Immortality Chapter 509 Immortal Nangong Sheng
นิยาย เรื่อง อมตะ ตอนที่ 509 เซียนหนานกงเซิ่ง.
Chapter 509 Immortal Nangong Sheng
仙人南宫胜
เซียนหนานกงเซิ่ง.
ที่ด้านนอกเทือกเขาคู่หยินหยางนั้น,,เมื่อการแข่งขันรอบสองเริ่มขึ้น,ในเวลานี้บนท้องฟ้า,เหนือขึ้นมาบนเมฆ.
หนานกงเซิ่งที่มีคิ้วเด่นเป็นสง่า,กำลังขมวดไปมาอยู่,จดจ้องมองลงไปยังเทือกเขาคู่หยินหยาง,จ้องมองทุกอย่างที่เกิดขึ้นอย่างระมัดระวัง,แววตาของเขาที่ราวกับจะนึกอะไรออกมาได้,เขาที่ไม่สามารถที่จะปล่อยวางเอาไว้ได้เลย.
การคัดเลือกผู้สืบทอดครั้งนี้ของแดนเทพอเวจี,เป็นที่จับตามองเป็นอย่างมาก,รอบๆพื้นที่การแข่งขันมีคนมากมายที่จับตาดูว่าใครจะได้เป็นพญามารคนต่อไป,ดังนั้นพื้นที่รอบๆจึงมีคนมากมายที่รอคอยดูผลลัพธ์ที่จะเกิดขึ้น.
สองผู้เยาว์เมล็ดมาร,สองมารแท้,หนึ่งในสี่ที่จะได้เป็นพญามาร,จะเป็นใครกัน?
ท่ามกลางคนมากมายที่กำลังคาดเดาไปต่างๆนาๆ,ในกลุ่มคนตอนนี้มีฉู่จิวที่กำลังกำหมัดแน่น,ภาวนาช่วยเจี้ยนอ้าวในการทดสอบในครั้งนี้.
เจี้ยนอ้าวที่นำจงซาน,ตรงไปยังพื้นที่ตรงกลางของเทือกเขาคู่หยินหยาง,สถานที่แห่งนี้เชื่อมต่อพื้นที่ระหว่างอาณาเขตทั้งสอง,
"ที่นี่ล่ะ."เจี้ยนอ้าวที่ชี้ไปยังตำแหน่งต้นไม้สวรรค์ขนาดใหญ่ด้านหน้า,เป็นต้นไม้ที่ใหญ่เป็นอย่างมาก,มีขนาดเท่ากับขุนเขาลูกหนึ่งเลยทีเดียว,รากของต้นไม้เหล่านี้ดูแปลกประหลาดเป็นอย่างมาก,ครึ่งหนึ่งเป็นสีขาวครึ่งหนึ่งเป็นสีดำ,แปลกแยกมาก.
"ที่นั่นควรจะเป็นปราสาทของพญามาร,มีต้นไม้ยักษ์ที่น่าเกรงขามขางทางอยู่,ทว่าดูเหมือนว่ามันจะเป็นค่ายกล,พื้นที่ตำหนักทั้งหมดได้หายไป,ไม่คิดว่าพญามารจะนำมันไปด้วย,สถานที่แห่งนี้,คงอยู่มาตั้งแต่โบราณ,ไม่มีใครสามารถนำมันไปได้,ครั้งหนึ่งตำหนักต้องอยู่สถานที่แห่งนี้,หากไม่เช่นนั้นแล้ว,เทือกเขาคู่หยินยางคงจะล่มสลาย,นั่นก็หมายความว่ามันมีค่ายกลปิดบังซ่อนมันเอาไว้อยู่."เจี้ยนอ้าวกล่าว.
จงซานที่จับจ้องมองมองไปยังจัตุรัสด้านหน้า,แสดงท่าทางจริงจังขึ้นมา,เพราะว่าจงซานเคยเห็นค่ายกลต่างๆมามากมาย,และยิ่งร่างแยกเงาถือว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญเลยก็ว่าได้,ร่างแยกเงานั้นสามารถที่จะผ่านค่ายกลไปโดยที่ไม่มีอะไรเกิดขึ้น,ยิ่งเป็นค่ายกลลวงตา,ไม่มีผลต่อร่างแยกเงาของเขาเลยแม้แต่น้อย.
