Immortality Chapter 645 Discussed with the immortal
นิยาย เรื่อง อมตะ ตอนที่ 645 พูดคุยต่อรองกับเซียน.
Chapter 645 Discussed with the immortal
与仙谈
พูดคุยต่อรองกับเซียน.
"ท่านประมุข,ใต้ซือเฉินซิ่ว,ท่านมาได้อย่างไร?"
จ้องมองไปยังใบหน้าของเย่ชิงเฉิงและใต้ซือเฉินซิ่วที่ซีดเผือด,ชายผมม่วงที่หัวใจเต้นระส่ำไม่เป็นจังหวะ.
"ชิ!"เย่ซิงเฉิงแค่นเสียง,ไม่หันหน้ามองชายผมม่วงอีกต่อไป,ทว่าแววตานั้นเปี่ยมไปด้วยความโกรธ,ขณะที่จ้องมองไปยังพื้นที่รอบๆ.
"ใต้ซือเฉินซิ่ว,ท่านคิดว่าอย่างไร?"เย่ชิงเฉิงที่จ้องมองไปยังเฉินซิ่วด้วยความกังวล.
เฉินซิ่วที่ส่ายหน้าไปมา,พลางถอนหายใจ,"คนของเผ่าอูนั้นนำตำราปฐพีจากไปแล้ว,แก่นปราณของมังกรเหลืองเองก็รั่วสลายหายไปหมดแล้ว,ไม่สามารถกลายเป็นมังกรได้อีก,เหล่ายอดฝีมือเองก็จะตื่นขึ้นมาในไม่ช้า,พวกเรารีบถอนกำลังเถอะ!"
เฉินซิ่วที่เต็มไปด้วยความหดหู่ใจ,แล้วเย่ชิงเฉิงจะรู้สึกมากมายขนาดใหน?
เวลานี้,โลกอมตะใช้จ่ายไปด้วยราคาที่สูงลิ่ว,ท้ายที่สุดกลับกลายเป็นเช่นนี้..........
เย่ชิงเฉิงที่สะบัดแขนเสื้อเสียงดัง,สายตาจ้องมองไปยังชายผมม่วงอีกครั้ง.
"ถอนตัว,กลับในทันที!"เย่ชิงเฉิงที่สั่งการเสียงดังดังกระจายไปทั่วค่ายกล.
"ท่านประมุข,ที่จริง,เรื่องนี้ข้าไม่,คือ.........."ชายผมม่วงที่ต้องการจะแก้ตัว,หากแต่,กลับไม่มีคำที่สามารถแก้ตัวออกมาได้เลย.
เย่ชิงเฉิงที่จ้องมองไปยังชายผมม่วงด้วยสายตาไม่พอใจอย่างที่สุด,หากแต่ก็ต้องเก็บสะกดความโกรธเอาไว้ในใจ,"กลับโลกอมตะก่อนค่อยพูด!"
เสียงที่เย็นชา,ทำให้ขนทั่วร่างของชายผมม่วงตั้งชูชัน,สั่นกลัวไม่หยุด,"ครับ!"
คนของโลกอมตะเริ่มถอนกำลังแล้ว,ที่ด้านใน,มังกรเหลืองที่พังทลาย,เหล่ายอดฝีมือที่ล่วงหล่นไปทุกทิศทาง,ในเวลานี้ก็เริ่มฟื้นขึ้นมา.
เทียนเซียวฟื้นแล้ว,หลังจาที่ฟื้นขึ้นมา,แม้นว่าจะยังรู้สึกสะลึมสะลืออยู่,หากแต่ด้วยสัญชาติญาณขนทั่วร่างที่ลุกชูชัน,เมื่อคิดถึงเรื่องที่เกิดขึ้น,ถึงกับต้องสูดหายใจที่เย็นยะเยือบเข้ามา,จากนั้นก็เริ่มตรวจสอบพื้นที่รอบๆ.
"เส้าเหยี่ย,เส้าเหยี่ย!"ไม่ไกลออกไปนั้น,เหล่าผู้เยาว์ของตระกูลเทียนที่วิ่งเข้ามาหาในทันที.
ใบหน้าของผู้เยาว์ตระกูลเทียนที่ตื่นตระหนกตกใจใบหน้าซีดเซียว,เห็นได้ชัดเจนว่าได้พบกับเรื่องที่น่าหวาดผวามานั่นเอง.
"รีบหาคนอื่นๆ,เร็วเข้า!"เทียนเซียวที่ออกคำสั่งในทันที.
"รับทราบ!"เหล่าผู้เยาว์ตระกูลเทียนที่รับคำในทันที.
เทียนเซียวที่เป็นเสาหลัก,แม้ว่าทุกคนจะตื่นตระหนกหวาดกลัวอยู่,ท้ายที่สุดก็สงบลงได้,เร่งรีบตามหาคนอื่นๆในทันที.
เหล่าคนที่ฟื้นขึ้นมาเริ่มมากขึ้นเรื่อยๆ.
ในเวลานี้,ซิ่งไท่โต่วและหยินโหลวหรี่เองก็ฟื้นขึ้นมาเรียบร้อยแล้วเช่นกัน.
สามผู้ฝึกตนสวรรค์แท้ทั้งสามต่างก็จ้องมองกันและกัน,ไม่มีใครกล่าอะไรต่อกัน.
"เส้าเหยี่ยน,เราพบคนของพวกเราหมดแล้ว,มีคนแปดคนได้รับบาดเจ็บเคลื่อนไหวไม่ได้,ส่วนคนอื่นๆไม่ได้รับบาดเจ็บมากมายนัก!"ผู้เยาว์ตระกูลเทียนที่กล่าวรายงานในทันที.
เทียนเซียวที่จ้องมองไปยังหยินโหลวหรี่,ก่อนที่จะหันหน้าไปมองซิงไท่โต่วด้วยสายตาเย็นชา.
"เอาล่ะ,เดินทางกลับตระกูล!"เทียนเซียวออกคำสั่ง.
"รับทราบ!"คนของตระกูลเทียนทั้งหมดที่รับคำในทันที.
