วันพฤหัสบดีที่ 4 มิถุนายน พ.ศ. 2563

Immortality Chapter 809 War!

Immortality Chapter 809  War!

นิยาย เรื่อง อมตะ ตอนที่ 809 สงคราม!


Chapter 809  War!
!
  สงคราม!

ระฆังแห่งความโกลาหล?

"ไป,ไปดูก่อน,พวกเจ้ารอสัญญาณจากอี้เหยี่ยน."สุ่ยจิงกล่าว.

คนกลุ่มหนึ่งที่พยักหน้ารับ.



"เก็บกลิ่นอาย,ใช้วิชาลับสวรรค์ลี้ลับออกมา."

สุ่ยจิงที่กล่าวเสร็จก็เหินออกไปพร้อมกับเซียนเซิงซือ,อาวุโสเทียนและเจี้ยนหง.

ทั้งสี่คนก็มุ่งตรงไปยังแดนเทพอมตะที่อยู่ไม่ไกล,ก่อนที่จะไปหยุดที่หุบเขาแห่งหนึ่ง,เฝ้ามองเรื่องที่เกิดขึ้นที่ประตูทางเข้าแดนเทพอมตะ.

"เคล้ง!!!"

เสียงระฆังที่น่าเกรงขาม,มิติอากาศรอบๆที่ไม่สามารถทนได้แม้แต่น้อย,ภูเขาที่อยู่รอบๆแดนเทพอมตะต่างก็พังทลายล่มสลายลงมา,เหล่าศิษย์ทั่วไปที่บาดเจ็บล้มตายไปหลายคน.

ท้องฟ้า,หลายพันลี้ไม่มีเมฆเลยแม้แต่น้อย.

ที่ทางเข้าแดนเทพอมตะ,ชายในชุดสีเหลือง,กำลังลอยเด่นอยู่บนฟ้า,ผมยาวที่โบกสะบัดไปตามสายลม,แววตาตื่นเต้นดีใจ,บนศีรษะของเขานั้นมีระฆังขนาดร้อยจั้งลอยอยู่,พร้อมกับระฆังที่มีสีเหลืองและสีดำ,พร้อมกับมีอักษรรูนมากมายลอยอยู่รอบๆ.

"ระฆังแห่งความโกลาหล!"ดวงตาของสุ่ยจิงที่หรี่เล็กจดจ้องมองออกไป.

"เหรินชุน? เขาคือเหรินชุน?"อาวุโสเทียนที่เผยท่าทางประหลาดใจเป็นอย่างมาก.

"เจ้ามั่นใจอย่างงั้นรึ?"สุ่ยจิงที่จับจ้องมองอาวุโสเทียนด้วยความประหลาดใจ.

"ไม่ผิดแน่,วิถีสวรรค์,วิถีปฐพี,วิถีมนุษย์,วิถีเทวะ,วิถีภูติ,เขาที่เป็นวิถีมนุษย์,ข้าเคยเห็นมาก่อน,และไม่มีใครเข้าใจเขาแม้แต่น้อย,เขาที่มีความสามารถที่สั่นคลอนสวรรค์,แต่กลับทำตัวไร้ชื่อเสียง,ในวิถีทั้งห้าเขาคือคนที่ไม่มีใครอยากสู้ด้วย,คาดไม่ถึงเลยว่าจะเป็นเขา?"อาวุโสเทียนที่ขมวดคิ้วไปมา.

"นี่เขาไม่ได้ต่อสู้อยู่ที่หลุมสองภพกับต้าเจิ้งหรอกรึ? เขาเดินทางมาถึงแดนเทพอมตะตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?"เซียนเซิงซือที่ขมวดคิ้วไปมา.

"ดูเหมือนว่าสถานการณ์ต่อไปจะลำบากซะแล้ว!"เจี้ยนหงที่กล่าวออกมาอย่างมั่นใจ.

"เรื่องนี้มันซับซ้อนเกิดกว่าที่พวกเราจะเข้าใจ!"เซียนเซิงสุ่ยจิงที่ขมวดคิ้วไปมาสูดหายใจลึก.

