Immortality Chapter 607 Marsh Cauldron Body
นิยาย เรื่อง อมตะ ตอนที่ 607 ร่างสถิตกายาโคลน
Chapter 607 Marsh
Cauldron Body
兑鼎之身
ร่างสถิตกายาโคลน
ฝ่ามือธรรมดาทั่วไป,คาดไม่ถึงเลยว่าจะทำให้จงซานลอยโด่งออกไป.
แม้ว่าพลังฝึกตนของจงซานจะมีเพียงระดับจักรพรรดิแท้,ทว่าความแข็งแกร่งของเขานั้น,เทียบเท่ากับระดับราชันย์แท้,ทว่าถึงจะมีพลังระดับราชันย์แท้ก็ตาม,ทว่าด้วยความแข็งแกร่งที่มี,ก็ทำให้เขาลอยโด่งขึ้นไปบนท้องฟ้าลิบลิ่วด้วยฝีมือของนวีชิงเฮวย.
ฝ่ามือเดียว? เพียงแค่ฝ่ามือเดียวรึ?
ระดับสวรรค์แท้และระดับราชันย์แท้ช่างแตกต่างกันนัก!
อย่างไรก็ตามแรงอัดอากาศดังกล่าว,แม้จะทำให้เขาลอยระลิ่วออกไปไกล,ทว่าด้วยกายาเทพอสูร,ไม่เพียงแต่ความแข็งแกร่งที่เพิ่มขึ้น
ทว่ากายเนื้อของเขาก็เพิ่มความแข็งแกร่งขึ้นอีกหลายเท่าตัวเช่นกัน.
จงซานที่ลอยสูงขึ้นไป,ก่อนที่จะหยุดลงบนอากาศที่สูงลิบลิ่ว.
พริบตาเดียวที่ยั้งเท้าหยุดได้,แรงกดดันที่แข็งแกร่งก็กดทับลงมาเช่นกัน,จงซานที่ถอยอีกครั้ง,กลิ่นอายนี้,จงซานที่สัมผัสได้ถึงความเป็นปฏิปักษ์ที่น่าเกรงขามเช่นกัน.
เป็นพลังของค่ายกลเทพเหมันต์ทำลายโลกนั่น,แม้ว่าพลังของค่ายกลที่อ่อนลงก็ตาม,ทว่าก็สามารถผลักดันจงซานให้ลอยเคว้งล่วงหล่นลงมาบนพื้น.
จงซานที่หมุนตัวก่อนที่จะหยุดลง,ทว่าในเวลานั้น,นวีชิงเฮวยที่ปรากฏขึ้นที่ด้านหน้าจงซาน.
แววตาของจงซานที่ตื่นตกใจเล็กน้อยเช่นกัน,ระดับราชันย์แท้ต่อหน้าระดับสวรรค์แท้,คาดไม่ถึงเลยว่าจะแตกต่างกันเกินไป,เขาแทบไม่ต่างจากลูกไก่ในกำมือเลยรึ?
"ข้าบอกแล้วว่าลำพังเจ้านะรึ?"นวีชิงเฮวยที่เผยยิ้มเหยียดหยัน.
จงซานไม่ได้รีบร้อยอะไรมากมายนัก,ต้องไม่ลืมว่า,แม้นว่าพลังฝึกตนจะแตกต่างกันไกลโข,ทว่าจงซานนั้นมีแปดหางสวรรค์แห่งจุดจบที่ไร้เทียมทาน,พลังของแปดหางสวรรค์ที่ได้กลืนกินเทพอสูรซือเนาไป,พลังของมันก็เพิ่มขึ้นมาอย่างบ้าคลั่ง,จงซานเชื่อว่าตราบเท่าที่เขาใช้แปดหางสวรรค์แห่งจุดจบออกมา,แน่นอนว่าย่อมไม่เสียเปรียบแม้ว่าจะไม่สามารถกล่าวว่าไร้เทียมทาน,ทว่าอย่างน้อยย่อมสามารถต่อกรกับนวีชิงเฮวยได้!
"ลำพังเจ้า! ก็ไม่สามารถทำให้ข้าบาดเจ็บเช่นกัน!"จงซานที่ชำเลืองมองไปยังนวีชิงเฮวย.
