วันพุธที่ 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563

Immortality Chapter 625 Vicissitudes Sea of Blood

Immortality Chapter 625 Vicissitudes Sea of Blood

นิยาย เรื่อง อมตะ ตอนที่ 625 ทะเลหมอกโลหิตเฉินฝู.  

Chapter 625 Vicissitudes Sea of Blood
沉浮血海
ทะเลหมอกโลหิตเฉินฝู. 


หลังจากบินต่ออีกเก้าวัน,กลุ่มของจงซานก็เดินทางมาพบกับสถานที่เงียบสงบเหมาที่จะใช้เป็นที่พัก,นี่จึงเป็นวันแรกที่พวกเขาจะได้พัก,ดูเหมือนว่าจะใช้กำลังกายไปไม่น้อยเช่นกัน,ต้องไม่ลืมว่า,ต่อไปพวกเขาจะต้องพบกับเหล่าผู้ฝึกตนยอดฝีมือของภพหยินด้วย.



"ลางร้าย,ข้าสัมผัสได้ถึงลางร้ายที่ทิศทางดังกล่าว!"อาวุโสจิวเทียนที่ชี้ไปยังทิศทางหนึ่งของทะเลหมอกโลหิตเฉินฟู่.

ทุกคนที่ไร้คำพูด,เห็นได้อย่างชัดเจนว่าเขาหาเหตุผลอะไรบางอย่าง,ราวกับว่าหวั่นเกรงที่จะเจอคนจากตระกูลเทียน,เหมือนกับสร้างความสับสน.

จงซานที่จ้องมองไปยังอาวุโสจิว,"โปรดวางใจ,ตามข่าวที่ข้าได้มาอีกสองวันพวกเราถึงจะเข้าถึงเขตแดนของภาคตะวันออกเฉียงใต้ของภพหยิน,ทว่าตระกูลเทียนเองนั้นอยู่ตอนกลาง,สถานที่ชายแดนไกลออกมาเช่นนี้,คนของตระกูลเทียนไม่มีทางส่งคนมา,ถึงจะส่งคนมาก็ต้องใช้เวลาอีกหลายวัน,ไม่มีทางปรากฏขึ้นที่สถานที่ดังกล่าวอย่างแน่นอน!"

"ทว่าข้าสัมผัสได้ถึงลางร้ายจริง!"อาวุโสเทียนที่กล่าวออกมาเบาๆ.

จงซานที่จ้องมองไปยังอาวุโสเทียนและกล่าวอย่างเคร่งขรึม,"หากว่าเป็นเพียงแค่ลางร้ายเล็กน้อย,ไม่ใช่ลางร้ายที่น่าเกรงขาม,ไม่จำเป็นต้องบอกหากไม่ใช่นิมิตภัยพิบัติ,ไม่ต้องแจ้งข้า,ข้านำเจ้ามานั้น,หวังว่าสามารถใช้ทักษะลางร้ายเพื่อทะลวงลิขิตเพื่อพบกับนิมิตแห่งโชคได้,หรือหากว่าเจ้ากลัว,ก็กลับไป,อย่าทำให้ข้าสับสน,หากว่าเอาแต่หนี,ชั่วชั่วชีวิตนี้ก็หาได้ประสบความสำเร็จอะไร,มันไม่ไร้ความยุติธรรมต่อทักษะของเจ้า,ไม่ยุติธรรมต่อคนที่สอนทักษะนี้ให้กับเจ้าไม่ใช่รึอย่างไร."

จงซานที่จงใจกล่าวอย่างหนักหน่วง! ว่ากล่าวด้วยน้ำเสียงขึงขัง,เพื่อที่จะให้อาวุโสจิวรู้จักพยายามที่จะทะลวงนิมิตลางร้ายได้,ไม่เพียงแต่ให้เขารู้จักฝืนชะตากรรมและแยกแยะลางร้ายมากและน้อยออกจากกัน,หากว่าอาวุโสจิวไม่ยอมเชื่อฟังตัวเขาเองอย่างสุดใจ,เอาแต่หลบหนีแล้วล่ะก็,เมื่อถึงเวลาคับขันจะจัดการสถานการณ์ได้อย่างยากลำบาก.

