วันศุกร์ที่ 24 มกราคม พ.ศ. 2563

Immortality Chapter 599 Trap

Immortality Chapter 599 Trap

นิยาย เรื่อง อมตะ  599 กับดัก 

Chapter 599 Trap
陷阱
 กับดัก

ขณะที่จงซานนำหวังคูเดินทางออกจากเกาะหมาป่าสวรรค์นั้น,ที่ทะเลทิศใต้.

ที่ก้นทะเลภาคใต้,มีสิ่งก่อสร้างมากมายใต้น้ำ,ซึ่งเหมือนกับทะเลภาคตะวันออกที่มีตำหนักมังกร,หากแต่พื้นที่ทะเลภาคใต้นั้นจะหนาวเย็น,อยู่ห่างกับภูเขาน้ำแข็งไม่ไกล,ทำให้พื้นทีรอบๆนี้เต็มไปด้วยผลึกน้ำแข็งมากมาย.



ที่ใจกลางของภูเขาน้ำแข็งใต้ทะเลไม่ไกลออกไปนั้น,มีตำหนักหยก,และมีป้ายจารึกลอยเด่นด้วยตัวอักษรขนาดใหญ่สามตัว.

เสวียนอู๋กง! (ตำหนักเต่าทมิฬ)

สถานที่แห่งนี้คือที่อยู่อาศัยของจื่อจุ้นเต่าทมิฬ,ด้านในตำหนักเต่าทมิฬ,มีชายชราผมขาว,พร้อมกับนั่งเล่นหมากรุกกับเด็กชายผู้หนึ่ง,ขณะที่เด็กชายกำลังครุ่นคิด,ชายชราที่ยกน้ำชาขึ้นดื่ม,พร้อมกับเผยยิ้มบางๆออกมา.

ไม่นานหลังจากนั้น,ชายในชุดสีขาวก็เข้ามา.

"คารวะจื่อจุ้น,คารวะเส้าเหยี่ย!"ชายในชุดสีขาวที่เอ่ยออกมาในทันที.

ชายชราผมขาวและเด็กหนุ่มที่เงยหน้าขึ้นมอง.

"เรียนจื่อจุ้น,เรื่องที่สั่งการเสร็จแล้ว,อ๋องเต่าทมิฬเสวียนหยี่ยน,ราวๆสองเดือนน่าจะไปถึงราชวงศ์ราชันย์ปิงเฟิง."ชายในชุดขาวที่กล่าวออกมาพร้อมโค้งคำนับ.

"อืม!"ชายชราผมขาวที่พยักหน้ารับ.

"เรื่องทางภาคตะวันออก,มีอะไรอีกหรือไม่?"ชายหนุ่มกล่าว.

"เรียนเส้าเหยีย,ไม่มีแล้ว!"

"หืม? หนึ่งปีครึ่ง,พวกเจ้าทำงานอย่างดีหรือไม่?"ชายนุ่มที่ขมวดคิ้วไปมา.

"พวกเราทำงานอย่างเต็มที่!"

"ออกไปได้แล้ว!"ชายชรากล่าว.

"รับทราบ!"ชายในชุดสีขาวที่โค้งคำนับและจากไปในทันที.

"บรรพชน,หนึ่งปีครึ่ง,จะมีระดับสวรรค์แท้ออกมาสร้างปัญหาอีกอย่างั้นรึ?"ชายหนุ่มที่ขมวดคิ้วสอบถามออกมา.

"ทวีปศักดิ์สิทธิ์เวลานี้เต็มไปด้วยพยัคฆ์ซ่อน มังกรหมอบ,ไม่มีใครรู้เลยว่าระดับสวรรค์แท้มีจำนวนมากเท่าไหร่,ก่อนหน้านี้ไม่เคยมีใครคาดคิดที่งานชุมนุมหมื่นเม็ดยา,สวีฝู,ก่อนหน้านี้,ข้าไม่เคยได้ยินนามของคนผู้นี้มาเลย!"ชายชรากล่าวพลางถอนหายใจ.

"ทว่ายังมีเรื่องที่แปลกประหลาดอีก,เกาะร้างขนาดใหญ่,ถูกทำลายสิ้น,พื้นที่สามแสนลี้ทุกสิ่งมีชีวิตตายไปทั้งหมด,มันเกิดอะไรขึ้น? ทั้งที่พวกเราเองก็เร่งรีบไปตรวจสอบแล้ว,ทว่าก็ไม่มีใครอยู่ตรงนั้น! แปลก! แปลกมาก!"ชายหนุ่มที่กล่าวตอบออกมา.

