วันศุกร์ที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563

Immortality Chapter 645 Discussed with the immortal

Immortality Chapter 645 Discussed with the immortal

นิยาย เรื่อง อมตะ ตอนที่ 645   พูดคุยต่อรองกับเซียน.


Chapter 645 Discussed with the immortal
与仙
  พูดคุยต่อรองกับเซียน.

"ท่านประมุข,ใต้ซือเฉินซิ่ว,ท่านมาได้อย่างไร?"

จ้องมองไปยังใบหน้าของเย่ชิงเฉิงและใต้ซือเฉินซิ่วที่ซีดเผือด,ชายผมม่วงที่หัวใจเต้นระส่ำไม่เป็นจังหวะ.

"ชิ!"เย่ซิงเฉิงแค่นเสียง,ไม่หันหน้ามองชายผมม่วงอีกต่อไป,ทว่าแววตานั้นเปี่ยมไปด้วยความโกรธ,ขณะที่จ้องมองไปยังพื้นที่รอบๆ.



"ใต้ซือเฉินซิ่ว,ท่านคิดว่าอย่างไร?"เย่ชิงเฉิงที่จ้องมองไปยังเฉินซิ่วด้วยความกังวล.

เฉินซิ่วที่ส่ายหน้าไปมา,พลางถอนหายใจ,"คนของเผ่าอูนั้นนำตำราปฐพีจากไปแล้ว,แก่นปราณของมังกรเหลืองเองก็รั่วสลายหายไปหมดแล้ว,ไม่สามารถกลายเป็นมังกรได้อีก,เหล่ายอดฝีมือเองก็จะตื่นขึ้นมาในไม่ช้า,พวกเรารีบถอนกำลังเถอะ!"

เฉินซิ่วที่เต็มไปด้วยความหดหู่ใจ,แล้วเย่ชิงเฉิงจะรู้สึกมากมายขนาดใหน? เวลานี้,โลกอมตะใช้จ่ายไปด้วยราคาที่สูงลิ่ว,ท้ายที่สุดกลับกลายเป็นเช่นนี้..........

เย่ชิงเฉิงที่สะบัดแขนเสื้อเสียงดัง,สายตาจ้องมองไปยังชายผมม่วงอีกครั้ง.

"ถอนตัว,กลับในทันที!"เย่ชิงเฉิงที่สั่งการเสียงดังดังกระจายไปทั่วค่ายกล.

"ท่านประมุข,ที่จริง,เรื่องนี้ข้าไม่,คือ.........."ชายผมม่วงที่ต้องการจะแก้ตัว,หากแต่,กลับไม่มีคำที่สามารถแก้ตัวออกมาได้เลย.

เย่ชิงเฉิงที่จ้องมองไปยังชายผมม่วงด้วยสายตาไม่พอใจอย่างที่สุด,หากแต่ก็ต้องเก็บสะกดความโกรธเอาไว้ในใจ,"กลับโลกอมตะก่อนค่อยพูด!"

เสียงที่เย็นชา,ทำให้ขนทั่วร่างของชายผมม่วงตั้งชูชัน,สั่นกลัวไม่หยุด,"ครับ!"

คนของโลกอมตะเริ่มถอนกำลังแล้ว,ที่ด้านใน,มังกรเหลืองที่พังทลาย,เหล่ายอดฝีมือที่ล่วงหล่นไปทุกทิศทาง,ในเวลานี้ก็เริ่มฟื้นขึ้นมา.

เทียนเซียวฟื้นแล้ว,หลังจาที่ฟื้นขึ้นมา,แม้นว่าจะยังรู้สึกสะลึมสะลืออยู่,หากแต่ด้วยสัญชาติญาณขนทั่วร่างที่ลุกชูชัน,เมื่อคิดถึงเรื่องที่เกิดขึ้น,ถึงกับต้องสูดหายใจที่เย็นยะเยือบเข้ามา,จากนั้นก็เริ่มตรวจสอบพื้นที่รอบๆ.

"เส้าเหยี่ย,เส้าเหยี่ย!"ไม่ไกลออกไปนั้น,เหล่าผู้เยาว์ของตระกูลเทียนที่วิ่งเข้ามาหาในทันที.

