Immortality Chapter 541 Has been short of?
นิยาย เรื่อง อมตะ ตอนที่ 541 มันน้อยไปใหม?
Chapter 541 Has been
short of?
是不是太少了点?
มันน้อยไปใหม?
การเดิมพันของสามราชวงศ์,สถานที่จัดงานอยู่บนสถานที่เชื่อมต่อของทั้งสามอาณาจักร,เทือกเขาหยินมี่!
สถานที่แห่งนี้เทือกเขาที่มีพื้นที่ราบมีเวทีขนาดใหญ่,เรียกว่าลานหยินมี่.
ผู้ที่ไปถึงเป็นคนแรกนั้นเป็นราชวงศ์จักรพรรดิต้าหยิง.
ราชวงศ์จักรพรรดิต้าหยิงนั้น,เป็นราชวงศ์จักรพรรดิของเหล่าภูติ,พวกเขามีภูติชรากว่าหนึ่งพันตน.
ใต้สวรรค์แห่งนี้แยกภพหยินหยาง,หลังจากที่คนตายไป,มีเพียง
1 เปอร์เซ็นต์ที่มีโอกาสเกิดเป็นภูติ,ทว่าเหล่าภูติเหล่านั้นเอง,มีเพียงแค่ 1
เปอร์เซ็นเช่นกันที่มีโอกาสจุติกลับมาเกิดใหม่อีกครั้ง,ดังนั้นเหล่าภูติมากมายจึงเลือกที่จะไม่จุติ,พร้อมกับอาศัยอยู่ในภพหยิน,คล้ายๆกับคนภพหยางที่ไม่ต้องการตกตายไปนั่นเอง.
ราชวงศ์จักรพรรดิของเหล่าภูติ,จักรพรรดิต้าหยิงมีนามว่า,เหยี่ยนฉงจื่อ.
เหยี่ยนฉงจื่อที่นั่งอยู่บนบัลลังก์สีดำทมิฬ,บัลลังก์ที่เหมือนกับแร้งมังกร,สีดำมืดมน,มงกุฏของเขาก็เป็นสีดำล้วนเช่นกัน,มีหยกประดับบนมงกุฎงดงาม,ใบหน้าขาวซีดดวงตาสีแดงเพลิง.
เขานำกองกำลังมาราวๆ
แปดแสนนาย,ชุดเกาะของทหารที่สวมชุดสีดำล้วน,จนไม่สามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน,ทหารทั้งแปดแสนคนนี้ดูแปลกประหลาดเป็นอย่างมาก,ราวกับว่ากำลังลอยอยู่ตลอดเวลา.
ทหารภูติแปดแสนนาย,เป็นกองทัพที่บ่มเพาะวิชาของเหล่าภูตินั่นเอง.
เหยี่ยนฉงจื่อที่นั่งอยู่บนบัลลังก์มังกร,ซึ่งรอบๆเขานั้นมีเหล่าผู้ใต้บังคับบัญชาคนสนิท,พวกเขาเองก็ไม่ต่างจากมนุษย์,ทว่าพวกเขาฝึกฝนวิชาของภูติ,ทำให้ใบหน้าของพวกเขาซีดขาว,ไม่มีสีโลหิต,ดูค่อนข้างน่าหวาดกลัวเช่นกัน.
พวกเขาที่ไม่กล้าเลยออกมาด้านหน้าแม้เพียงครึ่งก้าว,ตอนนี้ยืนอยู่ด้านหลังเยี่ยนฉงจื่อ,ที่ด้านหลังบัลลังก์นั้นมีบรรยากาศที่แปลกๆ,กลิ่นกายพลังวิญญาณของเหล่าภูตินั้นดูอึมคลึมมืดมนเป็นอย่างมาก.