จงซานที่จ้องมองไปยังพื้นที่รอบๆ,ซึ่งมี่แสงแค่สองสี,สีขาวและสีดำ,แสงสีขาวและแสงสีดำ,ล้อมรอบพื้นที่บริเวณ,"ไป,เข้าไปด้านในกัน!"จงซานกล่าว
"เข้าไปอย่างงั้นรึ?
ดวงตาของเจี้ยนอ้าวเป็นประกายด้วยความประหลาดใจ.
สถานที่แห่งนี้กว้างเป็นอย่างมาก,ก่อนหน้านี้เขาที่คิดจะผ่านเข้าไปทว่าก็ไม่สามารถทำได้,ต้องไม่ลืมด้วยว่าหนานกงเซิ่งนั้นเป็นปรมาจารย์ค่ายกลที่มีชื่อเสียงที่สุดในทวีปศักดิ์สิทธิ์,ไม่ใช่คนไร้ชื่อ,ที่จะสามารถทำลายมันง่ายๆ,แม้แต่เจี้ยนอ้าวยังมองไม่เห็นทาง,ทว่า,ให้เข้าไปรึ?
แล้วเข้าไปอย่างไร? จะเข้าไปได้อย่างไร,ในเมื่อทุกอย่างมันว่างเปล่า,จะให้เดินผ่านไป,มันก็ไม่มีสิ่งใดเลยแม้แต่น้อย
ทว่าจงซานนั้นแสดงท่าทางมั่นใจเป็นอย่างมาก,ขณะที่เขาก้าวขาขึ้น,พร้อมกับก้าวไปยังมุมแสงสีขาวแห่งหนึ่ง,ก่อนที่จะก้าวเข้าไป,"วูซซซ"
จงซานหายไปในทันที,ทว่าเจี้ยนอ้าวไม่สามารถเข้าไปได้,ถูกขวางกันเอาไว้ด้านนอก,พื้นที่แห่งนี้ไม่มีอะไรเลยไม่ใช่รึ?
แล้วจงซานหายไปใหนกัน?
ในเวลาเดียวกันนั้น,เจี้ยนอ้าวจดจ้องมองไปยังจงซานที่หายไป,เข้าไปได้รึ?
เข้าไปในค่ายกลรึ? เจี้ยนอ้าวรู้สึกตื่นเต้นเป็นอย่างมาก,ไม่คิดเลยว่าจะเป็นไปได้,จงซานเข้าไปได้อย่างงั้นรึ?
ค่ายกลหนานกงเซิ่งไม่สามารถขวางทางเขาได้?
เดิมที่ก็ตื่นเต้นอยู่แล้ว,เวลานี้รู้สึกตื่นเต้นขึ้นไปอีก,ยอดเยี่ยม,นี่สิถึงจะเป็นคู่แข่งที่ข้าตามหา.
ด้านนอกเทือกเขาคู่หยินหยาง,วันที่สาม,หนานกงเซิ่งที่นั่งอยู่บนบัลลังก์,จ้องมองไปยังพื้นที่ภูเขาคู่หยินหยางอย่างระมัดระวัง,ทันใดนั้นดวงตาของเขาก็หดเกร็ง,จับจ้องมองไปยังพื้นที่ไกลออกไป,"เป็นไปได้อย่างไร?
นี่คือ,มีคนสามารถทะลวงค่ายกลหยินหยางสังสารวัฏได้ด้วยรึ?"สายตาของเขาที่เต็มไปด้วยความสงสัย.
ร่างกายของเขาที่เคลื่อนที่อย่างรวดเร็ว,หนานกงเซิ่งพร้อมบัลลังก์ที่หายไปและมาปรากฏขึ้นอีกครั้ง,ที่ท้องฟ้าแห่งหนึ่งของเทือกเขาคู่หยินหยาง,สายฟ้ามากมายบนท้องฟ้าที่ราวกับว่ากำลังบ้าคลั่งยิ่งกว่าเดิม.
