วันจันทร์ที่ 8 มิถุนายน พ.ศ. 2563

Immortality chapter 817 God emperor

Immortality chapter 817 God emperor

นิยาย เรื่อง อมตะ ตอนที่ 817 จักรพรรดิเทวะ.


chapter 817 God emperor
神皇
จักรพรรดิเทวะ.

"แดนเทพอมตะไม่มีเหลือแล้ว,เนื่องจากว่าเหรินชุดผู้ครอบครองระฆังแห่งความโกลาหลและหวังเฉินได้รุกเข้าไป,ไม่คิดเลยว่ามันกลับกลายเป็นประโยชน์ต่อพวกเรา."อี้เหยี่ยนที่ขมวดคิ้วไปมากล่าวรายงาน.

"หืม?"



"รายละเอียดนั้น,ข้าเองก็ยังไม่รู้,สุ่ยจิงได้ส่งข้อความมาว่า,เหรินชุดและหวังเฉินได้รุกเข้าไป,สร้างความวุ่นวายในแดนเทพอมตะ,กงเชียนที่เร่งรีบเดินทางไป,ก่อนที่พวกเขาจะหนีโบยบินขึ้นสู่สวรรค์."อี้เหยี่ยนที่ส่ายหน้าไปมา.

"ดูเหมือนว่าแดนเทพอมตะจะเกิดเรื่องใหญ่ขึ้น,ไว้รอให้สุ่ยจิงกลับมาก่อนก็แล้วกัน!"จงซานพยักหน้า.

"ครับ!"

"พวกเจ้ากลับไปได้แล้ว,ข้าไม่เป็นไรแล้ว!"จงซานที่เอ่ยปากออกมาในทันที.

"ครับ,ฝ่าบาท!"เหล่าข้าราชบริพารที่แสดงความเคารพ,ก่อนที่จะแยกย้ายกลับไป.

เหล่าข้าราชบริพารจากไปแล้ว,มีเพียงแค่ตี้เสวียนชาที่ถือน้ำเต้าเซียนอยู่.

สตรีทั้งสี่ที่คอยพยุงจงซาน,ไม่ได้กล่าวสิ่งใด,พวกนางรู้สึกว่าจงซานในเวลานี้เต็มไปด้วยความจริงจัง.

จงซานที่จ้องมองไปยังตี้เสวียนชา,พร้อมกับขมวดคิ้วไปมา.

"ชุดมีดบินสังหารเซียนนี้,มอบให้กับเจ้า,ข้าคิดว่ามันจะเป็นประโยชน์กับเจ้าก่อนที่ข้าจะไป!"ตี้เสวียนชากล่าว.

จากไป? มอบให้กับเจ้า?เหล่าฮวงโหวที่แสดงท่าทางแปลกประหลาด.

จงซานไม่ได้ปฏิเสธ,จ้องมองตี้เสวียนชาอย่างลึกล้ำ,และกล่าวออกมาว่า,"เจ้าควรจะไปพบกับเซียนเซียน,นางอยู่ที่เมืองซ่างภพหยิน!"

"ข้าจะไป!"ตี้เสวี่ยนชาพยักหน้ารับ.

เป่ยชิงซือที่รับน้ำเต้าเซียนมา,จากนั้นร่างของตี้เสวียนชาก็หายไปจากทุกคนในทันที.

"เหล่าเยว่,ตี้เสวียนชาหมายความว่าอย่างไร?"เป่าเอ๋อที่สอบถามออกมา.

"เป็นไปได้ว่าเขาต้องการจะจากไปอย่างงั้นรึ?"กู่เฉียนโหยวที่กล่าวพลางขมวดคิ้วไปมา.

