วันพุธที่ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2562

Immortality Chapter 548 Qilin

Immortality Chapter 548  Qilin

นิยาย เรื่อง อมตะ ตอนที่ 548 กิเลน.


Chapter 548  Qilin
麒麟
  กิเลน.

"เร็วเข้า,ขวางทางพวกเขาเร็ว,อย่าให้พวกเขาเห็นข้า!"ทันใดนั้นอาวุโสจิวที่เอ่ยออกมา.

ทว่าไม่มีเวลาพอแล้ว,เพราะว่าคนในชุดขาวทั้งสามได้ร่อนบินลงมาพื้นที่ใกล้ๆแล้ว,ขณะที่จ้องมองมายังจงซาน.


สายตาของทุกคนที่จ้องมองไปยังจงซาน,ขมวดคิ้วเล็กน้อย,พร้อมกับเผยสีหน้าเหยียดหยัน,ก่อนที่จะหันหน้าหนีและบินจากไป.

"หืม!"เซียนเซียนที่อุทานออกมาเล็กน้อย.

จงซานและคนอื่นๆเองก็เหมือนๆกันเซียนเซียน,ขณะที่จดจ้องมองไปยังอาวุโสจิว.

อาวุโสจิวในเวลานี้,ได้นำหน้ากากผีอันหนึ่งออกมาสวม,ดูแปลกประหลาดเป็นอย่างมาก,เซียนเซียนที่เห็นอาวุโสจิวสวมหน้ากาก,ท่าทางของเขาแสดงความหวาดกลัวออกมาอย่างเห็นได้ชัด.

ทุกคนจ้องมองไปยังอาวุโสจิวโถวด้วยท่าทางงงวย.

ไม่สงสัยที่เห็นอาวุโสจิวต้องการให้ขวางทางบังเขาเอาไว้,เพื่อไมให้คนชุดขาวเห็นท่าทางมีพิรุจนี้,เขากำลังสวมหน้ากากภูติอยู่นี่เอง.

"อาวุโสจิวโถว,เจ้ามีระดับราชันย์แท้,เกรงกลัวพวกเขาอย่างงั้นรึ?"เซียนเซียนที่ประหลาดใจกล่าวออกมาเสียงดัง.

อาวุโสจิวโถว"........."

"พวกเขาทั้งสามหาได้มีความแข็งแกร่งแต่อย่างใด,เพียงแค่ระดับก่อตั้งวิญญาณเท่านั้น,มีอะไรให้หวาดกลัว? ถึงกับนำหน้ากากผีน่าเกลียดนั่นมาสวม,ขายหน้าจริง!"เซียนเซียนที่กล่าวเสียงดังอีกครั้ง.

อาวุโสจิวโถว"........."

"พอล่ะ,เซียนเซียน!"จงซานที่กล่าวหยุดเซียนเซียนในทันที.

"สหายเหยี่ยน,คนเมื่อสักครู่ก่อนหน้านี้ทั้งสามคน,มาจากราชวงศ์สวรรค์? หรือคนของแดนเทวะกัน?"จงซานกล่าว.

"ไม่ใช่,พวกเขามาจากตระกูลหนึ่ง,เป็นตระกูลที่มีประวัติความเป็นมายาวนานที่สุดในภพหยิน."เหยี่ยนฉงจื่อกล่าว.

"หืม?"จงซานที่แสดงท่าทางสงสัย.

"พวกเขาคือตระกูล "เทียน" ภายในภพหยินแห่งนี้นับว่าลึกลับที่สุด,พวกเขาเป็นเทพอารักษ์ขุมนรกขนาดหมื่นจั้งและเส้นทางแม่น้ำเหลียง(แม่น้ำยมโลก)แม้ว่าคนทั้งสามจะไม่ได้แข็งแกร่ง,ทว่าก็ไม่มีใครกล้าท้าทายตระกูลเทียน,พวกเขามีสถานะเทียบเท่ากับราชวงศ์สวรรค์เลย."เหยี่ยนฉงจื่อตอบ.

