Immortality Chapter 508 Confiscating family's property
นิยาย เรื่อง อมตะ ตอนที่ 508 รื้อบ้าน
Chapter 508 Confiscating family's property
抄家
รื้อบ้าน
หกวันผ่านไปอย่างรวดเร็ว.
21 กลุ่ม,21
หยกสัญญาณ,ที่จริงควรจะมีกลุ่มที่ผ่านการแข่งขันที่สองเจ็ดกลุ่ม,ทว่ารวมทีมของเจี้ยนอ้าวแล้วตอนนี้มีคนที่ผ่านมาได้แค่สี่กลุ่มเท่านั้น,ที่เหลือถูกคัดออกไปแล้ว.
ผู้เยาว์เมล็ดมารนั้นนอกเหนือจากเจี้ยนอ้าว,ก็ยังมีเมล็ดมารเหลืออยู่กลุ่มเดียว,เป็นผู้เยาว์เมล็ดมารที่มีผลสีแดงเพลิง,นับว่าเขาโชคดีเป็นอย่างมาก,ที่ได้หยกสัญญาณจากเมล็ดมารคนอื่นๆ,แน่นอนว่าตอนนี้เหลือกลุ่มของมารแท้เหลือสองกลุ่มเช่นกัน.
สี่กลุ่ม,แปดคน,ในเวลานี้ยืนอยู่ด้านนอกห้องโถงภูเขาคู่หยินหยาง.
คนทั้งแปดนั้น,ต่างก็เป็นคนที่มีคนที่มีคุณสมบัติเป็นผู้สืบทอด,โดยเฉพาะอย่างยิ่ง,ผู้เยาว์เมล็ดมาร,ระดับจักรพรรดิแท้,ที่ผ่านรอบแรกมาได้นับว่าหายากมาก
คนทั้งแปดไม่มีใครกล่าวอะไรออกมา,ทุกคนต่างก็ยืนนิ่งรอคอยเวลา.
จงซานที่ยืนอยู่ด้านหลังเจี้ยนอ้าว,จับจ้องมองไปยังตำหนักด้านหน้า.
สถานที่แห่งนี้นับว่าดูธรรมดาทั่วไป,ไม่สามารถมองเห็นความพิเศษของมันได้,พื้นที่รอบๆนั้นเป็นพื้นที่ส่วนตัว,ซึ่งได้กันคนให้ออกห่างออกไปสิบลี้จากพื้นที่แห่งนี้.
ภายในห้องโถงแห่งนี้มีบัลลังก์สีดำ,ที่มีขนาดใหญ่,ทำจากวัสดุที่ไม่ธรรมดา,อย่างน้อยจงซานก็ไม่เคยเห็น.
จงซานที่ยังคงจับจ้องมองไปยังบัลลังก์สีดำ,บนบัลลังก์
ทันใดนั้นก็ปรากฏร่างๆหนึ่งขึ้นในทันที.
ร่างกายที่ค่อยปรากฏออกมาเป็นรูปเป็นร่างตั้งแต่ผมลงมาถึงเท้า,ดูน่าอัศจรรย์เป็นอย่างมาก,วิชาของคนผู้นี้ดูแปลกประหลาดเป็นอย่างมาก.
ทันทีที่เขาปรากฏตัวขึ้นมา,จงซานไม่สามารถมองออกถึงวิชาที่เขาใช้เลย,ภายในแดนเทพอเวจี,คงมีเขาคนเดียวทึ่ใช้ได้,ประมุขแดนเทพอเวจี,หนานกงเซิ่ง!
หนานกงเซิ่งสวมชุดคลุมสีขาว,ร่างกายของเขาที่ค่อนข้างผอม,ฝ่ามือที่ดูประณีต,มีเล็บสีม่วง,ใบหน้าที่ดูซีดเซียว,ที่หน้าผากมีเส้นสีแดงสองเส้น,ทุกคนรู้สึกราวกับว่าเป็นพลังบางอย่างที่ดูดกลืนจิตใจ,เพียงแค่มองทำให้สายตาพร่ามัว,จนต้องกวาดตามองไปทางด้านอื่น.
"คารวะพญามาร!"คนทั้งสี่ของแดนเทพอเวจีที่กล่าวออกมาพร้อมกัน.
"คารวะพญามาร."จงซานและคนอื่นๆที่กล่าวต่อเนื่องจากถือว่าเป็นหนึ่งในมารยาทเช่นกัน.
