วันศุกร์ที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563

Immortality Chapter 643 Unlucky star

Immortality Chapter  643 Unlucky star

นิยาย เรื่อง อมตะ ตอนที่ 643 ดาวแห่งภัยพิบัติ.


Chapter  643 Unlucky star
灾星
  ดาวแห่งภัยพิบัติ.

"เจ้าสารเลว,เจ้ากล้า!"

คนเผ่าอูสองคนที่เปลี่ยนเป็นโกรธเกรี้ยวอย่างชัดเจน.

ก่อนหน้านี้เทียนเซียวและคนอื่นๆที่ปะทะกับเผ่าอูอีกคน,ซึ่งเขาได้ตายแล้ว,เผ่าอูอีกสองคนย่อมรับรู้อย่างแน่นอน,ทว่าไม่มีใครให้สอบถามอยู่แล้ว,และเรื่องสำคัญที่สุดคืออะไร,บรรพชนได้มอบหมายหน้าที่ให้กับพวกเขา,พวกเขาไม่สามารถทำผิดพลาดได้,นอกจากนี้เผ่าอูสองคนยังจัดการหนานกงเซิ่งที่แข็งแกร่งได้แล้ว,หนานกงเซิ่งที่ไร้พลัง,เป็นตายเท่ากัน,ชีวิตแขวนอยู่บนเส้นด้ายไปแล้ว.



ในเวลานี้,คนหนึ่งคน,ตัวเขาได้รับบาดเจ็บ,จะไม่ให้เขาโกรธได้อย่างไร? สุดท้ายก็ถูกแย่งตำราปฐพีไปอย่างงั้นรึ?

"ย๊ากๆๆ"

คนเผ่าอูที่ตะโกนออกมาเสียงดังลั่น.ร่างกายที่ขยายใหญ่,พลังที่น่าเกรงขามปะทุออกมาสาดกระเซ็นไปทุกทิศทาง,มิติที่บิดเบี้ยวสั่นสะเทือนเป็นระลอก,เห็นได้อย่างชัดเจนว่ามันรุนแรงมาก

ร่างกายที่ขยายขนาดไปกว่าพันจั้ง,ไม้เท้าของเขาเองก็ขยายขนาดด้วย,พร้อมกับบินตรงออกไป,คว้าไปยังหางมังกร,พร้อมกับดึงมันเอาไว้สุดแรง.

"โฮกกกกกกก"

เสียงของมังกรที่ดังสนั่น,มังกรเหลืองที่กำลังตะเกียกตะกายดึงร่างตัวเองให้หลุดพ้น.

มังกรเหลืองที่ปากของมันคาบตำราปฐพี,ใบหน้าที่โกรธเกรี้ยวจ้องมองไปยังร่างของคนเผ่าอูขนาดพันจั้ง.

"โฮกกกกกกก"

เสียงมังกรคำราม,หากของมันที่ตะวัดไปมา,สลัดคนเผ่าอูให้หลุด.

การต่อสู้จบแล้ว,หนานกงเซิ่งที่ได้รับบาดเจ็บหนัก,ร่างกายที่หายไปในเวลาต่อมา,ตำราปฐพีเขาไม่ต้องการแล้ว.
 to another Witch Clan.
"ไปจับเข้ามา,สังหารเขาซะ,วิญญาณของเขากำลังจะแตกกระเซ็น,ร่างกายบาดเจ็บหนัก,ไม่มีพลังต่อต้านได้แน่!"คนเผ่าอูที่มีขยายขนาดพันจั้งตะโกนสั่งคนเผ่าอูอีกคน.

"ครับ!"คนเผ่าอูอีกคนที่เร่งรีบบินไล่ตามไปในทันที.

จากนั้น,เผ่าอูที่ขยายขนาดพันจั้งก็ต่อสู้กับมังกรยักษ์ขนาดห้าหมื่นจั้ง,ที่กำลังสะบัดเขาอย่างทุกลักทุเล.