พวกเขาเวลานี้กำลังพูดคุยปรึกษากันอยู่.

ทันใดนั้นที่ปากทางเข้าของแดนเทพอมตะ,ก็ปรากฏคนที่มีชุดสีทองปรากฏออกมาได้ในทันที.

เย่ชิงเฉิงที่ถือกระบี่เซียนเซียนมาด้วย,และกลุ่มยอดฝีมือของแดนเทพอมตะ.

เพียงแค่คนๆเดียวเดินทางมาหาเรื่องแดนเทพอมตะ?ใครกัน?ถึงได้ใจกล้าขนาดนั้นกัน.

เย่ชิงเฉิงที่ดูท่าทางจริงจังเป็นอย่างมาก,เสียงของระฆังแห่งความโกลาหลนั้นดังก้องไปทั่วแดนเทพอมตะ,เสียงระฆังที่ดังลั่นนี้,เย่ชิงเฉิงคาดเดาได้ว่า เขาบุกมาทำไม? ก่อนหน้านี้ขณะที่เขาลำเลียงโลงศพกลับมา,ได้ปรากฏชายในชุดสีดำที่มาปล้นโลงศพยักษ์,ในเวลานี้เขาที่หลบหนีไปเพราะพ่ายแพ้ต่อพลังของมีดบินสังหารเซียน.

ตอนนี้เขามาใหม่อย่างงั้นรึ? เป็นไปได้ว่าเขากำลังรอโอกาสอยู่อย่างงั้นรึ? รอคอยให้ผู้ก่อตั้งและท่านประมุขเดินทางออกนอกแดนเทพอมตะ?

เย่ชิงเฉิงที่ไม่ประมาทแม้แต่น้อย,เขาที่ลอบเคลื่อนย้ายกรรมวาสนามาปกคลุมร่างกาย,เพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งช้าๆ.

"เหรินชุน? เป็นเจ้าเองรึ?"เย่ชิงเฉิงทีกล่าวออกมาด้วยความประหลาดใจ.

ระฆังแห่งความโกลาหล? เหริ่นชุน? คาดไม่ถึงเลยว่าจะเป็นเขา?

เย่ชิงเฉินที่เคยเห็นเหริ่นชุนมาก่อน,แน่นอนว่าเพราะเขาเป็นผู้ฝึกตนฮวงจุ้ยของราชวงศ์สวรรค์ต้าสุ่ย,เป็นธรรมดา,เพราะเขาที่มีลับลมคมใน,ดังนั้นจึงไม่เป็นที่ไว้ใจต่อเต๋าจวินเซิ่งหย๋ามานานแล้ว,ทว่าเต๋าจวินเซิ่งหย๋าที่ไม่มีหลักฐานใดๆ ได้แต่ระมัดระวังเขาเอาไว้,ทว่าคาดไม่ถึงเลยว่า,ลางสังหรของเต๋าจวินเซิ่งหย๋าจะเป็นจริง,เหริ่นชุนผู้นี้ไม่ธรรมดาเลยจริงๆ.

เขาทรงพลังขนาดใหน? และยังมีระฆังแห่งความวุ่นวายด้วยรึ?

"เย่ชิงเฉิง? นี่เจ้าไม่ได้เดินทางไปยังหลุมสองภพอย่างงั้นรึ? ไม่คิดเลยว่าเจ้าจะอยู่เฝ้าที่นี่."เหรินชุนที่กล่าวออกมาด้วยเสียงเย็นชา.

"ไม่ใช่,เขาไม่ใช่เหรินชุน!"ฮามะไลที่กล่าวออกมาเสียงดัง.

กับคำพูดของฮามะไล,ทำให้คนอื่นๆงงงวย,เย่ชิงเฉิงที่ตกใจเล็กน้อย,ที่ไกลออกไปนั้นอาวุโสเทียนและคนอื่นๆเองก็ตื่นตกใจด้วยเช่นกัน,เหรินชุนที่มีระฆังแห่งความวุ่นวายลอยอยู่บนศีรษะเองก็ขมวดคิ้วไปมา.

