วันพฤหัสบดีที่ 5 มีนาคม พ.ศ. 2563

Immortality Chapter 660 The first step, the moral prestige sweeps the floor

Immortality Chapter 660  The first step, the moral prestige sweeps the floor

นิยาย เรื่อง อมตะ ตอนที่ 660   แผนการก้าวแรก,เอาหน้าไปกวาดพื้น.


Chapter 660  The first step, the moral prestige sweeps the floor
第一步,德望
  แผนการก้าวแรก,เอาหน้าไปกวาดพื้น.

จงซานที่ระงับความโกรธเกรี้ยวของตัวเองเอาไว้,พร้อมกับนำคนของเขาออกจากตระกูลเทียน.

เหว่ยไท่จงที่ได้รับบาดเจ็บและความอับยศกลับมา,ราวกับน้ำมันที่เทราดลงไปในเปลวเพลิง,ทำให้ความโกรธเกรี้ยวของจงซานยิ่งลุกกระหน่ำ.



เทียนจี้จื่อที่ดูแคลนพวกเขาที่สุด,ถึงจงซานจะกล่าวอะไรไปก็ไร้ประโยชน์,เพื่อเอาคืนตระกูลเทียน,แผนการของเขาจะต้องดำเนินไปอย่างระเอียดรอบคอบ.

จงซานรู้ดีว่าการจะขอหยิงหลานคืนมานั้นเป็นเรื่องยาก,และเขาคิดว่าด้วยนิสัยอย่างเทียนจี้จื่อนั้นไม่มีทางยอม.

หลังจากที่ออกมาจากพื้นที่ตระกูลเทียนแล้ว,จงซานยังไม่ออกไปจากนรกหมื่นจั้ง,จงซานที่จดจ้องมองไปยังพื้นที่ตระกูลเทียนที่มีขนาดใหญ่โต.

"ฝ่าบาท,ท่านกล่าวก่อนหน้านี้ว่า,ใช้สันติวิธีก่อน,หลังจากสันติวิธีแล้วคืออะไร?"เหว่ยไท่จงที่จ้องมองจงซานด้วยท่าทางร้อนใจ.

"กองกำลังหนุน!"จงซานที่กล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงที่ปนไปด้วยความโกรธ.

"กองกำลังหนุนอย่างงั้นรึ? นี่เจ้ากำลังจะใช้กองกำลังทหารจัดการตระกูลเทียนอย่างงั้นรึ?นี่เจ้าบ้าไปแล้วรึ?"หยินโหลวหรี่ที่อุทานออกมาเสียงดัง.

"หืม?"จงซานที่ขมวดคิ้วไปมาจับจ้องมองไปยังหยินโหลวหรี่.

"ขณะที่เข้าไปนั้น,นอกเหนือจากเทียนจี้จื่อ,ข้าสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายที่ทรงพลัง,นอกจากเทียนจี้จื่อและอาวุโสเทียนสตรี,อย่างน้อยก็ต้องมีผู้ฝึกตนสวรรค์แท้หกคน,ซึ่งเทียนเซียวออกไปด้านนอก,ก็หมายความว่าพวกเขามีผู้ฝึกตนสวรรค์แท้เจ็ดคน,เจ้าจะใช้กองกำลังใดจัดการกับตระกูลเทียน?"หยินโหลวหรี่แสดงท่าทางไม่อยากเชื่อ.

เจ็ดระดับสวรรค์แท้อย่างงั้นรึ? จำนวนระดับสวรรค์ทั่วหล้ามารวมกันที่ตระกูลเทียนเป็นจำนวนมาก,คาดไม่ถึงเลยว่าจะมีถึงเจ็ดคน,ต้องบอกเลยว่าตระกูลเทียนนั้นไม่ธรรมดา,เห็นได้ชัดเจนว่าการหาเรื่องพวกเขาก็ไม่ได้ต่างจากแส่หาความตาย.

"ระดับสวรรค์แท้เจ็ดคน? มากอย่างงั้นรึ?"จงซานที่กล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม,แววตาที่เต็มไปด้วยความเย็นชา.

หยินโหลวหรี่,"............."

"ฝ่าบาท,จะไม่สอบถามเทียนจี้จื่ออีกรึ? ว่าพวกเขามีอะไรแลกเปลี่ยนหรือไม่,"เหว่ยไท่จงที่กล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงเป็นกังวล.