ก่อนหน้านี้หนานกงเซิ่งไม่ยินดีที่จะเสียตำราปฐพีไป,เหตุผลนั้นเพราะว่าตราบเท่าที่เขาถือตำราปฐพีอยู่,เขาก็ยังมีโอกาสรอดชีวิต,ทว่าตอนนี้เขาได้เสียตำราปฐพีไปแล้ว,เขาต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัย,เพราะว่าเขาได้เปิดตำราปฐพีนี้ไปแล้ว,รับรู้เนื้อหาข้างในนั่น,ไม่มีทางที่คนเผ่าอูจะปล่อยเข้าไปแน่.

หนานกงเซิ่งที่บาดเจ็บหนัก,ฝ่ายตรงข้ามนั้นแข็งแกร่งจนเกินไป.

มีหลุมดำขนาดใหญ่เกิดขึ้นเช่นกัน,หนานกงเซิ่งที่พบสถานการณ์ที่ผิดปรกติยังพื้นที่รอบๆ,และยังมีม่านผนึกที่ป้องกันไม่ให้เขาออกไปยังโลกใบใหญ่,อย่างไรก็ตามการออกไปโลกใบใหญ่,มีผู้เยี่ยมยุทธ์รอคอยอยู่มากมาย,การออกไปก็เป็นการแส่หาความตายเท่านั้น.

หนานกงเซิ่งผู้ฝึกตนค่ายกลอันดับหนึ่งของโลกใบนี้,แม้ว่าจะไม่เชี่ยวชาญค่ายกลฮวงจุ้ย,ทว่าเห็นปราณที่คละคลุ้งกระจายไปทั่วอากาศ,ย่อมรับรู้ได้อย่างแน่นอน.

หนานกงเซิ่งที่ใช้พลังเฮือกสุดท้าย,บินหนีออกไปอย่างรวดเร็ว.

ค่ายกลฮวงจุ้ยนี้,ปกคลุมทั่วผืนฟ้า,เป็นค่ายกลที่ต่อต้านสวรรค์,ทว่าร่างกายของหนานกงเซิ่งนั้นมีชะตาเซียนปกคลุม,หมอกสีเหลืองจึงไม่สามารถทำอะไรเขาได้.

แม้ว่าพลังเฮือกสุดท้ายที่เหลืออยู่,ทว่าก็ไม่ได้อ่อนแอแต่อย่างใด,เห็นได้อย่างชัดเจนว่า,ที่บาดเจ็บนั้นคือดวงวิญญาณของเขา,เขาที่มีชะตาเชียนจึงยังคงอยู่รอดไม่ตกตายในทันที,หากเป็นคนที่มีระดับสวรรค์แท้,แม้ว่าจะมีระดับ 12 สวรรค์แท้ก็ตาม,คงตกตายไปแล้ว,การถูกบดขยี้ไปที่ดวงวิญญาณนั้นกายทิพย์ได้รับบาดเจ็บอย่างหนัก,ใช้เวลาฟื้นฟูไม่ต่ำกว่าพันปีถึงจะฟื้นฟูดวงวิญญาณกลับคืนมาได้.

ผงบดวิญญาณอย่างงั้นรึ? น่าหวาดกลัวนัก.

หนานกงเซิ่งที่เตรียมค่ายกลมากมายหลายหลาย,ขณะหนีทิ้งเอาไว้,และหนีต่อไปเป็นระยะ.

แม้ว่าแรกๆจะได้ผลอยู่เหมือนกัน,ทว่าหลังจากนั้น,มันแทบจะไม่มีผลต่อฝ่ายตรงขามเลย.

คนเผ่าอูที่ไล่ตามเขามา,คราแรกอาจนับว่าเป็นปัญหาที่ต้องจัดการค่ายกลของหนางกงเซิ่ง,ทว่าหลังจากนั้นเขาก็เผยท่าทางเหยียดหยันออกมา.