"ตี้เสวียนชา,นับเป็นยอดฝีมือที่เต็มไปด้วยความอหังการ,ทว่าอีกด้านหนึ่งเขาก็คือจือจุ้นเผ่าหมาป่า,เขาที่ช่วยเหลือเผ่าหมาป่าอย่างสุดความสามารถเพื่อฟื้นฟูความรุ่งเรืองของเผ่าหมาป่า,เขายอมที่จะไม่จากไปใหนก่อนหน้านี้,แต่ตอนนี้เขาได้สร้างชื่อเสียงสั่นสะเทือนโลกแล้ว,ในทวีปศักดิ์สิทธิ์เผ่าหมาป่าได้กลายเป็นเผ่าอสูรลำดับหนึ่งแล้ว,ความปรารถนาอันยาวนานของเขาก็สำเร็จลุล่วง,ตอนนี้เขาจำเป็นต้องตัดสินใจอีกด้านหนึ่ง,ก้าวสู่เส้นทางของยอดฝีมือ,บนบ่าของเขานั้นไม่ได้มีภาระที่หนักอึ้งเหมือนก่อนแล้ว,หลังจากแยกสวรรค์เสร็จ,เขาที่เป็นยอดฝีมือ,คงไม่ยินดีที่จะหยุดนิ่งอยู่กับที่อีกต่อไปแล้ว."จงซานที่กล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม.

"ไม่ยินดีที่จะหยุดนิ่ง? หยุดนิ่งอย่างงั้นรึ? หมายความว่าอย่างไร? ราชวงศ์สวรรค์ต้าเจิ้ง,หลังจากนี้ก็จะก้าวขึ้นไปเป็นศาลเทวะต้าเจิ้งจะเป็นแบบใด?"เป่าเอ๋อที่ขมวดคิ้วไปมา.

"หลังจากที่แยกสวรรค์,ต้าเจิ้งจะไม่สามารถอยู่นิ่งได้,แม้นว่ามีบางคนต้องการให้พวกเราอยู่หนึ่ง,หรือบางคนก็ไม่ต้องการให้พวกเราอยู่นิ่ง,ในโลกใบใหญ่นั้น,จะกลายเป็นเรื่องที่ซับซ้อนที่กำลังจะเริ่มต้น!"จงซานที่ส่ายหน้าไปมา.

เหล่าสตรีของจงซานที่ขมวดคิ้วไปมา,ราวกับตระหนักได้บางอย่าง.
................

สามเดือนหลังจากนั้น,สวนสวรรค์ลอยฟ้าหลิงเซียว,ภายในตำหนักเทียนหยวน.

อาการบาดเจ็บของจงซานได้ฟื้นคืนกลับมาแล้ว,และในเวลานี้สุ่ยจิงและคนอื่นก็ได้กลับมาแล้วเช่นกัน.

จงซานที่นั่งอยู่บนโต๊ะ,ที่ด้านหน้าของเขานั้นมีสุ่ยจิง,เซียนเซิงซือ,อาวุโสเทียน,หวังคู,อี้เหยี่ยนและอีกหลายคน.

"ฝ่าบาท,เป็นไปได้ในเวลานั้น,เมื่อเหริ่นชุนทำลายค่ายกลของกงเชียนได้,กงเชียนก็รู้ตัวและหนีจากหลุมสองภพไปในทันที!"สุ่ยจิงที่ครุ่นคิดและกล่าวออกมา.

"ในเวลานั้นเหรินชุนเดินทางไปยังแดนเทพอมตะคนเดียวอย่างงั้นรึ? เย่ชิงเฉิงน่าจะสามารถดึงพลังอำนาจของแดนเทพอมตะมาสนับสนุนได้ไม่ใช่รึ?"จงซานที่ขมวดคิ้วไปมาก่อนพูด.

"เหรินชุดได้เปิดอุโมงค์บินสู่โลกใบใหญ่!"

"หืม?"

"เย่ชิงเฉิงได้ยืมพลังจากกรรมวาสนาแดนเทพอมตะ,คนทั่วไปนั้นยากจากต่อกรกับเขาได้,ทว่าเหรินชุนนั้นได้ข้ามผ่านทัณฑ์สวรรค์เป็นเซียนปฐพีแล้ว,เป็นเรื่องที่คาดไม่ถึงเลยแม้แต่น้อย,กล่าวอีกอย่างหนึ่งเขาสามารถที่จะโบยบินหนีออกไปได้ทุกเวลา,ฟ้าดินถูกเปิดเป็นช่องทางให้เขา,ในเวลานั้นมียอดฝีมือมากมายที่บินลงมาจากโลกใบใหญ่!"