"ข้าไม่ใช่เหรินชุนอย่างงั้นรึ?"เหรินชุนที่แค่นเสียงเย็นชา.

"เจ้าไม่ใช่เหรินชุน,หลายพันปีก่อนข้าเคยเห็นเหริ่นชุน,เขาไม่ผิดปรกติเช่นนี้,และก็ไม่มีระฆังด้วย,แม้ว่าเขาจะเป็นคนที่น่าทึ่ง,แต่ก็พ่ายแต่ต่อข้า,ข้าได้ทำร้ายเขาจนตกตายไปและเขาก็ไม่แม้แต่นำระฆังออกมา,ทว่าเจ้ากลับมีระฆังแห่งความวุ่นวาย,เจ้าไม่ใช่เหรินชุน,เจ้าเป็นใคร?"ฮามะไลกล่าวออกมาเสียงดัง.

"เจ้าไม่ใช่เหรินชุ่น? เจ้าเป็นใครกัน!"เย่ชิงเฉิงกล่าวออกมาด้วยเสียงเคร่งขรึม.

"เรื่องก่อนหน้านี้ห้าพันปี,ฮามะไลคาดไม่ถึงเลยว่าเจ้าจะจำได้,ไม่ใช่ว่าเจ้าต้องการเก็บเรื่องนี้เป็นความลับไม่ใช่รึ?"เหรินชุนที่ดวงตาหรี่เล็กลง.

"เจ้าไม่ใช่เหรินชุนจริงๆ,ไม่ได้การ,ก่อนหน้านี้ห้าพันปี,เหรินชุนได้เข้าร่วมราชวงศ์สวรรค์ต้าสุ่ย,กล่าวอีกอย่างหนึ่งเหรินชุนได้ตายแล้ว,เจ้าลอบเข้ามาแทนที่เขา? เจ้าทำเช่นนี้ก่อนหน้าห้าพันปี,เพื่อที่จะมาหาสิ่งของบางอย่างในแดนเทพอมตะอย่างงั้นรึ?"ใบหน้าของเย่ชิงเฉิงที่เปลี่ยนเป็นซับซ้อน.

"ศพปราชญ์เทพ,เจ้าคิดว่าจะสามารถปกป้องได้อย่างงั้นรึ?"เหรินชุดที่แค่นเสียงเย็นชา.

ใบหน้าของเย่ชิงเฉิงที่เปลี่ยนเป็นซับซ้อน,กล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงตื่นกลัว,"เจ้ารู้ได้อย่างไร? เจ้าเดินทางมาจากโลกใบใหญ่อย่างงั้นรึ? เจ้าจุติกลับมาในโลกนี้? เจ้าเป็นใคร?"

"บอกเจ้าไปเจ้าก็ไม่รู้จัก,ทว่าชีวิตของเหรินชุนนี้ข้ารู้สึกพอใจเป็นอย่างมาก,พวกเจ้าจะเรียกข้าว่าเหริ่นชุนต่อก็ได้!"เหรินชุนที่หัวเราะออกมาเสียงดัง.

"เคร้ง!!!"

ระฆังแห่งความโกลาหลที่เสียงดังสนั่น,การต่อสู้ที่หนักหน่วงก็เริ่มขึ้นในทันที.
.................

อุโมงค์สองภพ.

ก่อนเจ็ดวันเต็มจะมาถึง,หนี่ปู่ซาก็สามารถใช้ค่ายกลตะวันผลาญสวรรค์ทำลายค่ายกลทะเลโลหิตอสุราไปได้ในที่สุด.

ค่ายกลทะเลโลหิตอสุรานั้น,หลังจากที่เหรินชุนตายไปมันก็เปลี่ยนเป็นร้ายกาจยิ่งกว่าเดิม,ต้องใช้เวลาเกือบเจ็ดวัน,ถึงจะสามารถทำลายอสุราที่อยู่ภายในไป,ในเวลานี้ดวงตะวันขนาดใหญ่ก็สามารถผลาญค่ายกลดังกล่าวไปได้.

