Immortality Chapter 640 Master Shen Xiu
นิยาย เรื่อง อมตะ ตอนที่ 640 ใต้ซือเฉินซิ่ว.
Chapter 640 Master Shen Xiu
神秀大师
ใต้ซือเฉินซิ่ว.
"เจี่ยเฉียนโหยว,พวกเราปลอดภัยแล้วรึ?"เซียนเซียนที่กล่าวออกมาด้วยความตื่นเต้นดีใจ.
"ไม่,ยังไม่ปลอดภัย,ตอนนี้พวกเราถ่วงเวลาเอาไว้ก่อนชั่วคราว!"กู่เฉียนโหยวที่ขมวดคิ้วไปมา.
"ยังมีนิมิตโชคร้ายอยู่,ข้าสัมผัสได้,มันยังไม่จบ,แม้แต่ค่อยๆทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆอีกด้วย!"อาวุโสจิวที่ขมวดคิ้วแสดงท่าทางเป็นกังวล.
"ฮวงโหว,พวกเราจะทำอย่างไรดี?"เซียนเซิงซือสอบถาม.
"ต้องถ่วงเวลาไว้ก่อน,ให้ฝ่าบาทมาถึง!"กู่เฉียนโหยวกล่าวอย่างจริงจัง.
"ให้ฝ่าบาทมาถึงรึ?
พวกเราอยู่ใจกลางค่ายกลฮวงจุ้ย,เว้นแต่ผู้ฝึกตนฮวงจุ้ยเท่านั้น,การจะเข้ามาด้านในนั้นยากที่จะทำได้,แล้วฝ่าบาทจะเข้ามาได้อย่างไร?"อาวุโสจิวที่กล่าวด้วยความกังวล.
"โปรดวางใจ,ภายใต้สวรรค์แห่งนี้ไม่มีค่ายกลใดที่สามารถขวางฝ่าบาทได้,ขอให้พวกเราถ่วงเวลาเอาไว้ให้ได้ก็พอ!"กู่เฉียนโหยวที่กล่าวอย่างจริงจัง.
"รับทราบ!"ทุกคนที่พยักหน้ารับคำ.
แม้ว่าอาวุโสจิวจะไม่อยากเชื่อนัก,ทว่าในเวลานี้ทำได้แค่พยักหน้ารับเท่านั้น.
"เซียนเซิงซือ,ท่านสามารถควบคุมเหล่าโครงกระดูกให้ทำตามได้หรือไม่?"กู่เฉียนสอบถาม.
"ได้!"เซียนเซิงซือตอบรับทันที.
"ดี,เช่นนั้นให้ทำตามที่ข้ากล่าว,ให้เคลื่อนเหล่าโครงกระดูกไปยังตำแหน่งต่างๆ,ตามผังที่ข้ามอบให้,พวกเราจะสร้างค่ายกล,ฮวงจุ้ยโครงกระดูกปกป้อง."กู่เฉียนโหยวกล่าว.
"รับทราบ!"เซียนเซิงซือที่รับคำในทันที.
จากนั้น,เซียนเซิงซือที่บินไปยังป้อมปรากฏบนกำแพงเมือง,ก่อนที่จะสั่นกระดิ่งในทันที,จากนั้นก็คำรามออกไปด้วยเสียงที่แหบเครือ,ส่งสัญญาณบางอย่าง,ที่คนได้ยินถึงกับขนลุกชูชัน,ด้วยความแปลกประหลาด.
ขณะที่เซียนเซิงซือกำลังสั่งการโครงกระดูกอยู่นั้น,ที่ไกลออกไปนั้น,ชายผมม่วงของดินแดนโลกอมตะก็ตระหนักได้ว่า,ค่ายกลของเขา,มีอะไรบางอย่างต้านเอาไว้.
"น่าสนใจ!
คาดไม่ถึงเลยว่าจะเข้าใจทักษะฮวงจุ้ยด้วย!"ชายผมม่วงแค่นเสียง.
รอยยิ้มที่ดูแคลน,ชายผมม่วงที่สั่นไหวสะบัดฝ่ามือออกไป,ปราณสีดำที่ออกจากฝ่ามือ,พุ่งออกไปยังกลุ่มหมอกสีขาวที่ปกคลุมพื้นที่ขนาดใหญ่.
ทันใดนั้นปราณสีดำเหล่านั้นก็แปรเปลี่ยนเป็นค้างคาวมากมาย,ค้างคาวดวงตาสีแดงฉาน,เต็มไปด้วยจิตสังหารและความเกลียดชัง,บินลึกเข้าไปในค่ายกลในทันที,บนค่ายกลพื้นที่รอบๆค่ายกลของเมืองเล็ก,ค่ายกลฮวงจุ้ยของกู่เฉียนโหยว,มีค้างคาวมากมายนับไม่ถ้วย,ส่งเสียงหึ่งๆ,เต็มไปด้วยความมืดมิดบินปกคลุมไปทั่ว.
ในเวลานี้,บนป้อมปราการ,เซียนเซิงซือที่อัญเชิญโครงกระดูกมากมายนับไม่ถ้วนออกมา.
โครงกระดูกไม่ใช่เผ่าโครงกระดูก,ทั้งหมดเป็นเพียงแค่โครงกระดูกระดับต้นเท่านั้น,ไม่มีปัญญา,กำลังคืบคลานลุกขึ้นมาบนพื้นดิน.
บนพื้นดินเวลานี้เต็มไปด้วยโครงกระดูกมากมายสุดลูกหูลูกตา,ผุดขึ้นมาจากใต้พื้นดินไม่หยุดหย่อน.
ในเวลานี้,เหล่าโครงกระดูกระจายอยู่ทั่วเมืองมากมาย,ปราณหยินที่อบอวลไปทั่ว.
