Immortality Chapter 789 Being mentally and physically exhausted
นิยาย เรื่อง อมตะ ตอนที่ 789 เหนื่อยล้าทั้งใจและกาย.
Chapter 789 Being mentally and physically exhausted
心力交瘁
เหนื่อยล้าทั้งใจและกาย.
โลงศพขนาดใหญ่ที่อยู่ด้านหน้าจงซานเวลานี้,มันได้แผ่กลิ่นอายที่เงียบสงบไปจนถึงความรู้สึกอ้างว้างไร้ที่สิ้นสุด.
ความรู้สึกนี้,แม้นว่าจะแผ่ออกมาเพียงเล็กน้อย,ทว่าทุกคนที่จับจ้องก็รู้สึกโศกเศร้าขึ้นมาบางๆ,ความเหงาอ้างว้าง,ที่ทำให้ทุกคนสับสน.
เป็นความเศร้าที่ไม่สามารถขัดขืนได้?
สายตาของทุกคนที่จ้องมองโลงศพสีม่วงด้วยท่าทางจริงจัง!
"จงซานมันคืออะไรอย่างงั้นรึ?
ทำไมมันถึงทำให้ข้า ต้องอยากร้องไห้ด้วยล่ะ?"เทียนหลิงเอ๋อที่กุมแขนเสื้อของจงซาน,ใบหน้าที่เต็มไปด้วยความสงสัย.
"ใครที่อยู่ในโลงศพนี้กัน?"กู่เฉียนโหยวที่สูดหายใจลึกระงับความเศร้าเอาไว้.
เป็นใครกัน?
คิดถึงสถานะของกงเชียนแล้ว,ภายในใจของทุกคนที่รัดตรึง,สิ่งนี้คือสิ่งที่กงเชียนให้ความสำคัญ,จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อมันมาอยู่ที่นี่?
"หนี่ปู่ซา,พวกเจ้าเข้าไปในแดนเทพอมตะได้อย่างไร?"จงซานสอบถาม.
"พวกเราได้ใช้วิชาลับสวรรค์ลี้ลับ,พลางตัวเข้าไป,ไม่มีใครพบพวกเราเลย,กงเชียนเองคงจะมั่นใจจนเกินไป,รอบๆโลงศพม่วงนี้จึงไม่มีค่ายกลใดๆวางอยู่เลย."หนี่ปู่ซาตอบ.
"ฝ่าบาท,สิ่งที่อยู่ด้านในนี้คืออะไรกัน?"หวังคูที่กล่าวเสียงสั่นเช่นกัน.
ทุกคนที่อยู่ที่นี่,ภายในใจของพวกเขาที่หนักอึ้ง,จนไม่กล้าที่จะคาดเอาสิ่งของที่อยู่ด้านใน.
นี่คืออะไร?เพราะว่าทุกคนต่างรู้สึกได้ว่า,หากว่าเรื่องนี้ถูกส่งออกมา,ไม่ใช่แค่กงเชียนเท่านั้นแน่ที่ต้องการ,บางทีคนจากโลกใบใหญ่เองคงจะต้องการเข้าร่วมแย่งชิงด้วยแน่,หากเรื่องนี้แผ่ออกไปจะต้องเกิดเรื่องใหญ่แน่ๆ.
"ไม่ว่าจะคาดเดาอย่างไร,ก็ไม่สามารถบอกได้จริง,ยังไงซะการเปิดออกน่าจะชัดเจนที่สุด!"จงซานที่กล่าวพลางกลืนน้ำลายลงคอ.
"อืม!"ทุกคนทีพยักหน้ารับ.
"เปิดได้หรือไม่?"จงซานที่จ้องมองไปยังเซียนเซิงซือ.
"ครับ!"เซียนเซิงซือพยักหน้า.
"งั้นก็เปิดโลงศพ!"จงซานที่กล่าวอย่างเคร่งขรึม.
"รับทราบ!"
ทุกคนที่เปลี่ยนเป็นเงียบจดจ้องมองไปยังเซียนเซิงซือ.
เซียนเซิงซือที่มีความเชี่ยวชาญเกี่ยวกับศพ,เวลาได้ก้าวเข้าไปด้านหน้า,ก่อนที่จะสะบัดมือไปยังตะปูผนึกโลงศพ.
โลงศพทั่วไป,โดยทั่วไปจะมีตะปูเจ็ดตัว,ทว่าโลงศพสีม่วงนี้มีถึงสิบตัว,ไม่รู้ว่ามีความหมายใดหรือไม่?
เซียนเซิงซือที่ถอนตะปูดอกแรก.
ตะปูที่ปักลงไปนั้นดูจะไม่ได้พิเศษอะไรมากนัก,ทุกๆดอกที่เขาถอนออกมา,จะทำให้ความเศร้าใจเพิ่มขึ้นทุก
10 เปอร์เซ็น,ตัวแล้วตัวเล่าที่ถอนออกมาจากโลกศพ,ทำให้หัวใจของทุกคนบีบรัด.
ดอกที่เก้า.
เหลือดอกที่สิบ,เซียนเซิงซือที่หันหน้าจับจ้องมองไปยังจงซาน.
ในเวลานี้หัวใจของเทียนหลิงเอ๋อที่หนักอึ้งถึงกับกุมแขนของจงซานเอาไว้แน่น,บางที่คงมีแค่เพียงกุมแขนของจงซานเอาไว้ถึงจะทำให้นางรู้สึกดีขึ้นได้.
