Immortality Chapter 661 Yi Lanque
นิยาย เรื่อง อมตะ ตอนที่ 661 อี้หลานเชวี๋ย.
Chapter 661 Yi Lanque
忆蓝阙
อี้หลานเชวี๋ย.
ภายใต้การใช้ศิลาวิญญาณเป็นตัวช่วยแผนการของจงซานก็เป็นรูปเป็นร่างอย่างรวดเร็ว.
แผนการแรก,ทำลายชื่อเสียงของเทียนเซียวเพื่อกดดันเฉินเซิ่ว.
การจะบุกตระกูลเทียนนั้น,เฉินซิ่วเป็นคนสำคัญ,เพราะว่าผู้ฝึกตนฮวงจุ้ยนั้นมีความพิเศษเป็นอย่างมาก,หากไม่มีผู้ฝึกตนฮวงจุ้ยในการบุกครั้งนี้,ไม่ว่าจะบุกไปเท่าไหร่ก็ถูกขัดขวางด้วยผู้ฝึกตนฮวงจุ้ยของตระกูลเทียนเอาไว้ไม่สามารถเข้าไปด้านในได้แน่.
นอกจากนี้,จงซานยังรับรู้ด้วยว่า,เฉินซิ่วนั่นยังอยู่ในราชวงศ์ราชันย์ซิงโต่ว,เพราะว่าเมื่อไม่นานมานี้โลกอมตะและซิงไท่โต่วได้วางแผนการอะไรบางอย่าง,แน่นอนว่าเฉินซิ่วย่อมเดินทางมาพร้อมกันอย่างแน่นอน.
ด้วยนิสัยของเฉินซิ่วที่ไม่ชอบออกไปต่อสู้ด้วยตัวเองนั้น,ทำให้จงซานจำเป็นต้องบังคับเขาให้ร่วมมือในครั้งนี้นั่นเอง.
เกี่ยวกับศักดิ์ศรีของประมุขตระกูลเทียนในอนาคต,เรื่องนี้จะต้องสามารถกดดันเฉินซิ่วได้อย่างแน่นอน.
ด้วยอยู่ในแผนการสวรรค์ล่ม,จงซานจึงไม่ขาดแคลนศิลาวิญญาณ,และยังมีเงินว่าจ้างแรงงานในการช่วยเรื่องต่างๆที่เขาต้องการได้อย่างง่ายดาย.
เหล่าผู้ฝึกตนมามายถูกจงซานว่าจ้างให้ปล่อยข้อมูลทำลายชื่อเสียงของตระกูลเทียนเพื่อกดดันเฉินซิ่ว.
ในเวลานี้ข่าวเรื่องที่เกิดขึ้นกระจายไปทั่วทุกสารทิศ,เวลานี้ได้ไปถึงค่ายใหญ่ของสองราชวงศ์ราชันย์แล้ว.
ซิ่งไท่โต่วที่นั่งอยู่ราชวังหลวง,ระหว่างนี้มีเย่ชิงเฉิงและเฉินซิ่วกำลังเหล่นหมากรุกอยู่.
"ใต้ซือเฉินซิ่ว,ฝีมือเล่นหมากรุกยอดเยี่ยมนัก!"เย่ชิงเฉิงที่กล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม.
"ประมุขเย่,พวกเราจะจากไปตอนใหนรึ? ตระกูลเทียนหากรับรู้ว่าเป็นพวกเราสมรู้ร่วมคิดกับคนเหล่านั้น,พวกเราคงหนีไปไม่ได้แน่,ตระกูลเทียนมีผู้ฝึกตนฮวงจุ้ยชีพจรสวรรค์,อาวุโสเทียน,ทักษะของนางนั้น,ไม่ได้ด้อยกว่าข้า,หรืออาจจะเหนือกว่าด้วย!"เฉินซิ่วที่ขมวดคิ้วไปมา.
"ในเมื่อมาแล้ว,พวกเราก็ควรรอดูก่อน,ตั้งแต่แรกพวกเราก็ไม่ได้มีข้อตกลงใดๆกันไม่ใช่รึ?"เย่ชิงเฉิงที่ขมวดคิ้วไปมาเล็กน้อย.
เย่ชิงเฉิงที่จ้องมองไปยังเฉินซิ่วรับรู้ว่าเขานั้นต้องการจะถอนตัวกลับไปก่อน.
"ประมุขเย่,ดูเหมือนว่าท่าน,กำลังใช้ซิงไท่โต่ว,หยั่งเชิงตระกูลเทียนอยู่อย่างงั้นรึ?"เฉินซิ่วที่จ้องมองไปยังเย่ชิงเฉิง.
"เฮ้เฮ้,ตรวจสอบอย่างงั้นรึ?"เย่ชิงเฉิงที่เผยยิ้มหากแต่ไม่ได้ตอบออกมา.
"แดนเทพอมตะ,แดนโลกอมตะ,ต่างก็มีอายุกว่าหนึ่งแสนปี,แน่นอนว่าย่อมไม่ได้ด้อยกว่าอีกฝ่ายไม่ใช่รึ?"เฉินซิ่วที่ขมวดคิ้วไปมา.
"แล้วท่านคิดอย่างไรรึ?"เย่ชิงเฉิงที่กล่าวออกมาพร้อมขมวดคิ้วเล็กน้อย.
"ตัวข้าเป็นเหมือนหยดน้ำใสหยดเล็กๆในน้ำขุ่น,เกี่ยวกับเรื่องของโลกอมตะและตระกูลเทียนนั้น,ท่านก็ต้องจัดการเอง,ข้าไม่สามารถช่วยอะไรได้."เฉินซิ่วที่ตัดสินใจที่จะไม่ยุ่งเกี่ยวเลยแม้แต่น้อย.
ใบหน้าของเย่ชิงเฉิงรู้สึกไม่ยินดีนัก,ทว่าขณะที่ทั้งสองกำลังพูดคุยกันอยู่กัน,ทันใดนั้นก็มีคนกลุ่มหนึ่งเข้ามา.
อดีตเซิ่งซ่างต้าเหยียน,ซึ่งในวันนี้คือราชันย์ของราชวงศ์ราชันย์ซิงโต่ว,ซิงไท่โต่ว.
"อ่าฮ่าอ่าฮ่า,ใต้ซือเฉินซิ่ว,ชื่อเสียงของท่านกระฉ่อนไปทั่วแล้ว!"ซิงไท่โต่วที่หัวเราะออกมาเสียงดัง.