เหล่าผู้ฝึกตนมากมาย,ในเวลานี้ต่างก็พูดคุยกันไปต่างๆนาๆ,ก่อนหน้านี้,ราวกับว่าพวกเขาได้พบประสบกับฝันร้าย,ตอนนี้พวกเขาเริ่มหนีกันแล้ว,แทบจะทุกคนกำลังเดินทางออกจากพื้นที่แห่งนี้ไปคนละทิศละทาง.
"กลับ!"ซิ่งไท่โต่วกล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม.
"รับทราบ!"ข้าราชบริพารของคนราชวงศ์สวรรค์ต้าเหยียนรับคำในทันที.
ส่วนหยินโหลวหรี่นั้นไม่พูดไม่จาแต่อย่างใด,เขาที่หายไปในทันทีเช่นกัน.
...........
ภายในหุบเขาที่งดงามบรรยากาศดีแห่งหนึ่ง.
ภายในหุบเขาแห่งนี้มีดอกไม้หลายร้อยชนิด,ที่ตรงกลางนั้น,มีตำหนักสีดำตั้งอยู่,ประตูที่ปิดแน่น! กู่เฉียนโหยว,เซียนเซียน,เซียนเซิงซือและอาวุโสจิว,จิงเทียนซีและเหล่าหลางเจียงรอคอยอยู่ด้านนอก.
ภายในห้องโถง,จงซานที่กอดอกยืนอยู่,จ้องมองไปยังกลางห้อง,ที่กลางห้องนั้นมีโลงศพขนาดใหญ่อยู่!
ที่ด้านในนั้นมีชายที่ผิวหนังไหม้ไปทั่วร่าง,หนานกงเซิ่ง,และที่หน้าผากของเขานั้นมียันต์หยกทมิฬปะทับอยู่.
ยันต์หยกทมิฬที่ปะทับบนหน้าผากของหนานกงเซิ่ง,ที่ช่วยหนานกงเซิ่งปกปิดกลิ่นอาย,ป้องกันวิญญาณแตกกระเซ็น,ทำให้เหมือนกับว่าเขาเป็นพียงแค่ศพธรรมดาทั่วไป.
จงซานที่เผยยิ้มออกมาเล็กน้อย,พร้อมกับยื่นมือออกไป,ยันต์หยกทมิฬส่งประกายแสงสีน้ำเงิน,แผ่ออกมาจากร่างของนานกงเซิ่ง,ก่อนที่ยันต์หยกทมิฬจะกลับมาอยู่ในมือของจงซาน.
"ปริบ!"
หนานกงเซิ่งที่ลืมตาขึ้น.
"หนานกงเซิ่ง,พบกันอีกแล้ว!"จงซานที่กล่าวออกมาด้วยรอยยิ้มเล็กน้อย.
หนานกงเซิ่งค่อยๆลุกขึ้นช้าๆ,ใช้ผนังโลงศพพยุงร่างขึ้นมา,จ้องมองไปยังจงซาน.
"จงซาน?"หนานกงเซิ่งที่ขมวดคิ้วไปมา.
"ดูเหมือนว่าจะยังไม่ลืมคนเช่นข้า! จงซานรู้สึกเป็นเกียรติจริงๆ!"จงซานกล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม.
"ลืมรึ? คนที่มีชื่อเสียงกระฉ่อนไปทั่วทวีปศักดิ์สิทธิ์,แม้แต่ใช้กลยุทธ์หลอกลวงเอาแผนที่บรรพกาลก่อเกิดจากแดนเทพอเวจี,ข้าจะลืมได้อย่าไร!"หนานกงเซิ่งส่ายหน้าไปมา.
"หลอกลวงรึ? เฮ้เฮ้,เวลานั้นไม่ใช่ว่าเป็นเจ้ามอบมาให้กับข้าอย่างงั้นรึ?"จงซานที่กล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม.
"เพราะเหตุนั้นเจ้าจึงมายังภพหยินได้อย่างงั้นรึ?"หนานกงเซิ่งจ้องมองไปยังจงซาน.
"โอ้ว?
เจ้ารู้ด้วยอย่างงั้นรึ?"จงซานแสดงท่าทางประหลาดใจ.
"แผนที่บรรพกาลก่อเกิดนั้นเป็นของแดนเทพอเวจีมาก่อน,ข้าจะไม่รู้ได้อย่างไร?
อย่างไรก็ตาม,เมื่อเจ้าอยู่ที่นี่,ก็เป็นเจ้าที่ช่วยข้าเอาไว้อย่างงั้นรึ?"หนานกงเซิ่ง
"คิดว่าอย่างไร?"
"คู่ควรสมกับนามจงซานแล้ว! ข้าประเมินเจ้าไว้ต่ำเกินไป!"หนานกงเซิ่งที่ส่ายหน้าไปมา.
"ประเมินข้าต่ำ,เป็นความผิดอย่างงั้นรึ?"จงซานที่เผยยิ้มออกมา.
"บุญคุณที่ช่วยชีวิต,หนานกงเซิ่งจะจดจำเอาไว้,หากแต่มีสิ่งใดที่ต้องการเป็นการตอบแทน!"หนานกงเซิ่งที่กล่าวออกมาเล็กน้อย.
ด้วยผู้ฝึกตนค่ายกลลำดับหนึ่งของโลกใบนี้,นับว่ามีชื่อเสียงไม่ธรรมดา,พลังฝึกตนที่ลึกล้ำ,จงซานที่ช่วยเขา,ถึงจะนับว่าเป็นบุญคุณ,ทว่าหนานกงเซิ่งที่มีความอหังการ,เป็นไปไม่ได้ที่จะซาบซึ้งหรือแสดงออกมาอย่างอ่อนด้อยกว่า.
ข้อเรียกร้อง,จงซานไม่ได้กล่าวออกมา,นอกจากนี้เขายังมีเป้าหมายบางอย่าง.
