ส่ายหน้าไปมา.
"หืม? สาม? อีกเจ็ดเล่มล่ะ?"
"เหรินชุนได้ไปสอง,หวังเฉินได้ไปห้าเล่ม!"เซียนเซิงซือที่ลอบถอนหายใจเบาๆ.
"แล้วจากนั้นล่ะ?"จงซานที่จ้องมองไปยังเซียนเซิงซือ.
"หลังจากเกิดชุลมุน,เหรินชุนที่ปิดโลงศพอย่างรวดเร็ว,พร้อมกับนำโลงศพออกจากแดนเทพอมตะอย่างรวดเร็ว,หวังเฉินและข้าเองก็ไล่ตามไป."เซียนเซิงซือกล่าว.
"ตามออกมาอย่างงั้นรึ?"
"เฉินไม่กล้าเข้าไปแย่งชิงศพปราชญ์เทพเพียงแค่ตามออกมาเท่านั้น,ส่วนเหรินชุนและหวังเฉินดูเหมือนว่าจะมีเหตุผลบางอย่างที่โจมตีกันอย่างรุนแรง,ข้าได้ออกมาสบทบกับสุ่ยจิง,อาวุโสเทียนและคนอื่นๆพร้อมกับถอยห่างออกมาทันที!
ปล่อยให้พวกเขาต่อสู้กัน,แม้ว่าพวกเขาจะต่อสู้กัน,ทว่าก็ไม่กล้าแสดงความไม่เคารพต่อศพปราชญ์เทพ,ด้วยกลัวทัณฑ์ศักดิ์สิทธิ์."เซียนเซิงซือกล่าว.
"เหรินชุนได้ซ่อนความลับได้อย่างลึกลับจริงๆ,หวังเฉินเองก็ซ่อนเอาไว้ลึกเช่นกัน!"อี้เหยี่ยนที่อยู่ข้างๆกล่าวออกมาพลางถอนหายใจ.
"อืม,ทั้งสองนับว่าต่อสู้กันได้อย่างสูสี,ในเวลานั้นอากาศรอบๆที่สั่นไปมาเล็กน้อย,จากนั้นก็ค่อยๆรุนแรงขึ้นอย่างรุนแรง,ทั่วทั้งแดนเทพอมตะราวจะล่มสลาย,ปรากฏพลังที่ยิ่งใหญ่เคลื่อนที่มาจากที่ไกลออกไป,จากนั้นหวังเฉินและเหริ่นชุนก็หยุดต่อสู้กัน!"เซียนเซิงซือกล่าว.
"หืม?"
"เป็นกงเชียนกำลังมาถึง,เขาที่อยู่ไกลออกไป,หากแต่เขามีวิธีบางอย่างในการเชื่อมต่อกับแดนเทพอมตะ,เพื่อเคลื่อนย้ายตัวเองมา!"เซียนเซิงซือกล่าว.
"เป็นวิชาลับที่น่าเกรงขามนัก!"จงซานกล่าวออกมาพลางถอนหายใจ.
"เหรินชุนและหวังเฉินที่จ้องมองออกไป,ทว่ากลับเกิดเรื่องที่คาดไม่ถึงขึ้น"เซียนเซิงซือกล่าว.
"อะไร?"
"เมื่อครั้งเหรินชุดนำโลงศพยักษ์สีม่วงออกมานั้น,โลงศพได้ปิดแน่นแล้ว,กล่าวอีกอย่างหนึ่งสวรรค์กำสรวลนั้นได้หายไปแล้ว,อย่างไรก็ตาม,ในเวลานั้นฟ้าดินก็เริ่มกำสรวลอีกครั้ง,เป็นความโศกเศร้า,มากมายเต็มไปด้วยความเคารพอย่างสุดซึ้ง."เซียนเซิงซือกล่าว.
"ทั้งที่ฝาโลงศพปิดแน่น,คาดไม่ถึงเลยว่าฟ้าดินกลับกำสรวลออกมาอีก,ไม่สามารถบอกได้เลยว่าเกิดสิ่งใดขึ้นกันแน่?
เกิดการปะทุขึ้นอย่างสมบูรณ์แล้ว อย่างงั้นรึ?"อี้เหยี่ยนที่ดวงตาหดเกร็ง.
"อืม,จากนั้นโลงศพสีม่วงยักษ์ก็ลอยขึ้นไปด้วยตัวเองในทันที,ลอยขึ้นไปด้วยความแปลกประหลาด,จากนั้นก็พุ่งผ่านอุโมงค์ที่เหริ่นชุนเปิดไว้,พุ่งออกไปเหมือนว่าจะออกจากโลกใบเล็กไป."เซียนเซิงซือที่กล่าวออกมาอย่างจริงจัง.
"เกิดการปะทุโดยสมบูรณ์อย่างงั้นรึ?"
