Immortality Chapter 792 Excutes the immortal goal
นิยาย เรื่อง อมตะ ตอนที่ 792 เป้าหมายของจูเซียน.
Chapter 792 Excutes the immortal goal
诛仙目的
เป้าหมายของจูเซียน.
เต๋าจวินเซิ่งหย๋าที่จับจ้องมองจงซานด้วยความโกรธเกรี้ยวอย่างลึกล้ำ,ทว่าเต๋าจวินเซิ่งหย๋านั้นเป็นคืนยืดได้หดได้,ครั้งนี้แม้แม้นว่าเขาต้องการจะสังหารจงซานให้ได้,ทว่ากระบี่จูเซียนหายไป,ผลชนะหรือแพ้เวลานี้จึงเปลี่ยนไปแล้ว.
"ใช้เวลานานเกินไปแล้ว,ยังไม่ถึงเวลาสังหารจงซาน,ถอยก่อน!"เต๋าจวินเซิ่งหย๋าที่กล่าวด้วยท่าทางไม่พอใจเป็นอย่างมาก.
กงเหล่ยเทียนจ้องมองจงซานด้วยท่าทางแววตาอย่างช่วยไม่ได้,ก่อนที่จะบินไปพร้อมกับเต๋าจวินเซิ่งหย๋า.
เต๋าจวินเซิ่งหย๋าที่ต่อสู้กับตี้เสวียนชา,มีเพียงแค่เต๋าจวินเซิ่งหย๋าเท่านั้นที่รับรู้ว่าตี้เสวียนชาแข็งแกร่งขนาดใหน,กับสถานการณ์จนถึงตอนนี้นี้,กงเหล่ยเทียนก็ยังไม่สามารถสังหารจงซานได้อย่างงั้นรึ?,ส่วนฮามะไล,เองก็ไม่ต่างจากสวะที่ไร้ประโยชน์.
เต๋าจวินเซิ่งหย๋าไม่รู้ว่าจงซานนั้นแข็งแกร่งเท่าใด,ดังนั้นเวลานี้เมื่อกงเหล่ยเทียนไม่สามารถสังหารจงซานได้ก็รู้สึกไม่พอใจเช่นกัน,ส่วนกงเหล่ยเทียนเองก็เช่นกันรู้สึกไม่พอใจกับเต๋าจวินเซิ่งหย๋า,ไม่ใช่ว่าเจ้ามีระดับสิบสองสวรรค์แท้หรอกรึ?
หนำซ้ำยังมีมีดบินสังหารเซียนอีก?
ผ่านไปตั้งนาน,เจ้ากำลังเล่นสนุกกับตี้เสวียนชาอยู่รึไง?
เห็นคนทั้งสองที่จากไปด้วยใบหน้าไม่พอใจกันและกัน,แต่ด้วยความสามารถของจงซานและตี้เสวียนชาเวลานี้,การจะขวางพวกเขาก็ไม่มีทางสำเร็จ.
ส่วนฮามะไลที่นั่งอยู่บนพื้น,พวกเขาดูเหมือนว่าจะไม่สนใจช่วยเลยแม้แต่น้อย.
"เอาล่ะ,ไม่จำเป็นต้องไล่ตาม!"จงซานที่ส่ายหน้าไปมา.
วิชากายาเทพอสูรนั้นยังคงอยู่ได้อีกไม่นาน.หากว่าเริ่มต่อสู้อีกครั้ง,จะชนะหรือว่าแพ้ก็ยากจะคาดเดา.
ตี้เสวียนชาที่พยักหน้ารับ,จดจ้องมองไปยังฮามะไลที่นอนกองอยู่บนพื้น.
เห็นฮามะไลแล้ว,พวกเขาเองก็รู้สึกรังเกียจ,ไม่มีใครเห็นฮามะไลอยู่ในสายตาตลอดหลายปีมานี้,เขาในเวลานี้กลายเป็นขยะเปียกโดยสมบูรณ์.
การต่อสู้ของเขาในช่วงหลังๆมานี้,ไม่แม้แต่กล้าเข้าไปปะทะ,ขวาดเขลา,หากไม่มีจิตกระบี่จูเซียนสิงร่าง,ก็ไร้ซึ่งประโยชน์ใดๆ.
ไม่สงสัยเลยว่าเต๋าจวินเซิ่งหย๋าและกงเหล่ยเทียนจะจากไป,โดยไม่สนใจเขาแม้แต่น้อย.
"ข้าจะสังหารมันซะ!"ตี้เสวียนชาจ้องมองอย่างไม่แยแสไปยังฮามะไล.
"ช้าก่อน!
ให้มันมีชีวิตอยู่!"จงซานที่ส่ายหน้าไปมา.
"ขยะไร้ประโยชน์,ปล่อยไว้ยังจะใช้ประโยชน์อะไรได้?"ตี้เสวียนชาที่ขมวดคิ้วไปมา.
"ยังมีวิธีใช้,แม้แต่ขยะเปียก,ยังใช้เป็นปุ๋ยได้,เกี่ยวกับวิธีใช้เขา,ก็ย่อมต้องมีวิธีเช่นกัน."จงซานที่เผยยิ้มออกมาเล็กน้อย.
นับเป็นครั้งแรกที่เขาต้องต่อสู้กับกงเหล่ยเทียนอย่างจริงจัง,และยังกุมความได้เปรียบอย่างเบ็ดเสร็จ,ทำให้จงซานอารมณ์ดีเป็นอย่างมาก,หลังจากวันนี้,กงเหล่ยเทียนจะไม่ได้เป็นฝันร้ายของเขาอีกต่อไปแล้ว,การจะจัดการกงเหล่ยเทียนในเวลานี้ก็ขึ้นอยู่กับเวลาแล้ว,ความเจ็บช้ำที่กงเหล่ยเทียนปะทับอยู่ในใจของเขา,เวลานี้มันค่อยๆฟื้นคืนกลับมา,บาดแผลที่เคยเจ็บหนัก,เวลานี้ไม่ได้มีอิทธิพลอะไรกับจงซานอีกต่อไปแล้ว.