ภายใต้คำแนะนำของกู่เฉียนโหยว,เหล่าโครงกระดูดที่ยืนอยู่ในตำแหน่งต่างๆของเมืองเล็กอย่างแปลกประหลาด.
"กวี๊กๆๆๆ"
ทันใดนั้นเสียงคำรามที่ดังไกลออกไป,พร้อมปล่อยคลื่นดังกล่าวที่ดังสั่นสะเทือนกระแทกกวาดม้วนเหล่าโครงกระดูกที่อยู่รอบๆ.
"แค๊กๆๆ"
เหล่าโครงกระดูหลายตัวที่สั่นไปมา,ก่อนที่จะกลายเป็นผงไปในทันที.
"ไม่ได้การแล้ว,ค้างคาวมากมายเลย!"เซียนเซียนที่เอ่ยออกมาเสียงดัง.
"เซียนเซิงซือ,เร็วเข้า!"กู่เฉียนโหยวร้องออกมาเสียงดัง.
"รับทราบ!"เซียนเซิงซือที่กล่าวรับคำ.
เหล่าโครงกระดูกเร่งรีบจัดขบวนอย่างรวดเร็ว,ขณะค้างค้างเริ่มใกล้เข้ามาเรื่อยๆ,พร้อมกับปล่อยคลื่นเสียงทำลายโครงกระดูก,ขณะที่ทำลายโครงกระดูกไปหนึ่งในสิบ,ท้ายที่สุดค่ายกล,ก็พร้อมใช้งาน.
"เปิด!"
กู่เฉียนโหยวที่ขวางคทาไม้ท้อหมื่นปีออกไป,ทันใดนั้นก็ทะลวงลงตำแหน่งทั้งสี่ทิศของเมืองเล็ก,พลังงานของไม้ท้อหมื่นปีที่แยกผืนปฐพีเกิดเสียงดังสนั่น.
"วูซซซซซ"
โครงกระดูกมากมายนับไม่ถ้วนที่สั่นสะท้าน,จากนั้นปราณดำมืดที่ถูกปล่อยออกมาจากร่างของเหล่าโครงกระดูกที่โคจรกันหนาแน่น,ปกคลุมทั่วร่าง,ปราณแห่งความตายที่มากมายถูกดูดมารวมกัน.
ปราณแห่งความตาย,หนึ่งในสิบที่พุ่งทะยานขึ้นไปบนท้องฟ้า,ปกปิดผืนฟ้า,ปกคลุมทั่วเมืองเล็ก,เหล่าค้างคาวมากมายไม่สามารถรุกเข้ามาได้,ถูกขวางเอาไว้ด้านนอกในทันที.
ที่ด้านนอกนั้น,หมอกค่ายกลฮวงจุ้ยที่ถูกส่งออกมาจากค่ายกลขนาดใหญ่,ก็พ่นหมอกสีดำ,กระแทกไปยังเหล่าค้างคาว,จนทำให้มันล่วงหล่นลงบนพื้น,กลายเป็นดินเหนียวในทันที.
ใบหน้าของชายผมม่วงถึงกับเปลี่ยนเป็นหน้าเกียจในทันที.
"นำคนครึ่งหนึ่งเข้าไป,ทำตามคำสั่งของข้าอย่าให้ผิดพลาด!"ชายผมม่วงที่กล่าวต่อเหล่าศิษย์ที่อยู่ด้านหลัง.
"ครับ!"
การต่อสู้ระหว่างค่ายกลฮวงจุ้ยไม่สามารถที่จะยอมกันได้.
อีกฝั่งหนึ่ง,จงซานที่เคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูงสุด,ร่างกายที่เป็นเงาเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว,ทว่าก็จดจ้องมองสัญลักษณ์ที่กู่เฉียนโหยวทิ้งเอาไว้ให้ด้วย,จงซานที่ต้องขมวดคิ้วไปมา,จดจ้องมองเขตแดนที่เต็มไปด้วยหมอกขนาดใหญ่โต,จงซานที่ไร้ซึ่งลังเล,เคลื่อนที่ต่ออย่างไม่หยุด.
ค่ายกล? ไม่ว่าจะเป็นค่ายกลใด,กับร่างแยกเงาจงซานแล้วไม่มีค่ายกลใดป้องกันได้.
ที่ด้านในเมืองเล็กไม่รู้ไม่เห็นการมาของจงซานได้อย่างแน่นอน.
"ไม่ได้การแล้ว,มีศัตรูรุกอาณาเขตของข้า!"เซียนเซิงซือที่อุทานออกมาอย่างจริงจัง.
"อะไร? ศัตรูรุกเข้ามาอย่างงั้นรึ?"อาวุโสจิวที่อุทานออกมาเสียงดัง.
"ไม่ได้การแล้ว,เร็วมาก,เร็วเกินไปแล้ว,เขามาถึงแล้ว!"ใบหน้าของเซียนเซิงซือที่เต็มไปด้วยสีหน้าแววตาตื่นตกใจขึ้นมาทันที.
"ปกป้องฮวงโหว!"อาวุโสจิวโถวที่ร้องออกมาด้วยความตกใจ.
"ข้าเอง!"เสียงของจงซานที่ดังขึ้นมาในทันทีเช่นกัน.
ได้ยินคำพูดของจงซาน,ทุกคนที่หยุดนิ่ง.
จงซานที่ออกมาจากห้อง,เปิดประตูออกมา.
อาวุโสจิวโถวที่อ้าปากค้าง,"ที่บินลงมายังตำหนักก่อนหน้านี้,เป็นฝ่าบาท,มาได้อย่างไร?"
