Immortality Chapter 662 The second step, loner
นิยาย เรื่อง อมตะ ตอนที่ 662 แผนการที่สอง.หัวเดียวกระเทียมลีบ.
Chapter 662 The second step, loner
第二步,孤家寡人
แผนการที่สอง.หัวเดียวกระเทียมลีบ.
*** 孤家寡人 ( gū jiā guǎ rén ) เป็นคำที่จักรพรรดิจีนในสมัยโบราณเรียกตนเอง ปัจจุบันอุปมาว่า
ผู้โดดเดี่ยวเดียวดาย,หัวเดียวกระเทียมลีบ.
จงซานและหยินโหลวหรี่ที่ถูกนำมายังที่พำนักของอี้หลานเชวี๋ย.
"ทั้งสองโปรดพักอยู่ที่นี่ก่อน,ข้าจะไปจัดการเรื่องบางอย่าง,ไว้พรุ่งนี้ข้าจะมาพบกับพวกท่านอีกครั้ง!"อี้หลานเชวี๋ยที่กล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม.
"เชิญ!"จงซานที่พยักหน้ารับ.
หลังจากที่อี้หลานเชวี๋ยจากไปแล้ว,หยินโหลวหรี่ที่ขมวดคิ้วไปมา.
"เจ้าเชื่อคำพูดไร้สาระของเขาอย่างงั้นรึ?"หยินโหลวหรี่ที่กล่าวออกมาด้วยความประหลาดใจ.
"ทำไมจะไม่เชื่อล่ะ?"จงซานที่กล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม.
"เขาบอกว่าเพราะเขาอยากรู้อยากเห็นต้องการพบพวกเรา,และยังจะช่วยเหลือพวกเราอีก,เพราะว่าต้องการเห็นแผนการของพวกเรา,เห็นชัดเจนว่า
เขานั้นพูดจาไร้สาระไม่ใช่รึ?"ใบหน้าของหยินโหลวหรี่ที่กล่าวออกมาด้วยความจริงจัง.
"ทว่านั่นใช่เรื่องสำคัญ?"จงซานสอบถามออกไป.
"ไม่ใช่สิ่งสำคัญอย่างงั้นรึ?"หยินโหลวหรี่ที่จ้องมอง,ไม่เข้าใจจงซานเลยแม้แต่น้อย.
"เฮ้เฮ้,กับศัตรูที่เป็นสหายนั้นไม่ได้สำคัญอะไรนัก,อย่างน้อยตอนนี้ไม่ใช่เรื่องสำคัญ,สิ่งสำคัญคือเขาไม่ใช่คนตระกูลเทียน,อาจเป็นคนของซิงไท่โต่ว,หรือใครก็ได้ทั้งนั้น."จงซานกล่าวออกมาอย่างจริงจัง.
"หืม?"
"ไม่ว่าเขาจะมีเหตุผลอะไร,ไม่ว่าจะเป็นใคร,ข้าเองนั้นหาได้ต้องการรู้,สิ่งจำเป็นที่ต้องการรู้คือเขามีประโยชน์พอที่จะช่วยทำให้แผนการเราสำเร็จก็เป็นพอ!"จงซานกล่าว.
"หืม? ทว่า,คาดไม่ถึงเลยว่าเขาจะรับรู้ด้วยว่าเจ้ากำลังเล็งไปที่เฉินซิ่ว,อีกทั้งยังรู้ด้วยว่าพวกเราเพิ่งไปตระกูลเทียนมา!"หยินโหลวหรี่ที่กล่าวออกมาด้วยความกังวล.
"เกี่ยวกับเรื่องเฉินซิ่ว?
ไม่ยากที่จะคาดเดา,ซิงไท่โต่ว,เย่ชิงเฉิง,เทียนเซียวและคนอื่นๆล้วนแล้วแต่รับรู้,แน่นอนว่าที่ข้าเล็งไปที่เฉินซิวนั่น,เป็นปรารถนาดีกับพวกเขาด้วย,ส่วนเรื่องที่พวกเราเดินทางไปยังตระกูลเทียน?
ก็ไม่ใช่เรื่องยากอะไร,ตระกูลเทียนนั้น,ย่อมมีคนจับตามองอยู่ตลอด,การจะเห็นพวกเราเดินทางไปยังตระกูลเทียน,ย่อมต้องมีคนหลายคนรับรู้!"จงซานส่ายหน้าไปมา.
"อืม,แล้วเจ้าไม่อยากรู้รึว่าเขาเป็นใคร?"
"เขาเป็นใคร? เจ้ากลัวรึ?"
"กลัวรึ?
เขาสามารถขวางข้าได้อย่างงั้นรึ?"
"ในเมื่อเขาไม่สามารถขวางพวกเราได้,มีสิ่งใดที่ต้องกังวล,ที่จริงแล้วข้าเคยได้ยินชื่อสกุลนี้มาก่อน,ข้าจึงพอคาดเดาสถานะของเขาได้."จงซานที่กล่าวยืนยัน.
"หืม?"
"ภายในภพหยินนั้นมีอีกหนึ่งราชวงศ์สวรรค์,ตระกูลอี้นั้นคือหนึ่งในสี่ขุนนางใหญ่ของต้าโหยว!"จงซานกล่าว.
"หืม? เจ้ามั่นใจอย่างงั้นรึ?
"ตระกูลอี้นั้นนับว่ามียอดฝีมือที่ไม่ธรรมดา,ประมุขตระกูลอี้นั้นยังเยาว์วัย,ดูเหมือนว่าจะเพิ่งรับตำแหน่งเมื่อสามร้อยปีที่แล้ว,หลังจากนั้นดูเหมือนว่าสถานการณ์ของพวกเขากลับดูเหมือนถดถอยลงไป,เพราะว่าตระกูลอี้นั้นมีประมุขที่ยังเยาว์เมื่อเทียบกับคนอื่นๆในสี่ตระกูลใหญ่,แต่เพราะตระหนักในตัวเองว่ายังมีสิ่งที่ขาด,ประมุขตระกูลอี้
จึงเป็นคนที่ออกมาด้านนอกราชวงศ์เพื่อศึกษาเรื่องราวต่างๆที่ไม่ธรรมดาที่เกิดขึ้นในโลกหล้า."จงซานที่กล่าวยืนยัน.