จงซานที่พยักหน้าให้กับเซียนเซิงซือ.
จากนั้นเซียนเซิงซือที่ค่อยๆเปิดมันออกช้าๆ.
ขณะที่ถอนตะปูดอกสุดท้ายออกมา,ท้องฟ้าทั่วสวนสวรรค์ลอยฟ้าหลิงเซียว,ทันใดนั้นก็กลายเป็นมืดคลึ้ม,ปิดบังท้องฟ้าในทันที,เสียงดังหึ่งๆ
เสียงกำสรวลของท้องฟ้า,ดวงตะวันที่อับแสง,ทันใดนั้นก็กลายเป็นมืดมิด,บนท้องฟ้า,ลมหนาวที่โบกพัดเอื่อยๆ.
”~~!”
”~~!”
เสียงบรรเลงดนตรีอาลัยดังผ่านออกมา,เสียงดนตรีที่เต็มไปด้วยความเศร้า,ความหดหู่ใจที่เกิดจากการคร่ำครวญของฟ้าดิน.
ทั่วทั้งสวนสวรรค์ลอยฟ้าหลิงเซียว,ภายในหัวใจของคนทุกคนสั่นไหว,ท้องฟ้ามืดมิด,เสียงครวญของแตรสังข์ที่เศร้าระทม,จนต้องสะอื้นเสียงออกมา.
”~~!”
จงซาน,ที่สัมผัสได้ถึงความโศกเศร้าที่ทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ,ท้องฟ้าที่สดใสกลายเป็นเศร้าโศก?
ฟ้าดินร่ำไห้?
โลงศพนี้คืออะไรกัน?
"ฮือๆๆ,ข้าทนไม่ไหวแล้ว,ฮืออๆๆๆ!"เทียนหลิงเอ๋อที่ร้องไห้ออกมาเป็นคนแรก.
บรรยากาศที่หนักอึ้งเศร้าสลดนี้ทำให้ทุกคนเศร้าใจอย่างที่สุด,แม้นว่าจะไม่ได้ร้องไห้เช่นเทียนหลิงเอ๋อ,ทว่าใบหน้าเวลานี้กำลังเศร้าหมอง,อดกลั้นความโศกเศร้านี้เอาไว้.
จงซานที่นำมือของเทียนหลิงเอ๋อส่งให้เป่าเอ๋อ,หลิงเอ๋อที่ร้องไห้โฮกอดเป่าเอ๋อเอาไว้.
"เจี่ยเจี๋ย,ทำไมข้าถึงได้เศร้าเช่นนี้,เจี่ยเจี๋ย!"เทียนหลิงเอ๋อสะอึกสะอื้นซบหน้าร้องไห้.
”.....!”
ท้องฟ้าเวลานี้ฝนเริ่มโปรยลงมา,ราวกับว่าท้องฟ้ากำลังเศร้าใจจนหลั่งน้ำตา,สายฝนที่ล่วงหล่นลงพื้นที่รอบๆ,หากแต่ไม่ได้ล่วงหล่นลงใส่โลกศพสีม่วงเลยแม้แต่เม็ดเดียว.
"ท้องฟ้าร่ำไห้,สวรรค์กำลังโศกเศร้าอยู่อย่างงั้นรึ?"กู่เฉียนโหยวที่ขมวดคิ้วไปมาเผยท่าทางประหลาดใจ.
จงซานที่โบยบินขึ้นบนฟ้า,คนอื่นๆเองก็เช่นกัน,เพื่อที่จะมองเห็นภายในโลงศพได้ถนัด,มีสิ่งใดอยู่ด้านใน,ถึงกับทำให้สวรรค์ร้องไห้,มันคืออะไรกัน?
"จงซาน,เกิดอะไรขึ้น?
ข้าเคยรู้สึกเศร้าเช่นนี้,ข้าที่ไร้ซึ่งอารมณ์,คาดไม่ถึงเลยว่าตัวเองจะโศกเศร้าได้ถึงเพียงนี้."
บนลานดังกล่าว,ปรากฏสตรีผู้งดงามอีคนหนึ่งขึ้น,เป็นสตรีที่มีเพียงจงซานได้ยินเสียงของนาง.
เป็นหวนจีจากถ้ำร้อยสวรรค์นั่นเอง,ไม่รู้ว่านางมาถึงตั้งแต่เมื่อไหร่.
จงซานจ้องมองไปยังหวนจี้แว๊บหนึ่ง,หากแต่ไม่ได้ตอบอะไร,ก่อนที่จะหันหน้ามองโลงศพอย่างระวัง.
"เปิดโลงศพ!"จงซานที่เอ่ยออกมาอีกครั้ง.
"ครับ!"เซียนเซิงซือที่รับคำในทันที.
ทุกๆคนต่างก็บินขึ้นมา,เพื่อที่จะสามารถมองเห็นโลงศพได้ถนัด.
เซียนเซิงซือที่ทำมุทราเลื่อนฝาโลงออกช้าๆ.
โลงศพที่ค่อยๆถูกเปิดออกมาทีละน้อยทีละน้อย.
กลิ่นอายที่แปลกประหลาดไม่ได้แผ่ออกมา,เป็นเหมือนกับโลงศพทั่วไป,ถึงอย่างนั้น,ภายในโลงศพ,ราวกับว่ามีพลังที่หนักหน่วงกระแทกกระทั้นมายังหัวใจของจงซานอย่างรุนแรง.