"อย่าเพิ่งรีบร้อนเลย,จงซานยังมีข้อสงสัย,ต้องการขอแนะนำจากเจ้า,ส่วนเกี่ยวกับเรื่องตอบแทน,พวกเราค่อยคุยกันอีกทีแล้วกัน!"จงซานที่เผยยิ้มออกมา.
จงซานที่กล่าวออกมาเช่นนี้,เพราะว่าเข้าใจในตัวตนของหนานกงเซิ่ง,คนผู้นี้เป็นคนที่มีความทรนงในตัวเอง,เป็นไปไม่ได้ที่จะนอบน้อมยอมจำนนต่อเขา,นอกจากนี้เป้าหมายของจงซานไม่สามารถที่จะใจร้อนได้,เขาไม่ควรที่จะเร่งเร้าในเวลานี้,อีกทั้งยังมีเวลาอีกเหลือเฟือ.
"โอ้ว!"หนานกงเซิ่งที่จ้องบมองจงซานด้วยความประหลาดใจ.
คาดไม่ถึงเช่นกันที่จงซานจะกล่าวออกมาเช่นนี้.
"ข้ามีข้อสงสัย,ภายในทวีปศักดิ์สิทธิ์นั้น,คนส่วนมากที่มีระดับสวรรค์แท้,เกือบทุกคนล้วนแล้วแต่มีอายุไขใกล้จะหมดแล้ว,ก่อนที่จะผ่านทัณฑ์สวรรค์ไปเป็นเซียน,และเพราะยิ่งมีระดับสวรรค์แท้สูงเท่าไหร่,เมื่อกลายเป็นเซียน,พลังก็จะสูงขึ้นเท่านั้น,และเจ้ามีระดับสิบสวรรค์แท้,ทำไมถึงได้เร่งรีบกลายเป็นเซียนลึกล้ำอย่างงั้นรึ?
ไม่ใช่ว่าด้วยอายุไขของเจ้ายังเหลืออยู่,ทำไมไม่รอถึงระดับ 11 หรือสิบสอง?
ข้าจึงต้องการคำแนะนำในเรื่องนี้โปรดช่วยแจงได้หรือไม่?"จงซานสอบถาม.
เส้นทางการฝึกฝน,การจะค้นหาเส้นทางที่ถูกต้องนับว่ายากเข็ญทีเดียว,คงเป็นการดีหากจะสอบถามกับผู้มีประสบการณ์มาก่อน.
"เฮ้เฮ้,ข้าเองก็มีเส้นทางของข้า,เจ้าเองก็เช่นกันไม่สามารถที่จะลอกเลียนกันได้,ข้าและเจ้านั้นแตกต่างกัน!"หนานกงเซิ่งส่ายหน้าไปมา.
"หืม?"
"การบำเพ็ญของข้านั้น,คือการศึกษาค่ายกล,เพราะมันไม่สามารถทะลวงผ่านระดับได้อีกแล้ว,ข้าจึงได้เดินทางมายังภพหยิน,หรือต้องไปยังโลกใบใหญ่,เพื่อศึกษาค่ายกลใหม่,นั่นถึงจะทำให้ข้าก้าวไปต่อได้อย่างไรขีดจำกัด."
"อืม,จงซานชื่นชมนัก!"จงซานพยักหน้า,และเข้าใจเหตุผลของหนานกงเซิ่งที่ต้องการก้าวผ่านทัณฑ์สวรรค์ก่อนปกติ.
"ชื่นชมรึ?เฮ้เอ้,ไม่จำเป็น,เจ้านั้นดูเหมือนกับกู่เฉิงตงมาก,คนๆแรกที่คิดจะแยกสวรรค์สะบั้นปฐพี,เป็นคนที่คาดไม่ถึงเลยจริงๆ!"หนานกงเซิ่งที่จ้องมอไปยังจงซาน.
"ฮ่าฮ่า,ข้าเหมือนกับกู่เฉิงตงอย่างงั้นรึ?
มิกล้าๆ! เอาล่ะ,ข้าจะขอกล่าวเลยก็แล้วกัน!"จงซานที่ส่ายหน้าไปมา.
"หืม?"หนานกงเซิ่งที่ขมวดคิ้วไปมา.
"ก่อนหน้านี้,คนของข้าได้ตรวจสอบเจ้า,ดวงวิญญาณของเจ้านั้นเสียหายเป็นรอย,กายทิพย์ที่ฉีกขาด,บาดแผลนี้,ทำให้เจ้าได้กลับกลายมาเป็นมนุษย์อีกครั้ง,ไม่ทำให้เจ้าตกตายอีก,ทว่าเจ้าได้ตายไปเรียบร้อยแล้ว,แต่เพราะว่ามีชะตาเซียน,ทำให้สามารถยังคงอยู่ได้ในตอนนี้,แม้แต่ค่อยๆฟื้นฟูอย่างช้าๆ,ข้ากล่าวถูกต้องหรือไม่?"
"ถูกต้องตามนั้น!"หนานกงเซิ่งไม่คิดที่จะปกปิด,ยังคงจ้องมองไปยังจงซาน,รอคอยว่าเขาจะกล่าวสิ่งใดต่อ.
"ไม่รู้ว่าเจ้าคิดว่าราชวงศ์ราชันย์ต้าเจิ้งเป็นอย่างอย่างไรบ้าง?"จงซานที่กล่าวสอบถามเขาในทันที.
"หืม?"
"ต้าเจิ้งของข้า,ในภพหยางตั้งอยู่ภาคใต้ของทวีปศักดิ์สิทธิ์,นับว่าเป็นขุมกำลังขนาดใหญ่,มีเผ่าหมาป่าเป็นอาณาจักรคู่บารมี,และยังมีนิกายต้าหมิง,มียอดฝีมือมากมาย,พัฒนาขึ้นไม่หยุด,ในภพหยางเอง,เขตแดนต้าเจิ้ง,ก็ไม่ได้อ่อนด้อยกว่าราชวงศ์สวรรค์,หรือกล่าวได้ว่าเวลานี้พวกเรากำลังพัฒนาอย่างไร้ขีดจำกัด!"จงซานที่กล่าวด้วยรอยยิ้ม.