"ตูมมมมมมมม!"

เขตแดนโลหิตที่ระเบิดพังทลายลงไปในทันที.

เดิมที่สถานที่ดังกล่าวคือค่ายของทัพราชวงศ์สวรรค์ต้าสุ่ย,ทัพของต้าสุ่ยสามสิบล้านคนตกตายไปทั้งหมด.

ส่วนราชวงศ์สวรรค์ต้าเจิ้ง,หลังจากที่ค่ายกลตะวันผลาญสวรรค์ทำลายค่ายกลอีกฝ่ายได้,ค่ายกลสี่ลักษณ์ก็ถูกนำมาใช้อีกครั้งในทันที.

ทัพของต้าเจิ้งในเวลานี้,จิตวิญญาณที่ลุกโชน,เต็มไปด้วยขวัญกำลังใจที่ทะยานเสียดฟ้า.

"เฮ้!!!!!!"

"เฮ้!!!!!!"

"เฮ้!!!!!!"

เสียงคำรามของทหารหนักหน่วงรุนแรง,เสียงที่เต็มไปด้วยขวัญกำลังใจอันเต็มเปี่ยมกำลังโถมกระหน่ำไปยังเมืองสุ่ยโม่ว,แม้นว่าเหล่าทหารที่มีพลังฝึกตนต่ำไม่สามารถมองเห็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นที่หลุมสองภพได้,ทว่าเมื่อธารโลหิตสลายหายไป,กับเสียงเฮลั่นของศัตรูที่รุนแรงเช่นนี้ก็สามารถทำให้พวกเขาเข้าใจเรื่องราวที่เกิดขึ้นได้ในทันที.

กับขวัญกำลังใจของฝ่ายตรงข้ามที่มากมายเช่นนี้,ทำให้ขวัญกำลังใจของทหารในเมืองสุ่ยโม่วเวลานี้เต็มไปด้วยความห่อเหี่ยวหวาดหวั่นขึ้นมาในทันที.

"พ่ายแพ้? ค่ายกลทะเลโลหิตของเหริ่นชุนพ่ายแพ้?"

"แม่ทัพหวังเฉินทรยศและหนีไปแล้ว!"

"ต่อหน้าค่ายกลสี่ลักษณ์ที่ยากจะต้านทาน,ตอนนี้มีดวงตะวันที่ใหญ่โตอีก,จะเอาอะไรไปต้าน!"

"ราชวงศ์สวรรค์ต้าเจิ้งทรงพลังเกินไปแล้ว,จงซานเองก็ด้วย,ก่อนหน้านี้ขณะที่เขามีพลังฝึกตนต่ำ ก็สามารถสั่นสะเทือนไปทั่วทั้งทวีปศักดิ์สิทธิ์,ในเวลานี้พลังฝึกตนของเขาที่สูงล้ำ,เขาจะมีพลังมากมายขนาดใหนกัน?"

"ก่อนหน้านี้ข้าได้ยินมาว่าเต๋าจวินเซิ่งหย๋านำยอดฝีมือมากมายเข้าล้อมสวนสวรรค์ลอยฟ้าหลิงเซียว,ท้ายที่สุกก็กลับมาโดยไม่มีอะไร!"

"ข้าได้ยินมาว่าเขตแดนของราชวงศ์สวรรค์ต้าเจิ้งนั้นอาจจะมากกว่าราชวงศ์สวรรค์ต้าสุ่ยด้วย!"

"เจ้ายังไม่รู้,หลังจากที่หลุมสองภพปรากฏขึ้นก็มีข่าวเล็ดลอยออกมาว่านี่คือหลุมที่ใช้ไปยังภพหยิน,ภายในภพหยินนั้น,ราชวงศ์สวรรค์ต้าเจิ้งได้รวมแผ่นดินไปหมดแล้ว,เขตแดนต้าเจิ้งเจ้าลองคิดดูว่ามากมายขนาดใหน."