อาวุโสจิวโถวนั้นไม่อยากเชื่อโดยสมบูรณ์,จะเป็นไปได้อย่างไร?
ฝ่าบาทมาปรากฏตัวขึ้นในห้องโถงแห่งนี้ได้อย่างไร?
"เจ้าเป็นไรหรือไม่?"กู่เฉียนโหยวที่เข้าไปประครองจงซานเอาไว้.
"จงซาน,ตัวเจ้าจางมากเลย!"เซียนเซียนที่เอ่ยออกมาด้วยความกังวล.
จงซานพยักหน้า,"ข้าใช้พลังไปเป็นจำนวนมาก,จะต้องพักในทันที,พวกเจ้าปกป้องเข้าเอาไว้!"
"แต่ว่า,จะให้จัดการด้านนอกอย่างไร?"อาวุโสจิวที่กล่าวออกมาด้วยความตกใจ.
จงซานที่อยู่ในสภาพทุกลักทุเล,จำเป็นต้องพัก,แล้วค่ายกลฮวงจุ้ยด้านนอกจะจัดการอย่างไร?
"เฉียนโหยวเจ้ามากับข้า! ส่วนคนอื่นๆรอด้านนอก!"จงซานที่นำเฉียนโหยวเข้าไปในห้องแห่งหนึ่ง.
"เจ้าเป็นอย่างไรบ้าง?"กู่เฉียนโหยวที่จ้องมองจงซานด้วยความกังวล.
"โปรดวางใจ,แค่พักผ่อนก็จะฟื้นคืน,เวลานี้ยังดีกว่าก่อนหน้าที่ข้าหมดสติในทันที."จงซานที่กล่าวปลอบ.
"!"กู่เฉียนโหยวที่จ้องมอง.
"นี่คือค่ายกลฮวงจุ้ย,ข้าได้พูดคุยกับหนีปูซาก่อนหน้านี้แล้ว,ตอนนี้หนีปู่ซากำลังหาวิธีรับมืออยู่!"จงซานกล่าว.
"หนีปู่ซากำลังคิด!"จงซานกล่าวออกมาอีกครั้ง.
เห็นได้อย่างชัดเจน,หนีปู่ซาในภพหยาง,เวลานี้กำลังหาวิธีการช่วยพวกเขาอยู่นั่นเอง.
"หนีปู่ซาให้ข้าถามเจ้าว่า,ค่ายกลบ่วงรัดเก้าชั้น,เจ้าได้ศึกษาไว้หรือไม่?"จงซานสอบถาม.
"ศึกษามา,ทว่าไม่เชี่ยวชาญ!"กู่เฉียนโหยวกล่าวตอบ.
"ไม่เชี่ยวชาญ,หนีปู่ซาบอกว่าให้เจ้าใช่ค่ายลดังกล่าว,เพียงแค่ให้ฝ่ายตรงข้ามตระหนักได้ว่าเจ้าใช้ค่ายกลอะไรก็พอ,อย่างน้อยน่าจะถ่วงเวลาได้
4-5 วัน,ระหว่างนี้,ข้าฟื้นฟูกลับมา,เมื่อถึงตอนนั้นไม่ว่าจะเป็นค่ายกลใดก็ไม่สามารถขวางพวกเราได้แล้ว!"จงซานกล่าว.
"อืม!ในเมื่อหนีปู่ซ่ายืนยันเช่นนั้น,ข้าจะทำการก่อตั้งค่ายกลบ่วงรัดเก้าชั้นในทันที."กู่เฉียนโหยวพยักหน้า.
"ระหว่างข้าฟื้นฟู,เพียงแค่เวลาวิกฤติจริงๆเท่านั้น,ไม่ว่าอย่างไรห้ามใครรบกวน,เจ้าให้เซียนเซียนเฝ้าเอาไว้!"จงซานกล่าว.
"อืม!"กู่เฉียนโหยวที่พยักหน้ารับทันที.
กู่เฉียนโหยวที่ออกมาด้านนอก,แทบจะในทันทีจงซานที่นอนลงหมดสติไปในทันที.
ตามคำแนะนำของหนีปู่ซา,กู่เฉียนโหยวที่เปลี่ยนแปลงรูปแบบค่ายกลในทันที.
ปราณทมิฬพื้นที่ขนาดเล็ก,ทันใดนั้นก็กระจายไปทุกทิศในทันที,เดิมที่ก่อนหน้านี้เป็นพื้นที่หมอกขนาดใหญ่,ในเวลาพริบตาเดียวเท่านั้น,หมอกสีดำทมิฬที่ค่อยซึมซับแผ่ออกไปรอบๆ,แม้ว่าจะไม่ได้มากมายนัก,ทว่าก็สามารถมองเห็นบริเวณปราณทมิฬนั่นได้,ราวกับโลหิตที่แพร่ไปบนผ้าขาว.
ชายผมม่วงเวลานี้เริ่มหลั่งเหงื่อที่เย็นยะเยือบมากขึ้นเรื่อยๆ,ยืนอยู่บนภูเขาสูง,
"ทำได้อย่างไร? คาดไม่ถึงว่าค่ายกลดังกล่าวจะไม่อยู่ในการควบคุมของข้าอย่างทั่วถึง,เจ้า,เข้าไปด้านในนั่น!"ชายผมม่วงที่กล่าวออกมาเสียงดัง.
คนของโลกอมตะที่ต้องทะลวงค่ายกลเข้าไป,ตามคำสั่งของคนผมม่วง.
"ศิษย์พี่,เกิดอะไรขึ้น?
แล้วคนหายไปใหนหมดแล้ว?"เนียนโหยวโหยวที่กล่าวออกมาด้วยความสงสัย.
