วันศุกร์ที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2563

Immortality Chapter 607 Marsh Cauldron Body

Immortality Chapter 607  Marsh Cauldron Body

นิยาย เรื่อง อมตะ ตอนที่ 607   ร่างสถิตกายาโคลน


Chapter 607  Marsh Cauldron Body
鼎之身
  ร่างสถิตกายาโคลน

ฝ่ามือธรรมดาทั่วไป,คาดไม่ถึงเลยว่าจะทำให้จงซานลอยโด่งออกไป.

แม้ว่าพลังฝึกตนของจงซานจะมีเพียงระดับจักรพรรดิแท้,ทว่าความแข็งแกร่งของเขานั้น,เทียบเท่ากับระดับราชันย์แท้,ทว่าถึงจะมีพลังระดับราชันย์แท้ก็ตาม,ทว่าด้วยความแข็งแกร่งที่มี,ก็ทำให้เขาลอยโด่งขึ้นไปบนท้องฟ้าลิบลิ่วด้วยฝีมือของนวีชิงเฮวย.



ฝ่ามือเดียว? เพียงแค่ฝ่ามือเดียวรึ? ระดับสวรรค์แท้และระดับราชันย์แท้ช่างแตกต่างกันนัก!

อย่างไรก็ตามแรงอัดอากาศดังกล่าว,แม้จะทำให้เขาลอยระลิ่วออกไปไกล,ทว่าด้วยกายาเทพอสูร,ไม่เพียงแต่ความแข็งแกร่งที่เพิ่มขึ้น ทว่ากายเนื้อของเขาก็เพิ่มความแข็งแกร่งขึ้นอีกหลายเท่าตัวเช่นกัน.

จงซานที่ลอยสูงขึ้นไป,ก่อนที่จะหยุดลงบนอากาศที่สูงลิบลิ่ว.

พริบตาเดียวที่ยั้งเท้าหยุดได้,แรงกดดันที่แข็งแกร่งก็กดทับลงมาเช่นกัน,จงซานที่ถอยอีกครั้ง,กลิ่นอายนี้,จงซานที่สัมผัสได้ถึงความเป็นปฏิปักษ์ที่น่าเกรงขามเช่นกัน.

เป็นพลังของค่ายกลเทพเหมันต์ทำลายโลกนั่น,แม้ว่าพลังของค่ายกลที่อ่อนลงก็ตาม,ทว่าก็สามารถผลักดันจงซานให้ลอยเคว้งล่วงหล่นลงมาบนพื้น.

จงซานที่หมุนตัวก่อนที่จะหยุดลง,ทว่าในเวลานั้น,นวีชิงเฮวยที่ปรากฏขึ้นที่ด้านหน้าจงซาน.

แววตาของจงซานที่ตื่นตกใจเล็กน้อยเช่นกัน,ระดับราชันย์แท้ต่อหน้าระดับสวรรค์แท้,คาดไม่ถึงเลยว่าจะแตกต่างกันเกินไป,เขาแทบไม่ต่างจากลูกไก่ในกำมือเลยรึ?

"ข้าบอกแล้วว่าลำพังเจ้านะรึ?"นวีชิงเฮวยที่เผยยิ้มเหยียดหยัน.

จงซานไม่ได้รีบร้อยอะไรมากมายนัก,ต้องไม่ลืมว่า,แม้นว่าพลังฝึกตนจะแตกต่างกันไกลโข,ทว่าจงซานนั้นมีแปดหางสวรรค์แห่งจุดจบที่ไร้เทียมทาน,พลังของแปดหางสวรรค์ที่ได้กลืนกินเทพอสูรซือเนาไป,พลังของมันก็เพิ่มขึ้นมาอย่างบ้าคลั่ง,จงซานเชื่อว่าตราบเท่าที่เขาใช้แปดหางสวรรค์แห่งจุดจบออกมา,แน่นอนว่าย่อมไม่เสียเปรียบแม้ว่าจะไม่สามารถกล่าวว่าไร้เทียมทาน,ทว่าอย่างน้อยย่อมสามารถต่อกรกับนวีชิงเฮวยได้!

"ลำพังเจ้า! ก็ไม่สามารถทำให้ข้าบาดเจ็บเช่นกัน!"จงซานที่ชำเลืองมองไปยังนวีชิงเฮวย.

