วันเสาร์ที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562

Immortality Chapter 521 Ten palace Yama command

Immortality Chapter 521 Ten palace Yama command

นิยาย เรื่อง อมตะ ตอนที่ 521   ซือต่านยามา.


Chapter 521  Ten palace Yama command
十殿阎罗
  ซือต่านยามา.(10 ยมราชแห่งนรกภูมิ)


เกาะหมาป่าสวรรค์,ทิศตะวันออก,ตำหนักของตี้เสวียนชา.

ภายในห้องโถง,อ๋องหมาป่าซาโพวที่กล่าวด้วยความเคารพต่อตี้เสวียนชา.



"ซาโพว,เจ้าพูดจริงๆรึ?"ตี้เสวียนชากล่าวออกมาด้วยความจริงจังจดจ้องมองไปยังซาโพว.

"ครับ,ข้าเห็นได้อย่างชัดเจน,ขณะที่จงซานมองมา,ดูเหมือนว่าจะน่าสะพรึงยิ่งกว่าจื่อจุ้นซะอีก."ซาโพวกล่าว.

ตี้เสวียนชาที่เงียบไปชั่วครู่.

"วิชาเนตรอย่างงั้นรึ? จงซานเป็นผู้มีสายโลหิตตกทอดรึ? เป็นไปไม่ได้ที่จะสืบทอดวิชาเนตรได้,หรือว่าเป็นวิชาที่คิดค้นเองกัน?"ตี้เสวียนชาที่ขมวดคิ้วพูดกับตัวเอง.

คิดค้นวิชาเนตรเองอย่างงั้นรึ? หากแต่ซาโพวเต็มไปด้วยความสงสัยชัดเจน,ไม่เข้าใจคำว่าวิชาเนตรแต่อย่างใด.

"จื่อจุ้น,อะไรคือวิชาเนตร?"ซาโพวที่สอบถามออกมา.

ตี้เสวียนชาที่จดจ้องมองไปยังซาโพว.

"ซาโพว,เก็บความอหังการของเจ้าเอาไว้,หลังจากนี้จงติดตามจงซานอย่างเต็มใจ!"ตี้เสวียนชาที่กล่าวออกมาด้วยความจริงจัง.

"หืม?จื่อจุ้น!"ซาโพวที่ชำเลืองมองออกไปเล็กน้อย.

"จงจำไว้,เผ่าหมาป่าของพวกเราจะทรงพลังรุ่งเรื่องในวันข้างหน้า,จงซานจะเป็นตัวแปรสำคัญ!"ตี้เสวียนชากล่าว.

"ครับ,จื่อจุ้น!"ซาโพวที่ตอบรับในทันที.

เผ่าหม่าป่าจะรุ่งเรื่องกว่าก่อน,ยังเต็มไปด้วยความสงสัย,ทว่าซาโพวนั้นเชื่อใจตี้เสวียนชา,ในเมื่อตี้เสวียนชากล่าวเช่นนั้น,แน่นอนว่าจะต้องเป็นเช่นนั้นจริง.

ทวีปศักดิ์สิทธิ์,ในเมืองกวงหลิง.

ร่างแยกเงาจงซานที่นั่งอยู่ในห้องโถง,หลายวันมานี้,ข้อมูลทุกอย่างเป็นเฉียนโหยวเป็นคนจัดการ.

จงซานยังคงควบคุมอารมณ์ของตัวเอง,เมื่อทุกอย่างกลับมาสเถียร,ดวงตาของจงซานก็ค่อยๆกลับมาเป็นปรกติเหมือนเดิม,ซึ่งจำเป็นต้องใช้เวลา,ในการควบคุมเนตรสังสารวัฏ.

เหล่าศัตรู,มากมายในเวลานี้ถูกจัดการไป,โดยเฉพาะกองกำลังเจียงซือของเซียนเซิงซือ,ที่สามารถกำจัดราชวงศ์จักรพรรดิไปสองแห่งแล้ว,และยังมีอีกหลายทัพที่ถอนกำลังหนี.

ระหว่างนี้เกี่ยวกับการบริหารงาน,ทุกอย่างเป็นเฉียนโหยวจัดการ.

อย่างไรก็ตาม,การโจมตีของเซียนเซิงซือนั้นน่าหวาดกลัวมาก,เมืองต่างๆถูกทำลายลงย่อยยับ,กลายเป็นดินแดนแห่งความตาย,เต็มไปด้วยปราณความตายที่หนาแน่น,ไร้ซึ่งสิ่งมีชีวิต,ทุกอย่างตายลง,ตกตายอย่างสมบูรณ์ ตอนนี้เซียนเซิงซือได้กลับมายังเมืองหลวงก่อนแล้ว.
..........