"หืม?"เฉินซิ่วที่ขมวดคิ้วจดจ้องมองไปยังซิงไท่โต่ว.
"ตอนนี้ทั่วหล้าคงจะไม่มีใครไม่รู้จัก,ใต้ซือเฉินซิว,ผู้มีทักษะฮวงจุ้ยที่น่าเกรงขาม,แม้แต่เส้าเหยี่ยตระกูลเทียน,ยังกลายเป็นหุ่นเชิดให้ท่านใช้งาน,สามารถที่ใช้วิชาควบคุมเส้าเหยียตระกูลเทียน,ที่ในอนาคตจะเป็นประมุขตระกูลเทียนได้."ซิงไท่โต่วที่กล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม.
"หมายความว่าอย่างไร?"เฉินซิ่วที่ขมวดคิ้วไปมา,ภายในใจรู้สึกสังหารใจไม่ดี,ทว่าไม่ได้กล่าวสิ่งใดออกมา.
"นี่คือแผ่นริ้วหยกที่ข้าเพิ่งได้รับมา,ท่านลองดูซิ!"ซิงไท่โต่วที่กล่าวตอบ.
ซิงไท่โต่วที่เป็นประมุขราชวงศ์วาสนา,เกี่ยวกับสถานการณ์ภายในที่จงซานได้สร้างขึ้น,ย่อมไม่หลุดรอดสายตาของเขาไปได้,ดูเหมือนว่าจะมีคนที่ยั่วยุเฉินซิ่วให้ปรากฏความหวาดกลัวขึ้นภายในใจ.
เฉินซิ่วที่จดจ้องมองภาพที่ด้านในแผ่นริ้วหยก.
"เรื่องนี้เป็นที่รับรู้กันไปทั่ว,เกี่ยวกับผู้ฝึกตนฮวงจุ้ยเฉินซิ่ว,ผู้ที่กำราบเส้าเหยี่ยตระกูลเทียน,กับคนที่ทรงเกียรติขนาดนั้น,กับถูกท่านควบคุม,ในอนาคตเขาที่เป็นประมุขตระกูลเทียน,ผู้ที่ควบคุมห้าวิถี,และควบคุมจ้าวตำหนักฮวงจุ้ยวิถีสวรรค์,การที่ท่านควบคุมประมุขตระกูลเทียนให้กลายเป็นหุ่นเชิดได้,ไม่ใช่ว่าท่านคือผู้ฝึกตนฮวงจุ้ยลำดับหนึ่งหรอกรึ?"ซิงไท่โต่วที่หัวเราะออกมาเสียงดัง.
ทันใดนั้นเย่ชิงเฉิงที่อยู่ข้างๆก็ราวกับจะเข้าใจอะไรบางอย่างในทันที,ศักดิ์ศรีของเทียนเซียวได้ถูกลูบคมเข้าให้แล้ว,ในอนาคตหากเขาต้องขึ้นเป็นประมุขแล้วล่ะก็,จะต้องมาจัดการเฉินซิ่วอย่างแน่นอน.
ผู้ฝึกตนฮวงจุ้ยลำดับหนึ่งอะไรกัน,ควบคุมประมุขในอนาคตของตระกูลเทียนอะไรกัน?
หน้าผากของเฉินซิ่วที่เหงื่อเม็ดใหญ่กำลังผุดออกมาปุดๆ.
"แล้วไปเอามาจากใหนกัน?"เฉินซิวที่ลุกขึ้นด้วยท่าทางกระวนกระวายใจ.
"ตอนนี้ทั้งราชวงศ์ซิงโต่ว,และราชวงศ์ราชันย์ที่เทียนเซียวควบคุมอยู่,ต่างก็ถูกแจกจ่ายไปทั่ว,ดูเหมือนว่าคนของตระกูลเทียนจำนวนมากก็รับรู้เรื่องนี้แล้ว,และตอนนี้ยังแพร่ออกไปทั่วหล้า,ไม่รู้เลยว่าเป็นใครที่กำลังช่วยพวกเรา,เมื่อข่าวนี้แพร่ออกไป,ทำให้ขวัญกำลังใจของทัพตระกูลเทียนถึงกับลดลงเลยทีเดียว,"ซิงไท่โต่วที่เผยยิ้มออกมา.
"เร็วเข้า,จะต้องสกัดกลั่นข่าวนี้เอาไว้!"เฉินซิ่วที่อุทานออกมาด้วยความรุ่มร้อนใจ.
"ไม่ทันแล้ว,ตอนนี้มันได้กระจายไปทั่วเรียบร้อยแล้ว!"ซิงไท่โต่วที่ส่ายหน้าไปมา.
"..."เฉินซิ่วที่จับจ้องมองแผ่นริ้วหยก,ร่างกายที่ทรุดนั่งลงอย่างหมดแรง.
เย่ชิงเฉิงและซิงไท่โต่วจ้องมองหน้ากันและกัน,ทั้งคู่ไม่อยู่รบกวนเฉินซิ่วอีกต่อไป,พร้อมกับเดินออกมา.
"เป็นฝีมือใครกัน?"เย่ชิงเฉิงสอบถามออกไป.
"ตอนนี้ข้าได้ส่งคนไปสืบแล้ว,ทว่า,ต้องยอมรับความเป็นจริงว่า,มันเป็นประโยชน์ต่อพวกเรา,อย่างน้อยสุด,เฉินซิ่วก็จะไม่เร่งรีบถอนตัวจากพวกเราไป!"ซิงไท่โต่วพยักหน้า.
"อืม!"
ค่ายใหญ่ของเทียนเซียว.
เทียนเซียวที่จดจ้องกวาดตามองข้อมูลที่เขาได้รับมา,สายตาของเขาที่ยังคงแสดงท่าทางพอใจ,ที่ด้านหน้าของเขามีเหล่าผู้ใต้บังคับบัญชาที่เชื่อใจยืนอยู่สองแถว.
"เสี่ยวหวัง,นี่คือแผนการที่จงซานคิดจริงๆรึ?"เทียนเซียวที่กล่าวพลางถอนหายใจ.
"ขอรับ,เมื่อครั้งที่อยู่ที่ภพหยางนั้น,แผนการสวรรค์ล่มนี้,ได้ถูกใช้ทำลายราชาวงศ์ราชันย์ที่ทรงพลัง,ทันทีที่แผนการนี้นำมาใช้,แทบจะทำให้ทัพของจงซานกลายเป็นทัพของเทพสวรรค์ที่เอาชนะฝ่ายตรงข้ามได้โดยที่ไม่ต้องออกแรงด้วยซ้ำ,เพียงแค่ใช้ศิลาวิญญาณ,ก็สามารถทำให้ราชวงศ์ราชันย์ขนาดใหญ่ล่มสลาย,นี่อาจจะเรียกว่าสงครามการค้าก็ว่าได้,เสียวหวังยอมรับเลยว่าด้อยกว่านัก!"เสียวหวังที่กล่าวด้วยน้ำเสียงทอดถอนใจ.
