วันศุกร์ที่ 13 มีนาคม พ.ศ. 2563

Immortality Chapter 662 The second step, loner

Immortality Chapter 662  The second step, loner

นิยาย เรื่อง อมตะ ตอนที่ 662  แผนการที่สอง.หัวเดียวกระเทียมลีบ.


Chapter 662  The second step, loner
第二步,孤家寡人

  แผนการที่สอง.หัวเดียวกระเทียมลีบ.
*** 孤家寡人 ( gū jiā guǎ rén ) เป็นคำที่จักรพรรดิจีนในสมัยโบราณเรียกตนเอง ปัจจุบันอุปมาว่า ผู้โดดเดี่ยวเดียวดาย,หัวเดียวกระเทียมลีบ.

จงซานและหยินโหลวหรี่ที่ถูกนำมายังที่พำนักของอี้หลานเชวี๋ย.

"ทั้งสองโปรดพักอยู่ที่นี่ก่อน,ข้าจะไปจัดการเรื่องบางอย่าง,ไว้พรุ่งนี้ข้าจะมาพบกับพวกท่านอีกครั้ง!"อี้หลานเชวี๋ยที่กล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม.

"เชิญ!"จงซานที่พยักหน้ารับ.



หลังจากที่อี้หลานเชวี๋ยจากไปแล้ว,หยินโหลวหรี่ที่ขมวดคิ้วไปมา.

"เจ้าเชื่อคำพูดไร้สาระของเขาอย่างงั้นรึ?"หยินโหลวหรี่ที่กล่าวออกมาด้วยความประหลาดใจ.

"ทำไมจะไม่เชื่อล่ะ?"จงซานที่กล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม.

"เขาบอกว่าเพราะเขาอยากรู้อยากเห็นต้องการพบพวกเรา,และยังจะช่วยเหลือพวกเราอีก,เพราะว่าต้องการเห็นแผนการของพวกเรา,เห็นชัดเจนว่า เขานั้นพูดจาไร้สาระไม่ใช่รึ?"ใบหน้าของหยินโหลวหรี่ที่กล่าวออกมาด้วยความจริงจัง.

"ทว่านั่นใช่เรื่องสำคัญ?"จงซานสอบถามออกไป.

"ไม่ใช่สิ่งสำคัญอย่างงั้นรึ?"หยินโหลวหรี่ที่จ้องมอง,ไม่เข้าใจจงซานเลยแม้แต่น้อย.

"เฮ้เฮ้,กับศัตรูที่เป็นสหายนั้นไม่ได้สำคัญอะไรนัก,อย่างน้อยตอนนี้ไม่ใช่เรื่องสำคัญ,สิ่งสำคัญคือเขาไม่ใช่คนตระกูลเทียน,อาจเป็นคนของซิงไท่โต่ว,หรือใครก็ได้ทั้งนั้น."จงซานกล่าวออกมาอย่างจริงจัง.

"หืม?"

"ไม่ว่าเขาจะมีเหตุผลอะไร,ไม่ว่าจะเป็นใคร,ข้าเองนั้นหาได้ต้องการรู้,สิ่งจำเป็นที่ต้องการรู้คือเขามีประโยชน์พอที่จะช่วยทำให้แผนการเราสำเร็จก็เป็นพอ!"จงซานกล่าว.

"หืม? ทว่า,คาดไม่ถึงเลยว่าเขาจะรับรู้ด้วยว่าเจ้ากำลังเล็งไปที่เฉินซิ่ว,อีกทั้งยังรู้ด้วยว่าพวกเราเพิ่งไปตระกูลเทียนมา!"หยินโหลวหรี่ที่กล่าวออกมาด้วยความกังวล.

"เกี่ยวกับเรื่องเฉินซิ่ว? ไม่ยากที่จะคาดเดา,ซิงไท่โต่ว,เย่ชิงเฉิง,เทียนเซียวและคนอื่นๆล้วนแล้วแต่รับรู้,แน่นอนว่าที่ข้าเล็งไปที่เฉินซิวนั่น,เป็นปรารถนาดีกับพวกเขาด้วย,ส่วนเรื่องที่พวกเราเดินทางไปยังตระกูลเทียน? ก็ไม่ใช่เรื่องยากอะไร,ตระกูลเทียนนั้น,ย่อมมีคนจับตามองอยู่ตลอด,การจะเห็นพวกเราเดินทางไปยังตระกูลเทียน,ย่อมต้องมีคนหลายคนรับรู้!"จงซานส่ายหน้าไปมา.