"ไม่ได้การ,ไม่ได้การแล้ว!"คนผมม่วงที่ใบหน้าเปลี่ยนเป็นอัปลักษณ์มากขึ้นเรื่อยๆ.
"อย่างไร?"
"แม้ว่าข้าจะยังควบคุมค่ายกลเอาไว้ได้,ทว่า,ดูเหมือนว่ามันจะยิ่งซับซ้อนขึ้นเรื่อยๆ,และก็ยิ่งวุ่นวายสับสนขึ้นเรื่อยๆด้วย,แม้แต่ผู้ฝึกตนฮวงจุ้ยฝ่ายตรงข้ามเองก็คงจะเป็นเช่นกัน,ค่ายกลของข้าในเวลานี้,ไม่สามารถยกเลิกได้,ไม่เช่นนั้นหากว่าข้ายกเลิก,มันจะย้อนสะท้อนกลับเข้าหาข้าในทันที!"ชายผมม่วงที่กล่าวออกมาด้วยท่าทางร้อนใจ.
"ท่านจะบอกว่าไม่สามารถจัดการพวกเขาได้อย่างงั้นรึ?"เนียนโหยวโหยวที่เผยท่าทางประหลาดใจ.
"ไร้สาระ,วิชาฮวงจุ้ยของข้านั้นยังไม่ล้ำลึก,จะรู้สถานการณ์จะเป็นเช่นนี้ได้อย่างไร."ชายผมม่วงที่ฝืนยิ้มออกมา.
"จะล่วงรู้สถานการณ์จะเป็นเช่นนี้อย่างงั้นรึ?
ศิษย์พี่,งานสำคัญของท่านประมุขกำลังจะเริ่มแล้ว,หากว่าพวกเราทำผิดพลาด,ท้ายที่สุดจะเสียหายกลายเป็นอาชญากรรมต่อโลกอมตะเอานะ!"เนียนโหยวโหยวที่แสดงท่าทางเย้ยออกมาเช่นกัน.
ได้ยินเนียนโหยวโหยวกล่าวเย้ย,ชายผมม่วงที่กล่าวฮึดฮัดออกมา,"เจ้าไม่จำเป็นต้องกังวล,แม้ว่าฝ่ายตรงข้าม,จะมีค่ายกลที่ร้ายกาจทว่าคนควบคุมนั้นมีพลังที่อ่อนด้วย,อีกไม่นานก็ต้องพ่ายแพ้ตนเอง."
"อีกไม่นานอย่างงั้นรึ?
หวังว่าจะเป็นเช่นนั้น!"เนียนโหยวโหยวที่แสดงท่าทางเหยียดหยันแล้วจากไป.
....
เย่ชิงเฉิงที่จากไปก่อนหน้านี้,เวลานี้ได้มาปรากฏตัวขึ้นที่ทิศใต้ของทะเลโลหิตเฉินฝู,บนยอดเขาแห่งหนึ่ง.
ที่ด้านหลังเย่ชิงเฉิงนั้นมีกองทัพของโลกอมตะ,อยู่เป็นจำนวนมาก,และที่ด้านข้างของเย่ชิงเฉงนั้นมีชายที่สวมชุดคลุมสีม่วง.
ชายคนหนึ่งที่ไม่มีคิ้ว,ทว่ากลับดูสง่างามเป็นอย่างมาก,ชุดคลุมสีม่วงที่โบกสะบัด,แผ่กลิ่นอายที่ลึกลับออกมา.
"ใต้ซือเฉินซิว,คนของโลกใบใหญ่และหนานกงเซิ่งเวลานี้ต่างก็ได้รับบาดแผลไม่น้อยแล้ว,พวกเราจะเริ่มได้รึยัง?"เย่ชิงเฉิงที่จ้องมองไปยังชายในชุดคลุมสีม่วง.
เฉินซิ่ว,นี่คือคนที่อาวุโสเทียนเคยเอ่ยไว้,ชีพจรสวรรค์,ชีพจรปฐพี,ชีพจรมนุษย์,ชีพจรเทพ,ชีพจรภูติ,นี่คือเหล่าผู้ฝึกตนฮวงจุ้ยที่มีชื่อเสียงทั้งห้า,โดยเฉินซิ่วคือชีพจรเทพนั่นเอง.
"ภายในกับดักโถวมังกรหลับ,88610
ทิศทางล้วนแล้วแต่สมบูรณ์แบบ,ถึงแม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้รับบาดแผลอะไร,ตอนนี้ก็ไม่นับว่ามีปัญหา,ในเมื่อประมุขเย่รอไม่ไหว,เช่นนั้นก็เริ่มได้เลย!"เฉินซิ่วพยักหน้า.
"ไม่ใช่ว่ารอไม่ไหว,ข้าเกรงว่ายิ่งช้าจะเกิดปัญหา,ด้วยพวกเขาที่เป็นเซียน,ย่อมหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะเกิดเรื่องที่ไม่คาดฝันขึ้น,ก่อนหน้านี้,ใครจะคิดว่าจะมีคนจากโลกใบใหญ่โผล่ออกมา,ยิ่งนานไปอาจจะยิ่งมีมาเพิ่มอีกก็ได้,หากเป็นเช่นนั้นก็มีโอกาสล้มเหลวได้!"เย่ชิงเฉิงกล่าว.
"อืม!"เฉินซิ่วพยักหน้า.
"เริ่ม!"เย่ชิงเฉิงที่กล่าวสั่งการในทันที.
"รับทราบ!"คนของแดนเทพอมตะรับคำในทันที.
Chapter 640 Master Shen Xiu
神秀大师
ใต้ซือเฉินซิ่ว.