"เดิมที่พื้นที่รอบๆนี้ไม่มีสิ่งมีชีวิตอยู่เลย,มีเพียงแค่เจ้าอย่างงั้นรึ? ในเมื่อเจ้าเป็นสิ่งมีชีวิตเดียว,ย่อมไม่เป็นปัญหาแม้แต่น้อย,ตราบท่าที่ตามสัญญาณวิญญาณได้ก็พอแล้ว,คิดว่าจะหนีไปได้อย่างงั้นรึ?"คนเผ่าอูที่แค่นเสียงเหยียดหยัน.

จากนั้น,หนานกงเซิ่งที่รับรู้ว่ายิ่งผ่านไปยิ่งสัมผัสได้ถึงอันตรายมากขึ้นเรื่อยๆ,ฝ่ายตรงข้ามที่ไล่ตามมาเรื่อยๆ,อยู่ไม่ห่างเจ้าเขาแล้วรึ?

หนานกงเซิ่งไม่มีทางต่อกรกับฝ่ายตรงข้ามได้เลย,สิ่งที่ทำได้เวลานี้คือกระตุ้นวิชาลับให้เคลื่อนที่หนีอย่างรวดเร็ว,วิญญาณของเขาที่เป็นรอยร้าว,ฉีกขาดมากขึ้นเรื่อยๆเช่นกัน,เมื่อใช้วิชาลับนี้ออกมา,อาการบาดเจ็บของเขาก็มากขึ้นเรื่อยๆ.

ดวงตาของหนานกงเซิ่งที่แทบจะปิดลงทุกเมื่อ,ยิ่งหนีก็ยิ่งเสี่ยง,หากแต่หยุดเมื่อไหร่,เผ่าอูก็จะไล่ตามมาทันในทันที.

หนานกงเซิ่งรับรู้ว่ายิ่งผ่านนานไปตัวเองก็ยิ่งอ่อนแอลงเรื่อยๆ,ไม่ได้การ,สถานการณ์ไม่ดีแล้ว.

ทว่าเวลาเดียวกันนั้น,ภายในโถมังกรหลับนั้นมีช่องว่างที่เปิดอยู่,เป็นจุดอ่อนหนึ่งเดียวที่มี,หนานกงเซิ่งที่ไม่ลังเลแม้แต่น้อย,พุ่งตรงด้วยพลังทั้งหมดที่เขามีไปยังตำแหน่งดังกล่าวเกิดเป็นริ้วแสงราวกับอุกาบาติตรงไปยังสถานที่ดังกล่าว.

อีกด้านหนึ่ง,ผ่านมากกว่าสองวันแล้ว,ท้ายที่สุดจงซานก็ได้สติกลับมา,แม้ว่าจะไม่ฟื้นฟูอยู่ในสภาพสมบูรณ์,ทว่าเวลานี้ก็มีพลัง ห้าถึงหกในสิบส่วนแล้ว.

พร้อมกับก้าวออกมาด้านนอก.

"ฝ่าบาท,ออกมาแล้ว!"อาวุโสจิวที่แสดงท่าทางประหลาดใจดีใจขึ้นมาทันที.

ทุกคนที่เข้ามารายล้อม,ใบหน้าที่เต็มไปด้วยความดีใจ,มีกู่เฉียนโหยวที่ค่อนข้างใบหน้าซีดเซียว.

"เป็นอย่างไรบ้าง?"จงซานที่จ้องมองไปยังกู่เฉียนโหยว.

"ด้วยการใช้พลังตลอดสองวัน,ค่ายกลฮวงจุ้ยกินแรงไม่น้อย!"กู่เฉียนโหยวที่ฝืนยิ้มออกมา.

จงซานที่จ้องมองด้วยความอาดูรกุมมือของกู่เฉียนโหยวอย่างนุ่มนวล,แสดงท่าทางปลอบใจนาง.