"ดูเหมือนว่าแผนการสวรรค์ล่มที่ใช้กับราชวงศ์ราชันย์ซิงโต่ว,จะหลุดการควบคุมไปส่วนหนึ่งไม่ใช่รึ?"เทียนเซียวที่กล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม.
"เดิมที่มันไม่ใช่แผนการที่ข้าได้คิดค้น,หากว่าไม่ใช่จงซานเป็นผู้ควบคุมคงยากที่จะควบคุมได้อย่างสมบูรณ์."เสียวหวังที่ส่ายหน้าพลางทอดถอนใจ.
"ไม่,แผนการของจงซานในครั้งนี้,เจ้าทำได้ดีอย่างไม่ต้องสงสัย,อย่างน้อย,แผนการสวรรค์ล่มนี้ย่อมไม่มีใครสามารถกระทำได้นอกจากเจ้า,แม้นว่าจะหลุดการควบคุมไปบ้าง,แต่ก็เพียงเล็กน้อยเท่านั้น."เทียนเซียวกล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม.
"เส้าเหยียหรือว่าเรื่องที่ผิดพลาดนี้....."เสี่ยวหวังที่ส่ายหน้าไปมา.
"จงซาน? เฮ้เอ้,เจ้าเองก็ได้ยินข่าวที่แพร่ออกไปรอบๆเมื่อเร็วๆนี้ด้วยหรือไม่?"เทียนเซียวสอบถาม.
"ใช่,เรื่องราวของเฉินซิ่วที่อยู่ๆก็ผุดขึ้นมา."เสี่ยวหวังพยักหน้ารับ.
"จอมพล,เรื่องนี้เป็นความคิดของราชวงศ์ราชันย์ซิงโต่ว,เพื่อลดขวัญกำลังใจของพวกเราหรือไม่?."ผู้ใต้บังคับบัญชาที่เสนอความคิดเห็น.
เทียนเซียวที่ส่ายหน้าไปมา.
"ไม่ใช่?
แล้วจอมพลคิดว่าเป็นฝีมือใครอย่างงั้นรึ?"
"ข่าวที่แพร่ออกไปนี้เป็นฝีมือของมือที่สาม!"เสี่ยวหวังที่กล่าวออกมาในทันที.
"มือที่สามอย่างงั้นรึ?
ใครกัน?"ผู้ใต้บังคับบัญชาคนก่อนหน้านี้ที่สอบถามออกมาในทันที.
"ตอนนี้ยังไม่สามารถระบุได้อย่างชัดเจน!"เสี่ยวหวังที่ตอบกลับมาในทันที.
"เมื่อเร็วๆนี้เจ้ารู้ข่าวหรือไม่ที่จงซานได้เดินทางไปยังตระกูลเทียน?"เทียนเซียวที่เผยรอยยิ้มแปลกๆ.
"จงซานเดินทางไปยังตระกูลเทียนอย่างงั้นรึ?"เสี่ยวหวังที่เอ่ยออกมาด้วยความประหลาดใจ.
"ไม่กี่วันก่อนหน้านี้,ข้าได้กลับไปหาท่านพ่อ,ช่างน่าเสียดายที่ข้าไม่ได้เห็นกับตา,ดูเหมือนทั้งคู่จะขัดแย้งอะไรบางอย่าง,จงซานได้กล่าวคำบางอย่างออกมา,บอกว่าจะทำให้ตระกูลเทียนต้องพลิกฟ้าพลิกแผ่นดิน!"เทียนเซียวที่กล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม.
"ฮ่าอ่าฮ่าฮ่าฮ่าอ่า!"ผู้ใต้บังคับบัญชาไม่น้อยที่หัวเราะอย่างบ้าคลั่ง,เห็นได้อย่างชัดเจนว่าพวกเขาดูแคลนคำพูดของจงซานเป็นอย่างมาก.
"เส้าเหยี่ย,ท่านกำลังจะบอกว่ามือที่สามนี้ก็คือ,จงซานอย่างงั้นรึ?"เสี่ยวหวังที่ขมวดคิ้วไปมา.
เหล่าผู้ใต้บังคับบัญชาที่หัวเราะก็หยุดลงในทันที.
"น่าจะเป็นเขา!"เทียนเซียวที่เผยยิ้มแม้นว่าแววตาจะยังแสดงท่าทางดูแคลนอยู่เล็กน้อยด้วยก็ตาม.
"แล้วเส้าเหยี่ยมีแผนการรับมืออย่างไร?"เสี่ยวหวังที่กล่าวออกมาด้วยท่าทางเป็นกังวล.
"จงซานผู้นี้มีฝีมือขนาดใหนเป็นดังที่เจ้าบอกเล่าหรือไม่,ครานี้ข้าจะได้ดูมันด้วยตัวเอง."เทียนเซียวที่เผยรอยยิ้มออกมาเล็กน้อย.
"แต่ว่าตระกูลเทียน!"เสียวหวังที่กล่าวออกมาทันที.
"ตระกูลเทียนนั้นมีความเป็นมายาวนาน ยากที่จะสั่นคลอน,แม้นว่าข้าคิดว่าจงซานเองจะมีความสามารถหรืออาจจะสร้างปัญหาบ้าง,หากแต่ด้วยความสามารถของท่านพ่อย่อมต้องรับมือได้อย่างแน่นอน!"เทียนเซียวที่กล่าวออกมา.
"ครับ!"เสี่ยวหวังที่รับคำในทันที.
"เฝ้าระวังเอาไว้,และดำเนินแผนการสวรรค์ล่มต่อไป,ข้าจะรอดูว่าจงซานจะมีแผนการอะไร!"เทียนเซียวที่แสดงใบหน้าสนใจอยู่เช่นกัน.
"ขอรับ!"ผู้ใต้บังคับบัญชาทุกคนที่รับคำ.
....
จงซานในโรงเตี้ยมแห่งหนึ่ง.
จงซานและหยินโหลวหรี่นั่งอยู่ในห้องแห่งหนึ่ง,ขณะที่เถ้าแก่เข้ามาภายในห้อง.