"หืม? เจ้าคิดว่าตระกูลอี้นั้นมีส่วนเกี่ยวข้องกับราชวงศ์สวรรค์ต้าโหยวถูกส่งมาหาประสบการณ์อย่างงั้นรึ?"หยินโหลวหรี่ที่กล่าวออกมาด้วยท่าทางไม่อยากเชื่อ.
"ภายใต้สถานการณ์ในโลกใบนี้,ไม่สามารถมองเห็นได้โดยง่าย,เพียงแค่กลุ่มอิทธิพลเล็กๆนั้นไม่สามารถที่จะเข้าใจกับแผนการของกลุ่มอิทธิพลขนาดใหญ่ได้อย่างระเอียดอย่างแน่นอน."จงซานกล่าวยืนยัน.
"เป็นความจริง,เหล่าผู้นำของแต่ละราชวงศ์นั้นล้วนแต่มากฝีมือยากจะต่อกรได้ง่ายๆ!"หยินโหลวหรี่ที่กล่าวออกมาด้วยความแปลกประหลาด.
...
เช้าวันถัดมา.
"จงซาน,ดูเหมือนว่าจะเป็นไปตามที่ท่านคาด,เฉินซิวนั้นไม่ยินดีที่จะจากไป,นอกจากนี้ยังดูเหมือนว่าจะร่วมมือกับเย่ชิงเฉิงและซิงไท่โต่วต่อกรกับตระกูลเทียนด้วย!"อี้หลานเชวี๋ยกล่าวด้วยรอยยิ้ม.
"โอ้ว? ดูเหมือนว่าเจ้าจะมีอิทธิพลในราชสำนักราชวงศ์ไท่โต่วด้วยอย่างงั้นรึ?"จงซานที่แสดงท่าทางประหลาดใจเล็กน้อย.
"ไม่ใช่เช่นนั้น,ดูเหมือนว่าจะมีขันทีคนหนึ่งที่ออกมาเผยข่าวนี้ด้วยตัวเองเลย!"อี้หลานเชวี๋ยที่สะบัดพัดไปมาขณะพูด.
จงซานรับรู้ว่าอี้หลานเชวี๋ยนั้นไม่ได้โกหก,เขาที่เผยยิ้มออกมาเล็กน้อย,ไม่ซักไซ้อีกต่อไป.
"เจ้ายินดีที่จะสร้างปัญหาให้กับตระกูลเทียนพร้อมกับข้าหรือไม่?"จงซานที่ชำเลืองมองไปยังอี้หลานเชวี๋ย.
"ไม่,ข้าไม่กล้าหาเรื่องตระกูลเทียน,อย่างน้อยที่สุดข้าคงทำได้แค่ช่วยโบกธงให้ท่านเท่านั้น,พลังฝึกตนของข้านั้นต่ำต้อนนัก,หอการค้าของข้านั้นจะขาดข้าไปไม่ได้,ข้าเองก็ไม่ต้องการแส่หาความตาย,อย่างไรก็ตามเหมือนกับก่อนหน้านี้,หากเป็นเรื่องเล็กๆน้อย,ข้าก็พอจะช่วยท่านได้,แต่อย่างไรก็ดี
ข้าต้องการเป็นเพียงผู้ชมเท่านั้น,ต้องการดูว่าท่านจะสั่นคลอนตระกูลเทียนอย่างไร!"
อี้หลานเชวี๋ยที่กล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม.
"เพียงเท่านี้ก็นับว่ายอดเยี่ยม,หากได้หอการค้าของเจ้าช่วยเหลือ,จงซานรู้สึกขอบคุณยิ่งนัก!"จงซานกล่าว.
"แผนการพลิกสวรรค์ของท่าน,ก้าวต่อไปคืออะไรอย่างงั้นรึ?"อี้หลานเชวี๋ยที่สอบถามออกมา.
"แผนการพลิกสวรรค์อย่างงั้นรึ?"จงซานที่ขมวดคิ้วไปมา.
"ท่านต้องการทำให้ตระกูลเทียน,พลิกฟ้าพลิกแผ่นดิน,แผนการของท่านไม่ใช่แผนการพลิกสวรรค์หรอกรึ?"อี้หลานเชวี๋ยกล่าวต่อจงซาน.
"หากว่ามีอะไรให้ข้าช่วย,เกี่ยวกับเรื่องเล็กๆน้อยล่ะก็,เชิญกล่าวออกมาได้เลย."อี้หลานเชวี๋ยที่กล่าวต่อในทันที.
"ดีเลย,เช่นนั้นคงต้องขอบคุณล่วงหน้า!"จงซานที่กล่าวออกมาด้วยท่าทางประหลาดใจ.
"แผนการที่สอง?..แผนการต่อไป,หัวเดียวกระเทียมลีบ!"จงซานที่ครุ่นคิดและกล่าวออกมา.
.....................
ค่ายทหารของเทียนเซียว!
"มีข่าวของจงซานหรือไม่?"เทียนเซียวที่จ้องมองไปยังทุกคน.
"ไม่มีแม้แต่น้อย,สิบวันก่อนเขาได้ออกมาจากโรงเตี้ยมแห่งหนึ่งจากนั้นก็หายไปไม่มีร่องรอยอีกเลย!"ผู้ใต้บังคับบัญชาคนหนึ่งกล่าว.
"แล้วที่ด้านนอกมีเรื่องอะไรที่ผิดปรกติหรือไม่?"เทียนเซียวที่ขมวดคิ้วไปมา.
"ไม่มีเลย!"ผู้ใต้บังคับบัญชากล่าวตอบ.
"เส้าเหยี่ย,ข้าพบเหตุการณ์แปลกๆบางอย่างเข้า."เสี่ยวหวังที่เอ่ยปากออกมาในทันที.
"อืม?เทียนเซียวที่ขมวดคิ้วไปมา.
"แผนการสวรรค์ล่มของพวกเรานั้น,ขั้นที่หนึ่งเกี่ยวกับวิกฤติเงินตรานั้น,ข้าพบว่าทรัพย์สินส่วนหนึ่งของตลาดนั้นได้ไหลออกไปจากตลาดอย่างรวดเร็ว,ช่วยลดเวลาพวกเราเป็นอย่างมาก!"เสี่ยวหวังกล่าว.