"ใครบอกว่าข้าเอาแต่หนี?"บางที่เพราะว่ากล่าวจี้ใจดำอาวุโสเทียน,ทำให้อาวุโสเทียนกล่าวด้วยแสงแหบเคลือและดวงตาแดงซ่านกล่าวออกมาอย่างอักอ่วน.

"ฮึ ฮึ,ก็ดี,เจ้าควรจะรู้จักอดทน,และจำเอาไว้ด้วย,ตราบเท่าที่เจ้าเป็นคนของต้าเจิ้ง,จะไม่มีใครทำอันตรายเจ้าได้,ถึงแม้ว่าจะเป็นตระกูลเทียน,ก็เป็นไปไม่ได้!"จงซานที่กล่าวออกมาด้วยความจริงจัง.

จงซานที่ให้คำมั่นกับอาวุโสจิวโถว,แม้ว่าเขาจะมีความลับมากมาย,ทว่าจงซานไม่ได้ใส่ใจเรื่องนั้น,คนของต้าเจิ้งเองก็มีหลายคนที่มีความลับมากมาย,เซียนเซิงซือ,อันหวงและหวังคู,คนเหล่านี้ไม่มีใครที่ไม่มีความลับ? จงซานไม่จำเป็นต้องใตร่ถามหรือรับรู้,สิ่งที่เขาต้องการอย่างเดียวคือทุกคนจะต้องภัคดีต่อต้าเจิ้งเท่านั้น.

ขอเพียงแค่ภัคดีต่อต้าเจิ้ง,ไม่ว่าใครจะมีความลับใด,จงซานย่อมไม่ก้าวก่าย.

แน่นอนว่า,จงซานที่กล่าวเช่นนี้กับอาวุโสจิวโถว,เพราะเขามีตำหนักหยินหยาง,แม้นว่าตระกูลเทียนจะทรงพลังแค่ใหนก็ไม่สามารถสังหารอาวุโสจิวโถวได้,หากว่าสถานการณ์ไม่ดี,เขาสามารถส่งอาวุโสจิวโถวไปยังภพหยางได้.

"อืม,โปรดวางใจ,ข้าจะไม่ทำให้ขายหน้าอาจารย์,ถึงแม้ว่าจะพบกับตระกูลเทียนอีกครั้ง,ข้าก็จะไม่หลบหน้าอีกต่อไป."อาวุโสเทียนพยักหน้ารับ.

จากนั้น,คนทั้งห้าหลังจากที่พักหายเหนื่อยหนึ่งวัน,พวกเขาก็เดินทางไปยังทิศตะวันตกเฉียงใต้,เริ่มบินกันอีกครั้ง.

หลังจากบินกันอีกหนึ่งวัน,จงซานและคนอื่นๆที่เริ่มลดความเร็วลง,จวนจะเข้าไปในเขตทะเลโลหิตเฉินฝู,ในเวลานี้ทุกคนสัมผัสได้ถึงความผิดปกติที่ลอยคลุ้งอยู่ในอากาศ.

กลิ่นคาวโลหิตจากการเข่นฆ่า,อบอวนไปทั่วพื้นที่,อากาศที่กลายเป็นสีแดงจางๆ,จงซานที่สามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน.

หมอกโลหิต,ดูเหมือนว่าจะเป็นสถานที่เฉพาะที่มีในทะเลโลหิตเฉินฝู.

กลิ่นอายของโลหิต,เป็นมลภาวะทางอากาศ,ถึงแม้ว่าจะใช้ปราณพลังคุ้มกาย,แต่ก็ไม่ได้กั้นอย่างสมบูรณ์แบบ,สถานที่แห่งนี้ไม่เหมาะจะใช้ฝึกตนสำหรับผู้ฝึกตนทั่วไป,มีเพียงแค่บางคนที่ฝึกฝนวิถีมารเท่านั้น,เหล่าคนที่ก่อตั้งวิถีเต๋าเป็นอันตรายมากหากมาฝึกที่นี่,หรือแม้แต่ทำให้ธาตุไฟเข้าแทรกได้เลย.

