วันศุกร์ที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2563

Immortality Chapter 758 The plum blossom boils the liquor to discuss the fierce and ambitious

Immortality Chapter 758  The plum blossom boils the liquor to discuss the fierce and ambitious

นิยาย เรื่อง อมตะ ตอนที่ 758  ร่ำสุราพูดคุยท่ามกลางทุ่งดอกเหมย.


Chapter 758  The plum blossom boils the liquor to discuss the fierce and ambitious
梅花煮酒论枭
  ร่ำสุราพูดคุยท่ามกลางทุ่งดอกเหมย.

จงซานที่ร่อนลงยังหุบเขาที่มีศาลาตั้งอยู่.

"ฝ่าบาท!"เจี้ยนหงที่แสดงความเคารพเล็กน้อย,เหล่าศิษย์ของแดนเทพอเวจีเองก็เช่นกัน,ทว่าหากไม่มีกล่าวสิ่งใดออกมา.



ภายในตำหนัก,เจี้ยนอ้าวทื่ลืมตาขึ้นช้าๆ.

สายลมที่โบกสะบัดออกจากร่างของเจี้ยนอ้าว,ทันใดนั้นดอกเหมยที่อยู่ในศาลาก็ถูกพัดออกไปทั้งหมด.

"หงเอ๋อ,ให้ทุกคนถอยออกไปทั้งหมด!"เจี้ยนอ้าวที่เอ่ยปากออกมาในทันที.

"ค่ะ,ท่านพ่อ!"เจี้ยนหงรับคำ,ก่อนที่จะนำเหล่าศิษย์ออกไปด้านนอกหุบเขา.

"อู๋ซ่าง!"จงซานเองก็สั่งหลิวอู๋ซ่างด้วยเช่นกัน.

"ครับ!"หลิวอู๋ซ่างที่เข้าใจและถอยห่างออกไปเช่นกัน.

จงซานที่จ้องมองเหล่าคนที่อยู่ภายในหุบเขาจากไป,ก่อนที่จะหันหน้าไปมาเจี้ยนอ้าว.

"เชิญ!"

"อืม!"จงซานพยักหน้า.

จงซานที่ก้าวเข้าไปในศาล,ซึ่งมีเสื่อปู่พื้นอยู่.

จงซานที่ก้าวเข้าไปนั่งเข่าที่ด้านหน้าเจี้ยนอ้าว,โดยมีอาหารวางอยู่ด้านหน้า,พร้อมกับโถสุราชั้นดี.

เจี้ยนอ้าวยื่นมือออกไป,ดอกเหมยที่อยู่ไกลออกไปหลายสิบชนิดก็ลอยออกมาในทันที,จากพื้นที่รอบๆเองถูกเก็บมา,พร้อมกับถูกใส่ลงไปในโถสุรา.

ดอกเหม่ยมากมายที่ลอยอยู่บนโถสุรา,ส่งกลิ่นหอมที่ยั่วยวลตลบอบอวลไปทั่ว.

"หลายร้อยปีแล้วที่ไม่ได้เห็นเจ้า,ดูเหมือนว่าเจ้าจะก้าวไปถึงเขตแดนที่ลึกล้ำ,กับความสามารถที่เหนือล้ำนี้คงจะไม่มีใครชนะเจ้าได้แล้วสินะ??"จงซานที่กล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม.

เจี้ยนอ้าวเผยยิ้มออกมาเล็กน้อย,"แน่นอนยังมีคู่ต่อสู้ที่ข้าลืมไม่ลงเช่นกัน!"

"หืม?"

"สามสิบปีที่แล้วข้าได้ต่อสู้กับใครคนหนึ่งของต้าฉิน,ทำให้ข้ารับรู้อะไรมากมาย,ดังนั้นวันนี้จึงต้องการให้เจ้ามา!"เจี้ยนอ้าวกล่าว.

"ต่อสู้กับคนของต้าฉินอย่างงั้นรึ?"จงซานที่ขมวดคิ้วไปมา,แสดงท่าทางตกใจเล็กน้อย.

ต่อสู้กับต้าหยิง? หรือใคร? เจี้ยนอ้าวที่กล่าวออกมานั้นดูเหมือนว่าจะเป็นการต่อสู้ที่หนักหนาเอาการ,กับการต่อสู้ระดับนั้น,ทำไมเขาถึงไม่ได้รับข่าวสารเลยล่ะ?