"เป็นไปไม่ได้,เทียนจี้จื่อผู้นี้,เป็นคนที่อหังการเป็นอย่างมาก,จากแววตาท่าทางของเขาแล้ว,ยกเว้นคนตระกูลเทียน,ทุกคนทั่วหล้าล้วนแล้วแต่ไร้ค่า,เหล่าทาสไร้ค่าจะไปต่อรองอะไรกับเขาได้รึ? เป็นไปไม่ได้!"จงซานที่ส่ายหน้าไปมา.

"เจ้ามีแผนการอันใด,ตระกูลเทียนมีระดับสวรรค์แท้เจ็ดคน,เจ้าจะเตรียมการเช่นไร? หรือว่าจะใช้ยอดฝีมือจากภพหยาง? เสวียนหยวนรึ?,เสวียนหยวนผู้นี้แข็งแกร่งมาก,อย่างน้อยน่าจะอยู่ระดับเดียวกับเทียนจี้จื่อ,แล้วคนอื่นๆล่ะจะทำอย่างไร?"หยินโหลวหรี่ที่ขมวดคิ้วไปมา.

"ภพหยางรึ? ไม่จำเป็น,เพียงแค่ยอดฝีมือภพหยินก็เพียงพอแล้ว."จงซานกล่าวออกมาด้วยความจริงจัง.

"เพียงแค่ภพหยินอย่างงั้นรึ?"หยินโหลวหรี่ตกใจเล็กน้อย.
 "ข้าจะทำให้ตระกูลเทียนแม้แต่สุนัขและไก่ก็อยู่ไม่เป็นสุข,พลิกฟ้าพลิกแผ่นดิน,ข้าจะทำให้เทียนจี้จื่อรับรู้ว่า,จดจำจนวันตาย,ทำให้ตระกูลเทียนพังทลาย,ระหว่างนี้,จำเป็นต้องมีผู้สมรู้ร่วมคิดก่อน!"จงซานที่กล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม.
犬不宁 jīquănbùníng (=ไก่,=สุนัข) แม้แต่สุนัขและไก่ก็อยู่ไม่เป็นสุข(รบกวนก่อความเดือดร้อนกันไปทั่ว)

"ข้าไม่สามารถต่อกรกับเทียนจี้จื่อได้,นอกจากนี้ผู้ฝึกตนระดับสวรรค์แท้คนอื่นๆเอง,ก็คงไม่ด้อยกว่าข้า,หรืออาจจะแข็งแกร่งกว่าข้าด้วยซ้ำ."หยินโหลวหรี่ที่ส่ายหน้ากล่าวออกมาในทันที.

"เจ้าไม่จำเป็นต้องออกไปต่อสู้!"จงซานที่กล่าวอย่างเคร่งขรึม.

"หืม? เจ้าไม่ต้องการกำลังของข้าอย่างงั้นรึ?"หยินโหลวหรี่ที่กล่าวด้วยความประหลาดใจ.

เสาหลักของตระกูลเทียนนั้น,มีผู้ฝึกตนสวรรค์แท้เป็นจำนวนมาก,หากข้าไม่ลงมือ,แล้วเจ้าจะจัดการคนเหล่านั้นได้อย่างไร?

"ฝ่าบาท,เฉินมีวิชาลับอาจจะเป็นประโยชน์!"เซียนเซิงซือที่เอ่ยปากออกมาในทันที.

"เจ้า? เจียงซือปู่ซารึ? ไม่ได้,แม้ว่าเจียงซือปู่ซาจะแข็งแกร่ง,หากแต่เป็นเพียงศพที่มีระดับสวรรค์แท้เท่านั้น,เมื่อหลอมกลั่นแล้ว,พลังของมันไม่ได้เกินกว่าระดับราชันย์แท้เลย."จงซานส่ายหน้าไปมา.

"ไม่,ไม่ใช่เจียงซือ,ทว่าคือเทียนกุย(ภูติสวรรค์)!"เซียนเซิงซือกล่าวออกมาอย่างจริงจัง.
***天鬼Tiān guǐ ภูติสวรรค์.

"เทียนกุยอย่างงั้นรึ?"ทุกคนที่จดจ้องมองไปยังเซียนเซิงซือด้วยความสงสัย.

