วันเสาร์ที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562

Immortality Chapter 523 The trump card sends out

Immortality Chapter 523  The trump card sends out

นิยาย เรื่อง อมตะ ตอนที่ 523   ไพ่ลับ.


Chapter 523  The trump card sends out
王牌出
  ไพ่ลับ.

สังหารคนทั้งเมือง! กองกำลังต้าเจิ้ง,สังหารคนทั้งเมืองจริงๆ!

กับข่าวที่ถูกส่งออกไป,ในเวลานี้,เขาได้สังหารคนทั้งเมืองจริงๆ? เขายังคงเคลื่อนทัพด้วยความดุร้ายทารุณ.



ในประวัติศาสตร์การไล่ล่าสังหารของราชวงศ์วาสานานั้นไม่ค่อยมี,เพราะในระยะยาว,การไล่ล่าสังหารคนมากมายนั้น,จะส่งผลต่อความรู้สึกของปวงชน,เมื่อประชาชนเกิดปฏิปักษ์,ความรุ้สึกที่ไม่เป็นหนึ่งอันเดียวกัน,จะทำให้ไม่สามารถขยายอาณาจักรได้.

ทั่วทั้งทวีปศักดิ์สิทธิ์,มีราชวงศ์วาสนาที่ดุร้ายไม่กี่แห่ง,การสังการคนทั้งเมือง,ไม่คาดคิดเลยว่าจงซานจะดุร้ายเช่นนี้! สังหารคนมากมาย,ไม่เพียงเท่านั้น,ยังสังหารทุกคนในเมือง,หมายความว่าอย่างไร? สังหารทุกคนเลยอย่างงั้นรึ?

สังหารทุกคน? ตราบเท่าที่เป็นศัตรู,ทุกคนต้องตายทั้งหมดเลยรึ?

"ปิศาจกระหายโลหิต!"

ข่าวที่ทุกคนให้ความสนใจ,เกี่ยวกับการบุกเบิกดินแดนในครั้งนี้,ทุกคนที่รู้สึกหนักหัวใจรัดแน่นขึ้นมาในทันที,เกี่ยวกับสงครามไล่ล่าสังหารในครั้งนี้,ทว่าสิ่งที่เกิดขึ้นนี้,เป็นความจริงรึ? จงซานคิดจะบุกเบิกดินแดนด้วยการสังหารทุกคนนี้จริงๆรึ?

เหล่าราชวงศ์วาสนาที่ได้ข่าวเรื่องดังกล่าว,ต่างก็เงียบไปในทันที.

ในเวลาเดียวกัน,เมืองหลวงราชวงศ์จักรพรรดิต้ากวงก็ได้รับข่าวการสังหารคนทั้งเมืองด้วยเช่นกัน.

สังหารคนทั้งเมือง? สังหารทุกคนไม่เหลือสักคนเลยรึ?

เหล่าประชนชนที่ได้ยินข่าว,ต่างก็มือสั่นตัวสั่นด้วยความหวาดกลัว.

ตายรึ? ก่อนหน้านี้ประชาชนที่ได้ยินการประกาศบุกเบิกดินแดนของจาน,พวกเขาที่ทำได้แค่ยิ้มเท่านั้น,เพราะทุกคนต่างก็เชื่อมั่นในจักรพรรดิต้ากวง,ตาเจิ้ง,กระทำการสิ้นคิด,คิดว่าจะสามารถโค่นล้มพวกเขาได้อย่างงั้นรึ?

กับประกาศ,สังหารเก้าชั่วโคตร,ทำให้ทุกคนเผยสีหน้าท่าทางเหยียดหยันด้วยซ้ำ.