"อืม,แล้วเจ้าไม่อยากรู้รึว่าเขาเป็นใคร?"

"เขาเป็นใคร? เจ้ากลัวรึ?"

"กลัวรึ? เขาสามารถขวางข้าได้อย่างงั้นรึ?"

"ในเมื่อเขาไม่สามารถขวางพวกเราได้,มีสิ่งใดที่ต้องกังวล,ที่จริงแล้วข้าเคยได้ยินชื่อสกุลนี้มาก่อน,ข้าจึงพอคาดเดาสถานะของเขาได้."จงซานที่กล่าวยืนยัน.

"หืม?"

"ภายในภพหยินนั้นมีอีกหนึ่งราชวงศ์สวรรค์,ตระกูลอี้นั้นคือหนึ่งในสี่ขุนนางใหญ่ของต้าโหยว!"จงซานกล่าว.

"หืม? เจ้ามั่นใจอย่างงั้นรึ?

"ตระกูลอี้นั้นนับว่ามียอดฝีมือที่ไม่ธรรมดา,ประมุขตระกูลอี้นั้นยังเยาว์วัย,ดูเหมือนว่าจะเพิ่งรับตำแหน่งเมื่อสามร้อยปีที่แล้ว,หลังจากนั้นดูเหมือนว่าสถานการณ์ของพวกเขากลับดูเหมือนถดถอยลงไป,เพราะว่าตระกูลอี้นั้นมีประมุขที่ยังเยาว์เมื่อเทียบกับคนอื่นๆในสี่ตระกูลใหญ่,แต่เพราะตระหนักในตัวเองว่ายังมีสิ่งที่ขาด,ประมุขตระกูลอี้ จึงเป็นคนที่ออกมาด้านนอกราชวงศ์เพื่อศึกษาเรื่องราวต่างๆที่ไม่ธรรมดาที่เกิดขึ้นในโลกหล้า."จงซานที่กล่าวยืนยัน.

"หืม? เจ้าคิดว่าตระกูลอี้นั้นมีส่วนเกี่ยวข้องกับราชวงศ์สวรรค์ต้าโหยวถูกส่งมาหาประสบการณ์อย่างงั้นรึ?"หยินโหลวหรี่ที่กล่าวออกมาด้วยท่าทางไม่อยากเชื่อ.

"ภายใต้สถานการณ์ในโลกใบนี้,ไม่สามารถมองเห็นได้โดยง่าย,เพียงแค่กลุ่มอิทธิพลเล็กๆนั้นไม่สามารถที่จะเข้าใจกับแผนการของกลุ่มอิทธิพลขนาดใหญ่ได้อย่างระเอียดอย่างแน่นอน."จงซานกล่าวยืนยัน.

"เป็นความจริง,เหล่าผู้นำของแต่ละราชวงศ์นั้นล้วนแต่มากฝีมือยากจะต่อกรได้ง่ายๆ!"หยินโหลวหรี่ที่กล่าวออกมาด้วยความแปลกประหลาด.
...

เช้าวันถัดมา.

"จงซาน,ดูเหมือนว่าจะเป็นไปตามที่ท่านคาด,เฉินซิวนั้นไม่ยินดีที่จะจากไป,นอกจากนี้ยังดูเหมือนว่าจะร่วมมือกับเย่ชิงเฉิงและซิงไท่โต่วต่อกรกับตระกูลเทียนด้วย!"อี้หลานเชวี๋ยกล่าวด้วยรอยยิ้ม.

"โอ้ว? ดูเหมือนว่าเจ้าจะมีอิทธิพลในราชสำนักราชวงศ์ไท่โต่วด้วยอย่างงั้นรึ?"จงซานที่แสดงท่าทางประหลาดใจเล็กน้อย.

"ไม่ใช่เช่นนั้น,ดูเหมือนว่าจะมีขันทีคนหนึ่งที่ออกมาเผยข่าวนี้ด้วยตัวเองเลย!"อี้หลานเชวี๋ยที่สะบัดพัดไปมาขณะพูด.