"เถ้าแก่,พวกเราจะออกเดินทางกันตอนบ่ายนี้,หลายวันมานี้ขอบคุณที่ให้ความร่วมมือ!"จงซานที่กล่าวออกมา.
"ท่านลูกค้าต้องการจะไปแล้วอย่างงั้นรึ?"เถ้าแก่ที่กล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงเสียดาย.
"ก่อนข้าที่จะไป,ข้าจะมอบศิลาวิญญาณที่เหลือที่ได้มาให้กับเจ้าจัดการ,เพื่อเป็นการตอบแทนที่ทำให้ข้าได้รับความบันเทิง!"จงซานกล่าว.
"ได้!
เช่นนั้นคงไม่รบกวนแล้ว."เถ้าแก่ที่แสดงท่าทางเสียดายอยู่ไม่น้อย.
เมื่อเถ้าแก่ออกไปแล้ว,หยินโหลวหรี่ที่จ้องมองไปยังจงซาน,"หลายวันมานี้คือการโฆษณาอย่างงั้นรึ?"
"แน่นอนว่า,แผนการนี้ก็เพื่อที่จะทำให้เฉินซิ่วร้อนใจ,ไม่หลบหลีกที่จะเข้าจัดการตระกูลเทียนนั่นเอง."จงซานที่กล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม.
"แล้วจากนี้พวกเราจะทำอย่างไรต่อไป?"หยินโหลวหรี่ที่สอบถามอีกครั้ง.
"ช่างน่าเศร้านักที่เราไม่มีคนของราชวงศ์ราชันย์ซิงโหลว,ที่สามารถอำนวยความสะดวกของพวกเราได้มากกว่านี้,แผนการก้าวแรก,เอาหน้าไปกวาดพื้นถือว่าทำสำเร็จแล้ว,แผนการก้าวที่สอง,รอคอยให้พวกเราเดินทางไปถึงเมืองหลวงของพวกเขาก่อนค่อยจัดการอีกครั้ง,นอกจากนี้,สถานที่แห่งนี้ยังกลายเป็นที่จับตามองของคนจำนวนมากเข้าแล้ว."จงซานกล่าว.
ในเวลาเดียวกันนั้น,เถ้าแก่ร้านที่เร่งรีบวิ่งเข้ามา.
"ลูกค้าทั้งสอง,ที่ด้านนอกนั้นมีคนผู้หนึ่งมาขอพบท่าน!"เถ้าแก่ที่กล่าวออกมาทันที.
"มีคนมาขอพบอย่างงั้นรึ?"จงซานที่เผยยิ้ม.
"เชิญเข้ามาได้!"จงซานกล่าว.
จากนั้นไม่นาน,เถ้าแก่ที่นำชายในชุดสีน้ำเงิน,ท่าทางดูหล่อเหลา,ทรงผมที่จัดตกแต่งอย่างเรียบร้อย,เสื้อลายปักษ์รูปดอกไม้,พร้อมกับถือพัด,สะบัดไปมา,ก้าวเข้ามาด้านใน.
"ผู้น้อยอี้หลานเชวี๋ย,คารวะราชันย์จง,คารวะจื่อจุ้นหยิน!"ชายคนดังกล่าวที่เอ่ยนามของจงซานและหยินโหลวหรี่ออกมา.
เขาที่แสดงความเคารพและเผยยิ้มให้กับทั้งสอง.
"เจ้ารู้จักพวกเราด้วยอย่างงั้นรึ?"หยินโหลวหรี่ที่ขมวดคิ้วไปมา.
"นามของทั้งสองนั้น,ก้องไปทั่วหล้า,จะไม่ให้ผู้น้อยอี้หลานเชวี๋ยไม่รู้ได้อย่างไร,วันนี้ได้เดินทางผ่านมา,รู้ว่าทั้งสองอยู่ในเมืองนี้,ผู้น้อยเร่งรีบเดินทางมาขอพบ,ไม่รู้ว่ารบกวนหรือไม่!"อี้หลานเชวี๋ยที่กล่าวออกมาด้วยท่าทางถ่อมตนกล่าวออกมาด้วยไมตรีจิต.
"ไม่รู้ว่าคุณชายรู้จักพวกเราได้อย่างไร?"จงซานที่สอบถามออกมาทันที.
"ในอดีตนั้น,ราชวงศ์สวรรค์ต้าโหลว,กู่เฉิงตงที่ทำการแยกสวรรค์สะบั้นปฐพี,ทำการเปิดช่องทางระหว่างภพหยินหยางขึ้น,ทำให้มีคนไม่น้อยที่ล่วงหล่นลงมายังภพหยิน,และมีหลายคนที่เป็นสหายของผู้น้อย,ราชันย์จงซาน,แผนการสวรรค์ล่มของต้าโหลว,ยาเซียนอมตะเป็นที่รู้จักไปทั่วหล้า,ชะตาภัยพิบัติของแดนเทพพิสุทธิ์,ผู้น้อยล้วนแล้วแต่ชื่นชมเป็นอย่างมาก,ข้านั้นมีหอการค้าแห่งหนึ่ง,เกี่ยวกับข่าวคราวแผนการสวรรค์ล่มที่เกิดขึ้นมาในเวลานี้,ทำให้ผู้น้อยเร่งรีบเดินทางมาอย่างรวดเร็ว,ช่างน่าเสียดายนัก,แผนการสวรรค์ล่มในครานี้ไม่ใช่ฝีมือของท่าน,อย่างไรก็ตาม,คาดไม่ถึงเลยแม้แต่น้อย,จะได้รับรู้ว่าราชันย์จงอยู่ที่นี่,นับว่าเดินทางมาไม่เสียเที่ยว,โลกใบนี้ช่างเล็กจริงๆ!"อี้หลานเชวี๋ยกล่าว.
จากท่าทางของอี้หลานเชวี๋ยแล้ว,จงซานสามารถตระหนักได้เป็นอย่างดี,แม้แต่หยินโหลวหรี่ยังรู้สึกเป็นกังวลและสงสัยในตัวอี้หลานเชวี๋ยเช่นกัน,หากแต่จงซานสามารถที่จะคาดเดาได้ว่าคนผู้นี้มีสถานะที่ไม่ธรรมดา,นอกจากนี้ยังรับรู้เรื่องราวของต้าเจิ้งเป็นอย่างดีอีกด้วย.
Chapter 661 Yi Lanque
忆蓝阙
อี้หลานเชวี๋ย.
