Immortality Chapter 690 Beyond various gathering sword
นิยาย เรื่อง อมตะ ตอนที่ 690 สุดยอดค่ายกลกระบี่
Chapter 690 Beyond various gathering sword
诸强汇聚剑阵外
ค่ายกลกระบี่
ที่ทิศตะวันออกของราชวงศ์ต้าเจิ้ง,ราชวงศ์ราชันย์ตงหลิน,ตำหนักของเสนาบดี.
เหล่าขุนนางหลายคนและเสนาบดีกำลังพูดคุยปรึกษา,ปัญหาของตัวเองกัน.
"เสนาบดี,เป็นความจริงบางแห่งมีสงครามเกิดขึ้นแล้ว,ลูกข่ายของข้าไม่เพิ่มขึ้นเลย,ก่อนหน้านี้ข้ามีรายได้วันละ
500,000 ศิลาวิญญาณระดับสูง,ตอนนี้เหลือ 50,00.45
ศิลาวิญญาณระดับสูงเท่านั้น,อีกหน่อยต้องหดหายไปจนไม่มีเหลือแน่!"ขุนนางคนหนึ่งที่เอ่ยออกมาด้วยท่าทางเศร้าๆ.
"เสนาบดี,พวกเราเองก็เช่นกัน,สงครามเริ่มหนักขึ้น,ทุกเมืองต่างก็ประกาศภาวะฉุกเฉิน,สินค้าและทรัพยากรต่างก็มีราคาเพิ่มสูงขึ้น,ส่งผลต่อสินค้าของพวกเรา,ทำให้รายได้ของพวกเราตอนนี้ทุกวันก็ยิ่งลดลงเรื่อยๆ!"ขุนนางอีกคนที่กล่าวออกมาด้วยความรุ่มร้อนใจ.
"พวกเจ้าต้องการบอกอะไร?"เสนาบดีที่กล่าวเสียงอ่อยๆ.
"พวกเราต้องการบอกท่านอีกครั้ง,เหล่าขุนนางทุกคนต่างก็พร้อมสนับสนุนท่าน,เพื่อหยุดสงคราม,พวกเราต้องการความสงบ!"ขุนนางคนหนึ่งเอ่ย.
"พวกเจ้าควรจะรับรู้อยู่แก่ใจ,พวกเราเป็นข้าราชบริพารของราชวงศ์ตงหลิน,รับเงินเดือนของราชวงศ์,แบ่งปันความทุกข์พร้อมกับราชวงศ์,ฝ่าบาทคือศูนย์กลาง,เมื่อตัดสินใจเช่นนั้น,พวกเราก็ต้องทำตาม!"เสนาบดีกล่าวออกมาด้วยเสียงเย็นชา.
"เงินเดือนอย่างงั้นรึ?
นี่เรียกว่าเงินเดือนอย่างงั้นรึ?
จะใช้คำว่ากินเงินเดือนฝ่าบาทเพื่อมาทำลายรายได้หลักของพวกเราอย่างงั้นรึ?"ขุนนางคนหนึ่งกล่าวออกมาด้วยท่าทางไม่พอใจ.
"ฮึ!"เสนาบดีที่แค่นเสียงเย็นชา.
"เรื่องหยุดสงคราม,อย่าได้เอ่ยออกมาอีกครั้ง!"เสนาบดีที่กล่าวออกมาด้วยความโกรธ.
"ครับ!"ขุนนางคนดังกล่าวทำได้แค่พยักหน้ารับด้วยท่าทางไม่ยินดี.
เหล่าขุนนางกลุ่มนี้ได้จากไปแล้ว,เสนาบดีที่ขมวดคิ้วไปมาเล็กน้อย,ข้าราชบริพารกล้าดูหมิ่นฝ่าบาท,เรื่องนี้นับเป็นสัญญาณที่ไม่ดีนัก.
หลังจากออกมาจากตำหนักเสนาบดี,ขุนนางคนหนึ่งที่ขมวดคิ้วแน่น.
"ใต้เท้าจาง,พวกเราจะทำอย่างไรดี?
ท่านเสนาบดีดูไม่มีหวังแล้ว,พวกเราไม่เหลือวิธีแล้ว!"
"ชิ,เสนาบดี? ทุกๆวันเขาเสียหายมากกว่าพวกเราซะอีก,ตอนนี้เกรงว่าคงจะขาดทุนวันละล้านศิลาวิญญาณระดับสูงในทุกๆวัน,ไปจนถึงหลายร้อยล้านศิลาวิญญาณระดับต่ำ,รออีกสักสองสามวันค่อยมาใหม่,คอยดูว่าเขาจะยังเย็นใจอยู่ได้ใหม!"ใต้เท้าจางที่กล่าวหยัน.
"หืม?หากไม่เพราะว่าเกิดสงครามขึ้นล่ะก็,ข้าในตอนนี้คงมีรายได้
หกแสนศิลาวิญญาณระดับสูงแล้ว!"
"ตราบเท่าแค่รอ 3-5 ปี,ด้วยศิลาวิญญาณที่มี,ถึงแม้นว่าจะไม่มีราชวงศ์ใดสังกัดก็ไม่ใช่ว่าจะอยู่ไม่ได้!"ใต้เท้าซ่างที่กล่าวออกมาด้วยเสียงที่เย็นชา.
"อืม!"เหล่าขุนนางคนอื่นๆเองก็พยักหน้าเห็นด้วย.
ความเคารพและซื่อสัตย์ต่อราชวงศ์เวลานี้ได้แปรเปลี่ยนไปแล้ว!
....
บนเกาะลอยฟ้าสวนสวรรค์ลอยฟ้าหลิงเซียว,เหล่าทหารสังเกตการที่คอยจับจ้องสถานการที่กำลังอยู่ในช่วงระเอียดอ่อนเป็นอย่างมาก,รอบๆเกาะสวนสวรรค์ลอยฟ้าหลิงเซียว,บนท้องฟ้ายังมีค่ายกลกระบี่สังหารเซียนปกคลุมอยู่,กระจายไปรอบๆท้องฟ้าของสวนสวรรค์.