"ขั้นตอนที่ฝ่าบาท,ได้กล่าว,สิ่งนั้นคืออะไร? ฝ่าบาทได้มอบสิ่งใดให้กับภูติหยิงหลานอย่างงั้นรึ? เป็นแผ่นสีเหลี่ยมสีดำอย่างงั้นรึ!"เซียนเซิงซือที่ดวงตาเบิกกว้าง,ใบหน้าไม่อยากเชื่อจดจ้องมองไปยังจงซาน.

"ซือต่าน!"จงซานที่กล่าวออกมาด้วยความมั่นใจ.

"ซือ,ซือตาน? ซือตานบัญชายมบาลอย่างงั้นรึ?"เซียนเซิงซือที่อุทานออกมาด้วยความตกใจ.

เซียนเซิงซือจ้องมองจงซานด้วยความอัศจรรย์ใจ,ใบหน้าไม่อยากเชื่อ,ซือต่าน? ซือตานอย่างงั้นรึ?

"ฝ่าบาท,ท่านได้ซือตานมาจากภพหยินอย่างงั้นรึ?"เซียนเซิงซือที่กล่าวสอบถามต่อ,แววตาที่เต็มไปด้วยท่าทางไม่อยากเชื่อเลยแม้แต่น้อย.

"ใช่แล้ว,มันน่าจะปรากฏขึ้นมาในโลกใบนี้พันปีก่อนแล้ว."จงซานพยักหน้ารับ.

ได้ยินจงซานกล่าวยืนยัน,เซียนเซิงซือที่น้ำตาแทบไหล,ด้วยความรู้สึกเสียดาย.

"เป็นซือต่าน,มันคือซือต่านจริงๆ!"เซียนเซิงซือที่ฝืนยิ้มออกมา.

หากก่อนหน้านี้รู้ว่าฝ่าบาทมีซือตานแล้วล่ะก็,เขาคงทูลขอไปแล้ว,สายไปแล้ว,ตอนนี้สายไปแล้ว! ซือตานได้กลับคืนสู่ภพหยินแล้ว.

"อะไรคือซือตานอย่างงั้นรึ?"จงซานสอบถาม.

"ฝ่าบาท,เฉินเคยบอกแล้วว่าเฉินนั้นมาจากโลกใบใหญ่."เซียนเซิงซือกล่าว.

จงซานจับจ้องมองไปยังเซียนเซิงซือ,จากนั้นรอคอยเขาพูดต่อไป.

"โลกใบใหญ่นั้นก็แยกออกเป็นสองภพหยินหยาง,หนึ่งคือภพหยินและอีกหนึ่งคือภพหยาง,ข้ามาจากภพหยินของโลกใบใหญ่,ทว่าโลกใบเล็กนี้,ผิดปรกติ,ที่จริงโลกแห่งนี้ก็ก็แยกออกเป็นภพหยินหยางเช่นกัน,ภพหยางก็คือสถานที่พวกเราอยู่ในเวลานี้,ทว่าภพทั้งสองของโลกใบใหญ่นั้นแข็งแกร่งมาก,มีเพียงแค่บางคนที่มีเซียนฟางเท่านั้นถึงจะออกมาได้,ทว่ามีคนน้อยมากที่มีมัน,ม่านพลังป้องกันนั้นไม่มีทางที่จะทำการแยกสวรรค์สะบั้นปฐพี,เปิดออกมาได้,ทว่าโลกใบเล็ก,ภพหยินนั้นแตกต่าง,แม้ว่ามันจะแยกออกจากโลกใบใหญ่อย่างสิ้นเชิง,ทว่าม่านพลังป้องกันมันนั้นค่อนข้างอ่อนแอ,เหล่าภูติที่ทรงพลังไม่จำเป็นต้องก้าวไปถึงกุยเซียนก็สามารถออกไปได้,ทว่าเหล่าภูติที่ออกไปนั้น,การจะเข้าไปภพหยางนั้นแทบเป็นไม่ได้เลย,มันมีข้อจำกัดอีกหลายอย่าง."เซียนเซิงซือกล่าว.

"หืม?"จงซานที่ชำเลืองมองไปยังเซียนเซิงซือ.