"ช่วยพวกเราอย่างงั้นรึ?"
"ครับ,ช่วยพวกเรา,ช่วยทำให้สถานการณ์ของราชวงศ์ราชันย์ซิงโต่วกำลังพบกับความอนาถเร็วขึ้น!"เสี่ยวหวังกล่าว.
"มีใครบางคนที่นำศิลามิติออกไปอย่างงั้นรึ?"ผู้ใต้บังคับบัญชาคนหนึ่งกล่าวสอบถาม.
"เป็นเหตุการณ์ที่ผิดปรกติ,ทรัพยากรศิลามิติได้ถูกดูดออกไปเร็วขึ้น,ซึ่งจะทำให้คนของราชวงศ์ซิ่งโต่วบ้าคลั่ง,กู้หนี้ยืมสินมากขึ้นและก็มากขึ้น,หลังจากนั้นก็จะปรากฏหายนะ,ราชวงศ์ราชันย์ซิงโต่วก็จะกลายเป็นความวุ่นวายดั่งที่พวกเราหวัง,ดูเหมือนว่ามีคนบางกลุ่มที่กำลังช่วยพวกเราทำให้ราชวงศ์ราชันย์ซิงโต่วล่มสลายเร็วขึ้น."เสี่ยวหวังที่กล่าวอย่างเคร่งขรึม.
นี่คือสงครามการค้า,เป็นการบดขยี้กันด้วยเงินตรา,นำเงินที่มีอยู่ในระบบออกไป,เพื่อให้ระบบการค้าล่มสลาย,หากแต่มีใครที่ช่วยเหลือพวกเขาอยู่กัน.
คนผู้นี้จะต้องเข้าใจแผนการสวรรค์ล่มอย่างดี,ไม่ได้ด้อยกว่าพวกเขา,หรือแม้แต่เหนือกว่าพวกเราไปด้วย,จะเป็นใครได้ล่ะ?"เทียนเซียวที่กล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม.
"เป็นจงซาน,แน่นอนว่าจะต้องเป็นจงซาน,มีเพียงเขา,หากแต่เป้าหมายที่เขาช่วยพวกเรานั้นคืออะไร?
เขาไม่ได้เล็งไปที่ตระกูลเทียนหรอกรึ?
แล้วทำไมต้องช่วยพวกเรา?"เสี่ยวหวังที่ขมวดคิ้วไปมา.
"เรื่องนี้จะต้องรอดูอีกครั้ง,จงซานนั้นได้วางแผนอะไรเอาไว้กันแน่!"เทียนเซียวที่กล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม.
.......................
บนเกาะลอยฟ้าแห่งหนึ่ง,จงซานที่จดจ้องมองความวุ่นวายของคนในเมือง,แววตาของเขาที่ดูจริงจัง.
"จงซาน,แผนการของท่านสวรรค์ล่มขันที่หนึ่งร้ายกาจนัก,ไม่คิดเลยว่าจะโหดเหี้ยมเช่นนี้?"อี้หลานเชวี๋ยที่ขมวดคิ้วไปมา.
"ซิงไท่โต่วนั้นไม่ใช่น่าหลานเพียวเสวี๋ย,เขาที่เคยเป็นเซิ่งซ่างราชวงศ์สวรรค์,เขาย่อมมีมันสมองที่เป็นเลิศ,หากปล่อยให้เป็นไปตามแผนการสวรรค์ล่มทั่วไป,ยากที่จะจัดการเขาได้ง่ายๆ,ดังนั้นข้าจึงได้เร่งให้เกิดขั้นที่สอง,ขั้นที่สาม,แม้แต่ขั้นที่สี่ให้เกิดขึ้นเพื่อช่วยให้แผนการสวรรค์ล่มขั้นที่หนึ่งสมบูรณ์มากขึ้น,ทำให้ซิงไท่โต่วได้รับความเสียหายอย่างหนักและพ่ายแพ้อย่างเจ็บปวด!"จงซานที่กล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม
"หืม?"อี้หลานเชวี๋ยที่สงสัยอยู่เล็กน้อย,จับจ้องมองไปยังจงซานพร้อมกับเผยยิ้มบางๆออกมา.
"ข้าจำได้ว่าเย่ชิงเฉิงมีอายุห้าพันปี,อีกไม่นานเขาจะครบรอบมีอายุ
5432ปี."จงซานกล่าว.
"อืม,ทว่า,โลกอมตะนั้นไม่ได้จัดงานอะไร,เพราะว่าเย่ชิงเฉิงอยู่ด้านนอก!"อี้หลานเชวี๋ยกล่าว.
"ดูเหมือนว่าพวกเราต้องจัดการใหญ่ให้กับเขาสักหน่อยแล้ว!"จงซานกล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม.
"หืม?"
"แผนการขั้นที่สอง,หัวเดียวกระเทียมลีบ! ประมุขโลกอมตะคือตัวหลัก!,หลังจากนี้ครึ่งเดือน,ราชวงศ์ราชันย์ซิงโหลวจะระส่ำ,เนื่องจากขาดแคลนศิลามิติ,เมืองต่างๆจะก่อกบฏลุกฮือขึ้น,ทุกๆแห่งจะเต็มไปด้วยความวุ่นวาย,ฆ่าปล้นชิงทรัพย์สินอย่างต่อเนื่อง,ความวุ่นวายนี้จะรุนแรงมากกว่าที่เคยเกิดขึ้นในภพหยางสิบเท่า.
.........
และแล้วเวลานั้นก็มาถึง,แผนที่ขุมสมบัติก็ปรากฏขึ้นนั้น,ก่อให้เกิดการฆ่าฟันกัน,แผนที่สมบัติมากมายนั้นทำให้ทหารมากมายละทิ้งหน้าที่,แม้แต่ขุนนางในเมืองยังออกนอกเมืองเพื่อค้นหาสมบัติ.
กับภาวะเศรษฐกิจที่ตกต่ำครั้งใหญ่ของราชวงศ์ซิงโต่ว,ทุกอย่างได้เปลี่ยนไป,แม้แต่เหล่าข้าราชบริพารยังอพยพหนี.