"เป็นการต่อสู้ลับๆ,นอกจากนี้ยังเป็นการต่อสู้ด้วยพลังจิตสำนึกล้วนๆ,ดังนั้นไม่มีใครรู้ก็ไม่แปลก!"เจี้ยนอ้าวกล่าว.

"การต่อสู้ลับ? การต่อสู้ด้วยพลังจิตสำนึก?"จงซานที่ชำเลืองมองเจี้ยนอ้าว.

"อืมเป็นการต่อสู้ในโลกจิตสำนึกเป็นการต่อสู้อย่างหนึ่งด้วยพลังจิตสำนึก."เจี้ยนอ้าวกล่าว.

"ใคร?"จงซานที่ขมวดคิ้วไปมาเล็กน้อย.

"หยิง!"

"หยิง?"ดวงตาของจงซานที่หดเกร็ง.

"ถูกแล้ว,เป็นหยิง,ข้าได้พ่ายแพ้,เขานั้นได้ข้ามเขตแดนเหนือมนุษย์ไปแล้ว,ถึงแม้ว่าข้าจะพ่ายแพ้,ข้าก็ไม่ได้หมดกำลังใจแต่อย่างใด,ข้าจะต้องก้าวข้ามเขตแดนดังกล่าวให้ได้ในวันข้างหน้า."เจี้ยนอ้าวที่กล่าวออกมาด้วยความมั่นใจ.

"หยิงได้ก้าวไปถึงเขตแดนเหนือมนุษย์แล้วอย่างงั้นรึ?"จงซานที่ขมวดคิ้วไปมา.

"ถูกแล้ว,เข้าเป็นคนที่แข็งแกร่งที่สุดเท่าที่ข้าเคยเจอมา."เจี้ยนอ้าวพยักหน้า.

"แล้วเขาก็ปล่อยเจ้าอย่างงั้นรึ?"

"เป็นแค่การลองเชิงเท่านั้น,การประลองดังกล่าวนั้น,แม้ว่าหยิงจะเหนือกว่ามาก,ทว่าเขาก็ไม่ได้จริงจังนัก,เป็นแค่การชิมลาง,จากนั้นสามสิบปีมานี้,ข้าจึงไม่สัมผัสกระบี่เลย!"เจี้ยนอ้าวกล่าว.

"ไม่แตะกระบี่มาสามสิบปีแล้วอย่างงั้นรึ?"จงซานที่ขมวดคิ้วไปมา.

"การต่อสู้ในครั้งนั้นข้าได้เก็บเกี่ยวผลประโยชน์มาไม่น้อย!"เจี้ยนอ้าวที่กล่าวพลางถอนหายใจ.

"ดูเหมือนว่าเพลงกระบี่ของเจ้าจะก้าวขึ้นไปอีกระดับอีกครั้งแล้วอย่างงั้นรึ?"จงซานกล่าวพลางถอนหายใจ.

"อืม!"เจี้ยนอ้าวพยักหน้า.

จงซานที่ยกสุราขึ้นดื่ม,ขณะรับฟังพูดคุย.

"ระหว่าง 30 ปีนี้,กระบี่ไร้ลักษณ์ของข้าได้ก้าวไปถึงขั้นที่เก้า,ช่างน่าเสียดายคงไม่ได้ต่อสู้กับเจ้าแล้ว!"เจี้ยนอ้าวที่ส่ายหน้าไปมา.

"เจี้ยนอ้าวเจ้าคือยอดฝีมือไร้คู่เปรียบ,ข้าจะไปเทียบกับเจ้าได้อย่างไร?"จงซานที่ส่ายหน้าไปมาด้วยรอยยิ้ม.

"ไม่,ข้าบอกได้ว่าเจ้าคู่ควร,ข้ายืนยันได้ว่าเจ้านั้นแข็งแกร่ง."เจี้ยนอ้าวกล่าวยืนยัน.

จงซานจ้องมองเจี้ยนอ้าวด้วยความลึกล้ำ,และพยักหน้าให้,"เชิญ!"

จงซานที่ยกสุราชนแก้วของเจี้ยนอ้าว,พร้อมกับเผยยิ้มออกมาเล็กน้อย.

"ทำไมเจ้าถึงได้ตีค่าจงซานไว้สูงเช่นนั้นรึ?"จงซานที่สอบถามออกไป.