"ถ้าเปรียบโลกใบเล็กเป็นไข่,ครึ่งหนึ่งของไข่ก็คือภพหยาง,ส่วนอีกครึ่งหนึ่งก็คือภพหยิน,เปลือกหุ้มด้านภพหยินนั้นจะอ่อนนุ่มมากกว่านั่นเอง."เซียนเซิงซืออธิบาย.

"อืม!"

"ฝ่าบาท,ท่านรู้จักซือตานยามาหรือไม่?"เซียนเซิงซือกล่าว.
***十殿閻羅王 ซือตานยามา (10 ยมราชแห่งนรกภูมิ)

"ข้าเคยเห็นหนีปู่ซาทำการเรียกตำหนักสังสารวัฏคฤหาสน์อเวจี!"จงซานกล่าว.

"ใช่แล้วตำหนักสังสารวัฏนั้น,มีสิบตำหนักด้วยกัน,ตำหนักชิ้นกวง,ตำหนักชอกัง,ตำหนักส่งตี้,ตำหนักโหวงกัว,ตำหนักเงี่ยมล้อ,ตำหนักเปี่ยงเซ้ง,ตำไถ่ซัว,ตำหนักเพ่งเจ๋ง,ตำหนักโตวซี,ตำหนักจวงลุ้ง.จะอยู่ที่ขอบเขตของโลกใบเล็ก,ตำหนักสังสารวัฏก็จะมีผู้ปกครองของตำหนักต่างๆ!"เซียนเซิงซือกล่าว.

"สิบตำหนัก,สิบยมบาล?"จงซานกล่าวอย่างเคร่งขรึม.

"ใช่แล้ว,สิบตำหนักสิบยมบาล,แม้ว่าจะไม่ใช่ภพหยินของโลกใบใหญ่,ทว่าภพหยินของโลกใบเล็ก,ความแข็งแกร่งของแต่ละตำหนักนั้นไม่ได้อ่อนด้อยไปกว่าราชวงศ์สวรรค์เลย."เซียนเซิงซือกล่าว.

"ข้าคิดว่าบางที่,ในอดีตหนีปู่ซาได้สร้างโลกที่เชื่อมต่อขึ้นมา,กลิ่นอายของตำหนักสังสารวัฏนั้นไม่ได้ด้อยไปกว่าเมืองบรรพกาลศักดิ์สิทธิ์,และยังมีแรงกดดันวิญญาณเหนือกว่าเมืองบรรพกาลศักดิ์สิทธิ์อีกด้วย."จงซานพยักหน้า.

"ใช่แล้ว,ความแข็งแกร่งของตำหนักสังสารวัฏนั้น,ไม่ได้ด้อยไปกว่าราชวงศ์สวรรค์,ทว่าฝ่าบาทจะต้องรู้อีกด้วยว่า,สิ่งที่มอบให้หยิงหลาน,ซือตาน,นั่นคือคำบัญชาของสิบยมบาล,สูงศักดิ์มาก."เซียนเซิงซือกล่าว.

"สูงศักดิ์สิทธิ์?"จงซานสอบถาม.

"เกี่ยวกับซือตานยามานั้น,เป็นคำบัญชาของยามาทั้งสิบตำหนัก,ซือตานยามานั้น,เป็นถ้อยคำของยามาทั้งสิบ,ในอดีตที่โลกใบใหญ่นั้นทุกคนต่างก็เต็มไปด้วยความหวาดกลัว,ไม่รู้ว่ามีผู้เยี่ยมยุทธ์มากมายเท่าไหร่ที่ต้องการ,ท้ายที่สุดซือตานยามานั้นก็ได้หายไป,ไม่มีใครรู้,หลายๆคนคาดเดาว่าอาจจะอยู่ในมือผู้เยี่ยมยุทธ์คนหนึ่ง,บางคนก็บอกว่าซือตานยามานั้นถูกทำลายไปแล้ว,คาดไม่ถึงเลย,สุดท้ายก็มาอยู่ในมือของฝ่าบาท,เรื่องนี้....."เซียนเซิงซือที่กล่าวออกมาด้วยท่าทางไม่อยากเชื่อ.

เมื่อมันเป็นของวิเศษจากโลกใบใหญ่,แน่นอนว่าจะต้องเป็นสิ่งของที่สั่นสะเทือนสวรรค์,ซือตานยามา,กลับกลายเป็นสิ่งของสำคัญที่คนทั่วโลกใบใหญ่หวั่นเกรงเลยรึ?