"พวกเขาเป็นคนของเหรินชุนทั้งหมดเลยรึ?"จงซานที่ดวงตาหรี่เล็กลง.

"ไม่รู้ว่าเขามีวิธีการอันใด,จึงทำให้คนของเขาในโลกใบใหญ่รับรู้ตำแหน่งของเขา,พร้อมกับส่งคนมาร้อยคน,พวกเขาต่างก็เรียกเหรินชุนว่า,ต้าเหริน,จากนั้นกลุ่มยอดฝีมือก็เข้าโจมตีทำลายแดนเทพอมตะ!"สุ่ยจิงที่กล่าวออกมา.

"กลุ่มยอดฝีมืออย่างงั้นรึ?"จงซานที่ดวงตาหรี่เล็กลง.

"กลุ่มของยอดฝีมือ,เซียน,และระดับสวรรค์แท้,แดนเทพอมตะที่ไม่มีเต๋าจวินเซิ่งหย๋า,และกงเชียน,นับว่าต้องเผชิญหายนะครั้งใหญ่,เหล่ายอดฝีมือมีจำนวนมากมาย,แม้ว่าเย่ชิงเฉิงจะมีกระบี่เซียนเซียน,แม้ว่าแดนเทพอมตะจะยังมีระดับสวรรค์แท้,พวกเขาได้แต่ถอยและถอยไม่สามารถต้านเอาไว้ได้."สุ่ยจิงที่ขมวดคิ้วไปมา.

"หืม?ได้แต่ถอยและถอยอย่างงั้นรึ? ยอดฝีมือเหล่านั้นร้ายกาจขนาดนั้นเลยรึ?"

"ร้ายกาจมาก,การต่อสู้ของพวกเขาแม้นว่ายอดฝีมือแดนเทพอมตะจะเก่งกาจไม่น้อย,ทว่ามีเหรอที่จะต้านได้,คนเหล่านั้นต่อสู้ทุ่มไปแม้แต่พร้อมจะตกตายไปพร้อมกับฝ่ายตรงข้ามด้วย."สุ่ยจิงที่กล่าวออกมาด้วยท่าทางหวาดหวั่น.

"ใช้ชีวิตเข้าแลกอย่างงั้นรึ? คนเหล่านี้ต่างก็อยู่ระดับเซียน? กับเรียกเหริ่นชุนว่า ต้าเหริน,ดูเหมือนว่าพวกเขาจะเป็นกลุ่มอิทธิ์ขนาดใหญ่อย่างงั้นรึ?"จงซานที่ขมวดคิ้วไปมา.

จงซานที่ลุกขึ้นยืน,ก่อนที่จะก้าวไปมา,ครุ่นคิด,คนเหล่านี้ยินยอมพร้อมตายเพื่อองค์กรอย่างงั้นรึ?

"หลังจากนั้นล่ะ?"จงซานที่เงยหน้าจ้องมองสุ่ยจิง.

"แดนเทพอมตะที่มีเพียงเย่ชิงเฉิงที่พอยืนหยัดได้,ทว่าเขาคนเดียวที่เข้ารับมือยอดฝีมือสิบคน,ท้ายที่สุดก็ได้รับบาดเจ็บหนัก,เหรินชุนที่ใช้ระฆังแห่งความโกลาหลรุกเข้าดินแดนเทพอมตะ,จากนั้น,พวกเราก็ไม่ได้เข้าไป,มีเพียงเซียนเซิงซือที่มีวิชาลับสามารถลอบเข้าไปข้างในได้!"สุ่ยจิงกล่าว.

ทุกคนที่หันหน้าไปยังเซียนเซิงซือพร้อมๆกัน.

"ข้าตามเข้าไป,เหรินชุนได้มุ่งหน้าตรงไปยังที่พักของกงเชียน,ซึ่งเป็นสถานที่เดิมที่พวกเราได้เข้าไปขโมยโลงศพสีม่วงมา,เป้าหมายของพวกเขา,ก็คือโลงศพสีม่วงนั่นเอง!"เซียนเซิงซือกล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม.