"ราชวงศ์ราชันย์?
กู่เฉิงตงก่อนหน้านี้ก็เป็นดั่งเช่นเจ้า,แน่นอนว่าข้าย่อมเชื่อว่าต้าเจิ้งมีความแข็งแกร่ง!"
"ข้าขอกล่าวตามจริง,แม้นว่าเวลานี้จะเป็นเพียงราชวงศ์ราชันย์,อาจจะยังไม่พอกับเซียนที่ชาญฉลาดเช่นเจ้า,ทว่า,เป้าหมายของข้านั้น,ต้องการให้เจ้าเข้าร่วมราชวงศ์ต้าเจิ้ง!"จงซานที่กล่าวตามตรง.
"ฮ่าฮ่าฮ่า? เข้าร่วมต้าเจิ้ง? จงซานเจ้าต้องการความคิดเห็นของข้าอย่างงั้นรึ?"ใบหน้าของหนานกงเซิ่งที่เปลี่ยนเป็นดำมืดเล็กน้อย.
"ยันต์ผนึกนั่น,เจ้าก็น่าจะเห็น,เจ้าไม่ใช่คู่ต่อกรของข้า,นอกจากนี้,เมื่อไม่นานมานี้ข้ายังสังหารคนเผ่าอูคนหนึ่งลงได้!"จงซานที่กล่าวออกมาด้วยความมั่นใจ.
จงซานในเวลานี้,ต้องการแสดงความแข็งแกร่งออกมา,หนานกงเซิ่งที่ถือว่าตัวเองเป็นเซียน,แม้ว่าจะไม่อ่อนน้อมกับเขา,ทว่าก็ไม่ควรที่จะให้อยู่ในสถานะเหนือกว่าเขา,ไม่เช่นนั้น,การจะควบคุมเขาก็จะเป็นไปด้วยความลำบาก.
"หืม?
เจ้าสังหารคนเผ่าอูอย่างงั้นรึ?"หนานกงเซิ่งที่หรี่ตามองด้วยความสงสัย.
จงซานที่สะบัดมือนำบางอย่างออกมา,ให้กับหนานกงเซิ่งได้ดู,นี่คือไม้เท้าของเผ่าอู.
เห็นไม้เท้าของเผ่าอู,ดวงตาของหนานกงเซิ่งที่เบิกตากว้าง,ภายในใจที่เต็มไปด้วยความอัศจรรย์ใจ,ท้ายที่สุดก็เชื่อจงซาน,เขาสามารถสังหารคนเผ่าอูได้,ย่อมมีศักดิ์ศรีทัดเทียมกันได้.
ต้องไม่ลืมด้วยว่า,แม้แต่หนานกงเซิ่งการจะจัดการคนเผ่าอูคนหนึ่งนั้นก็ไม่ใช่เรื่องง่าย.
หนานกงเซิ่งที่สูดหายใจลึกจ้องมองไปยังจงซาน,"เจ้าต้องการอะไร?"
"เฮ้เฮ้,กองทัพของข้านั้นมีแม่ทัพที่เชี่ยวชาญวิญญาณและศพ,เขาบอกับข้าว่าวิญญาณของเจ้านั้น,เป็นไปไม่ได้ที่จะฟื้นฟูกลับคืนมาได้ในหนึ่งพันปี,ภายในหนึ่งพันปีนี้ความแข็งแกร่งของเจ้าจึงไม่เพียงพอที่จะออกจากโลกใบเล็กได้,ไม่เช่นนั้นดวงวิญญาณของเจ้าจะแตกออกเป็นสองส่วน.
"อืม!"หนานกงเซิ่งที่พยักหน้าอย่างใจเย็น.
"สิ่งที่ข้าต้องการ,ข้าต้องการให้เจ้าทำงานให้กับต้าเจิ้ง,เข้าร่วมกับต้าเจิ้งในหนึ่งพันปีนี้!"จงซานที่กล่าวอย่างหนักแน่น.
"เฮ้เฮ้,เจ้าต้องการเนื้อหา,ตำราปฐพีอย่างงั้นรึ?"หนานกงเซิ่งกล่าวเย้ยหยัน.
"ตำราปฐพี,หาได้ล้ำค่าหายากสำหรับจงซาน!"จงซานที่ส่ายหน้าไปมา.
เห็นจงซานกล่าวปฏิเสธ,คิ้วของหนานกงเซิ่งที่ขมวดไปมา,จ้องมองจงซานดวงตาเปล่งประกาย.
"ไม่ได้หายากอย่างงั้นรึ? เฮ้เอ้,ก็ดี,เจ้าช่วยชีวิตข้า,ข้าก็ต้องตอบแทนเจ้า,ทว่าต้องการให้ข้าเข้าร่วมต้าเจิ้งนั้น,ข้าต้องการยันต์ที่ปะทับหน้าผากข้าก่อนหน้านี้!"หนานกงเซิ่งที่กล่าวอย่างเคร่งขรึม,ที่มุมปากแสดงท่าทางล้อเลียนด้วย.
เห็นอย่างชัดเจนว่า,หนานกงเซิ่งรับรู้ว่ายันต์หยกทมิฬนั้นเป็นเหว่ยฉีที่ไม่ได้ด้อยกว่าเซียนฉีเลย,แม้แต่หนานกงเซิ่งก็เชื่อว่าจงซานล้มคนผ่าอูนั้นได้เพราะด้วยยันต์หยกทมิฬนั่น,ยันต์ที่ลึกล้ำ,แน่นอนว่าจะซานไม่ยอมปล่อยไปง่ายๆแน่,ดังนั้นหนานกงเซิ่งจึงได้กล่าวเช่นนั้นเพื่อให้จงซานล้มเลิกความคิด.
"เจ้าต้องการยันต์หยกทมิฬอย่างงั้นรึ?"จงซานชำเลืองมองไปยังหนานกงเซิ่ง.
Chapter 645 Discussed with the immortal
与仙谈
พูดคุยต่อรองกับเซียน.