หนานกงเซิ่งกวาดตามองคนทุกคน,สายตาของเขาที่เป็นประกายเมื่อมองไปยังจงซาน,ดวงตาที่หดเกร็ง,เต็มไปด้วยความประหลาดใจ,ราวกับว่าพบความลับบางอย่างของจงซาน,และไม่เข้าใจจงซานได้ทั้งหมด.
หนานกงเซิ่งที่มองจงซานพักหนึ่ง,ก่อนที่จะหันหน้าไปทางอื่นและกล่าวออกมาว่า,"ยินดีกับทุกคนที่ผ่านการทดสอบด่านแรก."
"การทดสอบนั้น,มีด้วยกันสองด่าน,ด่านแรกคือดูความแข็งแกร่งของพวกเจ้า,คนที่มีความแข็งแกร่งเท่านั้นถึงจะมีคุณสมบัติเป็นที่สืบทอด,พวกเจ้าผ่าน,ส่วนด่านที่สอง,พวกเจ้าไม่ได้ทดสอบความแข็งแกร่งเหมือนด่านแรก."หนานกงเซิ่งกล่าว.
ทุกคนที่นิ่งงันรอคอยฟังกฎเกณฑ์ธรรมเนียมของการทอสอบถ่านที่สอง.
"ภายในเทือกเขาคู่หยินหยางนั้น,มีวิหารพุทธิ์ตั้งแต่นานมาแล้ว,ข้าเองได้ทำกลายพื้นที่รอบๆภายในไปจนหมดแล้ว,ทว่าภายในนั้นข้าได้ซ่อนสมบัติวิเศษเอาไว้มากมาย,ข้าให้เวลาพวกเจ้าสิบวัน,ใครที่สามารถค้นหาสมบัติได้มากที่สุด,คนนั้นจะได้เป็นพญามาร."หนานกงเซิ่งกล่าว.
หาสมบัติอย่างงั้นรึ?นี่ให้หาสมบัติเพื่อจะได้เป็นพญามารอย่างงั้นรึ?
ใครโชคดีวาสนามากที่สุดก็ได้เป็นประมุข?
ทุกคนไม่อยากเชื่อเรื่องที่เกิดขึ้นแม้แต่น้อย,นี่กำลังเล่นขายของอย่างงั้นรึ?ทำไมถึงได้ทดสอบอะไรเช่นนี้.
หนานกงเซิ่งที่กวาดตามองทุกคน,กล่าวออกมาอย่างนุ่มนวล,"ข้ารู้ว่าพวกเจ้าคิดอะไรอยู่,คิดว่าการคัดเลือกผู้สืบทอด,พลังคือที่สุดหรือ,หากใช่,แล้วแดนเทพพิสุทธิ์ที่ทรงพลัง,ทำไมถึงล่มสลายล่ะ?"
ได้ยินคำพูดของหนานกงเซิ่ง,ทุกคนต้องขมวดคิ้วไปมาเช่นกัน.
"นอกเหนือจากความแข็งแกร่งแล้ว,วาสนาก็เป็นสิ่งสำคัญ,การทดสอบแรก,พวกเจ้าได้เผยออกมาแล้วว่าไม่ได้ขาดความแข็งแกร่ง,สิ่งที่ข้าต้องการหาคือโชควาสนา,คนที่จะเป็นพญามารรุ่นต่อไป,หากเป็นเช่นอรหันต์กุยหยวน,ที่มีแต่พลังความแข็งแกร่งแต่ไร้ซึ่งวาสนา,แดนเทพอเวจีไม่ช้าก็เร็วต้องก้าวตามแดนเทพพิสุทธิ์ไปแน่,วาสนาที่จะสามารถเปลี่ยนสถานการณ์อันเลวร้ายให้กลายเป็นไร้เทียมทาน,ทำไมข้าถึงต้องให้พวกเจ้าสามารถหาผู้ช่วยได้ล่ะ,นั่นก็เพื่อต้องการให้พวกเจ้าค้นหาโชควาสนา,ถึงแม้ว่าเจ้าไร้โชควาสนา,ทว่าสหายของพวกเจ้าอาจจะมีวาสนา,อาศัยเพียงโชควาสนาของเจ้า,ข้าถึงจะสามารถมองเห็นอนาคตวันข้างหน้าได้ว่ามันจะเป็นเช่นไร."หนานกงเซิ่งกล่าว.
เกี่ยวกับทฤษฎีของหนานกงเซิ่ง,ทุกคนที่ได้แต่เงียบ,พวกเขาไม่สามารถประมาทได้เลย,ใครกันที่จะได้เป็นพญามาร?
"ไปได้แล้ว,สิบวันหลังจากนี้,ข้าจะไปหาพวกเจ้าเอง! หวังว่าพวกเจ้าจะไม่ทำให้ข้าผิดหวัง!"หนานกงเซิ่งที่กล่าวออกมาเบาๆ.