"เจี่ยเฉียนโหยว,พวกเราปลอดภัยแล้วรึ?"เซียนเซียนที่กล่าวออกมาด้วยความตื่นเต้นดีใจ.
"ไม่,ยังไม่ปลอดภัย,ตอนนี้พวกเราถ่วงเวลาเอาไว้ก่อนชั่วคราว!"กู่เฉียนโหยวที่ขมวดคิ้วไปมา.
"ยังมีนิมิตโชคร้ายอยู่,ข้าสัมผัสได้,มันยังไม่จบ,แม้แต่ค่อยๆทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆอีกด้วย!"อาวุโสจิวที่ขมวดคิ้วแสดงท่าทางเป็นกังวล.
"ฮวงโหว,พวกเราจะทำอย่างไรดี?"เซียนเซิงซือสอบถาม.
"ต้องถ่วงเวลาไว้ก่อน,ให้ฝ่าบาทมาถึง!"กู่เฉียนโหยวกล่าวอย่างจริงจัง.
"ให้ฝ่าบาทมาถึงรึ?
พวกเราอยู่ใจกลางค่ายกลฮวงจุ้ย,เว้นแต่ผู้ฝึกตนฮวงจุ้ยเท่านั้น,การจะเข้ามาด้านในนั้นยากที่จะทำได้,แล้วฝ่าบาทจะเข้ามาได้อย่างไร?"อาวุโสจิวที่กล่าวด้วยความกังวล.
"โปรดวางใจ,ภายใต้สวรรค์แห่งนี้ไม่มีค่ายกลใดที่สามารถขวางฝ่าบาทได้,ขอให้พวกเราถ่วงเวลาเอาไว้ให้ได้ก็พอ!"กู่เฉียนโหยวที่กล่าวอย่างจริงจัง.
"รับทราบ!"ทุกคนที่พยักหน้ารับคำ.
แม้ว่าอาวุโสจิวจะไม่อยากเชื่อนัก,ทว่าในเวลานี้ทำได้แค่พยักหน้ารับเท่านั้น.
"เซียนเซิงซือ,ท่านสามารถควบคุมเหล่าโครงกระดูกให้ทำตามได้หรือไม่?"กู่เฉียนสอบถาม.
"ได้!"เซียนเซิงซือตอบรับทันที.
"ดี,เช่นนั้นให้ทำตามที่ข้ากล่าว,ให้เคลื่อนเหล่าโครงกระดูกไปยังตำแหน่งต่างๆ,ตามผังที่ข้ามอบให้,พวกเราจะสร้างค่ายกล,ฮวงจุ้ยโครงกระดูกปกป้อง."กู่เฉียนโหยวกล่าว.
"รับทราบ!"เซียนเซิงซือที่รับคำในทันที.
จากนั้น,เซียนเซิงซือที่บินไปยังป้อมปรากฏบนกำแพงเมือง,ก่อนที่จะสั่นกระดิ่งในทันที,จากนั้นก็คำรามออกไปด้วยเสียงที่แหบเครือ,ส่งสัญญาณบางอย่าง,ที่คนได้ยินถึงกับขนลุกชูชัน,ด้วยความแปลกประหลาด.
ขณะที่เซียนเซิงซือกำลังสั่งการโครงกระดูกอยู่นั้น,ที่ไกลออกไปนั้น,ชายผมม่วงของดินแดนโลกอมตะก็ตระหนักได้ว่า,ค่ายกลของเขา,มีอะไรบางอย่างต้านเอาไว้.
"น่าสนใจ!
คาดไม่ถึงเลยว่าจะเข้าใจทักษะฮวงจุ้ยด้วย!"ชายผมม่วงแค่นเสียง.
รอยยิ้มที่ดูแคลน,ชายผมม่วงที่สั่นไหวสะบัดฝ่ามือออกไป,ปราณสีดำที่ออกจากฝ่ามือ,พุ่งออกไปยังกลุ่มหมอกสีขาวที่ปกคลุมพื้นที่ขนาดใหญ่.
ทันใดนั้นปราณสีดำเหล่านั้นก็แปรเปลี่ยนเป็นค้างคาวมากมาย,ค้างคาวดวงตาสีแดงฉาน,เต็มไปด้วยจิตสังหารและความเกลียดชัง,บินลึกเข้าไปในค่ายกลในทันที,บนค่ายกลพื้นที่รอบๆค่ายกลของเมืองเล็ก,ค่ายกลฮวงจุ้ยของกู่เฉียนโหยว,มีค้างคาวมากมายนับไม่ถ้วย,ส่งเสียงหึ่งๆ,เต็มไปด้วยความมืดมิดบินปกคลุมไปทั่ว.
ในเวลานี้,บนป้อมปราการ,เซียนเซิงซือที่อัญเชิญโครงกระดูกมากมายนับไม่ถ้วนออกมา.
โครงกระดูกไม่ใช่เผ่าโครงกระดูก,ทั้งหมดเป็นเพียงแค่โครงกระดูกระดับต้นเท่านั้น,ไม่มีปัญญา,กำลังคืบคลานลุกขึ้นมาบนพื้นดิน.
บนพื้นดินเวลานี้เต็มไปด้วยโครงกระดูกมากมายสุดลูกหูลูกตา,ผุดขึ้นมาจากใต้พื้นดินไม่หยุดหย่อน.
ในเวลานี้,เหล่าโครงกระดูกระจายอยู่ทั่วเมืองมากมาย,ปราณหยินที่อบอวลไปทั่ว.
ภายใต้คำแนะนำของกู่เฉียนโหยว,เหล่าโครงกระดูดที่ยืนอยู่ในตำแหน่งต่างๆของเมืองเล็กอย่างแปลกประหลาด.