"ท่านประมุข,ใต้ซือเฉินซิ่ว,ท่านมาได้อย่างไร?"
จ้องมองไปยังใบหน้าของเย่ชิงเฉิงและใต้ซือเฉินซิ่วที่ซีดเผือด,ชายผมม่วงที่หัวใจเต้นระส่ำไม่เป็นจังหวะ.
"ชิ!"เย่ซิงเฉิงแค่นเสียง,ไม่หันหน้ามองชายผมม่วงอีกต่อไป,ทว่าแววตานั้นเปี่ยมไปด้วยความโกรธ,ขณะที่จ้องมองไปยังพื้นที่รอบๆ.
"ใต้ซือเฉินซิ่ว,ท่านคิดว่าอย่างไร?"เย่ชิงเฉิงที่จ้องมองไปยังเฉินซิ่วด้วยความกังวล.
เฉินซิ่วที่ส่ายหน้าไปมา,พลางถอนหายใจ,"คนของเผ่าอูนั้นนำตำราปฐพีจากไปแล้ว,แก่นปราณของมังกรเหลืองเองก็รั่วสลายหายไปหมดแล้ว,ไม่สามารถกลายเป็นมังกรได้อีก,เหล่ายอดฝีมือเองก็จะตื่นขึ้นมาในไม่ช้า,พวกเรารีบถอนกำลังเถอะ!"
เฉินซิ่วที่เต็มไปด้วยความหดหู่ใจ,แล้วเย่ชิงเฉิงจะรู้สึกมากมายขนาดใหน?
เวลานี้,โลกอมตะใช้จ่ายไปด้วยราคาที่สูงลิ่ว,ท้ายที่สุดกลับกลายเป็นเช่นนี้..........
เย่ชิงเฉิงที่สะบัดแขนเสื้อเสียงดัง,สายตาจ้องมองไปยังชายผมม่วงอีกครั้ง.
"ถอนตัว,กลับในทันที!"เย่ชิงเฉิงที่สั่งการเสียงดังดังกระจายไปทั่วค่ายกล.
"ท่านประมุข,ที่จริง,เรื่องนี้ข้าไม่,คือ.........."ชายผมม่วงที่ต้องการจะแก้ตัว,หากแต่,กลับไม่มีคำที่สามารถแก้ตัวออกมาได้เลย.
เย่ชิงเฉิงที่จ้องมองไปยังชายผมม่วงด้วยสายตาไม่พอใจอย่างที่สุด,หากแต่ก็ต้องเก็บสะกดความโกรธเอาไว้ในใจ,"กลับโลกอมตะก่อนค่อยพูด!"
เสียงที่เย็นชา,ทำให้ขนทั่วร่างของชายผมม่วงตั้งชูชัน,สั่นกลัวไม่หยุด,"ครับ!"
คนของโลกอมตะเริ่มถอนกำลังแล้ว,ที่ด้านใน,มังกรเหลืองที่พังทลาย,เหล่ายอดฝีมือที่ล่วงหล่นไปทุกทิศทาง,ในเวลานี้ก็เริ่มฟื้นขึ้นมา.
เทียนเซียวฟื้นแล้ว,หลังจาที่ฟื้นขึ้นมา,แม้นว่าจะยังรู้สึกสะลึมสะลืออยู่,หากแต่ด้วยสัญชาติญาณขนทั่วร่างที่ลุกชูชัน,เมื่อคิดถึงเรื่องที่เกิดขึ้น,ถึงกับต้องสูดหายใจที่เย็นยะเยือบเข้ามา,จากนั้นก็เริ่มตรวจสอบพื้นที่รอบๆ.
"เส้าเหยี่ย,เส้าเหยี่ย!"ไม่ไกลออกไปนั้น,เหล่าผู้เยาว์ของตระกูลเทียนที่วิ่งเข้ามาหาในทันที.
ใบหน้าของผู้เยาว์ตระกูลเทียนที่ตื่นตระหนกตกใจใบหน้าซีดเซียว,เห็นได้ชัดเจนว่าได้พบกับเรื่องที่น่าหวาดผวามานั่นเอง.
"รีบหาคนอื่นๆ,เร็วเข้า!"เทียนเซียวที่ออกคำสั่งในทันที.
"รับทราบ!"เหล่าผู้เยาว์ตระกูลเทียนที่รับคำในทันที.
เทียนเซียวที่เป็นเสาหลัก,แม้ว่าทุกคนจะตื่นตระหนกหวาดกลัวอยู่,ท้ายที่สุดก็สงบลงได้,เร่งรีบตามหาคนอื่นๆในทันที.
เหล่าคนที่ฟื้นขึ้นมาเริ่มมากขึ้นเรื่อยๆ.
ในเวลานี้,ซิ่งไท่โต่วและหยินโหลวหรี่เองก็ฟื้นขึ้นมาเรียบร้อยแล้วเช่นกัน.
สามผู้ฝึกตนสวรรค์แท้ทั้งสามต่างก็จ้องมองกันและกัน,ไม่มีใครกล่าอะไรต่อกัน.
"เส้าเหยี่ยน,เราพบคนของพวกเราหมดแล้ว,มีคนแปดคนได้รับบาดเจ็บเคลื่อนไหวไม่ได้,ส่วนคนอื่นๆไม่ได้รับบาดเจ็บมากมายนัก!"ผู้เยาว์ตระกูลเทียนที่กล่าวรายงานในทันที.
เทียนเซียวที่จ้องมองไปยังหยินโหลวหรี่,ก่อนที่จะหันหน้าไปมองซิงไท่โต่วด้วยสายตาเย็นชา.
"เอาล่ะ,เดินทางกลับตระกูล!"เทียนเซียวออกคำสั่ง.
"รับทราบ!"คนของตระกูลเทียนทั้งหมดที่รับคำในทันที.
เหล่าผู้ฝึกตนมากมาย,ในเวลานี้ต่างก็พูดคุยกันไปต่างๆนาๆ,ก่อนหน้านี้,ราวกับว่าพวกเขาได้พบประสบกับฝันร้าย,ตอนนี้พวกเขาเริ่มหนีกันแล้ว,แทบจะทุกคนกำลังเดินทางออกจากพื้นที่แห่งนี้ไปคนละทิศละทาง.