ภายใต้การใช้ศิลาวิญญาณเป็นตัวช่วยแผนการของจงซานก็เป็นรูปเป็นร่างอย่างรวดเร็ว.
แผนการแรก,ทำลายชื่อเสียงของเทียนเซียวเพื่อกดดันเฉินเซิ่ว.
การจะบุกตระกูลเทียนนั้น,เฉินซิ่วเป็นคนสำคัญ,เพราะว่าผู้ฝึกตนฮวงจุ้ยนั้นมีความพิเศษเป็นอย่างมาก,หากไม่มีผู้ฝึกตนฮวงจุ้ยในการบุกครั้งนี้,ไม่ว่าจะบุกไปเท่าไหร่ก็ถูกขัดขวางด้วยผู้ฝึกตนฮวงจุ้ยของตระกูลเทียนเอาไว้ไม่สามารถเข้าไปด้านในได้แน่.
นอกจากนี้,จงซานยังรับรู้ด้วยว่า,เฉินซิ่วนั่นยังอยู่ในราชวงศ์ราชันย์ซิงโต่ว,เพราะว่าเมื่อไม่นานมานี้โลกอมตะและซิงไท่โต่วได้วางแผนการอะไรบางอย่าง,แน่นอนว่าเฉินซิ่วย่อมเดินทางมาพร้อมกันอย่างแน่นอน.
ด้วยนิสัยของเฉินซิ่วที่ไม่ชอบออกไปต่อสู้ด้วยตัวเองนั้น,ทำให้จงซานจำเป็นต้องบังคับเขาให้ร่วมมือในครั้งนี้นั่นเอง.
เกี่ยวกับศักดิ์ศรีของประมุขตระกูลเทียนในอนาคต,เรื่องนี้จะต้องสามารถกดดันเฉินซิ่วได้อย่างแน่นอน.
ด้วยอยู่ในแผนการสวรรค์ล่ม,จงซานจึงไม่ขาดแคลนศิลาวิญญาณ,และยังมีเงินว่าจ้างแรงงานในการช่วยเรื่องต่างๆที่เขาต้องการได้อย่างง่ายดาย.
เหล่าผู้ฝึกตนมามายถูกจงซานว่าจ้างให้ปล่อยข้อมูลทำลายชื่อเสียงของตระกูลเทียนเพื่อกดดันเฉินซิ่ว.
ในเวลานี้ข่าวเรื่องที่เกิดขึ้นกระจายไปทั่วทุกสารทิศ,เวลานี้ได้ไปถึงค่ายใหญ่ของสองราชวงศ์ราชันย์แล้ว.
ซิ่งไท่โต่วที่นั่งอยู่ราชวังหลวง,ระหว่างนี้มีเย่ชิงเฉิงและเฉินซิ่วกำลังเหล่นหมากรุกอยู่.
"ใต้ซือเฉินซิ่ว,ฝีมือเล่นหมากรุกยอดเยี่ยมนัก!"เย่ชิงเฉิงที่กล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม.
"ประมุขเย่,พวกเราจะจากไปตอนใหนรึ? ตระกูลเทียนหากรับรู้ว่าเป็นพวกเราสมรู้ร่วมคิดกับคนเหล่านั้น,พวกเราคงหนีไปไม่ได้แน่,ตระกูลเทียนมีผู้ฝึกตนฮวงจุ้ยชีพจรสวรรค์,อาวุโสเทียน,ทักษะของนางนั้น,ไม่ได้ด้อยกว่าข้า,หรืออาจจะเหนือกว่าด้วย!"เฉินซิ่วที่ขมวดคิ้วไปมา.
"ในเมื่อมาแล้ว,พวกเราก็ควรรอดูก่อน,ตั้งแต่แรกพวกเราก็ไม่ได้มีข้อตกลงใดๆกันไม่ใช่รึ?"เย่ชิงเฉิงที่ขมวดคิ้วไปมาเล็กน้อย.
เย่ชิงเฉิงที่จ้องมองไปยังเฉินซิ่วรับรู้ว่าเขานั้นต้องการจะถอนตัวกลับไปก่อน.
"ประมุขเย่,ดูเหมือนว่าท่าน,กำลังใช้ซิงไท่โต่ว,หยั่งเชิงตระกูลเทียนอยู่อย่างงั้นรึ?"เฉินซิ่วที่จ้องมองไปยังเย่ชิงเฉิง.
"เฮ้เฮ้,ตรวจสอบอย่างงั้นรึ?"เย่ชิงเฉิงที่เผยยิ้มหากแต่ไม่ได้ตอบออกมา.
"แดนเทพอมตะ,แดนโลกอมตะ,ต่างก็มีอายุกว่าหนึ่งแสนปี,แน่นอนว่าย่อมไม่ได้ด้อยกว่าอีกฝ่ายไม่ใช่รึ?"เฉินซิ่วที่ขมวดคิ้วไปมา.
"แล้วท่านคิดอย่างไรรึ?"เย่ชิงเฉิงที่กล่าวออกมาพร้อมขมวดคิ้วเล็กน้อย.
"ตัวข้าเป็นเหมือนหยดน้ำใสหยดเล็กๆในน้ำขุ่น,เกี่ยวกับเรื่องของโลกอมตะและตระกูลเทียนนั้น,ท่านก็ต้องจัดการเอง,ข้าไม่สามารถช่วยอะไรได้."เฉินซิ่วที่ตัดสินใจที่จะไม่ยุ่งเกี่ยวเลยแม้แต่น้อย.
ใบหน้าของเย่ชิงเฉิงรู้สึกไม่ยินดีนัก,ทว่าขณะที่ทั้งสองกำลังพูดคุยกันอยู่กัน,ทันใดนั้นก็มีคนกลุ่มหนึ่งเข้ามา.
อดีตเซิ่งซ่างต้าเหยียน,ซึ่งในวันนี้คือราชันย์ของราชวงศ์ราชันย์ซิงโต่ว,ซิงไท่โต่ว.
"อ่าฮ่าอ่าฮ่า,ใต้ซือเฉินซิ่ว,ชื่อเสียงของท่านกระฉ่อนไปทั่วแล้ว!"ซิงไท่โต่วที่หัวเราะออกมาเสียงดัง.
"หืม?"เฉินซิ่วที่ขมวดคิ้วจดจ้องมองไปยังซิงไท่โต่ว.