โลงศพที่เปิดช้าๆ,เปิดออกมาเรื่อยๆ.
ทุกคนที่จับจ้องมองไปด้านใน.
ภายในโลกศพที่มีใครคนหนึ่งนอนอยู่,เป็นศพในชุดคลุมสีดำ,ศพที่นอนนิ่งงันอย่างสงบเงียบ,หากแต่ทุกคนกลับไม่สามารถมองเห็นใบหน้ารูปร่างของเขาได้อย่างชัดเจน.
ไม่,สามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน,แต่ไม่สามารถจดจำได้,ไม่สามารถจดจำใบหน้าของเขาได้เลยแม้แต่น้อย,ทุกคนสามารถมองเห็นแต่
จะลืมใบหน้าของเขาไปในทันที,ไม่สามารถจดจำได้.
"พุ!"
กูเฉียนโหยวที่เลือดลมตีกลับ พ่นโลหิตคำโต.
"พุ!"
"พุ!"
คนแล้วคนเล่า,ที่เลือดลมตีกลับ,กับความโศกเศร้าที่เกินกว่าขอบเขต,เหนื่อยล้าทั้งใจและกาย.
มีเพียงแค่หวังคู,จงซาน,หวนจีที่ไม่ได้พ่นโลหิตออกมา.
หวังคูคือเผ่าโครงกระดูก,จึงไม่มีโลหิต,ส่วนหวนจีนั้นเป็นเพียงภาพเงา,จึงไม่มีโลหิตเช่นกัน,ส่วนจงซานนั้นมีโลหิตที่เอ่อออกมาด้วยเช่นกัน,หากแต่ใช้อำนาจวิเศษที่ทรงพลังระงับมันเอาไว้.
คนผู้นี้เป็นใครกัน? รับรู้ได้แค่ว่าเป็นศพๆหนึ่ง,หนำซ้ำยังทำให้ทุกคนเหนื่อยล้าทั้งใจและกาย?แม้แต่ไม่สามารถจดจำใบหน้าของเขาได้,ทำไมถึงไม่สามารถจดจำได้ล่ะ?
นอกจากนี้ยังทำให้ท้องฟ้ากำสรวล,ไม่ว่าจะเป็นใครที่พยายามมองหน้าของเขา,ก็ไม่มีใครสามารถบอกรูปลักษณ์ของเขาออกมาได้.
ที่ยังพอจำได้ก็คือเป็นศพที่มีผมยาว,ชุดคลุมสีดำ,บนชุดคลุมสีดำนั้นมีลายเส้นสีทองมากมาย.
หากแต่ส่วนอื่นๆนั้นกับไม่สามารถจดจำได้เลย.
จงซานที่พยายามสะกดกลั้นจิตใจ,เฝ้ามองออกไปด้วยความลึกล้ำ.
ส่วนคนอื่นๆเวลานี้ได้แต่เบือนหน้าหนีไม่กล้ามองอีกแล้ว.
ความเศร้าที่เกินจะหยั่ง,ที่ทำให้จิตใจและร่างกายไร้เรี่ยวแรง,หลายๆคนที่ไม่สามารถทนได้ถึงกับล่วงหล่นลงพื้น,พร้อมกับเร่งรีบนั่งสมาธิ,สงบจิตใจของตัวเองอย่างรวดเร็ว.
หวนจีเองถึงกับถอยห่างออกไปอยู่ขอบๆของลาน,แม้แต่หวนจียังรู้สึกหวั่นเกรงศพดังกล่าว.
กับความโศกเศร้าที่มากมายเกินคำบรรยายนี้! จงซานที่มีประสบการเช่นนี้หลายๆครั้ง,จึงยังสามารถอดทนได้.
ศพ,เป็นศพใครกัน?
ทั่วทั้งสวนสวรรค์ลอยฟ้าในเวลานี้,ทุกๆแห่งเต็มไปด้วยความโศกเศร้า,สายฝนที่เทกระหน่ำลงมา,เหล่าประชาชนทั่วไปที่ร้องไห้โหยหวน,พวกเขาร้องออกไปโดยไม่รู้สาเหตุ,ร้องไห้ฟูมฟายราวกับว่าบิดามารดาได้สิ้นใจไปแล้ว.
ทั่วทุกหนแห่งของสวนสวรรค์ลอยฟ้าเต็มไปด้วยอารมณ์โศกเศร้า.
ความหดเหี่ยวรันทดใจ,ที่แม้แต่สวรรค์ยังร้องไห้.
ในเวลาเดียวกัน,ร่างแยกเงาของจงซานที่ดวงตาหดเกร็ง,เงยหน้าขึ้นไปมองทางทิศเหนือ,จากนั้นก็จับจ้องมองไปยังเซียนเซิงซือ.
"เซียนเซิงซือ,ปิดฝาโลง,และตอกตะปู!"จงซานที่กล่าวออกมาในทันที.
กับร่างกายและจิตใจที่เหนื่อยล้า,เซียนเซิงซือเร่งรีบปิดฝาโลง,เมื่อฝาโลงถูกปิด,จากขอบฟ้าไกล,แสงสีม่วงก็ล่วงหล่นลงมาจากท้องฟ้า.
ค่ายกลหนานกงเซิ่งที่ทำงานเองโดยอัตโนมัติ.
"ตูมมมมมมมมม!