มีคนน้อยมากที่หนีออกจากเมือง,คนส่วนมากยังคงเชื่อมั่น,ยังคงพูดคุยกันเป็นเรื่องตลก,ราชวงศ์ต้าเจิ้งมีความสามารถพออย่างงั้นรึ? หากว่าเกิดเรื่องที่ไม่คาดฝันขึ้น,อย่างน้อยก็ยอมจำนนเปลี่ยนเป็นคนของต้าเจิ้งเท่านั้น.

ใครจะคิดว่าพวกเขาจะสังหารคนทั้งเมืองกัน?

พริบตาเดียวที่ข่าวสังหารคนทั้งเมืองแพร่ออกไป,ราวกับพายุที่โหวกระหน่ำ,มันได้กระจายไปทั่วเมืองอย่างรวดเร็ว!

การบุกเบิกดินแดนของพวกเขาในเวลานี้,สังหารทุกคนที่เกี่ยวข้อง,ในเวลานี้ทุกคนกำลังเผชิญหน้ากับความเป็นความตาย,พวกเขาเข้าใจได้อย่างชัดเจนในทันที.
-----

ทหารของต้ากวงจากเมืองต่างๆมากมาย,ถูกสังหารทั้งหมด! ถูกสังหารไม่มีใครเหลือรอดซักคน!

จากวันนั้นจนถึงตอนนี้.

ความหนาวเย็นที่รุกคืบคานเข้ามา,ฆ่า!

ความหวาดกลัวที่ได้แพร่เข้าไปในจิตใจ,ฆ่า!

ความกังวลที่รุมเร้า,ฆ่า!

ฆ่าฆ่าฆ่า!

สงครามในครั้งนี้,กลายเป็นฝันร้ายสำหรับประชาชนทั่วไป,ประชาชนมากมายที่เต็มไปด้วยความหวาดกลัวกับสงครามที่กำลังเกิดขึ้น.

ทัพศัตรูที่รุกเข้ามา,ทหารของต้ากวงที่ตกตายมากขึ้นและก็มากขึ้น,คนทั่วเมืองถูกสังหาร! ตกตายไปทั้งเหมือง,ไม่มีใครเหลือเลย!

นี่ไม่ใช่แค่การข่มขู่,ความน่าหวาดกลัวนี้,มันคือเรื่องจริง.

การสังหารยังคงรุกเข้ามาเรื่อยๆ,พวกเขายินดีที่จะเข้าต่อต้านอย่างงั้นรึ?

ไม่รู้ว่าใครเป็นคนแรก,ที่พักอาศัยที่เริ่มหายไป,ทรัพย์สมบัติที่ถูกโยกย้ายเก็บเข้าไปในกำไลเก็บของ,ราวกับหายนะกำลังเขามาไกล้,คนที่เริ่มหนีออกนอกเมือง.

เมื่อมีคนแรกก็ย่อมมีคนที่สอง!

อยู่ต่อต้านต้าเจิ้งไม่ให้รุกเข้ามาอย่างงั้นรึ? เพ่ย,ใครอยากตายกัน?

คนมากมายที่หวาดกลัวในความตาย,พวกเขาที่ตัดสินใจอย่างรวดเร็ว,หนี,หนีไปให้เร็วที่สุด.

เหล่าคนที่หวาดกลัวย่อมต้องวิ่งหนี,คนที่หนีเริ่มมีมากขึ้น,ทว่าบางทีเหล่าคนที่ยังคงสุขุม,ทว่าเมื่อเมื่อเห็นคนมากมายจากไป,ก็ย่อมส่งผลเป็นธรรมดา,สุดท้ายก็จากไปด้วยเช่นกัน.

มีเพียงคนที่จงรักภัคดีต่อราชวงศ์จักรพรรดิต้ากวง,ที่ไม่ยินดีจากไป,ต้ากวงจะไม่แพ้,พวกเขาจะไม่ตาย! ต้องหนีอย่างงั้นรึ? ไม่ว่าอย่างไรพวกเขาก็มั่นใจว่าจะสามารถต้านทานต้าเจิ้งได้.

