วันจันทร์ที่ 8 มิถุนายน พ.ศ. 2563

Immortality Chapter 818 The secret of Genesis streamer

Immortality Chapter 818 The secret of Genesis streamer

นิยาย เรื่อง อมตะ ตอนที่ 818   ความลับของธวัชหยวนซือ.


Chapter 818 The secret of Genesis streamer
元始幡的秘密
  ความลับของธวัชหยวนซือ.

"หลังจากที่หวังเฉินมาถึง,เกิดอะไรขึ้น?"จงซานสอบถาม.

"ธารโลหิตคลั่ง,กระแสโลหิตควรค่าแล้วที่เป็นวิชาที่น่าสะพรึงกลัวของโลกใบใหญ่,ภายใต้วิชาธารโลหิตคลั่ง,หวังเฉินลอบโจมตีเหรินชุนในทันที,หลังจากนั้นก็สังหารผู้ใต้บังคับบัญชาของเหรินชุนที่เหลือ 4-5 คนไป!"เซียนเซิงซือกล่าว.



"หวังเฉินทรงพลังขนาดนั้นเลยรึ?"เจ้าโส่วเซี่ยงสอบถามออกไป.

"หวังเฉินแม้ว่าพลังฝึกตนจะไม่ได้มากนัก,ทว่าด้วยวิชาธารโลหิต,กลับทรงพลังเกินกว่าจะคาดการได้,ด้วยพลังดังกล่าวนั้น,สามารถทำลายเหล่าผู้คุ้มกันของเหรินชุนได้อย่างง่ายดาย."เซียนเซิงซือที่สูดหายใจลึก.

"เขาต้องการทำอะไร? ต่อสู้เพื่อศพปราชญ์เทพอย่างงั้นรึ?"

"ไม่,สิ่งที่เขาต้องการคือสิ่งนี้!"เซียนเซิงซือที่กวาดมือออกไปพร้อมกับนำตะปูสีดำล้วนออกมา,ตะปูแต่ละเล่มนั้นมีอักษรรูนแปลกประหลาดสลักอยู่.

"ตะปูโลงศพ?"เจ้าโส่วเซี่ยงที่ขมวดคิ้วไปมา.

"ใช่แล้ว,ตะปูโลงศพ,มันมีด้วยกันทั้งหมดสิบเล่ม,ข้าได้แย่งมันมาได้สามเล่ม,นี่คือของวิเศษล้ำค่าชั้นยอด!"เซียนเซิงซือกล่าว.

"ของวิเศษล้ำค่าชั้นยอด?"

จงซานที่พยักหน้ารับ,ก่อนหน้านี้พอจะคาดเดาความจริงได้,ตะปูที่ผนึกฝาโลงศพของปราชญ์เทพ,มีเหรอที่จะเป็นตะปูธรรมดา? ศพของปราชญ์เทพ,แม้แต่อุปกรณ์เซียนยังไม่สามารถใช้ผนึกได้,หากแต่ตะปูทั้งสิบกลับสามารถ.

จงซานเองไม่รู้เช่นกันว่าใครเป็นคนหลอมตะปูดังกล่าวขึ้นมา,ทว่าตะปูทั้งสิบเล่มย่อมไม่อ่อนแอไปกว่าสมบัติโบราณทั้งสิบอย่างแน่นอน.

ตะปูผนึกศพปราชญ์เทพ!

"ในเวลานั้นเจ้าเองก็ลงมืออย่างงั้นรึ?"จงซานที่จ้องมองไปยังเซียนเซิงซือ.