ใบหน้าของผู้เยาว์ตระกูลเทียนที่ตื่นตระหนกตกใจใบหน้าซีดเซียว,เห็นได้ชัดเจนว่าได้พบกับเรื่องที่น่าหวาดผวามานั่นเอง.

"รีบหาคนอื่นๆ,เร็วเข้า!"เทียนเซียวที่ออกคำสั่งในทันที.

"รับทราบ!"เหล่าผู้เยาว์ตระกูลเทียนที่รับคำในทันที.

เทียนเซียวที่เป็นเสาหลัก,แม้ว่าทุกคนจะตื่นตระหนกหวาดกลัวอยู่,ท้ายที่สุดก็สงบลงได้,เร่งรีบตามหาคนอื่นๆในทันที.

เหล่าคนที่ฟื้นขึ้นมาเริ่มมากขึ้นเรื่อยๆ.

ในเวลานี้,ซิ่งไท่โต่วและหยินโหลวหรี่เองก็ฟื้นขึ้นมาเรียบร้อยแล้วเช่นกัน.

สามผู้ฝึกตนสวรรค์แท้ทั้งสามต่างก็จ้องมองกันและกัน,ไม่มีใครกล่าอะไรต่อกัน.

"เส้าเหยี่ยน,เราพบคนของพวกเราหมดแล้ว,มีคนแปดคนได้รับบาดเจ็บเคลื่อนไหวไม่ได้,ส่วนคนอื่นๆไม่ได้รับบาดเจ็บมากมายนัก!"ผู้เยาว์ตระกูลเทียนที่กล่าวรายงานในทันที.

เทียนเซียวที่จ้องมองไปยังหยินโหลวหรี่,ก่อนที่จะหันหน้าไปมองซิงไท่โต่วด้วยสายตาเย็นชา.

"เอาล่ะ,เดินทางกลับตระกูล!"เทียนเซียวออกคำสั่ง.

"รับทราบ!"คนของตระกูลเทียนทั้งหมดที่รับคำในทันที.

เหล่าผู้ฝึกตนมากมาย,ในเวลานี้ต่างก็พูดคุยกันไปต่างๆนาๆ,ก่อนหน้านี้,ราวกับว่าพวกเขาได้พบประสบกับฝันร้าย,ตอนนี้พวกเขาเริ่มหนีกันแล้ว,แทบจะทุกคนกำลังเดินทางออกจากพื้นที่แห่งนี้ไปคนละทิศละทาง.

"กลับ!"ซิ่งไท่โต่วกล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม.

"รับทราบ!"ข้าราชบริพารของคนราชวงศ์สวรรค์ต้าเหยียนรับคำในทันที.

ส่วนหยินโหลวหรี่นั้นไม่พูดไม่จาแต่อย่างใด,เขาที่หายไปในทันทีเช่นกัน.
...........

ภายในหุบเขาที่งดงามบรรยากาศดีแห่งหนึ่ง.

ภายในหุบเขาแห่งนี้มีดอกไม้หลายร้อยชนิด,ที่ตรงกลางนั้น,มีตำหนักสีดำตั้งอยู่,ประตูที่ปิดแน่น! กู่เฉียนโหยว,เซียนเซียน,เซียนเซิงซือและอาวุโสจิว,จิงเทียนซีและเหล่าหลางเจียงรอคอยอยู่ด้านนอก.

ภายในห้องโถง,จงซานที่กอดอกยืนอยู่,จ้องมองไปยังกลางห้อง,ที่กลางห้องนั้นมีโลงศพขนาดใหญ่อยู่! ที่ด้านในนั้นมีชายที่ผิวหนังไหม้ไปทั่วร่าง,หนานกงเซิ่ง,และที่หน้าผากของเขานั้นมียันต์หยกทมิฬปะทับอยู่.

ยันต์หยกทมิฬที่ปะทับบนหน้าผากของหนานกงเซิ่ง,ที่ช่วยหนานกงเซิ่งปกปิดกลิ่นอาย,ป้องกันวิญญาณแตกกระเซ็น,ทำให้เหมือนกับว่าเขาเป็นพียงแค่ศพธรรมดาทั่วไป.