ต่อหน้าผู้คนมากมาย,ทำให้ใบหน้าของกู่เฉียนโหยวแดงระเรื่อยเช่นกัน.

"จงซาน,ที่ด้านนอกเกิดเรื่องใหญ่แล้ว,มีค่ายกลฮวงจุ้ยขนาดใหญ่โตมโหฬารด้วย!"เซียนเซียนที่กล่าวออกมาเสียงดัง.

"หืม?"จงซานที่กล่าวออกมาด้วยความประหลาดใจ.

จากนั้น,ทุกคนที่บอกกล่าวเรื่องที่เกิดขึ้นโดยระเอียด,ซึ่งจงซานทำการวิเคราะห์อยู่ในใจ.

ในเวลาเดียวกันนี้,ในภพหยาง,จงซานเริ่มสอบถามหนีปู่ซา.

หนีปู่ซาที่ได้ยินคำพูดของจงซานทำให้ตื่นตะลึงเป็นอย่างมาก,"ฝ่าบาท,ท่านบอกว่าเฉินซิ่วสร้างค่ายลโถมังกรหลับ,แล้วก็มีรอยตะเข็บแตกเป็นช่องขนาด 200 ลี้อย่างงั้นรึ"

"ควรจะเป็นเช่นนั้น.

หนีปูซาที่เต็มไปด้วยความอัศจรรย์ใจ,"เฉินซิ่วนับว่าเป็นคนที่มีเชื่อเสียงอันดับหนึ่ง,คงคาดไม่ถึงเลยว่าค่ายกลของเขาจะถูกฝ่าบาทและฮวงโห่วทำลาย!"

"มีอะไรอย่างงั้นรึ?"จงซานที่กล่าวออกมาด้วยความสงสัย.

"เรื่องนี้ต้องยอมรับว่าเฉินซิ่วคือผู้เชี่ยวชาญด้านค่ายกลที่แข็งแกร่งที่สุด,เขามีทรัพยากรให้ใช้ที่น่าหวาดผวามาก,ศิลาวิญญาณที่ใช้เป็นวัตถุดิบในครั้งนี้นับว่ามากมายมหาศาล,มากจนทำให้ทุกคนต้องอิจฉาเลย!"
"หืม?"

"ถ้าจะให้กล่าวล่ะก็,วัตถุดิบศิลาวิญญาณที่พวกเขาใช้,สามารถซื้อราชวงศ์ราชันย์ได้ถึงห้าแห่งเลย!"หนีปู่ซาที่กล่าวเปรียบเทียบ.

"ห้าราชวงศ์ราชันย์เลยรึ?"จงซานที่กล่าวออกมาด้วยความประหลาดใจ.

จงซานรับรู้ว่าห้าราชวงศ์ราชันย์ที่หนี่ปู่ซ่ากล่าวถึงนั้นหมายความว่าอย่างไร,ไม่ใช่จำนวนศิลาวิญญาณที่ราชวงศ์ทั่วไปจะเอื้อนเอ่ยคว้าถึงได้,มันเป็นทรัพยากรที่มากมายอย่างน่าหวาดกลัว.

"แต่ว่า,หากได้ตำราปฐพีมา,ก็ถือว่าคุ้มค่า."หนีปู่ซากล่าว.

การแย่งชิงจากเซียนและคนจากโลกใบใหญ่,เพื่อชิงตำราปฐพีถือว่าคุ้มค่าจริงๆรึ?

"เพียงแต่ว่า,ทุกอย่างคงจะสูญสิ้นเพราะฝ่าบาทและฮวงโหวแล้ว!"หนีปู่ซากล่าว.

"เฮ้,ไม่ใช่ว่าทุกสิ่งทุกอย่างได้กลายเป็นมังกรเหลืองไปจนหมดแล้วอย่างงั้นรึ?"จงซานสอบถาม.