"มีไม่กี่คนที่ข้าสามารถมองเห็นว่าโดดเด่นยิ่งกว่าใคร,เป็นจอมคนที่ร้ายกาจ,ภายในใต้สวรรค์แห่งนี้,เจ้าคิดว่าใครบ้างที่ควรถูกเรียกว่าจอมคนได้?"เจี้ยนอ้าวกล่าว.

"หยิง,แปดหมื่นปีที่แล้วคือตัวตนอันดับหนึ่งของโลกใบนี้,ทรงพลังไร้เทียมทาน,ไม่มีใครที่คู่ควรเป็นคู่ต่อสู้,แปดหมื่นปีหลังจากนั้น,เขาก็นับว่ายืนอยู่เหนือทุกคน!"จงซานกล่าว.

"หยิง,นับเป็นจอมคน,ข้าเองก็ไม่สามารถล้มเข้าได้,เขานับเป็นตัวตนอันดับหนึ่งที่ไม่อาจนับได้,ไม่รู้ว่าเป็นมิตรหรือศัตรู!หากแต่เป็นคนที่ทุกคนควรจะหลีกหนีไปให้ไกล!"เจี้ยนอ้าวที่กล่าวออกมาอย่างมั่นใจ.

"หืม?"จงซานที่รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย.

"?"

"เต๋าจวินเซิ่งหย๋าล่ะ,ประมุขแดนเทพอมตะ,เขาที่มีอาวุธมีดบินพิฆาตเซียน,ตลอดชีวิต,เขายังไม่เคยแพ้ใคร!"จงซานกล่าว.

"เต๋าจวินเซิ่งหย๋าอย่างงั้นรึ? นับว่าแข็งแกร่ง,ร้ายกาจ,ทว่ายังมีอำนาจไม่เพียงพอ!"เจี้ยนอ้าวกล่าวยืนยัน.

"ยังมีอำนาจไม่เพียงพออย่างงั้นรึ?"

"จอมคนที่ข้ากล่าวถึงนั้น,ไม่ได้แปลว่ามีพลังความแข็งแกร่งที่สุดในโลกหล้า,หากแต่เป็นคนที่เป็นแบบอย่างให้กับคนทั่วหล้าต่างหาก,เป็นผู้นำที่ทุกคนยอมก้มหัวให้,เต๋าจวินเซิ่งหย๋านั้นไม่มีบารมีที่จะครองใจประชนคนทั่วไปได้!"เจี้ยนอ้าวกล่าว.

"หืม? หรือจะเป็นกงเหล่ยเทียน? แขกจากโลกใบใหญ่,ลูกหลานปราชเทพ,มีความลึกลับของเซียน,แปลกประหลาดและยังเป็นนายหัวของภาคตะวันตก!"

"จอมคนไม่ได้วันกันที่ความลึกลับ!"เจี้ยนอ้าวเผยยิ้มออกมา.

"แล้วเจ้ากำลังจะกล่าวถึงใครกัน?"จงซานที่ขมวดคิ้วไปมา.

"เจ้าไง,จงซาน,เจ้าคือจอมคน,ที่เรียกได้ว่าวีระบุรุษ!"เจี้ยนอ้าวที่กล่าวยืนยัน.

"ข้า? ชมข้าเกินไปแล้ว! เจ้าต่างหากล่ะถึงควรจะถูกเรียกว่าจอมคน!"จงซานที่ส่ายหน้าไปมา.

"ข้าและเจ้านั้น,มีความสามารถที่แตกต่างกันคนละแบบ,ในอดีตนั้นข้าต้องการที่จะประลองกับเจ้าจริงๆ,ทว่าน่าเสียดายไม่สามารถทำได้,เพราะว่าความทรงจำชาติที่แล้วได้ฟื้นฟูและเขตแดนจิตวิญญาณเองก็ด้วย ทำให้ข้ามีพลังที่ก้าวกระโดดไปอีกไกล,ดังนั้นการประลองกับเจ้าตอนนี้,จึงถือว่าเป็นการต่อสู้ที่ไม่เสมอภาค,ช่างน่าเสียดาย,ช่างน่าเสียดาย!"เจี้ยนอ้าวที่กล่าวย้ำ.