จงซานรับรู้ว่าอี้หลานเชวี๋ยนั้นไม่ได้โกหก,เขาที่เผยยิ้มออกมาเล็กน้อย,ไม่ซักไซ้อีกต่อไป.

"เจ้ายินดีที่จะสร้างปัญหาให้กับตระกูลเทียนพร้อมกับข้าหรือไม่?"จงซานที่ชำเลืองมองไปยังอี้หลานเชวี๋ย.

"ไม่,ข้าไม่กล้าหาเรื่องตระกูลเทียน,อย่างน้อยที่สุดข้าคงทำได้แค่ช่วยโบกธงให้ท่านเท่านั้น,พลังฝึกตนของข้านั้นต่ำต้อนนัก,หอการค้าของข้านั้นจะขาดข้าไปไม่ได้,ข้าเองก็ไม่ต้องการแส่หาความตาย,อย่างไรก็ตามเหมือนกับก่อนหน้านี้,หากเป็นเรื่องเล็กๆน้อย,ข้าก็พอจะช่วยท่านได้,แต่อย่างไรก็ดี ข้าต้องการเป็นเพียงผู้ชมเท่านั้น,ต้องการดูว่าท่านจะสั่นคลอนตระกูลเทียนอย่างไร!"

อี้หลานเชวี๋ยที่กล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม.

"เพียงเท่านี้ก็นับว่ายอดเยี่ยม,หากได้หอการค้าของเจ้าช่วยเหลือ,จงซานรู้สึกขอบคุณยิ่งนัก!"จงซานกล่าว.

"แผนการพลิกสวรรค์ของท่าน,ก้าวต่อไปคืออะไรอย่างงั้นรึ?"อี้หลานเชวี๋ยที่สอบถามออกมา.

"แผนการพลิกสวรรค์อย่างงั้นรึ?"จงซานที่ขมวดคิ้วไปมา.

"ท่านต้องการทำให้ตระกูลเทียน,พลิกฟ้าพลิกแผ่นดิน,แผนการของท่านไม่ใช่แผนการพลิกสวรรค์หรอกรึ?"อี้หลานเชวี๋ยกล่าวต่อจงซาน.

"หากว่ามีอะไรให้ข้าช่วย,เกี่ยวกับเรื่องเล็กๆน้อยล่ะก็,เชิญกล่าวออกมาได้เลย."อี้หลานเชวี๋ยที่กล่าวต่อในทันที.

"ดีเลย,เช่นนั้นคงต้องขอบคุณล่วงหน้า!"จงซานที่กล่าวออกมาด้วยท่าทางประหลาดใจ.

"แผนการที่สอง?..แผนการต่อไป,หัวเดียวกระเทียมลีบ!"จงซานที่ครุ่นคิดและกล่าวออกมา.

.....................

ค่ายทหารของเทียนเซียว!

"มีข่าวของจงซานหรือไม่?"เทียนเซียวที่จ้องมองไปยังทุกคน.

"ไม่มีแม้แต่น้อย,สิบวันก่อนเขาได้ออกมาจากโรงเตี้ยมแห่งหนึ่งจากนั้นก็หายไปไม่มีร่องรอยอีกเลย!"ผู้ใต้บังคับบัญชาคนหนึ่งกล่าว.

"แล้วที่ด้านนอกมีเรื่องอะไรที่ผิดปรกติหรือไม่?"เทียนเซียวที่ขมวดคิ้วไปมา.

"ไม่มีเลย!"ผู้ใต้บังคับบัญชากล่าวตอบ.

"เส้าเหยี่ย,ข้าพบเหตุการณ์แปลกๆบางอย่างเข้า."เสี่ยวหวังที่เอ่ยปากออกมาในทันที.

"อืม?เทียนเซียวที่ขมวดคิ้วไปมา.

"แผนการสวรรค์ล่มของพวกเรานั้น,ขั้นที่หนึ่งเกี่ยวกับวิกฤติเงินตรานั้น,ข้าพบว่าทรัพย์สินส่วนหนึ่งของตลาดนั้นได้ไหลออกไปจากตลาดอย่างรวดเร็ว,ช่วยลดเวลาพวกเราเป็นอย่างมาก!"เสี่ยวหวังกล่าว.

