วันอังคารที่ 21 เมษายน พ.ศ. 2563

Immortality Chapter 733 Weird Ten-thousand Evils Body

Immortality Chapter 733 Weird Ten-thousand Evils Body

นิยาย เรื่อง อมตะ ตอนที่ 733 ร่างสถิตหมื่นปิศาจที่แปลกประหลาด.


Chapter 733 Weird Ten-thousand Evils Body
的万邪之体
ร่างสถิตหมื่นปิศาจที่แปลกประหลาด.

"เอาล่ะ,เจ้ากล่าวมา,มันเกิดอะไรขึ้น,ทำไมคำสาบเจ้าใช้ไม่ได้ผล,ทำจักรพรรดิพิษถึงตาย? ทำไมเจ้าถึงได้ไปหาเรื่องคนของโลกอมตะ?"จงซานพยักหน้ารับและสอบถามออกไป.



ได้ยินคำถามของจงซานแล้ว,เห่าเม่ยหลี่ที่นึกถึงเรื่องราวที่เจ็บปวดขึ้นมาในทันที,จากนั้นใบหน้าของนางที่เปลี่ยนเป็นดุร้าย.

"มันมีนามว่าโจวเหยาซือ(ปรมาจารย์อสุรกายคำสาบ) มันใช้วิชาคำสาบ,สังหารอาจารย์,ข้าต้องการให้มันตาย!"ใบหน้าของเห่าเม่ายหลี่ที่เผยความเกลียดชังที่ฝังลึกลงไปในใจเจาะลึกไปจนถึงกระดูก.

"โจวเหยวซือ? เป็นใครกัน?"จงซานสอบถาม.

"ข้าเองก็ไม่รู้ว่ามันใช้วิชาคำสาบอะไร,ทว่าใบหน้าของมันเหมือนอสุรกาย,น่าเกียจเป็นอย่างมาก!"เห่าเม่ยหลี่ที่นั่งคิด.

"เรื่องนี้,เจ้าควรจะเล่าตั้งแต่แรกให้ข้าฟัง,เจ้าไปมีเรื่องกับคนโลกอมตะได้อย่างไร?"จงซานครุ่นคิดและกล่าวออกมา.

"อืม,ตั้งแต่แรกนั้น,ข้าและอาจารย์ได้ท่องเที่ยวไปทุกที่,และบังเอิญไปยินคนโลกอมตะคนหนึ่งคุยกัน,ได้ยินเกี่ยวกับที่พวกเขาพูดคุยกันเกี่ยวกับเรื่องของอนุสาวรีย์อมตะสิบเอ็ดอัน!"เห่าเม่ยหลี่ที่ครุ่นคิดและกล่าวออกมา.

"อนุสาวรีย์อมตะ? ตอนนี้เหลืออีก 22 อัน,ไม่ใช่ว่ามันอยู่ในราชวงศ์สวรรค์ต้าสุ่ยและแดนเทพอมตะหรอกรึ?"จงซานที่ขมวดคิ้วไปมา.

"ข้าก็คิดเช่นนั้น,ทว่าข้าได้ยินมาว่าโจวเหยาซือนั้นเป็นคนนำอนุสาวรีย์อมตะลงมาในภพหยิน,โดยวิธีใดนั้นไม่อาจรู้ได้!"เห่าเม่ยหลี่กล่าว.

"หืม?"

"อาจารย์นั้นเพิ่งก้าวไปถึงระดับราชันย์แท้,ส่วนข้านั้นเพิ่งก้าวไปถึงระดับจักรพรรดิแท้,แม้ว่าข้านั้นจะมีระดับจักรพรรดิแท้,แต่ก็ไม่มีทางพ่ายแพ้ระดับสวรรค์แท้อย่างแน่นอน,เพลิงคำสาบของข้านั้นทรงพลังมากยิ่งกว่าเดิม,นับตั้งแต่เจ้ามอบตำราวิชาอาคมปิศาจสวรรค์ให้,ข้าจึงไม่กลัวคนของโลกอมตะ,พวกเราจึงได้เดินทางไปยังโลกอมตะ!"เห่าเม่ยหลี่ที่กล่าวออกมาด้วยความเจ็บปวด.