"เทียน? ตระกูลเทียนรึ?"จงซานที่เผยท่าทางสงสัยเป็นอย่างมาก.

เทียนหลิงเอ๋อที่มีสกุล"เทียน"ด้วยเช่นกัน,มีอะไรเกี่ยวข้องกับตระกูลเทียนนี้หรือไม่?

"ราชันย์ไป๋อวิ๋นรึ?"เหยี่ยนฉงจื่อที่จ้องมองไปยังชายที่สวมชุดราชวงศ์ราชันย์ที่อยู่ไกลบนยอดเขาแห่งหนึ่งพลางขมวดคิ้วแน่น.

"ไม่ใช่แค่เขาเท่านั้น,ที่นี่ยังมีระดับราชันย์แท้อยู่อีก."อาวุโสที่จ้องมองไปยังรอบๆ.

"นี่นับว่าเป็นการชุมนุมใหญ่จริงๆ!"เหยี่ยนฉงจื่อกล่าว.

ทุกคนที่สอดส่องไปรอบๆ,ขณะที่หลายๆคนที่รอคอยอยู่,เรื่องนี้ก็ผ่านไปหกวันแล้ว,ในเวลานี้ผู้ฝึกตนมากมายที่มารวมตัวกัน,ต้องการที่จะหาความลับเกี่ยวกับการล่วงหล่นของดวงตะวันสีทอง,อาจจะมีความลับสวรรค์ที่สั่นผืนปฐพีก็เป็นได้.

และทันใดนั้น,พื้นที่รอบๆบนท้องฟ้า,ก็ปรากฏแสงสีครามแผ่ออกมาทันที,จากนั้นแสงสีขาวที่ส่องประกายออกมามากมายนั้น,ทำให้เหล่าวิญญาณที่ล่องลอยอยู่เต็มไปด้วยความเจ็บปวดทรมานบ้าคลั่งหลายๆตนที่มุมลงไปในโคลนทันที,ราวกับว่าแสงสีครามนี้ได้ทำร้ายพวกมัน.

แสงสีครามนั้นกระจายไปทั่วเขตดินเลน,เหล่าพลังงานสีดำนับไม่ถ้วนหลังจากที่ถูกแสงสีครามสอดส่อง,ร่างภูติควันมากมายต่างก็สลายหายเป็นควันในทันที,ดวงวิญญาณทุกดวงที่ลอยอยู่บนอากาศถูกดึงไปใต้ดินเลนทั้งหมด.

บนดินเลนในเวลานี้,เหล่าวิญญาณและพลังสีดำได้สลายหายไปหมด,เขตแดนภูติโคลน,ทันใดนั้นก็แปรเปลี่ยนไปอย่างสมบูรณ์,เป็นเรื่องที่แปลกประหลาดมาก.

จงซานจ้องมองไปยังพื้นที่รอบๆ,เพื่อตรวจสอบที่มาของแสงสีคราม.

"นี่เป็นค่ายกลขนาดใหญ่,ใครบางคนที่กำลังสร้างค่ายกลที่ทรงพลังขึ้นมา? ปกคลุมไปทั่วทั้งเขตแดนภูติโคลน?"อาวุโสจิวที่เอ่ยออกมาด้วยท่าทางตื่นตกใจ.

"ดูเหมือนว่าพวกเขาต้องการขับไล่,ดวงตะวันสีทองที่ล่วงหล่นลงมาบนท้องฟ้า?"เซียนเซียนที่ขมวดคิ้วไปมา.

เซียนเซียนที่พบว่าพื้นที่รอบเวลานี้มีคนอยู่มากมาย,ทุกคนต่างก็เงียบงัน,จับจ้องมองด้วยความสงสัย,พวกเขาที่มาที่นี่รอคอยมานานแล้ว,ทว่าดวงตะวันสีทองนั้นก็ยังไม่เผยออกมา,มันคืออะไรกันแน่.