ราชวงศ์สวรรค์ต้าฉิน! ในท้องพระโรง.
"ฝ่าบาท,สงครามทางการค้าของต้าเจิ้งนั้น,เป็นการค้าแบบใหม่,ที่หวังทำลายเศรษฐกิจราชวงศ์ราชันย์ด้วยการค้า,ส่งผลให้คนทั่วทั้งภาคใต้กลายเป็นทาสทางการค้า!"ลู่ปู้เหว่ยที่กล่าวต่อหยิง.
แน่นอนว่าในเวลานี้,ลู่ปู้เหว่ยที่กำลังอธิบายเกี่ยวกับแผนการกลืนกินปลาตัวใหญ่,เพื่อให้หยิงได้รับฟัง.
"หลอกให้ซื้อขายกันจนหมดเนื้อประดาตัว,สูญเสียความเป็นหนึ่งใจเดียวของอาณาจักร,แล้วจัดการสินะ!"หยิงกล่าว.
"ขอรับ!"ลู่ปู้เหว่ยที่รับคำ.
"ฝ่าบาท,ได้ยินมาว่าสวนสวรรค์ลอยฟ้าหลิงเซียวตอนนี้ถูกค่ายกลกระบี่สังหารเซียนปกคลุมอยู่,นอกจากนี้ยังผ่านมาหนึ่งเดือนแล้ว,เฉินต้องการไปดูด้วยตัวเอง,ว่าสงครามการค้าของต้าเจิ้งนั้นจะเป็นไปในทิศทางใด!"ลู่ปู้เหว่ยกล่าวทูลขอต่อหยิง.
หยิงจดจ้องมองไปยังลูปู้เหว่ย,ก่อนที่จะพยักหน้า,"ได้,เจ้าไปดูด้วยตัวเองได้!"
"ขอบพระทัยฝ่าบาท!"ลู่ปู้เหว่ยที่กล่าวรับในทันที.
"ไปเรียกกุยกู!"หยิงเอ่ยปาก.
"เรียกกุยกูเข้ามา!"
จากนั้นไม่นาน,ผู้ฝึกตนฮวงจุ้ยต้าฉิน,กุยกู,ก็ก้าวเข้ามา,กุยกูที่มีเส้นผมหลอมแหลม,ผิวดำคล้ำผมติดกระดูก,ใบหน้าที่ดูค่ายข้างน่าเกียจ.
"กุยกู,คารวะเซิ่งซ่าง!"
"อืม,เจ้าเดินทางไปยังต้าเจิ้งพร้อมกับลู่ปู้เหว่ย,เพื่อสืบเรื่องเกี่ยวกับผู้ฝึกตนฮวงจุ้ยของต้าเจิ้ง,หนี่ปู่ซามา."หยิงกล่าว.
"รับด้วยเกล้า!"กุยกูที่ตอบรับในทันที.
...............
ราชวงศ์สวรรค์ต้าหยง! ท้องพระโรง.
"อ๋องไท่จง,อ๋องจ้านเทียน,เจ้าเดินทางไปยังต้าเจิ้งพร้อมกับอาวุโสเทียน!"เซิ่งซ่างต้าหยง,กู่เจิ้งอี้ที่กล่าวออกคำสั่ง.
"รับทราบ!"กู่ไท่จงพยักหน้ารับ.
...............
ค่ายกลกระบี่สังหารเซียนที่กำลังตรึงเกาะลอยฟ้าหลิงเซียวอยู่,หลังจากที่กลุ่มอิทธิพลต่างๆได้รับข่าวต่างก็เดินทางมาเก็บข้อมูลที่ราชวงศ์ราชันย์ต้าเจิ้งเป็นอย่างมาก.
หลังจากนั้นสิบวัน,ที่ไกลออกไปด้านล่างสวนสวรรค์ลอยฟ้าหลิงเซียว,มีกลุ่มอิทธิพลต่างๆมากมาย,ได้เดินทางมาดูค่ายกลกระบี่สังหารเซียน,ปราณสังหารสีดำที่ปิดท้องฟ้าคลุมเกาะสวนสวรรค์ลอยฟ้าเอาไว้.
บนท้องฟ้าสูงขึ้นไปอีก,ดวงดารา 108
ดวงที่ส่องแสงสว่างส่องลงมาด้านล่าง,ค่ายกลกระบี่สังหารเซียนที่ไม่สามารถขยับได้เช่นกัน,เห็นได้อย่างชัดเจนว่าสถานการณ์ตอนนี้ยังไม่สามารถบอกได้ว่าใครจะแพ้จะชนะ.
ราชวงศ์ราชันย์ต้าเจิ้ง?และแดนเทพอมตะ,ราชวงศ์ราชันย์ปะทะแดนเทวะ,แดนเทพอมตะในเวลานี้ถึงกับนำค่ายกลกระบี่สังหารเซียวมาใช้,คาดไม่ถึงเลยว่าจนถึงตอนนี้ก็ยังไม่ได้ผลอีกอย่างงั้นรึ?
ผู้คนมากมายที่เต็มไปด้วยความอยากรู้อยากเห็น,ราชวงศ์ราชันย์ต้าเจิ้งแข็งแกร่งขนาดนี้เลยรึ?
ด้วยความแข็งแกร่งของราชวงศ์ราชันย์,สามารถต้านแดนเทวะได้เลยอย่างงั้นรึ?
จากพื้นที่ไกลออกไปจากค่ายกลสังหารเซียน,ในหุบเขาแห่งหนึ่ง,จื่อซวินที่สวมชุดสีม่วงจับจ้องมองไปยังค่ายกล,แววตาของนางที่เต็มไปด้วยความกังวล.
"นวีชิงเฮวย,กู่เฉิงตงได้ตกตายไปแล้ว,เจ้ากำลังคิดอะไรอยู่,หากว่าเจ้ากล้าทำอะไรเช่นนั้นล่ะก็,ข้าจะไม่มีวันให้อภัยเจ้าไปตลอดกาล!"แววตาของจื่อซวินที่เต็มไปด้วยความเย็นชากล่าวออกมาด้วยเสียงที่แผ่วเบา.
