วันพุธที่ 15 มกราคม พ.ศ. 2563

Immortality Chapter 582 Highest specification

Immortality Chapter 582  Highest specification

นิยาย เรื่อง อมตะ ตอนที่ 582 ต้อนรับสูงสุด.


Chapter 582  Highest specification
最高
ต้อนรับสูงสุด.


"หืม? ไม่เลยแม้แต่น้อยรึ? ทำไมเจ้าไม่สามารถกำจัดกลุ่มคนเหล่านั้นได้?"ท่าทางของไท่จื่อเหล่ยเทียนที่กล่าวด้วยเสียงที่เย็นชา.

กับคำถามของไท่จื่อฉงเทียน,ใบหน้าของหวางเฉินไม่ได้แสดงท่าทางตื่นตกใจแม้แต่น้อย.



"ค่ายกลธารโลหิต,ผู้น้อยได้ใช้พลังเต็มที่แล้ว,จู่เหรินเองก็น่าจะสามารถมองเห็นได้,ทว่ากลุ่มคนดังกล่าวนั้นนับว่ามีความแข็งแกร่งไม่น้อย,ทว่าผู้น้อยเองก็ไม่คิดที่จะเปิดผนึกเทวะ,แน่นอนว่าพวกเราสามารถเพิ่มพลังได้อีก,สามารถคว่ำศัตรูได้ในทันที,หากแต่ว่าการต่อสู้นี้มันไม่ได้มีค่ามากมายขนาดนั้น!"หวางเฉินที่กล่าวอย่างจริงจัง.

"อืม!"ไท่จื่อเหล่ยเทียนที่หลับตาพยักหน้า.

"หากว่าผู้น้อยเปิดผนึกเทวะ,แน่นอนว่าย่อมจัดการฝ่ายตรงข้ามได้ในทันที,หากแต่ควรแล้วที่จะใช้อย่างงั้นรึ? เช่นนั้นผู้น้อยจึงไม่ได้ใช้ออกมา!"หวางเฉินกล่าว.

"หืม?"

"ตราผนึกเทวะของผู้น้อยนั้นแตกต่างจากคนอื่น,เป็นตราผนึก"เทวะโลหิต"หากว่าข่าวเรื่องนี้กระจายออกไป,จะไม่เป็นประโยชน์ต่อจู่เหริน,ถึงแม้ว่าจะเป็นเซิ่งซ่างต้าสุ่ย,ก็ไม่ควรจะรู้เรื่องนี้!"หวางเฉินกล่าวอย่างจริงจัง.

"อืม,เจ้าทำได้ดีแล้ว!"ไท่จื่อเหล่ยเทียนพยักหน้าด้วยความพึงพอใจ.
...........

หลังจากนั้นสามวัน,จงซานก็เปิดประตูออกมา,ก้าวออกมายังห้องโถง.

ซึ่งมีเจ้าโส่วเซี่ยงที่เป็นองค์รักษ์ปกป้องทางเข้าเอาไว้,ในเวลาเดียวกันด้านนอกเองก็มีเหล่าขุนนางกลุ่มหนึ่งอยู่ด้วยเช่นกัน.

พริบตาเดียวที่จงซานเปิดประตู,คนทั้งหมดก็เอ่ยออกมา,"คารวะจักรพรรดิจง!"

จงซานที่จ้องมองคนที่อยู่รอบๆ,เพียงสายตาของเขาก็ทำให้ทุกคนสั่นสะท้าน,จงซานที่เผยรอยยิ้มที่แปลกประหลาดออกมา.

สายตาของเหล่าขุนนางที่มองจงซาน,ด้วยความชื่นชม,หวาดกลัว,อิจฉา,เหมือนกับอารมณ์ของปุถุชนทั่วไป.

"อืม!"จงซานพยักหน้ารับหากแต่ไม่ได้กล่าวสิ่งใดออกมา.

"เหล่าเจ้า,คนของเจ้าเป็นอย่างไรบ้าง?"จงซานสอบถาม.

"พี่น้องพวกเราตายไป 20 คน,ส่วนคนอื่นๆนั้นกำลังรักษาตัวเองอยู่,ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง!"เจ้าโส่วเซี่ยงกล่าวออกมาในทันที.

"อืม!"จงซานพยักหน้า.