กลุ่มของจงซานที่จ้องมองลงไปยังพื้นดิน,ไม่มีอะไรเลย,มีเพียงแค่เหล่าเจียงซือมากมาย,ที่กำลังเดินไปมายั้วเยี้ย,หากแต่ร่างของมันเป็นสีโลหิต,ทำให้ดูน่าเกียจน่ากลัวจริงๆ.

เซียนเซียนและกู่เฉียนโหยวที่ขมวดคิ้วแน่น.

"พวกมันคือศพโลหิต,หลังจากที่คนหรือสัตว์ตายลง,ไม่มีจิตสำนึกแล้วหากแต่ยังคงเหลือพลังงานอยู่ก่อนที่จะรวมร่างเป็นภูติโลหิต,เป็นเพียงหนังหุ้มพลังงาน."เซียนเซิงซือกล่าวตอบ.

เซียนเซิงซือจ้องอย่างไม่แยแส,มีเหรอที่เขาจะไม่เคยเห็น?

"พวกมันก็ไร้ซึ่งดวงวิญญาณอย่างงั้นรึ?"เซียนเซียนกล่าวสอบถาม.

"ดวงวิญญาณที่ตายแล้ว,หากแต่ไร้ซึ่งสติปัญญา,เป็นเหมือนกับเจียงซือทั่วไป,มีเลือดเนื้อเติบโตได้เหมือนกับสิ่งมีชีวิตทั่วไป,ทว่าเมื่อเติบโตร่างกายของพวกมันก็จะขยายใหญ่เรื่อยๆ,ศพโลหิตเหล่านี้สามารถที่จะเปิดภูมิปัญญาได้ในอนาคต,และจะกลายเป็นศพวิญญาณที่แข็งแกร่งได้."เซียนเซิงซือกล่าว.

"!!"เซียนเซียนใบหน้ากระตุก,เห็นชัดเจนว่ารู้สึกรังเกียจศพโลหิตเหล่านี้.

"ไปกันเถอะ!"จงซานกล่าว.

ไม่รีรออีกต่อไป,ทุกคนที่บินตรงเข้าไปด้านใน.

"หนานกงเซิ่งซ่อนตัวอยู่ที่นี่อย่างงั้นรึ? มองไม่เห็นเลย,ทว่าสัมผัสเทวะที่กวาดออกไปเต็มไปด้วยหมอกพิษ! ทุกแห่งเต็มไปด้วยศพโลหิตที่น่ารังเกียจ!"เซียนเซียนที่ขมวดคิ้วไปมา.

"สถานที่แห่งนี้ค่อนข้างพิเศษ,เหมาะกับผู้ฝึกตนบางจำพวก,นอกจากนี้ยังได้ยินมาว่าทะเลหมอกโลหิตเฉินฝูนี้,ยังมีสำนักหลายแห่งตั้งอยู่!"กู่เฉียนโหยวตอบ.

เซียนเซียนที่พยักหน้า,และยังปิดจมูกของตัวเองเอาไว้,เห็นได้ชัดเจนว่ากลิ่นคาวโลหิตนั้นหนักหน่วงเป็นอย่างมาก.

จากนั้นไม่นาน,จงซานที่เห็นเงาคน,ใบยอดเขาแห่งหนึ่ง,มีเงาคนหลายๆคนที่กระจายไปทั่ว,จงซานที่เหินลงไปบนยอดเขา,สายตาของเงาเหล่านั้นจ้องมองมาด้วยสายตาที่ดุร้ายไม่เป็นมิตร.

คนเหล่านี้มีระดับหลอมกายธาตุ,พวกเขาไม่กล้าเข้าไปด้านใน,ราวกับว่ามีเรื่องน่ากลัวบางอย่างซ่อนเอาไว้อยู่.