เป็นความจริง,แม้นว่าฝ่ามือของนวีชิงเฮวยจะทำให้จงซานลอยโด่งออกไปไกล,หากแต่เขาก็ไม่ได้รับบาดเจ็บแม้แต่น้อย,ร่างกายของจงซาน,ที่เวลานี้มีพลังกายาเทพอสูรขั้นที่หก,กายเนื้อเทียบเท่ากับเผ่ามังกร,หรือแม้แต่เหนือกว่าด้วยซ้ำ.
นวีชิงเฮวยที่แสดงท่าทางเหยียดหยัน,เกี่ยวกับคำพูดของจงซาน,นางไม่โต้เถียงอะไรออกไป,เพราะว่านางก็ตกใจอยู่เล็กน้อยเช่นกันเมื่อพบว่ากายเนื้อของจงซานนั้นแข็งแกร่งมาก,บางทีพลังป้องกันนี้อีกไม่นานคงจะเทียบได้กับกู่เฉิงตงในอดีตทีเดียว.
คิดถึงกู่เฉิงตง,ดวงตาของนวีชิงเฮวยที่เปลี่ยนเป็นเย็นชา.
"เอ๊ะ?"จงซานที่อุทานออกมาเบาๆ.
จงซานที่ยั้งเท้าเหยียบลงบนพื้น,ทั้งที่ก่อนหน้านี้เป็นพื้นศิลาทว่ามันกลับอ่อนนุ่มลง,จงซานต้องก้มหน้าลงมอง,ซึ่งพบว่าบนพื้นดินรอบๆนี้มีสีดำกระจายไปทั่ว,เหมือนกับดินเลน,เป็นเรื่องที่แปลกประหลาดเป็นอย่างมาก.
ดินเลนสีดำ,ทว่ามีพลังที่มากมายดูดจงซานไปพร้อมๆกัน,ราวกับเป็นโคลนดูดที่กำลังดึงรั้งจงซานเอาไว้.
โคลนดูดรึ?
ในเวลานี้จงซานก็พบว่าพื้นที่รอบๆได้กลายเป็นดินเลนไปทั้งหมดเรียบร้อยแล้ว.
ไกลออกไป,พื้นที่รอบๆขนาดใหญ่ทำให้ดวงตาของจงซานเบิกกว้าง,บึงเลน?
บึงเลนมาจากใหน? ค่ายกลอย่างงั้นรึ?
ค่ายกลรึ?
ไม่ใช่ค่ายกล,หากแต่นี้เป็นฝีมือของนวีชิงเฮวย.
เป็นบ่อบึงเลนที่แปลกประหลาด,โคลนสีดำ,ที่มีพลังความแข็งแกร่งในการดูดเป็นอย่างมาก,จงซานต้องการบินขึ้น,ทว่าบึงเลนที่ยังคงดึงร่างของเขาเอาไว้,ไม่ให้เขาบินขึ้นไป,ขณะที่จงซานสร้างสนามพลังวายุรอบๆเท้าต้องการสลัดบินหนีออกไป,ทว่าดินเลนที่สั่นเป็นระลอกคลื่นกระจายพลังออกไป,ราวกับว่ามีเป็นดินเลนที่มีชีวิต,เป็นพลังที่แปลกประหลาดเป็นอย่างมาก.
เป็นเช่นนี้ได้อย่างไร?
แม้นว่าร่างแยกเงาของเขาที่บำเพ็ญวิชา"โคลนกร่อนสรรพชีวิต" เป็นวิชาที่เกี่ยวกับดินเลนเช่นกันหากแต่ก็ไม่สามารถทำเช่นนี้ได้.
จงซานสัมผัสได้ว่าราวกับร่างของนวีชิงเฮวยที่หลอมรวมเข้ากับบึงเลนนี้ก็ไม่ปาน.
จงซานทีตวัดฟันดาบยักษ์ของเขาออกไป.
ปราณดาบที่น่าเกรงขาม,ปกคลุมด้วยกลิ่นอายดาบขนาดใหญ่.
"ฟิ้ว!!!"
ปราณดาบที่กรีดดินเลน,คลื่นโคลนที่พุ่งกระเซ็นออกไปทุกทิศทุกทาง,พร้อมกับเปลี่ยนเป็นคลื่นขนาดใหญ่ที่มีรัศมีหลายร้อยลี้,ปิดท้องฟ้าเอาไว้จนมืดมิf,คลุมนวีชิงเฮวยและจงซานเอาไว้ด้านใน.
ภายในรัศมีหนึ่งร้อยลี้นี้พื้นดินที่ปกคลุมผืนฟ้าไปหมด,ไม่มีใครสามารถมองเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นด้านในได้.