"หลังจากนั้น?"
............

สองปีก่อนหน้านั้น,ที่เทือกเขาแห่งหนึ่ง,สถานทีแห่งนั้นมีสิ่งก่อสร้างมากมาย,และยังมีผู้ฝึกตนหลายคนที่บินไปมา.

ที่ตรงกลางสิ่งก่อสร้างมากมายนั้น,มีตำหนักขนาดใหญ่,ที่เขียนชื่อเอาไว้ว่า,โลกอมตะ.

ในวันหนึ่งที่,บนเทือกเขาแห่งหนึ่งมีคนสองคนทีบินไปยังเทือกเขาตรงกลาง,สองคนหนึ่งคน,หนึ่งคนที่สวมชุดเสื้อคลุมยาวสีเลือง,นับเป็นหญิงสาวที่งดงาม,อีกคนหนึ่งเป็นคนที่สวมชุดสว่าง,เป็นชายชราที่ใบหน้าเหมือนกับอสุรกาย.

เป็นเห่าเม่ยหลี่และจักรพรรดิพิษปัจจิมนั่นเอง!

"ไป!"จักรพรรดิพิษปัจจิมที่เผยยิ้มออกมาเล็กน้อย.

"ตาเฒ่า,โลกอมตะไม่ใช่คู่มือของพวกเรา!"เห่าเม่ยหลี่ที่จ้องมองไปยังที่ต้องกลางเทือกเขา.

"แดนเทวะนั้น,ไม่ใช่สถานที่ธรรมดา,พวกเรา,ไปอย่างสันติก่อน"ชายชราจักรพรรดิพิษที่กล่าวด้วยรอยยิ้มเล็กน้อย.

พวกเขาทั้งสองที่บินลงไปยังสิ่งก่อสร้างที่ซับซ้อนบนเทือกเขาแห่งหนึ่ง.

"หยุดตรงนั้น,ผู้มาเป็นใคร?"มือกระบี่ในชุดสีน้ำเงินที่เข้ามาขวางพวกเขาทั้งสอง.

"สำนักเหวิน,จักรพรรดิพิษขอเข้าพบโจวเหย๋าซือ,แดนเทพอมตะ!"จักรพรรดิพิษที่กล่าวออกไป.

"สำนักเหวิน? ไม่เห็นเคยได้ยิน,เจ้าต้องการพบกับโจวเหยาซือ,มีอะไร? มีเรื่องอะไร?ถึงต้องการพบกับโจวเหยาซือ?"มือกระบี่ในชุดสีน้ำเงินที่กล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงอหังการการก่อนหน้า,เมื่อได้ยินคำว่าโจวเหย๋าซือ,ใบหน้าถึงกับเปลี่ยนเป็นขาวซีด.

ดูเหมือนว่าโจวเหย๋าซือ(ปรมาจารย์อสุรกายคำสาป) ถึงจะเป็นมือกระบี่ก็ยังรู้สึกหวาดกลัวกับนามดังกล่าว.

"มีปัญหาอะไร?"จักรพรรดิพิษที่ขมวดคิ้วไปมา.

"ยังไม่รีบไปอีก!"เห่าเม่ยหลีกล่าวออกมาเสียงดัง.

มือกระบี่ชุดสีน้ำเงินขมวดคิ้วไปมาจดจ้องมองไปยังคนทั้งสอง"พวกเจ้ามีธุระอะไร?"

"มีธุระอะไรอย่างงั้นรึ? เพียงแค่ไปแจ้งโจวเหย๋าซือก็พอแล้ว!"เห่าเม่ยหลี่ที่กล่าวออกมาด้วยท่าทางทนไม่ไหว.