"เช่นนั้นพวกเราจะทำอย่างไรดี? สงครามครั้งนี้พวกเราจะต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัย!"

"ข้ายังไม่อยากตาย!"

กองทัพของราชวงศ์สวรรค์ต้าสุ่ยที่กลายเป็นวุ่นวายโกลาหลในทันที,กับทัพหน้าที่พังลายลง,ยิ่งทำให้หัวใจของพวกเขาบีบรัด,เหล่าทหารที่มีอยู่ในเวลานี้เริ่มตัวสั่นงันงก,ไม่สามารถที่จะสงบใจได้อีกต่อไปแล้ว.

บนป้อมปราการเมืองสุ่ยโม่ว.

"เหล่าข้าราชบริพารของเจ้าเริ่มหวาดกลัวแล้ว,ทำให้ทหารของเจ้าเองก็หวาดผวาไปเช่นกัน,ตอนนี้เจ้าไม่คิดจะทำอะไรเลยรึ?"กงเชียนที่เผยยิ้มบางๆออกมา.

".....!"ใบหน้าของกงเหล่ยเทียนที่เปลี่ยนเป็นมืดคลึ้ม.

"หนทางที่ดีที่สุดตอนนี้เจ้าจะต้องเรียกขวัญกำลังใจของทหารกลับมาโดยเร็ว,โดยการดวลระหว่างราชาและราชา,หากว่าเจ้าชนะจงซานได้ล่ะนะ!"กงเชียนที่กล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม.

"จงซาน?"ดวงตาของกงเหล่ยเทียนที่หรี่เล็กจดจ้องมองไปยังประตูสวรรค์ทิศใต้ของสวนสวรรค์ลอยฟ้าหลิงเซียวซึ่งมีจงซานประจำอยู่.

"ข้าสัมผัสได้ว่าเจ้ายังมีของวิเศษล้ำค่าที่สุดอยู่,เป็นเศษส่วนที่เหลือจากปราชญ์เทพหยวนซือ,เจ้าคิดที่จะเก็บเอาไว้ไม่นำมันมาใช้หน่อยรึ?"กงเชียนที่เผยยิ้มอย่างชั่วร้าย.

ดวงตาของกงเหล่ยเทียนที่หดเกร็ง,เผยท่าทางหวาดหวั่นจดจ้องมองไปยังกงเชียน,"ท่านรู้ได้อย่างไร?"

"แม้ว่าข้าจะไม่สนใจกงชิว,ทว่าก็คงไม่ปล่อยให้เจ้าต้องพบกับความย่ำแย่หรอก,อีกอย่างเจ้ามีของวิเศษที่เศษส่วนของอุปกรณ์ปราชญ์เทพ,ซึ่งเป็นของวิเศษที่ล้ำค่าที่สุด,ให้ข้าได้เห็นธวัชทมิฬของเจ้าสักหน่อย,ไป!"กงเชียนที่ส่ายหน้าไปมาขณะพูด.

"ครับ,อาวุโส!"กงเหล่ยเทียนพยักหน้า,ก่อนที่จะบินออกไป.

เห็นกงเหล่ยเทียนที่บินออกไปไกล,ดวงตาของกงเชียนที่หรี่เล็กลง,เห็นได้ชัดเจนว่าภายในใจของเขาไม่ได้คิดเหมือนกับที่พูดออกมา.

กงเหล่ยเทียนที่บินออกไปยังศูนย์กลางสมรภูมิ.

"ดูนั่น,ฝ่าบาท!"

"ฝ่าบาทลงมือแล้วอย่างงั้นรึ?"

"บางที่จงซานอาจจะไม่ใช่คู่มือของฝ่าบาทก็ได้!"

เหล่าทหารของต้าสุ่ยทันใดนั้นก็ปรากฏความหวังขึ้นมาทันที,จดจ้องมองไปยังกงเหล่ยเทียนที่บินออกไปไกล.