เห็นกลุ่มของจงซานบินมา,คนเหล่านี้ที่แสดงท่าทางระมัดระวัง,และจ้องมองไปยังพวกเขาด้วยสายตาเย็นชา.

มีคนจำนวนมาก,ส่วนมากแล้วเป็นภูติวิญญาณ,รูปร่างไม่ใหญ่โตนัก,ส่วนมากพวกเขาจะสวมชุดสีดำปกปิดไปทั่วทั้งร่าง.
These medium masters, could not participate in competition of internal Expert, went in likely is ‚dying’, but they were not willingly, can only wait in the surrounding.
พวกเขาที่เป็นผู้ฝึกตนทั่วไป,ไม่สามารถที่จะเข้าร่วมการต่อสู้ของยอดฝีมือที่อยู่ด้านในได้,และแน่นอนว่าพวกเขาไม่ยินดีที่จะตกตายไปแน่,ทำให้พวกเขาได้แต่รอคอยอยู่ด้านนอก.

"ฝ่าบาท,ให้ไปสอบถามคนเหล่านี้เกี่ยวกับสถานการณ์หรือไม่?"เซียนเซิงซือขมวดคิ้วสอบถาม.

"มีลางร้ายเล็กน้อย!"อาวุโสจิวที่กล่าวตอบ.

"เข้าไปด้านในต่อ,คนเหล่านี้ไม่ได้เข้าลึกไปด้านใน,ถามไปก็ไร้ประโยชน์!"จงซานกล่าวอย่างเคร่งขรึม.

จากนั้นกลุ่มของพวกเขาก็บินลึกเข้าไปยังด้านใน.

หมอกโลหิตที่หนาแน่นมากขึ้นและก็มากขึ้น,ศพโลหิตเองก็มีจำนวนมากขึ้นเช่นกัน,แม้แต่บางตนที่เปิดเชาว์วิญญาณแล้ว,ศพโลหิตบางตนที่สวมใส่ชุดเหมือนกับภูติมนุษย์,และยังมีทักษะควบคุมภูติโลหิตที่ยังไม่เปิดเชาว์ปัญญาได้อีกด้วย,อย่างไรก็ตามเหล่าศพโลหิตที่เปิดเชาว์ปัญญาย่อมรับรู้เช่นกันว่าบนอากาศนั้นคือยอดฝีมือ,พวกมันไม่กล้าเข้ามาหาเรื่องจงซานและพรรคพวกอย่างแน่นอน.

เหล่ายอดฝีมือเอง,ยิ่งเข้ามาลึกก็จะยิ่งพบมากขึ้น,แต่ละคนแต่ละกลุ่มจะยึดครองยอดเขาที่แตกต่างกันไป,หยุดนิ่งรอคอยอะไรบางอย่าง,มีแต่คนที่พลังฝึกตนสูงเท่านั้นที่เข้ามาด้านใน.

หลังจากนั้นหนึ่งชั่วยาม,กลุ่มของจงซานก็เข้ามาถึงยังใจกลางของทะเลหมอกโลหิตเฉินฝู.

ในเวลานี้คนมากมายที่จ้องมองพื้นที่ตรงกลาง,บนทะเลหมอกโลหิตเฉินฝูนั้น,ไม่มีหมอกโลหิตแม้แต่น้อย,ทว่ามันถูกแทนที่ด้วยปราณกระบี่มากมายนับไม่ถ้วน,ปราณกระบี่สีแดงโลหิต,ที่กระจายไปทั่วอากาศ.

ปราณกระบี่ที่หนาแน่น,ทำลายหมอกโลหิตจนหายไปหมด,หากแต่ไม่สามารถมองเห็นด้านในได้เลย,แม้แต่สัมผัสเทวะ,คาดไม่ถึงเลยว่าจะถูกปราณกระบี่ที่ทรงพลังทำลายไปจนสิ้น.

ในเวลาเดียวกัน,จงซานที่สัมผัสได้ถึงแรงกดดันที่น่าเกรงขามและสัมผัสถึงจิตสังหารที่โถมกระหน่ำเข้ามา.

