วันศุกร์ที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563

Immortality Chapter 635 Witch Clan

Immortality Chapter 635  Witch Clan

นิยาย เรื่อง อมตะ ตอนที่ 635  เผ่าอู (ผู้มีหน้าที่เชื่อมฟ้าดิน,มิโกะ)


Chapter 635  Witch Clan
巫族
  เผ่าอู (ผู้มีหน้าที่เชื่อมฟ้าดิน,มิโกะ)

ภพหยาง,ฝนโลหิตที่ปกคลุมท้องฟ้าทุกหนแห่ง,พื้นที่รอบๆไม่ว่าจะเป็นที่ใดต่างก็เต็มไปด้วยฝนโลหิตสาดซัดกระหน่ำ.

เหล่าปุถุชนต่างก็คุกเข่าลงคารวะ,ส่วนผู้ฝึกตนทั้งหมดต่างก็จ้องมองขึ้นไปบนท้องฟ้าด้วยความจริงจัง,บนสวรรค์,กำลังเศร้าสลดพร้อมกับส่งต่อมาถึงทุกคน.



ฝนโลหิตที่ล่วงหล่นลงจากท้องฟ้า,ตกลงพื้น,ปรากฏเป็นหมอกโลหิต,เป็นหมอกที่แปลกประหลาดเป็นอย่างมาก,มีกลิ่นอายที่น่าหวาดหวั่นทำให้คนที่อยู่รอบๆรู้สึกหวาดกลัว.

หมายความว่าอย่างไร? ทำไมฟ้าดินถึงได้ย้อมไปด้วยโลหิต? เมฆโลหิต? ฝนโลหิต? หมอกโลหิต?

แดนเทพอมตะ.

เต๋าจวินเซิ่งหย๋าที่เงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้า,แววตาที่หรี่เล็ก,ที่ด้านหลังมีคนในชุดดำหลายคน.

"อาวุโสทุกท่าน,ปราชญ์เทพล่วงหล่นลงจากสวรรค์ตามที่มีในบันทึกของแดนเทพอมตะใช่หรือไม่?"เต๋าจวินเซิ่งหย๋าที่กล่าวออกมาด้วยเสียงที่เคร่งขรึม.

"โลกใบใหญ่มีความขัดแย้งกันไม่หยุด,ปราชญ์คนหนึ่งได้ล่วงหล่นลงจากสวรรค์แล้ว!"คนผู้หนึ่งที่กล่าวพลางทอดถอนใจ.

เต๋าจวินเซิ่งหย๋าพยักหน้า,แววตาที่เต็มไปด้วยความจริงจัง.

ราชวงศ์สวรรค์ต้าสุ่ย,ตำหนักไท่จื่อเหล่ยเทียน.

"เซิ่งจู่(นายเหนือหัว) หมายความว่าอย่างไร? เกิดฝนโลหิตปกคลุมไปทั่วเลยรึ?เมื่อหล่นลงพื้นยังเกิดหมอกโลหิตอีก?"หวางเฉินที่จ้องมองไปยังไท่จื่อเหล่ยเทียนด้วยความสงสัย.

ไท่จื่อเหล่ยเทียนจ้องมอง,ที่มุมปากที่เผยยิ้มอย่างเหยียดหยัน,"ดี,ดีเยี่ยม,ปราชญ์เทพล่วงหล่นจากสวรรค์,ฟ้าดินกำสรวล,ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า!"

แววตาของไท่จื่อเหล่ยเทียนที่เต็มไปด้วยความปราบปลื้มพอใจกับโชคร้ายของคนอื่น,ราวกับว่าเขานั้นโกรธเกรี้ยวเหล่าปราชญ์ของโลกใบใหญ่.

ราชวงศ์สวรรค์ต้าฉิน,เมืองเซียนหยาง,ตำหนักหลวง.

เหล่าขุนนางทุกคนที่หยุดทำงาน,หยิงที่อยู่ในห้องโถง,เงยหน้าขึ้นจ้องมองท้องฟ้า.

หลี่ซือและเหล่าคนสำคัญของต้าฉินที่อยู่รวมกันทั้งหมด.