ลำแสงสีม่วงที่กระแทกค่ายกลระเบิดดังสนั่น,อยู่ด้านบนลานตำแหน่งของจงซาน.
..............
สองวันหลังจากนั้น,สถานที่เมืองเซียนหยางเคยอยู่.
หยิงได้นำพาเมืองเซียนหยางโบยบินขึ้นสู่สวรรค์,บุคคลอันดับหนึ่งเมื่อแปดหมื่นปีที่แล้ว,ทรงพลังไร้เทียมทาน.
หยิงผู้นี้ได้กระทำการที่น่าตื่นตะลึงเอาไว้หลายอย่างก่อนจากไป,ไม่ว่าจะเป็นการกำราบสามกลุ่มอิทธิพลในภพหยินไปอย่างราบคาบ,แม้แต่ฝ่ามือของเขาที่สามารถทำร้ายยอดฝีมือจากโลกใบใหญ่ที่น่าสะพรึงจนกระดูแขนหัก.
ดูเหมือนว่าจะไม่มีเรื่องอันใดเลยที่หยิงผู้นี้กระทำไม่สำเร็จ.
ก่อนหน้านี้เมื่อครั้งกู่เฉิงตงแยกสวรรค์,สะบั้นปฐพีแม้แต่ล้มเหลว,เนี่ยฟ่านเฉินเองก็นำเหล่าข้าราชบริพารส่วนหนึ่งจากไป,ในเวลานี้หยิงเองก็นำเมืองทั้งเมืองจากไปด้วยเช่นกัน.
ทวีปศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้,ดูเหมือนว่าจะเต็นไปด้วยสุดยอดฝีมือมากมาย.
เมื่อหยิงจากไป,จงซานจึงต้องเชิญหน้ากับเต๋าจวินเซิ่งหย๋า.
"ในเมื่อไม่สามารถยืมอำนาจวิเศษของต้าเจิ้งมาช่วยได้,ข้าจะดูว่าครั้งนี้เจ้าจะมีปัญญาหนีไปได้หรือไม่!"เต๋าจวินเซิ่งหย๋าที่กล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงเหยียดหยัน.
พื้นที่รอบๆปรากฏปราณกระบี่ที่พวยพุ่งขึ้นไปบนท้องฟ้า,ค่ายกลสังหารเซียน,เพียงแค่กระบี่ลู่เซียนเล่มเดียว,ก็สามารถใช้ออกมาด้วยค่ายกลกระบี่สังหารเซียนได้อย่างงั้นรึ?
ค่ายกลกระบี่สังหารเซียน,ปกคลุมตี้เสวียนชา,เต๋าจวินเซิ่งหย๋า,จงซานและกงเหล่ยเทียน,ซึ่งผู้ควบคุมมันก็คือฮามะไลนั่นเอง.
"เต๋าจวินเซิ่งหย๋า?
นี่เจ้าทะลวงระดับมาอย่างงั้นรึ?"ตี้เสวียนชาที่กล่าวพลางขมวดคิ้วไปมาเล็กน้อย.
"เจ้าเองก็เลื่อนระดับอย่างงั้นรึ?"เต๋าจวินเซิ่งหย๋าที่กล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม.
สายตาของทั้งคู่ที่จ้องมองกันด้วยความเย็นชา,ก่อนหน้านี้ได้เพียงแค่คาดเดา,หากแต่ตอนนี้สามารถยืนยันได้แล้ว,ทั้งคู่ต่างก็มีระดับสวรรค์แท้ขั้นที่
12 !
ตี้เสวียนชาที่ไม่กล้าดูแคลนเต๋าจวินเซิ่งหย๋า,ในทางกลับกันเต๋าจวินเซิ่งหย๋าก็เต็มไปด้วยความระวังตี้เสวียนชา,หลังจากที่กู่เฉิงตงเคยแยกสวรรค์,ทั้งเนี่ยฟ่านเฉินและหยิงต่างก็จากไปแล้ว,ใต้สวรรค์แห่งนี้,คนที่ตี้เสวียนชาต้องระวังก็มีเพียงแค่เต๋าจวินเซิ่งหย๋าแล้ว,นี่คือยอดฝีมือที่น่าเกรงขาม.
เพราะว่าความแข็งแกร่งของทั้งคู่นั้น,ไม่สามารถนำแค่พลังฝึกตนมาคำนวณอย่างเดียวได้,ยังมีความร้ายกาจ,ความน่าหวาดกลัวมากมายที่พวกเขาถือเอาไว้ในมือ.
"เจ้ากล้าต่อสู้กับข้าตัวต่อตัวหรือไม่?"เต๋าจวินเซิ่งหย๋ากล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงเย็นชา.
"หวังไว้เช่นนั้น!"แววตาของตี้เสวียนชาจิตต่อสู้กำลังลุกโชนขึ้นมาในทันที.
"จูเซียน,ข้าจะต่อสู้กับตี้เสวียนชาคนเดียว,ให้พวกเราออกไป,ส่วนเจ้าและกงเหล่ยเทียนสังหารจงซานให้ได้!"เต๋าจวินเซิ่งหย๋าที่กล่าวอย่างเคร่งขรึม.
พวกเขาพยักหน้ารับ.
Chapter 789 Being mentally and physically exhausted
心力交瘁
เหนื่อยล้าทั้งใจและกาย.