ที่ยอดเขาอีกแห่งหนึ่งบนภูเขาสูง,ผู้ฝึกตนฮวงจุ้ยกุยกู,จดจ้องมองพื้นที่รอบๆ,ศึกษาเส้นโลหิตมังกร.
ที่ใกล้ๆนั้น,ลู่ปู้เหว่ยที่ถือจดหมาย,ที่มีเหล่าทหารสังเกตการณ์ที่ถูกส่งไปทั่วสารทิศส่งกลับคืนมาให้เขา
7-8 คนอยู่เป็นระยะ.
แววตาของลู่ปู้เหว่ยที่ดวงตาหรี่เล็ก,หลังจากจดจ้องมองข้อมูล,ที่มุมปากของเขาเผยรอยยิ้มเย้ยหยัน.
"เจ้าทำได้ดีมากจงซาน,เครือข่ายของเจ้าช่างกว้างใหญ่จริงๆ!"ลู่ปู้เหว่ยที่รับจดหมาย.
"ลู่ซือ,พื้นที่รอบๆนี้ข้าได้สำรวจอย่างชัดเจนแล้ว,พื้นที่แห่งนี้เป็นจุดศูนย์กลางของเส้นโลหิตมังกร,สวนสวรรค์ลอยฟ้าหลิงเซียวนั้นได้รับการอวยพรจากเส้นโลหิตมังกรทั้งแปดทิศ,ขณะที่สวนสวรรค์ลอยฟ้าหลิงเซียวกำลังข้ามวิกฤติ,ดูเหมือนว่าแผ่นดินแห่งนี้จะช่วยเพิ่มพลังให้กับสวนสวรรค์ลอยฟ้าหลิงเซียว,ที่สวนสวรรค์ลอยฟ้าหลิงเซียวไม่ได้รับความเสียหาย,บางที่คงเกี่ยวกับเรื่องนี้ด้วย!"กุยกูกที่กล่าวออกมาเบาๆ.
เกี่ยวกับเรื่องฮวงจุ้ย,กุยกูย่อมเต็มไปด้วยความมั่นใจ.
"อืม,ที่นี่ไม่มีอะไรน่าสนใจ,พวกเราไปเถอะ,ไปดูว่าหนีปู่ซานั้นกำลังทำอะไร!"ลู่ปู้เหว่ยที่พยักหน้ารับ.
"หนีปู่ซา?
หนี่ปู่ซาไม่ได้อยู่ที่นี่หรอกรึ?
สวนสวรรค์ลอยฟ้าหลิงเซียวที่ต้องเผชิญหน้ากับศัตรู,เขายังจะเดินทางไกลอยู่อีกรึ?"กุยกูกล่าว.
"แน่นอน,ข้าต้องการจะตรวจสอบเรื่องอื่นด้วย!"ลู่ปู้เหว่ยที่กล่าวหนักแน่น.
"ไม่ว่าหนีปู่ซาไปใหน,แน่นอนสุดท้ายเขาก็ต้องกลับมา,ฝ่าบาทให้ข้าคอยจับตาหนีปู่ซา,หากพวกเราไปที่อื่น,แล้วหนี่ปู่ซากลับมาล่ะ?"กุยกูที่ส่ายหน้าไปมา.
ได้ยินกุยกูปฏิเสธแล้ว,ดวงตาของลู่ปู้เหว่ยที่หรี่เล็กลง,พร้อมกับกล่าวออกมาทันที,"กล่าวเช่นนี้เจ้าไม่ยินดีที่จะไปกับข้าอย่างงั้นรึ?"
"ลู่ซือเจ้าก็มีความคิดของเจ้า,ทว่าข้าเองก็มีความคิดของข้าเช่นกัน,ฝ่าบาทก็ไม่ได้ออกคำสั่งว่าให้ข้ารับฟังคำสั่งของเจ้า,อีกอย่างสถานะของข้าในต้าฉินก็ไม่ได้ด้อยกว่าเจ้า,ทว่าเจ้ากับให้ค่ากับตัวเองมากไปหรือไม่!"กุยกูที่ส่ายหน้าไปมา.
เห็นได้อย่างชัดเจนว่าเขาที่เป็นผู้ฝึกตนฮวงจุ้ยย่อมมีความทระนงเป็นธรรมดา,กับการรวบรวมวาสนาของแผ่นดิน,ทำให้ผู้ฝึกตนฮวงจุ้ยมีสถานะที่พิเศษ,ยกเว้นเจ้าของราชวงศ์แล้ว,เขาไม่เคยก้มหัวให้กับใคร.
"ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า,ให้ค่าตัวเองอย่างงั้นรึ?
มีเพียงเหล่าผู้ก่อตั้งเท่านั้นที่พูดเช่นนี้กับข้า,แต่เจ้า?"ลู่ปู้เหว่ยที่เผยยิ้มที่แปลกประหลาดออกมา.
ให้ค่ากับตัวเองอย่างงั้นรึ?
ภายในต้าฉินยกเว้นขุนนางชราของหยิงไม่กี่คน,ยังมีใครอีกที่กล้าพูดเช่นนี้กับลู่ปู้เหว่ย,ก่อนหน้านี้อาจจะใช่,หากเมื่อวิญญาณของเขาหวนกลับจะยังมีใครกล้าพูดกับเขาเช่นนี้ได้กัน.
"ชิ!"กุยกู่แค่นเสียงเย็นชา.
"ข้าคร้านจะโต้เถียงกับเจ้า,ไม่เช่นนั้นจะมีคนมาตำหนิข้าว่าข่มเหงผู้เยาว์,จำคำพูดก่อนหน้านี้ให้ดี,ยกเว้นเหล่าผู้ก่อตั้ง,ไม่เคยมีใครกล้าพูดเช่นนี้กับข้า!"ลู่ปู้เหว่ยที่กล่าวออกมาด้วยเสียงเย็นชา.
จากนั้น,ลู่ปู้เหว่ยที่สะบัดแขนเสื้อและหายไปต่อหน้ากุยกู.