ราชวงศ์ราชันย์ซิงโต่วได้มาถึงการล่มสลายแล้ว,ตอนนี้เหลือเพียงแค่ชื่อ,อีกไม่นานก็จะล่มสลายโดยสมบูรณ์.
ซิงไท่โต่วที่ใบหน้ามือคลึ้ม,พร้อมกับกล่าวปลอบเหล่าข้าราชบริพารที่ยังเหลืออยู่ไม่กี่คน,ซิงไท่โต่วที่นั่งบนบัลลังก์มังกรด้วยความมืดมน.
ใบหน้าของเขาที่มืดคลึ้มเต็มไปด้วยความหวาดหวั่น.
"เทียนเซียว?
เจ้าโหดเหี้ยมยิ่งนัก,ร้ายกาจมาก!"ซิงไท่โต่วที่บ่นพึมพำด้วยความแค้น.
นับเป็นการโหดเหี้ยมอย่างแท้จริง,ราชวงศ์ราชันย์ซิงโต่วได้ล่มสลายแล้ว.
ตอนนี้เหลือเพียงเมืองหลวงแห่งเดียว,สงครามทัพหน้าและเมืองอื่นๆในปกครองได้ถูกยึดครองไปแล้วโดยสมบูรณ์,ซิงไท่โต่วตอนนี้ได้พ่ายแพ้ต่อตระกูลเทียนอีกครั้งแล้ว.
"ฝ่าบาท!"ขันทีชราที่กล่าวด้วยความเป็นห่วงเขาที่ด้านข้าง.
"ข้าไม่เป็นไร,หลายปีมานี้,เจ้าติดตามข้ามาโดยตลอด,ลำบากเจ้าแล้ว!"ซิงไท่โต่วที่กล่าวออกมาด้วยความเศร้าใจ.
"หาได้ลำบากอะไร,ตราบเท่าที่ได้รับใช้ฝ่าบาท,บ่าวชราล้วนแล้วแต่ยินดี,ทว่าช่างน่าเศร้าที่ญาติมิตรสหายได้ถูกตระกูลเทียนสังหารไปจนหมดแล้ว!"ขันทีชราที่สูดหายใจลึก.
ขณะเดียวกันกับความอ้างว้างโดดเดี่ยว,ซิงไท่โต่วที่ก้าวออกไปจากห้องโถงช้าๆ,จ้องมองไปยังเมืองซิงโต่วยังพื้นที่ไกลออกไป,เหล่าประชาชนมากมายที่อพยพหลบหนี,ดูภายในเมืองที่ดูเงียบเหงาแทบไม่ต่างจากเมืองในชนบท,ทำให้ภายในใจของซิงไท่โต่วนั้นเจ็บปวดนัก,ดูเหมือนว่าจะหมดยุคความรุ่งโรจน์ในชีวิตของเขาแล้ว.
หากเป็นในอดีต,ซิงไท่โต่วเป็นไปไม่ได้ที่จะรู้สึกเช่นนี้,หากแต่หลังจากที่เขาพ่ายศึกติดต่อกันหลายครั้ง,ภายในใจของเขาย่อมสั่นคลอนเป็นธรรมดา.
ขันทีชรายังคงติดตามซิงไท่โต่วข้างๆ,เหมือนกับเงาตามตัว,ติดตามซิงไท่โต่ว.
"วีดด.....ตูมมมมมม"
ภายในเมืองซิงโต่ว,ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงดังก้องกังวานสนั่นหวั่นไหว,พร้อมดอกไม้ไฟที่ระเบิดเต็มท้องฟ้า.
เกี่ยวกับหอการค้าต้าหรงที่มาเปิดทำการค้าในภพหยิน,ดอกไม้ไฟไม่ถือว่าเป็นสมบัติล้ำค่าอีกต่อไป,ต้องไม่ลืมว่ากระบวนการผลิตขอมันนั้นง่ายดายนัก,และแพร่หลายในภพหยินอย่างรวดเร็ว.
"ตูมมมมมมมมม"
ดอกไม้ไฟที่ถูกยิงขึ้นไปบนอากาศ,ระเบิดดังสนั่น,ในความมืดมิด,ได้สร้างภพฉากที่งดงามเป็นอย่างมาก.
”~~ ~~ ~”
ดอกไม้ไฟมากมายที่ถูกยิงขึ้นไปบนท้องฟ้า,เป็นรูปลักษณ์ต่างๆที่ส่องสว่างบนท้องฟ้า,ภายในเมืองแม้นว่าจะเหลือคนน้อยกว่าครึ่งหนึ่ง,ทว่าพวกเขาทุกคนที่ออกมาเงยหน้าขึ้นไปมองฟ้า,รู้สึกสงบและสับสันอยู่เหมือนกัน,หากแต่ภาพที่ปรากฏขึ้นบนท้องฟ้านั้นกลับดูงดงามเป็นอย่างมาก.
ภายในเมืองซิงโต่วนั้น,เป็นเมืองใหญ่,หากแต่ดอกไม้ไฟนั้นกับถูกจุดขึ้นทุกที่,ส่องประกายแสงระยิบระยับ,แทบจะทุกคนที่ออกมาจากที่พักตัวเอง,ออกมาดูดอกไม้ไฟที่ถูกจุด.
เย่ชิงเฉิง,เฉินซิวและคนของโลกอมตะต่างก็เดินออกมาด้านนอก,พร้อมกับเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้าด้วยความอยากรู้อยากเห็น.
ซิงไท่โต่วเองกับอารมณ์ที่หม่นหมองของเขานั้น,ทันทีที่เห็นดอกไม้ไฟก็รู้สึกดีขึ้นมาเหมือนกัน.
ที่ด้านนอกเมืองซิงโต่วนั้น,บนยอดเขา,จงซาน,อี้หลานเชวี๋ยและหยินโหลวหรี่,ที่จ้องมองไปยังดอกไม้ไฟที่ถูกจุดขึ้นมากมายภายในเมืองซิงโต่ว,เพราะว่าแผนการขั้นที่สองของจงซานได้,ที่ทำให้คนอื่นต้องพบกับวาระสุดท้าย.
Chapter 662 The second step, loner
第二步,孤家寡人
แผนการที่สอง.หัวเดียวกระเทียมลีบ.