โลงศพขนาดใหญ่ที่อยู่ด้านหน้าจงซานเวลานี้,มันได้แผ่กลิ่นอายที่เงียบสงบไปจนถึงความรู้สึกอ้างว้างไร้ที่สิ้นสุด.
ความรู้สึกนี้,แม้นว่าจะแผ่ออกมาเพียงเล็กน้อย,ทว่าทุกคนที่จับจ้องก็รู้สึกโศกเศร้าขึ้นมาบางๆ,ความเหงาอ้างว้าง,ที่ทำให้ทุกคนสับสน.
เป็นความเศร้าที่ไม่สามารถขัดขืนได้?
สายตาของทุกคนที่จ้องมองโลงศพสีม่วงด้วยท่าทางจริงจัง!
"จงซานมันคืออะไรอย่างงั้นรึ?
ทำไมมันถึงทำให้ข้า ต้องอยากร้องไห้ด้วยล่ะ?"เทียนหลิงเอ๋อที่กุมแขนเสื้อของจงซาน,ใบหน้าที่เต็มไปด้วยความสงสัย.
"ใครที่อยู่ในโลงศพนี้กัน?"กู่เฉียนโหยวที่สูดหายใจลึกระงับความเศร้าเอาไว้.
เป็นใครกัน?
คิดถึงสถานะของกงเชียนแล้ว,ภายในใจของทุกคนที่รัดตรึง,สิ่งนี้คือสิ่งที่กงเชียนให้ความสำคัญ,จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อมันมาอยู่ที่นี่?
"หนี่ปู่ซา,พวกเจ้าเข้าไปในแดนเทพอมตะได้อย่างไร?"จงซานสอบถาม.
"พวกเราได้ใช้วิชาลับสวรรค์ลี้ลับ,พลางตัวเข้าไป,ไม่มีใครพบพวกเราเลย,กงเชียนเองคงจะมั่นใจจนเกินไป,รอบๆโลงศพม่วงนี้จึงไม่มีค่ายกลใดๆวางอยู่เลย."หนี่ปู่ซาตอบ.
"ฝ่าบาท,สิ่งที่อยู่ด้านในนี้คืออะไรกัน?"หวังคูที่กล่าวเสียงสั่นเช่นกัน.
ทุกคนที่อยู่ที่นี่,ภายในใจของพวกเขาที่หนักอึ้ง,จนไม่กล้าที่จะคาดเอาสิ่งของที่อยู่ด้านใน.
นี่คืออะไร?เพราะว่าทุกคนต่างรู้สึกได้ว่า,หากว่าเรื่องนี้ถูกส่งออกมา,ไม่ใช่แค่กงเชียนเท่านั้นแน่ที่ต้องการ,บางทีคนจากโลกใบใหญ่เองคงจะต้องการเข้าร่วมแย่งชิงด้วยแน่,หากเรื่องนี้แผ่ออกไปจะต้องเกิดเรื่องใหญ่แน่ๆ.
"ไม่ว่าจะคาดเดาอย่างไร,ก็ไม่สามารถบอกได้จริง,ยังไงซะการเปิดออกน่าจะชัดเจนที่สุด!"จงซานที่กล่าวพลางกลืนน้ำลายลงคอ.
"อืม!"ทุกคนทีพยักหน้ารับ.
"เปิดได้หรือไม่?"จงซานที่จ้องมองไปยังเซียนเซิงซือ.
"ครับ!"เซียนเซิงซือพยักหน้า.
"งั้นก็เปิดโลงศพ!"จงซานที่กล่าวอย่างเคร่งขรึม.
"รับทราบ!"
ทุกคนที่เปลี่ยนเป็นเงียบจดจ้องมองไปยังเซียนเซิงซือ.
เซียนเซิงซือที่มีความเชี่ยวชาญเกี่ยวกับศพ,เวลาได้ก้าวเข้าไปด้านหน้า,ก่อนที่จะสะบัดมือไปยังตะปูผนึกโลงศพ.
โลงศพทั่วไป,โดยทั่วไปจะมีตะปูเจ็ดตัว,ทว่าโลงศพสีม่วงนี้มีถึงสิบตัว,ไม่รู้ว่ามีความหมายใดหรือไม่?
เซียนเซิงซือที่ถอนตะปูดอกแรก.
ตะปูที่ปักลงไปนั้นดูจะไม่ได้พิเศษอะไรมากนัก,ทุกๆดอกที่เขาถอนออกมา,จะทำให้ความเศร้าใจเพิ่มขึ้นทุก
10 เปอร์เซ็น,ตัวแล้วตัวเล่าที่ถอนออกมาจากโลกศพ,ทำให้หัวใจของทุกคนบีบรัด.
ดอกที่เก้า.
เหลือดอกที่สิบ,เซียนเซิงซือที่หันหน้าจับจ้องมองไปยังจงซาน.
ในเวลานี้หัวใจของเทียนหลิงเอ๋อที่หนักอึ้งถึงกับกุมแขนของจงซานเอาไว้แน่น,บางที่คงมีแค่เพียงกุมแขนของจงซานเอาไว้ถึงจะทำให้นางรู้สึกดีขึ้นได้.
จงซานที่พยักหน้าให้กับเซียนเซิงซือ.
จากนั้นเซียนเซิงซือที่ค่อยๆเปิดมันออกช้าๆ.