เห็นลู่ปู้เหว่ยจากไปแล้ว,กุยกูที่ขมวดคิ้วไปมา,ไม่สนใจอีก,เวลานี้เขาที่จดจ้องมองไปยังค่ายกลกระบี่สังหารเซียน,และศึกษาเกี่ยวกับแผนผังฮวงจุ้ยต่อไป.
........
หลังจากนั้นอีกสามวัน.
บนหุบเขาแห่งหนึ่งที่ไกลออกมาจากค่ายกลสังหารเซียน.
อาวุโสเทียนที่เดินค้ำไม้เท้า,สายตาที่จดจ้องมองแผนผังฮวงจุ้ยขนาดใหญ่.
ที่ข้างๆนั้น,เป็นอ๋องไท่จงและอ๋องจ้านเทียนของราชวงศ์สวรรค์ต้าหยกที่จดจ้องมองข้อมูลที่ได้รับมา,พร้อมกับขมวดคิ้วไปมาเล็กน้อย.
"เผ่าเต่าทมิฬคาดไม่ถึงเลยว่าจะภัคดีต่อต้าเจิ้งและถูกส่งออกมาสู่สนามรบอย่างงั้นรึ?
นอกจากนี้บอกเรื่องที่สำคัญขนาดนี้กระจายไปทั่วหล้าเลยอย่างงั้นรึ?"อ๋องจ้านเทียนที่ขมวดคิ้วไปมาพร้อมกับจดจ้องข้อมูลที่ได้มา.
"บางที่อาจจะมีอะไรบางอย่างซ่อนอยู่ในนั้นก็เป็นได้!"อ๋องไท่จงพยักหน้ารับ.
"นอกจากนี้สงครามครั้งนี้ยังเต็มไปด้วยความแปลกประหลาด,ราวกับว่าจงซานรับรู้อยู่แล้ว,หากเขาไม่รู้ล่ะก็,เหล่ากองกำลังทหารเป็นจำนวนมากคงจะไม่ขึ้นกับเซียนเซิงสุ่ยจิงคนเดียวหรอก"อ๋องจ้านเทียนที่ขมวดคิ้วไปมาเล็กน้อย.
"เซียนเซิงสุ่ยจิง? เป็นคนที่มีพรสวรรค์ที่น่าตื่นตะลึง,สามารถยันศัตรูสี่ราชวงศ์ราชันย์ได้อยู่หมัดทีเดียว,ช่างน่าเสียดาย,ตอนแรกเกือบที่จะได้เป็นบุตรบุญธรรมของพวกเราแล้ว!"อ๋องไท่จงที่กล่าวพลางถอนหายใจเบาๆ.
"อืม!"อ๋องไท่จงพยักหน้า.
"อาวุโสเทียน,ท่านเห็นอะไรอย่างงั้นรึ?"อ๋องไท่จงที่จ้องมองไปยังอาวุโสเทียน.
"แน่นอนว่าข้าเห็น,หนี่ปู่ซานับเป็นคนที่มีความสามารถในการวางตำแหน่งฮวงจุ้ยได้อย่างร้ายกาจน่าหวาดกลัวจริงๆ,ถึงบอกพวกเจ้าไป,พวกเจ้าก็คงไม่เข้าใจ,ทว่าข้าพบคนผู้หนึ่งที่น่าสนใจ!"อาวุโสเทียนที่กล่าวออกมาเบาๆ.
"หืม?"
"นอกเหนือจากหนี่ปู่ซาแล้ว,ในทวีปศักดิสิทธิ์ยังมีคนบำเพ็ญฮวงจุ้ย,ซึ่งมีอยู่ด้วยกันห้าชีพจร,สวรรค์,ปฐพี,มนุษย์,เทพและภูติ,ข้าชีพจรสวรรค์,แม้นว่าจะไม่ใช่ตัวตนที่ร้ายกาจที่สุด,แต่ก็สามารถรับรู้ถึงตัวตอนของอีกฝ่ายได้,ซือ,ตั้งแต่เนี่ยฟ่านเฉินตายไป,เขาก็หายไปจากทวีปศักดิ์สิทธิ์,เฉินซิวเองก็หายไปก่อนหน้านี้หลายปีไม่เห็นเลย,ไม่รู้ว่าตกตายไปแล้วรึยัง,ดังนั้นชีพจรของเฉินซิวและซือ,สองชีพจรนี้จึงไม่ปรากฏขึ้นในทวีปศักดิ์สิทธิ์!"อาวุโสเทียนที่กล่าวออกมาเบาๆ.
"อืม!"อ๋องทั้งสองที่พยักหน้ารับหากแต่ไม่ได้พูดอะไร,ยังคงรับฟังอาวุโสเทียน.
"ในทวีปศักดิ์สิทธิ์ตอนนี้จึงมีเพียงเหรินชุนและกุยกู,เหรินชุนนั้นอยู่ที่ราชวงศ์สวรรค์ต้าสุ่ย,ส่วนกุยกูนั้นอยู่ต้าจริง,ทว่า,จริงๆแล้วเขาก็อยู่ไม่ไกลจากพวกเรานี่ล่ะ!"อาวุโสเทียนที่กล่าวออกมาเบาๆ.
"กุยกูเดินทางมาอย่างงั้นรึ?"อ๋องไท่จงที่ดวงตาหรี่เล็กลง.
"อยู่ทิศทางนั้น!"อาวุโสเทียนที่ใช้ไม้เท้าชี้ไปยังทิศทางหนึ่ง.
สายตาของอ๋องทั้งสองจ้องมองเป็นสายตาเดียวกัน.
คนทั้งสองที่ครุ่นคิด,ท้ายที่สุด,อ๋องไท่จงก็กล่าวออกมาทันที,"แจ้งไปยังทุกคน,ทิศทางดังกล่าวนี้ข้าจะไปดูด้วยตัวเอง,ส่งคนไปยังทิศทางอื่น,อย่าได้ให้ศัตรูรู้ตัวได้!"
"รับทราบ!"เหล่าผู้ใต้บังคับบัญชาหลายคนที่ถอยห่างออกไปในทันที.