"ครับ,ในสถานการณ์เวลานั้น,ทันทีที่โลงศพถูกเปิด,ฟ้าดินกำสรวล,ท้องฟ้าร้องไห้เป็นสายฝน,กลิ่นอายของปราณสวี,ที่พวยพุ่งออกมาอย่างรุนแรง,ข้ารับรู้ว่าในเวลานั้นคงไม่สามารถที่จะขวางกั้นอะไรได้แล้ว,ปราณทมิฬเองก็แข็งแกร่งมากยิ่งกว่าเดิมอีก,ศพปราชญ์เทพไม่สามารถที่จะบรรจุหรือผนึกได้อีกแล้ว,ข้าจึงลอบลงมือ,ช่างน่าเสียดายที่ได้ตะปูโลงศพมาได้แค่สามเล่มเท่านั้น!"เซียนเซิงซือที่ส่ายหน้าไปมา.

"หืม? สาม? อีกเจ็ดเล่มล่ะ?"

"เหรินชุนได้ไปสอง,หวังเฉินได้ไปห้าเล่ม!"เซียนเซิงซือที่ลอบถอนหายใจเบาๆ.

"แล้วจากนั้นล่ะ?"จงซานที่จ้องมองไปยังเซียนเซิงซือ.

"หลังจากเกิดชุลมุน,เหรินชุนที่ปิดโลงศพอย่างรวดเร็ว,พร้อมกับนำโลงศพออกจากแดนเทพอมตะอย่างรวดเร็ว,หวังเฉินและข้าเองก็ไล่ตามไป."เซียนเซิงซือกล่าว.

"ตามออกมาอย่างงั้นรึ?"

"เฉินไม่กล้าเข้าไปแย่งชิงศพปราชญ์เทพเพียงแค่ตามออกมาเท่านั้น,ส่วนเหรินชุนและหวังเฉินดูเหมือนว่าจะมีเหตุผลบางอย่างที่โจมตีกันอย่างรุนแรง,ข้าได้ออกมาสบทบกับสุ่ยจิง,อาวุโสเทียนและคนอื่นๆพร้อมกับถอยห่างออกมาทันที! ปล่อยให้พวกเขาต่อสู้กัน,แม้ว่าพวกเขาจะต่อสู้กัน,ทว่าก็ไม่กล้าแสดงความไม่เคารพต่อศพปราชญ์เทพ,ด้วยกลัวทัณฑ์ศักดิ์สิทธิ์."เซียนเซิงซือกล่าว.

"เหรินชุนได้ซ่อนความลับได้อย่างลึกลับจริงๆ,หวังเฉินเองก็ซ่อนเอาไว้ลึกเช่นกัน!"อี้เหยี่ยนที่อยู่ข้างๆกล่าวออกมาพลางถอนหายใจ.

"อืม,ทั้งสองนับว่าต่อสู้กันได้อย่างสูสี,ในเวลานั้นอากาศรอบๆที่สั่นไปมาเล็กน้อย,จากนั้นก็ค่อยๆรุนแรงขึ้นอย่างรุนแรง,ทั่วทั้งแดนเทพอมตะราวจะล่มสลาย,ปรากฏพลังที่ยิ่งใหญ่เคลื่อนที่มาจากที่ไกลออกไป,จากนั้นหวังเฉินและเหริ่นชุนก็หยุดต่อสู้กัน!"เซียนเซิงซือกล่าว.

"หืม?"

"เป็นกงเชียนกำลังมาถึง,เขาที่อยู่ไกลออกไป,หากแต่เขามีวิธีบางอย่างในการเชื่อมต่อกับแดนเทพอมตะ,เพื่อเคลื่อนย้ายตัวเองมา!"เซียนเซิงซือกล่าว.

"เป็นวิชาลับที่น่าเกรงขามนัก!"จงซานกล่าวออกมาพลางถอนหายใจ.

"เหรินชุนและหวังเฉินที่จ้องมองออกไป,ทว่ากลับเกิดเรื่องที่คาดไม่ถึงขึ้น"เซียนเซิงซือกล่าว.

"อะไร?"