"ฝ่าบาท,ในโลกใบใหญ่,ปราชญ์เทพล่วงหล่นลงจากสวรรค์อย่างงั้นรึ?"หลี่ซือที่ขมวดคิ้วไปมาสอบถาม.

"ใช่,ปราชญ์เทพล่วงหล่นจากสวรรค์,ฟ้าดินกำสรวล!"หยิงกล่าวออกมาทันที.

"ปราชญ์เทพ? ปราชเทพไม่มีวันตายหรือถูกกำจัดไม่ใช่รึ? แล้วล่วงหล่นจากสวรรค์คืออะไร?"หลี่ซือที่เผยสีหน้า

"ไม่ตายหรือถูกฆ่าอย่างงั้นรึ? ไม่มีสิ่งใดที่ไม่ตายหรือไม่สามารถฆ่าได้,สวรรค์คือที่สุด,ปราชญเทพรึ? ปราชญ์เทพแล้วอย่างไร? มีชีวิตนิรันดร์นั้นง่ายดาย,หากแต่ไม่ตายนั้นเป็นเรื่องยาก!"หยิงส่ายหน้าไปมาขณะพูด.

"มีชีวิตนิรันดร์นั้นง่ายดาย,หากแต่ไม่ตายนั้นเป็นเรื่องยากอย่างงั้นรึ?"หลี่ซือที่ทวนคำพูดของหยิง.

"ฝ่าบาทเฉินเชื่อฝ่าต้าฉินของพวกเราจะต้องเป็นนิรันดร์แน่,และก็จะไม่มีวันตายในอนาคต,ต้าฉินจะต้องกลายเป็นอมตะอย่างแน่นอน!"หลีซือกล่าวออกมาด้วยความจริงจัง.

"ต้าฉินจะต้องเป็นอมตะอย่างแน่นอน!"เหล่าข้าราชบริพารคนอื่นๆเองก็กล่าวออกมาเสียงดัง.

"อืม!"หยิงพยักหน้า.

ในหุบเขาแห่งหนึ่งที่ไม่มีคนรู้จัก,มีชายชุดขาวผมขาวนั่งสมาธิอยู่,ดวงตาที่หลับอยู่ตลอดเวลา,มือทั้งสองข้างที่ทำสัญลักษณ์ดอกบัวราวกับว่าได้เข้าสู่สภาวะญาณที่ลึกล้ำอยู่,คนผุ้นี้จงซานรู้จัก,เจ้าตำหนักศาลาเทวะ,เสวียนหยวน.

ท้องฟ้าที่ปรากฏฝนโลหิตขึ้นมานั้น,ทำให้เสวียนหยวนลืมตาขึ้นมา.

ขณะที่เขาเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้า,แววตาของเสวียนหยวนที่เปล่งประกาย.

"โลกใบใหญ่กำลังเกิดความโกลาหลอย่างงั้นรึ? ปราชญ์เทพล่วงหล่นจากสวรรค์? หวังว่าจะไม่มีผลต่อโลกใบเล็ก!"เสวียนหยวนที่กล่าวออกมาเบาๆ,จากนั้น,ก็หลับตาบำเพ็ญต่อ,เหมือนกับก่อนหน้านี้,การตายของปราชญ์เทพไม่ได้ส่งผลต่อจิตใจของเขาแม้แต่น้อย.

สายตาของเหล่าผู้ฝึกตนที่จ้องมองท้องฟ้าพลางครุ่นคิด,ปราชญ์เทพล่วงหล่นจากสวรรค์,และยังส่งผลต่อคนทั่วหล้า,ภายในโลกใบใหญ่,ต่างก็ส่งผลต่อโลกใบเล็กทั้งหมด.

เป็นใครที่ได้ตกตายไป?

ภายในภพหยิน,ภายในทะเลโลหิตเฉินฝู,จงซานที่หันหน้าจ้องมองไปยังชายในชุดคลุมสีดำที่กำลังพูดคุยกันอยู่.

ปราชญ์เทพล่วงหล่นจากสวรรค์ฟ้าดินกำสรวลที่ทั้งสามกล่าวคืออะไร!