จักรพรรดิพิษที่อยู่ข้างๆจดจ้องมองไปยังเห่าเม่ยหลี่,เผยยิ้มเล็กน้อย,กับนิสัยทะนงของเห่าเม่ยหลี่ที่เหมาะกับสำนักเหวินนัก,ทำให้เขารู้สึกพึงพอใจในตัวของเห่าเม่ยหลี่เป็นอย่างมาก,กับทุกคำพูดของนาง,จักรพรรดิพิษจึงไม่ได้ว่ากล่าวอะไร,กับความถือดีนี้,เป็นลักษณะเฉพาะเหมือนกับของเขาเช่นกัน.

"เกินไปแล้ว,พวกเจ้าคิดว่าตัวเองอยู่ที่ใหนกัน?"มือกระบี่ในชุดสีน้ำเงินที่จดจ้องมองด้วยสายตาที่เย็นชา.

"ทางที่ดีเจ้าอย่าได้มาหาเรื่องข้า,ไม่เช่นนั้นข้าอาจทนไม่ได้!"เห่าเหม่ยหลี่กล่าวออกมาด้วยเสียงเหยียดหยัน.

"ทนไม่ได้,เจ้าคิดว่าเจ้า......,ทำไมข้าวิงเวียน?"มือกระบี่ชุดน้ำเงินคราแรกที่กำลังพูดจาเสียงดัง,ทันใดนั้นก็รู้สึกหน้ามืดขึ้นมาในทันที.

"ศิษย์พี่,เป็นอะไรไป?"

ชายอีกคนที่บินตรงมา,พร้อมกับเข้าไปประครองมือกระบี่ชุดสีน้ำเงินเอาไว้,ไม่เช่นนั้นแล้วเขาคงจะล้มลงหมดสติไปอย่างแน่นอน.

ไม่นานหลังจากนั้น,ก็มีเหล่าผู้ฝึกตนมากมายที่เข้ามารุมล้อม.

"มีคนเข้ามาสร้างปัญหา!"คนๆหนึ่งที่ร้องตะโกนออกไป,พร้อมกับปรากฏคนมากมายเข้ามาล้อมพวกเขา.

คนกลุ่มหนึ่งที่ใบหน้าเต็มไปด้วยจิตสังหารจดจ้องมองจักรพรรดิพิษและเห่าเม่ยหลี่.

"แจ้งโจวเหย๋าซือให้มาพบข้า,อย่าได้ทำให้ข้าโกรธเกรี้ยว!"เห่าเม่ยหลี่กล่าวออกมาเสียงดัง.

"กล้ามาสร้างปัญหาในโลกอมตะของพวกเราอย่างงั้นรึ? ศิษย์พี่ทุกคน,ช่ายกันจับพวกมัน,และทำการลงโทษตามกฏของสำนัก!"ชายในชุดสีแดงที่กล่าวออกมาเสียงดัง.

"ชิ!"

จักรพรรดิพิษแค่นเสียงเย็นชา.
Immediately, audiences Expert completely dizzy heavy falling in the ground.
ทันใดนั้น,เหล่าผู้ฝึกตนมากมายเริ่มวิ่งเวียนหลายคนที่ล้มหมดสติบนพื้นทีละคนทีละคน.

หลายๆคนของโลกอมตะที่กรูกันเข้ามา,ต่างก็ล้มลงกันไปทั้งหมด.

"นี่เจ้า,กล้าที่จะวางยาพิษกับข้าอย่างงั้นรึ?"ชายในชุดสีแดงที่กล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงที่ดุร้ายอย่างที่สุด.

"ข้าไม่ได้ต้องการเป็นศัตรูกับโลกอมตะ,หากต้องการมีชีวิต,เจ้าควรจะรู้ว่าควรจะหุบปากเอาไว้จะดีกว่า,การพ่นคำพูดเหลวไหลออกมานั้น,ถึงได้มีสภาพเช่นนั้นไงล่ะ!"จักรพรรดิพิษที่กล่าวออกมา.