"ตอนนี้ทั่วหล้าคงจะไม่มีใครไม่รู้จัก,ใต้ซือเฉินซิว,ผู้มีทักษะฮวงจุ้ยที่น่าเกรงขาม,แม้แต่เส้าเหยี่ยตระกูลเทียน,ยังกลายเป็นหุ่นเชิดให้ท่านใช้งาน,สามารถที่ใช้วิชาควบคุมเส้าเหยียตระกูลเทียน,ที่ในอนาคตจะเป็นประมุขตระกูลเทียนได้."ซิงไท่โต่วที่กล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม.
"หมายความว่าอย่างไร?"เฉินซิ่วที่ขมวดคิ้วไปมา,ภายในใจรู้สึกสังหารใจไม่ดี,ทว่าไม่ได้กล่าวสิ่งใดออกมา.
"นี่คือแผ่นริ้วหยกที่ข้าเพิ่งได้รับมา,ท่านลองดูซิ!"ซิงไท่โต่วที่กล่าวตอบ.
ซิงไท่โต่วที่เป็นประมุขราชวงศ์วาสนา,เกี่ยวกับสถานการณ์ภายในที่จงซานได้สร้างขึ้น,ย่อมไม่หลุดรอดสายตาของเขาไปได้,ดูเหมือนว่าจะมีคนที่ยั่วยุเฉินซิ่วให้ปรากฏความหวาดกลัวขึ้นภายในใจ.
เฉินซิ่วที่จดจ้องมองภาพที่ด้านในแผ่นริ้วหยก.
"เรื่องนี้เป็นที่รับรู้กันไปทั่ว,เกี่ยวกับผู้ฝึกตนฮวงจุ้ยเฉินซิ่ว,ผู้ที่กำราบเส้าเหยี่ยตระกูลเทียน,กับคนที่ทรงเกียรติขนาดนั้น,กับถูกท่านควบคุม,ในอนาคตเขาที่เป็นประมุขตระกูลเทียน,ผู้ที่ควบคุมห้าวิถี,และควบคุมจ้าวตำหนักฮวงจุ้ยวิถีสวรรค์,การที่ท่านควบคุมประมุขตระกูลเทียนให้กลายเป็นหุ่นเชิดได้,ไม่ใช่ว่าท่านคือผู้ฝึกตนฮวงจุ้ยลำดับหนึ่งหรอกรึ?"ซิงไท่โต่วที่หัวเราะออกมาเสียงดัง.
ทันใดนั้นเย่ชิงเฉิงที่อยู่ข้างๆก็ราวกับจะเข้าใจอะไรบางอย่างในทันที,ศักดิ์ศรีของเทียนเซียวได้ถูกลูบคมเข้าให้แล้ว,ในอนาคตหากเขาต้องขึ้นเป็นประมุขแล้วล่ะก็,จะต้องมาจัดการเฉินซิ่วอย่างแน่นอน.
ผู้ฝึกตนฮวงจุ้ยลำดับหนึ่งอะไรกัน,ควบคุมประมุขในอนาคตของตระกูลเทียนอะไรกัน?
หน้าผากของเฉินซิ่วที่เหงื่อเม็ดใหญ่กำลังผุดออกมาปุดๆ.
"แล้วไปเอามาจากใหนกัน?"เฉินซิวที่ลุกขึ้นด้วยท่าทางกระวนกระวายใจ.
"ตอนนี้ทั้งราชวงศ์ซิงโต่ว,และราชวงศ์ราชันย์ที่เทียนเซียวควบคุมอยู่,ต่างก็ถูกแจกจ่ายไปทั่ว,ดูเหมือนว่าคนของตระกูลเทียนจำนวนมากก็รับรู้เรื่องนี้แล้ว,และตอนนี้ยังแพร่ออกไปทั่วหล้า,ไม่รู้เลยว่าเป็นใครที่กำลังช่วยพวกเรา,เมื่อข่าวนี้แพร่ออกไป,ทำให้ขวัญกำลังใจของทัพตระกูลเทียนถึงกับลดลงเลยทีเดียว,"ซิงไท่โต่วที่เผยยิ้มออกมา.
"เร็วเข้า,จะต้องสกัดกลั่นข่าวนี้เอาไว้!"เฉินซิ่วที่อุทานออกมาด้วยความรุ่มร้อนใจ.
"ไม่ทันแล้ว,ตอนนี้มันได้กระจายไปทั่วเรียบร้อยแล้ว!"ซิงไท่โต่วที่ส่ายหน้าไปมา.
"..."เฉินซิ่วที่จับจ้องมองแผ่นริ้วหยก,ร่างกายที่ทรุดนั่งลงอย่างหมดแรง.
เย่ชิงเฉิงและซิงไท่โต่วจ้องมองหน้ากันและกัน,ทั้งคู่ไม่อยู่รบกวนเฉินซิ่วอีกต่อไป,พร้อมกับเดินออกมา.
"เป็นฝีมือใครกัน?"เย่ชิงเฉิงสอบถามออกไป.
"ตอนนี้ข้าได้ส่งคนไปสืบแล้ว,ทว่า,ต้องยอมรับความเป็นจริงว่า,มันเป็นประโยชน์ต่อพวกเรา,อย่างน้อยสุด,เฉินซิ่วก็จะไม่เร่งรีบถอนตัวจากพวกเราไป!"ซิงไท่โต่วพยักหน้า.
"อืม!"
ค่ายใหญ่ของเทียนเซียว.
เทียนเซียวที่จดจ้องกวาดตามองข้อมูลที่เขาได้รับมา,สายตาของเขาที่ยังคงแสดงท่าทางพอใจ,ที่ด้านหน้าของเขามีเหล่าผู้ใต้บังคับบัญชาที่เชื่อใจยืนอยู่สองแถว.
"เสี่ยวหวัง,นี่คือแผนการที่จงซานคิดจริงๆรึ?"เทียนเซียวที่กล่าวพลางถอนหายใจ.
"ขอรับ,เมื่อครั้งที่อยู่ที่ภพหยางนั้น,แผนการสวรรค์ล่มนี้,ได้ถูกใช้ทำลายราชาวงศ์ราชันย์ที่ทรงพลัง,ทันทีที่แผนการนี้นำมาใช้,แทบจะทำให้ทัพของจงซานกลายเป็นทัพของเทพสวรรค์ที่เอาชนะฝ่ายตรงข้ามได้โดยที่ไม่ต้องออกแรงด้วยซ้ำ,เพียงแค่ใช้ศิลาวิญญาณ,ก็สามารถทำให้ราชวงศ์ราชันย์ขนาดใหญ่ล่มสลาย,นี่อาจจะเรียกว่าสงครามการค้าก็ว่าได้,เสียวหวังยอมรับเลยว่าด้อยกว่านัก!"เสียวหวังที่กล่าวด้วยน้ำเสียงทอดถอนใจ.