*** 孤家寡人 ( gū jiā guǎ rén ) เป็นคำที่จักรพรรดิจีนในสมัยโบราณเรียกตนเอง ปัจจุบันอุปมาว่า
ผู้โดดเดี่ยวเดียวดาย,หัวเดียวกระเทียมลีบ.
จงซานและหยินโหลวหรี่ที่ถูกนำมายังที่พำนักของอี้หลานเชวี๋ย.
"ทั้งสองโปรดพักอยู่ที่นี่ก่อน,ข้าจะไปจัดการเรื่องบางอย่าง,ไว้พรุ่งนี้ข้าจะมาพบกับพวกท่านอีกครั้ง!"อี้หลานเชวี๋ยที่กล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม.
"เชิญ!"จงซานที่พยักหน้ารับ.
หลังจากที่อี้หลานเชวี๋ยจากไปแล้ว,หยินโหลวหรี่ที่ขมวดคิ้วไปมา.
"เจ้าเชื่อคำพูดไร้สาระของเขาอย่างงั้นรึ?"หยินโหลวหรี่ที่กล่าวออกมาด้วยความประหลาดใจ.
"ทำไมจะไม่เชื่อล่ะ?"จงซานที่กล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม.
"เขาบอกว่าเพราะเขาอยากรู้อยากเห็นต้องการพบพวกเรา,และยังจะช่วยเหลือพวกเราอีก,เพราะว่าต้องการเห็นแผนการของพวกเรา,เห็นชัดเจนว่า
เขานั้นพูดจาไร้สาระไม่ใช่รึ?"ใบหน้าของหยินโหลวหรี่ที่กล่าวออกมาด้วยความจริงจัง.
"ทว่านั่นใช่เรื่องสำคัญ?"จงซานสอบถามออกไป.
"ไม่ใช่สิ่งสำคัญอย่างงั้นรึ?"หยินโหลวหรี่ที่จ้องมอง,ไม่เข้าใจจงซานเลยแม้แต่น้อย.
"เฮ้เฮ้,กับศัตรูที่เป็นสหายนั้นไม่ได้สำคัญอะไรนัก,อย่างน้อยตอนนี้ไม่ใช่เรื่องสำคัญ,สิ่งสำคัญคือเขาไม่ใช่คนตระกูลเทียน,อาจเป็นคนของซิงไท่โต่ว,หรือใครก็ได้ทั้งนั้น."จงซานกล่าวออกมาอย่างจริงจัง.
"หืม?"
"ไม่ว่าเขาจะมีเหตุผลอะไร,ไม่ว่าจะเป็นใคร,ข้าเองนั้นหาได้ต้องการรู้,สิ่งจำเป็นที่ต้องการรู้คือเขามีประโยชน์พอที่จะช่วยทำให้แผนการเราสำเร็จก็เป็นพอ!"จงซานกล่าว.
"หืม? ทว่า,คาดไม่ถึงเลยว่าเขาจะรับรู้ด้วยว่าเจ้ากำลังเล็งไปที่เฉินซิ่ว,อีกทั้งยังรู้ด้วยว่าพวกเราเพิ่งไปตระกูลเทียนมา!"หยินโหลวหรี่ที่กล่าวออกมาด้วยความกังวล.
"เกี่ยวกับเรื่องเฉินซิ่ว?
ไม่ยากที่จะคาดเดา,ซิงไท่โต่ว,เย่ชิงเฉิง,เทียนเซียวและคนอื่นๆล้วนแล้วแต่รับรู้,แน่นอนว่าที่ข้าเล็งไปที่เฉินซิวนั่น,เป็นปรารถนาดีกับพวกเขาด้วย,ส่วนเรื่องที่พวกเราเดินทางไปยังตระกูลเทียน?
ก็ไม่ใช่เรื่องยากอะไร,ตระกูลเทียนนั้น,ย่อมมีคนจับตามองอยู่ตลอด,การจะเห็นพวกเราเดินทางไปยังตระกูลเทียน,ย่อมต้องมีคนหลายคนรับรู้!"จงซานส่ายหน้าไปมา.
"อืม,แล้วเจ้าไม่อยากรู้รึว่าเขาเป็นใคร?"
"เขาเป็นใคร? เจ้ากลัวรึ?"
"กลัวรึ?
เขาสามารถขวางข้าได้อย่างงั้นรึ?"
"ในเมื่อเขาไม่สามารถขวางพวกเราได้,มีสิ่งใดที่ต้องกังวล,ที่จริงแล้วข้าเคยได้ยินชื่อสกุลนี้มาก่อน,ข้าจึงพอคาดเดาสถานะของเขาได้."จงซานที่กล่าวยืนยัน.
"หืม?"
"ภายในภพหยินนั้นมีอีกหนึ่งราชวงศ์สวรรค์,ตระกูลอี้นั้นคือหนึ่งในสี่ขุนนางใหญ่ของต้าโหยว!"จงซานกล่าว.
"หืม? เจ้ามั่นใจอย่างงั้นรึ?
"ตระกูลอี้นั้นนับว่ามียอดฝีมือที่ไม่ธรรมดา,ประมุขตระกูลอี้นั้นยังเยาว์วัย,ดูเหมือนว่าจะเพิ่งรับตำแหน่งเมื่อสามร้อยปีที่แล้ว,หลังจากนั้นดูเหมือนว่าสถานการณ์ของพวกเขากลับดูเหมือนถดถอยลงไป,เพราะว่าตระกูลอี้นั้นมีประมุขที่ยังเยาว์เมื่อเทียบกับคนอื่นๆในสี่ตระกูลใหญ่,แต่เพราะตระหนักในตัวเองว่ายังมีสิ่งที่ขาด,ประมุขตระกูลอี้
จึงเป็นคนที่ออกมาด้านนอกราชวงศ์เพื่อศึกษาเรื่องราวต่างๆที่ไม่ธรรมดาที่เกิดขึ้นในโลกหล้า."จงซานที่กล่าวยืนยัน.
"หืม? เจ้าคิดว่าตระกูลอี้นั้นมีส่วนเกี่ยวข้องกับราชวงศ์สวรรค์ต้าโหยวถูกส่งมาหาประสบการณ์อย่างงั้นรึ?"หยินโหลวหรี่ที่กล่าวออกมาด้วยท่าทางไม่อยากเชื่อ.