ขยะเปียก? ใช้เป็นปุ๋ยอย่างงั้นรึ?
ตี้เสวียนชาที่ได้ยินคำพูดดังกล่าว,ก็จดจ้องมองฮามะไลด้วยท่าทางแปลกประหลาด.
"ตกลง,ไม่ว่าจะเป็นขยะเปียกหรือปุ๋ย,ให้เจ้าจัดการก็แล้วกัน!"ตี้เสวียนชาที่กล่าวออกมา.
เมื่อเก็บแปดหางสวรรค์แห่งจุดจบ,พร้อมกับผนึกฮามะไล,ตี้เสวียนชาและจงซานก็เดินทางกลับสวนสวรรค์ลอยฟ้าหลิงเซียว.
"ทำไมกระบี่จูเซียนถึงจากไปทันทีทันใดล่ะ?ความจริงเกิดอะไรขึ้น?ที่สวนสวรรค์ลอยฟ้าหลิงเซียนอย่างงั้นรึ?"ตี้เสวียนชาที่ขมวดคิ้วกล่าวสอบถามออกมา.
"ที่สวนสวรรค์ลอยฟ้า,ไม่จำเป็นต้องกังวลเกี่ยวกับกงเชียนแล้ว,เขาได้ถอยกลับไปเมื่อหลายวันก่อนหน้านี้แล้ว!"ใบหน้าของจงซานที่ซับซ้อนเต็มไปด้วยความโศกเศร้า.
"หืม?
กงเชียนถอยกลับไปแล้ว,ทำไมเจ้าถึงต้องทำหน้าเศร้าเช่นนั้น!"ตี้เสวียนชาที่กล่าวสอบถามด้วยความสงสัย.
"นั่นเพราะว่า,บุตรชายที่แสนดีของข้าได้ตายไปเพราะเขายังไงล่ะ!"แววตาของจงซานที่เผยจิตสังหารแผ่ออกมาด้วย.
"หืม?"ตี้เสวียนชาที่ขมวดคิ้วไปมา.
"จงเสวียน............!"
จงซานที่ได้บอกกล่าวเรื่องราวทั้งหมดให้กับตี้เสวียนชาได้ฟัง,ไม่มีความจำเป็นใดที่ต้องปิดบังตี้เสวียนชา.
"กงเชียน?"
ตี้เสวียนชาที่ได้ยินถึงความแข็งแกร่งของกงเชียน,ทำให้เขาสูดหายใจลึกทีเดียว,กงเชียนผิดปรกติเกินไปแล้ว.
"ไม่มีปัญหา,พวกเราได้กุมจุดอ่อนของกงเชียนเอาไว้แล้ว!"จงซานที่เผยยิ้มออกมาในทันที.
"หืม??
เป็นกลุ่มของหวังคูที่เดินทางไปก่อนหน้านี้นะรึ?"ตี้เสวียนชาที่สอบถามออกมา.
"ใช่แล้ว,ในเวลานี้พวกเขาได้กลับมาแล้ว,ได้นำโลงศพขนาดใหญ่กลับมาด้วย,โลงศพที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายแห่งความโศกเศร้า,ตอนนี้ข้าได้เปิดโลงศพออกมาแล้ว,ทว่าเพียงแค่เปิดก็ทำให้ผืนฟ้าและปฐพีกำสรวล,สวรรค์ร้องไห้ออกมาเป็นสายฝน,ความเศร้าที่มากมายที่ปะทุออกมนั้นไม่ใช่ธรรมดาเลยแม้แต่น้อย!"จงซานที่กล่าวตอบต่อตี้เสวียนชา.
"โลงศพ?
เป็นใครอยู่ด้านในกัน?"ตี้เสวียนชาที่เต็มไปด้วยความสงสัย.
"ไม่สามารถเห็นได้,ไม่,สามารถเห็นได้ชัดเจน,แต่ไม่สามารถจดจำได้ต่างหาก,ไม่เลยแม้แต่นิดเดียว,ถึงจะใช้หยกบันทึกแล้ว,แต่ก็ไม่สามารถบันทึกภาพได้,เป็นศพที่แปลกประหลาด!"จงซานที่สูดหายใจลึก.
"เป็นศพที่แปลกประหลาดขนาดนั้นเลยรึ?"ตี้เสวียนชาที่ขมวดคิ้วไปมา.
ทว่าขณะเดียวกันดวงตาของจงซานก็หดเกร็ง,ใบหน้าที่เปลี่ยนไปในทันที.
"มีอะไรอย่างงั้นรึ?"ตี้เสวียนชาที่สอบถามออกมาด้วยความสงสัย.
"ข้ารู้,ข้ารู้แล้ว....!"จงซานที่กลืนน้ำลายคำโต.
"รู้เรื่องอะไร?"
"ข้ารู้ว่ากระบี่จูเซียนนั้นไปที่ใหน,ข้ารู้ว่าทำไมจูเซียนถึงได้จากไปในทันที,หนำซ้ำยังไม่สนใจคำพูดของเต๋าจวินเซิ่งหย๋าแม้แต่น้อย,ท้ายที่สุดข้าก็เข้าใจแล้ว!"แววตาของจงซานที่เผยท่าทางประหลาดใจเป็นอย่างมาก.
"ไปที่ใหนอย่างงั้นรึ?"
"สวนสวรรค์ลอยฟ้าหลิงเซียน,กระบี่จูเซียนจะต้องไปยังสวนสวรรค์ลอยฟ้าหลิงเซียวอย่างแน่นอน!"ดวงตาของจงซานที่เต็มไปด้วยความมั่นใจ.
แดนเทพอมตะ,เย่ชิงเฉิงที่นั่งบำเพ็ญอยู่ใช้ทะเลสาบขนาดเล็กแห่งหนึ่ง,ผิวน้ำที่เงียบสงบไร้คลื่น,กระบี่เซียนเซียนที่ถูกวางไว้บนตักของเขา.
