Immortality Chapter 496 Being as deep as a well
นิยาย เรื่อง อมตะ ตอนที่ 496 ลึกล้ำ.
Chapter 496 Being as deep as a well
高深莫测
ลึกล้ำ.
จงซานจ้องมองไปยังกู่เจิ้งอี้,พร้อมกับไท่จื่อคนอื่นๆอีกสามคน.
ต้าเสวียนอ๋อง,อ๋องไท่จงและอ๋องจ้านเทียนที่ได้ยินต่างแสดงสีหน้าไม่พอใจ,ทว่าก็ไม่มีใครปฏิเสธ,เห็นได้อย่างชัดเจนว่านี่คือความจริง,ทว่าหากแม้นไท่จื่อทั้งสามคนเลือกที่จะจำนนต่อกู่เจิ้งอี้,เห็นได้อย่างชัดเจนว่าไม่ใช่เรื่องง่าย,ตอนนี้ทุกคนเพียงแค่มาคารวะกู่เฉิงตง,เวลานี้อยู่ในการไว้ทุกข์,ไม่ดีนักที่จะกระทำอะไรใหญ่โต.
ทุกคนต่างก็จับจ้องมองไปยังจงซาน,สายตาของทุกคนที่จ้องมองไปยังเขา,ราวกับว่าต้องการให้เขามาช่วยงาน,โดยเฉพาะอย่างยิ่งไท่จื่อทั้งสาม,ซึ่งไม่หวังให้จงซานยอมรับคำพูดของอีกฝ่าย.
"กู่เจิ้งอี้!"จงซานที่เอ่ยออกมาในทันที.
จงซานหาได้สนใจหวนถูหลง,คาดไม่ถึงเลยว่าจะเรียกกู่จงอี้ตรงๆ?
ทุกคนที่จับจ้องมอง,หวนถูหลงที่ไม่ได้กล่าวสิ่งใดออกมาอีกต่อไป,รอคอยอ๋องเจิ้งอี้ว่าจะตอบกลับมาว่าอย่างไร.
"แม่ทัพจง!"อ๋องเจิ้งอี้พยักหน้า.
"จงซานมีเรื่องต้องการขอคำชี้แนะ."จงซานกล่าว.
"เชิญกล่าว."
"จงซานมีสหายอยู่คนหนึ่ง,มีนามว่า,หนานป่าเทียน,ก่อนหน้านี้ข้าได้ยินมาว่าเขามีฉายา,ง้าวรบทะลวงโลหิต"
หนานป่าเทียนเป็นทัพหน้าในดินแดนของท่าน,ซึ่งก่อนหน้านี้ได้พระราชบรรดาศักดิ์เป็นโห่ว,เมื่อครั้งกู่เฉิงตงแยกสวรรค์สะบั้นปฐพีข้าเห็นเขาอยู่ในค่ายของท่าน,ทำไมตอนนี้ถึงไม่เห็นเขาแล้วอย่างงั้นรึ?"จงซานที่เอ่ยปากออกมา.
หนานป่าเทียน,ด้วยนิสัยใจคอของหนานป่าเทียน,จงซานย่อมรู้จักเขาดี,เขาเป็นคนที่ชื่นชมในตัวกู่เฉิงตงเป็นอย่างมาก,และยังเป็นคนที่ซาบซึ้งบุณคุณ,ในวันนี้เขาควรจะต้องมาแน่นอน,หากแต่กับไม่เห็นเขาเลยแม้แต่น้อย,เมื่อจ้องมองไปยังเหล่าขุนพลแม่ทัพของเขาในเวลานี้,ดูเหมือนว่าจะไม่สามารถมองเห็นหนานป่าเทียนจริงๆ.
ง้าวรบทะลวงโลหิต,ชื่อนี้นับว่ามีชื่อเสียงอยู่ไม่น้อย,แม้ว่าจะไม่สามารถเทียบกับจงซานได้,ทว่าการรบของหนานป่าเทียนนั้นได้รับการชื่นชมไม่น้อย,ข่าวการชนะ,ทุกสนามรบที่เขาเข้าร่วม,ไม่เคยพ่ายแพ้,เป็นทัพหน้าทะลวงฟันที่ทรงพลังมากง้าวยักษ์ที่มีขนาดใหญ่มโหฬารยิ่งทำให้เขาดูน่าเกรงขาม.