"ภายใต้สถานการณ์ในโลกใบนี้,ไม่สามารถมองเห็นได้โดยง่าย,เพียงแค่กลุ่มอิทธิพลเล็กๆนั้นไม่สามารถที่จะเข้าใจกับแผนการของกลุ่มอิทธิพลขนาดใหญ่ได้อย่างระเอียดอย่างแน่นอน."จงซานกล่าวยืนยัน.
"เป็นความจริง,เหล่าผู้นำของแต่ละราชวงศ์นั้นล้วนแต่มากฝีมือยากจะต่อกรได้ง่ายๆ!"หยินโหลวหรี่ที่กล่าวออกมาด้วยความแปลกประหลาด.
...
เช้าวันถัดมา.
"จงซาน,ดูเหมือนว่าจะเป็นไปตามที่ท่านคาด,เฉินซิวนั้นไม่ยินดีที่จะจากไป,นอกจากนี้ยังดูเหมือนว่าจะร่วมมือกับเย่ชิงเฉิงและซิงไท่โต่วต่อกรกับตระกูลเทียนด้วย!"อี้หลานเชวี๋ยกล่าวด้วยรอยยิ้ม.
"โอ้ว? ดูเหมือนว่าเจ้าจะมีอิทธิพลในราชสำนักราชวงศ์ไท่โต่วด้วยอย่างงั้นรึ?"จงซานที่แสดงท่าทางประหลาดใจเล็กน้อย.
"ไม่ใช่เช่นนั้น,ดูเหมือนว่าจะมีขันทีคนหนึ่งที่ออกมาเผยข่าวนี้ด้วยตัวเองเลย!"อี้หลานเชวี๋ยที่สะบัดพัดไปมาขณะพูด.
จงซานรับรู้ว่าอี้หลานเชวี๋ยนั้นไม่ได้โกหก,เขาที่เผยยิ้มออกมาเล็กน้อย,ไม่ซักไซ้อีกต่อไป.
"เจ้ายินดีที่จะสร้างปัญหาให้กับตระกูลเทียนพร้อมกับข้าหรือไม่?"จงซานที่ชำเลืองมองไปยังอี้หลานเชวี๋ย.
"ไม่,ข้าไม่กล้าหาเรื่องตระกูลเทียน,อย่างน้อยที่สุดข้าคงทำได้แค่ช่วยโบกธงให้ท่านเท่านั้น,พลังฝึกตนของข้านั้นต่ำต้อนนัก,หอการค้าของข้านั้นจะขาดข้าไปไม่ได้,ข้าเองก็ไม่ต้องการแส่หาความตาย,อย่างไรก็ตามเหมือนกับก่อนหน้านี้,หากเป็นเรื่องเล็กๆน้อย,ข้าก็พอจะช่วยท่านได้,แต่อย่างไรก็ดี
ข้าต้องการเป็นเพียงผู้ชมเท่านั้น,ต้องการดูว่าท่านจะสั่นคลอนตระกูลเทียนอย่างไร!"
อี้หลานเชวี๋ยที่กล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม.
"เพียงเท่านี้ก็นับว่ายอดเยี่ยม,หากได้หอการค้าของเจ้าช่วยเหลือ,จงซานรู้สึกขอบคุณยิ่งนัก!"จงซานกล่าว.
"แผนการพลิกสวรรค์ของท่าน,ก้าวต่อไปคืออะไรอย่างงั้นรึ?"อี้หลานเชวี๋ยที่สอบถามออกมา.
"แผนการพลิกสวรรค์อย่างงั้นรึ?"จงซานที่ขมวดคิ้วไปมา.
"ท่านต้องการทำให้ตระกูลเทียน,พลิกฟ้าพลิกแผ่นดิน,แผนการของท่านไม่ใช่แผนการพลิกสวรรค์หรอกรึ?"อี้หลานเชวี๋ยกล่าวต่อจงซาน.
"หากว่ามีอะไรให้ข้าช่วย,เกี่ยวกับเรื่องเล็กๆน้อยล่ะก็,เชิญกล่าวออกมาได้เลย."อี้หลานเชวี๋ยที่กล่าวต่อในทันที.
"ดีเลย,เช่นนั้นคงต้องขอบคุณล่วงหน้า!"จงซานที่กล่าวออกมาด้วยท่าทางประหลาดใจ.
"แผนการที่สอง?..แผนการต่อไป,หัวเดียวกระเทียมลีบ!"จงซานที่ครุ่นคิดและกล่าวออกมา.
.....................
ค่ายทหารของเทียนเซียว!
"มีข่าวของจงซานหรือไม่?"เทียนเซียวที่จ้องมองไปยังทุกคน.
"ไม่มีแม้แต่น้อย,สิบวันก่อนเขาได้ออกมาจากโรงเตี้ยมแห่งหนึ่งจากนั้นก็หายไปไม่มีร่องรอยอีกเลย!"ผู้ใต้บังคับบัญชาคนหนึ่งกล่าว.
"แล้วที่ด้านนอกมีเรื่องอะไรที่ผิดปรกติหรือไม่?"เทียนเซียวที่ขมวดคิ้วไปมา.
"ไม่มีเลย!"ผู้ใต้บังคับบัญชากล่าวตอบ.
"เส้าเหยี่ย,ข้าพบเหตุการณ์แปลกๆบางอย่างเข้า."เสี่ยวหวังที่เอ่ยปากออกมาในทันที.
"อืม?เทียนเซียวที่ขมวดคิ้วไปมา.
"แผนการสวรรค์ล่มของพวกเรานั้น,ขั้นที่หนึ่งเกี่ยวกับวิกฤติเงินตรานั้น,ข้าพบว่าทรัพย์สินส่วนหนึ่งของตลาดนั้นได้ไหลออกไปจากตลาดอย่างรวดเร็ว,ช่วยลดเวลาพวกเราเป็นอย่างมาก!"เสี่ยวหวังกล่าว.
"ช่วยพวกเราอย่างงั้นรึ?"
"ครับ,ช่วยพวกเรา,ช่วยทำให้สถานการณ์ของราชวงศ์ราชันย์ซิงโต่วกำลังพบกับความอนาถเร็วขึ้น!"เสี่ยวหวังกล่าว.