"กลับ!"ซิ่งไท่โต่วกล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม.
"รับทราบ!"ข้าราชบริพารของคนราชวงศ์สวรรค์ต้าเหยียนรับคำในทันที.
ส่วนหยินโหลวหรี่นั้นไม่พูดไม่จาแต่อย่างใด,เขาที่หายไปในทันทีเช่นกัน.
...........
ภายในหุบเขาที่งดงามบรรยากาศดีแห่งหนึ่ง.
ภายในหุบเขาแห่งนี้มีดอกไม้หลายร้อยชนิด,ที่ตรงกลางนั้น,มีตำหนักสีดำตั้งอยู่,ประตูที่ปิดแน่น! กู่เฉียนโหยว,เซียนเซียน,เซียนเซิงซือและอาวุโสจิว,จิงเทียนซีและเหล่าหลางเจียงรอคอยอยู่ด้านนอก.
ภายในห้องโถง,จงซานที่กอดอกยืนอยู่,จ้องมองไปยังกลางห้อง,ที่กลางห้องนั้นมีโลงศพขนาดใหญ่อยู่!
ที่ด้านในนั้นมีชายที่ผิวหนังไหม้ไปทั่วร่าง,หนานกงเซิ่ง,และที่หน้าผากของเขานั้นมียันต์หยกทมิฬปะทับอยู่.
ยันต์หยกทมิฬที่ปะทับบนหน้าผากของหนานกงเซิ่ง,ที่ช่วยหนานกงเซิ่งปกปิดกลิ่นอาย,ป้องกันวิญญาณแตกกระเซ็น,ทำให้เหมือนกับว่าเขาเป็นพียงแค่ศพธรรมดาทั่วไป.
จงซานที่เผยยิ้มออกมาเล็กน้อย,พร้อมกับยื่นมือออกไป,ยันต์หยกทมิฬส่งประกายแสงสีน้ำเงิน,แผ่ออกมาจากร่างของนานกงเซิ่ง,ก่อนที่ยันต์หยกทมิฬจะกลับมาอยู่ในมือของจงซาน.
"ปริบ!"
หนานกงเซิ่งที่ลืมตาขึ้น.
"หนานกงเซิ่ง,พบกันอีกแล้ว!"จงซานที่กล่าวออกมาด้วยรอยยิ้มเล็กน้อย.
หนานกงเซิ่งค่อยๆลุกขึ้นช้าๆ,ใช้ผนังโลงศพพยุงร่างขึ้นมา,จ้องมองไปยังจงซาน.
"จงซาน?"หนานกงเซิ่งที่ขมวดคิ้วไปมา.
"ดูเหมือนว่าจะยังไม่ลืมคนเช่นข้า! จงซานรู้สึกเป็นเกียรติจริงๆ!"จงซานกล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม.
"ลืมรึ? คนที่มีชื่อเสียงกระฉ่อนไปทั่วทวีปศักดิ์สิทธิ์,แม้แต่ใช้กลยุทธ์หลอกลวงเอาแผนที่บรรพกาลก่อเกิดจากแดนเทพอเวจี,ข้าจะลืมได้อย่าไร!"หนานกงเซิ่งส่ายหน้าไปมา.
"หลอกลวงรึ? เฮ้เฮ้,เวลานั้นไม่ใช่ว่าเป็นเจ้ามอบมาให้กับข้าอย่างงั้นรึ?"จงซานที่กล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม.
"เพราะเหตุนั้นเจ้าจึงมายังภพหยินได้อย่างงั้นรึ?"หนานกงเซิ่งจ้องมองไปยังจงซาน.
"โอ้ว?
เจ้ารู้ด้วยอย่างงั้นรึ?"จงซานแสดงท่าทางประหลาดใจ.
"แผนที่บรรพกาลก่อเกิดนั้นเป็นของแดนเทพอเวจีมาก่อน,ข้าจะไม่รู้ได้อย่างไร?
อย่างไรก็ตาม,เมื่อเจ้าอยู่ที่นี่,ก็เป็นเจ้าที่ช่วยข้าเอาไว้อย่างงั้นรึ?"หนานกงเซิ่ง
"คิดว่าอย่างไร?"
"คู่ควรสมกับนามจงซานแล้ว! ข้าประเมินเจ้าไว้ต่ำเกินไป!"หนานกงเซิ่งที่ส่ายหน้าไปมา.
"ประเมินข้าต่ำ,เป็นความผิดอย่างงั้นรึ?"จงซานที่เผยยิ้มออกมา.
"บุญคุณที่ช่วยชีวิต,หนานกงเซิ่งจะจดจำเอาไว้,หากแต่มีสิ่งใดที่ต้องการเป็นการตอบแทน!"หนานกงเซิ่งที่กล่าวออกมาเล็กน้อย.
ด้วยผู้ฝึกตนค่ายกลลำดับหนึ่งของโลกใบนี้,นับว่ามีชื่อเสียงไม่ธรรมดา,พลังฝึกตนที่ลึกล้ำ,จงซานที่ช่วยเขา,ถึงจะนับว่าเป็นบุญคุณ,ทว่าหนานกงเซิ่งที่มีความอหังการ,เป็นไปไม่ได้ที่จะซาบซึ้งหรือแสดงออกมาอย่างอ่อนด้อยกว่า.
ข้อเรียกร้อง,จงซานไม่ได้กล่าวออกมา,นอกจากนี้เขายังมีเป้าหมายบางอย่าง.
"อย่าเพิ่งรีบร้อนเลย,จงซานยังมีข้อสงสัย,ต้องการขอแนะนำจากเจ้า,ส่วนเกี่ยวกับเรื่องตอบแทน,พวกเราค่อยคุยกันอีกทีแล้วกัน!"จงซานที่เผยยิ้มออกมา.