"เมื่อครั้งเหรินชุดนำโลงศพยักษ์สีม่วงออกมานั้น,โลงศพได้ปิดแน่นแล้ว,กล่าวอีกอย่างหนึ่งสวรรค์กำสรวลนั้นได้หายไปแล้ว,อย่างไรก็ตาม,ในเวลานั้นฟ้าดินก็เริ่มกำสรวลอีกครั้ง,เป็นความโศกเศร้า,มากมายเต็มไปด้วยความเคารพอย่างสุดซึ้ง."เซียนเซิงซือกล่าว.

"ทั้งที่ฝาโลงศพปิดแน่น,คาดไม่ถึงเลยว่าฟ้าดินกลับกำสรวลออกมาอีก,ไม่สามารถบอกได้เลยว่าเกิดสิ่งใดขึ้นกันแน่? เกิดการปะทุขึ้นอย่างสมบูรณ์แล้ว อย่างงั้นรึ?"อี้เหยี่ยนที่ดวงตาหดเกร็ง.

"อืม,จากนั้นโลงศพสีม่วงยักษ์ก็ลอยขึ้นไปด้วยตัวเองในทันที,ลอยขึ้นไปด้วยความแปลกประหลาด,จากนั้นก็พุ่งผ่านอุโมงค์ที่เหริ่นชุนเปิดไว้,พุ่งออกไปเหมือนว่าจะออกจากโลกใบเล็กไป."เซียนเซิงซือที่กล่าวออกมาอย่างจริงจัง.

"เกิดการปะทุโดยสมบูรณ์อย่างงั้นรึ?"

"ข้าเองก็ไม่รู้!"เซียนเซิงซือที่ส่ายหน้าไปมา.

"ท่านไม่รู้อย่างงั้นรึ? ไม่ใช่ว่าท่านศึกษาเรื่องนี้อยู่หรอกรึ?"เจ้าโส่วเซี่ยงที่กล่าวสอบถามออกมาทันที.

"ข้าศึกษาเกี่ยวกับศพ,ทว่าไม่ได้ศึกษาเกี่ยวกับศพของปราชญ์เทพ,ด้วยระดับศพปราชญ์เทพนั้น,ข้าทำได้แค่คาดเดาตามประสบการเท่านั้น,ไม่สามารถที่จะนำมายืนยันอะไรได้เลย,ในเวลานี้,โลงศพม่วงที่ลอยออกไป,ด้วยความเร็วสูงมาก,เป็นความเร็วที่เกินจะบรรยาย,หนำซ้ำยังมีปราณทมิฬมากมายหมุนวน,แม้แต่เหรินชุนและหวังเฉินที่ต้องการคว้าเอาไว้,เพียงแค่สัมผัสก็ระเบิดเสียงดังสนั่น,แต่พวกเขาก็ยังคงไล่ตามโลงศพดังกล่าวไป!"เซียนเ.งซือที่ขมวดคิ้วไปมา.

"หวังเฉินที่เป็นมนุษย์,สามารถออกจากโลกใบเล็กได้ด้วยรึ?"อี้เหยี่ยนที่ขมวดคิ้วไปมา.

"เขาได้ใช้ธารโลหิตห่อหุ้มร่างตัวเองเอาไว้,ทำให้สามารถออกจากโลกใบเล็กผ่านอุโมงค์ที่เปิดได้,นอกจากนี้ในเวลานั้น,กงเชียนที่มาถึงแล้วเช่นกัน,เขากำลังเห็นโลงศพยักษ์สีม่วงกำลังจากไป,กงเชียนที่สะบัดมือนำโลกเขตแดน,แดนเทพอมตะเก็บกลับมา,พร้อมกับพุ่งตรงขึ้นไปบนฟ้า,อย่างไรก็ตามขณะที่เขากำลังจะจากไป,เขาก็พบกับพวกเรา."เซียนเซิงซือกล่าว.

"หืม?"

"พริบตาที่กงเชียนจะจากไป,เขาจ้องมองมายังข้า! จากนั้นก็โยนสิ่งหนึ่งลงมา! บอกว่าให้มอบให้กับฝ่าบาท!"สุ่ยจิงที่กล่าวออกมาในทันที.