"แม่ทัพหนานอย่างงั้นรึ?"อ๋องเจิ้งอี้ที่ขมวดคิ้วไปมา.
"มีปัญหาอะไรอย่างงั้นรึ?"จงซานสอบถาม.
"เมื่อครั้งที่ฝ่าบาทกำลังแยกสวรรค์,สะบั้นปฐพีอยู่,เมื่อครั้งที่ท้องฟ้าแยกออกมา,เหล่าคนมากมายที่ถูกสูบหายไป,ซึ่งรวมถึงแม่ทัพหนานด้วยที่ถูกสูบไปในรอยแยก,ตอนนี้ยังไม่ได้ข่าวอะไรเลย."อ๋องเจิ้งอี้ที่ส่ายหน้าไปมา.
ถูกรอยแยกมิติสูบไปอย่างงั้นรึ?
จงซานที่ขมวดคิ้วไปมา,จงซานไม่ได้สงสัยในคำพูดของกู่เจิ้งอี้แต่อย่างใด,เพราะจากสถานการณ์ที่เกิดขึ้น,เป็นไปไม่ได้เลยที่เขาจะโกหก,ถูกรอยแยกสูบไปอย่างงั้นรึ?
จงซานเชื่อว่าหนานป่าจะไม่ตายง่ายๆแน่,ทว่าหากต้องการกล่าวลาเขา,ก็ไม่รู้ว่าจะต้องรอไปจนถูกตอนใหน.
"ขอบคุณ!"จงซานพยักหน้า.
"ไม่มีปัญหา,เช่นนั้นขอถามจงซานบ้างว่า,พอจะมีเวลาพูดคุยเรื่องสำคัญเกี่ยวกับราชโองการของฝ่าบาทได้ส่งต่อมาได้หรือไม่."กู่เฉิงตงที่เอ่ยปากออกมาอีกเช่นกัน.
"ข้าและคนอื่นๆได้ตัดสินใจที่จะไปจากต้าโหลวก่อนหน้านี้แล้ว,ตอนนี้คงไม่ขอรบกวนทุกท่าน."จงซานที่กล่าวออกมาในทันที.
เห็นท่าทางของจงซานแล้ว,ดวงตาของกู่เจิ้งอี้ที่ดูหม่นลงและมีประกายแสงบางอย่างอยู่ในนั้น.
"หากเป็นเช่นนี้,เฉียนโหยวเจ้าอยู่ก่อนเป็นไร,ไม่คิดที่จะกล่าวพูดคุยกับบิดาเลยรึ?."กู่เจิ้งอี้ที่จ้องมองไปยังกู่เฉียนโหยว
ต้องไม่ลืมว่า,กู่เจิ้งอี้คือบิดาบุญธรรมของกู่เฉียนโหยว,เขาจึงคิดที่จะรั้งกู่เฉียนโหยวเอาไว้แทน.
"ในเมื่อฟู่อี้คิดว่าเฉียนโหยวยังเป็นบุตรบุญธรรม,ทำให้เฉียนโหยวรู้สึกซาบซึ้งยิ่งนัก,หลายปีมานี้,ข้าที่ได้ช่วยฟู่อี้รวบรวมคนที่มีความสามารถมากมาย,แม้แต่สมบัติเทวะก็มากกว่าพันชิ้น,ไม่เคยหยุดหย่อนเลย,ไม่ใช่ว่านั่นก็ได้ตอบแทนไปแล้วรึ?ตอนนี้เฉียนโหยวเป็นสตรีของจงซาน,ในเวลานี้ขอเรียกท่านฟู่อี้เป็นครั้งสุดท้าย,"กู่เฉียนโหยวที่ส่ายหน้าปฏิเสธเช่นกัน.