"จริงรึ? เช่นนั้น,ข้าจะรอต่อสู้กับเจ้า,หวังว่าจะเติมเต็มความต้องการให้ข้าได้!"จงซานที่กล่าวออกมาด้วยความมั่นใจ.

นี่คือความต้องการของจงซานเช่นกัน,กับความรู้สึกที่ฮึกเหิมลับจิตใจให้กระหายในการต่อสู้,เป็นหนึ่งในความรู้สึกของนักรบ,เพื่อสนองความต้องการของจิตใจ,จงซานเองก็ไม่ต่างกันกับเจี้ยนอ้าว,แน่นอนว่าย่อมมีเป้าหมาย,การต่อสู้เป็นหนึ่งในการกลั่นและบีบคั้นความสามารถ,เป็นหนึ่งในการยกระดับตัวเองให้สูงขึ้นด้วย.

"ตกลง,ข้ารับคำของเจ้า,ในชีวิตนี้,เจ้านับเป็นคนที่สองที่ข้าต้องการประลองด้วย."เจี้ยนอ้าวที่สูดหายใจลึก,ราวกับรู้สึกเบาใจ.

จงซานยักจอกสุราชนกับเจี้ยนอ้าวอีกครั้ง.

"คนที่สองรึ? ใครเป็นคนแรกรึ? หยิง?"จงซานสอบถามออกไป.

"ไม่ใช่,เขาได้ออกจากโลกใบเล็กไปนานแล้ว,เป็นหนึ่งคนที่ข้ารู้จักในชาติที่แล้ว,คนนี้นับเป็นยอดฝีมือที่ร้ายกาจมาก,เพราะการต่อสู้กับเขา,ทำให้ข้าต้องเผชิญหน้ากับกำแพงที่ไม่สามารถกระโดดข้ามนับร้อยปี,ช่างน่าเสียดายการประลองจริงจะเริ่ม,ข้ากับพบว่าตัวเองได้พบจุดอ่อนในวิถีกระบี่ของตัวเอง,การประลองจริงข้าจึงไม่ได้ไปพบกับเขา,เขาจึงได้ก้าวไปสู่โลกใบใหญ่,เป็นไปได้ว่าเขาอาจจะรอข้าที่โลกใบใหญ่แล้ว,หวังว่าจะได้ตอบสนองความต้องการในอดีตของข้าได้อีกครั้ง!"เจี้ยนอ้าวกล่าวพลางถอนหายใจ.

"เจ้าที่บำเพ็ญกรรม,ส่วนข้านั้นบำเพ็ญกรรม,ดูเหมือนว่ามันจะมีข้อจำกัดต่อกันอยู่!"จงซานที่ส่ายหน้าไปมา.

"คนละสายการบำเพ็ญแตกต่างกันรึ?!"เจี้ยนอ้าวที่กล่าวถามออกมา.

"ใช่แล้ว,มีข้อแตกต่างกัน."จงซานที่กล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม.

"พวกเราจะประลองกันที่โลกใบใหญ่เป็นอย่างไร?"เจี้ยนอ้าวกล่าว.

"คำใหนคำนั้น!"

"การประลองที่เทือกเขาเหม่ยซาน,เจ้ามีความคิดเห็นอย่างไร?"จงซานที่กล่าวสอบถามออกมา.

"การประลองที่เทือกเขาเหม่ยซานนี้,เป็นเพียงอย่างหนึ่ง,ที่จะเติมเต็มเป้าหมายของข้า,จุดประสงค์หลักของข้านั้นเพียงแค่ต้องการร่ำสุราพูดคุยกับเจ้าท่ามกลางทุ่งดอกเหมยเ,เป็นการร่ำลา!"เจี้ยนอ้าวกล่าว.

"เป็นการล่ำรา? เจ้าจะก้าวสู่โลกใบใหญ่แล้วรึ?"จงซานที่ขมวดคิ้วไปมา.

"ถูกแล้ว,กับสถานการณ์ในทวีปศักดิ์สิทธิ์เวลานี้เจ้าควรจะเข้าใจดีกว่าใคร,กับการแย่งชิงความเป็นหนึ่งในโลกหล้าหรือรวมแผ่นดินเข้าด้วยกัน,นั่นไม่ใช่เป้าหมายของแดนเทพอเวจี,ดังนั้นข้าจึงได้เตรียมการที่จะนำเหล่าศิษย์ของแดนเทพอเวจี,ทะลวงมิติ,ก้าวสู่โลกใบใหญ่ด้วย!"เจี้ยนอ้าวกล่าว.