"จือจุ้นหยิน,ท่านได้ยินเรื่องเกี่ยวกับปราชญ์เทพหรือไม่?"จงซานที่สอบถามหยินโหลวหรี่.

"ปราชญ์เทพ? บางที่คงมีกล่าวถึงในตำราโบราณของเผ่าพยัคฆ์,ภายในโลกใบใหญ่คือยอดฝีมือที่ไม่ตาย,ทว่าดูเหมือนว่าหมอกโลหิตที่เกิดขึ้นนี้,คลายกับว่าเป็นปรากฏการณ์สวรรค์,ข้าไม่ได้อยู่ในโลกใบใหญ่,ก็ไม่เข้าใจเช่นกัน."หยินโหลวหรี่กล่าวออกมาโดยไม่ปิดบัง.

"เคยมีบันทึกเอาไว้ครั้งหนึ่งแล้วรึ?ดูเหมือนว่านี่จะเป็นครั้งที่สองที่ล่วงหล่นจากสวรรค์อย่างงั้นรึ?"จงซานทึ่ขมวดคิ้ว.

เหมือนว่าจงซานจะเคยได้ยินมาก่อนเช่นกัน,ฟ้าดินนั้นไร้เมตตา,ปฏิบัติคล้ายดั่งสรรพสิ่งเป็นหุ่นฟาง,ปราชญ์เทพนั้นไร้เมตตา,ปฏิบัติคล้ายดั่งผู้คนเป็นหุ่นฟาง,นี่คือปราชญ์เทพที่คนชุดดำทั้งสามเอ่ยถึงหรือไม่?

เทียนเซียวและซิงไท่โต่วเวลานี้เงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้า,หลังจากผ่านไปชั่วระยะเวลาหนึ่ง,คนทั้งสองที่ต้องขมวดคิ้วไปมา,จากนั้นเทียนเซียวก็จ้องมองไปยังธวัชห้าเหลี่ยม.

"เซิงซ่าต้าเหยี่ยน,เป็นหนี้ท่านแล้วที่ปล่อยให้ข้าชนะ,เทียนเซียวขออภัย!"เทียนเซียวที่กล่าวออกมาด้วยความจริงจัง.

เทียนเซียวที่ไม่ได้กล่าวล้อเลียนเขาแต่อย่างใด,ต้องไม่ลืมว่า,หากวัดกันที่พลังที่แท้จริงล่ะก็,ตัวเขานั้นไม่ใช่คู่ต่อสู้ของซิงไท่โต่วแม้แต่น้อย,ทว่าการที่เขาได้รับชัยในครั้งนี้,เนื่องจากวางกับดักเอาไว้ก่อนเท่านั้นเอง.

ซิงไท่โต่วจ้องมองเทียนเซียวด้วยสายตาที่แปลกประหลาด,แววตาที่ดูมืดมน.

"มีอะไรอย่างงั้นรึ? เซิ่งซ่างตาเหยี่ยนต้องการผิดคำพูดอย่างงั้นรึ?"เทียนเซียวกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงจริงจัง.

ผิดคำพูดอย่างงั้นรึ?ประมุขของราชวงศ์,ย่อมพูดคำใหนคำนั้น,การใช้คำพูดหลอกลวงนั้น,มีแต่จะเป็นที่หัวเราะดูแคลนจากคนทั่วหล้า,เขาต้องการผิดคำพูดอย่างงั้นรึ? หากว่ากระทำเช่นนั้น,ราชวงศ์วาสนาของเขาย่อมต้องอยู่ได้ไม่นาน.

"ไม่ใช่ว่าข้าผิดคำพูด,ทว่าข้าไม่ได้มีอำนาจที่จะทำเช่นนั้น!"ซิงไท่โต่วที่ส่ายหน้าไปมาฝืนยิ้มออกมา.

เทียนเซียวได้ยินซิงไท่โต่วกล่าวเช่นนั้น,ทำให้เขาถึงกับสะดุ้งไปเลยทีเดียวกวาดตามองรอบๆ,ใครกันที่ทำให้แม้แต่ซิงไท่โต่วยังไม่มีอำนาจที่จะตัดสินใจ?