แต่ถึงกระนั้น,คนกว่าครึ่งหนึ่งก็ได้หนีหายไป.

ราชวงศ์จักรพรรดิต้ากวงที่ไม่สามารถอยู่นิ่งเฉยได้,พวกเขาได้ส่งกองกำลังขนาดใหญ่เข้าล้อมกองทัพของจงซาน.

ล้อมอย่างงั้นรึ? กองกำลังของจงซานที่ยังเหลืออยู่ในดินแดนแห่งความวุ่นวายครึ่งหนึ่ง,ราชวงศ์จักรพรรดิต้ากวงมีกองกำลังเพียงพอที่จะล้อมจงซานอย่างงั้นรึ? นอกจากนี้ล้อมรอบจงซานนั้นยังมีแม่ทัพที่น่าเกรงขามมากมาย,พวกเขายังจะสามารถทำได้อย่างงั้นรึ?

พวกเขาที่ส่งทหารกลุ่มหนึ่งเข้าตีเมืองของต้าเจิ้ง,ด้วยคิดว่าเมื่อถูกตลบหลังแล้วทัพของต้าเจิ้งจะยอมแพ้กับไป,หานจื่อกวงนั้นไม่คิดว่าเมืองหลวงที่แท้จริงของต้าเจิ้งนั้นอยู่ไกลออกไป,เขาไม่รู้ว่า,หากต้องการโจมตีเมืองหลวงที่แท้จริงแล้ว,เข้าจะต้องข้ามทะเลไป.

ดังนั้น,สงครามในครั้งนี้,หานจื่อกวงที่ยังไม่ได้ใช้ไพ่ลับ,ยังคงตั้งรับอย่างเดียว.

หลังจากนั้นสิบวัน,ทัพของจงซานก็เริ่มเข้าโจมตีอีกครั้ง,ทะเลโลหิตที่ไหลชโลมแผ่นดิน,เขาเริ่มสังหารคนทั่วเมืองอีกครั้ง.

เหล่าประชาชนของต้ากวงเวลานี้ก็เต็มไปด้วยความหวาดกลัว,กองกำลังปิศาจ,นี่พวกเขาต้องพบกับกองกำลังปิศาจ.

เมืองใหญ่ทั้ง 12 ของต้ากวงเวลานี้ถูกทำลายไปครึ่งหนึ่งแล้ว.

คนของราชวงศ์จักรพรรดิต้าต้ากวงตอนนี้หายไปครึ่งหนึ่งแล้ว,ตายไป 200 ล้านคน,โลหิตกลายเป็นทะเล,คนครึ่งหนึ่งของต้ากวงได้ย้อมท้องฟ้ากลายเป็นสีแดง.

ในเวลานี้คนที่เหลือของต้ากวงที่เริ่มหนีมากขึ้นและก็มากขึ้น,เหล่าทหารคุ้มเมืองตอนนี้ต่างก็อกสั่นขวัญหาย.

ส่วนทัพของจงซานในเวลานี้,ยังคงเหลือ 8 ล้านคน,และได้รับบาดเจ็บเป็นจำนวนมากเช่นกัน.

จงซานกลับมาอยู่ในช่วยพักฟื้น!
............

ตำหนักจื่อกวง,เมืองเทียนกวง! ท้องพระโรง.

เหล่าเสนาธิการ,ข้าราชบริพารที่ลุกลี้ลุกลน,ใบหน้าแสดงท่าทางหวาดกลัว,หวาดกลัวต่อจงซาน.

"พี่ใหญ่,จงซานที่อาละวาดใหญ่แล้ว,พวกเราจะทำอย่างไรดี? จะขับไล่พวกเขาไปอย่างไร,พวกเราส่งยอดฝีมือเข้าไปทำลายพวกเขาเลยใหม!"หานฉวงที่เอ่ยออกมาในทันที.