"เจ้า!"

หลังจากถูกยาพิษที่ทำให้มึนเมา,ชายในชุดสีแดงที่รู้สึกโกรธเกรี้ยวเป็นอย่างมาก,ภายในใจที่ต้องการฉีกกระชากพวกเขาให้ตกตายไป.

จักรพรรดิพิษที่จ้องมองออกไป,ไม่สนใจเขาแม้แต่น้อย,แถมยังเผยท่าทางเหยียดหยันด้วยซ้ำ,ชายในชุดสีแหงที่หันหน้าไปมองเห่าเม่ยหลี่ด้วยสายตาดุร้าย.

สายตาของเขาที่จ้องมองเห่าเม่ยหลี่,ภายในใจที่กำลังสาบแช่ง,รอให้ท่านประมุขออกมา,ข้าจะให้เจ้าตายเหมือนหมา.

"พุ!!"

ทันใดนั้นชายในชุดสีแดงชาด,เขาเองไม่รู้แม้แต่น้อยว่าเกิดอะไรขึ้น,ปากของเขาที่พ่นโลหิตออกมาอย่างบ้าคลั่ง,ใบหน้าที่เจ็บปวดแสนสาหัส,ราวกับว่ากำลังจะตกตายในไม่ช้านี้.

"ศิษย์พี่ใหญ่!"เหล่าผู้ฝึกตนทุกคนที่อุทานออกมาเสียงดัง.

"เจ้าปิศาจเฒ่า,เจ้ากล้าทำร้ายพวกเราอย่างงั้นรึ?"ทุกคนที่นอนโทรมอยู่บนพื้นกำลังเต็มไปด้วยความโกรธเกรี้ยว.

"เรื่องนี้ไม่ได้เกี่ยวกับตาเฒ่า,เขาแส่หาความตายเอง!"เห่าเม่ยหลี่ที่กล่าวออกมาไม่สนใจคนเหล่านั้นแม้แต่น้อย.

สายตาของทุกคนทันใดนั้นก็จ้องมองไปยังเห่าเม่ยหลี่,สายตาของทุกคนที่เต็มไปด้วยความโกรธเกรี้ยวแผ่ออกมา.

"นังผู้หญิงสารเลว!"

"พุ!!"

ทันทีที่พวกเขาดุด่าเห่าเม่ยหลี่,พวกเขาก็ถูกคำสาบในทันที,พ่นโลหิตออกมาอย่างบ้าคลั่ง,จากนั้นก็ร้องโอดโอยด้วยความเจ็บปวดทรมาน.

แปลกมาก! เพียงแค่ด่านาง,พวกเขาก็ได้รับบาดเจ็บหนัก,ผิดปรกติเกินไปแล้ว! เหล่าคนที่ล้มลงนอนกลิ้งไปมาบนพื้นตอนนี้,ยิ่งรู้สึกเกลียดชังมากยิ่งขึ้น!

"พุ!!"

ความสาปที่แสดงผลแม้ว่าเห่าเม่ยหลี่จะไม่ได้ลงมือ,เหล่าคนแล้วคนเหล่าที่ต้องพ่นโลหิตออกมาอย่างบ้าคลั่ง,ทั้งที่เขาทำให้คนเหล่านี้หมดสติไปบ้างแล้วก็ตาม.

จักรพรรดิพิษที่จดจ้องมองคนเหล่านั้น,พร้อมกับเผยสีหน้าทางทางอย่างช่วยไม่ได้,ทั้งที่ต้องการช่วยพวกเขา,หากแต่เป็นพวกเขาเองที่ทำให้ตัวเองต้องพบกับสถานการณ์ที่แย่ลง,เห่าเม่ยหลี่คนนี้? ผู้มีร่างหมื่นปิศาจ! ผู้ได้รับการอวยพรจากสวรรค์,ใครหาญกล้าล่วงเกินนาง?