เหล่าผู้ฝึกตนมากมายที่มาค้นหาความจริง,ทว่าก็ยังไม่พบเห็นสิ่งใด,ทว่าตอนนี้,ดูเหมือนว่ามันกำลังเผยออกมาแล้ว.

"ตรงนั้น!"เซียนเซียนที่ชี้นิ้วออกมา,สถานที่ดังกล่าวนั้นเป็นพื้นที่ที่มีแสงสีครามแผ่นออกมานั่นเอง.

บนท้องฟ้ามีคนในชุดสีขาวกำลังร่อนลงมาช้าๆ,คนผู้นี้ค่อนข้างผอม,มีเล็บสีม่วง,ผิวที่ดูประณีต,ที่หน้าผากมีเส้นสีแดงคู่หนึ่ง,ใบหน้าที่ดูมืดคลึ้มอย่างที่สุด.

"ผู้ฝึกตนค่ายกลลำดับหนึ่งของโลกใบนี้,หนานกงเซิ่ง?"จงซานที่ชำเลืองมองไปยังคนที่ค่อยๆร่อนลงมา.

หนานกงเซิ่ง? นี่คือตัวตนที่ทรงพลังของทวีปศักดิ์สิทธิ์ในภพหยาง,ประมุขแดนเทพอเวจี,เขาที่กำลังจะเป็นเซียนผู้หนึ่งแล้ว,นี่เขามายังภพหยินอย่างงั้นรึ? ไม่ใช่ว่าเขากลายเป็นเซียนไปแล้วหรอกรึ? โลกใบเล็กไม่ได้ขับไล่เขาอย่างงั้นรึ?

จงซานที่เต็มไปด้วยความอัศจรรย์ใจ,ใบหน้าของหนานกงเซิ่งที่ค่อยๆร่อนลงมาบนเนินเขาของบึงเลน,จดจ้องมองยังพื้นผิวดินเลนด้วยความสงบ.

ประกายแสงสีครามที่ส่องประกายอยู่นั้น,ดูเหมือนว่าจะส่องประกายออกไปหลายหมืนลี้,ส่องออกมารอบๆหนานกงเซิ่ง,ราวกับว่าเขาเป็นประมุขของสวรรค์และปฐพี,ใบหน้าที่เต็มไปด้วยความอังหารการอย่างที่สุด,ถึงแม้ว่ารอบๆจะมีระดับราชันย์แท้หลายคน,ทว่าก็ไม่มีใครสามารถทำอะไรหนานกงเซิ่งได้แน่.

ผู้ฝึกตนสวรรค์แท้ภายใต้สวรรค์แห่งนี้คือผู้ฝึกตนระดับสูงสุด,ที่กำลังจะกลายเป็นเซียน,เป็นตัวตนในตำนาน,หนานกงเซิ่งที่ดูดซับหมอกเมฆม่วงมา,ตอนนี้ทำให้เขาทรงพลังเทียบเท่าเซียน,กลิ่นอายพลังกดดันวิญญาณที่แผ่ออกมานั้น,ทรงพลังจนทำให้ผู้ฝึกตนรอบๆหวาดหวั่น.

คนผู้นี้เป็นใครกัน?

ผู้คนมากมายที่จ้องมองไปยังพลานุภาพที่ยิ่งใหญ่ของชายผู้นี้ที่ลอยอยู่บนอากาศ.

สามารถสร้างค่ายกลขนาดใหญ่,ปกคลุมไปทั่วทั้งเขตแดนภูติโคลนอย่างงั้นรึ?

ค่ายกลนี้คือค่ายกลอะไร? น่าเกรงขามขนาดนี้เลยรึ? จะต้องรับรู้ด้วยว่าเขตแดนภูติโคลนนั้นกว้างใหญ่มาก,มีขนาดไม่น้อยกว่าพื้นที่ของราชวงศ์จักรพรรดิสองแห่งรวมกัน,พื้นที่ขนาดนี้สามารถที่จะกางค่ายกลรอบรอบได้อย่างงั้นรึ?