"จักรพรรดิจง,การรุกรานของศัตรู,โชคดีที่มีท่าน,หาไม่แล้ว,ราชวงศ์จักรพรรดิเหยี่ยนหงคงจะอยู่ในอันตราย!"กงเหว่ยที่กล่าวออกมากล่าวด้วยความเคารพ.

"อย่าได้เกรงใจ,ในเมื่อการรุกรานของศัตรูถูกจัดการแล้ว,พวกเราคงไม่ขอรบกวนแล้ว!"จงซานกล่าว.

"ไม่,ไม่เลย,จักรพรรดิจงที่ช่วยเหลือราชวงศ์ของพวกเรา,พวกเราไม่มีของตอบแทน,ทว่ามีสมบัติราชวงศ์ขอให้จักรพรรดิจงไปกับข้า,ตราบเท่าที่จักรพรรดิจงพอใจ,สามารถเลือกได้เลย!"กงเหว่ยที่กล่าวออกมาในทันที.

"หืม?"จงซานจ้องมองกงเหว่ยด้วยท่าทางแปลกประหลาด.

"เรื่องนี้พวกเราเหล่าขุนนางได้ปรึกษาหารือกันแล้ว,ขอจักรพรรดิจงอย่าได้ปฏิเสธ!"กงเหว่ยที่กล่าวออกมาในทันที.

จงซานที่จ้องมองด้วยใบหน้าที่จริงจัง,กวาดตามมองทุกคน,ท้ายที่สุดก็ส่ายหน้าไปมา."ไม่จำเป็น!"

"จักรพรรดิจง,เรื่องนี้....."กงเหว่ยที่แสดงท่าทางร้อนใจ.

แววตาของจงซานที่กลายเป็นเย็นชา,พร้อมกับกล่าวออกมาว่า"แม้ว่าข้าจะไม่ใช่คนของราชวงศ์จักรพรรดิเหยี่ยนหง,ทว่าข้าขอแนะนำพวกเจ้าสักอย่าง,สมบัติของอาณาจักรนั้นเป็นของคลังสำรองของราชวงศ์จักรพรรดิ,มันคือรากฐานของราชวงศ์,ไม่ใช่สิ่งของ,ของเหล่าข้าราชบริพาร,ไร้ซึ่งการอนุญาตจากจักรพรรดิ,ไม่มีใครสามารถกระทำการอะไรได้,ส่วนพวกเจ้าเป็นเพียงขุนนาง,จึงควรรับรู้ว่าอะไรควรทำไม่ควรทำ,การกระทำครั้งนี้,ถือเป็นอาชญากรรมของอาณาจักร!"

จงซานที่กล่าวด้วยเสียงที่เย็นชา,ทำให้ทุกคนสั่นสะท้าน,ตื่นตกใจ.

"ขอบคุณจักรพรรดิจงที่ย้ำเตือน!"กงเหว่ยที่ปากเหงื่อที่เย็นเยือบขณะพูด.

"หากว่าเจ้าต้องการขอบคุณข้า,จงนำคำพูดของข้าไปมอบให้กับเสี่ยวจงซิง!"จงซานที่กล่าวออกมาในทันที.

"จักรพรรดิจงเชิญกล่าว,พวกเราย่อมนำคำพูดไปแจ้งฝ่าบาทแน่นอน!"กงเหว่ยที่กล่าวออกมาในทันที.

"บอกกับเขาว่าเรื่องระหว่างราชวงศ์จักรพรรดิเหยี่ยนหงและราชวงศ์สวรรค์ต้าสุ่ยหลังจากนี้,ให้เขาไปพบกับข้าที่ราชวงศ์จักรพรรดิต้าเจิ้ง!"จงซานกล่าว.

"รับทราบ,ข้าและคนอื่นๆจำนำคำพูดของจักรพรรดิจงไปแจ้งฝ่าบาท!"กงเหว่ยที่กล่าวออกมาทันที.

"อืม,เช่นนั้นขอลา!"จงซานกล่าว.

จากนั้น,เขาไม่ได้สนใจคนเหล่านั้นอีกต่อไป,นำเจ้าโส่วเซี่ยงจากไปอย่างรวดเร็ว.

ระหว่างทาง,เจ้าโส่วเซี่ยงที่กล่าวสอบถามด้วยความสงสัย,"ฝ่าบาท,ขุนนางที่ไม่เป็นขุนนาง,ไม่ว่าอย่างไร,ทำไมพวกเราไม่ไปดูสมบัติอาณาจักรก่อนล่ะ,บางที่อาจจะพบอะไรที่แปลกประหลาด!"