หัวใจของจงซานที่บีบรัดทีเดียว,เป็นแรงกดดันวิญญาณที่น่าเกรงขามมาก.

เจตจำนงกระบี่ที่สาดกระจายไปทั่ว,ทำให้คนที่อยู่รอบๆต้องถอยห่างออกมาครึ่งก้าว,สัมผัสนี้,ราวกับว่าเป็นพลังของเทพก็ไม่ปาน.

กลิ่นอายกระบี่ที่น่าเกรงขามนี้,ทำให้คนสั่นกลัวได้,ราวกับว่าเป็นจักรพรรดิของกระบี่.

เหล่ายอดฝีมือที่อยู่รอบๆ,แววตาที่เปลี่ยนไปมา,มือหนึ่งที่กุมที่ด้านกระบี่ของตัวเองตลอดเวลา.

จงซานที่สูดหายใจลึก,เจตจำนงกระบี่,นี้จงซานตระหนักได้ก่อนหน้านี้,ราวกับว่ามันคือกระบี่จิวเซียนของแดนเทพอมตะ! หากแต่เจตจำนงกระบี่ด้านหน้านี้แตกต่างกันเล็กน้อย,เจตจำนงกระบี่ด้านหน้านี้เต็มไปด้วยจิตสังหารที่รุนแรงมาก.

"นี่มันเป็นค่ายกล!"เฉียนโหยวที่ขมวดคิ้วไปมา.

เป็นความจริง,ปราณกระบี่มากมายนับไม่ถ้วนนี้,รอบๆพื้นดินที่ชายในชุดสีแดงมากมาย,ทุกคนสะพายกระบี่ด้านหลัง,ยืนล้อมรอบพื้นที่ค่ายกลด้านใน.

"นับเป็นสำนักขนาดใหญ่,ค่ายกลนี้ด้านในและด้านนอกถูกแบ่งแยกออกจากกัน! ดูเหมือนว่าพวกเราจะมาช้าไป!"จงซานที่ขมวดคิ้วไปมา.

"สำนักอะไรกัน? พวกเขามั่นใจว่าจะแย่งตำราปฐพีกับหนานกงเซิ่งได้อย่างงั้นรึ? หนานกงเซิ่งเป็นเซียนไม่ใช่รึ?"เซียนเซียนที่ขมวดคิ้วไปมา.

"เซียน? เซียนแล้วอย่างไร? ในอดีตนั้นกู่เฉิงตง,เซิ่งซ่างต้าโหลว,เขามีพลังเพียงพอที่จะสังหารเซียนทั่วไปได้ไม่ใช่รึ?"จงซานที่กล่าวตำหนินาง.

เซียนเซียนแลบลิ้นเล็กออกมา.

"ด้านในคือค่ายกลล้านสังหาร!"อาวุโสจิวที่ครุ่นคิดและกล่าวออกมา.

"ล้านสังหารรึ?"จงซานที่ขมวดคิ้วไปมา.

เกี่ยวกับร่างแยกเงาของจงซานนั้น,แม้ว่าจะไม่มีนิมิตโชคดีโชคร้าย,ทว่าร่างกายของร่างนี้ก็พิเศษ,ไม่ธรรมดาเขาสามารถป่านเข้าไปด้านในได้อย่างสบาย,ทว่าเขาไม่ได้มาตัวคนเดียว,เช่นนั้นจงซานจึงจำเป็นต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ,ไม่หวังให้เฉียนโหยวและเซียนเซียนได้รับอันตรายแน่นอน.

"หาใครสักคนที่เห็นเหตุการก่อนหน้านี้!"จงซานกล่าว.

"ก่อนหน้านี้ข้าเห็นเป่าหมาป่าด้วย,ที่ยอดเขาแห่งหนึ่ง,พวกเราไปถามคนเหล่านั้นก็แล้วกัน!"เซียนเซียนที่เอ่ยออกมาในทันที.

"อืม!"