หัวใจของทุกคนที่สั่นสะท้านด้วยความหวาดหวั่น,ไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าจะมีผู้ฝึกตนที่มีความสามารถต่อต้านสวรรค์เช่นนี้มาก่อน.

นี่เป็นการกระทำของคนผู้นี้อย่างงั้นรึ?

"เป็นเซียนที่แข็งแกร่งทรงพลังมาก!"เซียนเซิงซือที่กล่าวออกมาด้วยความประหลาดใจ.

"อืม!"อาวุโสจิวที่หรี่ตาจ้องมองพร้อมกับพยักหน้ารับ.

"สหายจง,รู้จักบุคคลผู้นี้หรือไม่?"เหยี่ยนฉงจื่อที่กล่าวด้วยเสียงเบาๆ.

เหยี่ยนฉงจื่อที่มีความสามารถที่โดดเด่น,เพียงแค่จ้องมองท่าทางจงซานก็สามารถคาดเดาได้อย่างถูกต้องแล้ว.

จงซานที่จ้องมองไปยังเหยี่ยนฉงจื่อ,พลางพยักหน้า.

"เขาคืออดีตประมุขแดนเทวะภพหยาง,นามว่าหนานกงเซิ่ง! ในภพหยางนั้นเขาคือผู้ฝึกตนค่ายกลลำดับหนึ่ง!"จงซานที่กล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม.

"ฝึกฝึกตนค่ายกลลำดับหนึ่งอย่างงั้นรึ?"เหยี่ยนฉงจื่อที่ขมวดคิ้วกล่าวออกมาด้วยเสียงที่เคร่งขรึม.

ผู้คนรอบๆเริ่มคาดเดาตัวตนของหนานกงเซิ่ง,ทว่าไม่มีใครรู้จักหนานกงเซิ่ง,แม้นว่าจะในภพหยางเอง,แม้ว่าจะได้ยินชื่อของเขา,ทว่ารูปร่างหน้าตาจริงๆแล้ว,มีน้อยคนมากที่เห็น,ในเวลานี้หนานกงเซิ่งมาอยู่ที่นี่ย่อมไม่มีใครรู้จัก,ในเวลานี้ทำให้พวกเขาได้แต่คาดเดาเท่านั้น.

ที่ไกลออกไปนั้น,สามผู้เยาว์ตระกูลเทียนที่จ้องมองหน้ากันและกัน,เห็นได้อย่างชัดเจนว่าพวกเขาพบกับค่ายกลที่ทรงพลัง,จำเป็นต้องกลับไปรายงานตระกูล!

ใบหน้าของหนานกงเซิ่งนั้นดูเคร่งขรึมน่าเกรงขามมาก,จดจ้องมองลงไปยังพื้นที่ดินเลน,สายตาที่ค่อนข้างจริงจัง,ทำการชำระล้างพื้นที่รอบๆบึงเพื่อบังคับบางสิ่งบางอย่างออกมา.

นิ้วมือที่ประณีตของเขาที่ชี้ลงไปยังบึง,แสงสีม่วงที่ส่องประกายถูกยิงลงบนบึงเช่นกัน.

ทันใดนั้น,พื้นที่รอบๆของบึงเลนปรากฏร่างเงามากมายขึ้นมาในทันที,แสงสีครามที่เป็นค่ายกลเต็มไปด้วยอักษรรูน,มากมายนับไม่ถ้วนปกคลุมบึงขนาดใหญ่โต.

"เป็นค่ายกลที่ซับซ้อน,ควรค่าแล้วที่เป็นผู้ฝึกตนค่ายกลอันดับหนึ่ง!"เหยี่ยนฉงจื่อที่กล่าวพลางถอนหายใจ.