คาดไม่ถึง,คาดไม่ถึงเลยว่ามันจะตกมาอยู่ในมือของจงซานอย่างคาดไม่ถึง,แม้แต่ถูกจงซานใช้ไป.

แม้แต่เซียนเซิงซือที่มาจากโลกใบใหญ่เห็นเรื่องที่น่าอัศจรรย์มากมาย,ในเวลานี้ยังต้องยอมรับความน่าอัศจรรย์ใจของจงซาน,ซือตาน,ผู้เยี่ยมยุทธ์มากมายต่างแย่งชิงกัน,ท้ายที่สุด คาดไม่ถึงกลับมาอยู่กับฝ่าบาท?

หากว่าเขาได้มันมาก็ดี! ภายในใจของเซียนเซิงซือรู้สึกเศร้าใจมาก,หากรู้ก่อนหน้านี้คงขอฝ่าบาทไปแล้ว,ไม่มีทางที่จะปล่อยไปเช่นนี้แน่,ด้วยซือตานยามานั้นใช้ประโยชน์ได้มากมาย.

ความน่าเกรงขามของซือตานยามานั้น,เทียบเท่ากับพลังของสิบราชวงศ์สวรรค์รวมกันเลยทีเดียว.

เซียนเซิงซือจดจ้องจงซานด้วยท่าทางปรกติ,ไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไรไปดี,เหนือหัวผู้นี้,มีอะไรที่แปลกประหลาดมากมายขนาดใหนกัน? นี่คือตัวตนที่ต่อต้านสวรรค์โดยแท้,หากว่าเขาได้สิ่งของนั่นมาใช้งานจะเป็นยิ่งกว่าสิ่งของที่ต่อต้านสวรรค์ซะอีก,น่าเสียดายนัก.

ในเวลาเดียวกันเกี่ยวกับจงซาน,เซียนเซิงซือเวลานี้ยิ่งรู้สึกนับถือ,และเคารพจงซานยิ่งขึ้นไปอีก.

ส่วนจงซานในเวลานี้รู้สึกโล่งเบาใจ.

ซือตานยามารึ? ในเมือเป็นสิ่งของที่น่าเกรงขาม,เช่นนั้นก็ดีแล้ว,หนีปู่ซาบอกว่าหลังจากที่ตายไป,หากว่าได้กลายเป็นภูติ,ร่างกายในช่วงแรกนั้นจะอ่อนแออย่างที่สุด,ตอนนี้มีซือตาน,หยิงหลานจะต้องเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว.

ได้ยินว่าภพหยินนั้นเป็นดินแดนที่ป่าเถื่อนดุร้าย,หวังว่าหยิงหลานจะสามารถผ่านมันไปด้วยดี.

"เซียนเซิงซือ,เจ้าจงออกไปยึดครองอาณาเขตอื่นอีก,เร่งรีบยึดครองดินแดนแห่งความวุ่นวายให้ได้ทั้งหมด."จงซานที่จ้องมองไปยังเซียนเซิงซือ.

"รับด้วยเกล้า!"เซียนเซิงซือที่รับคำและออกไปในทันที.

หากว่าเขาได้ยินเรื่องซือตานก่อนหน้านี้,เซียนเซิงซือคงทูลขอเพื่อนำมาใช้เสริมกำลังแน่,ทว่าในเวลานี้ไม่สามารถทำอะไรได้แล้ว,อย่างไรก็ตามจงซานนับว่าควรค่าที่เขาจะทำงานให้อย่างเต็มที่.

ขณะที่เซียนเซิงซือจากไปแล้ว.

"เจ้าเป็นไรหรือไม่?"เฉียนโหยวที่กล่าวปลอบอย่างนุ่มนวล.

หยิงหลานตายไป,ภายในใจเฉียนโหยวรู้ได้ชัดแจ้ง,รับรู้ว่าจงซานนั้นเศร้าขนาดใหน,ในเวลานั้น,นางจึงไม่กล้าที่จะว่ากล่าวอะไรกับจงซาน,หลายวันมานี้อารมณ์ของจงซานดีขึ้น,นางจึงได้กล่าวปลอบ.

จงซานที่กุมมือของเฉียนโหยวเอาไว้,ภายในใจที่รู้สึกอบอุ่นขึ้นมา!

"ขอโทษ!"จงซานทีกล่าวขอโทษ.