จงซานที่เผยยิ้มออกมาเล็กน้อย,พร้อมกับยื่นมือออกไป,ยันต์หยกทมิฬส่งประกายแสงสีน้ำเงิน,แผ่ออกมาจากร่างของนานกงเซิ่ง,ก่อนที่ยันต์หยกทมิฬจะกลับมาอยู่ในมือของจงซาน.

"ปริบ!"

หนานกงเซิ่งที่ลืมตาขึ้น.

"หนานกงเซิ่ง,พบกันอีกแล้ว!"จงซานที่กล่าวออกมาด้วยรอยยิ้มเล็กน้อย.

หนานกงเซิ่งค่อยๆลุกขึ้นช้าๆ,ใช้ผนังโลงศพพยุงร่างขึ้นมา,จ้องมองไปยังจงซาน.

"จงซาน?"หนานกงเซิ่งที่ขมวดคิ้วไปมา.

"ดูเหมือนว่าจะยังไม่ลืมคนเช่นข้า! จงซานรู้สึกเป็นเกียรติจริงๆ!"จงซานกล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม.

"ลืมรึ? คนที่มีชื่อเสียงกระฉ่อนไปทั่วทวีปศักดิ์สิทธิ์,แม้แต่ใช้กลยุทธ์หลอกลวงเอาแผนที่บรรพกาลก่อเกิดจากแดนเทพอเวจี,ข้าจะลืมได้อย่าไร!"หนานกงเซิ่งส่ายหน้าไปมา.

"หลอกลวงรึ? เฮ้เฮ้,เวลานั้นไม่ใช่ว่าเป็นเจ้ามอบมาให้กับข้าอย่างงั้นรึ?"จงซานที่กล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม.

"เพราะเหตุนั้นเจ้าจึงมายังภพหยินได้อย่างงั้นรึ?"หนานกงเซิ่งจ้องมองไปยังจงซาน.

"โอ้ว? เจ้ารู้ด้วยอย่างงั้นรึ?"จงซานแสดงท่าทางประหลาดใจ.

"แผนที่บรรพกาลก่อเกิดนั้นเป็นของแดนเทพอเวจีมาก่อน,ข้าจะไม่รู้ได้อย่างไร? อย่างไรก็ตาม,เมื่อเจ้าอยู่ที่นี่,ก็เป็นเจ้าที่ช่วยข้าเอาไว้อย่างงั้นรึ?"หนานกงเซิ่ง

"คิดว่าอย่างไร?"

"คู่ควรสมกับนามจงซานแล้ว! ข้าประเมินเจ้าไว้ต่ำเกินไป!"หนานกงเซิ่งที่ส่ายหน้าไปมา.

"ประเมินข้าต่ำ,เป็นความผิดอย่างงั้นรึ?"จงซานที่เผยยิ้มออกมา.

"บุญคุณที่ช่วยชีวิต,หนานกงเซิ่งจะจดจำเอาไว้,หากแต่มีสิ่งใดที่ต้องการเป็นการตอบแทน!"หนานกงเซิ่งที่กล่าวออกมาเล็กน้อย.

ด้วยผู้ฝึกตนค่ายกลลำดับหนึ่งของโลกใบนี้,นับว่ามีชื่อเสียงไม่ธรรมดา,พลังฝึกตนที่ลึกล้ำ,จงซานที่ช่วยเขา,ถึงจะนับว่าเป็นบุญคุณ,ทว่าหนานกงเซิ่งที่มีความอหังการ,เป็นไปไม่ได้ที่จะซาบซึ้งหรือแสดงออกมาอย่างอ่อนด้อยกว่า.

ข้อเรียกร้อง,จงซานไม่ได้กล่าวออกมา,นอกจากนี้เขายังมีเป้าหมายบางอย่าง.

"อย่าเพิ่งรีบร้อนเลย,จงซานยังมีข้อสงสัย,ต้องการขอแนะนำจากเจ้า,ส่วนเกี่ยวกับเรื่องตอบแทน,พวกเราค่อยคุยกันอีกทีแล้วกัน!"จงซานที่เผยยิ้มออกมา.