"เมื่อไม่นานมานี้ข้าเพิ่งได้ศพเซียนมา,ข้าสามารถหลอมสกัดกลั่นศพเซียนดังกล่าวนั้นด้วยเหล่าภูติขั้นต้นที่มีอยู่หลายพันลาน,ก่อร้างสร้างภูติสวรรค์ขึ้น,ทว่าจำเป็นต้องใช้เวลาสักเล็กน้อย."เซียนเซิงซือกล่าวพลางถอนหายใจเบาๆ.

"แล้วเทียนกุยมีพลังระดับใด?"จงซานที่ขมวดคิ้วไปมา.

"ไม่อ่อนด้อยไปกว่าจื่อจุ้นหยิน!"เซียนเซิงซือกล่าวอย่างเคร่งขรึม.

ทว่าหยินโหลวหรี่ที่อยู่ข้างๆแสดงท่าทางแปลกประหลาดอย่างที่สุด,คนผู้นี้เป็นใครมากจากใหน,นี่ไม่ได้อยู่ในโลกใบใหญ่,หากแต่เขากับมีความรู้มากมาย,แม้แต่สร้าง,เทียนกุย,ขึ้นมาเลยรึ?แล้วเทียนกุยนี้ทรงพลังขนาดนั้นเลยรึ?

"ดี,ดีมาก,ยอดเยี่ยม!"จงซานที่สูดหายใจลึก.

"ข้าต้องใช้เวลาสามเดือน!"เซียนเซิงซือกล่าว.

"ข้าจะให้เวลาเจ้าสามเดือน!"จงซานกล่าวอย่างเคร่งขรึม.

"ครับ!"

ในเวลาเดียวกัน,จงซานที่นำยันต์ยกออกมา,พร้อมกับถ่ายข้อมูลใส่ลงไป,จากนั้นก็มอบให้กับเหว่ยไท่จง.

"ไท่จง,ส่งแผ่นริ้วหยกนี้ให้กับเสวียนหยวน,บอกเขา,บ่อคลื่นสงบ,ข้าพบมันแล้ว,ให้เขาเร่งเดินทางมา!"จงซานที่กล่าวอย่างเคร่งขรึม.

"รับด้วยเกล้า!"เหว่ยไท่จงที่รับคำในทันที.

"เจ้าหาบ่อคลื่นสงบได้แล้วรึ? แล้วเจ้าหามันเจอได้อย่างไร?"หยินโหลวหรี่ที่เผยท่าทางอัศจรรย์ใจ.

"เมื่อครั้งที่เข้าไปในตระกูลเทียน!"จงซานที่กล่าวตามจริง.

จงซานที่มีร่างโคลนมากมาย,ด้วยวิชาลับของเขาที่สามารถส่งออกไปรอบๆเพื่อค้นหาเส้นทางของบ่อคลื่นสงบ,แม้นว่าจะมีค่ายกลซับซ้อน,คนทั่วไปไม่สามารถค้นหาได้,ทว่าด้วยร่างโคลนที่มีภูมิต้านอำนาจค่ายกล,การจะคนห้าบ่อคลื่นสงบนั้นไม่ได้ยากเย็นนัก,ที่จริงเขาได้พบกับยอดฝีมือของตระกูลเทียน.

บ่อคลื่นสงบนั้นมียอดฝีมือเฉพาะปกป้องอยู่,พริบตาเดียวที่จงซานปรากฏตัวขึ้น,กลิ่นอายมหาศาลก็ผลักดันตัวเขา,ทำให้จงซานต้องถอยหนีในทันที.

หยินโหลวหรี่ที่จ้องมองจงซานด้วยความประหลาด,จริงหรือเท็จกัน? ไม่ใช่ว่าพวกเราเข้าไปด้วยกันอย่างงั้นรึ? แล้วเจ้าพบได้อย่างไร?

แน่นอนว่าจงซานย่อมไม่ได้กล่าวเรื่องร่างโคลนออกมาแต่อย่างใด.

"เอาล่ะ!จือจุ้นหยิน,พวกเราไปหากเหล่ายอดฝีมือกัน,ภายในสามเดือน,หากลุ่มยอดฝีมือที่พร้อมจะไปสร้างปัญหาให้กับตระกูลเทียนกันดีกว่า!"จงซานที่กล่าวออกมาด้วยนำเสียงมั่นใจ.