Chapter 690 Beyond various gathering sword
诸强汇聚剑阵外
ค่ายกลกระบี่
ที่ทิศตะวันออกของราชวงศ์ต้าเจิ้ง,ราชวงศ์ราชันย์ตงหลิน,ตำหนักของเสนาบดี.
เหล่าขุนนางหลายคนและเสนาบดีกำลังพูดคุยปรึกษา,ปัญหาของตัวเองกัน.
"เสนาบดี,เป็นความจริงบางแห่งมีสงครามเกิดขึ้นแล้ว,ลูกข่ายของข้าไม่เพิ่มขึ้นเลย,ก่อนหน้านี้ข้ามีรายได้วันละ
500,000 ศิลาวิญญาณระดับสูง,ตอนนี้เหลือ 50,00.45
ศิลาวิญญาณระดับสูงเท่านั้น,อีกหน่อยต้องหดหายไปจนไม่มีเหลือแน่!"ขุนนางคนหนึ่งที่เอ่ยออกมาด้วยท่าทางเศร้าๆ.
"เสนาบดี,พวกเราเองก็เช่นกัน,สงครามเริ่มหนักขึ้น,ทุกเมืองต่างก็ประกาศภาวะฉุกเฉิน,สินค้าและทรัพยากรต่างก็มีราคาเพิ่มสูงขึ้น,ส่งผลต่อสินค้าของพวกเรา,ทำให้รายได้ของพวกเราตอนนี้ทุกวันก็ยิ่งลดลงเรื่อยๆ!"ขุนนางอีกคนที่กล่าวออกมาด้วยความรุ่มร้อนใจ.
"พวกเจ้าต้องการบอกอะไร?"เสนาบดีที่กล่าวเสียงอ่อยๆ.
"พวกเราต้องการบอกท่านอีกครั้ง,เหล่าขุนนางทุกคนต่างก็พร้อมสนับสนุนท่าน,เพื่อหยุดสงคราม,พวกเราต้องการความสงบ!"ขุนนางคนหนึ่งเอ่ย.
"พวกเจ้าควรจะรับรู้อยู่แก่ใจ,พวกเราเป็นข้าราชบริพารของราชวงศ์ตงหลิน,รับเงินเดือนของราชวงศ์,แบ่งปันความทุกข์พร้อมกับราชวงศ์,ฝ่าบาทคือศูนย์กลาง,เมื่อตัดสินใจเช่นนั้น,พวกเราก็ต้องทำตาม!"เสนาบดีกล่าวออกมาด้วยเสียงเย็นชา.
"เงินเดือนอย่างงั้นรึ?
นี่เรียกว่าเงินเดือนอย่างงั้นรึ?
จะใช้คำว่ากินเงินเดือนฝ่าบาทเพื่อมาทำลายรายได้หลักของพวกเราอย่างงั้นรึ?"ขุนนางคนหนึ่งกล่าวออกมาด้วยท่าทางไม่พอใจ.
"ฮึ!"เสนาบดีที่แค่นเสียงเย็นชา.
"เรื่องหยุดสงคราม,อย่าได้เอ่ยออกมาอีกครั้ง!"เสนาบดีที่กล่าวออกมาด้วยความโกรธ.
"ครับ!"ขุนนางคนดังกล่าวทำได้แค่พยักหน้ารับด้วยท่าทางไม่ยินดี.
เหล่าขุนนางกลุ่มนี้ได้จากไปแล้ว,เสนาบดีที่ขมวดคิ้วไปมาเล็กน้อย,ข้าราชบริพารกล้าดูหมิ่นฝ่าบาท,เรื่องนี้นับเป็นสัญญาณที่ไม่ดีนัก.
หลังจากออกมาจากตำหนักเสนาบดี,ขุนนางคนหนึ่งที่ขมวดคิ้วแน่น.
"ใต้เท้าจาง,พวกเราจะทำอย่างไรดี?
ท่านเสนาบดีดูไม่มีหวังแล้ว,พวกเราไม่เหลือวิธีแล้ว!"
"ชิ,เสนาบดี? ทุกๆวันเขาเสียหายมากกว่าพวกเราซะอีก,ตอนนี้เกรงว่าคงจะขาดทุนวันละล้านศิลาวิญญาณระดับสูงในทุกๆวัน,ไปจนถึงหลายร้อยล้านศิลาวิญญาณระดับต่ำ,รออีกสักสองสามวันค่อยมาใหม่,คอยดูว่าเขาจะยังเย็นใจอยู่ได้ใหม!"ใต้เท้าจางที่กล่าวหยัน.
"หืม?หากไม่เพราะว่าเกิดสงครามขึ้นล่ะก็,ข้าในตอนนี้คงมีรายได้
หกแสนศิลาวิญญาณระดับสูงแล้ว!"
"ตราบเท่าแค่รอ 3-5 ปี,ด้วยศิลาวิญญาณที่มี,ถึงแม้นว่าจะไม่มีราชวงศ์ใดสังกัดก็ไม่ใช่ว่าจะอยู่ไม่ได้!"ใต้เท้าซ่างที่กล่าวออกมาด้วยเสียงที่เย็นชา.
"อืม!"เหล่าขุนนางคนอื่นๆเองก็พยักหน้าเห็นด้วย.
ความเคารพและซื่อสัตย์ต่อราชวงศ์เวลานี้ได้แปรเปลี่ยนไปแล้ว!
....
บนเกาะลอยฟ้าสวนสวรรค์ลอยฟ้าหลิงเซียว,เหล่าทหารสังเกตการที่คอยจับจ้องสถานการที่กำลังอยู่ในช่วงระเอียดอ่อนเป็นอย่างมาก,รอบๆเกาะสวนสวรรค์ลอยฟ้าหลิงเซียว,บนท้องฟ้ายังมีค่ายกลกระบี่สังหารเซียนปกคลุมอยู่,กระจายไปรอบๆท้องฟ้าของสวนสวรรค์.
ราชวงศ์สวรรค์ต้าฉิน! ในท้องพระโรง.
"ฝ่าบาท,สงครามทางการค้าของต้าเจิ้งนั้น,เป็นการค้าแบบใหม่,ที่หวังทำลายเศรษฐกิจราชวงศ์ราชันย์ด้วยการค้า,ส่งผลให้คนทั่วทั้งภาคใต้กลายเป็นทาสทางการค้า!"ลู่ปู้เหว่ยที่กล่าวต่อหยิง.