ขณะที่ถอนตะปูดอกสุดท้ายออกมา,ท้องฟ้าทั่วสวนสวรรค์ลอยฟ้าหลิงเซียว,ทันใดนั้นก็กลายเป็นมืดคลึ้ม,ปิดบังท้องฟ้าในทันที,เสียงดังหึ่งๆ
เสียงกำสรวลของท้องฟ้า,ดวงตะวันที่อับแสง,ทันใดนั้นก็กลายเป็นมืดมิด,บนท้องฟ้า,ลมหนาวที่โบกพัดเอื่อยๆ.
”~~!”
”~~!”
เสียงบรรเลงดนตรีอาลัยดังผ่านออกมา,เสียงดนตรีที่เต็มไปด้วยความเศร้า,ความหดหู่ใจที่เกิดจากการคร่ำครวญของฟ้าดิน.
ทั่วทั้งสวนสวรรค์ลอยฟ้าหลิงเซียว,ภายในหัวใจของคนทุกคนสั่นไหว,ท้องฟ้ามืดมิด,เสียงครวญของแตรสังข์ที่เศร้าระทม,จนต้องสะอื้นเสียงออกมา.
”~~!”
จงซาน,ที่สัมผัสได้ถึงความโศกเศร้าที่ทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ,ท้องฟ้าที่สดใสกลายเป็นเศร้าโศก?
ฟ้าดินร่ำไห้?
โลงศพนี้คืออะไรกัน?
"ฮือๆๆ,ข้าทนไม่ไหวแล้ว,ฮืออๆๆๆ!"เทียนหลิงเอ๋อที่ร้องไห้ออกมาเป็นคนแรก.
บรรยากาศที่หนักอึ้งเศร้าสลดนี้ทำให้ทุกคนเศร้าใจอย่างที่สุด,แม้นว่าจะไม่ได้ร้องไห้เช่นเทียนหลิงเอ๋อ,ทว่าใบหน้าเวลานี้กำลังเศร้าหมอง,อดกลั้นความโศกเศร้านี้เอาไว้.
จงซานที่นำมือของเทียนหลิงเอ๋อส่งให้เป่าเอ๋อ,หลิงเอ๋อที่ร้องไห้โฮกอดเป่าเอ๋อเอาไว้.
"เจี่ยเจี๋ย,ทำไมข้าถึงได้เศร้าเช่นนี้,เจี่ยเจี๋ย!"เทียนหลิงเอ๋อสะอึกสะอื้นซบหน้าร้องไห้.
”.....!”
ท้องฟ้าเวลานี้ฝนเริ่มโปรยลงมา,ราวกับว่าท้องฟ้ากำลังเศร้าใจจนหลั่งน้ำตา,สายฝนที่ล่วงหล่นลงพื้นที่รอบๆ,หากแต่ไม่ได้ล่วงหล่นลงใส่โลกศพสีม่วงเลยแม้แต่เม็ดเดียว.
"ท้องฟ้าร่ำไห้,สวรรค์กำลังโศกเศร้าอยู่อย่างงั้นรึ?"กู่เฉียนโหยวที่ขมวดคิ้วไปมาเผยท่าทางประหลาดใจ.
จงซานที่โบยบินขึ้นบนฟ้า,คนอื่นๆเองก็เช่นกัน,เพื่อที่จะมองเห็นภายในโลงศพได้ถนัด,มีสิ่งใดอยู่ด้านใน,ถึงกับทำให้สวรรค์ร้องไห้,มันคืออะไรกัน?
"จงซาน,เกิดอะไรขึ้น?
ข้าเคยรู้สึกเศร้าเช่นนี้,ข้าที่ไร้ซึ่งอารมณ์,คาดไม่ถึงเลยว่าตัวเองจะโศกเศร้าได้ถึงเพียงนี้."
บนลานดังกล่าว,ปรากฏสตรีผู้งดงามอีคนหนึ่งขึ้น,เป็นสตรีที่มีเพียงจงซานได้ยินเสียงของนาง.
เป็นหวนจีจากถ้ำร้อยสวรรค์นั่นเอง,ไม่รู้ว่านางมาถึงตั้งแต่เมื่อไหร่.
จงซานจ้องมองไปยังหวนจี้แว๊บหนึ่ง,หากแต่ไม่ได้ตอบอะไร,ก่อนที่จะหันหน้ามองโลงศพอย่างระวัง.
"เปิดโลงศพ!"จงซานที่เอ่ยออกมาอีกครั้ง.
"ครับ!"เซียนเซิงซือที่รับคำในทันที.
ทุกๆคนต่างก็บินขึ้นมา,เพื่อที่จะสามารถมองเห็นโลงศพได้ถนัด.
เซียนเซิงซือที่ทำมุทราเลื่อนฝาโลงออกช้าๆ.
โลงศพที่ค่อยๆถูกเปิดออกมาทีละน้อยทีละน้อย.
กลิ่นอายที่แปลกประหลาดไม่ได้แผ่ออกมา,เป็นเหมือนกับโลงศพทั่วไป,ถึงอย่างนั้น,ภายในโลงศพ,ราวกับว่ามีพลังที่หนักหน่วงกระแทกกระทั้นมายังหัวใจของจงซานอย่างรุนแรง.
โลงศพที่เปิดช้าๆ,เปิดออกมาเรื่อยๆ.
ทุกคนที่จับจ้องมองไปด้านใน.