"ถึงจะเปลี่ยนไปแล้ว,แต่จะอยู่ได้อีกนานเท่าไหร่กัน,จริงอยู่หากไม่มีจุดอ่อน,มังกรเหลืองนั้นจะอยู่คงอยู่ได้ตลอดที่ค่ายกลคงอยู่,ทว่าตอนนี้มีช่องเกิดขึ้น,ระหว่างนี้ปราณพลังจะต้องไหลออกไปด้านนอกอย่างบ้าคลั่ง,ยิ่งเวลาผ่านไป,พลังของมังกรเหลืองจะยิ่งอ่อนลงเรื่อยๆ,ท้ายที่สุดก็จะพังทลายลงในที่สุด."หนีปู่ซาจ้องมองไปยังจงซาน.

แม้ว่าหนีปู่ซ่าจะไม่กล่าวออกมาว่าฝ่าบาทคือ,ดาวภัยพิบัติสำหรับพวกเขา,แต่ก็ต้องยอมรับว่า,ค่ายกลโถมังกรหลับนี้,ล่มสลายแล้ว,ก่อนหน้านี้ที่งานหมื่นเม็ดยา,ในภพหยางแดนเทวะเทพอมตะพวกเขาได้ล้อมสังหารเนี่ยฟ่านเฉินก็ล้มเหลวไม่เป็นท่า,แม้แต่แดนเทพพิสุทธิ์ก็ล่มสลายเพราะชะตาภัยพิบัติของจงซาน,และยังมีญาณปิดปากของอรหันต์กุยหยวนที่ว่ากันว่าทรงพลังที่สุดในโลกหล้า,เมื่อพบกับฝ่าบาท,ชื่อเสียงของผู้คนเหล่านั้นล้วนแล้วแต่จบสิ้น,ฝ่าบาทเป็นคน
ในเวลาเดียวกันนี้ในภพหยิน,ที่ทางทิศใต้ที่ไกลออกมา,เฉินซิ่วที่กำลังเฝ้ามองภาพลวงค่ายกลทั้งหมด.

ภายในมือมีหยกก้อนใหญ่,ที่ฉายภาพ,ซึ่งเฉินซิ่วควบคุมมังกรเหลืองด้วยสิ่งนี่นั่นเอง,ด้วยการใช้วิชาลับบังคับมังกรที่อยู่ห่างออกมาเพื่อต่อสู้กับคนเผ่าอู.

เย่ชิงเฉิงที่จ้องมองด้วยความพอใจ.

"ด้วยการรวบรวมผู้ฝึกตนมากมายและยังมีระดับสวรรค์แท้ถึงสามคน,พลังของมังกรเหลืองนับว่าทรงพลังเกินจะคาดได้,แม้แต่คนเผ่าอู่ยังไม่ใช่คู่ต่อสู้,เขาที่ถอยครั้งแล้วครั้งเล่า,คงจะพ่ายแพ้ในไม่ช้านี้,"เย่ชิงเฉิงพยักหน้าด้วยความพอใจ.

"อืม,ด้วยพลังค่ายกล,และพลังจากเหล่ายอดฝีมือ,หากค่ายกลไม่ถูกยกเลิก,พลังของมังกรเหลืองก็ไม่มีวันหมด,ตำราปฐพีจะไปใหนเสีย."เฉินซิ่วเผยยิ้มออกมาด้วยความพึงพอใจเช่นกัน.

"อืม,เรื่องนี้ต้องรบกวนใต้ซือเฉินซิ่วแล้ว!"เย่ชิงเฉิงที่เผยยิ้มด้วยความพอใจ.

อย่างไรก็ตามในเวลาเดียวกันนั้น,ใบหน้าของเฉินซิ่วก็เปลี่ยนไปในทันที.

"ใต้ซือเฉินซิ่ว,เกิดอะไรขึ้นอย่างงั้นรึ?"เย่ชิงเฉิงที่กล่าวออกมาด้วยความสงสัย.