แน่นอนว่าในเวลานี้,ลู่ปู้เหว่ยที่กำลังอธิบายเกี่ยวกับแผนการกลืนกินปลาตัวใหญ่,เพื่อให้หยิงได้รับฟัง.
"หลอกให้ซื้อขายกันจนหมดเนื้อประดาตัว,สูญเสียความเป็นหนึ่งใจเดียวของอาณาจักร,แล้วจัดการสินะ!"หยิงกล่าว.
"ขอรับ!"ลู่ปู้เหว่ยที่รับคำ.
"ฝ่าบาท,ได้ยินมาว่าสวนสวรรค์ลอยฟ้าหลิงเซียวตอนนี้ถูกค่ายกลกระบี่สังหารเซียนปกคลุมอยู่,นอกจากนี้ยังผ่านมาหนึ่งเดือนแล้ว,เฉินต้องการไปดูด้วยตัวเอง,ว่าสงครามการค้าของต้าเจิ้งนั้นจะเป็นไปในทิศทางใด!"ลู่ปู้เหว่ยกล่าวทูลขอต่อหยิง.
หยิงจดจ้องมองไปยังลูปู้เหว่ย,ก่อนที่จะพยักหน้า,"ได้,เจ้าไปดูด้วยตัวเองได้!"
"ขอบพระทัยฝ่าบาท!"ลู่ปู้เหว่ยที่กล่าวรับในทันที.
"ไปเรียกกุยกู!"หยิงเอ่ยปาก.
"เรียกกุยกูเข้ามา!"
จากนั้นไม่นาน,ผู้ฝึกตนฮวงจุ้ยต้าฉิน,กุยกู,ก็ก้าวเข้ามา,กุยกูที่มีเส้นผมหลอมแหลม,ผิวดำคล้ำผมติดกระดูก,ใบหน้าที่ดูค่ายข้างน่าเกียจ.
"กุยกู,คารวะเซิ่งซ่าง!"
"อืม,เจ้าเดินทางไปยังต้าเจิ้งพร้อมกับลู่ปู้เหว่ย,เพื่อสืบเรื่องเกี่ยวกับผู้ฝึกตนฮวงจุ้ยของต้าเจิ้ง,หนี่ปู่ซามา."หยิงกล่าว.
"รับด้วยเกล้า!"กุยกูที่ตอบรับในทันที.
...............
ราชวงศ์สวรรค์ต้าหยง! ท้องพระโรง.
"อ๋องไท่จง,อ๋องจ้านเทียน,เจ้าเดินทางไปยังต้าเจิ้งพร้อมกับอาวุโสเทียน!"เซิ่งซ่างต้าหยง,กู่เจิ้งอี้ที่กล่าวออกคำสั่ง.
"รับทราบ!"กู่ไท่จงพยักหน้ารับ.
...............
ค่ายกลกระบี่สังหารเซียนที่กำลังตรึงเกาะลอยฟ้าหลิงเซียวอยู่,หลังจากที่กลุ่มอิทธิพลต่างๆได้รับข่าวต่างก็เดินทางมาเก็บข้อมูลที่ราชวงศ์ราชันย์ต้าเจิ้งเป็นอย่างมาก.
หลังจากนั้นสิบวัน,ที่ไกลออกไปด้านล่างสวนสวรรค์ลอยฟ้าหลิงเซียว,มีกลุ่มอิทธิพลต่างๆมากมาย,ได้เดินทางมาดูค่ายกลกระบี่สังหารเซียน,ปราณสังหารสีดำที่ปิดท้องฟ้าคลุมเกาะสวนสวรรค์ลอยฟ้าเอาไว้.
บนท้องฟ้าสูงขึ้นไปอีก,ดวงดารา 108
ดวงที่ส่องแสงสว่างส่องลงมาด้านล่าง,ค่ายกลกระบี่สังหารเซียนที่ไม่สามารถขยับได้เช่นกัน,เห็นได้อย่างชัดเจนว่าสถานการณ์ตอนนี้ยังไม่สามารถบอกได้ว่าใครจะแพ้จะชนะ.
ราชวงศ์ราชันย์ต้าเจิ้ง?และแดนเทพอมตะ,ราชวงศ์ราชันย์ปะทะแดนเทวะ,แดนเทพอมตะในเวลานี้ถึงกับนำค่ายกลกระบี่สังหารเซียวมาใช้,คาดไม่ถึงเลยว่าจนถึงตอนนี้ก็ยังไม่ได้ผลอีกอย่างงั้นรึ?
ผู้คนมากมายที่เต็มไปด้วยความอยากรู้อยากเห็น,ราชวงศ์ราชันย์ต้าเจิ้งแข็งแกร่งขนาดนี้เลยรึ?
ด้วยความแข็งแกร่งของราชวงศ์ราชันย์,สามารถต้านแดนเทวะได้เลยอย่างงั้นรึ?
จากพื้นที่ไกลออกไปจากค่ายกลสังหารเซียน,ในหุบเขาแห่งหนึ่ง,จื่อซวินที่สวมชุดสีม่วงจับจ้องมองไปยังค่ายกล,แววตาของนางที่เต็มไปด้วยความกังวล.
"นวีชิงเฮวย,กู่เฉิงตงได้ตกตายไปแล้ว,เจ้ากำลังคิดอะไรอยู่,หากว่าเจ้ากล้าทำอะไรเช่นนั้นล่ะก็,ข้าจะไม่มีวันให้อภัยเจ้าไปตลอดกาล!"แววตาของจื่อซวินที่เต็มไปด้วยความเย็นชากล่าวออกมาด้วยเสียงที่แผ่วเบา.
ที่ยอดเขาอีกแห่งหนึ่งบนภูเขาสูง,ผู้ฝึกตนฮวงจุ้ยกุยกู,จดจ้องมองพื้นที่รอบๆ,ศึกษาเส้นโลหิตมังกร.