"รับทราบ!"ทุกคนที่รับคำ,จากนั้นก็ออกมาด้านนอกห้องโถงในทันที,พร้อมกับเข้าไปในเทือกเขาคู่หยินหยาง.
หนานกงเซิ่งที่หรี่ตาจ้องมองทุกคนที่จากไป,สายตาของเขาที่จ้องมองไปยังจงซานที่อยู่ด้านหลังเจี้ยนอ้าว,ด้วยสายตาที่แปลกประหลาด.
เทียบกับหกวันที่แล้ว,เทือกเขาคู่หยินหยางในเวลานี้,ดูมืดคลึ้มอึมคลึม,มีเมฆสีดำที่หนายิ่งกว่าเดิม,อีกทั้งเมฆหนาที่ปกคลุมนี้,ยังมีฟ้าแล็ปออกมาเป็นระยะ,ราวกับว่าสวรรค์กำลังเกรี้ยวโกรธ,ขุนเคืองอะไรอยู่.
ขณะที่เข้ามาภายในเทือกเขาคู่หยินหยาง,จงซานที่เห็นท้องฟ้าแปรปรวน,สายฟ้าที่ส่องประกายออกมาเป็นระยะอย่างคาดไม่ถึง.
"เจี้ยนอ้าว,หนานเฉิงตงมีพลังฝึกตนระดับใด?"จงซานที่กล่าวออกมาเบาๆ.
เจี้ยนอ้าวหันขวับจ้องมองกลับมายังจงซาน,ทั่วหล้าทุกคนต่างก็รู้ดี,ว่าเขามีระดับสวรรค์แท้,ทำไมจงซานถึงได้ถามออกมาเช่นนี้กัน.
เห็นท่าทางของเจี้ยนอ้าวแล้ว,จงซานที่ถอนหายใจเบาๆและกล่าวออกมาว่า,"บางที่ข้าคงจะคิดมากไป!"
คนทั้งสองที่เดินทางมายังส่วนหนึ่งของเทือกเขาคู่หยินหยาง.
พวกเขาจะต้องค้นหาสมบัติล้ำค่าที่หนานกงเซิ่งทิ้งเอาไว้อย่างเป็นทางการ.
"ของวิเศษที่หนานกงเซิ่งทิ้งไว้มีอะไรพิเศษอย่างงั้นรึ?"จงซานสอบถาม.
"มีกลิ่นอายของเขาซ่อนอยู่,คงเป็นเช่นนั้น"เจี้ยนอ้าวที่นำหยกสัญญาณอันแรกออกมา,พร้อมกับปล่อยพลังเข้าไป,ก่อนที่มันจะแผ่แสงสีม่วงออกมา.
จงซานที่กวาดสัมผัสเทวะ,ตรวจสอบกลิ่นอายของมันและจดจำเอาไว้.
"ข้าจะรับผิดชอบทุกอย่างเอง,ของวิเศษใดที่เจ้าหาเจอ,ทุกสิ่งหลังจากนั้นจะเป็นของเจ้า."เจี้ยนอ้าวกล่าวออกมาด้วยความมั่นใจ.
"เฮ้เฮ้,งั้นข้าก็ไม่เกรงใจจริงๆนะ."จงซานที่ไม่ปฏิเสธ,พร้อมกับพยักหน้ารับในทันที.
เป็นความจริงว่าหากสามารถช่วยเจี้ยนอ้าวได้เป็นผู้สืบทอดได้,แล้วยังมีสิ่งใดที่เจี้ยนอ้าวสนใจอย่างงั้นรึ?
"หลังจากนี้สองวัน,ให้มาพบกันที่นี่!"เจี้ยนอ้าวกล่าว.
"อืม!"จงซานพยักหน้า.
จากนั้นคนทั้งสองก็แยกกันออกไปหา,แน่นอนว่าพื้นที่นั้นกว้างเป็นอย่างมาก,แยกออกไปหาย่อมมีประโยชน์กว่า.
ของวิเศษอันใดกันที่หนานกงเซิ่งซ่อนเอาไว้?
เทือกเขาคู่หยินหยางนั้น,มีขนาดใหญ่มาก,และยังไม่รู้ร่องรอยด้วยซ้ำ,แน่นอนว่าเป็นเรื่องที่ยากมาก,ทุกคนไม่รอให้เสียเวลา,บินออกไปรอบๆ,ใช้สัมผัสเทวะกวาดมอง
ที่ซ่อนอยู่นี้ต้องเป็นของวิเศษไม่ธรรมดาแน่,เพื่อไม่ให้เสียเวลา,จงซานได้สร้างร่างโคลนหลายร้อยร่างออกไป,ดูซิว่าจะไม่สามารถเก็บเกี่ยวได้.