"ไม่ได้การแล้ว,ปราณแก่นพลังตอนนี้กำลังลดลง? เป็นไปได้อย่างไร?"ทันใดนั้นก้อนหยกก็จับภาพตรวจสอบพื้นที่รอบๆอย่างรวดเร็ว,ราวกับว่าเขาไม่อยากเชื่อสิ่งที่เกิดขึ้น.

"ใต้ซือเฉินซิ่ว? มีปัญหาอะไรเกิดขึ้นอย่างงั้นรึ?"เย่ชิงเฉิงที่กล่าวสอบถามออกมา.

"ค่ายกลไม่มีทางผิดพลาด,หากแต่มีใครบางคนที่ไม่เข้าประจำตำแหน่ง!"ใบหน้าของเฉินซิ่วที่เปลี่ยนเป็นซับซ้อนทันที.

"เป็นไปไมได้,ตำแหน่งทั้งหกสิบสามจุดนั้น,ข้าเป็นคนคัดเลือกด้วยตัวเอง."เย่ชิงเฉิงที่เอ่ยออกมาเสียงดัง,ขมวดคิ้วไปมาไม่อยากเชื่อคำพูดของเฉินซิ่วเท่าใดนัก.

"เร็วเข้า,รีบไปดูเร็วเข้า,หวังว่าจะพอมีเวลาซ่อมแซมได้ทัน!"เฉินซิ่วที่กล่าวออกมาทันที.

"อืม,นำทางไปได้เลย!"เย่ชิงเฉิงที่กล่าวออกมาในทันที.

จากนั้นคนทั้งสองก็เร่งรีบเดินทางไปยังจุดที่เป็นปัญหาอย่างรวดเร็ว.

เป็นไปหาใหญ่เป็นอย่างมาก,จงซานที่เข้าใจได้อย่างถ่องแท้.

"เอาล่ะ,พวกเราไม่จำเป็นต้องเป็นกังวล,เฉียนโหยว,เจ้าเตรียมการขั้นสุดท้าย,ข้าจะพาเจ้าออกไปด้านนอกแล้ว."จงซานที่กล่าวด้วยความมั่นใจ.

"อืม!"กู่เฉียนโหยวพยักหน้า,จากนั้นก็กระตุ้นพลังค่ายกลเป็นครั้งสุดท้าย.

จากนั้น,จงซานก็สร้างเมฆสีขาว,พร้อมกับพาทุกคนออกจากสถานที่ดังกล่าว.

ภายในค่ายกลฮวงจุ้ย,คนอื่นๆไม่สามารถที่จะมองเห็นจับทิศทางได้อย่างชัดเจนเลยแม้แต่น้อย,ทว่าพลังเหล่านั้นไม่มีผลต่อร่างแยกเงาจงซาน,เมฆสีขาวที่จงซานสร้างจึงสามารถบินออกไปด้านนอกได้โดยไม่มีอะไรขวางกัน.

ทว่าในเวลาเดียวกันนั้น,ชายผมม่วงที่ยืนอยู่บนยอดเขาแห่งหนึ่ง,ใบหน้าที่แสดงท่าทางดีใจขึ้นมาทันที.


"ผู้ฝึกตนฮวงจุ้ยฝ่ายตรงข้ามหมดแรงแล้วรึ?ดี,ดีมาก,ถึงเวลาจัดการแล้ว!"ชายผมม่วงที่เผยท่าทางดีใจประหลาดใจขึ้นมาในทันที.





ที่มาจากhttps://lnmtl.com/novel/immortality

#นิยาย เรื่องอมตะ #Immortality#นิยายแปลไทย
Author(s)


สนใจสนับสนุนพวกเรา,เข้าร่วมกลุ่ม VIP ====> Click

***เว็ปฟรีอัพ สองวันหนึ่งตอน
***กลุ่มลับ อัพ 2-3 ตอนต่อวัน.

 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น