จากนั้นจงซานก็นำคนของเขาบินตรงไปยังยอดเขาแห่งหนึ่งไม่ไกลออกไป,ซึ่งมีร่างหกร่างยืนอยู่.

หนึ่งคนที่เป็นผู้นำ,อีกห้าคนที่อยู่ด้านหลัง,ห้าคนดังกล่าวนั้นมีใบหูเหมือนกับเผ่าหมาป่า,ทว่าหูของพวกมันไม่มีขน,เหมือนกับเหล่าสิ่งมีชีวิตที่ตานแล้ว,และสามารถกลายร่างเป็นมนุษย์แท้ได้,ทว่าก็มีระดับจักรพรรดิแท้,ส่วนตัวผู้นำนั้น,มีใบหูเหมือนกับภูติมนุษย์ทั่วไป,เห็นชัดเจนว่ามีระดับสูงกว่าระดับจักรพรรดิแท้.

"เหยียเหยี่ยจะสอบถามภูติหมาป่าของภพหยินเอง!"เซียนเซียนที่กล่าวเบาๆต่อจงซาน.
爷爷, yěyě, เหยียเหยี่ย, ปู่.

ราวกับว่าคำพูดของเซียนเซียนนั้น,ชายที่อยู่ด้านหน้าจะได้ยินและหันหน้ามามองด้วยความเย็นชา.

"หมาป่าขาว? ชิ!"ชายที่อยู่ด้านหน้าไม่สนใจแสดงท่าทางไม่สนใจเซียนเซียนแม้แต่น้อย.

เซียนเซียนที่เห็นชายที่เป็นผู้นำเผยท่าทางเย็นชาออกมา,ก็จ้องมองจงซานด้วยท่าทางอักอ่วนเช่นกัน,ขณะที่เตรียมจะสอบถามข่าว,ดูเหมือนเหล่าภูติหมาป่าจะไม่สนใจนางแม้แต่น้อย,แม้แต่แสดงท่าทางรังเกียจ,ไม่ต้องการให้สอบถามอย่างชัดเจน.

"พวกเราไปสอบถามคนอื่นก็แล้วกัน!"เซียนเซียนที่ถอนหายใจ.

ส่วนจงซานที่ได้แต่ส่ายหน้าไปมา.

เห็นจงซานที่ส่ายหน้าไปมา,เซียนเซียนที่ดูประหลาดใจ,คนอื่นๆที่ไม่สนใจนาง,นางหาได้สนใจ,ทว่านางไม่ต้องการให้จงซานตำหนินางแต่อย่างใด.

"เจ้ายังจำที่ตี้เสวียนชาที่ให้เจ้าเดินทางมาภพหยิน,มีเป้าหมายอะไร?"จงซานที่สูดหายใจลึก.

"ข้า?อืม."เซียนเซียนที่ขมวดคิ้วเล็กน้อย,จากนั้นก็จ้องมองจงซานสายตาชม้อย,ก่อนที่ท้ายที่สุดก็เปลี่ยนเป็นหนักแน่น.

เซียนเซียที่หันหน้าไปมองฝ่ายตรงข้าม,เหล่าภูติหมาป่า.

"ข้าหมาป่าเซียนเซียน,ไม่รู้ว่าจะเรียกทุกท่านว่าอย่างไร?"เซียนเซียนที่ก้าวไปด้านหน้าด้วยความสุขุม.

"เอ๊ะ?"ชายที่เป็นผู้นำที่เผยท่าทางเย็นชาออกมาทำให้ทุกคนพร้อมที่จะสู้ในทันที,หากแต่ไม่คิดว่าฝ่ายตรงข้ามยังกล้าเข้ามาอีก.




ที่มาจากhttps://lnmtl.com/novel/immortality

#นิยาย เรื่องอมตะ #Immortality#นิยายแปลไทย
Author(s)


สนใจสนับสนุนพวกเรา,เข้าร่วมกลุ่ม VIP ====> Click

***เว็ปฟรีอัพ สองวันหนึ่งตอน
***กลุ่มลับ อัพ 2-3 ตอนต่อวัน.

 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น