"ข้าเองก็ไม่รู้!"เซียนเซิงซือที่ส่ายหน้าไปมา.
"ท่านไม่รู้อย่างงั้นรึ?
ไม่ใช่ว่าท่านศึกษาเรื่องนี้อยู่หรอกรึ?"เจ้าโส่วเซี่ยงที่กล่าวสอบถามออกมาทันที.
"ข้าศึกษาเกี่ยวกับศพ,ทว่าไม่ได้ศึกษาเกี่ยวกับศพของปราชญ์เทพ,ด้วยระดับศพปราชญ์เทพนั้น,ข้าทำได้แค่คาดเดาตามประสบการเท่านั้น,ไม่สามารถที่จะนำมายืนยันอะไรได้เลย,ในเวลานี้,โลงศพม่วงที่ลอยออกไป,ด้วยความเร็วสูงมาก,เป็นความเร็วที่เกินจะบรรยาย,หนำซ้ำยังมีปราณทมิฬมากมายหมุนวน,แม้แต่เหรินชุนและหวังเฉินที่ต้องการคว้าเอาไว้,เพียงแค่สัมผัสก็ระเบิดเสียงดังสนั่น,แต่พวกเขาก็ยังคงไล่ตามโลงศพดังกล่าวไป!"เซียนเ.งซือที่ขมวดคิ้วไปมา.
"หวังเฉินที่เป็นมนุษย์,สามารถออกจากโลกใบเล็กได้ด้วยรึ?"อี้เหยี่ยนที่ขมวดคิ้วไปมา.
"เขาได้ใช้ธารโลหิตห่อหุ้มร่างตัวเองเอาไว้,ทำให้สามารถออกจากโลกใบเล็กผ่านอุโมงค์ที่เปิดได้,นอกจากนี้ในเวลานั้น,กงเชียนที่มาถึงแล้วเช่นกัน,เขากำลังเห็นโลงศพยักษ์สีม่วงกำลังจากไป,กงเชียนที่สะบัดมือนำโลกเขตแดน,แดนเทพอมตะเก็บกลับมา,พร้อมกับพุ่งตรงขึ้นไปบนฟ้า,อย่างไรก็ตามขณะที่เขากำลังจะจากไป,เขาก็พบกับพวกเรา."เซียนเซิงซือกล่าว.
"หืม?"
"พริบตาที่กงเชียนจะจากไป,เขาจ้องมองมายังข้า! จากนั้นก็โยนสิ่งหนึ่งลงมา! บอกว่าให้มอบให้กับฝ่าบาท!"สุ่ยจิงที่กล่าวออกมาในทันที.
"หืม?"จงซานที่เผยท่าทางประหลาดใจ.
สุ่ยจิงที่นำแผ่นริ้วหยกสีเขียว,พร้อมกับส่งมอบให้กับจงซานอย่างนุ่มนวล.
"หลังจากที่กงเชียนได้โยนสิ่งนี้ลงมา,จากนั้นก็บินเข้าอุโมงค์และจากนั้นอุโมงค์ก็ปิดลง,เหรินชิน,หวังเฉิน,กงเชียน,ดูเหมือนว่าพวกเขาจะไล่ตามศพปราชญ์เทพไป,จึงได้หายไปทั้งหมด!"สุ่ยจิงกล่าว.
แผ่นริ้วหยกมรกตอย่างงั้นรึ?
จงซานที่จ้องมองด้วยความสงสัย.
กงเชียนส่งข้อความให้เขา? เพื่ออะไรกัน?
เหล่าข้าราชบริพารที่จ้องมองไปยังจงซาน.
จงซานที่ตรวจสอบแผ่นริ้วหยก,ก่อนที่จะคลายผนึก,พร้อมกับตรวจสอบอย่างระมัดระวัง,เหล่าข้าราชบริพารที่รอคอยอย่างใจเย็น.
จงซานที่จ้องมองเข้าไปในแผ่นริ้วหยก,ใบหน้าที่เปลี่ยนเป็นซับซ้อน,ราวกับพบเรื่องสำคัญที่สั่นสะเทือนสวรรค์เลยทีเดียว.
ที่หน้าผากของจงซานนั้นหลั่งเหงื่อที่เย็นเยือบออกมา,แววตาที่เผยท่าทางเศร้าใจ,ความเศร้าที่ถูกปล่อยกลิ่นอายตลบอบอวลทั่วห้องอักษรในทันที.
เหล่าข้าราชบริพารที่เต็มไปด้วยความประหลาดใจ,ฝ่าบาท?
กงเชียนได้ฝากคำพูดใดให้กับฝ่าบาท,ถึงได้ทำให้ฝ่าบาทเศร้าใจเช่นนี้?
ยังมีเรื่องอะไรที่จะทำให้ฝ่าบาทต้องโศกเศร้าเสียใจได้ขนาดนี้กัน?