ค่ายกลหยินหยางสังสารวัฏ?
มีเพียงแค่ระดับสวรรค์แท้เท่านั้น,ไม่เช่นนั้นไม่มีใครสามารถมองเห็นได้,และหนานกงเซิ่งก็มั่นใจเป็นอย่างมากกับค่ายกลนี้,ทว่ามีใครเข้าไปได้รึ?
ใครกัน?
ใบหน้าของหนางกงเซิ่งเปลี่ยนเป็นจริงจัง,ขณะที่เขาจดจ้องมองไปยังเทือกเขาคู่หยินหยาง,ทันใดนั้นสายตาของเขาก็ปรากฏเห็นคนผู้หนึ่ง,จงซาน,ใช่แล้ว,คนผู้นี้คือจงซาน?
คนๆเดียวที่เขาไม่สามารถเข้าใจได้อย่างสมบูรณ์?
จงซานที่ก้าวเข้ามาในค่ายกล,รับรู้ได้ในทันทีค่ายกลนี้เพียงแค่เข้ามาเท่านั้น,ยังเป็นไปไม่ได้ที่จะนำสิ่งใดออกไปได้ด้วยตัวเอขาคนเดียว.
ในเวลานี้,ที่เบื้องหน้าปรากฏสิ่งก่อสร้างขนาดใหญ่,ที่ใจกลางนั้นมีเรือนปราสามที่สูงใหญ่สีแดง,และมีป้ายสลักเอาไว้ด้วยตัวอักษรใหญ่ยักษ์.
พระราชวังโลหิต!
ตำหนักโลหิต,แดนเทพอเวจีอย่างงั้นรึ?
จงซานที่ลอบเข้าไปในพระราชวังโลหิตโดยตรง.
พระราชวังโลหิต,เป็นวิหารโบราณที่มีมาแต่อดีตแล้ว,มีแรงกดดันวิญญาณมหาศาล,ทว่าสำหรับจงซานแล้ว,หาได้มีอะไร,ภายในห้องโถง,นับว่าใหญ่โตกว้างขวาง,ที่ตรงกลางมีบัลลังก์สีแดงชาติ,เห็นได้ชัดเจนว่าเป็นที่นั่งของหนานกงเซิ่ง,และที่ด้านในนั้นมีม่านพลังที่สูงใหญ่กว่าสิบจั้ง.
ผ่านเข้าไปในม่านป้องกันนั้น,มีแผนที่หยินหยางกำเนิดบรรพกาล,เป็นลายปลาคู่หยินหยาง,แบ่งแยกเป็นสีขาวดำ,มีพลังหยินที่รุนแรงแผ่ออกมา,ส่องประกายแสงเรื่อๆ,หมุนวนอยู่,นี่มันแผนที่ก่อเกิดบรรพกาล! ดวงตาของจงซานที่แสดงความดีใจออกมา,ไร้ซี่งลังเล,เขาพุ่งตรงไปยังแผนที่ก่อเกิดบรรพกาลด้วยความเร็ว,"ตูมมมมม,ตูมมมม,ตูมมมมม"
แผนที่ก่อเกิดบรรพกาลที่มีม่านพลังป้องกัน,ปลาหยินหยางที่หมุนวน,ส่องประกายแสงสีฟ้าออกมา,กระแทกร่างของจงซานลอยออกมาเลยทีเดียว.
"เป็นสมบัติชั้นยอด!"จงซานที่ล่วงหล่นลงพื้น,เขาไม่ได้โกรธ,กลับมีความสุขด้วยซ้ำ,ระหว่างนี้ที่ด้านนอก,เจี้ยนอ้าวที่รอคอยอย่างอดทน,ขณะที่รอนั้น,ทันใดนั้นก็มีร่างในชุดคลุมสีขาวปรากฏขึ้นมา.