จงซานที่กล่าวออกมาเช่นนี้,เพราะว่าเข้าใจในตัวตนของหนานกงเซิ่ง,คนผู้นี้เป็นคนที่มีความทรนงในตัวเอง,เป็นไปไม่ได้ที่จะนอบน้อมยอมจำนนต่อเขา,นอกจากนี้เป้าหมายของจงซานไม่สามารถที่จะใจร้อนได้,เขาไม่ควรที่จะเร่งเร้าในเวลานี้,อีกทั้งยังมีเวลาอีกเหลือเฟือ.

"โอ้ว!"หนานกงเซิ่งที่จ้องบมองจงซานด้วยความประหลาดใจ.

คาดไม่ถึงเช่นกันที่จงซานจะกล่าวออกมาเช่นนี้.

"ข้ามีข้อสงสัย,ภายในทวีปศักดิ์สิทธิ์นั้น,คนส่วนมากที่มีระดับสวรรค์แท้,เกือบทุกคนล้วนแล้วแต่มีอายุไขใกล้จะหมดแล้ว,ก่อนที่จะผ่านทัณฑ์สวรรค์ไปเป็นเซียน,และเพราะยิ่งมีระดับสวรรค์แท้สูงเท่าไหร่,เมื่อกลายเป็นเซียน,พลังก็จะสูงขึ้นเท่านั้น,และเจ้ามีระดับสิบสวรรค์แท้,ทำไมถึงได้เร่งรีบกลายเป็นเซียนลึกล้ำอย่างงั้นรึ? ไม่ใช่ว่าด้วยอายุไขของเจ้ายังเหลืออยู่,ทำไมไม่รอถึงระดับ 11 หรือสิบสอง? ข้าจึงต้องการคำแนะนำในเรื่องนี้โปรดช่วยแจงได้หรือไม่?"จงซานสอบถาม.

เส้นทางการฝึกฝน,การจะค้นหาเส้นทางที่ถูกต้องนับว่ายากเข็ญทีเดียว,คงเป็นการดีหากจะสอบถามกับผู้มีประสบการณ์มาก่อน.

"เฮ้เฮ้,ข้าเองก็มีเส้นทางของข้า,เจ้าเองก็เช่นกันไม่สามารถที่จะลอกเลียนกันได้,ข้าและเจ้านั้นแตกต่างกัน!"หนานกงเซิ่งส่ายหน้าไปมา.

"หืม?"

"การบำเพ็ญของข้านั้น,คือการศึกษาค่ายกล,เพราะมันไม่สามารถทะลวงผ่านระดับได้อีกแล้ว,ข้าจึงได้เดินทางมายังภพหยิน,หรือต้องไปยังโลกใบใหญ่,เพื่อศึกษาค่ายกลใหม่,นั่นถึงจะทำให้ข้าก้าวไปต่อได้อย่างไรขีดจำกัด."

"อืม,จงซานชื่นชมนัก!"จงซานพยักหน้า,และเข้าใจเหตุผลของหนานกงเซิ่งที่ต้องการก้าวผ่านทัณฑ์สวรรค์ก่อนปกติ.

"ชื่นชมรึ?เฮ้เอ้,ไม่จำเป็น,เจ้านั้นดูเหมือนกับกู่เฉิงตงมาก,คนๆแรกที่คิดจะแยกสวรรค์สะบั้นปฐพี,เป็นคนที่คาดไม่ถึงเลยจริงๆ!"หนานกงเซิ่งที่จ้องมอไปยังจงซาน.

"ฮ่าฮ่า,ข้าเหมือนกับกู่เฉิงตงอย่างงั้นรึ? มิกล้าๆ! เอาล่ะ,ข้าจะขอกล่าวเลยก็แล้วกัน!"จงซานที่ส่ายหน้าไปมา.

"หืม?"หนานกงเซิ่งที่ขมวดคิ้วไปมา.