ทว่าเฉียนโหยวที่เผยยิ้มออกมา,ไม่ได้เผยยิ้มที่จงซานกล่าวขอโทษ,ทว่าสัมผัสได้ถึงความมั่นใจของจงซานกลับมาแล้ว.

"พวกเราจะส่งทหารไปยังเขตแดนของต้ากวงเมื่อไหร่อย่างงั้นรึ?"เฉียนโหยวล่าว.

ได้ยินคำพูดว่าเขตแดนต้ากวง,สายตาของจงซานที่เปลี่ยนเป็นเย็นชา,หานจื่อกวง!

"ราชวงศ์จักรพรรดิต้ากวงรึ?ข้าได้ส่งออกไปแล้ว,ตอนนี้ข้าได้สั่ง,กองทัพห้าแห่ง,ยึดครองดินแดนแห่งความวุ่นวายอย่างรวดเร็ว,จากนั้นก็เตรียมเข้าสู่สงครามใหญ่,พวกเราจะบุกไปยังทิศเหนือสังหารทุกเมืองให้สิ้น!"จงซานกล่าว.

"อืม!"เฉียนโหยวที่พยักหน้ารับ.

แม้ว่าไม่รู้ว่าจงซานได้ส่งอะไรออกไป,ทว่าเฉียนโหยวก็ไม่ต้องการถามรายระเอียด,ขอเพียงแค่จงซานหายดี,ทุกอย่างหาได้มีอะไรสำคัญ.

ผ่านมาอีกหลายเดือน.

ดินแดนแห่งความวุ่นวาย,ราชวงศ์จักรพรรดิต้าเจิ้งก็สามารถรวมแผ่นดินได้ทั้งหมด.

เร็วเป็นอย่างมาก,น้อยกว่าสามปีด้วยซ้ำ,ราชวงศ์จักรพรรดิต้าเจิ้งสามารถรวมดินแดนแห่งความวุ่นวายได้อย่างงั้นรึ?

ข่าวที่น่าเกรงขามนี้,ได้กระจายออกไปทั่วทุกสารทิศ.

วาสนาของราชวงศ์,มากมายที่รวมอยู่ในดินแดนแห่งความวุ่นวาย,ตอนนี้ได้เป็นของราชวงศ์จักรพรรดิต้าเจิ้งแล้ว.

ราชวงศ์จักรพรรดิแข็งแกร่งขนาดนี้เลยรึ? น่าเกรงขามขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่?

แปดราชวงศ์จักรพรรดิ,หนึ่งร้อยกว่าราชวงศ์กษัตริย์,ไม่ถึงสามปีถูกทำลายจนสิ้น,และยังมีอีกหลายราชวงศ์เมืองขึ้นของต้ากวงที่ถูกทำลายจนย่อยยับ.

ราชวงศ์จักรพรรดิต้ากวง? อดีตคือราชวงศ์ราชันย์ต้ากวง,ด้วยไท่จื่อราชวงศ์จักรพรรดิต้ากวงถูกสังหาร,หานจื่อกวงจึงได้ส่งไพ่ลับ,กองกำลังน้ำแข็งเหมันต์ออกมา,และสุดท้ายก็ย่อยยับไปด้วยทัพของจงซานอย่างงั้นรึ?

ราชวงศ์จักรพรรดิต้าเจิ้งน่าเกรงขามจริงๆ.

ในเวลานี้ทัพต่างๆของราชวงศ์จักรพรรดิต้าเจิ้งได้ปรากฏต่อคนทั่วหล้าแล้ว.

เหว่ยหยิงหลาน,หลินเซียว,อี้เหยี่ยน,เซียนเซิงซือ,สุ่ยอู่เหินและสุ่ยจิง,ซี่งมีหนึ่งคนได้เสียชีวิตไปแล้ว.

กองกำลังทั้งหกนั้นทรงพลังมาก,น่าเกรงขามโดยเฉพาะอี้เหยี่ยน? อี่เหยี่ยนชื่อนี้ไม่มีใครไม่รู้จัก,ไม่มีใครกล้าดูแคลนอี้เหยี่ยน,ทว่าเหล่าทัพต่างๆของต้าเจิ้งเองก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าทัพของอี้เหยี่ยนเลย,ทำให้ราชวงศ์จักรพรรดิต้าเจิ้ง,เต็มไปด้วยไปด้วยคนที่มีความสามารถ.