ใบหน้าของเย่ชิงเฉิงที่สงบเงียบ,เขาที่กำลังสัมผัสถึงวิถีกระบี่,ในเวลาเดียวกันก็ศึกษาความลึกล้ำของกระบี่เซียนเซียนไปด้วย.
ทันใดนั้น,กระบี่เซียนเซียนก็ปรากฏปราณสีเขียวมรกตปกคลุม,สั่นไปมาในทันที,ทันใดนั้นก็สะบัดหลุดจากการควบคุมของเย่ชิงเฉิง.
"ปัง!"
น้ำในทะเลสาบที่พุ่งขึ้นบนฟ้า,กระบี่เซียนเซียนเองก็เช่นกัน.
กระบี่เซียนเซียนที่บินหนีไป,ใบหน้าของเย่ชิงเฉิงถึงกับเปลี่ยนเป็นซับซ้อน.
ไร้ซึ่งลังเล,เย่ชิงเฉิงที่พุ่งเข้าจับด้ามกระบี่เซียนเซียนเอาไว้.
กระบี่เซียนเซียนที่ปลดปล่อยแสงสีเขียวสว่างจ้าแผ่ออกไปทั่วทิศ,กระบี่ที่สั่นอย่างรุนแรง,จนมิติอากาศบิดเบี้ยว,กระบี่เซียนเซียนกำลังคลั่ง?กระบี่เซียนเซียนกำลังจะจากไปอย่างงั้นรึ?
ปราณกระบี่มากมายที่ผุดออกมาจากอากาศ.
ปราณกระบี่ขนาดใหญ่ที่โจมตีไปยังเย่ชิงเฉิง,ราวกับว่ามันต้องการให้เย่ชิงเฉิงปล่อยมันไป,ทว่าเย่ชิงเฉิงจะยอมปล่อยมันไปอย่างงั้นรึ?
เย่ชิงเฉิงที่รู้สึกว่า,ตราบเท่าที่เขาปล่อยมือ,กระบี่เซียนเซียนจะต้องหายไปในอากาศ,ซึ่งมันกำลังจะหนีไปจากเขา.
ไร้ซึ่งเหตุผล,หมายความว่าอย่างไร?
กระบี่เซียนเซียนนั้นทรงพลังเป็นอย่างมาก,ดิ้นรนอย่างบ้าคลั่ง,เย่ชิงเฉิงที่กุมด้ามกระบี่เอาไว้แน่น,อย่างไรก็ตามพลังของกระบี่เซียนเซียนนั้นทรงพลังเกินกว่าที่เขาจะคาดคิด,หากแต่เขาจะย่อมปล่อยให้กระบี่เซียนเซียนหลุดมือไปได้อย่างงั้นรึ?
จะปล่อยให้บินหนีไปได้อย่างไร? ทันใดนั้น,เย่ชิงเฉิงที่คิดถึงคำพูดสุดท้ายของเต๋าจวินเซิ่งหย๋า.
"กระบี่เซียนเซียนข้าจะมอบให้เจ้าดูแล,และนี่คือโอกาสสุดท้ายที่ข้ามอบให้เจ้า,หากทำให้กระบี่เซียนเซียนสูญหายไปอีกล่ะก็,อย่ามาให้ข้าเห็นหน้าอีก!"เสียงที่เย็นชาและเคร่งขรึมของเต๋าจวินเซิ่งหย๋าเขายังจำได้ดี.
เมื่อคิดได้ดังนั้น,เย่ชิงเฉิงที่ตัดสินใจที่จะใช้พลังทั้งหมดที่มี.
"อำนาจแดนเทพอมตะ!"เย่ชิงเฉิงที่คำรามออกมาเสียงดัง.
บนแดนเทพอมตะ,บนท้องฟ้าที่มีกรรมวาสนามากมาย,ส่องประกายแสงสีทองเหลืองอร่าม,แสงสีทองอร่วมที่พุ่งตรงมายังร่างของเย่ชิงเฉิง,ร่างของเย่ชิงเฉิงที่เปล่งประกายแสงสีทองออกมาทันที,ทั่วทั้งหุบเขาที่เขาอยู่เองต่างก็ส่งประกายแสงสีทองสว่างจ้า.
เหล่าผู้ฝึกตนแดนเทพอมตะที่พุ่งเข้ามาหา,ด้วยคิดว่าศัตรูที่ทรงพลังกำลังบุกรุกหรือไม่?
ขณะที่พวกเขาบินเข้ามาใกล้,ก็พบว่าเป็นเย่ชิงเฉิงที่กำลังต่อสู้ปลุกปล้ำกับกระบี่เซียนเซียนอยู่.
รองประมุขและกระบี่เซียนเซียนต่อสู้กันอย่างงั้นรึ?
แทบจะในทันทีที่ทุกคนได้เห็นที่เต็มไปด้วยความงงงวย.
"ไม่มีใครสามารถชิงเจ้าไปได้!"เย่ชิงเฉิงได้ใช้อำนาจกรรมวาสนาของแดนเทพอมตะในการกำราบกระบี่เซียนเซียนนั่นเอง.
แม้ว่าเย่ชิงเฉิงไม่สามารถเคลื่อนย้ายกรรมวาสนาทั้งหมดเช่นเต๋าจวินเซิ่งหย๋า,ทว่าเขาที่เป็นรองประมุข,แน่นอนว่าย่อมต้องเคลื่อนกรรมวาสนาได้บางส่วน.
ภายใต้พลังที่ดึงพลังมาจากแดนเทพอมตะส่วนหนึ่ง,ท้ายที่สุดเย่ชิงเฉิงก็สามารถกำราบกระบี่เซียนเซียนได้,กระบี่เซียนต้องการจากไปอย่างงั้นรึ?ไม่มีทาง.