"ดูเหมือนว่าแผนการสวรรค์ล่มที่ใช้กับราชวงศ์ราชันย์ซิงโต่ว,จะหลุดการควบคุมไปส่วนหนึ่งไม่ใช่รึ?"เทียนเซียวที่กล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม.
"เดิมที่มันไม่ใช่แผนการที่ข้าได้คิดค้น,หากว่าไม่ใช่จงซานเป็นผู้ควบคุมคงยากที่จะควบคุมได้อย่างสมบูรณ์."เสียวหวังที่ส่ายหน้าพลางทอดถอนใจ.
"ไม่,แผนการของจงซานในครั้งนี้,เจ้าทำได้ดีอย่างไม่ต้องสงสัย,อย่างน้อย,แผนการสวรรค์ล่มนี้ย่อมไม่มีใครสามารถกระทำได้นอกจากเจ้า,แม้นว่าจะหลุดการควบคุมไปบ้าง,แต่ก็เพียงเล็กน้อยเท่านั้น."เทียนเซียวกล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม.
"เส้าเหยียหรือว่าเรื่องที่ผิดพลาดนี้....."เสี่ยวหวังที่ส่ายหน้าไปมา.
"จงซาน? เฮ้เอ้,เจ้าเองก็ได้ยินข่าวที่แพร่ออกไปรอบๆเมื่อเร็วๆนี้ด้วยหรือไม่?"เทียนเซียวสอบถาม.
"ใช่,เรื่องราวของเฉินซิ่วที่อยู่ๆก็ผุดขึ้นมา."เสี่ยวหวังพยักหน้ารับ.
"จอมพล,เรื่องนี้เป็นความคิดของราชวงศ์ราชันย์ซิงโต่ว,เพื่อลดขวัญกำลังใจของพวกเราหรือไม่?."ผู้ใต้บังคับบัญชาที่เสนอความคิดเห็น.
เทียนเซียวที่ส่ายหน้าไปมา.
"ไม่ใช่?
แล้วจอมพลคิดว่าเป็นฝีมือใครอย่างงั้นรึ?"
"ข่าวที่แพร่ออกไปนี้เป็นฝีมือของมือที่สาม!"เสี่ยวหวังที่กล่าวออกมาในทันที.
"มือที่สามอย่างงั้นรึ?
ใครกัน?"ผู้ใต้บังคับบัญชาคนก่อนหน้านี้ที่สอบถามออกมาในทันที.
"ตอนนี้ยังไม่สามารถระบุได้อย่างชัดเจน!"เสี่ยวหวังที่ตอบกลับมาในทันที.
"เมื่อเร็วๆนี้เจ้ารู้ข่าวหรือไม่ที่จงซานได้เดินทางไปยังตระกูลเทียน?"เทียนเซียวที่เผยรอยยิ้มแปลกๆ.
"จงซานเดินทางไปยังตระกูลเทียนอย่างงั้นรึ?"เสี่ยวหวังที่เอ่ยออกมาด้วยความประหลาดใจ.
"ไม่กี่วันก่อนหน้านี้,ข้าได้กลับไปหาท่านพ่อ,ช่างน่าเสียดายที่ข้าไม่ได้เห็นกับตา,ดูเหมือนทั้งคู่จะขัดแย้งอะไรบางอย่าง,จงซานได้กล่าวคำบางอย่างออกมา,บอกว่าจะทำให้ตระกูลเทียนต้องพลิกฟ้าพลิกแผ่นดิน!"เทียนเซียวที่กล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม.
"ฮ่าอ่าฮ่าฮ่าฮ่าอ่า!"ผู้ใต้บังคับบัญชาไม่น้อยที่หัวเราะอย่างบ้าคลั่ง,เห็นได้อย่างชัดเจนว่าพวกเขาดูแคลนคำพูดของจงซานเป็นอย่างมาก.
"เส้าเหยี่ย,ท่านกำลังจะบอกว่ามือที่สามนี้ก็คือ,จงซานอย่างงั้นรึ?"เสี่ยวหวังที่ขมวดคิ้วไปมา.
เหล่าผู้ใต้บังคับบัญชาที่หัวเราะก็หยุดลงในทันที.
"น่าจะเป็นเขา!"เทียนเซียวที่เผยยิ้มแม้นว่าแววตาจะยังแสดงท่าทางดูแคลนอยู่เล็กน้อยด้วยก็ตาม.
"แล้วเส้าเหยี่ยมีแผนการรับมืออย่างไร?"เสี่ยวหวังที่กล่าวออกมาด้วยท่าทางเป็นกังวล.
"จงซานผู้นี้มีฝีมือขนาดใหนเป็นดังที่เจ้าบอกเล่าหรือไม่,ครานี้ข้าจะได้ดูมันด้วยตัวเอง."เทียนเซียวที่เผยรอยยิ้มออกมาเล็กน้อย.
"แต่ว่าตระกูลเทียน!"เสียวหวังที่กล่าวออกมาทันที.
"ตระกูลเทียนนั้นมีความเป็นมายาวนาน ยากที่จะสั่นคลอน,แม้นว่าข้าคิดว่าจงซานเองจะมีความสามารถหรืออาจจะสร้างปัญหาบ้าง,หากแต่ด้วยความสามารถของท่านพ่อย่อมต้องรับมือได้อย่างแน่นอน!"เทียนเซียวที่กล่าวออกมา.
"ครับ!"เสี่ยวหวังที่รับคำในทันที.
"เฝ้าระวังเอาไว้,และดำเนินแผนการสวรรค์ล่มต่อไป,ข้าจะรอดูว่าจงซานจะมีแผนการอะไร!"เทียนเซียวที่แสดงใบหน้าสนใจอยู่เช่นกัน.
"ขอรับ!"ผู้ใต้บังคับบัญชาทุกคนที่รับคำ.
....
จงซานในโรงเตี้ยมแห่งหนึ่ง.
จงซานและหยินโหลวหรี่นั่งอยู่ในห้องแห่งหนึ่ง,ขณะที่เถ้าแก่เข้ามาภายในห้อง.
"เถ้าแก่,พวกเราจะออกเดินทางกันตอนบ่ายนี้,หลายวันมานี้ขอบคุณที่ให้ความร่วมมือ!"จงซานที่กล่าวออกมา.