หนานกงเซิ่ง!
หนานกงเซิ่งที่ไม่อยากเชื่อว่ามีคนสามารถบุกผ่านเข้าไปในค่ายกลที่ตัวเองสร้าง,เกี่ยวกับค่ายกลของตัวเองนั้นเขาเข้าใจเป็นอย่างดี,ดังนั้นจึงได้มายืนยันอีกครั้ง,เมื่อเข้าใกล้เขาเห็นเพียงแค่เจี้ยนอ้าวเท่านั้น,จดจ้องมองเข้าไปด้านใน,"มีใครเข้าไปได้จริงๆเหรอ,เป็นไปได้อย่างไร?
ค่ายกลหยินหยางสังสารวัฏไม่ได้ถูกทำลาย,หากแต่ถูกลอดเข้าไปข้างในได้ด้วยรึ?
"คารวะพญามาร."เจี้ยนอ้าวกล่าวแสดงความเคารพในทันที.
"เขาเข้าไปข้างในอย่างไร?"หนานกงเซิ่งที่สอบถามออกมาในทันที.
ค่ายกลหยินหยางสังสารวัฏนั้น,ไม่มีเส้นทางเข้า,มันเป็นเพียงภาพมายา,ที่รวมผสานโลกที่เชื่อมต่อ,เป็นค่ายกลสงครามและตั้งรบที่ผสมผสานกัน,เป็นค่ายกลที่ลึกล้ำ,เป็นดินแดนอีกมิติหนึ่ง,ถูกแยกออกไปจากโลกใบนี้,มีเพียงแค่ทำลายมันเท่านั้น,ไม่เช่นนั้นไม่มีทางเข้าไปด้านในได้.
แม้ว่าหนานกงเซิ่งจะไม่ได้แข็งแกร่งที่สุดในด้านค่ายกล,แต่ก็นับว่ามีความลึกล้ำเป็นอย่างมาก,ไม่มีใครสามารถมองเห็นมันได้,ทว่าจงซานกลับสามารถเข้าไปได้,เรื่องนี้ได้ตบหน้าศักดิ์ศรีของหนานกงเซิ่งอย่างแรง.
"เพียงแค่เดินเข้าไป."เจี้ยนอ้าวที่กล่าวตามจริง.
ได้ยินคำพูดที่เจี้ยนอ้าวอธิบาย,หนานกงเซิ่งถึงกับพูดไม่ออก,เพียงแค่เดินเข้าไป.
หนานกงเซิ่งที่โบกสะบัดมือ,ค่ายกลที่ลึกล้ำที่เปิดออกมา,ก่อนที่จะเห็นจงซานถูกแสงสีน้ำเงินของแผนที่ก่อเกิดบรรพกาลผลักกระเด,ทันใดนั้นเขาก็รู้สึกว่าค่ายกลด้านนอกเปิดออกมา,ทันใดนั้นจงซานจึงได้หยุด,พร้อมกับหันหน้ามองออกมา.
หนานกงเซิ่ง? จงซานที่ขมวดคิ้วไปมา.
"คารวะพญามารเทพอเวจี!"จงซานที่กล่าวออกมาในทันที.
หนานกงเฉิงที่จับจ้องมองไปยังซงซานขเม็ง.
"เจ้าเป็นใคร?"หนานกงเซิ่งกล่าวอย่างเคร่งขรึม
"จงซาน!"จงซานที่กล่าวตามจริง
หนานกงเซิ่งผู้สร้างค่ายกลนี้,แน่นอนว่าเขาย่อมรู้จักจงซาน,เขากับถามว่าเขาเป็นใคร.
"ทำไมร่างของเจ้าของเจ้าถึงได้ดูมืดมัวเหมือนหมอก?
อีกทั้งค่ายกลหยินหยางสังสารวัฏนี้,แม้แต่ระดับสวรรค์แท้ก็ไม่สามารถเข้ามาได้,แล้วเจ้าเข้าไปได้อย่างไร?"หนานกงเซิ่งที่กล่าวออกมาอีกครั้ง.