กระบี่เซียนเซียนไม่สามารถจากไปได้,มันกำลังสั่นไปมาอย่างหนักหน่วงรุนแรง,เผยท่าทางโศกเศร้าและโกรธเกรี้ยวไปพร้อมๆกัน,ทว่าก็ไม่สามารถกระทำอะไรได้.
เย่ชิงเฉิงที่จ้องมองไปยังกระบี่เซียนเซียน,แม้ว่าจะรู้สึกแปลกประหลาดกับกระบี่เซียนเซียน,ทว่าเขาจะไม่ทางปล่อยกระบี่เซียนเซียนให้หลุดมือไปอย่างแน่นอน,แน่นอนว่าต้องไม่ใช่ในกำมือของเขา.
เมื่อกำราบกระบี่เซียนเซียนได้แล้ว,เย่ชิงเฉิงก็ต้องมองผู้ฝึกตนที่เข้ามารายล้อมเป็นจำนวนมาก.
"กลับกันไปได้แล้ว,เหลือเจ้าอยู่ก่อน!"เย่ชิงเฉิงที่สั่งให้ทุกคนถอยกลับ,พร้อมกับชี้ไปยังชายคนหนึ่ง.
"ครับ!"ทุกคนที่ถอยกลับไป,เหลือคนเดียงคนเดียว.
"ข้าต้องการถามเจ้า,ผู้ก่อตั้งกลับมาหรือยัง?"เย่ชิงเฉิงที่สอบถามชายคนดังกล่าวออกมา.
"ข้าได้เฝ้าที่หน้าประตูแดนเทพอมตะ,แม้นว่าจะเข้ามาก่อนหน้านี้,แต่ก็ปล่อยคนเฝ้าประตูเอาไว้,หากแต่ผู้ก่อตั้งก็ยังไม่กลับมา!"ชายคนดังกล่าวส่ายหน้าไปมา.
"อืม,เจ้าไปได้แล้ว!"เย่ชิงเฉิงกล่าว.
"ครับ!"
จวบจนทุกคนจากไปแล้ว,เย่ชิงเฉิงที่จดจ้องมองไปยังกระบี่เซียนเซียนและกล่าวออกมาเสียงดัง.
"กระบี่เซียนเซียนหมายความว่าอย่างไร?
เจ้าต้องให้ผู้ก่อตั้งเอ่ยปากก่อนถึงจะไปได้,ช่างน่าเสียดายที่ผู้ก่อตั้งยังไม่กลับมา,แล้วเจ้าต้องการจะไปใหนกัน?"เย่ชิงเฉิงที่ขมวดคิ้วไปมา.
กระบี่เซียนเซียนที่ยังคงร้องออกมาด้วยความโศกเศร้าสั่นไปมา?
เหมือนกับกระบี่จูเซียนก่อนหน้านี้,มันสัมผัสได้ถึงการเปิดออกมาของโลงศพสีม่วงที่สวนสวรรค์ลอยฟ้าหลิงเซียน,ดังนั้นมันจึงพุ่งตรงไปยังสถานที่ดังกล่าว,ทว่าทำไมโลงศพสีม่วงถึงได้ไปอยู่ที่สวนสวรรค์ลอยฟ้าหลิงเซียว?
เย่ชิงเฉิงที่ยังคงปกป้องแดนเทพอมตะ,เป็นไปได้อย่างงั้นรึ?
ที่จะมีคนรุกเข้ามาในแดนเทพอมตะเพื่อแย่งชิงมันไปรึ?
หากเย่ชิงเฉิงรับรู้ว่ามีโจรสามคนลอบเข้ามา,เขาคงจะไม่ยอมปล่อยให้โลงศพสีม่วงหายไปอย่างแน่นอน.
เย่ชิงเฉิงต้องการสอบถามเรื่องที่เกิดขึ้นกับกงเชียน,ไม่รู้ว่าหากกงเชียนรู้เรื่องที่เกิดขึ้นนี้,เย่ชิงเฉิงจะรู้สึกเช่นไร.
ราชวงศ์สวรรค์ต้าเจิ้ง,สวนสวรรค์ลอยฟ้า,ฟ้าดินที่กำลังร่ำไห้,สวรรค์หลั่งน้ำตาทำให้ฝนตกไปทั่วแผ่นดิน.
ร่างแยกเงาที่นำเหล่าข้าราชบริพารกลุ่มหนึ่งมาเปิดโลงศพสีม่วงที่ลานแห่งหนึ่ง,ทำให้กลิ่นอายทีเศร้าสลดปะทุขึ้น.
ทุกคนที่นั่งลงขัดสมาธิ,ทำให้จิตใจมั่นคงทันที,ตอนนี้มีเพียงแค่จงซานและหวังคูที่สามารถมองดูได้นานที่สุด.
ในเวลาเดียวกัน,ร่างแยกเงาจงซานที่ดวงตาหดเกร็ง,เขาที่เงยหน้าจ้องมองไปยังทิศเหนือ.
"เซียนเซิงซือ,ปิดฝาโลง,และตอกตะปูคืนเช่นเดิม!"จงซานที่หันหน้าเอ่ยกับเซียนเซิงซือ.
เซียนเซิงซือเองก็เหนือล้าทั้งกายและใจ,ตั้งแต่เปิดโลงศพสีม่วงออกมา,จากนั้นขณะที่ปิดฝาของโลงศพ,จากขอบฟ้าไกล,ประกายแสงสีม่วงที่พุ่งล่วงหล่นลงมาจากเมฆในทันที.
ค่ายกลหนานกงเซิ่งที่เปิดใช้งานอัตโนมัติในทันที.
"ตูมมมมมมมมมมมม!"
แสงสีม่วงที่กระแทกค่ายกลเสียงดังสนั่น,มันกำลังพุ่งตรงลงมายังลานที่จงซานอยู่.
Chapter 792 Excutes the immortal goal
诛仙目的
เป้าหมายของจูเซียน.