เป็นความจริง,แม้นว่าฝ่ามือของนวีชิงเฮวยจะทำให้จงซานลอยโด่งออกไปไกล,หากแต่เขาก็ไม่ได้รับบาดเจ็บแม้แต่น้อย,ร่างกายของจงซาน,ที่เวลานี้มีพลังกายาเทพอสูรขั้นที่หก,กายเนื้อเทียบเท่ากับเผ่ามังกร,หรือแม้แต่เหนือกว่าด้วยซ้ำ.

นวีชิงเฮวยที่แสดงท่าทางเหยียดหยัน,เกี่ยวกับคำพูดของจงซาน,นางไม่โต้เถียงอะไรออกไป,เพราะว่านางก็ตกใจอยู่เล็กน้อยเช่นกันเมื่อพบว่ากายเนื้อของจงซานนั้นแข็งแกร่งมาก,บางทีพลังป้องกันนี้อีกไม่นานคงจะเทียบได้กับกู่เฉิงตงในอดีตทีเดียว.

คิดถึงกู่เฉิงตง,ดวงตาของนวีชิงเฮวยที่เปลี่ยนเป็นเย็นชา.

"เอ๊ะ?"จงซานที่อุทานออกมาเบาๆ.

จงซานที่ยั้งเท้าเหยียบลงบนพื้น,ทั้งที่ก่อนหน้านี้เป็นพื้นศิลาทว่ามันกลับอ่อนนุ่มลง,จงซานต้องก้มหน้าลงมอง,ซึ่งพบว่าบนพื้นดินรอบๆนี้มีสีดำกระจายไปทั่ว,เหมือนกับดินเลน,เป็นเรื่องที่แปลกประหลาดเป็นอย่างมาก.

ดินเลนสีดำ,ทว่ามีพลังที่มากมายดูดจงซานไปพร้อมๆกัน,ราวกับเป็นโคลนดูดที่กำลังดึงรั้งจงซานเอาไว้.

โคลนดูดรึ? ในเวลานี้จงซานก็พบว่าพื้นที่รอบๆได้กลายเป็นดินเลนไปทั้งหมดเรียบร้อยแล้ว.

ไกลออกไป,พื้นที่รอบๆขนาดใหญ่ทำให้ดวงตาของจงซานเบิกกว้าง,บึงเลน? บึงเลนมาจากใหน? ค่ายกลอย่างงั้นรึ?

ค่ายกลรึ? ไม่ใช่ค่ายกล,หากแต่นี้เป็นฝีมือของนวีชิงเฮวย.

เป็นบ่อบึงเลนที่แปลกประหลาด,โคลนสีดำ,ที่มีพลังความแข็งแกร่งในการดูดเป็นอย่างมาก,จงซานต้องการบินขึ้น,ทว่าบึงเลนที่ยังคงดึงร่างของเขาเอาไว้,ไม่ให้เขาบินขึ้นไป,ขณะที่จงซานสร้างสนามพลังวายุรอบๆเท้าต้องการสลัดบินหนีออกไป,ทว่าดินเลนที่สั่นเป็นระลอกคลื่นกระจายพลังออกไป,ราวกับว่ามีเป็นดินเลนที่มีชีวิต,เป็นพลังที่แปลกประหลาดเป็นอย่างมาก.

เป็นเช่นนี้ได้อย่างไร? แม้นว่าร่างแยกเงาของเขาที่บำเพ็ญวิชา"โคลนกร่อนสรรพชีวิต" เป็นวิชาที่เกี่ยวกับดินเลนเช่นกันหากแต่ก็ไม่สามารถทำเช่นนี้ได้.

จงซานสัมผัสได้ว่าราวกับร่างของนวีชิงเฮวยที่หลอมรวมเข้ากับบึงเลนนี้ก็ไม่ปาน.

จงซานทีตวัดฟันดาบยักษ์ของเขาออกไป.

ปราณดาบที่น่าเกรงขาม,ปกคลุมด้วยกลิ่นอายดาบขนาดใหญ่.

"ฟิ้ว!!!"

ปราณดาบที่กรีดดินเลน,คลื่นโคลนที่พุ่งกระเซ็นออกไปทุกทิศทุกทาง,พร้อมกับเปลี่ยนเป็นคลื่นขนาดใหญ่ที่มีรัศมีหลายร้อยลี้,ปิดท้องฟ้าเอาไว้จนมืดมิf,คลุมนวีชิงเฮวยและจงซานเอาไว้ด้านใน.