ที่บรรยากาศดูอึมครึมนั้น,ดูเหมือนว่าที่ด้านหลังบัลลังก์มังกรนั้น,มีเก้าอี้ยาว,เป็นเก้าอี้ยาวที่ดูหรูหราไม่น้อย,บนเกาะอี้ยาวนั้นมีชายชราผู้หนึ่ง,จมูกที่มีสีแดง,ดวงตาที่ครึ่งหลับครึ่งตื่น,สวมชุดสีเทาที่ดูชำรุด,ครึ่งนอนครึ่งนั่งบนเก้าอี้ยาว,ที่ข้างๆกายเขานั้นมีน้ำเต้าสุราขนาดใหญ่,เขาครึ่งนั่งครึ่งนอนกอดมันพลางยกมันขึ้นมาจิบเป็นระยะ,พร้อมหลับตาพริ้ม.
ท่าทางของชายชราที่อยู่หัวแถว,การกระทำของเขา,ความน่าเกรงขามของเขากลับไม่มีให้เห็นเลย,ทว่าเหยี่ยนฉงจื่อกลับไม่ได้ว่ากล่าวอะไร,และไม่ได้หยุดชายชราผู้นี้แต่อย่างใด.
กองทัพของเขาที่ประจำอยู่ทิศตะวันตกเฉียงใต้,เหยียนฉงจื่อที่นั่งวางมือบนพนักพิงมังกร,หลับตารอคอย.
ขณะที่เหยี่ยนฉงจื่อรอคอยอยู่นั้น,ราชวงศ์จักรพรรดิที่สองก็เดินทางมากถึง.
ราชวงศ์จักรพรรดิต้าซุน.
จักรพรรดิต้าซุน,โดยมีจักรพรรดินามว่า,กัวเฟิง.
กัวเฟิงที่ดูเหมือนมนุษย์,กองทัพของเขาก็เคลื่อนทัพเหมือนกับมนุษย์.
กัวเฟิงที่สวมชุดจักรพรรดิสีแดงชาด,มงกุฎหยกสีแดงชาติ,ใบหน้าที่ดูเครงขรึม,ดวงตาที่ราวกับว่าเปิดไม่สนิท,ทว่ากับแฝงไปด้วยจิตสังหาร,ดูน่าเกรงขามเป็นอย่างมาก.
Above dragon stage, is standing one group
of trusted subordinates, but stands after Guo Feng, only then a blood surface
man, standing slightly before, although the status is inferior to Guo Feng, may
under above such obvious people, ten thousand people. Honored incomparable!
กัวเฟิงที่นั่งอยู่บนบัลลังก์มังกร,ซึ่งมีกลุ่มผู้ใต้บังคับบัญชาที่เชื่อใจยืนอยู่ด้านหลัง,เป็นชายที่ทั่วร่างมีสีผิวโลหิต,ยืนอยู่ด้านหลังของเขาเล็กน้อย,แม้ว่าจะมีสถานะต่ำกว่าเกาเฟิง,ทว่าเห็นได้ชัดเจน,ในกลุ่มคนนั้น,เขามีสถานะที่สูงส่งเป็นอย่างมาก.
ด้านล่างเวที,เป็นกองกำลังของราชวงศ์จักรพรรดิต้าซุน.
กองกำลังของราชวงศ์จักรพรรดิต้าซุน,แยกออกเป็นส่องทัพ,หนึ่งคือทหารราบ,อีกหนึ่งคือกองกำลังเคลื่อนที่เร็ว,ทัพหมาป่า.
ทหารราบมี 300,000 นาย,และกองกำลังหมาป่ามี
200,000 นาย.
ทหารสองแสนนาย,ที่ยืนอยู่ข้างๆหมาป่าขนาดใหญ่,หมาป่าเหล่านี้แปลกประหลาดเป็นอย่างมาก,ทุกตนที่มีสีแดงโลหิตไปทั่วร่าง,แม้แต่ดวงตาเองก็ด้วย,ปลดปล่อยกลิ่นอายแห่งความตายออกมา,เป็นหมาป่าโลหิตที่ร้ายกาจเป็นอย่างมาก.