"กวี๊กๆๆๆ"
ทันใดนั้นเสียงคำรามที่ดังไกลออกไป,พร้อมปล่อยคลื่นดังกล่าวที่ดังสั่นสะเทือนกระแทกกวาดม้วนเหล่าโครงกระดูกที่อยู่รอบๆ.
"แค๊กๆๆ"
เหล่าโครงกระดูหลายตัวที่สั่นไปมา,ก่อนที่จะกลายเป็นผงไปในทันที.
"ไม่ได้การแล้ว,ค้างคาวมากมายเลย!"เซียนเซียนที่เอ่ยออกมาเสียงดัง.
"เซียนเซิงซือ,เร็วเข้า!"กู่เฉียนโหยวร้องออกมาเสียงดัง.
"รับทราบ!"เซียนเซิงซือที่กล่าวรับคำ.
เหล่าโครงกระดูกเร่งรีบจัดขบวนอย่างรวดเร็ว,ขณะค้างค้างเริ่มใกล้เข้ามาเรื่อยๆ,พร้อมกับปล่อยคลื่นเสียงทำลายโครงกระดูก,ขณะที่ทำลายโครงกระดูกไปหนึ่งในสิบ,ท้ายที่สุดค่ายกล,ก็พร้อมใช้งาน.
"เปิด!"
กู่เฉียนโหยวที่ขวางคทาไม้ท้อหมื่นปีออกไป,ทันใดนั้นก็ทะลวงลงตำแหน่งทั้งสี่ทิศของเมืองเล็ก,พลังงานของไม้ท้อหมื่นปีที่แยกผืนปฐพีเกิดเสียงดังสนั่น.
"วูซซซซซ"
โครงกระดูกมากมายนับไม่ถ้วนที่สั่นสะท้าน,จากนั้นปราณดำมืดที่ถูกปล่อยออกมาจากร่างของเหล่าโครงกระดูกที่โคจรกันหนาแน่น,ปกคลุมทั่วร่าง,ปราณแห่งความตายที่มากมายถูกดูดมารวมกัน.
ปราณแห่งความตาย,หนึ่งในสิบที่พุ่งทะยานขึ้นไปบนท้องฟ้า,ปกปิดผืนฟ้า,ปกคลุมทั่วเมืองเล็ก,เหล่าค้างคาวมากมายไม่สามารถรุกเข้ามาได้,ถูกขวางเอาไว้ด้านนอกในทันที.
ที่ด้านนอกนั้น,หมอกค่ายกลฮวงจุ้ยที่ถูกส่งออกมาจากค่ายกลขนาดใหญ่,ก็พ่นหมอกสีดำ,กระแทกไปยังเหล่าค้างคาว,จนทำให้มันล่วงหล่นลงบนพื้น,กลายเป็นดินเหนียวในทันที.
ใบหน้าของชายผมม่วงถึงกับเปลี่ยนเป็นหน้าเกียจในทันที.
"นำคนครึ่งหนึ่งเข้าไป,ทำตามคำสั่งของข้าอย่าให้ผิดพลาด!"ชายผมม่วงที่กล่าวต่อเหล่าศิษย์ที่อยู่ด้านหลัง.
"ครับ!"
การต่อสู้ระหว่างค่ายกลฮวงจุ้ยไม่สามารถที่จะยอมกันได้.
อีกฝั่งหนึ่ง,จงซานที่เคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูงสุด,ร่างกายที่เป็นเงาเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว,ทว่าก็จดจ้องมองสัญลักษณ์ที่กู่เฉียนโหยวทิ้งเอาไว้ให้ด้วย,จงซานที่ต้องขมวดคิ้วไปมา,จดจ้องมองเขตแดนที่เต็มไปด้วยหมอกขนาดใหญ่โต,จงซานที่ไร้ซึ่งลังเล,เคลื่อนที่ต่ออย่างไม่หยุด.
ค่ายกล? ไม่ว่าจะเป็นค่ายกลใด,กับร่างแยกเงาจงซานแล้วไม่มีค่ายกลใดป้องกันได้.
ที่ด้านในเมืองเล็กไม่รู้ไม่เห็นการมาของจงซานได้อย่างแน่นอน.
"ไม่ได้การแล้ว,มีศัตรูรุกอาณาเขตของข้า!"เซียนเซิงซือที่อุทานออกมาอย่างจริงจัง.
"อะไร? ศัตรูรุกเข้ามาอย่างงั้นรึ?"อาวุโสจิวที่อุทานออกมาเสียงดัง.
"ไม่ได้การแล้ว,เร็วมาก,เร็วเกินไปแล้ว,เขามาถึงแล้ว!"ใบหน้าของเซียนเซิงซือที่เต็มไปด้วยสีหน้าแววตาตื่นตกใจขึ้นมาทันที.
"ปกป้องฮวงโหว!"อาวุโสจิวโถวที่ร้องออกมาด้วยความตกใจ.
"ข้าเอง!"เสียงของจงซานที่ดังขึ้นมาในทันทีเช่นกัน.
ได้ยินคำพูดของจงซาน,ทุกคนที่หยุดนิ่ง.
จงซานที่ออกมาจากห้อง,เปิดประตูออกมา.
อาวุโสจิวโถวที่อ้าปากค้าง,"ที่บินลงมายังตำหนักก่อนหน้านี้,เป็นฝ่าบาท,มาได้อย่างไร?"
อาวุโสจิวโถวนั้นไม่อยากเชื่อโดยสมบูรณ์,จะเป็นไปได้อย่างไร?
ฝ่าบาทมาปรากฏตัวขึ้นในห้องโถงแห่งนี้ได้อย่างไร?