"หืม?"จงซานที่เผยท่าทางประหลาดใจ.

สุ่ยจิงที่นำแผ่นริ้วหยกสีเขียว,พร้อมกับส่งมอบให้กับจงซานอย่างนุ่มนวล.

"หลังจากที่กงเชียนได้โยนสิ่งนี้ลงมา,จากนั้นก็บินเข้าอุโมงค์และจากนั้นอุโมงค์ก็ปิดลง,เหรินชิน,หวังเฉิน,กงเชียน,ดูเหมือนว่าพวกเขาจะไล่ตามศพปราชญ์เทพไป,จึงได้หายไปทั้งหมด!"สุ่ยจิงกล่าว.

แผ่นริ้วหยกมรกตอย่างงั้นรึ? จงซานที่จ้องมองด้วยความสงสัย.

กงเชียนส่งข้อความให้เขา? เพื่ออะไรกัน?

เหล่าข้าราชบริพารที่จ้องมองไปยังจงซาน.

จงซานที่ตรวจสอบแผ่นริ้วหยก,ก่อนที่จะคลายผนึก,พร้อมกับตรวจสอบอย่างระมัดระวัง,เหล่าข้าราชบริพารที่รอคอยอย่างใจเย็น.

จงซานที่จ้องมองเข้าไปในแผ่นริ้วหยก,ใบหน้าที่เปลี่ยนเป็นซับซ้อน,ราวกับพบเรื่องสำคัญที่สั่นสะเทือนสวรรค์เลยทีเดียว.

ที่หน้าผากของจงซานนั้นหลั่งเหงื่อที่เย็นเยือบออกมา,แววตาที่เผยท่าทางเศร้าใจ,ความเศร้าที่ถูกปล่อยกลิ่นอายตลบอบอวลทั่วห้องอักษรในทันที.

เหล่าข้าราชบริพารที่เต็มไปด้วยความประหลาดใจ,ฝ่าบาท? กงเชียนได้ฝากคำพูดใดให้กับฝ่าบาท,ถึงได้ทำให้ฝ่าบาทเศร้าใจเช่นนี้? ยังมีเรื่องอะไรที่จะทำให้ฝ่าบาทต้องโศกเศร้าเสียใจได้ขนาดนี้กัน?
”!”

จงซานที่เผยความเศร้าใจอย่างที่สุด,ก่อนที่จะบีบทำลายแผ่นริ้วหยกไปในทันที,ทว่าทันทีที่แผ่นริ้วหยกถูกทำลาย,ก็เกิดเป็นเรื่องที่แปลกประหลาดเกิดขึ้นเป็นควันอักษรสีน้ำเงินแจ้งสาร.

"จงซาน,เรื่องในโลกใบเล็กแห่งนี้นั้น,ข้าไม่มีเวลาพอที่จะจัดการ,ทว่าข้าเองก็รู้สึกไม่สบายใจนัก,ข้ากงเชียนคาดไม่ถึงเลยว่าจะพลาดท่าต่อมนุษย์ถึงสองครั้ง,ข้าไม่ยินดีนัก,ทว่าข้าเองก็ไม่ต้องการทำให้เจ้ารู้สึกกระหยิ่มใจเช่นกัน,เจ้าเห็นข้อมูลที่ข้าส่งให้แล้ว,เจ้ารู้สึกโศกเศร้าใช่หรือไม่? ข้าต้องการให้เจ้านับจากวันนี้,ได้รับแต่ความเจ็บปวด!"ควันสีน้ำเงินที่มีเสียงของกงเชียนดังออกมาด้วย.

กับสารของกงเชียนที่ถูกส่งมา,ทว่าก็ทำให้เหล่าข้าราชบริพารได้ยินรู้สึกไม่ดีกับข้อความดังกล่าวด้วยเช่นกัน.

"อ๊ากกกกกก!"

"ฮืออออออ!"

เสียงโกรธเกรี้ยวเศร้าใจที่ปะทุขึ้นของจงซาน.