ที่ใกล้ๆนั้น,ลู่ปู้เหว่ยที่ถือจดหมาย,ที่มีเหล่าทหารสังเกตการณ์ที่ถูกส่งไปทั่วสารทิศส่งกลับคืนมาให้เขา
7-8 คนอยู่เป็นระยะ.
แววตาของลู่ปู้เหว่ยที่ดวงตาหรี่เล็ก,หลังจากจดจ้องมองข้อมูล,ที่มุมปากของเขาเผยรอยยิ้มเย้ยหยัน.
"เจ้าทำได้ดีมากจงซาน,เครือข่ายของเจ้าช่างกว้างใหญ่จริงๆ!"ลู่ปู้เหว่ยที่รับจดหมาย.
"ลู่ซือ,พื้นที่รอบๆนี้ข้าได้สำรวจอย่างชัดเจนแล้ว,พื้นที่แห่งนี้เป็นจุดศูนย์กลางของเส้นโลหิตมังกร,สวนสวรรค์ลอยฟ้าหลิงเซียวนั้นได้รับการอวยพรจากเส้นโลหิตมังกรทั้งแปดทิศ,ขณะที่สวนสวรรค์ลอยฟ้าหลิงเซียวกำลังข้ามวิกฤติ,ดูเหมือนว่าแผ่นดินแห่งนี้จะช่วยเพิ่มพลังให้กับสวนสวรรค์ลอยฟ้าหลิงเซียว,ที่สวนสวรรค์ลอยฟ้าหลิงเซียวไม่ได้รับความเสียหาย,บางที่คงเกี่ยวกับเรื่องนี้ด้วย!"กุยกูกที่กล่าวออกมาเบาๆ.
เกี่ยวกับเรื่องฮวงจุ้ย,กุยกูย่อมเต็มไปด้วยความมั่นใจ.
"อืม,ที่นี่ไม่มีอะไรน่าสนใจ,พวกเราไปเถอะ,ไปดูว่าหนีปู่ซานั้นกำลังทำอะไร!"ลู่ปู้เหว่ยที่พยักหน้ารับ.
"หนีปู่ซา?
หนี่ปู่ซาไม่ได้อยู่ที่นี่หรอกรึ?
สวนสวรรค์ลอยฟ้าหลิงเซียวที่ต้องเผชิญหน้ากับศัตรู,เขายังจะเดินทางไกลอยู่อีกรึ?"กุยกูกล่าว.
"แน่นอน,ข้าต้องการจะตรวจสอบเรื่องอื่นด้วย!"ลู่ปู้เหว่ยที่กล่าวหนักแน่น.
"ไม่ว่าหนีปู่ซาไปใหน,แน่นอนสุดท้ายเขาก็ต้องกลับมา,ฝ่าบาทให้ข้าคอยจับตาหนีปู่ซา,หากพวกเราไปที่อื่น,แล้วหนี่ปู่ซากลับมาล่ะ?"กุยกูที่ส่ายหน้าไปมา.
ได้ยินกุยกูปฏิเสธแล้ว,ดวงตาของลู่ปู้เหว่ยที่หรี่เล็กลง,พร้อมกับกล่าวออกมาทันที,"กล่าวเช่นนี้เจ้าไม่ยินดีที่จะไปกับข้าอย่างงั้นรึ?"
"ลู่ซือเจ้าก็มีความคิดของเจ้า,ทว่าข้าเองก็มีความคิดของข้าเช่นกัน,ฝ่าบาทก็ไม่ได้ออกคำสั่งว่าให้ข้ารับฟังคำสั่งของเจ้า,อีกอย่างสถานะของข้าในต้าฉินก็ไม่ได้ด้อยกว่าเจ้า,ทว่าเจ้ากับให้ค่ากับตัวเองมากไปหรือไม่!"กุยกูที่ส่ายหน้าไปมา.
เห็นได้อย่างชัดเจนว่าเขาที่เป็นผู้ฝึกตนฮวงจุ้ยย่อมมีความทระนงเป็นธรรมดา,กับการรวบรวมวาสนาของแผ่นดิน,ทำให้ผู้ฝึกตนฮวงจุ้ยมีสถานะที่พิเศษ,ยกเว้นเจ้าของราชวงศ์แล้ว,เขาไม่เคยก้มหัวให้กับใคร.
"ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า,ให้ค่าตัวเองอย่างงั้นรึ?
มีเพียงเหล่าผู้ก่อตั้งเท่านั้นที่พูดเช่นนี้กับข้า,แต่เจ้า?"ลู่ปู้เหว่ยที่เผยยิ้มที่แปลกประหลาดออกมา.
ให้ค่ากับตัวเองอย่างงั้นรึ?
ภายในต้าฉินยกเว้นขุนนางชราของหยิงไม่กี่คน,ยังมีใครอีกที่กล้าพูดเช่นนี้กับลู่ปู้เหว่ย,ก่อนหน้านี้อาจจะใช่,หากเมื่อวิญญาณของเขาหวนกลับจะยังมีใครกล้าพูดกับเขาเช่นนี้ได้กัน.
"ชิ!"กุยกู่แค่นเสียงเย็นชา.
"ข้าคร้านจะโต้เถียงกับเจ้า,ไม่เช่นนั้นจะมีคนมาตำหนิข้าว่าข่มเหงผู้เยาว์,จำคำพูดก่อนหน้านี้ให้ดี,ยกเว้นเหล่าผู้ก่อตั้ง,ไม่เคยมีใครกล้าพูดเช่นนี้กับข้า!"ลู่ปู้เหว่ยที่กล่าวออกมาด้วยเสียงเย็นชา.
จากนั้น,ลู่ปู้เหว่ยที่สะบัดแขนเสื้อและหายไปต่อหน้ากุยกู.
เห็นลู่ปู้เหว่ยจากไปแล้ว,กุยกูที่ขมวดคิ้วไปมา,ไม่สนใจอีก,เวลานี้เขาที่จดจ้องมองไปยังค่ายกลกระบี่สังหารเซียน,และศึกษาเกี่ยวกับแผนผังฮวงจุ้ยต่อไป.
........
หลังจากนั้นอีกสามวัน.