เหล่าผู้ฝึกตนที่อยู่รอบๆเองก็เผยแววตาท่าทางหวาดหวั่นขึ้นมาเช่นกัน,ใครกันที่แม้แต่ซิงไท่โต่วยังไม่สามารถตัดสินใจได้? เขาเป็นเซิ่งซ่างราชวงศ์สวรรค์,ในโลกใบเล็กนี้ถือว่าเป็นหนึ่งในผู้ทรงอิทธิพล,หากแต่เขากับไม่มีอำนาจตัดสินใจอย่างงั้นรึ?

"ตูมมมมมมมมมมม"

ทันใดนั้นแสงสีน้ำเงินก็เปล่งประกาย,สาดส่องไปทั่วธวัชทั้งห้า,พุ่งทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้า.

แสงสีน้ำเงินที่ใหญ่โตมโหฬาร,พุ่งตรงอาบไปทั่วบริเวณ,พร้อมกับชำระล้างทะเลโลหิตไปทั้งหมด,แม้แต่หมอกเมฆโลหิต,แสงสีน้ำเงินที่ส่องผ่านยังทำให้หมอกโลหิตหายไปทันที,บนอากาศที่สูงขึ้นไป,หมอกเมฆโลหิตที่กลายเป็นรูขนาดใหญ่ขึ้นมาในทันที.

หมอกเมฆโลหิตที่เป็นรูโบ๋,ทุกๆคนสามารถมองเห็นท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงตาว,ประกายแสงดาราที่ส่องประกายระยิบระยับ,แสงดาราที่พุ่งอาบธวัชห้าเหลี่ยม,ประกายแสงสีเขียวที่ถูกส่งมาจากดวงดาว.

พร้อมทั้งแผ่พุ่งตรงเข้าไปด้านใน!

ธวัชห้าเหลี่ยมที่ถูกแสงดาราขนาดใหญ่ส่องผ่านกระแทกลงมาอย่างรุนแรง.

พลังแห่งดวงดารา? นี่คือพลังจากดวงดาวอย่างงั้นรึ?

เหล่าผู้ฝึกตนที่หวาดผวาจ้องมอง,แทบจะทุกคนที่ราวกับว่าจะตระหนักได้ถึงบางอย่าง.

หนานกงเซิ่งที่อยู่ด้านใน,ไม่ใช่ว่ากำลังทำลายค่ายกลธวัชห้าเหลี่ยมหรอกรึ? ไม่ใช่,เขาใช้โอกาสนี้อ่านตำราปฐพีต่ออย่างงั้นรึ?

"หนานกงเซิ่งไม่ได้ถูกกักขังเอาไว้ด้านในรึ? ดูเหมือนว่าเขาจะใช้เวลานี้อ่านตำราปฐพีต่อรึ?"หยินโหลวหรี่ที่กล่าวออกมาด้วยความประหลาดใจ.

"ดูเหมือนว่าค่ายกลนั่นจะช่วยให้เปิดตำราปฐพีได้!"จงซานที่กล่าวออกมาอย่างจริงจัง.

"สมแล้วที่เป็นผู้ฝึกตนค่ายกลลำดับหนึ่งของโลกใบนี้,คู่ควรกับชื่อเสียงนัก,ใช้ค่ายกลที่ผนึกตัวเอง,มาช่วยตัวเองได้อีกด้วย!"หยินโหลวหรี่ที่กลืนน้ำลายคำโต.

ขณะที่เห็นหนานกงเซิ่งสามารถเปิดตำราปฐพีได้,เหล่าผู้ฝึกตนที่อยู่รอบๆต่างแสดงท่าทางตื่นเต้นเป็นอย่างมาก,หนานกงเซิ่ง,นับว่าเป็นตัวตนในตำนานจริงๆ,แข็งแกร่งมาก,ทั้งที่ถูกเซียนฉีผนึกอยู่,คาดไม่ถึงเลยว่า,เขาจะใช้ประโยชน์นี้,จากสองผู้แข็งแกร่งต่อสู้กัน,ไม่ให้คนอื่นมารบกวนตัวเอง.

ร่างของซิงไท่โต่วที่ขยับ,ขณะนั้น,เทียนเซียวที่ออกมาขวางหน้าซิงไท่โต่วในทันที.