เต๋าจวินเซิ่งหย๋าที่จับจ้องมองจงซานด้วยความโกรธเกรี้ยวอย่างลึกล้ำ,ทว่าเต๋าจวินเซิ่งหย๋านั้นเป็นคืนยืดได้หดได้,ครั้งนี้แม้แม้นว่าเขาต้องการจะสังหารจงซานให้ได้,ทว่ากระบี่จูเซียนหายไป,ผลชนะหรือแพ้เวลานี้จึงเปลี่ยนไปแล้ว.
"ใช้เวลานานเกินไปแล้ว,ยังไม่ถึงเวลาสังหารจงซาน,ถอยก่อน!"เต๋าจวินเซิ่งหย๋าที่กล่าวด้วยท่าทางไม่พอใจเป็นอย่างมาก.
กงเหล่ยเทียนจ้องมองจงซานด้วยท่าทางแววตาอย่างช่วยไม่ได้,ก่อนที่จะบินไปพร้อมกับเต๋าจวินเซิ่งหย๋า.
เต๋าจวินเซิ่งหย๋าที่ต่อสู้กับตี้เสวียนชา,มีเพียงแค่เต๋าจวินเซิ่งหย๋าเท่านั้นที่รับรู้ว่าตี้เสวียนชาแข็งแกร่งขนาดใหน,กับสถานการณ์จนถึงตอนนี้นี้,กงเหล่ยเทียนก็ยังไม่สามารถสังหารจงซานได้อย่างงั้นรึ?,ส่วนฮามะไล,เองก็ไม่ต่างจากสวะที่ไร้ประโยชน์.
เต๋าจวินเซิ่งหย๋าไม่รู้ว่าจงซานนั้นแข็งแกร่งเท่าใด,ดังนั้นเวลานี้เมื่อกงเหล่ยเทียนไม่สามารถสังหารจงซานได้ก็รู้สึกไม่พอใจเช่นกัน,ส่วนกงเหล่ยเทียนเองก็เช่นกันรู้สึกไม่พอใจกับเต๋าจวินเซิ่งหย๋า,ไม่ใช่ว่าเจ้ามีระดับสิบสองสวรรค์แท้หรอกรึ?
หนำซ้ำยังมีมีดบินสังหารเซียนอีก?
ผ่านไปตั้งนาน,เจ้ากำลังเล่นสนุกกับตี้เสวียนชาอยู่รึไง?
เห็นคนทั้งสองที่จากไปด้วยใบหน้าไม่พอใจกันและกัน,แต่ด้วยความสามารถของจงซานและตี้เสวียนชาเวลานี้,การจะขวางพวกเขาก็ไม่มีทางสำเร็จ.
ส่วนฮามะไลที่นั่งอยู่บนพื้น,พวกเขาดูเหมือนว่าจะไม่สนใจช่วยเลยแม้แต่น้อย.
"เอาล่ะ,ไม่จำเป็นต้องไล่ตาม!"จงซานที่ส่ายหน้าไปมา.
วิชากายาเทพอสูรนั้นยังคงอยู่ได้อีกไม่นาน.หากว่าเริ่มต่อสู้อีกครั้ง,จะชนะหรือว่าแพ้ก็ยากจะคาดเดา.
ตี้เสวียนชาที่พยักหน้ารับ,จดจ้องมองไปยังฮามะไลที่นอนกองอยู่บนพื้น.
เห็นฮามะไลแล้ว,พวกเขาเองก็รู้สึกรังเกียจ,ไม่มีใครเห็นฮามะไลอยู่ในสายตาตลอดหลายปีมานี้,เขาในเวลานี้กลายเป็นขยะเปียกโดยสมบูรณ์.
การต่อสู้ของเขาในช่วงหลังๆมานี้,ไม่แม้แต่กล้าเข้าไปปะทะ,ขวาดเขลา,หากไม่มีจิตกระบี่จูเซียนสิงร่าง,ก็ไร้ซึ่งประโยชน์ใดๆ.
ไม่สงสัยเลยว่าเต๋าจวินเซิ่งหย๋าและกงเหล่ยเทียนจะจากไป,โดยไม่สนใจเขาแม้แต่น้อย.
"ข้าจะสังหารมันซะ!"ตี้เสวียนชาจ้องมองอย่างไม่แยแสไปยังฮามะไล.
"ช้าก่อน!
ให้มันมีชีวิตอยู่!"จงซานที่ส่ายหน้าไปมา.
"ขยะไร้ประโยชน์,ปล่อยไว้ยังจะใช้ประโยชน์อะไรได้?"ตี้เสวียนชาที่ขมวดคิ้วไปมา.
"ยังมีวิธีใช้,แม้แต่ขยะเปียก,ยังใช้เป็นปุ๋ยได้,เกี่ยวกับวิธีใช้เขา,ก็ย่อมต้องมีวิธีเช่นกัน."จงซานที่เผยยิ้มออกมาเล็กน้อย.
นับเป็นครั้งแรกที่เขาต้องต่อสู้กับกงเหล่ยเทียนอย่างจริงจัง,และยังกุมความได้เปรียบอย่างเบ็ดเสร็จ,ทำให้จงซานอารมณ์ดีเป็นอย่างมาก,หลังจากวันนี้,กงเหล่ยเทียนจะไม่ได้เป็นฝันร้ายของเขาอีกต่อไปแล้ว,การจะจัดการกงเหล่ยเทียนในเวลานี้ก็ขึ้นอยู่กับเวลาแล้ว,ความเจ็บช้ำที่กงเหล่ยเทียนปะทับอยู่ในใจของเขา,เวลานี้มันค่อยๆฟื้นคืนกลับมา,บาดแผลที่เคยเจ็บหนัก,เวลานี้ไม่ได้มีอิทธิพลอะไรกับจงซานอีกต่อไปแล้ว.
ขยะเปียก? ใช้เป็นปุ๋ยอย่างงั้นรึ?
ตี้เสวียนชาที่ได้ยินคำพูดดังกล่าว,ก็จดจ้องมองฮามะไลด้วยท่าทางแปลกประหลาด.