เหล่าข้าราชบริพารมากมายที่หัวใจหดเกร็ง,วิ่งเข้าไป,ส่งคนไปจัดการจงซานอย่างงั้นรึ? ฝันไปเถอ,ศรปราณทะลวงหลายล้านคงพุ่งออกมายิงพวกเจ้าตกตายไป,จะเข้าไปได้อย่างไร.

"ฝ่าบาท,ข้าและคนอื่นขอถอยห่างออกไปยังสถานที่ด้านนอก,เฝ้ารอคอยโอกาสแล้วค่อยกลับมา!"เสนาธิการคนหนึ่งกล่าวออกมาด้วยท่าทางขลาดเขลา.

"ใช่,ฝ่าบาท,ทัพของต้าเจิ้ง,ใกล้เข้ามาแล้ว,เพียงแค่สามเดือน,ต้ากวงของพวกเราเสียหายไปครึ่งอาณาจักรแล้ว!"เสนาธิการคนหนึ่งที่กล่าวออกมาด้วยความหวาดกลัว.

"สามหาว,เป็นขุนนางหวาดกลัวความตาย,แค่นี้ยังกลัว,คิดว่าจะสามารถขับไล่ต้าเจิ้งไปได้รึ?"แม่ทัพผู้หนึ่งที่กล่าวออกมาด้วยความโกรธเกรี้ยว.

บนบัลลังก์,หานจื่อกวงยังคงเงียบงัน,จดจ้องเหล่าเสนาธิการที่โต้เถียงไปมา,หลายๆคนที่เต็มไปด้วยความกังวลใจ,ทั้งที่ครั้งหนึ่ง,เมื่อครั้งเป็นราชวงศ์ราชันย์,เหล่าขุนนางยังเต็มไปด้วยความมั่นใจ,หากแต่ครั้งนี้กลับไม่สามารถทนได้อย่างงั้นรึ?

"เงียบ,เกี่ยวกับต้าเจิ้ง,ข้ามีวิธี,ตอนนี่ส่งเจ้าหน้าที่ออกไปทำให้ประชาชนมีขวัญกำลังใจที่มั่นคง,เพื่อที่จะทำให้ขวัญกำลังใจของทหารกลับคืนมาก่อน!"หานจื่อกวงที่ออกคำสั่งในทันที.

"รับทราบ!"เสนาธิการทุกคนที่รับคำในทันที.

ทุกคนที่ติดตามหานจื่อกวงมาหลายปี,ตราบเท่าที่หานจื่อกวงยังควบคุมตัวเองได้,ทุกคนก็ย่อมวางใจลงได้.

หลังจากนั้นเหล่าข้าราชบริพารก็ออกไป.

"พี่ใหญ่,ท่านมีวิธีอะไรอย่างงั้นรึ?"หานฉวงที่สอบถามออกมาในทันที.

หานจื่อกวงที่จ้ององไปยังหานฉวง,ไม่ได้กระวนกระวายใจแต่อย่างใด,"ข้าได้เตรียมกองกำลังเอาไว้แล้ว,เจ้าไม่จำเป็นต้องกังวล!"

"เตรียมกองกำลัง? ไม่ใช่ว่ากองกำลังน้ำแข็งเหมันต์ตายในสนามรบหมดแล้วรึ? หรือว่ายังมีกองกำลังอื่นอีกอย่างงั้นรึ?"หานฉวงที่กล่าวออกมา.

"ถูกแล้ว,กองกำลังน้ำแข็งเหมันต์ที่ส่งออกไปเป็นเพียงกองกำลังมนุษย์."หานฉวงกล่าว.

"กองกำลังมนุษย์อย่างงั้นรึ? หมายความว่าอย่างไร?"หานฉวงที่เต็มไปด้วยความงงงวย.

ในเวลาเดียวกัน,ทันใดนั้นก็มีชายคนหนึ่งที่มชุดสีขาวล้วนเดินเข้ามาในห้องโถงทันที,ก่อนที่จะคุกเข่าลงบนพื้น.