"เจ้าเป็นไรหรือไม่?"กู่เฉียนโหยวที่เข้าไปประครองจงซานเอาไว้.
"จงซาน,ตัวเจ้าจางมากเลย!"เซียนเซียนที่เอ่ยออกมาด้วยความกังวล.
จงซานพยักหน้า,"ข้าใช้พลังไปเป็นจำนวนมาก,จะต้องพักในทันที,พวกเจ้าปกป้องเข้าเอาไว้!"
"แต่ว่า,จะให้จัดการด้านนอกอย่างไร?"อาวุโสจิวที่กล่าวออกมาด้วยความตกใจ.
จงซานที่อยู่ในสภาพทุกลักทุเล,จำเป็นต้องพัก,แล้วค่ายกลฮวงจุ้ยด้านนอกจะจัดการอย่างไร?
"เฉียนโหยวเจ้ามากับข้า! ส่วนคนอื่นๆรอด้านนอก!"จงซานที่นำเฉียนโหยวเข้าไปในห้องแห่งหนึ่ง.
"เจ้าเป็นอย่างไรบ้าง?"กู่เฉียนโหยวที่จ้องมองจงซานด้วยความกังวล.
"โปรดวางใจ,แค่พักผ่อนก็จะฟื้นคืน,เวลานี้ยังดีกว่าก่อนหน้าที่ข้าหมดสติในทันที."จงซานที่กล่าวปลอบ.
"!"กู่เฉียนโหยวที่จ้องมอง.
"นี่คือค่ายกลฮวงจุ้ย,ข้าได้พูดคุยกับหนีปูซาก่อนหน้านี้แล้ว,ตอนนี้หนีปู่ซากำลังหาวิธีรับมืออยู่!"จงซานกล่าว.
"หนีปู่ซากำลังคิด!"จงซานกล่าวออกมาอีกครั้ง.
เห็นได้อย่างชัดเจน,หนีปู่ซาในภพหยาง,เวลานี้กำลังหาวิธีการช่วยพวกเขาอยู่นั่นเอง.
"หนีปู่ซาให้ข้าถามเจ้าว่า,ค่ายกลบ่วงรัดเก้าชั้น,เจ้าได้ศึกษาไว้หรือไม่?"จงซานสอบถาม.
"ศึกษามา,ทว่าไม่เชี่ยวชาญ!"กู่เฉียนโหยวกล่าวตอบ.
"ไม่เชี่ยวชาญ,หนีปู่ซาบอกว่าให้เจ้าใช่ค่ายลดังกล่าว,เพียงแค่ให้ฝ่ายตรงข้ามตระหนักได้ว่าเจ้าใช้ค่ายกลอะไรก็พอ,อย่างน้อยน่าจะถ่วงเวลาได้
4-5 วัน,ระหว่างนี้,ข้าฟื้นฟูกลับมา,เมื่อถึงตอนนั้นไม่ว่าจะเป็นค่ายกลใดก็ไม่สามารถขวางพวกเราได้แล้ว!"จงซานกล่าว.
"อืม!ในเมื่อหนีปู่ซ่ายืนยันเช่นนั้น,ข้าจะทำการก่อตั้งค่ายกลบ่วงรัดเก้าชั้นในทันที."กู่เฉียนโหยวพยักหน้า.
"ระหว่างข้าฟื้นฟู,เพียงแค่เวลาวิกฤติจริงๆเท่านั้น,ไม่ว่าอย่างไรห้ามใครรบกวน,เจ้าให้เซียนเซียนเฝ้าเอาไว้!"จงซานกล่าว.
"อืม!"กู่เฉียนโหยวที่พยักหน้ารับทันที.
กู่เฉียนโหยวที่ออกมาด้านนอก,แทบจะในทันทีจงซานที่นอนลงหมดสติไปในทันที.
ตามคำแนะนำของหนีปู่ซา,กู่เฉียนโหยวที่เปลี่ยนแปลงรูปแบบค่ายกลในทันที.
ปราณทมิฬพื้นที่ขนาดเล็ก,ทันใดนั้นก็กระจายไปทุกทิศในทันที,เดิมที่ก่อนหน้านี้เป็นพื้นที่หมอกขนาดใหญ่,ในเวลาพริบตาเดียวเท่านั้น,หมอกสีดำทมิฬที่ค่อยซึมซับแผ่ออกไปรอบๆ,แม้ว่าจะไม่ได้มากมายนัก,ทว่าก็สามารถมองเห็นบริเวณปราณทมิฬนั่นได้,ราวกับโลหิตที่แพร่ไปบนผ้าขาว.
ชายผมม่วงเวลานี้เริ่มหลั่งเหงื่อที่เย็นยะเยือบมากขึ้นเรื่อยๆ,ยืนอยู่บนภูเขาสูง,
"ทำได้อย่างไร? คาดไม่ถึงว่าค่ายกลดังกล่าวจะไม่อยู่ในการควบคุมของข้าอย่างทั่วถึง,เจ้า,เข้าไปด้านในนั่น!"ชายผมม่วงที่กล่าวออกมาเสียงดัง.
คนของโลกอมตะที่ต้องทะลวงค่ายกลเข้าไป,ตามคำสั่งของคนผมม่วง.
"ศิษย์พี่,เกิดอะไรขึ้น?
แล้วคนหายไปใหนหมดแล้ว?"เนียนโหยวโหยวที่กล่าวออกมาด้วยความสงสัย.
"ไม่ได้การ,ไม่ได้การแล้ว!"คนผมม่วงที่ใบหน้าเปลี่ยนเป็นอัปลักษณ์มากขึ้นเรื่อยๆ.
"อย่างไร?"