"บางที่,อีกไม่นานแล้ว,พวกเราก็จะรู้!"ชายชราที่กล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม.

"หืม?"

"ยุคสมัยแห่งความวุ่นวายใกล้เข้ามาแล้ว,ไม่ว่าคนเหล่านี้จะซ่อนอยู่ลึกเท่าไหร่,ท้ายที่สุดจะต้องเผยตัวออกมาในยุคสมัยแห่งความวุ่นวายนี้!"ชายชรากล่าว.

"อืม!บรรพชน,พวกเราต้องการที่จะเข้าร่วมแดนเทพอมตะจริงๆรึ?"ชายหนุ่มที่เผยท่าทางไม่พอใจนัก.

"ทวีปศักดิ์สิทธิ์นั้นกว่า 80,000 ปีมานี้ไม่เคยเข้าสู่ยุคแห่งความวุ่นวาย,เจ้าควรรู้ว่ายุคแห่งความวุ่นวายที่เกิดขึ้นในแต่ล่ะครั้ง,ทวีปศักดิ์สิทธิ์จะถึงคราวผัดเปลี่ยน,เหล่ากลุ่มอิทธิพลมากมายเท่าไหร่ที่จะถูกทำลายจนสิ้นในยุคแห่งความวุ่นวาย? ไม่ว่าราชวงศ์สวรรค์หรือแดนทวะ,เผ่าอสูร ล้วนแล้วแต่มีโอกาสสูญสิ้นไป,ตอนนี้หากไม่เตรียมพร้อม,หากปล่อยให้ถึงเวลาเผ่าของพวกเราอาจจะสูญพันธ์ก็เป็นได้,พวกเราไม่สามารถปล่อยให้เกิดเรื่องร้ายแรงกับเผ่าเต่าทมิฬได้!"ชายชรากล่าวพลางทอดถอนใจ.

"แล้วพวกเราทำไมจะต้องเข้าร่วมแดนเทพอมตะ....."

"แดนเทพอมตะนั้นเป็นหนึ่งในแดนเทวะ,ที่มีประวัติความเป็นมายาวนานที่สุดของทวีปศักดิ์สิทธิ์,ไม่มีใครรู้ว่าพวกเขาแข็งแกร่งขนาดใหน,นอกจากนี้แดนเทพอมตะยังเป็นพันธมิตรกับราชวงศ์สวรรค์ต้าสุ่ย,พวกเราควรจะร่วมมือกับพวกเขา! เมื่อผ่านยุคสมัยแห่งความวุ่นวายแล้ว,เวลานั้นถอนตัวออกมาก็ยังไม่สาย!"ชายชราที่เผยยิ้มที่ขมขื่นออกมา.

"แล้วเมื่อถึงเวลานั้นแดนเทพอมตะ,จะยอมรับอย่างงั้นรึ?"ชายหนุ่มที่กล่าวด้วยความกังวล.

"แน่นอนเป็นไปได้แน่!"ชายชราที่กล่าวพลางทอดถอนใจ.

"อืม!"ชายหนุ่มที่ตอบรับ,แม้ว่าแวตายังคงซ่อนความแข็งกร้าวเอาไว้.
..............

ราชวงศ์ราชันย์ปิงเฟิง! ตำหนักหลวง.

ภายในห้องโถง,ในเวลานี้มีชายสามคนยืนอยู่.

ชายที่ยืนอยู่หัวแถวนั้น,สวมชุดสีขาว,ผมสีขาวหิมะ,คิ้วที่เลือนใส,จนราวกับรู้สึกว่าไม่มีคิ้ว.

อีกคนที่ยืนอยู่ข้างๆเป็นชายในชุมคลุมสีน้ำเงิน,ใบหน้าหล่อเหลา,หากว่าจงซานอยู่ที่นี่ย่อมจำได้แน่นอนว่า,คนผู้นี้คือ,ปิงเสวียน,ในเวลานี้เขาได้กลายเป็นราชันย์ของราชวงศ์ปิงเฟิงแล้ว.

ส่วนคนผมสีขาว,มองไม่เห็นคิ้ว,ก็คือเจ้าตำหนักชีพจรวารีแดนเทพอมตะ,จิงเสวี๋ยเฉิน!

จิงเสวี๋ยเฉิน,คนผู้นี้ที่ลอบโจมตีเป่ยชิงซือ,พร้อมกับปิดผนึกพลังฝึกตนของนางเอาไว้.