จงซานส่ายหน้าไปมาพร้อมกับเผยยิ้มเล็กน้อย,"หัวใจขุนนางที่ไม่เป็นขุนนาง,อาณาจักรที่ไม่เป็นอาณาจักร,ราชวงศ์จักรพรรดิเหยี่ยนหงที่ยังคงอยู่มีเพียงแค่นามเท่านั้น,อีกนานเท่าไหร่กันที่พวกเขาจะกลายเป็นของราชวงศ์สวรรค์ต้าสุ่ย,ทำไมจะต้องไปเสียเวลากับเหล่าวายร้ายเหล่านี้? ทำไมจะต้องเอาตัวเองให้ไปแปดเปื้อนกับคนเหล่านี้?"

ตอนมาจงซานค่อนข้างสั่นไหว,ทว่าขากลับเขารู้สึกดีไม่น้อย,เพราะว่าหลังจากที่เห็นไท่จื่อเหล่ยเทียนแล้ว,เขาสามารถกักเก็บความบ้าคลั่งเอาไว้ได้,ท้ายที่สุดเขาก็ควบคุมตัวเองได้,ไม่หลุดการควบคุม,หลังจากนี้จะเป็นเรื่องที่สมบูรณ์,เขาที่อยู่ในสภาพสุขุม,ย่อมสามารถที่จะต่อกรกับไท่จื่อเหล่ยเทียนได้ง่าย.

จากนี้,จงซานที่คิดถึงไท่จื่อเหล่ยเทียน,แม้ว่าจะเกลียดชัง,แต่ก็ไม่ทำให้เขาบ้าคลั่ง,เขาสามารถใช้ปัญญาในการวางแผนเพื่อล้างแค้นได้,ไม่กลายเป็นคนโง่ที่กระทำการอย่างไร้สติ.

เจ้าโส่วเซี่ยงแม้ว่าจะไม่เข้าใจความหมายของจงซานเท่าใดนัก,แต่ก็รับคำ"ครับ!"

ทัพของพวกเขาที่เดินทางกลับราชวงศ์ราชันย์หลานเหยี่ยน,ส่วนคนของราชวงศ์จักรพรรดิหลานเหยี่ยน,ที่จ้องมองจงซานนำกองกำลังทวนเหล็กจากไป,แต่ละคนต่างก็มีสีหน้าแววตาที่แตกต่างกันไป,รู้สึกแปลกประหลาดเป็นอย่างมาก.
...

แดนเทวะ,ทิศตะวันตกเฉียงเหนือ,ทางเข้าแดนเทพอเวจี.

ชายในชุดไว้ทุกข์,ชุดสีขาวล้วน,ที่หน้าผากคาดผ้าขาวเช่นกัน,ที่ด้านหลังสะพายกระบี่ที่คลุมด้วยผ้าสีขาวทั้งหมด,กำลังบินลงมาหยุดที่ยอดเขาแห่งหนึ่ง,ที่ด้านข้างนั้นมีโลงศพหยกสีขาวมาด้วย.

แววตาของชายคนดังกล่าวที่ดูซับซ้อน,กัดริมฝีปากแน่น,พร้อมกับนำโลงศพสีขาว,บินตรงไปยังทางเข้าของแดนเทพอเวจี.

"ผู้มาเป็นใคร?"เสียงที่เย็นชาดังก้องกังวาน.

ที่ทางเข้านั้น,ปรากฏคนสองคนที่ถือกระบี่ยาว.

"นั่นมันหยกโหลวหลานคุณภาพสูง,เจ้าเด็กนี้ที่นำมายังแดนเทพอเวจี,ไม่คิดเลยว่าจะมีคนนำมาให้ยังแดนเทพอเวจี,มารเฒ่าต้องการวัตถุดิบนี้อยู่,ข้ายังขาดเด็กหนุ่มอยู่,ไม่ๆหากว่ามอบมันมาข้า,ข้าจะให้เจ้ามาติดตามข้า!"ในเวลานั้น,ชายในชุดสีดำใบหน้าน่าเกียจก็ปรากฏขึ้น.

"คารวะ,มารคูไห่!"ผู้เฝ้าประตูสองคนที่กล่าวออกมาด้วยความเคารพ.