"ช่วยพวกเราอย่างงั้นรึ?"

"ครับ,ช่วยพวกเรา,ช่วยทำให้สถานการณ์ของราชวงศ์ราชันย์ซิงโต่วกำลังพบกับความอนาถเร็วขึ้น!"เสี่ยวหวังกล่าว.

"มีใครบางคนที่นำศิลามิติออกไปอย่างงั้นรึ?"ผู้ใต้บังคับบัญชาคนหนึ่งกล่าวสอบถาม.

"เป็นเหตุการณ์ที่ผิดปรกติ,ทรัพยากรศิลามิติได้ถูกดูดออกไปเร็วขึ้น,ซึ่งจะทำให้คนของราชวงศ์ซิ่งโต่วบ้าคลั่ง,กู้หนี้ยืมสินมากขึ้นและก็มากขึ้น,หลังจากนั้นก็จะปรากฏหายนะ,ราชวงศ์ราชันย์ซิงโต่วก็จะกลายเป็นความวุ่นวายดั่งที่พวกเราหวัง,ดูเหมือนว่ามีคนบางกลุ่มที่กำลังช่วยพวกเราทำให้ราชวงศ์ราชันย์ซิงโต่วล่มสลายเร็วขึ้น."เสี่ยวหวังที่กล่าวอย่างเคร่งขรึม.

นี่คือสงครามการค้า,เป็นการบดขยี้กันด้วยเงินตรา,นำเงินที่มีอยู่ในระบบออกไป,เพื่อให้ระบบการค้าล่มสลาย,หากแต่มีใครที่ช่วยเหลือพวกเขาอยู่กัน.

คนผู้นี้จะต้องเข้าใจแผนการสวรรค์ล่มอย่างดี,ไม่ได้ด้อยกว่าพวกเขา,หรือแม้แต่เหนือกว่าพวกเราไปด้วย,จะเป็นใครได้ล่ะ?"เทียนเซียวที่กล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม.

"เป็นจงซาน,แน่นอนว่าจะต้องเป็นจงซาน,มีเพียงเขา,หากแต่เป้าหมายที่เขาช่วยพวกเรานั้นคืออะไร? เขาไม่ได้เล็งไปที่ตระกูลเทียนหรอกรึ? แล้วทำไมต้องช่วยพวกเรา?"เสี่ยวหวังที่ขมวดคิ้วไปมา.

"เรื่องนี้จะต้องรอดูอีกครั้ง,จงซานนั้นได้วางแผนอะไรเอาไว้กันแน่!"เทียนเซียวที่กล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม.
.......................

บนเกาะลอยฟ้าแห่งหนึ่ง,จงซานที่จดจ้องมองความวุ่นวายของคนในเมือง,แววตาของเขาที่ดูจริงจัง.

"จงซาน,แผนการของท่านสวรรค์ล่มขันที่หนึ่งร้ายกาจนัก,ไม่คิดเลยว่าจะโหดเหี้ยมเช่นนี้?"อี้หลานเชวี๋ยที่ขมวดคิ้วไปมา.

"ซิงไท่โต่วนั้นไม่ใช่น่าหลานเพียวเสวี๋ย,เขาที่เคยเป็นเซิ่งซ่างราชวงศ์สวรรค์,เขาย่อมมีมันสมองที่เป็นเลิศ,หากปล่อยให้เป็นไปตามแผนการสวรรค์ล่มทั่วไป,ยากที่จะจัดการเขาได้ง่ายๆ,ดังนั้นข้าจึงได้เร่งให้เกิดขั้นที่สอง,ขั้นที่สาม,แม้แต่ขั้นที่สี่ให้เกิดขึ้นเพื่อช่วยให้แผนการสวรรค์ล่มขั้นที่หนึ่งสมบูรณ์มากขึ้น,ทำให้ซิงไท่โต่วได้รับความเสียหายอย่างหนักและพ่ายแพ้อย่างเจ็บปวด!"จงซานที่กล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม

"หืม?"อี้หลานเชวี๋ยที่สงสัยอยู่เล็กน้อย,จับจ้องมองไปยังจงซานพร้อมกับเผยยิ้มบางๆออกมา.