ภายในโลกศพที่มีใครคนหนึ่งนอนอยู่,เป็นศพในชุดคลุมสีดำ,ศพที่นอนนิ่งงันอย่างสงบเงียบ,หากแต่ทุกคนกลับไม่สามารถมองเห็นใบหน้ารูปร่างของเขาได้อย่างชัดเจน.
ไม่,สามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน,แต่ไม่สามารถจดจำได้,ไม่สามารถจดจำใบหน้าของเขาได้เลยแม้แต่น้อย,ทุกคนสามารถมองเห็นแต่
จะลืมใบหน้าของเขาไปในทันที,ไม่สามารถจดจำได้.
"พุ!"
กูเฉียนโหยวที่เลือดลมตีกลับ พ่นโลหิตคำโต.
"พุ!"
"พุ!"
คนแล้วคนเล่า,ที่เลือดลมตีกลับ,กับความโศกเศร้าที่เกินกว่าขอบเขต,เหนื่อยล้าทั้งใจและกาย.
มีเพียงแค่หวังคู,จงซาน,หวนจีที่ไม่ได้พ่นโลหิตออกมา.
หวังคูคือเผ่าโครงกระดูก,จึงไม่มีโลหิต,ส่วนหวนจีนั้นเป็นเพียงภาพเงา,จึงไม่มีโลหิตเช่นกัน,ส่วนจงซานนั้นมีโลหิตที่เอ่อออกมาด้วยเช่นกัน,หากแต่ใช้อำนาจวิเศษที่ทรงพลังระงับมันเอาไว้.
คนผู้นี้เป็นใครกัน? รับรู้ได้แค่ว่าเป็นศพๆหนึ่ง,หนำซ้ำยังทำให้ทุกคนเหนื่อยล้าทั้งใจและกาย?แม้แต่ไม่สามารถจดจำใบหน้าของเขาได้,ทำไมถึงไม่สามารถจดจำได้ล่ะ?
นอกจากนี้ยังทำให้ท้องฟ้ากำสรวล,ไม่ว่าจะเป็นใครที่พยายามมองหน้าของเขา,ก็ไม่มีใครสามารถบอกรูปลักษณ์ของเขาออกมาได้.
ที่ยังพอจำได้ก็คือเป็นศพที่มีผมยาว,ชุดคลุมสีดำ,บนชุดคลุมสีดำนั้นมีลายเส้นสีทองมากมาย.
หากแต่ส่วนอื่นๆนั้นกับไม่สามารถจดจำได้เลย.
จงซานที่พยายามสะกดกลั้นจิตใจ,เฝ้ามองออกไปด้วยความลึกล้ำ.
ส่วนคนอื่นๆเวลานี้ได้แต่เบือนหน้าหนีไม่กล้ามองอีกแล้ว.
ความเศร้าที่เกินจะหยั่ง,ที่ทำให้จิตใจและร่างกายไร้เรี่ยวแรง,หลายๆคนที่ไม่สามารถทนได้ถึงกับล่วงหล่นลงพื้น,พร้อมกับเร่งรีบนั่งสมาธิ,สงบจิตใจของตัวเองอย่างรวดเร็ว.
หวนจีเองถึงกับถอยห่างออกไปอยู่ขอบๆของลาน,แม้แต่หวนจียังรู้สึกหวั่นเกรงศพดังกล่าว.
กับความโศกเศร้าที่มากมายเกินคำบรรยายนี้! จงซานที่มีประสบการเช่นนี้หลายๆครั้ง,จึงยังสามารถอดทนได้.
ศพ,เป็นศพใครกัน?
ทั่วทั้งสวนสวรรค์ลอยฟ้าในเวลานี้,ทุกๆแห่งเต็มไปด้วยความโศกเศร้า,สายฝนที่เทกระหน่ำลงมา,เหล่าประชาชนทั่วไปที่ร้องไห้โหยหวน,พวกเขาร้องออกไปโดยไม่รู้สาเหตุ,ร้องไห้ฟูมฟายราวกับว่าบิดามารดาได้สิ้นใจไปแล้ว.
ทั่วทุกหนแห่งของสวนสวรรค์ลอยฟ้าเต็มไปด้วยอารมณ์โศกเศร้า.
ความหดเหี่ยวรันทดใจ,ที่แม้แต่สวรรค์ยังร้องไห้.
ในเวลาเดียวกัน,ร่างแยกเงาของจงซานที่ดวงตาหดเกร็ง,เงยหน้าขึ้นไปมองทางทิศเหนือ,จากนั้นก็จับจ้องมองไปยังเซียนเซิงซือ.
"เซียนเซิงซือ,ปิดฝาโลง,และตอกตะปู!"จงซานที่กล่าวออกมาในทันที.
กับร่างกายและจิตใจที่เหนื่อยล้า,เซียนเซิงซือเร่งรีบปิดฝาโลง,เมื่อฝาโลงถูกปิด,จากขอบฟ้าไกล,แสงสีม่วงก็ล่วงหล่นลงมาจากท้องฟ้า.
ค่ายกลหนานกงเซิ่งที่ทำงานเองโดยอัตโนมัติ.
"ตูมมมมมมมมม!
ลำแสงสีม่วงที่กระแทกค่ายกลระเบิดดังสนั่น,อยู่ด้านบนลานตำแหน่งของจงซาน.
..............
สองวันหลังจากนั้น,สถานที่เมืองเซียนหยางเคยอยู่.