โคลนที่ปกคลุมทุกอย่าง,พุ่งขึ้นเพียงพริบตาเดียว,ก่อนที่จะกลับลงสู่พื้นดิน,พร้อมกับสภาพเป็นพื้นราบเรียบ,ทุกอย่างที่หายไปหมด.
ไม่มีแล้ว?
"อยู่ใต้บึงเลน!"ไม่รู้ว่าใครกล่าวออกมา.
สายตาของทุกคนที่จับจ้องมองไปยังพื้นบึงเลนตรงกลาง,ดูเหมือนว่ามันจะมีการสั่นไหวอยู่เป็นระยะ,แน่นอนว่าจะต้องเกิดการต่อสู้ของยอดฝีมือทั้งสองอยู่แน่ๆ.
จงซานและนวีชิงเฮวยที่จมลึงลงมาใต้ดินเลน,พื้นที่รอบๆเป็นโคลนสีดำ,หากแต่มีพลังที่ลึกลับแปลกประหลาดเป็นอย่างมาก,จงซานในเวลานี้ปล่อยกลิ่นอายคุ้มกายเอาไว้,เป็นม่านพลังที่ปกป้องร่างกาย,คลุมร่างไม่ให้โคลนบดขยี้ร่างของเขา.
ส่วนอีกฝั่งหนึ่ง,นวีชิงเฮวยที่อยู่ไม่ไกลออกไปเผยยิ้มอย่างพึงพอใจจดจ้องมองไปยังจงซาน.
พื้นที่รอบๆที่เต็มไปด้วยบึงเลน,อยู่ภายในการควบคุมของนวีชิงเฮวยอย่างสมบูรณ์,อาจจะเรียกได้ว่านางคือผู้ควบคุมดินแดนแห่งนี้เลยก็ว่าได้.
"มีปัญหาอะไร?
มีอะไรจะพูดอีก?ด้วยโคลนทมิฬของข้า,อีกไม่กี่อึดใจ,แรงกดจะเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งเท่าและจะเพิ่มขึ้นอีกเรื่อยๆ,ถึงแม้ว่าเจ้าจะมีกายเนื้อที่แข็งแกร่ง,แต่สุดท้ายก็จะไม่ต่างจากเนื้อบด,แม้แต่ดวงวิญญาณของเจ้าข้าก็จะไม่ปล่อยออกไป."นวีชิงเฮวยกล่าวออกมาด้วยเสียงเย็นชา.
ม่านพลังของจงซานที่สั่นไหวไปมา,จากแรงบี[ของบึงเลน.
"ดูเหมือนว่า,เจ้าจะมีร่างสถิตกายาโคลนอย่างงั้นรึ?
ไม่แปลกใจเลยว่าสามารถใช้วิชา"ปฐพีผันแปรพัวพัน"ได้ "จงซานที่เผยสีหน้าแววตาประหลาดใจ.
กับคำพูดของจงซานทำให้นวีชิงเฮวยดวงตาหดเกร็ง.
"เจ้ารู้เรื่องนี้ได้อย่างไร?"ดวงตาของนวีชิงเฮวยที่ประหลาดใจไม่แน่ใจ,นี่เป็นความลับที่สุดของนาง.
"มีสิ่งใดบ้างที่ข้าไม่รู้?"จงซานที่กล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม.
"จะตายอยู่แล้ว,ยังยิ้มได้อยู่รึ? วิชานี้มาจากโลกใบใหญ่มีคนเผยแพร่ออกมาเมื่อพันปีที่แล้วที่ภพหยิน,ที่จริงเจ้ารู้เพราะมาจากภพหยินอย่างงั้นรึ?"นวีชิงเฮวยที่ขมวดคิ้วจดจ้องมองจงซาน.
"เจ้ากำลังพูดอะไร?"จงซานที่เผยยิ้มออกมาเล็กน้อย,แสดงท่าทางล้อเลียนนาง.
วิชาดังกล่าวนั้น,จงซานย่อมรับรู้ได้อย่างดี,เพราะร่างแยกเงาของจงซานฝึกฝน"โคลนกัดกร่อนสรรพชีวิตอยู่"
ซึ่งเป็นวิชาที่คลายคลึงกัน,ซึ่งจงซานได้พูดคุยปรึกษากับเซียนเซิงซือ,ซึ่งเซียนเซิงซือเองก็รับรู้เรื่องวิชา"ปฐพีผันแปรพัวกัน"ซึ่งเป็นวิชาที่ทรงพลังมาก,เพียงแค่ว่าฝึกฝนได้ลำบากอย่างที่สุด,มีเพียงแค่คนที่มีกายสถิตกายาโคลน,หนึ่งในเก้าร่างสถิตเท่านั้นถึงจะฝึกได้.