"เซิ่งซ่างต้าเหยี่ยน,เรื่องนี้เจ้าไม่สามารถยุ่งได้แล้ว!"เทียนเซียวที่ขวางทางซิงไท่โต่วเอาไว้.

ในเวลาเดียวกันขณะที่เขากำลังจะตรงไปจัดการค่ายกลห้าเหลี่ยม,ทันใดนั้นที่ด้านหน้าค่ายกลธวัชห้าเหลี่ยมนั้น,ก็ปรากฏคนในชุดดำสามคนอยู่ด้านหน้าแล้ว.

คนทั้งสามที่ถือไม้เท้ายาว,ดูผอมแห้ง,มือของเขาที่แห้งหุ้มกระดูก.

"ซิงไท่โต่ว,หมายความว่าอย่างไร? คนของต้าเหยี่ยน,หรือว่าเจ้าต้องการตะบัดสัตย์อย่างงั้นรึ?"เทียนเซียวที่ชำเลืองมองออกไป.

คนในชุดดำทั้งสามคน,หนึ่งคนคือหัวหน้า,ขณะที่อีกสองคนยืนอยู่ด้านหลัง,ขณะที่เทียนเซียวโวยวายเสียงดัง,คนชุดดำที่อยู่ด้านหลังได้หันหน้ามามองเทียนเซียว,ก่อนที่จะปล่อยกลิ่นอายที่ดำมืดออกมา.

"คนของเจ้า?"เทียนเซียนที่เอ่ยออกมาเสียงดัง.

ในเวลานี้,เทียนเซียวเริ่มเข้าใจได้ในทันที,คนเหล่านี้ไม่ใช่ผู้ใต้บังคับบัญชาของซิงไท่โต่ว.

"หลับไปซะ!"

ชายในชุดสีดำที่อยู่ด้านหลัง,ที่ตะโกนเสียงดังพร้อมกับท่องอาคมที่แปลกประหลาดออกมา,จากนั้นปราณทมิฬที่ล่องลอยปกคลุมร่างของเทียนเซียวในทันที.

"เส้าเหยี่ย!"เหล่าผู้เยาว์ของตระกูลเทียนที่พุ่งเข้ามาหา.

"ตูมมมมมมมมมม!"

แสงสีน้ำเงินจากเซียนฉีไม้เท้าของเทีนเซียวที่ปัดป้องปราณทมิฬออกไป,ใบหน้าของคนชุดดำที่ตื่นตกใจเช่นกัน.

"อู,เผ่าอู?"เทียนเซียวที่เผยสีหน้าแววตาประหลาดใจจ้องมองไปยังคนทั้งสามคน.

"ซิงไท่โต่ว,นี่เจ้า,ช่างกล้านัก,ถึงกับกล้าทำลายพันธะสัญญาพันธมิตรอย่างงั้นรึ? กล้าสมคบกับคนจากโลกใบใหญ่อย่างงั้นรึ?"ใบหน้าของเทียนเซียวที่โกรธเกรี้ยวจ้องมองไปยังซิงไท่โต่ว.

โลกใบใหญ่,เผ่าอู?

เหล่าผู้ฝึกตนที่อยู่รอบๆได้ยินคำพูดของเทียนเซียว,ต้องขมวดคิ้วไปมา,จ้องมองไปยังคนชุดดำทั้งสามคน,คนเหล่านี้มาจากโลกใบใหญ่อย่างงั้นรึ? นี่ซิงไท่โต่วสมคบคิดกับคนจากโลกใบใหญ่อย่างงั้นรึ?

กับคำพูดของเทียนเซียวนั้นเหล่าคนชุดดำที่ไม่พูดไม่จาทันใดนั้นก็ชี้นิ้วออกมา,ที่ตำแหน่งด้านหน้าของเทียนเซียน,จากอากาศที่ว่างเปล่า,ดัชนีที่แหวกอากาศผุดออกมาด้านหน้าของเขาในทันที.

"ตูมมมมม"

ไม้เท้าแห่งชีวิตของเทียนเซียนที่ป้องกันเอาไว้ในทันที,ความแข็งแกร่งของคนชุดดำแข็งแกร่งเป็นอย่างมาก,เพียงแค่ชี้นิ้วออกมา,ร่างของเทียนเซียวที่ลอยละล่อง,พ่นโลหิตคำโต,ใบหน้าที่ดำคล้ำไปในทันที.