กองกำลังหมาป่าโลหิตที่อยู่ด้านหน้า,ดูทรงพลังน่าเกรงขาม.
ราชวงศ์จักรพรรดิต้าซุนที่ร้ายกาจไม่น้อย,ซึ่งนั่นก็เพราะว่ามีกองกำลังหมาป่านี้นั่นเอง.
ทัพของพวกเขาที่ก้าวเข้ามา,กัวเฟิงที่โบกสะบัดให้พวกเขาเข้าไปประจำตำแหน่งในทิศตะวันตกเฉียงเหนือของเทือกเขาหยินมี่.
ทัพของพวกเขาที่เข้าประจำที่อย่างเป็นระเบียบ,ดูเหมือนว่าพวกเขาจะมีกฏระเบียบที่เข้มงวดเป็นอย่างมาก.
เกาเฟิงที่ยกมือขึ้นวางบนพนักบัลลังก์,เงยหน้าขึ้นมองเหยี่ยนฉงจื่อที่ไกลออกไป.
ทัพใหญ่ของราชวงศ์จักรพรรดิทั้งสองมาถึงแล้ว,พวกเขาที่จ้องมองหน้ากันและกัน.
"เหยี่ยนฉงจื่อ,รู้สึกว่าจะไม่ได้เห็นเจ้านานแล้วสินะ!"กัวเฟิงที่เผยยิ้มออกมา,จ้องมองอย่างมีเลิศนัยย์
"!"
เหยี่ยนฉงจื่อที่พยักหน้าให้เท่านั้น.
นี่คือการพูดคุยของจักรพรรดิทั้งสอง,แน่นอนว่าคนอื่นไม่สามารถออกความเห็นได้,พวกเขาที่รอคอยคำพูดของผู้นำทั้งสอง.
"ครั้งนี้เจ้าต้องการที่จะเดิมพันเท่าไหร่?"กัวเฟิงที่กล่าวออกมาตรงๆ.
"เจ้าคิดว่าอย่างไร?"เหยี่ยนฉงจื่อที่ไม่กล่าวตอบออกไป.
นี่คือการชิงไหวชิงพริบ,ไม่มีใครเผยความในใจของตัวเองออกมาก่อน.
"ต้าเซียนได้ล่มสลายไปแล้ว,ในเวลาไม่นานก็มีราชวงศ์จักรพรรดิต้าเจิ้งโผล่ขึ้นมา,เจ้ารู้หรือไม่?"กัวเฟิงที่สอบถามออกไป.
"ราชวงศ์จักรพรรดิต้าเจิ้ง,ควบคุมผู้มีอำนาจควบคุมข้าราชบริพารพวกเขาด้วย,แสดงว่าจักรพรรดิหาได้ใช่คนดี!"เหยี่ยนฉงจื่อกล่าว.
"งั้นเจ้าก็เป็นคนดีอย่างงั้นรึ?"กัวเฟิงที่กล่าวล้อเผยยิ้มออกมาเล็กน้อย.
สายตาของเหยี่ยนฉงจื่อที่เปลี่ยนเป็นเย็นจา,ภายในใจที่เผยความเป็นปฏิปักษ์ออกมา,"อย่างน้อยก็ไม่ใช่วิธีลับๆล่อ!"
"เขา? จงซาน?
คนผู้นี้,ใช้เวลาไม่ถึงสิบปีก็สามารถสร้างราชวงศ์จักรพรรดิขึ้นมา,ข้าเองก็ต้องการเจอเขา,เขาไม่มาอย่างงั้นรึ?ข้าละอย่างพบจริงๆ."กัวเฟิงเผยยิ้มเหยียดหยันออกมา.