ร่างโคลนหลายร้อยร่าง,แม้ว่าคงสภาพได้แค่หนึ่งชั่วยาม,ทว่าก็เพียงพอที่จะค้นหาพื้นที่หลายแห่ง,คาดไม่ถึงเลยว่าจะไม่สามารถค้นพบอะไรได้?
ร่างแยกเงาที่กำลังนั่งขบคิด,หากเป็นเช่นนี้,แม้จะใช้เวลาสิบวันก็ยากที่จะหาเจอ?
หรือว่าต้องมีโชคลาภที่ต่อต้านสวรรค์จริงๆรึ?
วันถัดมา,ร่างแยกเงาที่ปล่อยร่างโคลนออกไปและพบเข้ากับสมบัติวิเศษอย่างหนึ่ง,เป็นชามขนาดเล็กสีทองซึ่งมีกลิ่นอายของหนานกงเซิ่งอยู่.
อย่างไรก็ตาม,ของวิเศษชิ้นนั้นถูกซ่อนเอาไว้ลึกมาก,คาดไม่ถึงเลยว่าจะลึกลงไปใต้ภูเขา.
เรื่องนี้?หากไม่ใช่ทักษะของร่างโคลน,จะหาเจอได้อย่างไร?
สองวันผ่านไป,จงซานและเจี้ยนอ้าวกลับมาพบกันอีกครั้ง.
"เจ้าพบของวิเศษแล้วรึ?"เจี้ยนอ้าวที่เผยสีหน้าดีใจเป็นอย่างมาก.
ฟังจากที่จงซานเล่า,เจี้ยนอ้าวที่จ้องมองจงซานด้วยท่าทางแปลกประหลาด,ลึกลงไปใต้ดินพันเมตรอย่างงั้นรึ?
ไม่คาดคิดแม้แต่น้อยว่าลึกถึงเพียงนั้นจะมีของวิเศษซ่อนอยู่,อีกทั้งท่ามกลางภูเขามากมาย,ลึกลงไปใต้ดินกว่าพันเมตร,เขาไปเจอได้ไง?
นี่ต้องบอกว่ามีโชควาสนาที่ยิ่งใหญ่นัก.
"ข้ามองคนไม่ผิดจริงๆ!"เจี้ยนอ้าวจ้องมองไปยังจงซานด้วยความตื่นเต้น.
"หืม?"
"ในอดีตนั้นฉู่จิวที่มองเห็นพรสวรรค์ทางร่างกายของเจ้า,เฮ้เฮ้,อย่าให้ข้าต้องพูดเลย,ชั่วชีวิตไม่มีทางก้าวไปถึงระดับก่อตั้งวิญญาณ,ทว่าเพียงแค่สิบปีเจ้ากลับก้าวไปถึงระดับจักรพรรดิแท้ได้,ข้าคาดเดาได้อย่างแม่นยำ,ชะตาของเจ้านั้นย่อมสูงล้ำมากกว่าคนทั่วไปมาก,ไม่เช่นนั้นเป็นไปไม่ได้ที่จะก้าวไปถึงระดับจักรพรรดิแท้ได้,ด้วยความเร็วขนาดนี้,ข้าดูคนไม่ผิดจริงๆ,วาสนาของเจ้า,ต่อต้านสวรรค์อย่างไม่ธรรมดา,ลำพังข้าใช้เวลานับปีก็ไม่รู้ว่าจะหาเจอหรือไม่?."เจี้ยนอ้าวกล่าวพลางทอดถอนใจ.
จงซานที่จ้องมองเจี้ยนอ้าวด้วยท่าทางแปลกๆ,ที่เจี้ยนอ้าวเชิญเขามานี้,เพียงแค่ต้องการโชคของเขาอย่างงั้นรึ?
จงซานที่ต้องการจะกล่าวแย้งเช่นกัน,ไม่ใช่แค่โชค,เขายังมีความพยายามมากกว่าใครๆ,ทว่าถึงจะพูดไป,เจี้ยนอ้าวจะเชื่ออย่างั้นรึ?
"พวกเราจะต้องค้นหาไปเรื่อยๆเช่นนี้นะรึ!"จงซานที่คิดครู่หนึ่งและกล่าวออกมา.