ชายในชุดสีดำที่น่าเกลียดนั้น,จับจ้องมองไปยังโลงศพที่อยู่ข้างๆมือของชายในชุดสีขาวสายตาไม่กระพริบ.

ชายที่น่าเกลียดนั้นไม่ได้สนใจชายในชุดสีขาวแม้แต่น้อย.

"มีปัญหาอะไร? เจ้าหนูเจ้าไม่ต้องการรึ?"ชายในชุดสีดำที่แสดงท่าทางโกรธเกรี้ยว.

"ข้าเกรงว่าท่านจะไม่กล้ารับ!"ชายในชุดไว้ทุกข์แค่นเสียง.

"โห่ว? เจ้าหนูเจ้าแส่หาความตาย?"มารคูไห่แค่นเสียงเย็นชา.

ในเวลานั้น,ชายในชุดสีขาวก็แกะผ้าคลุมกระบี่ยาวออกมา.

ทันใดนั้นความหนาวเย็นยะเยือก็แผ่ออกมาจากกระบี่ยาวดังกล่าว.

"ของวิเศษระดับเก้ารึ?"มารคูไห่ที่ตกใจเล็กน้อย.

ทันใดนั้น,มารคูไห่ก็เร่งรีบถอยหลังออกไปเตรียมพร้อมสู้ในทันที,สายตาของเขาที่จ้องมองไปยังกระบี่ยาวด้วยความโลภ,สมบัติระดับเก้า,นี่คือของวิเศษที่แข็งแกร่งที่สุดในโลกหล้า.

"ชิ!"ชายในชุดไว้ทุกข์แค่นเสียงเย็นชา,หาได้สนใจคนกลุ่มนี้.

"กระบี่นี่และโลงศพหยก,จะต้องส่งมือถึงท่านประมุขแดนเทพอเวจี!"ชายในชุดไว้ทุกที่เอ่ยต่อชายเฝ้าประตู.

พญามารอย่างงั้นรึ?

ได้ยินคำพูดของชายคนดังกล่าว,ทุกคนที่เผยสีหน้าท่าทางประหลาดใจ,มารคูไห่เวลานี้ดวงตาที่มือคลึ้มดูลังเลไม่แน่ใจ,พญามารรึ? ต้องการพบพญามารรึ? คนผู้นี้เป็นคนรู้จักพญามารรึ?

หากเพียงแค่พูด,คนเหล่านี้ย่อมไม่สนใจฟัง,เขาจึงได้กล่าวอ้างพญามาร,เพื่อที่จะส่งของรึ?

ทว่า,สมบัติระดับเก้า,ภายใต้สวรรค์แห่งนี้ทุกคนย่อมรับรู้ว่าเป็นสมบัติล้ำค่าที่สุด,คาดไม่ถึงเลยว่าเขาจะนำมาใช้เพื่อแสดงความเคารพ? หยกโหลวหลานที่มีคุณภาพสูง,ของสองอย่างล้วนแล้วแต่ล้ำค่า,เขาต้องการทำอะไร?

"แล้วเจ้าคือ?"ผู้ดูแลประตูที่กล่าวสอบถาม.

"ของสองสิ่งนี้ต้องมอบให้กับประมุขแดนอเอวจี,เรื่องอื่นไม่จำเป็นต้องรู้!"ชายในชุดไว้ทุกข์กล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม.

"ได้,พวกเราจะนำไปด้วยตัวเอง!"ชายเฝ้าประตูทั้งสองที่เร่งรีบจากไปในทันที.

ใช้ของวิเศษระดับเก้าเพื่อเปิดทาง,เป็นเรื่องที่ยากจะอดใจได้,คนฝ้าประตูทั้งสองที่เร่งรีบเข้าไปแจ้งในทันที.

แดนเทพอเวจีนั้นเป็นบ่อขนาดใหญ่,ลึกลงไปด้านใน.

พื้นที่ที่ทางเขานั้นมีสิ่งก่อสร้างมากมาย,และทางเข้าย่อมมีคนอาสัยอยู่.

"สหายเต๋า,เชิญมาดื่มชารอก่อน,สิ่งของทั้งสองสิ่งนั้นจะต้องส่งถึงมือของพญามารอย่างแน่นอน!""คนอื่นๆที่อาศัยอยู่รอบๆกล่าวออกมา.