กัวเฟิงผู้นี้เป็นคนที่ยะโสโอหังเป็นอย่างมาก,ต่อหน้าราชวงศ์จักรพรรดิทั้งสองที่มีกองกำลังกำลังรวมกันมากกว่าล้านคน,ไม่คิดเลยว่าเขาจะเต็มไปด้วยความเหยียดหยันฝังตรงขาม,และยังแสดงท่าทางดูแคลนจงซานอย่างชัดเจน,ความอหังการนี้,อีกไม่นานจะต้องถูกคิดบัญชีอย่างสาสม.
เหยี่ยนฉงจื่อจ้องมองไปยังกัวเฟิง,เผยท่าทางเหยียดหยัน.
ขณะที่พวกเขาพูดคุยกันนั้น,ทันใดนั้นก็พบเงาล่างจากทิศตะวันออก.
ทัพของต้าเจิ้งเดินทางมาแล้วนั่นเอง.
จงซานที่นำกองกำลัง 800,000
นาย,มาจากเมืองซ่าง.
กองทัพที่ได้รับการฝึกฝนอย่างดีมาหลายปี,แม้แต่การเดินขบวนถึงกับทำให้ราชวงศ์จักรพรรดิทั้งสองต้องขมวดคิ้วแน่น.
พร้อมเพรียงขนาดนี้เลยรึ?
แม้ว่าจงซานจะนำทหารมาเพียง
8แสนนาย,ทว่าทหารทั้งแปดแสนนี้,เดินขบวน,จังหวะยกเท้า,ที่ลงสู่พื้นและยกขึ้น,เหมือนๆกันเป็นอย่างมาก,ทุกๆ
การก้าวเดินเป็นไปตามจังหวะกลองรบ.
เสียงเท้าที่กระทืบพื้น,เสียงดังสนั่นหวั่นไหว,แลดูน่าเกรงขามเป็นอย่างมาก.
ธงจักรพรรดิขนาดใหญ่โต,ปักอยู่บัลลังก์มังกร,จงซานในชุดมังกรทองเก้าเล็บ,ดูสง่างามน่าเกรงขาม,มงกุฎสีทองที่แผ่กลิ่นอายที่แข็งแร่งราวกับปราณราชันย์.
บัลลังก์เก้ามังกรที่ดูยิ่งใหญ่,เผยให้เห็นถึงอำนาจของจักรพรรดิ,บนแท่นขบวนมังกร,เหล่าผู้บังคับบัญชาที่น่าเกรงขาม,เต็มไปด้วยความน่าเกรงขาม,ใบหน้าของทุกคนที่ดูเคร่งขรึมและดูน่าเคารพ,กลิ่นอายจักรพรรดิที่แผ่ออกมานั้น,เต็มไปด้วยแรงกดดัน.
จักรพรรดิ,นี่คือจักรพรรดิอย่างงั้นรึ?
ทำไมอำนาจบารมีถึงได้ดูน่าเกรงขามถึงขนาดนี้.
ราชวงศ์จักรพรรดิต้าเจิ้ง.
เหยี่ยนฉงจื่อและกัวเฟิงจดจ้องมองด้วยสายตาที่เย็นชา.
ทัพของต้าเจิ้งที่ก้าวเข้ามาช้าๆ,ท้ายที่สุดก็มาอยู่ที่ด้านหน้าลานหยิงมี่,ไม่จำเป็นต้องให้จงซานกล่าวออกมา,เพียงแค่โบกมือหลินเซียวก็เข้าใจแล้ว,ทัพทั้งหมดที่หยุดอยู่อย่างพร้อมเพียง,เขาแถวตรงไม่ขยับเคลื่อนไหว.