หยิงได้นำพาเมืองเซียนหยางโบยบินขึ้นสู่สวรรค์,บุคคลอันดับหนึ่งเมื่อแปดหมื่นปีที่แล้ว,ทรงพลังไร้เทียมทาน.
หยิงผู้นี้ได้กระทำการที่น่าตื่นตะลึงเอาไว้หลายอย่างก่อนจากไป,ไม่ว่าจะเป็นการกำราบสามกลุ่มอิทธิพลในภพหยินไปอย่างราบคาบ,แม้แต่ฝ่ามือของเขาที่สามารถทำร้ายยอดฝีมือจากโลกใบใหญ่ที่น่าสะพรึงจนกระดูแขนหัก.
ดูเหมือนว่าจะไม่มีเรื่องอันใดเลยที่หยิงผู้นี้กระทำไม่สำเร็จ.
ก่อนหน้านี้เมื่อครั้งกู่เฉิงตงแยกสวรรค์,สะบั้นปฐพีแม้แต่ล้มเหลว,เนี่ยฟ่านเฉินเองก็นำเหล่าข้าราชบริพารส่วนหนึ่งจากไป,ในเวลานี้หยิงเองก็นำเมืองทั้งเมืองจากไปด้วยเช่นกัน.
ทวีปศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้,ดูเหมือนว่าจะเต็นไปด้วยสุดยอดฝีมือมากมาย.
เมื่อหยิงจากไป,จงซานจึงต้องเชิญหน้ากับเต๋าจวินเซิ่งหย๋า.
"ในเมื่อไม่สามารถยืมอำนาจวิเศษของต้าเจิ้งมาช่วยได้,ข้าจะดูว่าครั้งนี้เจ้าจะมีปัญญาหนีไปได้หรือไม่!"เต๋าจวินเซิ่งหย๋าที่กล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงเหยียดหยัน.
พื้นที่รอบๆปรากฏปราณกระบี่ที่พวยพุ่งขึ้นไปบนท้องฟ้า,ค่ายกลสังหารเซียน,เพียงแค่กระบี่ลู่เซียนเล่มเดียว,ก็สามารถใช้ออกมาด้วยค่ายกลกระบี่สังหารเซียนได้อย่างงั้นรึ?
ค่ายกลกระบี่สังหารเซียน,ปกคลุมตี้เสวียนชา,เต๋าจวินเซิ่งหย๋า,จงซานและกงเหล่ยเทียน,ซึ่งผู้ควบคุมมันก็คือฮามะไลนั่นเอง.
"เต๋าจวินเซิ่งหย๋า?
นี่เจ้าทะลวงระดับมาอย่างงั้นรึ?"ตี้เสวียนชาที่กล่าวพลางขมวดคิ้วไปมาเล็กน้อย.
"เจ้าเองก็เลื่อนระดับอย่างงั้นรึ?"เต๋าจวินเซิ่งหย๋าที่กล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม.
สายตาของทั้งคู่ที่จ้องมองกันด้วยความเย็นชา,ก่อนหน้านี้ได้เพียงแค่คาดเดา,หากแต่ตอนนี้สามารถยืนยันได้แล้ว,ทั้งคู่ต่างก็มีระดับสวรรค์แท้ขั้นที่
12 !
ตี้เสวียนชาที่ไม่กล้าดูแคลนเต๋าจวินเซิ่งหย๋า,ในทางกลับกันเต๋าจวินเซิ่งหย๋าก็เต็มไปด้วยความระวังตี้เสวียนชา,หลังจากที่กู่เฉิงตงเคยแยกสวรรค์,ทั้งเนี่ยฟ่านเฉินและหยิงต่างก็จากไปแล้ว,ใต้สวรรค์แห่งนี้,คนที่ตี้เสวียนชาต้องระวังก็มีเพียงแค่เต๋าจวินเซิ่งหย๋าแล้ว,นี่คือยอดฝีมือที่น่าเกรงขาม.
เพราะว่าความแข็งแกร่งของทั้งคู่นั้น,ไม่สามารถนำแค่พลังฝึกตนมาคำนวณอย่างเดียวได้,ยังมีความร้ายกาจ,ความน่าหวาดกลัวมากมายที่พวกเขาถือเอาไว้ในมือ.
"เจ้ากล้าต่อสู้กับข้าตัวต่อตัวหรือไม่?"เต๋าจวินเซิ่งหย๋ากล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงเย็นชา.
"หวังไว้เช่นนั้น!"แววตาของตี้เสวียนชาจิตต่อสู้กำลังลุกโชนขึ้นมาในทันที.
"จูเซียน,ข้าจะต่อสู้กับตี้เสวียนชาคนเดียว,ให้พวกเราออกไป,ส่วนเจ้าและกงเหล่ยเทียนสังหารจงซานให้ได้!"เต๋าจวินเซิ่งหย๋าที่กล่าวอย่างเคร่งขรึม.
พวกเขาพยักหน้ารับ.
ที่มาจากhttps://lnmtl.com/novel/immortality
#นิยาย เรื่องอมตะ #Immortality#นิยายแปลไทย
Author(s)
สนใจสนับสนุนพวกเรา,เข้าร่วมกลุ่ม VIP ====> Click
ปัจจุบันแปลจบแล้ว 1672 ตอน สนใจติดต่อเข้ากลุ่มลับได้ครับ
***เว็ปฟรีอัพ สองวันหนึ่งตอน
***กลุ่มลับ แปลจบแล้ว.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น