"ตกลง,ไม่ว่าจะเป็นขยะเปียกหรือปุ๋ย,ให้เจ้าจัดการก็แล้วกัน!"ตี้เสวียนชาที่กล่าวออกมา.
เมื่อเก็บแปดหางสวรรค์แห่งจุดจบ,พร้อมกับผนึกฮามะไล,ตี้เสวียนชาและจงซานก็เดินทางกลับสวนสวรรค์ลอยฟ้าหลิงเซียว.
"ทำไมกระบี่จูเซียนถึงจากไปทันทีทันใดล่ะ?ความจริงเกิดอะไรขึ้น?ที่สวนสวรรค์ลอยฟ้าหลิงเซียนอย่างงั้นรึ?"ตี้เสวียนชาที่ขมวดคิ้วกล่าวสอบถามออกมา.
"ที่สวนสวรรค์ลอยฟ้า,ไม่จำเป็นต้องกังวลเกี่ยวกับกงเชียนแล้ว,เขาได้ถอยกลับไปเมื่อหลายวันก่อนหน้านี้แล้ว!"ใบหน้าของจงซานที่ซับซ้อนเต็มไปด้วยความโศกเศร้า.
"หืม?
กงเชียนถอยกลับไปแล้ว,ทำไมเจ้าถึงต้องทำหน้าเศร้าเช่นนั้น!"ตี้เสวียนชาที่กล่าวสอบถามด้วยความสงสัย.
"นั่นเพราะว่า,บุตรชายที่แสนดีของข้าได้ตายไปเพราะเขายังไงล่ะ!"แววตาของจงซานที่เผยจิตสังหารแผ่ออกมาด้วย.
"หืม?"ตี้เสวียนชาที่ขมวดคิ้วไปมา.
"จงเสวียน............!"
จงซานที่ได้บอกกล่าวเรื่องราวทั้งหมดให้กับตี้เสวียนชาได้ฟัง,ไม่มีความจำเป็นใดที่ต้องปิดบังตี้เสวียนชา.
"กงเชียน?"
ตี้เสวียนชาที่ได้ยินถึงความแข็งแกร่งของกงเชียน,ทำให้เขาสูดหายใจลึกทีเดียว,กงเชียนผิดปรกติเกินไปแล้ว.
"ไม่มีปัญหา,พวกเราได้กุมจุดอ่อนของกงเชียนเอาไว้แล้ว!"จงซานที่เผยยิ้มออกมาในทันที.
"หืม??
เป็นกลุ่มของหวังคูที่เดินทางไปก่อนหน้านี้นะรึ?"ตี้เสวียนชาที่สอบถามออกมา.
"ใช่แล้ว,ในเวลานี้พวกเขาได้กลับมาแล้ว,ได้นำโลงศพขนาดใหญ่กลับมาด้วย,โลงศพที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายแห่งความโศกเศร้า,ตอนนี้ข้าได้เปิดโลงศพออกมาแล้ว,ทว่าเพียงแค่เปิดก็ทำให้ผืนฟ้าและปฐพีกำสรวล,สวรรค์ร้องไห้ออกมาเป็นสายฝน,ความเศร้าที่มากมายที่ปะทุออกมนั้นไม่ใช่ธรรมดาเลยแม้แต่น้อย!"จงซานที่กล่าวตอบต่อตี้เสวียนชา.
"โลงศพ?
เป็นใครอยู่ด้านในกัน?"ตี้เสวียนชาที่เต็มไปด้วยความสงสัย.
"ไม่สามารถเห็นได้,ไม่,สามารถเห็นได้ชัดเจน,แต่ไม่สามารถจดจำได้ต่างหาก,ไม่เลยแม้แต่นิดเดียว,ถึงจะใช้หยกบันทึกแล้ว,แต่ก็ไม่สามารถบันทึกภาพได้,เป็นศพที่แปลกประหลาด!"จงซานที่สูดหายใจลึก.
"เป็นศพที่แปลกประหลาดขนาดนั้นเลยรึ?"ตี้เสวียนชาที่ขมวดคิ้วไปมา.
ทว่าขณะเดียวกันดวงตาของจงซานก็หดเกร็ง,ใบหน้าที่เปลี่ยนไปในทันที.
"มีอะไรอย่างงั้นรึ?"ตี้เสวียนชาที่สอบถามออกมาด้วยความสงสัย.
"ข้ารู้,ข้ารู้แล้ว....!"จงซานที่กลืนน้ำลายคำโต.
"รู้เรื่องอะไร?"
"ข้ารู้ว่ากระบี่จูเซียนนั้นไปที่ใหน,ข้ารู้ว่าทำไมจูเซียนถึงได้จากไปในทันที,หนำซ้ำยังไม่สนใจคำพูดของเต๋าจวินเซิ่งหย๋าแม้แต่น้อย,ท้ายที่สุดข้าก็เข้าใจแล้ว!"แววตาของจงซานที่เผยท่าทางประหลาดใจเป็นอย่างมาก.
"ไปที่ใหนอย่างงั้นรึ?"
"สวนสวรรค์ลอยฟ้าหลิงเซียน,กระบี่จูเซียนจะต้องไปยังสวนสวรรค์ลอยฟ้าหลิงเซียวอย่างแน่นอน!"ดวงตาของจงซานที่เต็มไปด้วยความมั่นใจ.
แดนเทพอมตะ,เย่ชิงเฉิงที่นั่งบำเพ็ญอยู่ใช้ทะเลสาบขนาดเล็กแห่งหนึ่ง,ผิวน้ำที่เงียบสงบไร้คลื่น,กระบี่เซียนเซียนที่ถูกวางไว้บนตักของเขา.
ใบหน้าของเย่ชิงเฉิงที่สงบเงียบ,เขาที่กำลังสัมผัสถึงวิถีกระบี่,ในเวลาเดียวกันก็ศึกษาความลึกล้ำของกระบี่เซียนเซียนไปด้วย.