บนหุบเขาแห่งหนึ่งที่ไกลออกมาจากค่ายกลสังหารเซียน.
อาวุโสเทียนที่เดินค้ำไม้เท้า,สายตาที่จดจ้องมองแผนผังฮวงจุ้ยขนาดใหญ่.
ที่ข้างๆนั้น,เป็นอ๋องไท่จงและอ๋องจ้านเทียนของราชวงศ์สวรรค์ต้าหยกที่จดจ้องมองข้อมูลที่ได้รับมา,พร้อมกับขมวดคิ้วไปมาเล็กน้อย.
"เผ่าเต่าทมิฬคาดไม่ถึงเลยว่าจะภัคดีต่อต้าเจิ้งและถูกส่งออกมาสู่สนามรบอย่างงั้นรึ?
นอกจากนี้บอกเรื่องที่สำคัญขนาดนี้กระจายไปทั่วหล้าเลยอย่างงั้นรึ?"อ๋องจ้านเทียนที่ขมวดคิ้วไปมาพร้อมกับจดจ้องข้อมูลที่ได้มา.
"บางที่อาจจะมีอะไรบางอย่างซ่อนอยู่ในนั้นก็เป็นได้!"อ๋องไท่จงพยักหน้ารับ.
"นอกจากนี้สงครามครั้งนี้ยังเต็มไปด้วยความแปลกประหลาด,ราวกับว่าจงซานรับรู้อยู่แล้ว,หากเขาไม่รู้ล่ะก็,เหล่ากองกำลังทหารเป็นจำนวนมากคงจะไม่ขึ้นกับเซียนเซิงสุ่ยจิงคนเดียวหรอก"อ๋องจ้านเทียนที่ขมวดคิ้วไปมาเล็กน้อย.
"เซียนเซิงสุ่ยจิง? เป็นคนที่มีพรสวรรค์ที่น่าตื่นตะลึง,สามารถยันศัตรูสี่ราชวงศ์ราชันย์ได้อยู่หมัดทีเดียว,ช่างน่าเสียดาย,ตอนแรกเกือบที่จะได้เป็นบุตรบุญธรรมของพวกเราแล้ว!"อ๋องไท่จงที่กล่าวพลางถอนหายใจเบาๆ.
"อืม!"อ๋องไท่จงพยักหน้า.
"อาวุโสเทียน,ท่านเห็นอะไรอย่างงั้นรึ?"อ๋องไท่จงที่จ้องมองไปยังอาวุโสเทียน.
"แน่นอนว่าข้าเห็น,หนี่ปู่ซานับเป็นคนที่มีความสามารถในการวางตำแหน่งฮวงจุ้ยได้อย่างร้ายกาจน่าหวาดกลัวจริงๆ,ถึงบอกพวกเจ้าไป,พวกเจ้าก็คงไม่เข้าใจ,ทว่าข้าพบคนผู้หนึ่งที่น่าสนใจ!"อาวุโสเทียนที่กล่าวออกมาเบาๆ.
"หืม?"
"นอกเหนือจากหนี่ปู่ซาแล้ว,ในทวีปศักดิสิทธิ์ยังมีคนบำเพ็ญฮวงจุ้ย,ซึ่งมีอยู่ด้วยกันห้าชีพจร,สวรรค์,ปฐพี,มนุษย์,เทพและภูติ,ข้าชีพจรสวรรค์,แม้นว่าจะไม่ใช่ตัวตนที่ร้ายกาจที่สุด,แต่ก็สามารถรับรู้ถึงตัวตอนของอีกฝ่ายได้,ซือ,ตั้งแต่เนี่ยฟ่านเฉินตายไป,เขาก็หายไปจากทวีปศักดิ์สิทธิ์,เฉินซิวเองก็หายไปก่อนหน้านี้หลายปีไม่เห็นเลย,ไม่รู้ว่าตกตายไปแล้วรึยัง,ดังนั้นชีพจรของเฉินซิวและซือ,สองชีพจรนี้จึงไม่ปรากฏขึ้นในทวีปศักดิ์สิทธิ์!"อาวุโสเทียนที่กล่าวออกมาเบาๆ.
"อืม!"อ๋องทั้งสองที่พยักหน้ารับหากแต่ไม่ได้พูดอะไร,ยังคงรับฟังอาวุโสเทียน.
"ในทวีปศักดิ์สิทธิ์ตอนนี้จึงมีเพียงเหรินชุนและกุยกู,เหรินชุนนั้นอยู่ที่ราชวงศ์สวรรค์ต้าสุ่ย,ส่วนกุยกูนั้นอยู่ต้าจริง,ทว่า,จริงๆแล้วเขาก็อยู่ไม่ไกลจากพวกเรานี่ล่ะ!"อาวุโสเทียนที่กล่าวออกมาเบาๆ.
"กุยกูเดินทางมาอย่างงั้นรึ?"อ๋องไท่จงที่ดวงตาหรี่เล็กลง.
"อยู่ทิศทางนั้น!"อาวุโสเทียนที่ใช้ไม้เท้าชี้ไปยังทิศทางหนึ่ง.
สายตาของอ๋องทั้งสองจ้องมองเป็นสายตาเดียวกัน.
คนทั้งสองที่ครุ่นคิด,ท้ายที่สุด,อ๋องไท่จงก็กล่าวออกมาทันที,"แจ้งไปยังทุกคน,ทิศทางดังกล่าวนี้ข้าจะไปดูด้วยตัวเอง,ส่งคนไปยังทิศทางอื่น,อย่าได้ให้ศัตรูรู้ตัวได้!"
"รับทราบ!"เหล่าผู้ใต้บังคับบัญชาหลายคนที่ถอยห่างออกไปในทันที.
ที่มาจากhttps://lnmtl.com/novel/immortality
#นิยาย เรื่องอมตะ #Immortality#นิยายแปลไทย
Author(s)
สนใจสนับสนุนพวกเรา,เข้าร่วมกลุ่ม VIP ====> Click
***เว็ปฟรีอัพ สองวันหนึ่งตอน
***กลุ่มลับ อัพ 2-3 ตอนต่อวัน.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น