"ไม่ใช่ว่ากงเชียนได้ติดตั้งค่ายกลเอาไว้หรอกรึ?"จงซานสอบถามออกไป.

"มีค่ายกลติดตั้งเอาไว้,นอกจากนี้ยังแข็งแกร่งเป็นอย่างมาก,เหรินชุดไม่สามารถเข้าไปได้เลย,แม้จะใช้ระฆังแห่งความโกลาหล,พร้อมกับร่วมมือกับเหล่าเซียนอีกหลายคน,ก็ไม่สามารถทะลวงค่ายกลกงเชียนได้,ค่ายกลของกงเชียนนับว่าทรงพลังร้ายกาจจริงๆ."เซียนเซิงซือที่กล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม.

"หืม?แล้วจากนั้นล่ะ?"

"กลายเป็นเรื่องที่แปลกประหลาด,เหรินชุนได้ใช้โลหิตและวิญญาณของเซียนสิบคน,เพื่อสังเวยต่อระฆังแห่งความโกลาหล!"เซียนเซิงซือกล่าว.

"สังเวยบูชายัญต่อระฆังแห่งความโกลาหลอย่างงั้นรึ?"จงซานที่กล่าวออกมาด้วยความประหลาดใจ.

เซียนเซิงซือพยักหน้า.

"สิบเซียน,พวกเขาเป็นเซียนที่ลงมาจากโลกใบใหญ่อย่างงั้นรึ? พวกเขาไม่ต่อต้านเลยรึ?"จงซานที่กล่าวออกมาด้วยความตะลึง.

"ไม่ต่อต้านแม้แต่น้อย,หนำซ้ำเซียนทั้งสิบยังเป็นคนอาสาที่จะใช้ร่างกายและวิญญาณตัวเองสังเวยต่อระฆังแห่งความโกลาหล,ไม่รู้ว่าเป็นกลุ่มอิทธิพลใด,ที่ทำให้เหล่าเซียนนั้นหวั่นเกรงจนไม่เสียดายความตายของตัวเอง,กับสิ่งที่ข้าเห็นนั้น,สติของพวกเขาไม่ได้ถูกบิดเบือน,หากแต่เต็มไปด้วยความเคร่งขรึม,เต็มไปด้วยความเทิดทูนบูชา,ยินดีที่จะมอบชีวิตให้!"เซียนเซิงซือที่กล่าวออกมาด้วยความอัศจรรย์ใจเช่นกัน.

ภายในห้องอักษรเวลานี้,ทุกคนได้แต่เงียบ,เห็นชัดเจนว่ามันเกินกว่าสามัญสำนึกของพวกเขา,ยินดีอย่างงั้นรึ? แม้แต่เซียนยังยินดีอย่างงั้นรึ?

"หลังจากนั้นล่ะ?"จงซานที่สูดหายใจลึก.

"ระฆังแห่งความโกลาหลเมื่อได้รับการบูชายันต์จากเซียนทั้งสิบแล้ว,มันได้ส่องประกายแสงสีทองสว่างจ้าปิดผืนฟ้า,พร้อมกับปรากฏเพลิงลุกไหม้,จากนั้นที่ปากของระฆัง,ก็ยืดยาวออกไปกลายเป็นฝ่ามือ,เป็นฝ่ามือที่ทรงพลังแข็งแกร่งเป็นอย่างมาก,ข้าคิดว่านี่น่าจะเป็นผลจากการสังเวยเซียนทั้งสิบคน,ทำให้ระฆังแห่งความวุ่นวายนั้นสามารถเชื่อมต่อกับคนที่ร้ายกาจจากโลกใบใหญ่ได้,จากนั้นฝ่ามือดังกล่าวก็โจมตีไปยังค่ายกลของกงเชียนเกิดระเบิดเสียงดังสนั่น!"เซียนเซิงซือกล่าวพลางทอดถอนใจ.