"ไม่มีมารยาท,ไม่เข้าใจธรรมเนียมอย่างงั้นรึ?"หานฉวงที่หันหน้าไปมองด้วยความโกรธ.

"ข้าให้เขาเข้ามาเอง!"หานจื่อกวงที่กล่าวต่อว่าหานฉวงในทันที.

หานจื่อกวงที่ได้แต่เงียบแสดงท่าทางขัดเขิน.

"เห็นอะไรบ้าง?"หานจื่อกวงที่สอบถามออกไป.

"รายงานฝ่าบาท,เห็นเวลาตกฟากของหลินเซียวและสุ่ยอู๋เหิน,ส่วนจงซาน,อี้เหยี่ยน,สุ่ยจิงและเซียนเซิงซือ,ไม่สามารถมองเห็นเวลาตกฟากได้."ชายในชุดสีขาวเอ่ย.

"เป็นไปได้อย่างไร?อี้เหยี่ยน,สุ่ยจิงและเซี่ยเซิงซือ,สามคนี้มีภูมิหลังที่แปลกประหลาด,ไม่สามารถมองเห็นได้,ทว่าทำไมจงซานไม่สามารถมองเห็นเวลาตกฟากได้อย่างงั้นรึ? เขาไม่ใช่คนของเกาะหมาป่าสวรรค์อย่างงั้นรึ?"หานจื่อกวงที่กล่าวออกมาด้วยความขุ่นเคืองใจ.

"เรียนฝ่าบาท,พวกเราทำเต็มที่แล้ว!"ชายในชุดสีขาวที่กล่าวออกมา,พร้อมกับยื่นม้วนอักขระออกมา.

"ออกไปได้แล้ว!"หานจื่อกวงที่เก็บคัมภีร์,พร้อมกับสูดหายใจลึก.

ภายในม้วนอักขระเป็นเวลาตกฟากของหลินเซียวและสุ่ยอู๋เหินนั่นเอง.

"พี่ใหญ่,ท่าน,ท่านให้พวกเขาหาเวลาตกฟางไปทำอะไร? วิชาคำสาปรึ? หรือว่ามารเฒ่าสุ่ยจิงอยู่ที่นี่?"หายฉวงที่แสดงสีหน้าท่าทางประหลาดใจออกมาในทันที.

หานจื่อกวงที่จ้องมองไปยังหานฉวง,หากแต่ไม่ได้ปฏิเสธใดๆ!

จงซานได้สังหารคนทั้งเมืองใหญ่ที่สองแล้ว!

หลังจากสังหารคนทั้งเมือง,จงซานที่กลายเป็นอสุรกายปิศาจที่มีชื่อเสียงในทันที,ทว่าฉายานี้,ไม่ทำให้เขาใส่ใจแม้แต่น้อย.

ในวันนี้,จงซานที่อยู่ในค่ายใหญ่.

เหล่าแม่ทัพที่อยุ่ด้านหน้า,โดยมีจงซานถือจดหมาย,พร้อมกับจดจ้องมองอยู่.

"ไพ่ลับของหานจื่อกวงได้เผยออกมาแล้ว!"จงซานกล่าวอย่างเคร่งขรึม.

"คืออะไรอย่างงั้นรึ?"อี้เหยี่ยนสอบถามออกมาทันที.

จงซานที่ยื่นจดหมายให้กับอี้เหยี่ยนและคนอื่นๆ.

"คนเดียว? เพียงคนเดียวอย่างงั้นรึ?"สุ่ยอู๋เหินที่กล่าวออกมาด้วยความประหลาดใจ.

คนเพียงคนเดียวคือไพ่ลับอย่างงั้นรึ? หมายความว่าอย่างไร? คนเพียงคนเดียวจะสามารถหยุดทัพพวกเราได้อย่างงั้นรึ? น่าขัน! เป็นเหรื่องที่น่าขันนัก!