"แม้ว่าข้าจะยังควบคุมค่ายกลเอาไว้ได้,ทว่า,ดูเหมือนว่ามันจะยิ่งซับซ้อนขึ้นเรื่อยๆ,และก็ยิ่งวุ่นวายสับสนขึ้นเรื่อยๆด้วย,แม้แต่ผู้ฝึกตนฮวงจุ้ยฝ่ายตรงข้ามเองก็คงจะเป็นเช่นกัน,ค่ายกลของข้าในเวลานี้,ไม่สามารถยกเลิกได้,ไม่เช่นนั้นหากว่าข้ายกเลิก,มันจะย้อนสะท้อนกลับเข้าหาข้าในทันที!"ชายผมม่วงที่กล่าวออกมาด้วยท่าทางร้อนใจ.
"ท่านจะบอกว่าไม่สามารถจัดการพวกเขาได้อย่างงั้นรึ?"เนียนโหยวโหยวที่เผยท่าทางประหลาดใจ.
"ไร้สาระ,วิชาฮวงจุ้ยของข้านั้นยังไม่ล้ำลึก,จะรู้สถานการณ์จะเป็นเช่นนี้ได้อย่างไร."ชายผมม่วงที่ฝืนยิ้มออกมา.
"จะล่วงรู้สถานการณ์จะเป็นเช่นนี้อย่างงั้นรึ?
ศิษย์พี่,งานสำคัญของท่านประมุขกำลังจะเริ่มแล้ว,หากว่าพวกเราทำผิดพลาด,ท้ายที่สุดจะเสียหายกลายเป็นอาชญากรรมต่อโลกอมตะเอานะ!"เนียนโหยวโหยวที่แสดงท่าทางเย้ยออกมาเช่นกัน.
ได้ยินเนียนโหยวโหยวกล่าวเย้ย,ชายผมม่วงที่กล่าวฮึดฮัดออกมา,"เจ้าไม่จำเป็นต้องกังวล,แม้ว่าฝ่ายตรงข้าม,จะมีค่ายกลที่ร้ายกาจทว่าคนควบคุมนั้นมีพลังที่อ่อนด้วย,อีกไม่นานก็ต้องพ่ายแพ้ตนเอง."
"อีกไม่นานอย่างงั้นรึ?
หวังว่าจะเป็นเช่นนั้น!"เนียนโหยวโหยวที่แสดงท่าทางเหยียดหยันแล้วจากไป.
....
เย่ชิงเฉิงที่จากไปก่อนหน้านี้,เวลานี้ได้มาปรากฏตัวขึ้นที่ทิศใต้ของทะเลโลหิตเฉินฝู,บนยอดเขาแห่งหนึ่ง.
ที่ด้านหลังเย่ชิงเฉิงนั้นมีกองทัพของโลกอมตะ,อยู่เป็นจำนวนมาก,และที่ด้านข้างของเย่ชิงเฉงนั้นมีชายที่สวมชุดคลุมสีม่วง.
ชายคนหนึ่งที่ไม่มีคิ้ว,ทว่ากลับดูสง่างามเป็นอย่างมาก,ชุดคลุมสีม่วงที่โบกสะบัด,แผ่กลิ่นอายที่ลึกลับออกมา.
"ใต้ซือเฉินซิว,คนของโลกใบใหญ่และหนานกงเซิ่งเวลานี้ต่างก็ได้รับบาดแผลไม่น้อยแล้ว,พวกเราจะเริ่มได้รึยัง?"เย่ชิงเฉิงที่จ้องมองไปยังชายในชุดคลุมสีม่วง.
เฉินซิ่ว,นี่คือคนที่อาวุโสเทียนเคยเอ่ยไว้,ชีพจรสวรรค์,ชีพจรปฐพี,ชีพจรมนุษย์,ชีพจรเทพ,ชีพจรภูติ,นี่คือเหล่าผู้ฝึกตนฮวงจุ้ยที่มีชื่อเสียงทั้งห้า,โดยเฉินซิ่วคือชีพจรเทพนั่นเอง.
"ภายในกับดักโถวมังกรหลับ,88610
ทิศทางล้วนแล้วแต่สมบูรณ์แบบ,ถึงแม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้รับบาดแผลอะไร,ตอนนี้ก็ไม่นับว่ามีปัญหา,ในเมื่อประมุขเย่รอไม่ไหว,เช่นนั้นก็เริ่มได้เลย!"เฉินซิ่วพยักหน้า.
"ไม่ใช่ว่ารอไม่ไหว,ข้าเกรงว่ายิ่งช้าจะเกิดปัญหา,ด้วยพวกเขาที่เป็นเซียน,ย่อมหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะเกิดเรื่องที่ไม่คาดฝันขึ้น,ก่อนหน้านี้,ใครจะคิดว่าจะมีคนจากโลกใบใหญ่โผล่ออกมา,ยิ่งนานไปอาจจะยิ่งมีมาเพิ่มอีกก็ได้,หากเป็นเช่นนั้นก็มีโอกาสล้มเหลวได้!"เย่ชิงเฉิงกล่าว.
"อืม!"เฉินซิ่วพยักหน้า.
"เริ่ม!"เย่ชิงเฉิงที่กล่าวสั่งการในทันที.
"รับทราบ!"คนของแดนเทพอมตะรับคำในทันที.
ที่มาจากhttps://lnmtl.com/novel/immortality
#นิยาย เรื่องอมตะ #Immortality#นิยายแปลไทย
Author(s)
สนใจสนับสนุนพวกเรา,เข้าร่วมกลุ่ม VIP ====> Click
***เว็ปฟรีอัพ สองวันหนึ่งตอน
***กลุ่มลับ อัพ 2-3 ตอนต่อวัน.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น