จงซานที่กล่าวออกมาเช่นนี้,เพราะว่าเข้าใจในตัวตนของหนานกงเซิ่ง,คนผู้นี้เป็นคนที่มีความทรนงในตัวเอง,เป็นไปไม่ได้ที่จะนอบน้อมยอมจำนนต่อเขา,นอกจากนี้เป้าหมายของจงซานไม่สามารถที่จะใจร้อนได้,เขาไม่ควรที่จะเร่งเร้าในเวลานี้,อีกทั้งยังมีเวลาอีกเหลือเฟือ.
"โอ้ว!"หนานกงเซิ่งที่จ้องบมองจงซานด้วยความประหลาดใจ.
คาดไม่ถึงเช่นกันที่จงซานจะกล่าวออกมาเช่นนี้.
"ข้ามีข้อสงสัย,ภายในทวีปศักดิ์สิทธิ์นั้น,คนส่วนมากที่มีระดับสวรรค์แท้,เกือบทุกคนล้วนแล้วแต่มีอายุไขใกล้จะหมดแล้ว,ก่อนที่จะผ่านทัณฑ์สวรรค์ไปเป็นเซียน,และเพราะยิ่งมีระดับสวรรค์แท้สูงเท่าไหร่,เมื่อกลายเป็นเซียน,พลังก็จะสูงขึ้นเท่านั้น,และเจ้ามีระดับสิบสวรรค์แท้,ทำไมถึงได้เร่งรีบกลายเป็นเซียนลึกล้ำอย่างงั้นรึ?
ไม่ใช่ว่าด้วยอายุไขของเจ้ายังเหลืออยู่,ทำไมไม่รอถึงระดับ 11 หรือสิบสอง?
ข้าจึงต้องการคำแนะนำในเรื่องนี้โปรดช่วยแจงได้หรือไม่?"จงซานสอบถาม.
เส้นทางการฝึกฝน,การจะค้นหาเส้นทางที่ถูกต้องนับว่ายากเข็ญทีเดียว,คงเป็นการดีหากจะสอบถามกับผู้มีประสบการณ์มาก่อน.
"เฮ้เฮ้,ข้าเองก็มีเส้นทางของข้า,เจ้าเองก็เช่นกันไม่สามารถที่จะลอกเลียนกันได้,ข้าและเจ้านั้นแตกต่างกัน!"หนานกงเซิ่งส่ายหน้าไปมา.
"หืม?"
"การบำเพ็ญของข้านั้น,คือการศึกษาค่ายกล,เพราะมันไม่สามารถทะลวงผ่านระดับได้อีกแล้ว,ข้าจึงได้เดินทางมายังภพหยิน,หรือต้องไปยังโลกใบใหญ่,เพื่อศึกษาค่ายกลใหม่,นั่นถึงจะทำให้ข้าก้าวไปต่อได้อย่างไรขีดจำกัด."
"อืม,จงซานชื่นชมนัก!"จงซานพยักหน้า,และเข้าใจเหตุผลของหนานกงเซิ่งที่ต้องการก้าวผ่านทัณฑ์สวรรค์ก่อนปกติ.
"ชื่นชมรึ?เฮ้เอ้,ไม่จำเป็น,เจ้านั้นดูเหมือนกับกู่เฉิงตงมาก,คนๆแรกที่คิดจะแยกสวรรค์สะบั้นปฐพี,เป็นคนที่คาดไม่ถึงเลยจริงๆ!"หนานกงเซิ่งที่จ้องมอไปยังจงซาน.
"ฮ่าฮ่า,ข้าเหมือนกับกู่เฉิงตงอย่างงั้นรึ?
มิกล้าๆ! เอาล่ะ,ข้าจะขอกล่าวเลยก็แล้วกัน!"จงซานที่ส่ายหน้าไปมา.
"หืม?"หนานกงเซิ่งที่ขมวดคิ้วไปมา.
"ก่อนหน้านี้,คนของข้าได้ตรวจสอบเจ้า,ดวงวิญญาณของเจ้านั้นเสียหายเป็นรอย,กายทิพย์ที่ฉีกขาด,บาดแผลนี้,ทำให้เจ้าได้กลับกลายมาเป็นมนุษย์อีกครั้ง,ไม่ทำให้เจ้าตกตายอีก,ทว่าเจ้าได้ตายไปเรียบร้อยแล้ว,แต่เพราะว่ามีชะตาเซียน,ทำให้สามารถยังคงอยู่ได้ในตอนนี้,แม้แต่ค่อยๆฟื้นฟูอย่างช้าๆ,ข้ากล่าวถูกต้องหรือไม่?"
"ถูกต้องตามนั้น!"หนานกงเซิ่งไม่คิดที่จะปกปิด,ยังคงจ้องมองไปยังจงซาน,รอคอยว่าเขาจะกล่าวสิ่งใดต่อ.
"ไม่รู้ว่าเจ้าคิดว่าราชวงศ์ราชันย์ต้าเจิ้งเป็นอย่างอย่างไรบ้าง?"จงซานที่กล่าวสอบถามเขาในทันที.
"หืม?"
"ต้าเจิ้งของข้า,ในภพหยางตั้งอยู่ภาคใต้ของทวีปศักดิ์สิทธิ์,นับว่าเป็นขุมกำลังขนาดใหญ่,มีเผ่าหมาป่าเป็นอาณาจักรคู่บารมี,และยังมีนิกายต้าหมิง,มียอดฝีมือมากมาย,พัฒนาขึ้นไม่หยุด,ในภพหยางเอง,เขตแดนต้าเจิ้ง,ก็ไม่ได้อ่อนด้อยกว่าราชวงศ์สวรรค์,หรือกล่าวได้ว่าเวลานี้พวกเรากำลังพัฒนาอย่างไร้ขีดจำกัด!"จงซานที่กล่าวด้วยรอยยิ้ม.
"ราชวงศ์ราชันย์?
กู่เฉิงตงก่อนหน้านี้ก็เป็นดั่งเช่นเจ้า,แน่นอนว่าข้าย่อมเชื่อว่าต้าเจิ้งมีความแข็งแกร่ง!"