ทันใดนั้น,กระบี่เซียนเซียนก็ปรากฏปราณสีเขียวมรกตปกคลุม,สั่นไปมาในทันที,ทันใดนั้นก็สะบัดหลุดจากการควบคุมของเย่ชิงเฉิง.
"ปัง!"
น้ำในทะเลสาบที่พุ่งขึ้นบนฟ้า,กระบี่เซียนเซียนเองก็เช่นกัน.
กระบี่เซียนเซียนที่บินหนีไป,ใบหน้าของเย่ชิงเฉิงถึงกับเปลี่ยนเป็นซับซ้อน.
ไร้ซึ่งลังเล,เย่ชิงเฉิงที่พุ่งเข้าจับด้ามกระบี่เซียนเซียนเอาไว้.
กระบี่เซียนเซียนที่ปลดปล่อยแสงสีเขียวสว่างจ้าแผ่ออกไปทั่วทิศ,กระบี่ที่สั่นอย่างรุนแรง,จนมิติอากาศบิดเบี้ยว,กระบี่เซียนเซียนกำลังคลั่ง?กระบี่เซียนเซียนกำลังจะจากไปอย่างงั้นรึ?
ปราณกระบี่มากมายที่ผุดออกมาจากอากาศ.
ปราณกระบี่ขนาดใหญ่ที่โจมตีไปยังเย่ชิงเฉิง,ราวกับว่ามันต้องการให้เย่ชิงเฉิงปล่อยมันไป,ทว่าเย่ชิงเฉิงจะยอมปล่อยมันไปอย่างงั้นรึ?
เย่ชิงเฉิงที่รู้สึกว่า,ตราบเท่าที่เขาปล่อยมือ,กระบี่เซียนเซียนจะต้องหายไปในอากาศ,ซึ่งมันกำลังจะหนีไปจากเขา.
ไร้ซึ่งเหตุผล,หมายความว่าอย่างไร?
กระบี่เซียนเซียนนั้นทรงพลังเป็นอย่างมาก,ดิ้นรนอย่างบ้าคลั่ง,เย่ชิงเฉิงที่กุมด้ามกระบี่เอาไว้แน่น,อย่างไรก็ตามพลังของกระบี่เซียนเซียนนั้นทรงพลังเกินกว่าที่เขาจะคาดคิด,หากแต่เขาจะย่อมปล่อยให้กระบี่เซียนเซียนหลุดมือไปได้อย่างงั้นรึ?
จะปล่อยให้บินหนีไปได้อย่างไร? ทันใดนั้น,เย่ชิงเฉิงที่คิดถึงคำพูดสุดท้ายของเต๋าจวินเซิ่งหย๋า.
"กระบี่เซียนเซียนข้าจะมอบให้เจ้าดูแล,และนี่คือโอกาสสุดท้ายที่ข้ามอบให้เจ้า,หากทำให้กระบี่เซียนเซียนสูญหายไปอีกล่ะก็,อย่ามาให้ข้าเห็นหน้าอีก!"เสียงที่เย็นชาและเคร่งขรึมของเต๋าจวินเซิ่งหย๋าเขายังจำได้ดี.
เมื่อคิดได้ดังนั้น,เย่ชิงเฉิงที่ตัดสินใจที่จะใช้พลังทั้งหมดที่มี.
"อำนาจแดนเทพอมตะ!"เย่ชิงเฉิงที่คำรามออกมาเสียงดัง.
บนแดนเทพอมตะ,บนท้องฟ้าที่มีกรรมวาสนามากมาย,ส่องประกายแสงสีทองเหลืองอร่าม,แสงสีทองอร่วมที่พุ่งตรงมายังร่างของเย่ชิงเฉิง,ร่างของเย่ชิงเฉิงที่เปล่งประกายแสงสีทองออกมาทันที,ทั่วทั้งหุบเขาที่เขาอยู่เองต่างก็ส่งประกายแสงสีทองสว่างจ้า.
เหล่าผู้ฝึกตนแดนเทพอมตะที่พุ่งเข้ามาหา,ด้วยคิดว่าศัตรูที่ทรงพลังกำลังบุกรุกหรือไม่?
ขณะที่พวกเขาบินเข้ามาใกล้,ก็พบว่าเป็นเย่ชิงเฉิงที่กำลังต่อสู้ปลุกปล้ำกับกระบี่เซียนเซียนอยู่.
รองประมุขและกระบี่เซียนเซียนต่อสู้กันอย่างงั้นรึ?
แทบจะในทันทีที่ทุกคนได้เห็นที่เต็มไปด้วยความงงงวย.
"ไม่มีใครสามารถชิงเจ้าไปได้!"เย่ชิงเฉิงได้ใช้อำนาจกรรมวาสนาของแดนเทพอมตะในการกำราบกระบี่เซียนเซียนนั่นเอง.
แม้ว่าเย่ชิงเฉิงไม่สามารถเคลื่อนย้ายกรรมวาสนาทั้งหมดเช่นเต๋าจวินเซิ่งหย๋า,ทว่าเขาที่เป็นรองประมุข,แน่นอนว่าย่อมต้องเคลื่อนกรรมวาสนาได้บางส่วน.
ภายใต้พลังที่ดึงพลังมาจากแดนเทพอมตะส่วนหนึ่ง,ท้ายที่สุดเย่ชิงเฉิงก็สามารถกำราบกระบี่เซียนเซียนได้,กระบี่เซียนต้องการจากไปอย่างงั้นรึ?ไม่มีทาง.
กระบี่เซียนเซียนไม่สามารถจากไปได้,มันกำลังสั่นไปมาอย่างหนักหน่วงรุนแรง,เผยท่าทางโศกเศร้าและโกรธเกรี้ยวไปพร้อมๆกัน,ทว่าก็ไม่สามารถกระทำอะไรได้.