เหล่าข้าราชบริพารที่ไม่กล้าขัด,กับความโกรธเกรี้ยวคำรามของจงซานที่ดั่งลั่นนั่น,ทำให้เหล่าฮวงโหวที่อยู่ตำหนักตัวเองเร่งรีบมาในทันที.

"จงซาน,เจ้าเป็นอย่างไรบ้าง?"เทียนหลิงเอ๋อที่เร่งรีบเข้ามาหา.

"เหล่าเยว่,เป็นไรหรือไม่?"เป่าเอ๋อที่เร่งรีบกล่าวออกมาเช่นกัน.

กู่เฉียนโหยวและเป่ยชิงซือต่างก็จดจ้องมองไปยังจงซาน.

ในเวลาเดียวกันนี้ดวงตาของจงซานที่แดงซ่าน,เต็มไปด้วยความโกรธเกรี้ยว.

ภายใต้การปลอบประโลมของสตรีของจงซาน,จงซานที่ค่อยๆระงับความเศร้าความโกรธเอาไว้,ทุกๆคนที่จ้องมองไปยังจงซาน.

จงซานที่นั่งลง,ดวงตาที่ค่อยๆกลับคืนสู่สภาพเดิม,หากแต่ใบหน้ายังคงซีดเซียว,ยังมีความโกรธเกรี้ยวแปลกๆอยู่บนใบหน้าของจงซาน.

ทุกคนที่ไม่กล้ากล่าวสิ่งใด,ฝ่าบาทเป็นอะไรอย่างงั้นรึ?

"อี้เหยี่ยนรับคำสั่ง!"จงซานที่กล่าวออกมาเสียงดัง.

"เฉินอยู่นี่แล้ว!"อี้เหยี่ยนที่ตอบรับในทันที.

"ข้าจะมอบหน้าที่พิเศษให้เจ้า,ที่ตำหนักกงเหล่ยเทียนก่อนหน้านี้,มีการต่อสู้เกิดขึ้น,ทุกๆคนที่อยู่ในวังหลวงวันนั้นให้ควบคุมตัวมาให้ข้า."จงซานที่กล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม.

"รับทราบ,ทว่า,จากนั้นต้องการให้เฉินทำอะไรต่อบ้าง?"

"กงเหล่ยเทียนแน่นอนว่าคงจะหนีจากตำหนักหลวงได้,กับการต่อสู้ในเวลานั้นจะต้องมีใครรับรู้อะไรบ้าง,ข้าต้องการให้เจ้าสอบสวนคนเหล่านั้น,พวกเขารับรู้อะไรบางเกี่ยวกับธวัชหยวนซือ,ข้าต้องการรายระเอียดทุกอย่างที่สามารถหาได้เกี่ยวกับมัน,ข้าต้องการเกี่ยวกับเส้นทางของธวัชหยวนซือว่าอยู่ที่ใด!"จงซานที่กล่าวอย่างเคร่งขรึม.

"รับทราบ!"

"เอาล่ะ,ทุกคนกลับไปก่อน!"จงซานกล่าว.

"ครับ!"เสนาธิการทุกคนที่รับคำ,จากนั้นก็แยกย้ายไป,ตอนนี้เหลือเพียงแค่ฮวงโหวที้งสี่.

"เหล่าเยว่,ก่อนหน้านี้เป็นอะไรไปอย่างงั้นรึ?"เป่าเอ๋อที่กล่าวออกมาในทันที.

สตรีอีกสามคนเองก็จ้องมองไปยังจงซานด้วยเช่นกัน.

"กงเชียนที่ได้มอบแผ่นริ้วหยกให้กับข้า,ด้านในนั้นเป็นข้อมูลเกี่ยวกับธวัชหยวนซือ,กุยเอ๋อนั้นมีชะตาวิถีพิเศษ,เวลานี้น่าจะยังอยู่ในธวัชหยวนซือ!"จงซานที่เผยท่าทางคาดหวังอยู่ไม่น้อย.