ที่ป้อมปราการประตูสวรรค์ทิศใต้,จงซานจับจ้องมองร่างๆหนึ่งที่บินมาแต่ไกล.

กงเหล่ยเทียน? จงซานที่หรี่ตาจ้องมอง.

อี้เหยี่ยนที่สะบัดธงคำสั่ง,ให้ทัพของต้าเจิ้งหยุดลงในทันที.

"จงซาน!!"

กงเหล่ยเทียนที่ตะโกนออกไปเสียงดัง,เหล่าทหารทั้งหมดที่จับจ้องรอคอย.

"เจ้าต้องการต่อสู้กับข้าอย่างงั้นรึ?"จงซานที่กล่าวออกมาด้วยรอยยิ้มในทันที.

"เจ้ากล้ารึ?"

"ครั้งแรกที่พบกันข้าด้อยกว่าเจ้า! ครั้งที่สองข้าก็ยังด้วยกว่าเจ้า! ครั้งที่สาม,ข้าไม่ได้หวาดกลัวเจ้าแม้แต่น้อย!ครั้งที่สี่,เจ้าทำอะไรข้าไม่ได้! ครั้งที่ห้าเจ้าไม่ใช่คู่ต่อสู้ของข้า,ครั้งที่หกเป็นเจ้าที่ต้องการท้าข้าต่อสู้,ข้าชื่นชมความกล้าเจ้าจริงๆ!"จงซานที่หัวเราะอย่างไม่ใส่ใจนัก.

ในอดีตจงซานที่ผิดพลาดมากมาย,หากแต่เขายังคงมั่นใจที่จะเดินต่อไปด้านหน้า,ความล้มเหลวในอดีตเป็นบันไดที่จะก้าวไปสู่ความสำเร็จ,ความล้มเหลวไม่ใช่เรื่องน่าอาย,แต่มันคือเหรียญรางวัล,เหรียญรางวัลแห่งความสำเร็จต่างหาก.

ทุกคนที่จับจ้องมองจงซานด้วยความเคารพ,เส้นทางที่ฝ่าบาทก้าวผ่าน,จะกลายเป็นตำนาน.

ในเวลานี้,ไม่มีใครให้ราคากงเหล่ยเทียนนัก,การที่กงเหล่ยเทียนมาท้าสู้ที่นี่,ที่นี่คือเมืองหลวงของราชวงศ์สวรรค์ต้าเจิ้ง,ฝ่าบาทที่สามารถยืมอำนาจของสวรรค์ต้าเจิ้งได้,เจ้าจะสู่อย่างไร,การต่อสู้ครั้งที่ห้าก่อนหน้านี้,เจ้ายังทำอะไรฝ่าบาทไม่ได้,การต่อสู้ครั้งที่หกนี้,ไม่ต่างจากแส่หาความตาย.

"ข้าขอถามเจ้า,เจ้าจะสู้หรือไม่สู้?"กงเหล่ยเทียนที่กล่าวออกมาด้วยเสียงเย็นชา.

จงซานที่จ้องมองกงเหล่ยเทียน,แววตาที่เต็มไปด้วยความเย็นชา.


"ไม่สู้,ทำไมข้าจะไม่สู้? ครั้งนี้,ข้าจะให้ทุกคนทั่วหล้า,รับรู้,ข้าจะบดกระดูกของเจ้าไปเซ่นสังเวยวิญญาณกุยเอ๋อบนสวรรค์!"






ที่มาจากhttps://lnmtl.com/novel/immortality

#นิยาย เรื่องอมตะ #Immortality#นิยายแปลไทย
Author(s)


สนใจสนับสนุนพวกเรา,เข้าร่วมกลุ่ม VIP ====> Click

ปัจจุบันแปลจบแล้ว 1672 ตอน สนใจติดต่อเข้ากลุ่มลับได้ครับ

***เว็ปฟรีอัพ สองวันหนึ่งตอน
***กลุ่มลับ แปลจบแล้ว.

 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น