เย่ชิงเฉิงที่จ้องมองไปยังกระบี่เซียนเซียน,แม้ว่าจะรู้สึกแปลกประหลาดกับกระบี่เซียนเซียน,ทว่าเขาจะไม่ทางปล่อยกระบี่เซียนเซียนให้หลุดมือไปอย่างแน่นอน,แน่นอนว่าต้องไม่ใช่ในกำมือของเขา.
เมื่อกำราบกระบี่เซียนเซียนได้แล้ว,เย่ชิงเฉิงก็ต้องมองผู้ฝึกตนที่เข้ามารายล้อมเป็นจำนวนมาก.
"กลับกันไปได้แล้ว,เหลือเจ้าอยู่ก่อน!"เย่ชิงเฉิงที่สั่งให้ทุกคนถอยกลับ,พร้อมกับชี้ไปยังชายคนหนึ่ง.
"ครับ!"ทุกคนที่ถอยกลับไป,เหลือคนเดียงคนเดียว.
"ข้าต้องการถามเจ้า,ผู้ก่อตั้งกลับมาหรือยัง?"เย่ชิงเฉิงที่สอบถามชายคนดังกล่าวออกมา.
"ข้าได้เฝ้าที่หน้าประตูแดนเทพอมตะ,แม้นว่าจะเข้ามาก่อนหน้านี้,แต่ก็ปล่อยคนเฝ้าประตูเอาไว้,หากแต่ผู้ก่อตั้งก็ยังไม่กลับมา!"ชายคนดังกล่าวส่ายหน้าไปมา.
"อืม,เจ้าไปได้แล้ว!"เย่ชิงเฉิงกล่าว.
"ครับ!"
จวบจนทุกคนจากไปแล้ว,เย่ชิงเฉิงที่จดจ้องมองไปยังกระบี่เซียนเซียนและกล่าวออกมาเสียงดัง.
"กระบี่เซียนเซียนหมายความว่าอย่างไร?
เจ้าต้องให้ผู้ก่อตั้งเอ่ยปากก่อนถึงจะไปได้,ช่างน่าเสียดายที่ผู้ก่อตั้งยังไม่กลับมา,แล้วเจ้าต้องการจะไปใหนกัน?"เย่ชิงเฉิงที่ขมวดคิ้วไปมา.
กระบี่เซียนเซียนที่ยังคงร้องออกมาด้วยความโศกเศร้าสั่นไปมา?
เหมือนกับกระบี่จูเซียนก่อนหน้านี้,มันสัมผัสได้ถึงการเปิดออกมาของโลงศพสีม่วงที่สวนสวรรค์ลอยฟ้าหลิงเซียน,ดังนั้นมันจึงพุ่งตรงไปยังสถานที่ดังกล่าว,ทว่าทำไมโลงศพสีม่วงถึงได้ไปอยู่ที่สวนสวรรค์ลอยฟ้าหลิงเซียว?
เย่ชิงเฉิงที่ยังคงปกป้องแดนเทพอมตะ,เป็นไปได้อย่างงั้นรึ?
ที่จะมีคนรุกเข้ามาในแดนเทพอมตะเพื่อแย่งชิงมันไปรึ?
หากเย่ชิงเฉิงรับรู้ว่ามีโจรสามคนลอบเข้ามา,เขาคงจะไม่ยอมปล่อยให้โลงศพสีม่วงหายไปอย่างแน่นอน.
เย่ชิงเฉิงต้องการสอบถามเรื่องที่เกิดขึ้นกับกงเชียน,ไม่รู้ว่าหากกงเชียนรู้เรื่องที่เกิดขึ้นนี้,เย่ชิงเฉิงจะรู้สึกเช่นไร.
ราชวงศ์สวรรค์ต้าเจิ้ง,สวนสวรรค์ลอยฟ้า,ฟ้าดินที่กำลังร่ำไห้,สวรรค์หลั่งน้ำตาทำให้ฝนตกไปทั่วแผ่นดิน.
ร่างแยกเงาที่นำเหล่าข้าราชบริพารกลุ่มหนึ่งมาเปิดโลงศพสีม่วงที่ลานแห่งหนึ่ง,ทำให้กลิ่นอายทีเศร้าสลดปะทุขึ้น.
ทุกคนที่นั่งลงขัดสมาธิ,ทำให้จิตใจมั่นคงทันที,ตอนนี้มีเพียงแค่จงซานและหวังคูที่สามารถมองดูได้นานที่สุด.
ในเวลาเดียวกัน,ร่างแยกเงาจงซานที่ดวงตาหดเกร็ง,เขาที่เงยหน้าจ้องมองไปยังทิศเหนือ.
"เซียนเซิงซือ,ปิดฝาโลง,และตอกตะปูคืนเช่นเดิม!"จงซานที่หันหน้าเอ่ยกับเซียนเซิงซือ.
เซียนเซิงซือเองก็เหนือล้าทั้งกายและใจ,ตั้งแต่เปิดโลงศพสีม่วงออกมา,จากนั้นขณะที่ปิดฝาของโลงศพ,จากขอบฟ้าไกล,ประกายแสงสีม่วงที่พุ่งล่วงหล่นลงมาจากเมฆในทันที.
ค่ายกลหนานกงเซิ่งที่เปิดใช้งานอัตโนมัติในทันที.
"ตูมมมมมมมมมมมม!"
แสงสีม่วงที่กระแทกค่ายกลเสียงดังสนั่น,มันกำลังพุ่งตรงลงมายังลานที่จงซานอยู่.
ที่มาจากhttps://lnmtl.com/novel/immortality
#นิยาย เรื่องอมตะ #Immortality#นิยายแปลไทย
Author(s)
สนใจสนับสนุนพวกเรา,เข้าร่วมกลุ่ม VIP ====> Click
ปัจจุบันแปลจบแล้ว 1672 ตอน สนใจติดต่อเข้ากลุ่มลับได้ครับ
***เว็ปฟรีอัพ สองวันหนึ่งตอน
***กลุ่มลับ แปลจบแล้ว.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น