"ข้าต้องการรอที่นี่!"ชายไว้ทุกข์กล่าว.

"หืม,ตามใจเจ้า!"ชายคนดังกล่าวไม่กล้าอะไรต่อไป.

รอคอยรึ? คิดว่าพญามารจะพบเจ้าอย่างงั้นรึ? ส่วนมารคูไห่ในเวลานี้ใบหน้าที่เต็มไปด้วยท่าทางแปลกๆ,ยังไม่ต้องการจากไป,ยังคงรอดูอยู่เงียบๆ.

จากนั้นไม่นาน,กระบี่ระดับเก้าและโลงศพหยกก็ถูกนำไปด้านใน.

ชายไว้ทุกข์ยังคงรอคอยอย่างอดทน.

หลังจากนั้น,สิ่งของดังกล่าวก็ถูกส่งไปถึงเทือกเขาคู่หยินหยาง.

ตำหนักที่สร้างใหม่,ที่พักชั่วคราวของเจี้ยนอ้าว.

ห้องโถงกระบี่!

โถงกระบี่นั้นยื่นขึ้นมาจากบนพื้นดิน,เป็นเหมือนกระบี่ที่ปักอยู่บนดิน,เป็นกระบี่เทวะที่ทรงพลังขนาดใหญ่ปักอยู่บนผืนปฐพีนั่นเอง.

ห้องโถงกระบี่นั้นอยู่บนโก่งกระบี่เป็นห้องโถงที่ติดอยู่รอบๆตัวกระบี่,ซึ่งมีผู้ฝึกตนมากมายที่ปกป้องพญามารที่อยู่ด้านใน,ซึ่งผู้นำก็คือคนที่ติดตามเจี้ยนอ้าวมาก่อนหน้า,มารฉู่จิว.

ไม่นาน,ของสองสิ่งกระบี่ล้ำค่าและโลงศพโหลวหลานก็ถูกนำมายังโถงกระบี่.

"อะไร?"มารฉู่จิวที่กล่าวอย่างเคร่งขรึม

"ที่ด้านนอกนั้นมีคนให้นำสิ่งของสองสิ่งมามอบให้กับพญามาร,ขอให้มารฉีจิวได้โปรดแจ้งท่านประมุขด้วย!"ชายทั้งสองคนเอ่ย.

ฉู่จิวที่ขมวดคิ้วไปมาเล็กน้อย,ก่อนที่จะรับกระบี่ยาวมา,ทันทีที่สัมผัส,แววตาที่ขมวดไปมา,แววตาที่หวาดผวาขึ้นมาทีเดียว,จากนั้นก็ใช้สัมผัสเทวะกวาดตามองโลงศพซึ่งมีผนึกลับผนึกอยู่,ใบหน้าก็เปลี่ยนไปในทันที.

"คนล่ะ?"มารฉู่จิวที่สอบถามออกมาทันที.

"รออยู่ที่ทางเขาแดนเทพอเวจี."ชายทั้งสองกล่าว.

"เร็วเขา,รีบต้อนรับด้วยการต้อนรับสูงสุด,ไม่ๆ,พวกเจ้าไม่ต้อง,พญามารมีความเร็วสูงกว่า!"มารฉีจิวกล่าวเสร็จ,ก็นำโลงศพหยกและกระบี่วิเศษเร่งรีบวิ่งเข้าไปในห้องโถงในทันที.

ทว่าคนเฝ้าประตูทั้งสองที่จ้องมองหน้ากันและกัน,แววตาที่เต็มไปด้วยความตกใจ,ให้รับรองด้วยการต้อนรับสูงสุดรึ? พญามารออกไปเร็วกว่ารึ? เป็นไปได้ว่าสิ่งของสองสิ่งนี้ทำให้พญามารต้องเร่งรีบออกไปอย่างงั้นรึ?


คนทั้งสองที่รู้สึกดีใจขึ้นมาทันทีที่ไม่ได้ล่วงเกินชายคนดังกล่าวไป.




ที่มาจากhttps://lnmtl.com/novel/immortality

#นิยาย เรื่องอมตะ #Immortality#นิยายแปลไทย
Author(s)


สนใจสนับสนุนพวกเรา,เข้าร่วมกลุ่ม VIP ====> Click

***เว็ปฟรีอัพ สองวันหนึ่งตอน
***กลุ่มลับ อัพ 2-3 ตอนต่อวัน.

 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น