ดูมืดมัวอย่างงั้นรึ?
หัวใจของจงซานที่หัวใจรัดแน่น.
"นี่คงเป็นผลมาจากวิชาบำเพ็ญที่ผู้น้อยฝึกฝนอยู่!"จงซานกล่าว.
หนานกงเฉิงที่จ้องมองไปยังจงซาน,ไม่อยากเชื่อเช่นกันว่าเขาจะศึกษาวิชาศาสตร์เดียวกับเขา.
เห็นสายตาของหนานกงเซิ่ง,จงซานที่รู้สึกไม่ดีนัก,จึงได้กล่าวออกมาทันที,"เช่นนั้นการทดสอบด่านที่สองพวกเราชนะอย่างงั้นรึ?"
หนานกงเซิ่งที่ส่ายหน้าไปมา,เผยยิ้มแปลกๆแล้วกล่าวออกมาว่า"โปรดวางใจ,ในเมื่อเจ้าเป็นสหายของคนที่จะเป็นพญามารในอนาคต,ข้าย่อมไม่ทำอะไรให้เจ้าลำบากใจ."
ได้ยินคำพูดของหนานกงเซิ่งแล้ว,จงซานก็รู้สึกวางใจ,ไม่ใช่ว่ากินปูร้อนท้อง,ทว่าคนที่อยู่เบื้องหน้าเขานั้นไม่สามารถที่จะยุแหยได้.
เจี้ยนอ้าวเองก็ไม่คิดว่าค่ายกลของหนานกงเซิ่งจะมีจุดอ่อนเช่นกัน,จะง่ายดายที่จะก้าวเข้าไปง่ายๆได้อย่างแน่นอน,"พญามารตัดสินแล้วอย่างงั้นรึ?"เจี้ยนอ้าวสอบถาม.
หนางกงเซิ่งที่กล่าวว่าเป็นสายของพญามาร,ไม่ได้แปลว่ารับประกันเจี้ยนอ้าวแล้วรึ?
หนานกงเซิ่งเผยยิ้มออกมาเล็กน้อย,พยักหน้า,ที่ด้านในนี้,มีสมบัติมากมาย,แม้ว่าไม่ต้องนำมันออกไป,แต่ก็มีมากที่สุด,ผลตัดสินก็ประจักษ์อยู่แล้ว.
"ขอบคุณพญามาร!"เจี้ยนอ้าวกล่าวออกมาในทันที.
"ชาติที่แล้วเจ้าก็เป็นพญามาร,ตอนนี้ก็สามารถประสบความสำเร็จแล้ว,ไม่จำเป็นต้องขอบคุณข้า."หนานกงเซิ่งส่ายหน้าไปมา.
"อืม!"เจี้ยนอ้าวพยักหน้า.
"หลังจากนี้สิบวัน,ข้าจะทำการแต่งตั้งเจ้าเป็นผู้สืบทอด,จากนี้เจ้าจะเป็นพญามารเจี้ยนอ้าว."
กับคำพูดของหนานกงเซิ่ง,ทำให้เจี้ยนอ้าวขมวดคิ้วไปมา,"พญามารเจี้ยนอ้าวรึ?
หลังจากนี้ได้รับสิทธิ์ผู้สืบทอด,ไม่ใช่ว่าต้องรออีกสิบปี! ถึงจะได้เป็นพญามารหรอกรึ? ทำไมถึงได้รีบร้อนขนาดนั้น?"เจี้ยนอ้าวที่เต็มไปด้วยความสงสัย.
ทันใดนั้น,เจี้ยนอ้าวก็คิดถึงคำพูดของจงซานที่เกิดขึ้นที่ภูเขาคู่หยินเหยาง
"เจี้ยนอ้าว,หนานกงเซิ่งมีพลังฝึกตนระดับใด?"
"บางทีข้าคงคิดไปเอง!"
พลังฝึกตนของหนานกงเซิ่ง,ทั่วหล้าต่างก็รับรู้,ทำไมจงซานถึงแสดงท่าทางสงสัย?หรือว่า........?