กู่เฉียนโหยวเองก็ต้องการตัดสถานะบิดาบุญธรรมและบุตรสาวอยู่แล้ว,ในเมื่อที่เกิดขึ้นทั้งหมดเป็นเพราะกู่เฉิงตง,ที่เป็นคนร้องขอ,กู่เจิ้งอี้รับกู่เฉียนโหยวเป็นบุตรบุญธรรม,ไม่เคยใส่ใจนางเลยแม้แต่น้อย,ทั้งที่นางทำงานให้กู่เจิ้งอี้รวบรวมคนที่มีความสามารถมาให้มากมายในอดีต,นี่ก็กล่าวได้แล้วว่าได้ตอบแทนแล้ว,เหตุการณ์สุดท้ายเมื่อครั้งฉีเทียนโห่วใส่ร้ายนาง,กู่เจิงอี้เองก็เป็นคนตัดสัมพันธ์กับนางก่อนหน้านั้นแล้ว,เรื่องดังกล่าวนี้ทำให้นางรู้สึกขุ่นเคืองเป็นอย่างมาก,นางที่ไร้ซึ่งความรู้สึกใดๆ,ไม่มีความผูกพันกับกู่เจิ้งอี้แม้แต่น้อย.
ตอนนี้,คาดไม่ถึงเลยว่ากำลังใช้ประโยชน์จากนางเพื่อรั้งจงซานอย่างงั้นรึ?
กู่เฉียนโหยวที่ยืนยันออกมาในทันที,ว่านางต้องการเรียกเขาว่าฟู่อี้เป็นครั้งสุดท้าย,แสดงให้เห็นว่าต้องการตัดสัมพันธ์ระหว่างบิดาและบุตรสาว.
ได้ยินคำพูดของกู่เฉียนโหยว,ดวงตาของกู่เจิ้งอี้ที่เปลี่ยนเป็นหม่นอีกครั้ง,ก่อนที่จะเป็นประกายอยู่ด้านใน,"เมื่อเป็นบิดาและบุตรสาว,สายสัมผัสย่อมไม่มีทางเปลี่ยนแปลง."
กู่เฉียนโหยวที่ได้ยินเช่นนั้น,แววตาที่เต็มไปด้วยความโกรธเกรี้ยว,กู่เจิ้งอี้ต้องการที่จะบังคับนางอย่างงั้นรึ?
ท่าทางเห็นได้ชัดเจนว่าเขาแสดงออกมาว่านางเป็นบุตรสาวอกตัญญู,คิดจะใช้คำว่าบิดาของนางตอนนี้หาประโยชน์.
จงซานที่จับมือกู่เฉียนโหยวพร้อมกับนำนางให้มาอยู่ด้านหลัง,ก่อนที่จะเดินช้าๆไปอยู่ด้านหน้ากู่เจิ้งอี้
จงซานและกู่เจิ้งอี้ที่อยู่ห่างกันไม่ถึงหนึ่งเมตร.
ทุกคนต่างก็จ้องมองไปยังท่าทางของจงซาน,ก็ตกใจเล็กน้อย,เขากำลังจะทำอะไร?
ต้องการยุแหย่กู่เจิ้งอี้อย่างงั้นรึ?
สามไท่จื่อที่เผยยิ้มออกมาเล็กน้อย,กู่เจิ้งอี้ที่ต้องการรั้งจงซานเอาไว้,พวกเขาต้องใส่ใจด้วยรึ?
จงซานและกู่เจิ้งอี้,ตอนนี้กำลังปลดปล่อยแรงกดดันวิญญาณแผ่ออกมารอบๆ,ไม่มีใครที่เข้าไปขวางได้,หวนถูหลง,ถึงแม้ว่าจะเป็นคนเอ่ยปาก,ออกไปเป็นคนแรก,ทว่าก็ได้แต่ยืนนิ่ง,จ้องมองไปยังทั้งคู่,ที่แววตาเต็มไปด้วยความทะเยอทะยาน
จงซานหาได้หวาดกลัว,ประจันหน้ากับกู่เจิ้งอี้,เผยยิ้มออกมาเล็กน้อย,พร้อมกับสูดหายใจลึก.