”!”
จงซานที่เผยความเศร้าใจอย่างที่สุด,ก่อนที่จะบีบทำลายแผ่นริ้วหยกไปในทันที,ทว่าทันทีที่แผ่นริ้วหยกถูกทำลาย,ก็เกิดเป็นเรื่องที่แปลกประหลาดเกิดขึ้นเป็นควันอักษรสีน้ำเงินแจ้งสาร.
"จงซาน,เรื่องในโลกใบเล็กแห่งนี้นั้น,ข้าไม่มีเวลาพอที่จะจัดการ,ทว่าข้าเองก็รู้สึกไม่สบายใจนัก,ข้ากงเชียนคาดไม่ถึงเลยว่าจะพลาดท่าต่อมนุษย์ถึงสองครั้ง,ข้าไม่ยินดีนัก,ทว่าข้าเองก็ไม่ต้องการทำให้เจ้ารู้สึกกระหยิ่มใจเช่นกัน,เจ้าเห็นข้อมูลที่ข้าส่งให้แล้ว,เจ้ารู้สึกโศกเศร้าใช่หรือไม่?
ข้าต้องการให้เจ้านับจากวันนี้,ได้รับแต่ความเจ็บปวด!"ควันสีน้ำเงินที่มีเสียงของกงเชียนดังออกมาด้วย.
กับสารของกงเชียนที่ถูกส่งมา,ทว่าก็ทำให้เหล่าข้าราชบริพารได้ยินรู้สึกไม่ดีกับข้อความดังกล่าวด้วยเช่นกัน.
"อ๊ากกกกกก!"
"ฮืออออออ!"
เสียงโกรธเกรี้ยวเศร้าใจที่ปะทุขึ้นของจงซาน.
เหล่าข้าราชบริพารที่ไม่กล้าขัด,กับความโกรธเกรี้ยวคำรามของจงซานที่ดั่งลั่นนั่น,ทำให้เหล่าฮวงโหวที่อยู่ตำหนักตัวเองเร่งรีบมาในทันที.
"จงซาน,เจ้าเป็นอย่างไรบ้าง?"เทียนหลิงเอ๋อที่เร่งรีบเข้ามาหา.
"เหล่าเยว่,เป็นไรหรือไม่?"เป่าเอ๋อที่เร่งรีบกล่าวออกมาเช่นกัน.
กู่เฉียนโหยวและเป่ยชิงซือต่างก็จดจ้องมองไปยังจงซาน.
ในเวลาเดียวกันนี้ดวงตาของจงซานที่แดงซ่าน,เต็มไปด้วยความโกรธเกรี้ยว.
ภายใต้การปลอบประโลมของสตรีของจงซาน,จงซานที่ค่อยๆระงับความเศร้าความโกรธเอาไว้,ทุกๆคนที่จ้องมองไปยังจงซาน.
จงซานที่นั่งลง,ดวงตาที่ค่อยๆกลับคืนสู่สภาพเดิม,หากแต่ใบหน้ายังคงซีดเซียว,ยังมีความโกรธเกรี้ยวแปลกๆอยู่บนใบหน้าของจงซาน.
ทุกคนที่ไม่กล้ากล่าวสิ่งใด,ฝ่าบาทเป็นอะไรอย่างงั้นรึ?
"อี้เหยี่ยนรับคำสั่ง!"จงซานที่กล่าวออกมาเสียงดัง.
"เฉินอยู่นี่แล้ว!"อี้เหยี่ยนที่ตอบรับในทันที.
"ข้าจะมอบหน้าที่พิเศษให้เจ้า,ที่ตำหนักกงเหล่ยเทียนก่อนหน้านี้,มีการต่อสู้เกิดขึ้น,ทุกๆคนที่อยู่ในวังหลวงวันนั้นให้ควบคุมตัวมาให้ข้า."จงซานที่กล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม.
"รับทราบ,ทว่า,จากนั้นต้องการให้เฉินทำอะไรต่อบ้าง?"
"กงเหล่ยเทียนแน่นอนว่าคงจะหนีจากตำหนักหลวงได้,กับการต่อสู้ในเวลานั้นจะต้องมีใครรับรู้อะไรบ้าง,ข้าต้องการให้เจ้าสอบสวนคนเหล่านั้น,พวกเขารับรู้อะไรบางเกี่ยวกับธวัชหยวนซือ,ข้าต้องการรายระเอียดทุกอย่างที่สามารถหาได้เกี่ยวกับมัน,ข้าต้องการเกี่ยวกับเส้นทางของธวัชหยวนซือว่าอยู่ที่ใด!"จงซานที่กล่าวอย่างเคร่งขรึม.
"รับทราบ!"
"เอาล่ะ,ทุกคนกลับไปก่อน!"จงซานกล่าว.