ภายในรัศมีหนึ่งร้อยลี้นี้พื้นดินที่ปกคลุมผืนฟ้าไปหมด,ไม่มีใครสามารถมองเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นด้านในได้.

โคลนที่ปกคลุมทุกอย่าง,พุ่งขึ้นเพียงพริบตาเดียว,ก่อนที่จะกลับลงสู่พื้นดิน,พร้อมกับสภาพเป็นพื้นราบเรียบ,ทุกอย่างที่หายไปหมด.

ไม่มีแล้ว?

"อยู่ใต้บึงเลน!"ไม่รู้ว่าใครกล่าวออกมา.

สายตาของทุกคนที่จับจ้องมองไปยังพื้นบึงเลนตรงกลาง,ดูเหมือนว่ามันจะมีการสั่นไหวอยู่เป็นระยะ,แน่นอนว่าจะต้องเกิดการต่อสู้ของยอดฝีมือทั้งสองอยู่แน่ๆ.

จงซานและนวีชิงเฮวยที่จมลึงลงมาใต้ดินเลน,พื้นที่รอบๆเป็นโคลนสีดำ,หากแต่มีพลังที่ลึกลับแปลกประหลาดเป็นอย่างมาก,จงซานในเวลานี้ปล่อยกลิ่นอายคุ้มกายเอาไว้,เป็นม่านพลังที่ปกป้องร่างกาย,คลุมร่างไม่ให้โคลนบดขยี้ร่างของเขา.

ส่วนอีกฝั่งหนึ่ง,นวีชิงเฮวยที่อยู่ไม่ไกลออกไปเผยยิ้มอย่างพึงพอใจจดจ้องมองไปยังจงซาน.

พื้นที่รอบๆที่เต็มไปด้วยบึงเลน,อยู่ภายในการควบคุมของนวีชิงเฮวยอย่างสมบูรณ์,อาจจะเรียกได้ว่านางคือผู้ควบคุมดินแดนแห่งนี้เลยก็ว่าได้.

"มีปัญหาอะไร? มีอะไรจะพูดอีก?ด้วยโคลนทมิฬของข้า,อีกไม่กี่อึดใจ,แรงกดจะเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งเท่าและจะเพิ่มขึ้นอีกเรื่อยๆ,ถึงแม้ว่าเจ้าจะมีกายเนื้อที่แข็งแกร่ง,แต่สุดท้ายก็จะไม่ต่างจากเนื้อบด,แม้แต่ดวงวิญญาณของเจ้าข้าก็จะไม่ปล่อยออกไป."นวีชิงเฮวยกล่าวออกมาด้วยเสียงเย็นชา.

ม่านพลังของจงซานที่สั่นไหวไปมา,จากแรงบี[ของบึงเลน.

"ดูเหมือนว่า,เจ้าจะมีร่างสถิตกายาโคลนอย่างงั้นรึ? ไม่แปลกใจเลยว่าสามารถใช้วิชา"ปฐพีผันแปรพัวพัน"ได้ "จงซานที่เผยสีหน้าแววตาประหลาดใจ.

กับคำพูดของจงซานทำให้นวีชิงเฮวยดวงตาหดเกร็ง.

"เจ้ารู้เรื่องนี้ได้อย่างไร?"ดวงตาของนวีชิงเฮวยที่ประหลาดใจไม่แน่ใจ,นี่เป็นความลับที่สุดของนาง.

"มีสิ่งใดบ้างที่ข้าไม่รู้?"จงซานที่กล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม.

"จะตายอยู่แล้ว,ยังยิ้มได้อยู่รึ? วิชานี้มาจากโลกใบใหญ่มีคนเผยแพร่ออกมาเมื่อพันปีที่แล้วที่ภพหยิน,ที่จริงเจ้ารู้เพราะมาจากภพหยินอย่างงั้นรึ?"นวีชิงเฮวยที่ขมวดคิ้วจดจ้องมองจงซาน.

"เจ้ากำลังพูดอะไร?"จงซานที่เผยยิ้มออกมาเล็กน้อย,แสดงท่าทางล้อเลียนนาง.