"กู่เจิ้งอี้,ข้าจงซานต้องการจะไป,ไม่มีใครสามารถห้ามได้,เจ้าเองก็เช่นกัน!"จงซานที่กล่าวออกมาด้วยเสียงไม่ดังนัก.
จากท่าทางแล้ว,เห็นได้อย่างชัดเจนว่าเต็มไปด้วยความแข็งแกร่งไม่ยอมอ่อนข้อ.
ความจริงจงซานต้องการไปนั้น,ถึงจะเป็นกู่เจิ้งอี้ก็ไม่สามารถขวางได้,จงซานนั้นมีไพ่ลับมากมาย,ถึงแม้ว่าเขาจะไม่ลงมือ,เพียงแค่เซียนเซิงซือก็สามารถพาจงซานถอยกลับไปได้,ต้องไม่ลืมด้วยว่าเซียนเซิงซือที่ได้เข้าไปในแดนเทพพิสุทธิ์นั้นได้,ขุดศพของอรหันต์กลับมาด้วย,และตอนนี้ได้สกัดกลั่นมันเป็นเจียงซือ,แน่นอนว่าทรงพลังเป็นอย่างมาก.
ที่ไกลออกไปนั้น,ทุกคนที่เห็นเพียงแค่จงซานเผยยิ้มออกมาให้กับกู่เจิ้งอี้,คิดว่าคนทั้งสองสนทนากันอย่างกลมกลืน,ไม่มีใครรู้ว่าทั้งคู่กำลังแสดงท่าทางเป็นปฏิปักษ์ต่อกันออกมา.
เสียงของจงซานนั้นเบามาก,คนส่วนมากไม่ได้ยินกัน,ทว่าสามไท่จื่อและหวนถูหลงนั้นได้ยินอย่างชัดเจน.
คนทั้งสี่ที่ตกใจเล็กน้อย,คาดไม่ถึงเลยว่าจงซานจะกล้าข่มขู่กู่เจิ้งอี้?
สามไท่จื่อเองก็รู้สึกเบาใจเช่นกัน,จับจ้องมองไปยังกู่เฉิงอี้,ต้องการรู้ว่าเขาจะทำอย่างไรต่อไป?
ดวงตาของหวนถูหลงแสงท่าทางโกรธเกรี้ยวออกมา,เตรียมที่จะเข้าต่อว่าจงซาน.
ทว่า,ขณะที่หวนถูหลงก้าวออกไปนั้น,กู่เจิ้งอี้ได้ขวางเอาไว้,ไม่ให้หวนถูหลงกล่าวอะไร.
หวนถูหลงที่ต้องหยุด,เอาไว้,จงซานที่เห็นดังนั้นก็รู้สึกตกใจเล็กน้อย,กู่เจิ้งอี้มีวิธีอะไรกันที่สามารถควบคุม,หวนถูหลง,ระดับราชันย์แท้เอาไว้ในกำมือ,เป็นอย่างที่คาดไม่ถึงมาก,ถึงแม้ว่าจะมีกู่เฉิงตงอยู่ก็ตามที่,เป็นไปไม่ได้ที่เขาจะยอมรับฟังแต่โดยดี,นั่นก็สามารถอธิบายได้ว่า,กู่เจิ้งอี้นั้นได้ซ่อนอะไรบางอย่างที่ลึกล้ำ,ลึกมากๆเอาไว้นั่นเอง.
"ในเมื่อเฉียนโหยวไม่ยินดีที่จะอยู่,ก็ไม่เป็นไร."กู่เจิ้งอี้ที่ส่ายหน้าไปมาด้วยรอยยิ้ม.