"ฝ่ามือที่สามารถทำลายค่ายกลของกงเชียนได้อย่างงั้นรึ? ด้วยค่ายกลที่ทรงพลังของกงเชียนแล้ว,ใครกัน?ที่จะน่าหวาดกลัวถึงเพียงนี้?"จงซานที่เผยท่าทางตื่นตระหนกออกมาเช่นกัน.

"ในเวลานั้นเหรินชินที่แสดงความเคารพ,ซึ่งเฉินก็ได้ยินเสียงของเขาด้วย!"เซียนเซิงซือกล่าว.

"หืม?"
 .
ทุกคนที่จ้องมองไปยังเซียนเซิงซือ,เพราะว่าสิ่งที่ได้ยินแล้ว,เป็นยอดฝีมือคนใดกัน.

"เหรินชุนได้กล่าวออกมาว่า,จักรพรรดิเทวะผู้ยิ่งใหญ่,ผู้น้อยขอคำนับ,กล่าวเสร็จเหรินชุนก็คุกเข่าลงในทันทีเช่นกัน!"เซียนเซิงซือกล่าว.

จักรพรรดิเทวะผู้ยิ่งใหญ่งั้นรึ? จักรพรรดิเทวะ? ใครคือจักรพรรดิเทวะ?

จงซานที่จ้องมองไปยังเซียนเซิงซือ,จากนั้นก็จ้องมองไปยังหวังคู,แววตาของเซียนเซิงซือที่เต็มไปด้วยความสงสัย,ส่วนหวังคูที่สั่นไหวเล็กน้อย.

เป็นความลับหรือไม่?,จงซานที่เห็นแววตาที่สั่นไหวเล็กน้อยของหวังคูได้.

"เซียนเซิงซือ,หวังคู,เจ้ามาจากโลกใบใหญ่,พอจะรู้อะไรเกี่ยวกับจักรพรรดเทวะผู้นี้หรือไม่?"จงซานสอบถาม.

"เฉินเองไม่รู้!"เซียนเซิงซือที่ส่ายหน้าไปมา.

"เฉินไม่รู้เช่นกัน!"หวังคูที่ส่ายหน้าด้วย.

จงซานที่จ้องมองไปยังคนทั้งสามไม่ได้กล่าวสิ่งใดออกมา,เหมือนว่าเรื่องราวที่ลึกลับซับซ้อนหลายอย่างที่เป็นตำนานจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับความทรงจำเมื่อยังเด็กของจงซานอยู่หลายอย่างเช่นกัน.

จงซานที่ค่อยก้าวออกมาจากห้องโถง,เหล่าข้าราชบริพารที่รอคอยอย่างใจเย็น.

หลังจากที่ผ่านไปหนึ่งก้านธูป.

"จักรพรรดิเทวะ? เทพรึ?"จงซานที่บ่นพึมพำกับตัวเอง.

ทันใดนั้น,จงซานที่เงยหน้าขึ้นท้องฟ้า,ดวงตาหดเกร็ง,ใบหน้าที่เปลี่ยนเป็นจริงจังซับซ้อนหวาดผวาขึ้นมาในทันที,"เป็นเขา? ไม่ใช่ว่าเขาตกตายไปแล้วรึ? เขาล่วงหล่นลงจากท้องฟ้าแล้วรึ?"

เห็นใบหน้าของจงซานที่กำลังหวาดผวา,เหล่าข้าราชบริพารที่จอ้งมองด้วยความสงสัย,หวังคูที่ราวกับว่าต้องการจะพิสูจน์สิ่งที่จงซานตระหนักได้.

"ฝ่าบาท,ใครอย่างงั้นรึ?"สุ่ยจิงและอีกหลายคนสอบถามออกไปในทันที.