"ข้าจำได้ว่าเย่ชิงเฉิงมีอายุห้าพันปี,อีกไม่นานเขาจะครบรอบมีอายุ 5432ปี."จงซานกล่าว.

"อืม,ทว่า,โลกอมตะนั้นไม่ได้จัดงานอะไร,เพราะว่าเย่ชิงเฉิงอยู่ด้านนอก!"อี้หลานเชวี๋ยกล่าว.

"ดูเหมือนว่าพวกเราต้องจัดการใหญ่ให้กับเขาสักหน่อยแล้ว!"จงซานกล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม.

"หืม?"

"แผนการขั้นที่สอง,หัวเดียวกระเทียมลีบ! ประมุขโลกอมตะคือตัวหลัก!,หลังจากนี้ครึ่งเดือน,ราชวงศ์ราชันย์ซิงโหลวจะระส่ำ,เนื่องจากขาดแคลนศิลามิติ,เมืองต่างๆจะก่อกบฏลุกฮือขึ้น,ทุกๆแห่งจะเต็มไปด้วยความวุ่นวาย,ฆ่าปล้นชิงทรัพย์สินอย่างต่อเนื่อง,ความวุ่นวายนี้จะรุนแรงมากกว่าที่เคยเกิดขึ้นในภพหยางสิบเท่า.
.........

และแล้วเวลานั้นก็มาถึง,แผนที่ขุมสมบัติก็ปรากฏขึ้นนั้น,ก่อให้เกิดการฆ่าฟันกัน,แผนที่สมบัติมากมายนั้นทำให้ทหารมากมายละทิ้งหน้าที่,แม้แต่ขุนนางในเมืองยังออกนอกเมืองเพื่อค้นหาสมบัติ.

กับภาวะเศรษฐกิจที่ตกต่ำครั้งใหญ่ของราชวงศ์ซิงโต่ว,ทุกอย่างได้เปลี่ยนไป,แม้แต่เหล่าข้าราชบริพารยังอพยพหนี.

ราชวงศ์ราชันย์ซิงโต่วได้มาถึงการล่มสลายแล้ว,ตอนนี้เหลือเพียงแค่ชื่อ,อีกไม่นานก็จะล่มสลายโดยสมบูรณ์.

ซิงไท่โต่วที่ใบหน้ามือคลึ้ม,พร้อมกับกล่าวปลอบเหล่าข้าราชบริพารที่ยังเหลืออยู่ไม่กี่คน,ซิงไท่โต่วที่นั่งบนบัลลังก์มังกรด้วยความมืดมน.

ใบหน้าของเขาที่มืดคลึ้มเต็มไปด้วยความหวาดหวั่น.

"เทียนเซียว? เจ้าโหดเหี้ยมยิ่งนัก,ร้ายกาจมาก!"ซิงไท่โต่วที่บ่นพึมพำด้วยความแค้น.

นับเป็นการโหดเหี้ยมอย่างแท้จริง,ราชวงศ์ราชันย์ซิงโต่วได้ล่มสลายแล้ว.

ตอนนี้เหลือเพียงเมืองหลวงแห่งเดียว,สงครามทัพหน้าและเมืองอื่นๆในปกครองได้ถูกยึดครองไปแล้วโดยสมบูรณ์,ซิงไท่โต่วตอนนี้ได้พ่ายแพ้ต่อตระกูลเทียนอีกครั้งแล้ว.

"ฝ่าบาท!"ขันทีชราที่กล่าวด้วยความเป็นห่วงเขาที่ด้านข้าง.

"ข้าไม่เป็นไร,หลายปีมานี้,เจ้าติดตามข้ามาโดยตลอด,ลำบากเจ้าแล้ว!"ซิงไท่โต่วที่กล่าวออกมาด้วยความเศร้าใจ.

"หาได้ลำบากอะไร,ตราบเท่าที่ได้รับใช้ฝ่าบาท,บ่าวชราล้วนแล้วแต่ยินดี,ทว่าช่างน่าเศร้าที่ญาติมิตรสหายได้ถูกตระกูลเทียนสังหารไปจนหมดแล้ว!"ขันทีชราที่สูดหายใจลึก.