"ศิษย์ของแดนเทพอเวจี? บินขึ้นสู่ท้องฟ้าด้วย?"จงซานที่ตื่นตะใจเล็กน้อย.

"โลกดินแดนของแดนเทพอเวจีนั้น,บางที่มีใครบางคนที่กำลังช่วยเจ้าอยู่ก็รู้เรื่องนี้,เขาเองก็เคยคิดที่จะนำแดนเทพอเวจีบินขึ้นสู่ท้องฟ้าเช่นกัน."เจี้ยนอ้าวกล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม.

"หืม? เจ้ารู้ด้วยอย่างงั้นรึ?"จงซานที่แสดงท่าทางประหลาดใจเล็กน้อย,ที่เจี้ยนอ้าวรู้เรื่องราวในภพหยินด้วยอย่างงั้นรึ?

"แดนเทพอเวจีนั้นถูกเปิดออกมาโดยกล้า,เมื่อข้าก้าวสู่โลกใบใหญ่,ตราบเท่าที่ศิษย์โลกอมตะอยู่ด้านใน,ข้าก็สามารถนำพวกเขาออกไปได้ด้วย!"เจี้ยนอ้าวกล่าวอย่างมั่นใจ.

"อืม!"จงซานพยักหน้า.

แม้ว่าเจี้ยนอ้าวจะได้รับการสืบทอดประมุขจากหนานกงเซิ่ง,ทว่า,เจี้ยนอ้าวในชาติที่แล้วนั้นก็คือประมุขของแดนอเวจีด้วยเช่นกัน,กล่าวได้ว่าคุ้นเคยกับแดนเทพอเวจีไม่ได้ด้อยกว่าหนานกงเซิ่งเลย.

"พลังฝึกตนของเจ้าเป็นอย่างไรบ้าง?"

"พรุ่งนี้วันที่ 15 เจิ้งเยว่,เมื่อพระจันทร์เต็มดวง,ขาก็จะก้าวสู่จุดสุดของแดนมนุษย์,พร้อมกับทะลวงผ่านสวรรค์."เจี้ยนอ้าวกล่าวด้วยความมั่นใจ.

"ยินดีกับเจ้าด้วย."

"ก่อนที่ข้าจะจากไปนั้น,การได้พบกับเจ้า,อาจนับว่าทำให้ข้าได้พบกับสิ่งดีๆหลายอย่าง,ข้ารู้ว่าเจ้านั้นมุ่งหวังที่จะเป็นผู้มีอำนาจในโลกใบนี้,ข้ามีสิ่งของจะมอบให้เจ้าด้วย,สิ่งนี้ถือว่าเป็นสิ่งที่จะเติมเต็มความคาดหวังของข้าด้วย,ก่อนที่ข้าจะจากไป!"เจี้ยนอ้าวกล่าว.

กล่าวจบ,เจี้ยนอ้าวก็นำคัมภีร์ม้วนหนึ่งออกมาให้กับจงซาน.

ม้วนคำภีร์ดังกล่าวนี้ดูเก่าแก่มีอายุไม่ต่ำกว่าหมื่นปี,มีประกายแสงสีทองม่วงแผ่ออกมารอบๆ.

"มันคืออะไรอย่างงั้นรึ?"จงซานที่ขมวดคิ้วไปมาเล็กน้อย.

"วิถีแห่งกฏในการสร้างแผนที่ก่อเกิดบรรพกาล!"เจี้ยนอ้าวกล่าว.

"หืม?"

"แผนที่ก่อเกิดบรรพกาลนี้,ในชาติที่แล้วนั้น,ข้าได้หลงลืมมันไปแล้ว,ทว่าขณะที่ข้าได้เปิดแดนเทพอเวจีอีกครั้งนั้นก็พบฉบับคัดลอกนี้เข้า!"เจี้ยนอ้าวกล่าว.

"แผนที่ก่อเกิดบรรพกาล?กฎเกณฑ์ในการหลอมมันขึ้นมาอย่างงั้นรึ?"จงซานที่ขมวดคิ้วไปมาจดจ้องมองไปยังเจี้ยนอ้าว.