"ท่านลูกค้าต้องการจะไปแล้วอย่างงั้นรึ?"เถ้าแก่ที่กล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงเสียดาย.
"ก่อนข้าที่จะไป,ข้าจะมอบศิลาวิญญาณที่เหลือที่ได้มาให้กับเจ้าจัดการ,เพื่อเป็นการตอบแทนที่ทำให้ข้าได้รับความบันเทิง!"จงซานกล่าว.
"ได้!
เช่นนั้นคงไม่รบกวนแล้ว."เถ้าแก่ที่แสดงท่าทางเสียดายอยู่ไม่น้อย.
เมื่อเถ้าแก่ออกไปแล้ว,หยินโหลวหรี่ที่จ้องมองไปยังจงซาน,"หลายวันมานี้คือการโฆษณาอย่างงั้นรึ?"
"แน่นอนว่า,แผนการนี้ก็เพื่อที่จะทำให้เฉินซิ่วร้อนใจ,ไม่หลบหลีกที่จะเข้าจัดการตระกูลเทียนนั่นเอง."จงซานที่กล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม.
"แล้วจากนี้พวกเราจะทำอย่างไรต่อไป?"หยินโหลวหรี่ที่สอบถามอีกครั้ง.
"ช่างน่าเศร้านักที่เราไม่มีคนของราชวงศ์ราชันย์ซิงโหลว,ที่สามารถอำนวยความสะดวกของพวกเราได้มากกว่านี้,แผนการก้าวแรก,เอาหน้าไปกวาดพื้นถือว่าทำสำเร็จแล้ว,แผนการก้าวที่สอง,รอคอยให้พวกเราเดินทางไปถึงเมืองหลวงของพวกเขาก่อนค่อยจัดการอีกครั้ง,นอกจากนี้,สถานที่แห่งนี้ยังกลายเป็นที่จับตามองของคนจำนวนมากเข้าแล้ว."จงซานกล่าว.
ในเวลาเดียวกันนั้น,เถ้าแก่ร้านที่เร่งรีบวิ่งเข้ามา.
"ลูกค้าทั้งสอง,ที่ด้านนอกนั้นมีคนผู้หนึ่งมาขอพบท่าน!"เถ้าแก่ที่กล่าวออกมาทันที.
"มีคนมาขอพบอย่างงั้นรึ?"จงซานที่เผยยิ้ม.
"เชิญเข้ามาได้!"จงซานกล่าว.
จากนั้นไม่นาน,เถ้าแก่ที่นำชายในชุดสีน้ำเงิน,ท่าทางดูหล่อเหลา,ทรงผมที่จัดตกแต่งอย่างเรียบร้อย,เสื้อลายปักษ์รูปดอกไม้,พร้อมกับถือพัด,สะบัดไปมา,ก้าวเข้ามาด้านใน.
"ผู้น้อยอี้หลานเชวี๋ย,คารวะราชันย์จง,คารวะจื่อจุ้นหยิน!"ชายคนดังกล่าวที่เอ่ยนามของจงซานและหยินโหลวหรี่ออกมา.
เขาที่แสดงความเคารพและเผยยิ้มให้กับทั้งสอง.
"เจ้ารู้จักพวกเราด้วยอย่างงั้นรึ?"หยินโหลวหรี่ที่ขมวดคิ้วไปมา.
"นามของทั้งสองนั้น,ก้องไปทั่วหล้า,จะไม่ให้ผู้น้อยอี้หลานเชวี๋ยไม่รู้ได้อย่างไร,วันนี้ได้เดินทางผ่านมา,รู้ว่าทั้งสองอยู่ในเมืองนี้,ผู้น้อยเร่งรีบเดินทางมาขอพบ,ไม่รู้ว่ารบกวนหรือไม่!"อี้หลานเชวี๋ยที่กล่าวออกมาด้วยท่าทางถ่อมตนกล่าวออกมาด้วยไมตรีจิต.
"ไม่รู้ว่าคุณชายรู้จักพวกเราได้อย่างไร?"จงซานที่สอบถามออกมาทันที.
"ในอดีตนั้น,ราชวงศ์สวรรค์ต้าโหลว,กู่เฉิงตงที่ทำการแยกสวรรค์สะบั้นปฐพี,ทำการเปิดช่องทางระหว่างภพหยินหยางขึ้น,ทำให้มีคนไม่น้อยที่ล่วงหล่นลงมายังภพหยิน,และมีหลายคนที่เป็นสหายของผู้น้อย,ราชันย์จงซาน,แผนการสวรรค์ล่มของต้าโหลว,ยาเซียนอมตะเป็นที่รู้จักไปทั่วหล้า,ชะตาภัยพิบัติของแดนเทพพิสุทธิ์,ผู้น้อยล้วนแล้วแต่ชื่นชมเป็นอย่างมาก,ข้านั้นมีหอการค้าแห่งหนึ่ง,เกี่ยวกับข่าวคราวแผนการสวรรค์ล่มที่เกิดขึ้นมาในเวลานี้,ทำให้ผู้น้อยเร่งรีบเดินทางมาอย่างรวดเร็ว,ช่างน่าเสียดายนัก,แผนการสวรรค์ล่มในครานี้ไม่ใช่ฝีมือของท่าน,อย่างไรก็ตาม,คาดไม่ถึงเลยแม้แต่น้อย,จะได้รับรู้ว่าราชันย์จงอยู่ที่นี่,นับว่าเดินทางมาไม่เสียเที่ยว,โลกใบนี้ช่างเล็กจริงๆ!"อี้หลานเชวี๋ยกล่าว.
จากท่าทางของอี้หลานเชวี๋ยแล้ว,จงซานสามารถตระหนักได้เป็นอย่างดี,แม้แต่หยินโหลวหรี่ยังรู้สึกเป็นกังวลและสงสัยในตัวอี้หลานเชวี๋ยเช่นกัน,หากแต่จงซานสามารถที่จะคาดเดาได้ว่าคนผู้นี้มีสถานะที่ไม่ธรรมดา,นอกจากนี้ยังรับรู้เรื่องราวของต้าเจิ้งเป็นอย่างดีอีกด้วย.
ที่มาจากhttps://lnmtl.com/novel/immortality
#นิยาย เรื่องอมตะ #Immortality#นิยายแปลไทย
Author(s)
สนใจสนับสนุนพวกเรา,เข้าร่วมกลุ่ม VIP ====> Click
***เว็ปฟรีอัพ สองวันหนึ่งตอน
***กลุ่มลับ อัพ 2-3 ตอนต่อวัน.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น