"ข้าขอกล่าวตามจริง,แม้นว่าเวลานี้จะเป็นเพียงราชวงศ์ราชันย์,อาจจะยังไม่พอกับเซียนที่ชาญฉลาดเช่นเจ้า,ทว่า,เป้าหมายของข้านั้น,ต้องการให้เจ้าเข้าร่วมราชวงศ์ต้าเจิ้ง!"จงซานที่กล่าวตามตรง.
"ฮ่าฮ่าฮ่า? เข้าร่วมต้าเจิ้ง? จงซานเจ้าต้องการความคิดเห็นของข้าอย่างงั้นรึ?"ใบหน้าของหนานกงเซิ่งที่เปลี่ยนเป็นดำมืดเล็กน้อย.
"ยันต์ผนึกนั่น,เจ้าก็น่าจะเห็น,เจ้าไม่ใช่คู่ต่อกรของข้า,นอกจากนี้,เมื่อไม่นานมานี้ข้ายังสังหารคนเผ่าอูคนหนึ่งลงได้!"จงซานที่กล่าวออกมาด้วยความมั่นใจ.
จงซานในเวลานี้,ต้องการแสดงความแข็งแกร่งออกมา,หนานกงเซิ่งที่ถือว่าตัวเองเป็นเซียน,แม้ว่าจะไม่อ่อนน้อมกับเขา,ทว่าก็ไม่ควรที่จะให้อยู่ในสถานะเหนือกว่าเขา,ไม่เช่นนั้น,การจะควบคุมเขาก็จะเป็นไปด้วยความลำบาก.
"หืม?
เจ้าสังหารคนเผ่าอูอย่างงั้นรึ?"หนานกงเซิ่งที่หรี่ตามองด้วยความสงสัย.
จงซานที่สะบัดมือนำบางอย่างออกมา,ให้กับหนานกงเซิ่งได้ดู,นี่คือไม้เท้าของเผ่าอู.
เห็นไม้เท้าของเผ่าอู,ดวงตาของหนานกงเซิ่งที่เบิกตากว้าง,ภายในใจที่เต็มไปด้วยความอัศจรรย์ใจ,ท้ายที่สุดก็เชื่อจงซาน,เขาสามารถสังหารคนเผ่าอูได้,ย่อมมีศักดิ์ศรีทัดเทียมกันได้.
ต้องไม่ลืมด้วยว่า,แม้แต่หนานกงเซิ่งการจะจัดการคนเผ่าอูคนหนึ่งนั้นก็ไม่ใช่เรื่องง่าย.
หนานกงเซิ่งที่สูดหายใจลึกจ้องมองไปยังจงซาน,"เจ้าต้องการอะไร?"
"เฮ้เฮ้,กองทัพของข้านั้นมีแม่ทัพที่เชี่ยวชาญวิญญาณและศพ,เขาบอกับข้าว่าวิญญาณของเจ้านั้น,เป็นไปไม่ได้ที่จะฟื้นฟูกลับคืนมาได้ในหนึ่งพันปี,ภายในหนึ่งพันปีนี้ความแข็งแกร่งของเจ้าจึงไม่เพียงพอที่จะออกจากโลกใบเล็กได้,ไม่เช่นนั้นดวงวิญญาณของเจ้าจะแตกออกเป็นสองส่วน.
"อืม!"หนานกงเซิ่งที่พยักหน้าอย่างใจเย็น.
"สิ่งที่ข้าต้องการ,ข้าต้องการให้เจ้าทำงานให้กับต้าเจิ้ง,เข้าร่วมกับต้าเจิ้งในหนึ่งพันปีนี้!"จงซานที่กล่าวอย่างหนักแน่น.
"เฮ้เฮ้,เจ้าต้องการเนื้อหา,ตำราปฐพีอย่างงั้นรึ?"หนานกงเซิ่งกล่าวเย้ยหยัน.
"ตำราปฐพี,หาได้ล้ำค่าหายากสำหรับจงซาน!"จงซานที่ส่ายหน้าไปมา.
เห็นจงซานกล่าวปฏิเสธ,คิ้วของหนานกงเซิ่งที่ขมวดไปมา,จ้องมองจงซานดวงตาเปล่งประกาย.
"ไม่ได้หายากอย่างงั้นรึ? เฮ้เอ้,ก็ดี,เจ้าช่วยชีวิตข้า,ข้าก็ต้องตอบแทนเจ้า,ทว่าต้องการให้ข้าเข้าร่วมต้าเจิ้งนั้น,ข้าต้องการยันต์ที่ปะทับหน้าผากข้าก่อนหน้านี้!"หนานกงเซิ่งที่กล่าวอย่างเคร่งขรึม,ที่มุมปากแสดงท่าทางล้อเลียนด้วย.
เห็นอย่างชัดเจนว่า,หนานกงเซิ่งรับรู้ว่ายันต์หยกทมิฬนั้นเป็นเหว่ยฉีที่ไม่ได้ด้อยกว่าเซียนฉีเลย,แม้แต่หนานกงเซิ่งก็เชื่อว่าจงซานล้มคนผ่าอูนั้นได้เพราะด้วยยันต์หยกทมิฬนั่น,ยันต์ที่ลึกล้ำ,แน่นอนว่าจะซานไม่ยอมปล่อยไปง่ายๆแน่,ดังนั้นหนานกงเซิ่งจึงได้กล่าวเช่นนั้นเพื่อให้จงซานล้มเลิกความคิด.
"เจ้าต้องการยันต์หยกทมิฬอย่างงั้นรึ?"จงซานชำเลืองมองไปยังหนานกงเซิ่ง.
ที่มาจากhttps://lnmtl.com/novel/immortality
#นิยาย เรื่องอมตะ #Immortality#นิยายแปลไทย
Author(s)
สนใจสนับสนุนพวกเรา,เข้าร่วมกลุ่ม VIP ====> Click
***เว็ปฟรีอัพ สองวันหนึ่งตอน
***กลุ่มลับ อัพ 2-3 ตอนต่อวัน.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น