ที่ด้านหน้าเขามีชายในชุดสีดำสะพายกระบี่ด้านหลัง.

"เรียนเจิ้นจวินทั้งสอง,ในเวลานี้เป่ยชิงเหยี่ยนน่าจะเดินทางไปถึงเกาะหมาป่าสวรรค์แล้ว!"มือกระบี่ในชุดสีดำกล่าวรายงานด้วยความเคารพ.

"อืม! ออกไปได้แล้ว,จับตาเป่ยชิงเหยี่ยไว้,ติดตามทุกๆคำพูดทุกๆการกระทำ,แล้วมารายงานพวกเรา!"จิงเสวี๋ยเฉินกล่าวอย่างเคร่งขรึม.

"รับทราบ!"มือกระบี่ที่ถอยกลับไป.

"อาจารย์,ท่านต้องการทำอะไรอย่างงั้นรึ? นี่จะปล่อยเป่ยชิงซือให้กับจงซานจริงๆรึ?"ปิงเสวียนที่ขมวดคิ้วไปมา.

"ใช่!"จิงเสวี๋ยเฉินที่กล่าวอย่างเคร่งขรึม.

"ทำไม?"

"ท่านไม่ต้องการเป่ยชิงซือแล้วรึ?"

"อย่างงั้นก็ควรมอบเป่ยชิงซือให้ศิษย์,ทำไมต้องปล่อยให้จงซานด้วยล่ะ?"

"เจ้าจำไม่ได้รึว่าเป่ยชิงซือได้ฝากข้อความใดไปให้เป่ยชิงเหยี่ยน? เป่ยชิงซือจะมอบสิ่งใดให้กับจงซาน?"จิงเสวี๋ยเฉินกล่าว.

"หรือว่าจะเป็นสมบัติอย่างงั้นรึ?"

"แน่นอนว่าเป็นสมบัติแน่,อีกอย่างจากข้อมูลของเต๋าจวินเซิ่งหย๋า จงซานคือศัตรูที่ทรงพลังของแดนเทพอมตะในอนาคต,เขาจึงต้องการข้อมูลของจงซาน,กับคำพูดของเป่ยชิงซือเอง,ที่นางกล่าวว่าจะมอบอะไรบางอย่างให้จงซาน,หากว่านี้คือสมบัติล้ำค่า,หากว่าข้านำมันกลับแดนเทพอมตะได้,เรื่องนี้จะเป็นประโยชน์กับพวกเราขนาดใหน?"จิงเสวี๋ยเฉินกล่าวอย่างเคร่งขรึม.

"นอกจากนี้,หากว่าเป่ยชิงซือไม่ยินยอมมอบสมบัติออกมา,ถึงแม้ว่าจะเป็นข้าก็ไม่สามารถบังคับนางได้,หาไม่แล้วข้าจะต้องใช้แผนการแต่งงานนี้ทำไม?"จิงเสวี๋ยเฉินที่กล่าวออกมาอีกครั้ง.

"แต่ว่า,เป่ยชิงซือแม้นว่าพลังฝึกตนจะถูกผนึกในตอนนี้,ถึงแม้ว่าพวกเราไม่สามารถแย่งชิงได้แต่ก็สามารถขอให้เต๋าจวินลงมือได้,เช่นนั้นก็สามารถนำสมบัติกลับมาได้ไม่ใช่รึ!"ปิงเสวียนที่ขมวดคิ้วไปมา.

"นี่มันเรื่องของตำหนักชีพจรวารี,หากขอให้คนอื่นเข้ามาช่วย,พวกเราไม่ต้องกลายเป็นตัวตลกไปทั่วแดนเทพอมตะอย่างงั้นรึ?"จิงเสวี๋ยเฉินกล่าวด้วยความอหังการ.

"ครับ!"ปิงเสวียนพยักหน้ารับ.

"นอกจากนี้,ยังมีเรื่องเกี่ยวกับคำพูดของเต๋าจวินเซิ่งเหย๋า!"จิงเสวี๋ยเฉินที่สูดหายใจลึก.

"หืม?"

"หืมเมื่อสองปีที่แล้ว,ไท่จื่อเหล่ยเทียนของราชวงศ์สวรรค์ต้าสุ่ยได้เดินทางมายังแดนเทพอมตะ,พูดคุยกับเต๋าจวินเซิ่งหยาสามวันสามคน,และจากนั้นจงซานก็ถูกขึ้นบัญชีศัตรูตัวร้ายของแดนเพทอมตะ,จงซานผู้นี้เป็นคนที่ลึกล้ำ,แม้นว่าหากพวกเรารับมือไม่ไหว,ทว่าเต๋าจวินเซิ่งหย๋าจะปล่อยให้จงซานหนีออกไปได้อย่างงั้นรึ? ในเวลานี้,พวกเราเพียงแค่จับตามอง,รับรองไร้ซึ่งปัญหา!"จิงเสวี๋ยเฉินกล่าวอย่างเคร่งขรึม.