"ข้าคิดว่าเจ้าควรจะรู้เกี่ยวกับแผนที่ก่อเกิดบรรพกาลแล้ว,พร้อมทั้งความยอดเยี่ยมของมัน,แผนที่ก่อเกิดบรรพกาลนั้น,ครั้งหนึ่งเคยเป็นของล้ำค่าที่มีค่าที่สุดของมหาปราชญ์เทพ,หลังจากที่มหาปราชญ์เทพลวงหล่นลงจากท้องฟ้า,แผนที่ก่อเกิดบรรพกาลก็ได้ล่วงหล่นระเบิดออกเป็นเสียงๆ,พร้อมกับหล่นลงมายังโลกใบใหญ่,ประมุขแดนเทพอเวจีรุ่นที่หนึ่งได้รับมันมาชิ้นหนึ่ง,เข้าใจถึงกฏเกณฑ์ในการหลอมมันขึ้นมา! สามารถหลอมเป็นของวิเศษล้ำค่าที่สุดของปราชญ์เทพ,ข้าจะมอบมันให้กับเจ้าเผื่อว่ามันจะมีประโยชน์ในการกำราบทวีปศักดิ์สิทธิ์!"เจี้ยนอ้าวกล่าว.

"กฎเกณฑ์ในการหลอมของวิเศษระดับปราชญ์เทพ? ข้าคงไม่สามารถรับของล้ำค่าขนาดนี้ได้,ข้าไม่ได้กระทำอะไรให้เจ้าถึงขนาดนั้น!"จงซานที่สายหน้าไปมา.

"ไม่,เจ้าสมควรแล้ว,เจ้าทำให้เจี้ยนหงกลับมาหาข้าอีกครั้ง,ทุกอย่างก็เพราะเจ้า,เจี้ยนหงคือหัวใจของข้า,ถึงแม้ว่ามันจะล้ำค่ากว่านี้ร้อยเท่า,หากว่าเจ้าสามารถฟื้นชีพเจี้ยนหงได้แล้วล่ะก็,มันก็สมควรที่จะมอบให้เจ้าแล้ว,และนี่ก็เป็นเพียงแค่ฉบับคัดลอกเท่านั้น!"เจี้ยนอ้าวกล่าว.

จงซานที่สูดหายใจลึก,พร้อมกับพยักหน้ารับ,"เช่นนั้นจงซาน,เสียมารยาทแล้ว!"

เจี้ยนอ้าวพยักหน้า,จงซานไม่ได้เปิดมันออกมา,ทว่าได้เก็บมันเข้ากำไลมิติไป.

"ก่อนที่จะประลองกับข้า,ขอให้มีชีวิตรอดก็พอแล้ว!"เจี้ยนอ้าวที่เอ่ยออกมาด้วยรอยยิ้ม.

"ตกลง,ข้าจะต้องมีชีวิตรอด,เชิญ!"จงซานที่ยกสุราดอกเหม่ยขึ้นด้วยรอยยิ้ม.

"เชิญ!"

เจี้ยนอ้าวและจงซาน,แม้ว่าจะเพิ่งพบกัน,ทว่ามิตรภาพที่พวกเขามีนั้นกับดูแนบแน่นราวกับสหายเก่าแก่,พวกเขาได้พูดคุยเรื่องต่างๆนาๆถึงหนึ่งวันหนึ่งคืน.

วันถัดมา,พื้นที่รอบๆ,สายตาของผู้ชมจดจ้องมองไปยังคนสี่คนกลุ่มหนึ่งที่ปรากฏขึ้นที่ทิศตะวันตกเฉียงใต้.

เต๋าจวินเซิ่งหย๋า,เย่ชิงเฉิง,เฉินฉีเทียน,ฮามะไล.

เวลานี้ก็คือวันที่ 15 เจิ้งเยว่,การประลองตามนัดหมายที่เทือกเขาเหมยซาน.








ที่มาจากhttps://lnmtl.com/novel/immortality

#นิยาย เรื่องอมตะ #Immortality#นิยายแปลไทย
Author(s)


สนใจสนับสนุนพวกเรา,เข้าร่วมกลุ่ม VIP ====> Click

ปัจจุบันแปลจบแล้ว 1672 ตอน สนใจติดต่อเข้ากลุ่มลับได้ครับ

***เว็ปฟรีอัพ สองวันหนึ่งตอน
***กลุ่มลับ แปลจบแล้ว.

 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น