"จริงรึ?"

"ภายในธวัชหยวนซือนั้น,ข้าได้เข้าไปด้านใน,ดูเหมือนว่ามันจะเป็นดั่งที่กงเชียนได้ให้ข้อมูลข้ามา,เขาจำเป็นต้องสร้างเสาแห่งสวรรค์ 12 แห่งขึ้นภายในธวัชหยวนซือ,ทว่าเสาแห่งสวรรค์นั้นจำเป็นต้องใช้สตรีที่มีชะตาวิถีเกิดในวันหยินเดือนหยินปีหยิน,เป็นไปได้ว่ากงเหล่ยเทียนกำลังรวบรวมอยู่อย่างแน่นอน,ไม่ว่าดวงวิญญาณจะยังคงอยู่หรือไม่,ทว่าด้วยชะตาวิถีของนางที่ยังอยู่,ก็นับว่าเป็นข่าวดี,ทว่าข่าวร้ายข้าได้พลาดการคว้าธวัชหยวนซือกลับมา!"ใบหน้าของจงซานที่เต็มไปด้วยความเศร้า.

"เหล่าเย่ว,อย่าได้เศร้า,ไม่ว่าอย่างไร,นี่ก็นับว่าเป็นข่าวดี,หลังจากนี้ยังมีโอกาส,แม้ว่าธวัชหยวนซือจะหลุดมือไป,หลังจากนี้จะต้องพบอย่างแน่นอน,ท่านได้ทำร้ายกงเชียนจนเจ็บหนักเช่นนั้น,เรื่องนี้อาจจะเป็นบ่วงที่กงเชียนต้องการจะวางล่อท่าน,เพื่อให้ท่านได้รับความเจ็บปวดก็เป็นได้."เป่าเอ๋อที่กล่าวปลอบด้วยเสียงเบาๆ.

จงซานที่สูดหายใจลึก,พร้อมกับพยักหน้าและกล่าวว่า,"โปรดวางใจ,ความเกลียดชัง,แม้นว่ามันจะมีเหลือ,ทว่าข้าก่อนหน้านี้และตอนนี้แตกต่างกัน,หลุมพลางของกงเชียน,เขาคงจะประเมินข้าต่ำไปหน่อย!"

"จริงๆรึ?"เป๋าเอ๋อที่กล่าวสอบถามเพื่อยืนยัน.

เป่าเอ๋อที่ยืนมือออกมาวางบนบ่าของจงซาน,จงซานที่พยักหน้ารับและกล่าวออกมาว่า" การโจมตีของกงเชียนครั้งนี้,ไม่ได้ทำให้ข้าเจ็บปวดนัก,หนำซ้ำยังจะทำให้ข้าทรงพลังมากยิ่งขึ้น."

"อืม!!"เหล่าสตรีที่กล่าวออกมาด้วยความรู้สึกเบาใจ.


จากนั้นเหล่าสตีก็จากไป,จงซานที่นั่งอยู่คนเดียวในห้องอักษร,เขาที่นั่งอยู่เช่นนั้น,เป็นเวลา 3-4 ชั่วยาม,ระหว่างนี้จงซานไม่ได้วางแผนอะไรในใจ,ไม่ได้วางแผนอะไรในอนาคต,ภายในใจของเขาที่ปรากฏภาพเหว่ยกุยเอ๋อขึ้นมา.





ที่มาจากhttps://lnmtl.com/novel/immortality

#นิยาย เรื่องอมตะ #Immortality#นิยายแปลไทย
Author(s)


สนใจสนับสนุนพวกเรา,เข้าร่วมกลุ่ม VIP ====> Click

ปัจจุบันแปลจบแล้ว 1672 ตอน สนใจติดต่อเข้ากลุ่มลับได้ครับ

***เว็ปฟรีอัพ สองวันหนึ่งตอน
***กลุ่มลับ แปลจบแล้ว.

 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น