"เส้าเหยี่ย!"คนของตระกูลเทียนที่เร่งรีบเข้าไปรับตัวเทียนเซียวทันที.

พลังที่แข็งแกร่งนั่น,ทำให้เทียนเซียวได้รับบาดเจ็บหนัก,และยังอาการบาดเจ็บก่อนหน้านี้ผสมอีกด้วย.

เทียนเซียวที่ใบหน้าดำคล้ำ,ดวงตาที่เบลอดูเลือนราง,เห็นได้อย่างชัดเจนว่าชายในชุดดำนั้น,เขามี่พลังต่อต้านได้เลย,เวลานี้เขากำลังจะสิ้นสติถูกทำให้หลับ.

"คนของตระกูลเทียนรับคำสั่ง!"เทียนเซียวที่กล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงอ่อนแรง.

"เส้าเหยี่ย!"ทุกคนที่รับคำในทันที.

"ระหว่างที่ข้ากำลังหมดสติไป,ให้เสี่ยวหวังเป็นผู้นำ,ทุกคนจะต้องรับคำสั่งจากเสี่ยวหวัง,หากใครกล้าขัดขืน,จะถือว่าเป็นกบฏตระกูลเทียน!"เทียนเซียวที่อ่อนแรงกล่าวออกมา.

"รับทราบ!"แม้ว่าเหล่าผู้เยาว์ตระกูลเทียนจะไม่อยากยอมรับคำสั่งจากเสี่ยวหวัง,ทว่าด้วยคำสั่งของเส้าเหยี่ย,ย่อมไม่มีใครกล้าขัด.

จากนั้น,เทียนเซียวก็หลับตาแน่นหมดสติไป,ชายในชุดดำเห็นชัดเจนว่าแข็งแกร่งมา,เพียงแค่หนึ่งดัชนี,ก็ทำให้เทียนเซียวสลบไป.

เทียนเซียว,ระดับสวรรค์แท้,หนึ่งดัชนี? เพียงแค่หนึ่งดัชนีก็ทำให้หมดสติ? เหล่าผู้ฝึกตนที่อยู่รอบๆรู้สึกหวาดกลัวขึ้นมาทันที,คนจากโลกใบใหญ่ทรงพลังขนาดนี้เลยรึ? เผ่าอู? วิชาเมื่อกี้นี้คือวิชาอะไรกัน?เห็นได้ชัดเจนว่าพวกเขาต้องการทำให้เทียนเซียวหมดสติไป?


*********
天地不仁,以万物为刍狗。圣人不仁,以百姓为刍狗。天地之,其犹橐迭乎?虚而不屈,而愈出
。多言数,不如守中。

ฟ้าดินนั้นไร้เมตตา,ปฏิบัติคล้ายดั่งสรรพสิ่งเป็นหุ่นฟาง,ปราชญ์นั้นไร้เมตตา,
ปฏิบัติคล้ายดั่งผู้คนเป็นหุ่นฟาง

แท้จริง ฟ้า ดิน และปราชญ์ มิได้ไร้เมตตา เมตตานั้นมีอยู่ เพียงแต่ไม่เข้าไปก้าวก่ายในสรรพสิ่ง


ทำตนว่างเหมือนสูบลม มีความว่างและความไร้ ครั้นเคลื่อนไหว กลับให้พละกำลัง ยิ่งพูดมากยิ่งไร้ประโยชน์ พูดมากคำยิ่งเหน็ดเหนื่อย มิสู้เก็บคุณค่านั้นไว้ แต่เพียงภายใน






ที่มาจากhttps://lnmtl.com/novel/immortality

#นิยาย เรื่องอมตะ #Immortality#นิยายแปลไทย
Author(s)


สนใจสนับสนุนพวกเรา,เข้าร่วมกลุ่ม VIP ====> Click

***เว็ปฟรีอัพ สองวันหนึ่งตอน
***กลุ่มลับ อัพ 2-3 ตอนต่อวัน.

 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น