"สามเดือนรึ? จะไปหากกลุ่มยอดฝีมือจากใหนกัน? เจ้าน่าจะรู้ว่าโลกใบนี้กว้างขนาดใหน? จากนี้ไปถึงต้าเจิ้งยังต้องใช้เวลาครึ่งปี,สามเดือนหายอดฝีมือ,แล้วจะมีใครมากัน?"

หากวันหลังจากนั้น,เซียนเซิงซือที่เริ่มหลอมภูติสวรรค์จากศพเซียน,เหว่ยไท่จงที่ไปส่งจดหมายให้กับเสวียนหยวน,ส่วนจงซานและหยินโหลวหรี่กลับมายังโรงเตี้ยมในเมืองที่พวกเขามาก่อนหน้า.

"ท่านลูกค้า,เป็นความจริงดั่งที่ท่านกล่าว,ศิลามิติราคาเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว,ต้องขอบคุณพวกท่านจริงๆ!"เฒ่าแก่ที่กล่าวออกมาด้วยความตื่นเต้น.

"โอ้ว? ศิลามิติราคาเพิ่มสูงขึ้นแล้วอย่างงั้นรึ?"จงซานที่กล่าวออกมาด้วยความประหลาดใจ.

"ใช่แล้ว,ศิลามิติที่เพิ่มขึ้นหลายเท่า,ก่อนหน้าที่ข้ากักตุน,เวลานี้มันเพิ่มขึ้นเป็นสิบเท่าแล้ว,และยังคงเพิ่มอย่างบ้าคลั่ง,ตอนนี้คนมากมายทั่วเมืองกำลังหาศิลามิติกันไปทั่ว."เฒ่าแก่ที่กล่าวด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น.

"หืม,ดูเหมือนว่าหลายวันมานี้,ได้เริ่มแผนการมาถึงจุดนี้แล้วรึ?"จงซานที่ขมวดคิ้วครุ่นคิด.

หยินโหลวหรี่ที่รับรู้ว่ามันคือแผนการสวรรค์ล่มในอดีต,เมื่อได้ยินเถ้าแก่ร้ายเล่าอีกครั้ง,ทำให้ภายในใจของเขาอดที่จะประหลาดใจไม่ได้.

"ท่านลูกค้า,ขอคำแนะนำท่าน,ตอนนี้ข้าควรจะขายศิลามิติออกไปได้หรือยัง?"

"หืม?"

"ตอนนี้ราคาของมันเพิ่มสูงขึ้น,ข้าเกรงว่า,ตอนนี้มันสูงมาสิบเท่าแล้ว,กลัวราคามันจะลดลง!"เถ้าแก่ร้านที่กล่าวออกมาด้วยความกังวล.

"ไม่มีปัญหา,รอให้มันไม่มีศิลามิติในตลาดก่อน,เจ้าค่อยขายมันออกไปทั้งหมด!"จงซานกล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม.

"ขอรับ,ข้าเชื่อท่าน!"เถ้าแก่ที่กล่าวด้วยความตื่นเต้น.

"ทว่าอย่าให้ใครมารบกวนข้า!"จงซานที่กล่าวออกมาทันที.

"ได้,ได้,ท่านลูกค้าโปรดวางใจ,นับจากวันนี้,โรงเตี้ยมของข้าไม่ต้องเปิดบริการ,จะดูแลท่านโดยเฉพาะ!"เถ้าแก่ที่กล่าวออกมาด้วยความสุข.

"หืม?"จงซานที่ชำเลืองมองออกไปเล็กน้อย.

"ท่านลูกค้า,ข้าจะไปเตรียมอาหารและเครื่องดื่มชั้นดีให้,เชิญๆ,โปรดวางใจได้เลย!"เถ้าแก่ที่กล่าวออกมาตรงๆ.

เถ้าแก่ที่ใช้เงินทุนจำนวนมากซื้อศิลามิติ,ในเวลาเดียวกัน,หากว่าขายไปในตอนนี้กำไรที่ได้จะมากมายสามารถใช้ได้หลายร้อยปี,ทุกอย่างนี้เพราะจงซาน,ไม่เพียงแต่ต้องการตอบแทน,อีกทั้งเวลานี้แม้นว่าเปิดรับลูกค้าคนอื่นแต่ก็เทียบไม่ได้กับการได้รับเงินจากจงซานซึ่งเป็นกลุ่มลูกค้ารายใหญ่กลุ่มนี้เลยแม้แต่น้อย.