นี่เป็นกองทัพที่เข็มงวดเป็นอย่างมาก,ราชวงศ์ฝ่ายตรงข้ามทั้งสองที่ขมวดคิ้ว,คาดไม่ถึงแม้แต่น้อยจะมีทัพที่พร้อมเพียงถึงเพียงนี้,ทว่าไม่คาดคิดเช่นกันเพียงสองปี,ราชวงศ์จักรพรรดิต้าเจิ้งจะพัฒนาได้เร็วขนาดนี้,ระยะเวลาสั้นๆกลับสามารถฝึกฝนทัพได้แข็งแกร่งขนาดนี้เลยรึ?
อย่างไรก็ตาม,เหยี่ยนฉงจื่อและกัวเฟิงยังคงรู้สึกดูแคลนในใจ.
ที่ด้านข้างบัลลังก์มังกรของจงซานนั้น,มีเหล่าเสนาธิการใหม่และมีเซียนเซิงซือ,หลินเซียว,เซียนเซียนและซาโพว.
เซียนเซียนที่จ้องมองผ่านลานหยิงมี่,จับจ้องมองไปยังหมาป่าโลหิตที่อยู่ไกลออกไป,ก่อนที่จะจ้องมองไปยังกองทัพภูติที่มีจำนวนแปดแสนตน.
เหล่าหมาป่า,มีอะไรน่าสนใจ?
เซียนเซียนที่มั่นใจ,ก่อนที่จะจ้องมองไปยังทัพภูติ,ที่ดูแปลกประหลาด,โดยเฉพาะอย่างยิ่งเหล่าภูติกว่าแปดแสนตน,ส่งกลิ่นอายแห่งความตายออกมา.
เซียนเซียนที่ดูกองทัพภูติที่ดูธรรมดา,หากแต่เซียนเซิงซือนั้นเผยยิ้มออกมาเล็กน้อย.
ส่วนซาโพวนั้นจับจ้องมองไปยังตำแหน่งของหมาป่าโลหิต! พร้อมกับจดจ้องมองไปยังคนผู้หนึ่งที่อยู่ด้านหลังกัวเฟิง.
จ้องมองไปยังชายคนดังกล่าวดวงตาของซาโพวที่เปลี่ยนเป็นประกาย,ที่มุมปากเผยยิ้มอย่างชั่วร้ายออกมา,ซาโพวที่จ้องมองไปยังชายที่มีผิวสีโลหิต,เช่นเดียวกันชายคนดังกล่าวก็จ้องมองมายังซาโพวและเซียนเซียน.
ชายผิวโลหิตที่ขมวดคิ้วไปมาหากแต่ยังควบคุมตัวเองเอาไว้.
แม้ว่าเขาจะไม่สามารถมองเห็นพลังฝึกตนของทั้งสองคน,ทว่าชายผิวโลหิตก็สัมผัสได้ถึงความแปลกประหลาด,ความสัมพันธ์ของเผ่าหมาป่า,สัญชาตญาณที่ดูคล้ายคลึงกับพวกเขา.
ชายชราที่เมาอยู่ตลอดเวลา,ก่อนหน้านี้เมื่อทัพของกัวเฟิงมา,เขาหาได้ใส่ใจ,ยังคงหลับตานอนอย่างเกลียดคร้าน,ทว่าขณะทีทัพของจงซานมาถึง,ดวงตาของเขาที่ลืมขึ้น,ส่องประกาย,จากนั้นก็หลับตาลง,และนอนต่อ,เหมือนกับก่อนหน้านี้.
จงซานที่นั่งบนบัลลังก์มังกร,พร้อมกับวางแขนบนพนักพิงมังกร,จดจ้องมองไปยังจักรพรรดิทั้งสองคน.
"ราชวงศ์จักรพรรดิต้าเจิ้ง,จงซาน,ยินดีที่ได้พบท่านทั้งสอง!"จงซานที่กล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม.
"ราชวงศ์จักรพรรดิต้าหยิง,เหยี่ยนฉงจื่อ,ยินดีที่ได้พบจงซาน!"เหยี่ยนฉงจื่อที่จ้องมองไปยังตำแหน่งของจงซาน.