แววตาของนวีชิงเฮวยที่มืดมนไม่แน่ใจ,ก่อนที่จะเปลี่ยนเป็นแววตาที่เย็นชา"ข้าถามว่าเจ้าไปรู้มาจากใหน,เจ้ารู้วิชานี้ได้อย่างไร,เจ้าสารเลว!"
สิ้นเสียงของนวีชิงเฮวย,บึงเลนเวลานี้สั่นอย่างรุนแรง,พลังบีบรัดที่หนักหน่วงขึ้นอย่างรุนแรงมากขึ้นและก็มากขึ้น.
"ดูตรงนั้น,บึงเลนกำลังหดตัวอย่างรุนแรง!"คนทั่วไปที่อยู่ไกลออกมาอุทานด้วยความประหลาดใจ.
"เป็นพลังน่าหวาดกลัวนัก!"
ขณะที่คนด้านนอกเต็มไปด้วยความหวาดผวา,จงซานที่อยู่ด้านในกำลังถูกโคลนเลนบีบรัดมากขึ้นและก็มากขึ้น,พลังมากมายมหาศาล,ที่กำลังบีบอัดเพิ่มพลังมากขึ้นเรื่อยๆ,แม้นว่าร่างกายของจงซานจะขยับไม่ได้,ทว่าก็ยังคงต้านทานได้อยุ่.
จงซานที่กัดฟันแน่,ไม่เอื้อนเอ่ยอะไรออกมาอีก,ทว่าดวงตาของเขาที่ค่อยเปลี่ยนเป็นเย็นชา,พร้อมกับแสดงท่าทางว่ากำลังพ่ายแพ้ต่อนวีชิงเฮวย.
เห็นจงซานกำลังดิ้นรน,ที่มุมปากของนวีชิงเฮวยที่เผยแววตาตื่นเต้นดีใจ,จงซานตายไป,ก็จะไม่มีใครรู้ความลับของนางอีก.
จงซานกำลังรอความตายอย่างงั้นรึ?
แน่นอนว่าไม่,ขณะที่นวีชิงเฮวยกำลังบังคับบึงเลนบีบร่างเขาอยู่นั้น,หมอกหงหลวนเทียนเวลานี้กำลังกระจายออกไปพื้นที่รอบๆ.
โคลนเลนสีดำทมิฬที่กำลังบดขยี้,หมอกหงหลวนที่พุ่งตรงไปยังร่างของนวีชิงเฮวย,หมอกหงหลวนไร้สีไร้กลิ่นกำลังซึมเข้าร่างของนวีชิงเฮวย.
นวีชิงเฮวยขณะที่บังคับโคลนเลนบีบรัดจงซานให้ตกตายไป,หากแต่นางกลับรู้สึกราวกับว่าจงซานแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ,ทว่าที่จริงแล้วเป็นหมอกหงหลวนที่กำลังกระจายเข้าไปภายในร่างกายของนางมากขึ้นและก็มากขึ้นนั่นเอง.
มันยังไม่ได้ออกผลในทันที,จำเป็นต้องรอคอยชั่วระยะเวลาหนึ่ง,ขณะที่สองคนใต้ผืนปฐพีกำลังต่อสู้กันอยู่นั้น.
มีการต่อสู้ด้วยการสามแห่ง,หวังคู่และกุยโซวที่ต่อสู้พัวพัน,ผลักดันกันไปมา.
ค่ายกลเทพเหมันตร์ทำลายโลกปะทะกับเจดีย์ฉีหลิงพลังน้ำแข็งที่บ้าคลั่ง,และประกายแสงสีทองที่โจมตีผลักกันไปมา,เป็นพลังที่ยิ่งใหญ่อลังการยิ่งใหญ่เป็นอย่างมาก.
ส่วนคู่ของจงซานและนวีชิงเฮวยนั้นแม้นว่าจะไม่ยิ่งใหญ่อลังการหากแต่ก็ไม่เงียบสงบ,พื้นดินที่กำลังส่ายไปมาเป็นระลอกคลื่นในสนามรบ,สายตาทุกคนที่จ้องมองไปยังผืนดินที่ส่ายไปอย่างรุนแรงเช่นกัน.