"ก่อนหน้านี้,คนของข้าได้ตรวจสอบเจ้า,ดวงวิญญาณของเจ้านั้นเสียหายเป็นรอย,กายทิพย์ที่ฉีกขาด,บาดแผลนี้,ทำให้เจ้าได้กลับกลายมาเป็นมนุษย์อีกครั้ง,ไม่ทำให้เจ้าตกตายอีก,ทว่าเจ้าได้ตายไปเรียบร้อยแล้ว,แต่เพราะว่ามีชะตาเซียน,ทำให้สามารถยังคงอยู่ได้ในตอนนี้,แม้แต่ค่อยๆฟื้นฟูอย่างช้าๆ,ข้ากล่าวถูกต้องหรือไม่?"

"ถูกต้องตามนั้น!"หนานกงเซิ่งไม่คิดที่จะปกปิด,ยังคงจ้องมองไปยังจงซาน,รอคอยว่าเขาจะกล่าวสิ่งใดต่อ.

"ไม่รู้ว่าเจ้าคิดว่าราชวงศ์ราชันย์ต้าเจิ้งเป็นอย่างอย่างไรบ้าง?"จงซานที่กล่าวสอบถามเขาในทันที.

"หืม?"

"ต้าเจิ้งของข้า,ในภพหยางตั้งอยู่ภาคใต้ของทวีปศักดิ์สิทธิ์,นับว่าเป็นขุมกำลังขนาดใหญ่,มีเผ่าหมาป่าเป็นอาณาจักรคู่บารมี,และยังมีนิกายต้าหมิง,มียอดฝีมือมากมาย,พัฒนาขึ้นไม่หยุด,ในภพหยางเอง,เขตแดนต้าเจิ้ง,ก็ไม่ได้อ่อนด้อยกว่าราชวงศ์สวรรค์,หรือกล่าวได้ว่าเวลานี้พวกเรากำลังพัฒนาอย่างไร้ขีดจำกัด!"จงซานที่กล่าวด้วยรอยยิ้ม.

"ราชวงศ์ราชันย์? กู่เฉิงตงก่อนหน้านี้ก็เป็นดั่งเช่นเจ้า,แน่นอนว่าข้าย่อมเชื่อว่าต้าเจิ้งมีความแข็งแกร่ง!"

"ข้าขอกล่าวตามจริง,แม้นว่าเวลานี้จะเป็นเพียงราชวงศ์ราชันย์,อาจจะยังไม่พอกับเซียนที่ชาญฉลาดเช่นเจ้า,ทว่า,เป้าหมายของข้านั้น,ต้องการให้เจ้าเข้าร่วมราชวงศ์ต้าเจิ้ง!"จงซานที่กล่าวตามตรง.

"ฮ่าฮ่าฮ่า? เข้าร่วมต้าเจิ้ง? จงซานเจ้าต้องการความคิดเห็นของข้าอย่างงั้นรึ?"ใบหน้าของหนานกงเซิ่งที่เปลี่ยนเป็นดำมืดเล็กน้อย.

"ยันต์ผนึกนั่น,เจ้าก็น่าจะเห็น,เจ้าไม่ใช่คู่ต่อกรของข้า,นอกจากนี้,เมื่อไม่นานมานี้ข้ายังสังหารคนเผ่าอูคนหนึ่งลงได้!"จงซานที่กล่าวออกมาด้วยความมั่นใจ.

จงซานในเวลานี้,ต้องการแสดงความแข็งแกร่งออกมา,หนานกงเซิ่งที่ถือว่าตัวเองเป็นเซียน,แม้ว่าจะไม่อ่อนน้อมกับเขา,ทว่าก็ไม่ควรที่จะให้อยู่ในสถานะเหนือกว่าเขา,ไม่เช่นนั้น,การจะควบคุมเขาก็จะเป็นไปด้วยความลำบาก.

"หืม? เจ้าสังหารคนเผ่าอูอย่างงั้นรึ?"หนานกงเซิ่งที่หรี่ตามองด้วยความสงสัย.

จงซานที่สะบัดมือนำบางอย่างออกมา,ให้กับหนานกงเซิ่งได้ดู,นี่คือไม้เท้าของเผ่าอู.