ใช่แล้ว,สายฟ้ามากมายที่โกรธเกรี้ยว,มากมายนับไม่ถ้วนปกคลุมทั่วท้องฟ้า,ดูน่าหวาดกลัวเป็นอย่างมาก,ราวกับว่ากำลังจะเกิดภัยพิบัติขึ้น,จงซานที่จับจ้องมองไปยังหนานกงเซิ่งด้วยท่าทางประหลาดใจ."ท่านกำลังจะก้าวขึ้นไปเป็นเซียนรึ?"
เจี้ยนอ้าวที่จับจ้องมองไปยังหนานกงเซิ่งด้วยท่าทางประหลาดใจ,จ้องมองไปยังจงซาน,ท้ายที่หนานกงเซิ่งก็พยักหน้ารับ"ถูกแล้วเวลาของข้ามีไม่มากนัก,ตอนนี้ฟ้าดินกำลังขับไล่ข้ามากขึ้นและก็มากขึ้น,ข้าเองคงรอไม่ถึงวันนั้น,ดังนั้นจึงรีบร้อนค้นหาผู้สืบทอด."
"ยินดีกับพญามารด้วย!"เจี้ยนอ้าวที่กล่าวออกมาในทันที.
"ยินดีกับพญามารด้วย!"จงซานที่กล่าวออกมาเช่นกัน.
เห็นคนทั้งสองหนานกงเซิ่งก็พยักหน้า,ใบหน้ายังคงเคร่งขรึม,"ข้ากำลังจะกลายเป็นเซียน,ไม่มีเวลามากนัก,หากเป็นเช่นนั้นแดนเทพอเวจีอาจจะได้รับภัยพิบัติ,จนถึงกาลล่มสลาย,หวังว่าพวกเจ้าจะสามารถรักษาแดนเทพอเวจีเอาไว้ได้,หากข้าต้องไป!"
"ล่มสลายรึ?"เจี้ยนอ้าวที่ขมวดคิ้วไปมา.
หนานกงเซิ่งที่จะต้องจากไป,แดนเทพอเวจีหากว่าไม่มีระดับสวรรค์แท้คอยสั่งการ,จะเกิดอะไรขึ้น,ก่อนหน้านี้,มีระดับสวรรค์แท้ก็ใช่ว่าจะได้เปรียบ,มีโอกาสที่แดนเทพอเวจีจะล่มสลายเช่นกัน,ต้องไม่ลืมว่าแดนเทพอเวจีนั้นเป็นหนึ่งในแดนเทวะ,มีประวัติค่อนข้างยาวนาน,หากไม่มีระดับสวรรค์แท้แล้วจะยิ่งเสียเปรียบเข้าไปอีก.
"กู่เฉิงตงที่ทำการแยกสวรรค์,สะบั้นปฐพี,ฟันหมอกปราณม่วงล่วงหล่นลงมาไม่น้อย,เหล่าผู้ฝึกตนสวรรค์แท้หลายคนสามารถเก็บมันเอาไว้ได้,ระดับสวรรค์แท้ที่ได้รับมันต่างก็มีพลังเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ,ถึงแม้ว่าจะเป็นเซียนทั่วไป,ไม่ว่าจะเก่งกาจเท่าใด,หากว่าข้ายังอยู่ย่อมไม่มีปัญหา,ทว่าฟ้าดินก็ไม่ได้เข้าข้างข้า,หลังจากนี้คงจะต้องอาศัยพวกเจ้าแล้ว,"หนางกงเซิ่งที่กล่าวพลางทอดถอนใจ.
ที่มาจากhttps://lnmtl.com/novel/immortality
#นิยาย เรื่องอมตะ #Immortality#นิยายแปลไทย
Author(s)
สนใจสนับสนุนพวกเรา,เข้าร่วมกลุ่ม VIP ====> Click
***เว็ปฟรีอัพ สองวันหนึ่งตอน
***กลุ่มลับ อัพ 2-3 ตอนต่อวัน.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น