"ราชวงศ์จักรพรรดิต้าซุน,กัวเฟิง,ยินดีที่ได้เห็น!"สายตาของกัวเฟิงเผยรอยยิ้มอันอัปลักษณ์ออกมา.
จากนั้น,จักรพรรดิทั้งสองต้องการที่จะทดสอบจงซาน.
"จงซาน!
เกี่ยวกับประเพณี,เจ้ารู้หรือไม่?"กัวเฟิงที่จ้องมองไปยังจงซาน.
"ย่อมได้ยินมาบ้าง,มีปัญหาอะไร,มีการปรับเปลี่ยนกฏอย่างงั้นรึ?"จงซานที่เผยยิ้มกล่าวต่อกัวเฟิง.
"เปลี่ยนกฏ?
ข้าต้องการถามราชวงศ์ต้าเจิ้งที่มีเมืองหลายเมืองเตรียมจะนำมาเดิมพันเท่าไหร่?"กัวเฟิงที่เผยรอยยิ้มที่เหยียดหยัน.
"ต้าเจิ้งนั้นเป็นผู้มาใหม่,แน่นอนว่าต้องขอฟังความเห็นของทั้งสองก่อน."จงซานที่เป็นมารยาท.
"ข้าต้องการเดิมพันสิบเมืองเป็นอย่างไร?"กัวเฟิงที่เผยรอยยิ้มที่ชั่วร้ายออกมา.
สิบ?
ในอดีตของสามราชวงศ์ที่เดิมพันกันนั้น,จะอยู่ที่ห้าเมือง,มากสุดคือแปดเมือง,ตอนนี้กัวเฟิงเริ่มที่สิบเมืองอย่างคาดไม่ถึง,ต้องไม่ลืมว่าแต่ละราชวงศ์นั้นมีอยู่ด้วยกันสามสิบเมือง,สิบเมืองก็เป็นจำนวนถึงหนึ่งในสาม,นับว่ากัวเฟิงพูดจาใหญ่โต,ราวกับว่าจะกินผู้มาใหม่อย่างจงซานอย่างอร่อย.
"เหยี่ยนฉงจื่อ,ท่านเห็นว่าอย่างไร?"จงซานชำเลืองมองไปยังเหยี่ยนฉงจื่อ.
"สิบเมือง,ราชวงศ์ต้าหยิงเองก็ยอมรับ,"เหยียนฉงจื่อที่รับคำกัวเฟิงในทันที,ราวกับว่าเขาต้องการเห็นปฏิกิริยาของจงซาน.
"..."จงซานเผยยิ้มออกมาเงียบๆ.
"มีปัญหาอะไร?
เต้าจิ้งไม่กล้าอย่างงั้นรึ?"กัวเฟิงที่เผยรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความดูแคลน.
เหล่าผู้ใต้บังคับบัญชาที่เผยยิ้มด้วยความพึงพอใจกับความโชคร้ายของคนอื่น,ส่วนเซียนเซียนที่อยู่ด้านหลังจงซานที่เผยแววตาโกรธเกรี้ยว,ส่วนคนอื่นๆยังคงสงบ.
คำพูดของเหล่าจักรพรรดิทั้งสาม,คนอื่นๆย่อมไม่สามารถเข้าไปยุ่งเกี่ยวได้,นี่คือประเพณีนั่นเอง.
จงซานที่เผยยิ้มอย่างแปลกประหลาด,"สิบเมือง,มันน้อยไปใหม?."
ที่มาจากhttps://lnmtl.com/novel/immortality
#นิยาย เรื่องอมตะ #Immortality#นิยายแปลไทย
Author(s)
สนใจสนับสนุนพวกเรา,เข้าร่วมกลุ่ม VIP ====> Click
***เว็ปฟรีอัพ สองวันหนึ่งตอน
***กลุ่มลับ อัพ 2-3 ตอนต่อวัน.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น