เห็นไม้เท้าของเผ่าอู,ดวงตาของหนานกงเซิ่งที่เบิกตากว้าง,ภายในใจที่เต็มไปด้วยความอัศจรรย์ใจ,ท้ายที่สุดก็เชื่อจงซาน,เขาสามารถสังหารคนเผ่าอูได้,ย่อมมีศักดิ์ศรีทัดเทียมกันได้.

ต้องไม่ลืมด้วยว่า,แม้แต่หนานกงเซิ่งการจะจัดการคนเผ่าอูคนหนึ่งนั้นก็ไม่ใช่เรื่องง่าย.

หนานกงเซิ่งที่สูดหายใจลึกจ้องมองไปยังจงซาน,"เจ้าต้องการอะไร?"

"เฮ้เฮ้,กองทัพของข้านั้นมีแม่ทัพที่เชี่ยวชาญวิญญาณและศพ,เขาบอกับข้าว่าวิญญาณของเจ้านั้น,เป็นไปไม่ได้ที่จะฟื้นฟูกลับคืนมาได้ในหนึ่งพันปี,ภายในหนึ่งพันปีนี้ความแข็งแกร่งของเจ้าจึงไม่เพียงพอที่จะออกจากโลกใบเล็กได้,ไม่เช่นนั้นดวงวิญญาณของเจ้าจะแตกออกเป็นสองส่วน.

"อืม!"หนานกงเซิ่งที่พยักหน้าอย่างใจเย็น.

"สิ่งที่ข้าต้องการ,ข้าต้องการให้เจ้าทำงานให้กับต้าเจิ้ง,เข้าร่วมกับต้าเจิ้งในหนึ่งพันปีนี้!"จงซานที่กล่าวอย่างหนักแน่น.

"เฮ้เฮ้,เจ้าต้องการเนื้อหา,ตำราปฐพีอย่างงั้นรึ?"หนานกงเซิ่งกล่าวเย้ยหยัน.

"ตำราปฐพี,หาได้ล้ำค่าหายากสำหรับจงซาน!"จงซานที่ส่ายหน้าไปมา.

เห็นจงซานกล่าวปฏิเสธ,คิ้วของหนานกงเซิ่งที่ขมวดไปมา,จ้องมองจงซานดวงตาเปล่งประกาย.

"ไม่ได้หายากอย่างงั้นรึ? เฮ้เอ้,ก็ดี,เจ้าช่วยชีวิตข้า,ข้าก็ต้องตอบแทนเจ้า,ทว่าต้องการให้ข้าเข้าร่วมต้าเจิ้งนั้น,ข้าต้องการยันต์ที่ปะทับหน้าผากข้าก่อนหน้านี้!"หนานกงเซิ่งที่กล่าวอย่างเคร่งขรึม,ที่มุมปากแสดงท่าทางล้อเลียนด้วย.

เห็นอย่างชัดเจนว่า,หนานกงเซิ่งรับรู้ว่ายันต์หยกทมิฬนั้นเป็นเหว่ยฉีที่ไม่ได้ด้อยกว่าเซียนฉีเลย,แม้แต่หนานกงเซิ่งก็เชื่อว่าจงซานล้มคนผ่าอูนั้นได้เพราะด้วยยันต์หยกทมิฬนั่น,ยันต์ที่ลึกล้ำ,แน่นอนว่าจะซานไม่ยอมปล่อยไปง่ายๆแน่,ดังนั้นหนานกงเซิ่งจึงได้กล่าวเช่นนั้นเพื่อให้จงซานล้มเลิกความคิด.


"เจ้าต้องการยันต์หยกทมิฬอย่างงั้นรึ?"จงซานชำเลืองมองไปยังหนานกงเซิ่ง.






ที่มาจากhttps://lnmtl.com/novel/immortality

#นิยาย เรื่องอมตะ #Immortality#นิยายแปลไทย
Author(s)


สนใจสนับสนุนพวกเรา,เข้าร่วมกลุ่ม VIP ====> Click

***เว็ปฟรีอัพ สองวันหนึ่งตอน
***กลุ่มลับ อัพ 2-3 ตอนต่อวัน.

 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น