"มีใครบางคนที่นำศิลามิติออกไปอย่างงั้นรึ?"ผู้ใต้บังคับบัญชาคนหนึ่งกล่าวสอบถาม.
"เป็นเหตุการณ์ที่ผิดปรกติ,ทรัพยากรศิลามิติได้ถูกดูดออกไปเร็วขึ้น,ซึ่งจะทำให้คนของราชวงศ์ซิ่งโต่วบ้าคลั่ง,กู้หนี้ยืมสินมากขึ้นและก็มากขึ้น,หลังจากนั้นก็จะปรากฏหายนะ,ราชวงศ์ราชันย์ซิงโต่วก็จะกลายเป็นความวุ่นวายดั่งที่พวกเราหวัง,ดูเหมือนว่ามีคนบางกลุ่มที่กำลังช่วยพวกเราทำให้ราชวงศ์ราชันย์ซิงโต่วล่มสลายเร็วขึ้น."เสี่ยวหวังที่กล่าวอย่างเคร่งขรึม.
นี่คือสงครามการค้า,เป็นการบดขยี้กันด้วยเงินตรา,นำเงินที่มีอยู่ในระบบออกไป,เพื่อให้ระบบการค้าล่มสลาย,หากแต่มีใครที่ช่วยเหลือพวกเขาอยู่กัน.
คนผู้นี้จะต้องเข้าใจแผนการสวรรค์ล่มอย่างดี,ไม่ได้ด้อยกว่าพวกเขา,หรือแม้แต่เหนือกว่าพวกเราไปด้วย,จะเป็นใครได้ล่ะ?"เทียนเซียวที่กล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม.
"เป็นจงซาน,แน่นอนว่าจะต้องเป็นจงซาน,มีเพียงเขา,หากแต่เป้าหมายที่เขาช่วยพวกเรานั้นคืออะไร?
เขาไม่ได้เล็งไปที่ตระกูลเทียนหรอกรึ?
แล้วทำไมต้องช่วยพวกเรา?"เสี่ยวหวังที่ขมวดคิ้วไปมา.
"เรื่องนี้จะต้องรอดูอีกครั้ง,จงซานนั้นได้วางแผนอะไรเอาไว้กันแน่!"เทียนเซียวที่กล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม.
.......................
บนเกาะลอยฟ้าแห่งหนึ่ง,จงซานที่จดจ้องมองความวุ่นวายของคนในเมือง,แววตาของเขาที่ดูจริงจัง.
"จงซาน,แผนการของท่านสวรรค์ล่มขันที่หนึ่งร้ายกาจนัก,ไม่คิดเลยว่าจะโหดเหี้ยมเช่นนี้?"อี้หลานเชวี๋ยที่ขมวดคิ้วไปมา.
"ซิงไท่โต่วนั้นไม่ใช่น่าหลานเพียวเสวี๋ย,เขาที่เคยเป็นเซิ่งซ่างราชวงศ์สวรรค์,เขาย่อมมีมันสมองที่เป็นเลิศ,หากปล่อยให้เป็นไปตามแผนการสวรรค์ล่มทั่วไป,ยากที่จะจัดการเขาได้ง่ายๆ,ดังนั้นข้าจึงได้เร่งให้เกิดขั้นที่สอง,ขั้นที่สาม,แม้แต่ขั้นที่สี่ให้เกิดขึ้นเพื่อช่วยให้แผนการสวรรค์ล่มขั้นที่หนึ่งสมบูรณ์มากขึ้น,ทำให้ซิงไท่โต่วได้รับความเสียหายอย่างหนักและพ่ายแพ้อย่างเจ็บปวด!"จงซานที่กล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม
"หืม?"อี้หลานเชวี๋ยที่สงสัยอยู่เล็กน้อย,จับจ้องมองไปยังจงซานพร้อมกับเผยยิ้มบางๆออกมา.
"ข้าจำได้ว่าเย่ชิงเฉิงมีอายุห้าพันปี,อีกไม่นานเขาจะครบรอบมีอายุ
5432ปี."จงซานกล่าว.
"อืม,ทว่า,โลกอมตะนั้นไม่ได้จัดงานอะไร,เพราะว่าเย่ชิงเฉิงอยู่ด้านนอก!"อี้หลานเชวี๋ยกล่าว.
"ดูเหมือนว่าพวกเราต้องจัดการใหญ่ให้กับเขาสักหน่อยแล้ว!"จงซานกล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม.
"หืม?"
"แผนการขั้นที่สอง,หัวเดียวกระเทียมลีบ! ประมุขโลกอมตะคือตัวหลัก!,หลังจากนี้ครึ่งเดือน,ราชวงศ์ราชันย์ซิงโหลวจะระส่ำ,เนื่องจากขาดแคลนศิลามิติ,เมืองต่างๆจะก่อกบฏลุกฮือขึ้น,ทุกๆแห่งจะเต็มไปด้วยความวุ่นวาย,ฆ่าปล้นชิงทรัพย์สินอย่างต่อเนื่อง,ความวุ่นวายนี้จะรุนแรงมากกว่าที่เคยเกิดขึ้นในภพหยางสิบเท่า.
.........
และแล้วเวลานั้นก็มาถึง,แผนที่ขุมสมบัติก็ปรากฏขึ้นนั้น,ก่อให้เกิดการฆ่าฟันกัน,แผนที่สมบัติมากมายนั้นทำให้ทหารมากมายละทิ้งหน้าที่,แม้แต่ขุนนางในเมืองยังออกนอกเมืองเพื่อค้นหาสมบัติ.
กับภาวะเศรษฐกิจที่ตกต่ำครั้งใหญ่ของราชวงศ์ซิงโต่ว,ทุกอย่างได้เปลี่ยนไป,แม้แต่เหล่าข้าราชบริพารยังอพยพหนี.
ราชวงศ์ราชันย์ซิงโต่วได้มาถึงการล่มสลายแล้ว,ตอนนี้เหลือเพียงแค่ชื่อ,อีกไม่นานก็จะล่มสลายโดยสมบูรณ์.