"นี่มันค่ายกลอะไรกัน? ข้าไม่เคยเห็นได้ยินมาก่อนเลย?"อาวุโสจิวที่เต็มไปด้วยท่าทางหวั่นเกรงต่อค่ายกลดังกล่าว.

อาวุโสจิวที่เต็มไปด้วยความอัศจรรย์ใจ,ไม่ว่าอย่างไรด้วยประสบการณ์ที่เขามีนั้น,เกี่ยวกับค่ายกล,เขาย่อมพอรับรู้มาบ้าง.

"ท่านปู่บอกว่าหนานกงเซิ่งนั้นแข็งแกร่งไม่ได้ด้อยกว่าตัวเองเลย,ทว่าหนานกงเซิ่งนั้นกลับสามารถสร้างสิ่งต่างๆมากมายหลากหลาย,จนกลายเป็นผู้เยี่ยมยุทธ์ที่ยอดเยี่ยมที่สุดคนหนึ่งเลย!"

เซียนเซียนที่กล่าวออกมา,ทำให้เหยี่ยนฉงจื่อขมวดคิ้วจ้องมองไปยังเซียนเซียน,ท่านปู่รึ?

จงซานที่ฝืนยิ้มจ้องมองไปยังเซียนเซียน,ไม่ทันได้ตำหนินางที่เผยความลับ.

บนบึงเลน,ยังไม่เปลี่ยนไป,ดวงตาของหนานกงเซิ่งที่เปลี่ยนเป็นเย็นชา,เผยยิ้มออกมาด้วยท่าทางเหยียดหยัน.

นิ้วของเขาที่ชี้ออกไป,ค่ายกลที่คลุมบึง,ทันใดนั้นก็หายไป,จมลงบึงเลนด้านล่างในทันที.

หนานกงเซิ่งที่จ้องมองด้วยความสนใจ,ทุกคนที่เปลี่ยนเป็นเงียบจับจ้องมองอย่างสนใจเป็นสิ่งใดจากโลกใบใหญ่กัน,ด้วยพลังของหนานกงเซิ่งนั้นน่าเกรงขามมาก,ไม่มีใครที่จะกล้าเข้าไปยุ่งกับเขา.

"ออกมา! ต้องการให้ข้าเชิญเจ้าออกมารึอย่างไร?"หนานกงเซิ่งที่เผยสีหน้าแววตาจริงจัง.

เขาพูดกับใครกัน? ภายในดินโคลนนั้น,ซ่อนสิ่งใดไว้,คนอย่างงั้นรึ?ผู้ฝึกตนชั้นยอด? เป็นผู้ฝึกตนจากโลกใบใหญ่อย่างงั้นรึ?

เหล่าผู้ฝึกตนมากมายที่ชักอาวุธออกมาพร้อมเพรียงเพื่อเตรียมปกป้องตัวเอง,เฝ้าดูด้วยความระมัดระวัง,ต้องไม่ลืมว่าโลกใบใหญ่นั้นคือดินแดนในตำนาน,ในความทรงจำของทุกคนนั้น,พวกเขาที่เป็นเหมือนกับเหล่าคนป่าเถื่อน,ส่วนโลกใบใหญ่กลับเต็มไปด้วยยอดฝีมือที่ทรงพลังน่าเกรงขาม.

"มีปัญหาอะไร? ไม่ต้องการออกมาอย่างงั้นรึ?"หนานกงเซิ่งที่แค่นเสียงเย็นชา.

"โฮกกกกกกกก!"

ด้านล่างดินเลนในเวลานี้,มีเสียงที่โหยหวนดังขึ้นมาในทันที,เสียงแตกหักของโลหะกำลังแตกร้าว,พลังที่ไม่ธรรมดากำลังดังสนั่นเลื่อนลั่นปฐพี,พลังที่น่าเกรงขามกำลังแผ่ออกมา.

เหล่าผู้ฝึกตนมากมาย,ที่ได้ยินเสียงที่โศกเศร้าโหยหวนแล้ว,ดวงตาเปล่งประกาย.