สายตาของทุกคนที่จ้องมองทั้งด้านบนและด้านล่าง.
เป่ยชิงซือ,ปิงเสวียนและอาวุโสของแดนเทพอมตะที่ไม่สามารถวางตาได้เลย,เพราะการต่อสู้ในครั้งนี้,ยังไม่สามารถบอกผลได้เลย.
"ซี่ๆๆๆ"
รอบๆตำหนักและในตำหนัก,ตลอดจนห่างออกมาด้านหน้าต่างก็จดจ้องมองดูการต่อสู้กันอย่างดุเดือด.
ไม่ว่าจะเป็นของสนามรบใด,ต่างก็ทำให้ทุกคนต้องประหลาดใจดวงตาเบิกกว้าง,อุทานออกมาเป็นระยะๆ,และในเวลาเดียวกันอาวุโสคนหนึ่งแดนเทพอมตะ,ที่บนหน้าอกของเขา,ทันใดนั้นก็ปรากฏกระบี่อ่อนสีม่วงที่แทงเข้าหน้าอกของเขาในทันที.
อาวุโสที่มีระดับราชันย์แท้,เขาถูกลอบโจมตีอย่างงั้นรึ?
กระบี่แทงหน้าอกของเขา!
ไม่,ศีรษะของเขา,ที่ถูกตัดออกไปด้วย,โลหิตที่พุ่งกระฉูด.
ตาย? อาวุโสที่ดวงตาเบิกกว้าง,ไม่อยากเชื่อความเป็นจริง,ใครกันที่ลอบโจมตีเขา?
กระบี่ที่โผล่ออกมาจากอากาศ,ทะลวงแกนหยาง,ตัดวิญญาณเทวะ,เป็นไปได้อย่างไร?
มันจะเป็นไปได้อย่างไร? ที่ข้าไม่พบอย่างั้นรึ?
"บังอาจ!!!"
เสียงคำรามจากด้านในตำหนัก,แรงกดดันวิญญาณที่โถมกระหน่ำมา,ร่างๆหนึ่งที่หลบหนีออกไป,เสียงคำรามของผู้ฝึกตนสวรรค์แท้,จื่อจุ้นเผ่าอีกา,อู๋หวน!
อู๋หวนเองกำลังสนใจสนามรบด้านหน้า,ดังนั้นจึงไม่ได้สนใจรอบๆ,หากแต่เพียงแค่เขาประมาท,คาดไม่ถึงเลยว่าต่อหน้าเขา,จะมีคนลอบเข้ามาโจมตีอาวุโสของแดนเทพอมตะ.
น่าหวั่นเกรงมาก,เป็นการลอบโจมตีที่ทรงพลังมาก,คาดไม่ถึงเลยว่าจะปิดซ่อนกลิ่นอายจากระดับสวรรค์แท้ได้อย่างั้นรึ?
ใครกัน? ใครคือมือสังหาร?
สายตาของทุกคนที่จ้องมองไปยังชายในชุดคลุมสีดำที่ลอยอยู่บนอากาศ,ชุดดำที่ปิดหน้าปิดตา,มือถือกระบี่สีม่วง,เห็นได้ชัดเจนว่าอู๋หวนรู้ตัวตนของเขาแล้ว,เป็นไปไม่ได้ที่จะซ่อนตัวอีก.
อู๋หวนที่มาปรากฏตัวขึ้นที่ด้านนอกตำหนัก,ใบหน้าที่จ้องมองไปยังชายในชุดสีดำกระบี่สีม่วงด้วยความโกรธเกรี้ยว.
"เจ้าเป็นใคร?"อู๋หวนที่แค่นเสียงเย็นชา,แววตาที่เต็มไปด้วยความขุ่นเคือง.
"อันหวง!
คารวะจือจุ้นอู๋หวน!"อันหวงกล่าวอย่างเคร่งขรึม.
ที่มาจากhttps://lnmtl.com/novel/immortality
#นิยาย เรื่องอมตะ #Immortality#นิยายแปลไทย
Author(s)
สนใจสนับสนุนพวกเรา,เข้าร่วมกลุ่ม VIP ====> Click
***เว็ปฟรีอัพ สองวันหนึ่งตอน
***กลุ่มลับ อัพ 2-3 ตอนต่อวัน.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น