วิชาดังกล่าวนั้น,จงซานย่อมรับรู้ได้อย่างดี,เพราะร่างแยกเงาของจงซานฝึกฝน"โคลนกัดกร่อนสรรพชีวิตอยู่" ซึ่งเป็นวิชาที่คลายคลึงกัน,ซึ่งจงซานได้พูดคุยปรึกษากับเซียนเซิงซือ,ซึ่งเซียนเซิงซือเองก็รับรู้เรื่องวิชา"ปฐพีผันแปรพัวกัน"ซึ่งเป็นวิชาที่ทรงพลังมาก,เพียงแค่ว่าฝึกฝนได้ลำบากอย่างที่สุด,มีเพียงแค่คนที่มีกายสถิตกายาโคลน,หนึ่งในเก้าร่างสถิตเท่านั้นถึงจะฝึกได้.

แววตาของนวีชิงเฮวยที่มืดมนไม่แน่ใจ,ก่อนที่จะเปลี่ยนเป็นแววตาที่เย็นชา"ข้าถามว่าเจ้าไปรู้มาจากใหน,เจ้ารู้วิชานี้ได้อย่างไร,เจ้าสารเลว!"

สิ้นเสียงของนวีชิงเฮวย,บึงเลนเวลานี้สั่นอย่างรุนแรง,พลังบีบรัดที่หนักหน่วงขึ้นอย่างรุนแรงมากขึ้นและก็มากขึ้น.

"ดูตรงนั้น,บึงเลนกำลังหดตัวอย่างรุนแรง!"คนทั่วไปที่อยู่ไกลออกมาอุทานด้วยความประหลาดใจ.

"เป็นพลังน่าหวาดกลัวนัก!"

ขณะที่คนด้านนอกเต็มไปด้วยความหวาดผวา,จงซานที่อยู่ด้านในกำลังถูกโคลนเลนบีบรัดมากขึ้นและก็มากขึ้น,พลังมากมายมหาศาล,ที่กำลังบีบอัดเพิ่มพลังมากขึ้นเรื่อยๆ,แม้นว่าร่างกายของจงซานจะขยับไม่ได้,ทว่าก็ยังคงต้านทานได้อยุ่.

จงซานที่กัดฟันแน่,ไม่เอื้อนเอ่ยอะไรออกมาอีก,ทว่าดวงตาของเขาที่ค่อยเปลี่ยนเป็นเย็นชา,พร้อมกับแสดงท่าทางว่ากำลังพ่ายแพ้ต่อนวีชิงเฮวย.

เห็นจงซานกำลังดิ้นรน,ที่มุมปากของนวีชิงเฮวยที่เผยแววตาตื่นเต้นดีใจ,จงซานตายไป,ก็จะไม่มีใครรู้ความลับของนางอีก.

จงซานกำลังรอความตายอย่างงั้นรึ? แน่นอนว่าไม่,ขณะที่นวีชิงเฮวยกำลังบังคับบึงเลนบีบร่างเขาอยู่นั้น,หมอกหงหลวนเทียนเวลานี้กำลังกระจายออกไปพื้นที่รอบๆ.

โคลนเลนสีดำทมิฬที่กำลังบดขยี้,หมอกหงหลวนที่พุ่งตรงไปยังร่างของนวีชิงเฮวย,หมอกหงหลวนไร้สีไร้กลิ่นกำลังซึมเข้าร่างของนวีชิงเฮวย.

นวีชิงเฮวยขณะที่บังคับโคลนเลนบีบรัดจงซานให้ตกตายไป,หากแต่นางกลับรู้สึกราวกับว่าจงซานแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ,ทว่าที่จริงแล้วเป็นหมอกหงหลวนที่กำลังกระจายเข้าไปภายในร่างกายของนางมากขึ้นและก็มากขึ้นนั่นเอง.

มันยังไม่ได้ออกผลในทันที,จำเป็นต้องรอคอยชั่วระยะเวลาหนึ่ง,ขณะที่สองคนใต้ผืนปฐพีกำลังต่อสู้กันอยู่นั้น.

มีการต่อสู้ด้วยการสามแห่ง,หวังคู่และกุยโซวที่ต่อสู้พัวพัน,ผลักดันกันไปมา.

ค่ายกลเทพเหมันตร์ทำลายโลกปะทะกับเจดีย์ฉีหลิงพลังน้ำแข็งที่บ้าคลั่ง,และประกายแสงสีทองที่โจมตีผลักกันไปมา,เป็นพลังที่ยิ่งใหญ่อลังการยิ่งใหญ่เป็นอย่างมาก.

ส่วนคู่ของจงซานและนวีชิงเฮวยนั้นแม้นว่าจะไม่ยิ่งใหญ่อลังการหากแต่ก็ไม่เงียบสงบ,พื้นดินที่กำลังส่ายไปมาเป็นระลอกคลื่นในสนามรบ,สายตาทุกคนที่จ้องมองไปยังผืนดินที่ส่ายไปอย่างรุนแรงเช่นกัน.