กองกำลังเจียงซือ,ในเวลานี้,หยกบันทึกของกองกำลังเจียงซือได้กระจายไปทั่วทิศ,มีการบันทึกความน่าเกรงขามของกองกำลังเจียงซือเอาไว้,เหล่าราชวงศ์วาสนาต่างๆ,ทุกกองกำลังไม่มีใครต้องการเข้าปะทะกับกองกำลังเจียงซือ.

นอกจากสงครามบุกเบิกดินแดน,ยังมีสงครามความเกลียดชังอีกด้วย.

ราชวงศ์จักรพรรดิต้าเจิ้งปะทะราชวงศ์จักรพรรดิต้ากวง? ราชวงศ์จักรพรรดิที่มีพลังเทียบเท่าราชวงศ์ราชันย์,ผลจะเป็นเช่นไร?

ภายในทวีปศักดิ์สิทธิ์ในเวลานี้เหล่าราชวงศ์วาสนามากมายต่างก็จับจ้องมองมา,ต้องการรับรู้ความแข็งแกร่งของราชวงศ์จักรพรรดิต้าเจิ้ง!


*****************
十殿閻羅王 (10 ยมราชแห่งนรกภูมิ)
นรกขุมที่1 พญายมราชทรงพระนามว่า "ชิ้นกวงอ๊วง" ซึ่งเป็นปางหนึ่งของพระพุทธเจ้าผู้ทรงพระนามว่า "พระรุ่งโรจน์พุทธเจ้า" คนจีนเรียกว่า "ไต้ยิกฮุก"
นรกขุมนี้ จะเป็นที่ตรวจสอบบัญชีวิญญาน และบันทึกบาปบุญคุณโทษของแต่ละดวงวิญญาณเพื่อพิจารณาโทษทัณฑ์ หากวิญญาณใด ได้สร้างกุศลผลบุญโดยไม่ได้ทำบาปไว้ นิรยบาล(ผู้คุม) ผู้ถือบัญชีก็จะปล่อยดวงวิญญาณนั้น ให้ไปเกิดใหม่ในชาติต่อไป หรือไปสู่สวรรค์ หากมีบุญกุศลสูงพอ แต่ถ้าวิญญาณบาปที่ก่อกรรมทำชั่วก็จะสฃถูกส่งไปยังนรกขุมที่2 เพื่อรับการพิจารณาโทษทัณฑ์ต่อไป
นรกขุมที่2 พระญายมราชทรงพระนามว่า "ชอกังอ๊วง" พระศากยมุนีพุทธเจ้า คนจีนเรียกว่า "สิกแกเหม่านี้ฮุด" ทรงแบ่งภาคเพื่อให้ความยุติธรรมแก่วิญญาณบาป
นรกขุมนี้ มีสถานที่เรียกว่า " หอกระจกวิญญาณ" เมื่อวิญญาณเดินผ่านเข้าไปในหอแห่งนี้ ทุกเรื่องราวที่ได้กระทำไว้ในขณะมีชีวิต ก้จะถูกแจกแจงออกมา ทำบุญและบาปใดไว้หนักหนาและมากน้อยเพียงใดก้จะได้รู้กัน
จากนั้น พญายมราชชอกังอ๊วง จะทำการไต่สวนวิญญาณด้วยวาจา แต่จะไม่ใช่ผู้สั่งลงโทษ จะให้นิรยบาลพาดวงวิญญาณไปรับการกล่าวโทษที่นรกขุมที่ 3
นรกขุมที่3 พญายมราชทรงพระนามว่า "ส่งตี่อ๊วง" เป็นปางหนึ่งของพระมหาโพธิสัตว์ผู้ทรงพระนามว่า พระมัญชุศรีมหาโพธิสัตว์" คนจีนเรียกท่านว่า "บุ่นซู้ผ่อสัก"
ว่ากันว่าเมื่อวิญญาณบาปต้องมารับการพิจารณากล่าวโทษที่นรกขุมนี้ จะเกิดอาการหวาดหวั่นสั่นกลัวขึ้นมาเอง ตัวสั่นจนกระดูกลั่นกระทบกัน เพราะที่นี้ดวงวิญญาณจะได้เห็นบรรดาเครื่องลงทัณฑ์ เช่น กระทะทองแดง ฯลฯ
เมื่อส่งตี่อ๊วง ได้รับดวงวิญญาณบาปพร้อมใบกล่าวโทษ จะทรงส่งต่อให้ยมบาล(ผู้ทำการทรมารสัตว์นรก) ประจำนรกขุมที่3 ซึ่งมีตัวเป็นคนแต่หัวเป็นม้าหน้าเป็นวัว ในมือถือสามง่าม จะกวดต้อนดวงวิญญาณเข้าสู่ลานลงโทษทัณฑ์