เจี้ยนอ้าวที่พยัก,แต่ละกลุ่มสามารถค้นหาได้,แน่นอนว่าทุกคนต้องค้นหาไปทั่ว,หากใครมีวาสนามากกว่ากัน,พบสมบัติได้มากกว่า,คนที่เหลือก็ต้องพ่ายแพ้.
"แล้วเจ้ามีวิธีอย่างงั้นรึ?"เจี้ยนอ้าวสอบถาม.
"สองวันก่อนหน้านี้,หนานกงเซิ่งกล่าวว่าที่นี่คือวิหารพุทธิ์อย่างงั้นรึ?"จงซาน
"ใช่,พญามารบอกว่าเดิมที่ขุนเขาคู่หยินหยานเป็นที่อยู่อาศัยมาก่อน."เจี้ยนอ้าวพยักหน้า.
"พวกเราจะไปค้นหาที่บ้านของเขา!"ดวงตาของจงซานที่เปล่งประกายด้วยเชาว์ปัญญา.
ค้นที่บ้านเขารึ?ใบหน้าของเจี้ยนอ้าวที่เต็มไปด้วยแปลกประหลาด,ให้ไปค้นหาที่บ้านพญามาร?
ไม่คิดเลยว่าจงซานจะกล่าวกล่าวคำพูดนี้ออกมา.
"อย่างไร? หากเป็นสมบัติของหนานกงเซิ่ง,แน่นอนว่าจะต้องอยู่ในที่พักของเขา,ตราบเท่าที่เราไปที่นั่น,พวกเราก็จะได้รับสมบัติมากมาย,แม้แต่ตัวบ้านของเขา,ก็นับว่าเป็นสมบัติเช่นกัน!"จงซานที่กล่าวความคิดที่มีความเป็นไปได้.
รื้อบ้านของพญามารอย่างงั้นรึ?เจี้ยนอ้าวถึงกับตื่นตระหนกตกใจกับความคิดของจงซาน,
หนานกงเซิ่ง,พญามารของยุคนี้,แม้ว่าเจี้ยนอ้าวจะไม่เข้าใจคนผู้นี้,แต่ก็สัมผัสได้ว่าคนผู้นี้ลึกลับ,ราวกับซ่อนอยู่ในหมอกที่หนามาก,ถึงจะเป็นระดับสวรรค์แท้ก็ยังรู้สึกกดดันเช่นกัน.
รื้อบ้านของหนานกงเซิ่งอย่างงั้นรึ?
"จะเป็นไปได้รึ?,บางที่คงทำไม่สำเร็จ."เจี้ยนอ้าวที่สูดหายใจลึกพยายามทำใจให้สงบ.
"ทำไม?"จงซานที่ขมวอคิ้วไปมา,จงซานที่เป็นคนนอกกรอบ,แม้ว่าจะไม่เข้าใจหนานกงเซิ่งก็ตาม,ทว่าภายในใจก็ไม่เคยรู้สึกหวาดกลัว.
"บ้านของพญามารนั้น,ข้าได้ผ่านไปครั้งหนึ่ง,แม้ว่าข้าจะไม่คิดจะรื้อบ้านของเขา,ทว่าข้าก็คิดว่าภายในบ้านของเขานั้นมีสมบัติบางอย่างอยู่,ขณะที่ข้าไปถึงที่นั้น,ข้าก็พบว่า,พญามารเองก็ได้เตรียมการเอาไว้แล้ว!"เจี้ยนอ้าวที่ขมวดคิ้วไปมา.
"เตรียมการอย่างงั้นรึ?"
"พญามารนั้นได้สร้างค่ายกลลวงตาที่น่าเกรงขามเอาไว้,กั้นขวางที่อยู่อาศัย,และพญามารยังมีชื่อเสียงที่สุดในทวีปศักดิ์สิทธิ์เป็นถึงปรมาจารย์ค่ายกล,เขาได้กั้นขวางทุกอย่างเอาไว้แล้ว,ไม่มีทางที่จะเข้าไปด้านในได้.
ปรมาจารย์อันดับหนึ่งด้านค่ายกล,คือหนานกงเซิ่งอย่างงั้นรึ?
จงซานที่ครุ่นคิด,ท้ายที่สุดก็ส่ายหน้าไปมา,"ไม่ว่าอย่างไร,นำข้าไปดูก่อน!"
ที่มาจากhttps://lnmtl.com/novel/immortality
#นิยาย เรื่องอมตะ #Immortality#นิยายแปลไทย
Author(s)
สนใจสนับสนุนพวกเรา,เข้าร่วมกลุ่ม VIP ====> Click
***เว็ปฟรีอัพ สองวันหนึ่งตอน
***กลุ่มลับ อัพ 2-3 ตอนต่อวัน.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น