สายตาของทุกคนที่จ้องมองทั้งด้านบนและด้านล่าง.

เป่ยชิงซือ,ปิงเสวียนและอาวุโสของแดนเทพอมตะที่ไม่สามารถวางตาได้เลย,เพราะการต่อสู้ในครั้งนี้,ยังไม่สามารถบอกผลได้เลย.

"ซี่ๆๆๆ"

รอบๆตำหนักและในตำหนัก,ตลอดจนห่างออกมาด้านหน้าต่างก็จดจ้องมองดูการต่อสู้กันอย่างดุเดือด.

ไม่ว่าจะเป็นของสนามรบใด,ต่างก็ทำให้ทุกคนต้องประหลาดใจดวงตาเบิกกว้าง,อุทานออกมาเป็นระยะๆ,และในเวลาเดียวกันอาวุโสคนหนึ่งแดนเทพอมตะ,ที่บนหน้าอกของเขา,ทันใดนั้นก็ปรากฏกระบี่อ่อนสีม่วงที่แทงเข้าหน้าอกของเขาในทันที.

อาวุโสที่มีระดับราชันย์แท้,เขาถูกลอบโจมตีอย่างงั้นรึ? กระบี่แทงหน้าอกของเขา!

ไม่,ศีรษะของเขา,ที่ถูกตัดออกไปด้วย,โลหิตที่พุ่งกระฉูด.

ตาย? อาวุโสที่ดวงตาเบิกกว้าง,ไม่อยากเชื่อความเป็นจริง,ใครกันที่ลอบโจมตีเขา? กระบี่ที่โผล่ออกมาจากอากาศ,ทะลวงแกนหยาง,ตัดวิญญาณเทวะ,เป็นไปได้อย่างไร? มันจะเป็นไปได้อย่างไร? ที่ข้าไม่พบอย่างั้นรึ?

"บังอาจ!!!"

เสียงคำรามจากด้านในตำหนัก,แรงกดดันวิญญาณที่โถมกระหน่ำมา,ร่างๆหนึ่งที่หลบหนีออกไป,เสียงคำรามของผู้ฝึกตนสวรรค์แท้,จื่อจุ้นเผ่าอีกา,อู๋หวน!

อู๋หวนเองกำลังสนใจสนามรบด้านหน้า,ดังนั้นจึงไม่ได้สนใจรอบๆ,หากแต่เพียงแค่เขาประมาท,คาดไม่ถึงเลยว่าต่อหน้าเขา,จะมีคนลอบเข้ามาโจมตีอาวุโสของแดนเทพอมตะ.

น่าหวั่นเกรงมาก,เป็นการลอบโจมตีที่ทรงพลังมาก,คาดไม่ถึงเลยว่าจะปิดซ่อนกลิ่นอายจากระดับสวรรค์แท้ได้อย่างั้นรึ?

ใครกัน? ใครคือมือสังหาร?

สายตาของทุกคนที่จ้องมองไปยังชายในชุดคลุมสีดำที่ลอยอยู่บนอากาศ,ชุดดำที่ปิดหน้าปิดตา,มือถือกระบี่สีม่วง,เห็นได้ชัดเจนว่าอู๋หวนรู้ตัวตนของเขาแล้ว,เป็นไปไม่ได้ที่จะซ่อนตัวอีก.

อู๋หวนที่มาปรากฏตัวขึ้นที่ด้านนอกตำหนัก,ใบหน้าที่จ้องมองไปยังชายในชุดสีดำกระบี่สีม่วงด้วยความโกรธเกรี้ยว.

"เจ้าเป็นใคร?"อู๋หวนที่แค่นเสียงเย็นชา,แววตาที่เต็มไปด้วยความขุ่นเคือง.


"อันหวง! คารวะจือจุ้นอู๋หวน!"อันหวงกล่าวอย่างเคร่งขรึม.




ที่มาจากhttps://lnmtl.com/novel/immortality

#นิยาย เรื่องอมตะ #Immortality#นิยายแปลไทย
Author(s)


สนใจสนับสนุนพวกเรา,เข้าร่วมกลุ่ม VIP ====> Click

***เว็ปฟรีอัพ สองวันหนึ่งตอน
***กลุ่มลับ อัพ 2-3 ตอนต่อวัน.

 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น