วิญญาณบาปจะถูกทอดในกระทะทองแดง เป็นที่ทรมานยิ่งจนตาย แต่เมื่อตาย นายนิรยบาลก็จะพ่นลมใส่ให้ฟื้นขึ้นมาใหม่ แล้วถูกจัดทอดทรมาณซ้ำแล้วซ้ำเล่า ตามเวลาแห่งโทษทัณฑ์ซึ่งยาวนานชั่วกัปชั่วกัลป์
โทษของดวงวิญญาณในนรกขุมนี้คือ พ่อแม่ที่ขายลูกเพื่อค้าประเวณี ตลอดจนบรรดาพ่อเล้าแม่เล้า แมงดา ผู้เกี่ยวข้องกับธุรกิจกาม และเหล่าผู้คบชู้ทั้งหลาย
นรกขุมที่ 4 พญายมราชทรงพระนามว่า "โหวงกัวอ๊วง" เป็นปางหน่งของพระสมันตภัทรมหาโพธิสัตว์ คนจีนเรียกว่า "โผวเฮี้ยงผ่อสัก" เมื่อวิญญาณบาปถูกส่งมายังนรกขุมนี้ ก็ล้วนมีอาการหวดกลัวเช่นกัน เพราะการลงโทษในนรกขุมนี้ คือการถูกเชื่อดเนื้อเถือหนัง และผ่าอกเพื่อควักเอาหัวใจให้ยักษ์กิน พร้อมไปกับการถูกฟาดโบยด้วยแส้เหล็ก เป็นการทรมานที่เสียวสยองยิ่งนัก
ผู้ที่ต้องตกนรกขุมนี้ คือคนผู้มีใจโหดเหี้ยมได้แก่ นักฆ่ามืออาชีพ ไม่ว่าจะเป็นมือปืนรับจ้างฆ่า คนรับจ้างทำแท้ง คนรัรบจ้างฆ่าสัตว์
นรกขุมที่ 5 พญายมราชทรงพระนามว่า "เงี่ยมล้ออ๊วง" ทรงเป็นปางหนึ่งของพระกษิติครรภมหาโพธิสัตว์ หรือตี่จั่งอ๊วงผ่อสัก คนที่ผิดศีลห้า ลูกทรพีฆ่าพ่อแม่ ฆ่าพระหรือยุแหย่ให้พระสงฆ์แตกกัน ผู้ทำลายพระพุทธรูปหรือพระพุทธศาสนา ต้องตกนรกขุมนี้ ซึ่งเป็นนรกที่เรียกว่า "อเวจี"
อเวจี หรือ อวิจี แปลว่าไม่เว้นว่าง และมีอีกความหมายว่า "ไฟนรก" เพราะนรกขุมนี้ จะมีแต่ไฟลุกโชติช่วงทั่วทุกตารางนิ้วแบบไม่มีที่ว่างเลย และสัตว์นรกหรือผู้ที่ตกนรกขุมนี้ ก็มีมากมายประหนึ่งยัดทะนาน
เหล่าผู้ตกนรกอเวจี ล้วนแต่ถูกไฟไหม้ตัวอยู่ในที่ของตน ไม่ว่าจะยืนเบียดเสียดตรงไหน และเป็นความทุกข์ทรมารที่เกิดต่อเนื่องตลอดไป ไม่มีเว้นว่าง สมคำว่า ..อเวจี
นรกขุมที่ 6 พญายมราชทรงพระนามว่า "เปี่ยงเซ้งอ๊วง" เป็นปางหนึ่งของพระศรีอารยเมตไตรมหาโพธิสัตว์ ที่คนจีนเรียกว่า หมีเล็กผ่อสัก ทรงเป็นพระโพธิสัตว์ ผู้จะมาตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าองค์ต่อไป
นรกขุมนี้มีไว้ทำโทษคนชั่วช้าค้ายาเสพติด และสิ่งมอมเมาทีทำให้คนดีต้องเสียอนาคตไป คนอกตัญญู ผู้เบียดเบียนคนโกง
การลงโทษในนรกขุมนี้ เป็นการใช้เหล็กร้อนหนีบมือหนีบเท้า หากวิญญาณบาปหิวหรือกระหายน้ำ นายนิรยบาล จะให้กินน้ำอาหารที่เป้นอาจมเหม็น เก่า และร้อนแรงลุกเป็นไฟ ให้สาสมกับที่ทำคนดีให้เสียเพราะติดยาเสพติด มีคำเรียกขุมนรกนี้ว่า "ปุราณมิฬหนรก" หรือนรกอาจม