"แล้วเต๋าจวินเซิ่งหย๋าจะให้ความร่วมมืออย่างงั้นรึ?"ปิงเสวียนกล่าวออกมาด้วยความประหลาดใจ.

"ข้าเพียงแค่ต้องการให้เต๋าจวินเซิ่งหย๋ารับมือตี้เสวียนชาเท่านั้น! หากตี้เสวียนชาไม่มา,ก็ไม่จำเป็นต้องแจ้งเต๋าจวินเซิ่งหย๋า!"จิงเสวี๋ยเฉินกล่าว.

"ไม่จำเป็นต้องเป็นห่วง,เพียงแค่ใช้ค่ายกลชีพจรน้ำด้วยกำลังห้าสิบเปอร์เซ็น,หากมีเพียงแค่จงซาน,ไม่มีทางที่เขาจะหนีรอดไปใหนได้!"ปิงเสวียนที่กล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม.

"ถูกต้อง,นี่คือกับดักที่ทรงพลัง,แผนการของเรา,ด้วยกำลังจากราชวงศ์ราชันย์ปิงเฟิงและเผ่าเต่าทมิฬ,และค่ายกลชีพจรวารี,และเต๋าจวินนวีชิงเฮวย,จงซานไม่มีทาง ได้กลับไปแน่."จงเสวี๋ยเฉินกล่าว.

"จงซานที่ต้องตายด้วยค่ายกลสงคราม,นับเป็นเกียรติกับเขาแล้ว!"ปิงเสวียนที่เผยยิ้มอย่างชั่วร้ายออกมา.

"แม้ว่าแผนการนี้จะไม่สง่างามเท่าใด,ทว่าก็นับว่าได้ผลประโยชน์มหาศาล,เจ้าได้เป่ยชิงซือ,แดนเทพอมตะได้สมบัติตกทอด,พร้อมกับเผ่าเต่าทมิฬที่ตกต่ำได้แดนเทพอมตะเป็นที่พึง,จงซานจะต้องตาย,ต้าเจิ้งถูกทำลาย! นี่คือแผนการที่สมบูรณ์แบบ!"จิงเสวี๋ยเฉินที่กล่าวออกมาด้วยความตื่นเต้น.

"หากจะโทษก็ต้องโทษจงซานเองที่แส่มาหาความตาย!"ภายในใจของปิงเสวียนที่รู้สึกมีความสุข.
......

สองเดือนหลังจากนั้น,จงซานและหวังคูได้เดินทางมาถึงเขตแดนของราชวงศ์ราชันย์ปิงเฟิง.

ในเมืองใหญ่แห่งหนึ่ง,จงซานที่พบกับหอการค้าต้าหรง.

ที่ลานด้านหลัง,จงซานที่นำหวังคูในชุดสีดำมาพบกับคนผู้หนึ่ง.

"จดหมายนี้,ส่งมันไปให้ถึงวิหารต้าหมิง,ส่งให้ถึงมือเจ้าวิหาร,จงเทียน!"จงซานที่กล่าวอย่างเคร่งขรึม.

"ครับ!"ชายคนหนึ่งที่รับจดหมายมาด้วยความเคารพ.

จงซานที่มอบให้กับผู้ดูแลหอการค้าของเมืองที่ต่างกันสามคน,เพื่อส่งจดหมายนี้เพื่อให้ไปถึงมือของจงเทียน,พร้อมกับนำหวังคูเดินทางต่อ.

"ฝ่าบาท,พวกเราไปตอนนี้เลยรึ?"หวังคูกล่าวถาม.

"อี้เซียนเทียน,พวกเราจะไปขวางขบวนแต่งงานที่นั่น!"จงซานที่กล่าวอย่างเคร่งขรึม.

"รับทราบ!"

อี้เซียนเทียน,คือหนึ่งในสถานที่ภายในเขตแดนอาณาจักรปิงเฟิง,จงซานที่เดินทางมาเพื่อวิเคราะห์ตรวจสอบสถานที่ต่างๆและเส้นทางของขบวนแต่งงานซึ่งเขาได้ข้อมูลมาจากหอการค้าต้าหรงนั่นเอง.