"ครับ!"เสนาธิการทุกคนที่รับคำ,จากนั้นก็แยกย้ายไป,ตอนนี้เหลือเพียงแค่ฮวงโหวที้งสี่.
"เหล่าเยว่,ก่อนหน้านี้เป็นอะไรไปอย่างงั้นรึ?"เป่าเอ๋อที่กล่าวออกมาในทันที.
สตรีอีกสามคนเองก็จ้องมองไปยังจงซานด้วยเช่นกัน.
"กงเชียนที่ได้มอบแผ่นริ้วหยกให้กับข้า,ด้านในนั้นเป็นข้อมูลเกี่ยวกับธวัชหยวนซือ,กุยเอ๋อนั้นมีชะตาวิถีพิเศษ,เวลานี้น่าจะยังอยู่ในธวัชหยวนซือ!"จงซานที่เผยท่าทางคาดหวังอยู่ไม่น้อย.
"จริงรึ?"
"ภายในธวัชหยวนซือนั้น,ข้าได้เข้าไปด้านใน,ดูเหมือนว่ามันจะเป็นดั่งที่กงเชียนได้ให้ข้อมูลข้ามา,เขาจำเป็นต้องสร้างเสาแห่งสวรรค์
12
แห่งขึ้นภายในธวัชหยวนซือ,ทว่าเสาแห่งสวรรค์นั้นจำเป็นต้องใช้สตรีที่มีชะตาวิถีเกิดในวันหยินเดือนหยินปีหยิน,เป็นไปได้ว่ากงเหล่ยเทียนกำลังรวบรวมอยู่อย่างแน่นอน,ไม่ว่าดวงวิญญาณจะยังคงอยู่หรือไม่,ทว่าด้วยชะตาวิถีของนางที่ยังอยู่,ก็นับว่าเป็นข่าวดี,ทว่าข่าวร้ายข้าได้พลาดการคว้าธวัชหยวนซือกลับมา!"ใบหน้าของจงซานที่เต็มไปด้วยความเศร้า.
"เหล่าเย่ว,อย่าได้เศร้า,ไม่ว่าอย่างไร,นี่ก็นับว่าเป็นข่าวดี,หลังจากนี้ยังมีโอกาส,แม้ว่าธวัชหยวนซือจะหลุดมือไป,หลังจากนี้จะต้องพบอย่างแน่นอน,ท่านได้ทำร้ายกงเชียนจนเจ็บหนักเช่นนั้น,เรื่องนี้อาจจะเป็นบ่วงที่กงเชียนต้องการจะวางล่อท่าน,เพื่อให้ท่านได้รับความเจ็บปวดก็เป็นได้."เป่าเอ๋อที่กล่าวปลอบด้วยเสียงเบาๆ.
จงซานที่สูดหายใจลึก,พร้อมกับพยักหน้าและกล่าวว่า,"โปรดวางใจ,ความเกลียดชัง,แม้นว่ามันจะมีเหลือ,ทว่าข้าก่อนหน้านี้และตอนนี้แตกต่างกัน,หลุมพลางของกงเชียน,เขาคงจะประเมินข้าต่ำไปหน่อย!"
"จริงๆรึ?"เป๋าเอ๋อที่กล่าวสอบถามเพื่อยืนยัน.
เป่าเอ๋อที่ยืนมือออกมาวางบนบ่าของจงซาน,จงซานที่พยักหน้ารับและกล่าวออกมาว่า"
การโจมตีของกงเชียนครั้งนี้,ไม่ได้ทำให้ข้าเจ็บปวดนัก,หนำซ้ำยังจะทำให้ข้าทรงพลังมากยิ่งขึ้น."
"อืม!!"เหล่าสตรีที่กล่าวออกมาด้วยความรู้สึกเบาใจ.
จากนั้นเหล่าสตีก็จากไป,จงซานที่นั่งอยู่คนเดียวในห้องอักษร,เขาที่นั่งอยู่เช่นนั้น,เป็นเวลา
3-4
ชั่วยาม,ระหว่างนี้จงซานไม่ได้วางแผนอะไรในใจ,ไม่ได้วางแผนอะไรในอนาคต,ภายในใจของเขาที่ปรากฏภาพเหว่ยกุยเอ๋อขึ้นมา.
ที่มาจากhttps://lnmtl.com/novel/immortality
#นิยาย เรื่องอมตะ #Immortality#นิยายแปลไทย
Author(s)
สนใจสนับสนุนพวกเรา,เข้าร่วมกลุ่ม VIP ====> Click
ปัจจุบันแปลจบแล้ว 1672 ตอน สนใจติดต่อเข้ากลุ่มลับได้ครับ
***เว็ปฟรีอัพ สองวันหนึ่งตอน
***กลุ่มลับ แปลจบแล้ว.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น