คราแรกทุกคนที่เผยยิ้มออกมา,ทว่าหลังจากที่จ้องมองไปยังเซียนเซิงซือ,ก็ต้องเปลี่ยนเป็นจริงจังเช่นกัน.

ไม่ใช่คนเช่นเซียนเซิงซือหรอกรึ?กองกำลังเจียงซือที่ควบคุมด้วยคนๆเดียว,แม้ว่าเซียนเซิงซือจะมีพลังระดับหลอมกายธาตุขั้นสูง,ทว่า,ใครจะกล้าดูแคลนเขากัน?

"ส่งคนออกไปยังเมืองทั้งหก! ฝ่าบาท,ให้เฉินไปตรวจสอบเขาก็แล้วกัน!"เซียนเซิงซือกล่าว.

ต่อหน้าไพ่ลับของหานจื่อกวง,จงซานย่อมไม่สามารถประมาทได้,ไพ่ลับที่ซ่อนเอาไว้ลึกกว่ากองกำลังน้ำแข็งเหมันต์,แน่นอนว่าจะต้องมีความแข็งแกร่งมาก,การให้เซียนเซิงซือออกไปตรวจสอบ,อย่างน้อยก็ไม่มีปัญหาอย่างแน่นอน.

"กองกำลังของพวกเราจะพักฟื้น,ให้เซียนเซิงซือบุกไปก่อน,เพื่อตรวจสอบเมืองทั้งหก!"จงซานที่ออกคำสั่งในทันที.

"รับทราบ!"เซียนเซิงซือรับคำก่อนที่จะออกไป.

หลังจากที่เซียนเซิงซือจากไปแล้ว.

จงซานทีหันหน้าไปมองอี้เหยี่ยน.

"ในอดีตต้ากวงและต้ายวีติดต่อกัน,เจ้ารู้จักคนผู้นี้หรือไม่?"จงซานสอบถาม.

"ไม่แน่ใจนัก,หานจื่อกวงคนผุ้นี้ซ่อนอะไรหลายอย่างไว้อย่างลึกล้ำ,มีเพียงแค่กองกำลังน้ำแข็งเหมันต์ที่เผยออกมา,แม้แต่สถานะการเช่นนี้คนผู้นี้ยังเผยออกมา,ดูเหมือนว่าจะถึงเวลาแล้ว,แน่นอนว่าจะต้องน่ากลัวยิ่งกลัวกองกำลังน้ำแข็งเหมันต์,ในเมือเขากล้าส่งคนผู้นี้มาก,แน่นอนว่าจะต้องมั่นใจ,กองกำลังเจียงซือของเซียนเซิงซือก็นับว่าทรงพลัง,ทว่ากับคนผู้นี้เขาก็ยังส่งออกมา,แสดงว่าไม่ใช่คนที่จะจัดการได้ง่ายๆ,พวกเราควรที่จะเตรียมการช่วยเหลือเซียนเซิงซือน่าจะเป็นทางเลือกที่ดี!"อี้เหยี่ยนที่ทำการวิเคราะห์.

"อี้เหยี่ยนับคำสั่ง!"

"เฉินอยู่นี่แล้ว!

"บัญชาให้กองกำลังที่ 3 ช่วยเหลือเซียนเซิงซือเป็นพิเศษ,บุกทะลวงดินแดนข้าศึก."จงซานสั่งการ.


"รับบัญชา!"




ที่มาจากhttps://lnmtl.com/novel/immortality

#นิยาย เรื่องอมตะ #Immortality#นิยายแปลไทย
Author(s)


สนใจสนับสนุนพวกเรา,เข้าร่วมกลุ่ม VIP ====> Click

***เว็ปฟรีอัพ สองวันหนึ่งตอน
***กลุ่มลับ อัพ 2-3 ตอนต่อวัน.

 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น