ขณะเดียวกันกับความอ้างว้างโดดเดี่ยว,ซิงไท่โต่วที่ก้าวออกไปจากห้องโถงช้าๆ,จ้องมองไปยังเมืองซิงโต่วยังพื้นที่ไกลออกไป,เหล่าประชาชนมากมายที่อพยพหลบหนี,ดูภายในเมืองที่ดูเงียบเหงาแทบไม่ต่างจากเมืองในชนบท,ทำให้ภายในใจของซิงไท่โต่วนั้นเจ็บปวดนัก,ดูเหมือนว่าจะหมดยุคความรุ่งโรจน์ในชีวิตของเขาแล้ว.

หากเป็นในอดีต,ซิงไท่โต่วเป็นไปไม่ได้ที่จะรู้สึกเช่นนี้,หากแต่หลังจากที่เขาพ่ายศึกติดต่อกันหลายครั้ง,ภายในใจของเขาย่อมสั่นคลอนเป็นธรรมดา.

ขันทีชรายังคงติดตามซิงไท่โต่วข้างๆ,เหมือนกับเงาตามตัว,ติดตามซิงไท่โต่ว.

"วีดด.....ตูมมมมมม"

ภายในเมืองซิงโต่ว,ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงดังก้องกังวานสนั่นหวั่นไหว,พร้อมดอกไม้ไฟที่ระเบิดเต็มท้องฟ้า.

เกี่ยวกับหอการค้าต้าหรงที่มาเปิดทำการค้าในภพหยิน,ดอกไม้ไฟไม่ถือว่าเป็นสมบัติล้ำค่าอีกต่อไป,ต้องไม่ลืมว่ากระบวนการผลิตขอมันนั้นง่ายดายนัก,และแพร่หลายในภพหยินอย่างรวดเร็ว.

"ตูมมมมมมมมม"

ดอกไม้ไฟที่ถูกยิงขึ้นไปบนอากาศ,ระเบิดดังสนั่น,ในความมืดมิด,ได้สร้างภพฉากที่งดงามเป็นอย่างมาก.
”~~ ~~ ~”

ดอกไม้ไฟมากมายที่ถูกยิงขึ้นไปบนท้องฟ้า,เป็นรูปลักษณ์ต่างๆที่ส่องสว่างบนท้องฟ้า,ภายในเมืองแม้นว่าจะเหลือคนน้อยกว่าครึ่งหนึ่ง,ทว่าพวกเขาทุกคนที่ออกมาเงยหน้าขึ้นไปมองฟ้า,รู้สึกสงบและสับสันอยู่เหมือนกัน,หากแต่ภาพที่ปรากฏขึ้นบนท้องฟ้านั้นกลับดูงดงามเป็นอย่างมาก.

ภายในเมืองซิงโต่วนั้น,เป็นเมืองใหญ่,หากแต่ดอกไม้ไฟนั้นกับถูกจุดขึ้นทุกที่,ส่องประกายแสงระยิบระยับ,แทบจะทุกคนที่ออกมาจากที่พักตัวเอง,ออกมาดูดอกไม้ไฟที่ถูกจุด.

เย่ชิงเฉิง,เฉินซิวและคนของโลกอมตะต่างก็เดินออกมาด้านนอก,พร้อมกับเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้าด้วยความอยากรู้อยากเห็น.

ซิงไท่โต่วเองกับอารมณ์ที่หม่นหมองของเขานั้น,ทันทีที่เห็นดอกไม้ไฟก็รู้สึกดีขึ้นมาเหมือนกัน.

ที่ด้านนอกเมืองซิงโต่วนั้น,บนยอดเขา,จงซาน,อี้หลานเชวี๋ยและหยินโหลวหรี่,ที่จ้องมองไปยังดอกไม้ไฟที่ถูกจุดขึ้นมากมายภายในเมืองซิงโต่ว,เพราะว่าแผนการขั้นที่สองของจงซานได้,ที่ทำให้คนอื่นต้องพบกับวาระสุดท้าย.






ที่มาจากhttps://lnmtl.com/novel/immortality

#นิยาย เรื่องอมตะ #Immortality#นิยายแปลไทย
Author(s)


สนใจสนับสนุนพวกเรา,เข้าร่วมกลุ่ม VIP ====> Click

***เว็ปฟรีอัพ สองวันหนึ่งตอน
***กลุ่มลับ อัพ 2-3 ตอนต่อวัน.

 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น