จงซานที่สูดหายใจลึก,พร้อมกับพยายามระงับความหวั่นเกรงเอาไว้ในใจ,ส่ายหน้าไปมาและกล่าวออกมาว่า,"อย่าเพิ่งถามเลย,ไม่รู้ ยังจะดีกว่า,หากว่าสิ่งที่ข้าเดาเป็นความจริง,การคงอยู่ของเขา,จะต้องสร้างความตื่นตะลึงยิ่งกว่าศพปราชญ์เทพซะอีก,ในโลกใบใหญ่นั้นมีสถานที่ไม่ยึดกับตัวตนเป็นเขตสงบที่เป็นเหมือนดั่งที่พักพิงของทุกคน!"

เหล่าข้าราชบริพารที่อ้าปากค้างด้วยความหวั่นเกรงต่อจงซาน,เป็นเรื่องที่น่าเกรงขามขนาดนั้นเลยรึ? ทว่าพวกเขารับรู้ว่าฝ่าบาทเองก็ไม่มั่นใจจึงไม่ได้คิดที่จะเผยอะไรออกมา,ในเมื่อเป็นเช่นนี้ก็ไม่ควรจะสอบถามต่อ.

"รับทราบ!"ทุกคนที่พยักหน้ารับ.

"มีคนอื่นๆที่รับรู้เรื่องนี้หรือไม่?"จงซานที่กล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม.

"ไม่มีแล้ว!"เซียนเซิงซือที่กล่าวออกมาทันที.

"ดี,กับสิ่งที่เจ้าพูดไปก่อนหน้านี้,และสิ่งที่ข้าได้เอ่ยไป,อย่าได้เปิดเผยให้ใครรับรู้."จงซานที่สูดหายใจลึก.

"ครับ!"ทุกคนที่รับคำในทันที.

"เล่าต่อได้!"จงซานที่จ้องมองไปยังเซียนเซิงซือ.

"ครับ,หลังจากฝ่ามือที่ยื่นออกมาจากระฆังแห่งความวุ่นวาย,ได้ฟาดออกไปยังค่ายกลของกงเชียน,จนถูกทำลายไปเกือบหมด,เหลือเพียงแค่เล็กน้อยเท่านั้น,จากนั้นฝ่ามือดังกล่าวก็หายไป,ซึ่งค่ายกลเล็กน้อยที่เหลือเหรินชุดมีพลังพอที่จะทำลายได้แล้ว,หลังจากที่เขาจัดการค่ายกลของกงเชียนทั้งหมด,ก็พบเข้ากับโลงศพสีม่วงในที่สุด,เหรินชุนที่ทำเหมือนกับพวกเราก่อนหน้านั้น,เขาได้ถอนตะปูโลงศพออกมา,เพื่อยืนยันสิ่งที่อยู่ในโลง,ทว่าหลังจากที่เขานำตะปูทั้งสิบออกมาแล้ว,เมื่อเขาเปิดฝาโลก,ก็เกิดเรื่องที่ไม่คาดฝันเกิดขึ้น,หวังเฉินที่ปรากฏตัวออกมาในทันที!"เซียนเซิงซือกล่าว.

"หวังเฉิน?"จงซานที่ขมวดคิ้วไปมา.


"ครับ,แดนเทพอมตะที่ถูกทำลายไปจนยับเยิน,มีผู้บาดเจ็บล้มตายไปเป็นจำนวนมาก,เย่ชิงเฉิงที่พ่ายแพ้ได้หลบหนีไปจนหาร่องรอยไม่เจอ,ผู้ใต้บังคับบัญชาของเหรินชุนที่เหลืออยู่ 4-5 คน,พวกเขาเองก็แทบหมดแรงแล้วเช่นกัน,ทำให้หวังเฉินปรากฏตัวออกมา"เซียนเซิงที่ขมวดคิ้วไปมา.






ที่มาจากhttps://lnmtl.com/novel/immortality

#นิยาย เรื่องอมตะ #Immortality#นิยายแปลไทย
Author(s)


สนใจสนับสนุนพวกเรา,เข้าร่วมกลุ่ม VIP ====> Click

ปัจจุบันแปลจบแล้ว 1672 ตอน สนใจติดต่อเข้ากลุ่มลับได้ครับ

***เว็ปฟรีอัพ สองวันหนึ่งตอน
***กลุ่มลับ แปลจบแล้ว.

 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น