สถานที่แห่งนี้เป็นเทือกเขาที่สูงใหญ่,มีความสูงกว่าหมื่นจั้ง,และยังมีรอยแยกระหว่างเทือกเขาไปจนถึงพื้นดินราวกับว่ามันถูกฟันแยกออกเป็นสองส่วน.

ทำให้มีร่องภูเขาที่ลึกแคบและยาว!

นี่ขบวนคุ้มกันจะผ่านเส้นทางนี้จริงๆรึ?

จงซานและหวังคูที่มารอที่นี่เป็นเวลาหนึ่งแล้ว.

วันถัดมา,คนทั้งสองยังคงรอคอยอยู่รองเขา,และได้ยินเสียงที่ดังกึกก้องมาจากที่ไกลออกไป,เป็นขบวนงานแต่งนั่นเอง,ซึ่งมีคนกว่าหนึ่งล้านคน,มากมายกำลังเคลื่อนที่ผ่านมาตามเส้นทางที่จงซานกับเฝ้ามอง.

เสียงแตรและเครื่องดนตรีที่ดังกึกก้อง,แม้นว่าจะดูคึกครื้นนอย่างผิดปรกติ,แต่ก็นับว่ามีชีวิตชีวาทีเดียว.

ราชันย์ของราชวงศ์ปิงเฟิงแต่งตี้โหว(จักรพรรดินี)แน่นอนว่าย่อมไม่สามารถละเลย,งานจะต้องดูมีชีวิตชีวิต,จะเทียนกับขมวนของสามัญชนทั่วไปได้อย่างไร,ขบวนแห่งในครั้งนี้จึงดูเอิกเริกอย่างที่สุด,ทุกคนทั่วหล้าจะต้องรับรู้ว่าราชันย์กำลังแต่งตี้โหว.

ปิงเสวียนที่ให้ความสำคัญกับเป่ยชิงซือ,แน่นอนว่าจะต้องจัดงานอย่างใหญ่โต.

กองทัพหนึ่งล้านคน,เพื่อคุ้มกันขบวนแต่งงาน,รักษาความปลอดภัยขณะเดินทาง.

จงซานที่ยืนอยู่บนเทือเขา,อี้เซียนเทียน,จับจ้องมองดูอย่างใจเย็น.

ที่ไกลออกไป,กองกำลังหนึ่งล้าน,ดูเหมือนว่าจะเป็นทัพที่ได้ฝึกฝนมาเป็นพิเศษ,เป็นกองกำลังลับของราชวงศ์ราชันย์ปิงเฟิง.

ส่วนฝั่งจงซาน,มีแค่สองคน.

"เจ้าอย่าเพิ่งลงมือ,ข้าเป็นคนจัดการเอง!"จงซานที่กล่าวต่อหวังคู.

"ขอรับ,ฝ่าบาท!"หวังคูรับคำและถอยออกไปด้านหลัง.

ทัพหนึ่งล้าน,ที่เข้ามาใกล้เรื่อยๆ,ห่างออกไปเพียงแค่ร้อยจั้งเท่านั้น.

กองกำลังหนึ่งล้าน,ที่เรียงหน้าเป็นกำแพงมนุษย์หลายชั้น,ดูเหมือนว่าจะทำการฝึกฝนมาโดยเฉพาะและยังมีความสามารถในสภาพภูมิอากาศพื้นที่รอบๆนี้อีกด้วย.

หัวหน้าของกองทัพดังกล่าวนั้นนั่งอสูรพยัคฆ์ขนาดมหึมา,ขณะที่มองไปยังจงซานที่ออกมาขวางหน้า,ก็โบกมือให้ทัพหยุด.

จงซานที่จ้องมองไปยังเกี้ยวแต่งงานที่อยู่กลางฝูงชน.


เกี้ยวแต่งงานดูเหมือนว่าจะมีการวางค่ายกลรอบๆ,ไม่สามารถตรวจสอบด้านในได้เลยแม้แต่น้อย,ทว่าตามประเพณีแล้ว,ข้างในนั้นควรจะเป็นตี้โหว,เป่ยชิงซือ!



ที่มาจากhttps://lnmtl.com/novel/immortality

#นิยาย เรื่องอมตะ #Immortality#นิยายแปลไทย
Author(s)


สนใจสนับสนุนพวกเรา,เข้าร่วมกลุ่ม VIP ====> Click

***เว็ปฟรีอัพ สองวันหนึ่งตอน
***กลุ่มลับ อัพ 2-3 ตอนต่อวัน.

 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น