เห่าเม่ยหลี่ที่จ้องมองคนกลุ่มคนดังกล่าวด้วยสายตาเหยียดหยัน,จักรพรรดิพิษที่ได้แต่เงียบเช่นกัน.

ในเวลาเดียวกันนั้น,ก็มีคนจากโลกอมตะออกมาอีก.

เขาที่เห็นคนกลุ่มหนึ่งที่หมดสติอยู่บนพื้น,คนอีกกลุ่มหนึ่งที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสพ่นโลหิตออกมาบนพื้น,เขาที่เร่งรีบกลับเข้าไปด้านในทันที.
 .....
"วูซซซซ!"

คนของโลกอมตะในเวลานี้ออกมาอีกสามคน.

หนึ่งคน,เป็นชายในชุดสีขาวหนึ่งคนชุดสีน้ำเงิน,อีกคนที่สวมชุดสีแดงพร้อมกับถือกระบี่ลู่เซียน,เย่ชิงเฉิงนั่นเอง,เห็นได้ชัดเจนว่าไม่ใช่ระดับล่างของโลกอมตะออกมาอีกแล้ว.

เย่ชิงเฉิงที่ออกมา,ตรวจสอบพื้นที่รอบๆ,จดจ้องมองไปยังคนของโลกอมตะที่กำลังนอนระเนระนาดอยู่บนพื้น,เขาที่ขมวดคิ้วไปมา,ก่อนที่จะจ้องมองไปยังเห่าเม่ยหลี่และจักรพรรดิพิษ.

"เจ้าเป็นใคร?"เย่ชิงเฉิงที่สอบถามออกมา.

"สำนักเหวิน,จักรพรรดิพิษ,คารวะประมุขเย่! นี่คือศิษย์ของข้า,เห่าเม่ยลี่!"จักรพรรดิพิษที่กล่าวออกมาในทันที.

"สำนักเหวิน? เป็นสำนักหนึ่งในภพหยางไม่ใช่รึ? ได้ยินข่าวลืมมาว่าห้าหมื่นปีที่แล้ว,ถูกกำจัดไปทั้งหมด."เย่ชิงเฉิงที่ขมวดคิ้วไปมา.

"ประมุขแย่,ในเมื่อมันเป็นข่าวลือ,แน่นอนว่ามันก็เป็นแค่ข่าวลือ!"จักรพรรดิพิษที่กล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม.

"แล้วเจ้าต้องการอะไร?"เย่ชิงเฉิงที่กล่าวอย่างไม่แยแส.

"ข้าต้องการช่วยพวกเขา,พวกเขาเป็นคนที่คึกคะนองบุ่มบ่ามเกินไป!"จักรพรรดิพิษที่กล่าวออกมาด้วยเสียงเคร่งขรึมพลางทอดถอนใจ.

ดวงตาของเย่ชิงเฉิงที่เต็มไปด้วยความเย็นชา,เย่ชิงเฉิงที่คิดว่าจักรพรรดิพิษนั้นกำลังกล่าวหยันคนของโลกอมตะ,ทันใดนั้นก็แผ่จิตสังหารที่รุนแรงออกมา,ขณะเดียวกันก็จดจ้องมองไปยังเห่าเม่ยลี่ด้วย.

"เปรี้ยงง!"

ทักษะเทียนของเย่ชิงเฉิงที่ปรากฏออกมา,เมฆสายฟ้าสีแดง,พลังอำนาจที่ยิ่งใหญ่กำลังโถมกระหน่ำออกมา.ที่จริงมันสามารถที่จะทำร้ายพวกเขาสองคนให้ได้รับบาดเจ็บได้เลย.

"เปรี้ยง!"

อีกแห่งหนึ่ง,คล้ายทักษะเทียนที่ปรากฏออกมาขวางกั้นในทันทีเช่นกัน.พลังอำนาจที่กั้นขวางทักษะเทียนของเย่ชิงเฉิงเอาไว้.