นรกขุมที่ 7 พญายมราชทรงพระนามว่า "ไถ่ซัวอวง" เป็นปางหนึ่งของพระไภษัชยคุรุไวฑูรย์ประภาสพุทธเจ้า คนจีนเรียก ยกซือฮุดโจ๊ว แปลว่า พระพุทธเจ้าผู้ทรงคุณในทางยา แต่ยานี้คือยารักษาโรคกิเลสตัณหา
นรกขุมนี้มีความพิเศษอย่างหนึ่งว่า อนุญาตให้วิญญาณร้องทุกข์ได้ เช่น การถูกฆ่าตายโดยไม่เป็นธรรม เนื่องด้วยสมัยอยู่บนโลก ไม่อาจกล่าวโทษร้องทุกข์ได้ เช่น ทารกที่ถูกทำแท้ง สัตว์เดรัจฉานถูกฆ่า ก็มาร้องเรียนให้ผู้ฆ่าตนได้รับโทษทัณฑ์ที่สาสม
ผู้ที่อยู่ในข่ายรับโทษเพิ่มนี้ คือ พ่อแม่ที่ทำแท้งลูก หมอพยาลาลที่รับทำแท้งนั้นเอง นายนิรยบาลจะนำดวงวิญญาณต้องโทษไปรับทณฑ์ ด้วยการให้สัตว์พิษนานาชนิกัดกินเนื้อย่างทรมาน
นรกขุมที่ 8 พญายมราชทรงพระนามว่า "เพ่งเจ๋งอ๊วง" เป็นปางหนึ่งของพระอวโลกิเตศวรมหาโพธิสัตว์ หรือ กวนซีอิมผู่สัก
นกรกขุมนี้ มีไว้ลงโทษพวกทุจริตคดโกง เช่น โกงกินบ้านเมือง พ่อค้าโกงตาชั่ง จะต้องถูกลงทัณฑ์ ให้ยักษ์นรกจับเตะ ต่อย โยน กระทืบ ทำทารุณกรรม ซึ่งก็ยังไม่หนำใจเพราะจะมีภูเขาเหล็ก 2ลูกเลื่อนมากระทบกัน บดร่างวิญญาณให้แหลกละเอียดลงไปอีกที มีคำเรียกนรกนี้ว่า "สังฆาฏะ" แปลว่า กระทบกัน
นรกขุมที่ 9 พญายมราชทรงพระนามว่า "โตวซีอ๊วง" เป็นปางหนึ่งของพระมหาสถามปราปต์มหาโพธิสัตว์ คนจีนขานพระนามท่านว่า ไต่ซีจี๊ผ่อสัก
การลงโทษของนรกขุมที่9 สำหรับคนชั่วไม่มีศาสนา คนที่ไม่นับถือศาสนาใดเลย และได้ประกอบกรรมชั่วโดยไม่คิดถึงบาปบุญคุณโทษใดๆ นายนิรยบาลจะเอาน้ำทองแดงร้อนๆ ไฟลุกโชนกรอกใส่ปากวิญญาณที่ต้องโทษ เป็นความทารุณที่สาหัสสากรรจ์ นรกขุมนี้จึงมีแต่เสียงร้องครวญครางตลอดเวลา ให้ชื่อว่า "โรรุวะ" แปลว่า ร้องครวญคราง
นรกขุมที่ 10 พญายมราชทรงพระนามว่า "จวงลุ้งอ๊วง" เป็นปางหนึ่งของพระอมิตาภะพุทธเจ้า
นรกขุมนี้ไม่มีการลงโทษทัณฑ์ เพราะเป็นสถานที่ปล่อยดวงวิญญาณให้ไปเกิดใหม่ตามสภาพกรรมของแต่ละดวงวิญญาณ






ที่มาจากhttps://lnmtl.com/novel/immortality

#นิยาย เรื่องอมตะ #Immortality#นิยายแปลไทย
Author(s)


สนใจสนับสนุนพวกเรา,เข้าร่วมกลุ่ม VIP ====> Click

***เว็ปฟรีอัพ สองวันหนึ่งตอน
***กลุ่มลับ อัพ 2-3 ตอนต่อวัน.

 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น