ซิงไท่โต่วที่ใบหน้ามือคลึ้ม,พร้อมกับกล่าวปลอบเหล่าข้าราชบริพารที่ยังเหลืออยู่ไม่กี่คน,ซิงไท่โต่วที่นั่งบนบัลลังก์มังกรด้วยความมืดมน.
ใบหน้าของเขาที่มืดคลึ้มเต็มไปด้วยความหวาดหวั่น.
"เทียนเซียว?
เจ้าโหดเหี้ยมยิ่งนัก,ร้ายกาจมาก!"ซิงไท่โต่วที่บ่นพึมพำด้วยความแค้น.
นับเป็นการโหดเหี้ยมอย่างแท้จริง,ราชวงศ์ราชันย์ซิงโต่วได้ล่มสลายแล้ว.
ตอนนี้เหลือเพียงเมืองหลวงแห่งเดียว,สงครามทัพหน้าและเมืองอื่นๆในปกครองได้ถูกยึดครองไปแล้วโดยสมบูรณ์,ซิงไท่โต่วตอนนี้ได้พ่ายแพ้ต่อตระกูลเทียนอีกครั้งแล้ว.
"ฝ่าบาท!"ขันทีชราที่กล่าวด้วยความเป็นห่วงเขาที่ด้านข้าง.
"ข้าไม่เป็นไร,หลายปีมานี้,เจ้าติดตามข้ามาโดยตลอด,ลำบากเจ้าแล้ว!"ซิงไท่โต่วที่กล่าวออกมาด้วยความเศร้าใจ.
"หาได้ลำบากอะไร,ตราบเท่าที่ได้รับใช้ฝ่าบาท,บ่าวชราล้วนแล้วแต่ยินดี,ทว่าช่างน่าเศร้าที่ญาติมิตรสหายได้ถูกตระกูลเทียนสังหารไปจนหมดแล้ว!"ขันทีชราที่สูดหายใจลึก.
ขณะเดียวกันกับความอ้างว้างโดดเดี่ยว,ซิงไท่โต่วที่ก้าวออกไปจากห้องโถงช้าๆ,จ้องมองไปยังเมืองซิงโต่วยังพื้นที่ไกลออกไป,เหล่าประชาชนมากมายที่อพยพหลบหนี,ดูภายในเมืองที่ดูเงียบเหงาแทบไม่ต่างจากเมืองในชนบท,ทำให้ภายในใจของซิงไท่โต่วนั้นเจ็บปวดนัก,ดูเหมือนว่าจะหมดยุคความรุ่งโรจน์ในชีวิตของเขาแล้ว.
หากเป็นในอดีต,ซิงไท่โต่วเป็นไปไม่ได้ที่จะรู้สึกเช่นนี้,หากแต่หลังจากที่เขาพ่ายศึกติดต่อกันหลายครั้ง,ภายในใจของเขาย่อมสั่นคลอนเป็นธรรมดา.
ขันทีชรายังคงติดตามซิงไท่โต่วข้างๆ,เหมือนกับเงาตามตัว,ติดตามซิงไท่โต่ว.
"วีดด.....ตูมมมมมม"
ภายในเมืองซิงโต่ว,ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงดังก้องกังวานสนั่นหวั่นไหว,พร้อมดอกไม้ไฟที่ระเบิดเต็มท้องฟ้า.
เกี่ยวกับหอการค้าต้าหรงที่มาเปิดทำการค้าในภพหยิน,ดอกไม้ไฟไม่ถือว่าเป็นสมบัติล้ำค่าอีกต่อไป,ต้องไม่ลืมว่ากระบวนการผลิตขอมันนั้นง่ายดายนัก,และแพร่หลายในภพหยินอย่างรวดเร็ว.
"ตูมมมมมมมมม"
ดอกไม้ไฟที่ถูกยิงขึ้นไปบนอากาศ,ระเบิดดังสนั่น,ในความมืดมิด,ได้สร้างภพฉากที่งดงามเป็นอย่างมาก.
”~~ ~~ ~”
ดอกไม้ไฟมากมายที่ถูกยิงขึ้นไปบนท้องฟ้า,เป็นรูปลักษณ์ต่างๆที่ส่องสว่างบนท้องฟ้า,ภายในเมืองแม้นว่าจะเหลือคนน้อยกว่าครึ่งหนึ่ง,ทว่าพวกเขาทุกคนที่ออกมาเงยหน้าขึ้นไปมองฟ้า,รู้สึกสงบและสับสันอยู่เหมือนกัน,หากแต่ภาพที่ปรากฏขึ้นบนท้องฟ้านั้นกลับดูงดงามเป็นอย่างมาก.
ภายในเมืองซิงโต่วนั้น,เป็นเมืองใหญ่,หากแต่ดอกไม้ไฟนั้นกับถูกจุดขึ้นทุกที่,ส่องประกายแสงระยิบระยับ,แทบจะทุกคนที่ออกมาจากที่พักตัวเอง,ออกมาดูดอกไม้ไฟที่ถูกจุด.
เย่ชิงเฉิง,เฉินซิวและคนของโลกอมตะต่างก็เดินออกมาด้านนอก,พร้อมกับเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้าด้วยความอยากรู้อยากเห็น.
ซิงไท่โต่วเองกับอารมณ์ที่หม่นหมองของเขานั้น,ทันทีที่เห็นดอกไม้ไฟก็รู้สึกดีขึ้นมาเหมือนกัน.
ที่ด้านนอกเมืองซิงโต่วนั้น,บนยอดเขา,จงซาน,อี้หลานเชวี๋ยและหยินโหลวหรี่,ที่จ้องมองไปยังดอกไม้ไฟที่ถูกจุดขึ้นมากมายภายในเมืองซิงโต่ว,เพราะว่าแผนการขั้นที่สองของจงซานได้,ที่ทำให้คนอื่นต้องพบกับวาระสุดท้าย.
ที่มาจากhttps://lnmtl.com/novel/immortality
#นิยาย เรื่องอมตะ #Immortality#นิยายแปลไทย
Author(s)
สนใจสนับสนุนพวกเรา,เข้าร่วมกลุ่ม VIP ====> Click
***เว็ปฟรีอัพ สองวันหนึ่งตอน
***กลุ่มลับ อัพ 2-3 ตอนต่อวัน.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น