"เถ้าแก่,ข้ามีงานให้เจ้าทำ."จงซานกล่าว.

"ท่านลูกค้าเชิญกล่าว!"

"แผ่นริ้วหยกนี้,ข้าต้องการให้เจ้าคัดลอกมันเป็นหนึ่งหมื่นแผ่น,และข้าต้องการจ้างคนให้ส่งมันไปทั่วราชวงศ์ราชันย์ซิงโต่ว,และราชวงศ์ราชันย์อื่นที่เทียนเซียวอยู่."จงซานที่ส่งแผ่นริ้วหยกออกไป.

"เรื่องนี้?"เถ้าแก่ที่ขมวดคิ้วไปมา.

"นี่เป็นเพียงแค่ข้อเท็จจริงเท่านั้น,เพียงแค่กระจายมันออกไปก็พอ,แน่นอนว่าข้าจะต้องตอบแทนเจ้าอย่างงาม!"จงซานที่กล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม.

หลังจากที่เถ้าแก่รับและจากไป,หยินโหลวหรี่ก็เอ่ยสอบถามออกมาทันที,"เป็นแผ่นริ้วหยกบันทึกอะไรไว้?"

"เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่ทะเลโลหิตเฉินฝู! แน่นอนว่ามีการดัดแปลงบางอย่างให้เหมาะสม!"จงซานที่กล่าวด้วยรอยยิ้ม.

"เจ้าต้องการจะชักจูงซิงไท่โต่วรึ?"

"ไม่ใช่แค่ซิงไท่โต่ว,คนของโลกอมตะด้วยแม้แต่ใต้ซือเฉินซิว!"จงซานกล่าวออกมาอย่างจริงจัง.

"บางที่ซิงไท่โต่วอาจจะยินดีที่จะไป,ทว่าคนของโลกอมตะและใต้ซือเฉินซิ่วล่ะ? ก่อนหน้านี้พวกเขาทำภารกิจล้มเหลว,พวกเขาจะยินดีไปอย่างงั้นรึ?"หยินโหลวหรี่ที่ขมวดคิ้วไปมา.

"หากข้าชักจูงซิงไท่โต่วได้! คนอื่นๆย่อมตามมา,อีกอย่าง,การที่พวกเขาช่วยเหลือซิงไท่โต่วก่อนหน้า,นั่นก็หมายความว่า,โลกอมตะ,ได้ตัดสินใจที่จะต่อกรกับตระกูลเทียนมาก่อนแล้ว,นอกจากนี้แม้ว่าพวกเขาไม่ต้องการออกมา,หากแต่ถูกกระตุ้นสักเล็กน้อย,พวกเขาย่อมต้องการแบ่งปันความเกลียดชังตระกูลเทียนกับพวกเราแน่!"จงซานที่กล่าวอย่างจริงจัง.

"แล้วเฉินซิว? เขาไม่ใช่คนของโลกอมตะ,นอกจากนี้ยังมีข่าวลืมว่าเฉินซิวนั้นหวาดกลัวการต่อสู้เป็นอย่างมาก,เขาจะไปอย่างงั้นรึ?"หยินโหลวหรี่ที่ขมวดคิ้วไปมา.

"ไม่ใช่ว่าข้ากำลังเตรียมการอยู่ไม่ใช่รึ?"จงซานที่กล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม.

"เรื่องที่ทะเลโลหิตเฉินฝู? เจ้าดัดแปลงอะไรอย่างงั้นรึ?"หยินโหลวหรี่ที่ขมวดคิ้วไปมา.

"ข้าได้ดัดแปลงเรื่องที่เกิดขึ้นที่ทะเลสาบเฉินฝูเล็กน้อยเกี่ยวกับคนของตระกูลเทียน,หากว่าข่าวนี้กระจายไปทั่วหล้าล่ะก็,เฉินซิวจะต้องออกมาแน่!"จงซานกล่าวยืนยัน.

"ทำไม?แม้ว่าเรื่องดังกล่าวเฉินซิ่วจะเป็นคนเตรียมค่ายกลฮวงจุ้ย,แต่ก็ไม่เพียงพอที่จะทำให้ตระกูลเทียนต้องโกรธแค้นเขามากมายขนาดนั้น"หยินโหลวหรี่ที่กล่าวออกมาด้วยความสงสัย.

"ทว่าค่ายกลฮวงจุ้นนั้นถูกใช้กับเทียนเซียว!"