"ออกมา!"หนานกงเซิ่งที่กล่าวด้วยเสียงที่เย็นชาดังขึ้นมาอีกครั้ง,ในมือของเขาที่ปล่อยแสงสีม่วงลงไปในบึงเลนอีกครั้ง.

"โฮกกกกกกก"

บึงเลนที่สั่นไหวไปมา,เสียงความเจ็บปวดทรมานที่ดังขึ้นเป็นระยะๆ.

จากนั้น,สายตาของทุกคนที่จ้องมองไปยังพื้นที่ตรงกลาง,บนบึงเลนนั้นนั้นมีฟองน้ำที่ผุด,ปุดๆขึ้นมาไม่หยุด,จนเกิดเสียงดัง.

สายตาของทุกคนที่แสดงท่าทางกระตือรือร้นต้องการรับรู้.

ไม่นานหลังจากนั้น,จากพื้นที่ตรงกลาง,แสงสีแดงก็ส่องประกายไปทุกสารทิศ,ไม,น่าจะเป็นลำแสงขนาดใหญ่ที่ถูกยิงขึ้นมา,มันพุ่งขึ้นไปทะลวงชั้นเมฆ.

แสงสีแดงที่น่าเกรงขามนี้ถูกส่องขึ้นไปบนท้องฟ้า,ปราณฟ้าดินทันใดนั้นก็วุ่นวายโกลาหล,เมฆห้าสีที่กำลังรวมตัวขึ้นในทันที,ก่อนทีมันจะหมุนวนรอบๆลำแสงสีแดงดังกล่าว,อากาศรอบๆที่ปรากฏพลังกดดันวิญญาณมหาศาลโถมกระหน่ำขึ้นมาในทันที,เหล่าผู้ฝึกตนที่มีระดับพลังฝึกตนต่ำ,ตกตายไปในทันที.

ผู้เยาว์สามคนที่มีอักษรเทียนปักอยู่บนชุด,แววตาที่จ้องมองด้วยท่าทางไม่ดีนัก,ด้วยพลังวิญญาณที่หนักหน่วง,พวกเขาที่มีพลังฝึกตนไม่สูงไม่สามารถที่จะบินหลบหนีได้.

ลำแสงที่พุ่งขึ้นบนฟ้านั้น,สิ่งดังกล่าวนี้คือสิ่งใด? ผู้เยี่ยมยุทธ์อย่างงั้นรึ?

ท้ายที่สุดหลังจากที่ลำแสงถูกยิงขึ้นไป,จากนั้นก็แปรเปลี่ยนเป็นแสงสีทองที่ส่องประกายระยิบระยับส่องไปทุกทิศทุกทาง.

เขาคู่ที่ส่องประกายใบหน้าเหมือนกับมังกรที่ค่อยๆผุดขึ้นมาจากบึงเลน,แสงสีทองที่ลุกไหม้เหมือนกับเปลวเพลิง,เขาขนาดใหญ่ที่ค่อยๆเลื่อนขึ้นมา,ดูน่าเกรงขามเป็นอย่างมาก.ร่างขนาดใหญ่กำลังผุดออกมา.


"นี่มัน,นี่มัน,กิเลน! สัตว์อสูรเทพบรรพชนของโลกใบใหญ่ลำดับที่ 96 ,กิเลน! หนีเร็วเข้า!"เซียนเซิงซือที่เอ่ยออกมาด้วยความตื่นตกใจ.




ที่มาจากhttps://lnmtl.com/novel/immortality

#นิยาย เรื่องอมตะ #Immortality#นิยายแปลไทย
Author(s)


สนใจสนับสนุนพวกเรา,เข้าร่วมกลุ่ม VIP ====> Click

***เว็ปฟรีอัพ สองวันหนึ่งตอน
***กลุ่มลับ อัพ 2-3 ตอนต่อวัน.

 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น