คนทั้งสามที่พบกับเรื่องที่เกิดขึ้นถึงกับตื่นตกใจขึ้นมาในทันที,นอกจากไม่สามารถทำร้ายคนทั้งสองได้,ทว่าบนท้องฟ้าของโลกใบเล็กนั้น,ราวกับว่ามีพลังอำนาจเดือดดาลราวกับว่ากำลังจะทำร้ายพวกเขา?

สวรรค์สาป? เป็นไปได้อย่างไรที่จะเป็นสวรรค์สาป? หมายความว่าอย่างไร? เกิดอะไรขึ้นกัน? พวกเขาเรียกสวรรค์สาปมาอย่างงั้นรึ?

เย่ชิงเฉิงและพวกทันใดนั้นก็ตื่นตกใจขึ้นมาทันที,จดจ้องมองคนทั้งสองที่ทำให้ขนลุกตั้งชัน.

พวกเขาจดจ้องมองไปยังจักรพรรดิพิษ,จากนั้นก็จ้องมองไปยังเห่าเม่ยหลี่.

"ข้าขอเตือนท่านทั้งสาม,อย่าได้หาเรื่องศิษย์ของขา,แม้แต่คิดในใจก็ไม่ได้!"จักรพรรดิพิษที่กล่าวออกมาเล็กน้อย.

คนทั้งสามที่ใบหน้าเปลี่ยนเป็นซับซ้อน,จดจ้องมองเห่าเม่ยหลี่,หมายความว่าอย่างไร? หญิงสาวผู้นี้แปลกประหลาดขนาดนั้นเลยรึ?

"ร่างสถิตหมื่นปิศาจ?"เย่ชิงเฉิงที่ราวกับคิดขึ้นมาได้ในทันที.

ได้ยินคำพูดดังกล่าว,พวกเขาที่ใบหน้าเปลี่ยนไป,จากนั้นก็เบี่ยงสายตา,ไม่กล้ามองเห่าเม่ยหลี่ตรงๆ,ด้วยหวาดกลัวจะได้รับคำสาป.

ที่หน้าผากของเย่ชิงเฉิงนั้นที่มีเหงื่อไหลออกมา,อย่างไรก็ตามแววตาของเขานั้นก็ยังคงมั่นคงไม่ได้หวาดกลัวแต่อย่างใด.

"พวกเจ้าทั้งสองเดินทางมายังโลกอมตะทำอะไร?"เย่ชิงเฉิงที่กล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม.

"พวกเราไม่ได้คิดร้าย,ตราบเท่าที่ทุกท่านพูดคุยด้วยกันเป็นอย่างดี,พวกเราเพียงแค่ต้องการพบกับโจวเหย๋าซือ!"จักรพรรดิพิษกล่าว.

"โจวเหย๋าซือ? พวกเจ้าต้องการพบเขาเพื่ออะไร?"เย่ชิงเฉิงที่กล่าวด้วยเสี่ยวเคร่งขรึม.

"ตาเฒ่า,อย่าพูดอะไรให้เสียเวลากับพวกเขาเลย,คนแซ่เย่,พวกเราต้องการของบรรพชนของพวกเรา,อนุสาวรีย์อมตะคืนมา,ข้ารู้ว่ามันอยู่ในโลกอมตะ,ส่งมันมาให้พวกเรา,แล้วพวกเราจะจากไป!"เห่าเม่ยหลี่ที่กล่าวออกมาด้วยความอหังการ.








ที่มาจากhttps://lnmtl.com/novel/immortality

#นิยาย เรื่องอมตะ #Immortality#นิยายแปลไทย
Author(s)


สนใจสนับสนุนพวกเรา,เข้าร่วมกลุ่ม VIP ====> Click

ปัจจุบันแปลจบแล้ว 1672 ตอน สนใจติดต่อเข้ากลุ่มลับได้ครับ

***เว็ปฟรีอัพ สองวันหนึ่งตอน
***กลุ่มลับ แปลจบแล้ว.

 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น