"เทียนเซียว? ข้าคิดว่าเขาไม่น่าจะใส่ใจเรื่องเช่นนี้?"

"เทียนเซียวย่อมไม่ใส่ใจ,ทว่าหากว่าเรื่องนี้มีคนมากมายรับรู้กันทั่วล่ะ,เรื่องนี้เขาจะยังไม่ใส่ใจอีกหรือไม่,เรื่องนี้เฉินซิวจะต้องเจอปัญหา,คนทั้งตระกูลเทียนจะต้องจับตายเฉินซิ่วไม่ว่าจะต้องลงแรงไปเท่าไหร่ก็ตาม!"

"ไม่มีทาง? เป็นไปไม่ได้? สงครามย่อมมีแพ้มีชนะ,เทียนเซียวแม้นว่าจะได้รับความพ่ายแพ้,แต่ก็เป็นไปไม่ได้ที่จะเอาเรื่องแค่นั้นมาใส่ใจ,ไม่เช่นนั้นแล้วเขาจะเติบโตได้อย่างไร?"

"เจ้าไม่เข้าใจ,ตระกูลเทียน,พวกเขาที่เป็นกลุ่มอิทธิพลลำดับหนึ่งของโลกใบนี้,อีกทั้งเทียนเซียวยังเป็นผู้สืบทอดที่จะเป็นประมุขคนต่อไป,เรื่องนี้ก็เหมือนกับไท่จื่อของราชวงศ์วาสนา,การจะได้รับบัลลังก์สืบทอดนั้น,ต้องได้รับคำชื่นชมและนับถือจากคนทั่วหล้า,โดยเฉพาะอย่างยิ่งตระกูลเทียน,พวกเขาที่ยืนยาวมากว่าแสนปี,เทียนจี้จื่อเองก็ชราแล้ว,เห็นได้ชัดเจนว่าเขาใกล้จะแบกรับอำนาจสวรรค์แล้ว,เมื่อถึงตอนนั้นใครกันที่จะได้รับตำแหน่งประมุขตระกูล? เทียนเซียวเป็นคนที่มีโอกาสที่สุด,ทว่าภาพลักษณ์หน้าตาของเขานั้นย่อมสำคัญต่อการรับตำแหน่งประมุขเป็นอย่างมาก."

"เจ้าหมายความว่า?"หยินโหลวหรี่ที่ราวกับว่าคิดอะไรได้.

"แผนการแรก,ทำให้ผู้สืบทอด,เอาหน้าไปกวาดพื้น."จงซานที่กล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงจริงจัง.

"เอาหน้าไปกวาดพื้น?"(เสื่อมเสียชื่อเสียง)

"เกี่ยวกับผู้นำตระกูลเทียนนั้น,ภาพลักษณ์ถือว่าเป็นสิ่งสำคัญ,การทำลายชื่อเสียงของเขา,เทียนเซียวย่อมต้องได้รับแรงกดดันอย่างใหญ่,เขาที่จะเป็นผู้นำตระกูลเทียน,ตระกูลที่มีอิทธิพลลำดับหนึ่ง,แน่นอนว่าเขาจะต้องออกมาจัดการเกี่ยวกับชื่อเสียงของเขา,ก่อนที่จะได้รับตำแหน่งประมุข,เรื่องนี้เป็นเรื่องง่ายสำหรับเขา,หากว่าเขาต้องการแก้ไขชื่อเสียงตัวเองล่ะก็,เขาจำเป็นต้องสังหารเฉินซิวก็เพียงพอแล้ว."


"เป้าหมาย,คือให้เทียนเซียวเสื่อมเสียชื่อเสียง,เพื่อกระตุ้นให้เฉินซิ่วกลัว,เพื่อที่จะให้เฉินซิ่วตอบโต้,ลงมือก่อนอย่างงั้นรึ?"ท้ายที่สุดหยินโหลวหรี่ก็เข้าใจได้.






ที่มาจากhttps://lnmtl.com/novel/immortality

#นิยาย เรื่องอมตะ #Immortality#นิยายแปลไทย
Author(s)


สนใจสนับสนุนพวกเรา,เข้าร่วมกลุ่ม VIP ====> Click

***เว็ปฟรีอัพ สองวันหนึ่งตอน
***กลุ่มลับ อัพ 2-3 ตอนต่อวัน.

 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น