ได้ยินคำพูดของกู่เจิ้งอี้,ทุกคนที่แสดงท่าทางงงงวย,ไม่เข้าใจเลยแม้แต่น้อย,ต้องไม่ลืมว่า,กู่เจิ้งอี้นั้นมีพลังที่เหนือกว่า,และยังมีกองกำลังที่เหนือยิ่งกว่าอีก,ทำไมตอนนี้ถึงได้ปล่อยจงซานไป,ไม่คิดที่จะใช้พลังออกมาอย่างงั้นรึ?
ทุกคนในเวลานี้เต็มไปด้วยความไม่เข้าใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น.
จงซานที่รู้สึกประหลาดใจเช่นกัน,สีหน้าแววตาของกู่เจิ้งอี้ที่ยังคงนิ่งงัน,ไม่เผยสิ่งใดออกมา,คนผู้นี้ไม่ธรรมดา,ไม่,น่าจะบอกว่าเหมือนกับกู่เฉิงตงมาก,ดูเหมือนมาก,อหังการ,ไม่สามารถเอาคนทั่วไปมาเทียบได้,ไม่สงสัยเลยว่ากู่เฉิงตงเลือกเขา.
เห็นจงซานตงการจากไป,ไท่จื่ออีกสามคนเองก็ไม่ขวางทางเขาอีกต่อไป.
"อืม!"จงซานพยักหน้า,พร้อมกับถอยห่างออกมา.
"ศาลาเจ็ดดาว,จื่อซวินเดินทางมาคารวะ"
ขณะที่จงซาน,กู่เฉียนโหยวกำลังนำกองกำลังจงจากไป,ได้ยินขุนนางผู้หนึ่งตะโกนออกมาเสียงดัง.
ศาลาเจ็ดดาว,จื่อซวิน?
ได้ยินชื่อดังกล่าว,จงซานที่ตกใจเล็กน้อย,จื่อซวิน?
เป็นนางรึ?
สายตาของจงซานที่เปลี่ยนเป็นซับซ้อนเล็กน้อย,จดจ้องมองไปยังด้านหน้า,จื่อซวินเองเพิ่งเดินทางมาถึง,จงซานที่จ้องมองไปยังนาง,ก่อนที่จะก้าวเข้าไปหา.
จื่อซวิน? คาวระป้ายวิญญาณ?
คนส่วนมากไม่รับรู้สถานะของจื่อซวิน,มีเพียงแค่ไท่จื่อทั้งสี่และหวนถูหลงเท่านั้น,จื่อซวินที่จริงแล้วเป็นบุตรสาวในสายโลหิตของกู่เฉิงตง,แต่ไม่ยินดีที่จะเรียกเขาว่าบิดา,ตอนนี้กู่เฉิงตงได้ตายไปแล้ว,การที่จื่อซวินมา
สร้างความน่าอัศจรรย์ใจเช่นกัน.
จื่อซวินและจงซานที่จ้องมองกันและกัน,ไม่มีใครรับรู้,ไม่มีใครคาดคิดที่จะพบกันในที่แห่งนี้.
"อาวุโสจื่อซวิน!"จงซานที่กล่าวออกมาในทันที.
แม้ว่าเขาจะมีความสัมพันธ์หนึ่งคืนกับนาง,ทว่าเรื่องที่เกิดขึ้นนี้,แน่นอนว่าจงซานคงไม่โง่กล่าวออกมา.
"นี่เจ้าก้าวมาถึงระดับจักรพรรดิแท้แล้วรึ?"สายตาของจื่อซวินที่เต็มไปด้วยความประหลาดใจ.
ระดับจักรพรรดิแท้?
ด้วยพรสวรรค์ทางร่างกายของจงซาน,นางที่เห็นเป็นคนแรก,จากระดับโห่วเทียน,ก้าวไปถึงระดับเซียนเทียน,ในเวลานั้นนางถูกปิศาจเฒ่าหงหลวนไล่ตาม,ทำให้คนทั้งสองมีความสัมพันธ์หนึ่งคืน,จื่อซวินที่เห็นพรสวรรค์ทางร่างกายของจงซานที่ต่ำต้อย,ทำให้นางไม่คิดจะเอาความในเวลานั้น.
ด้วยพรสวรรค์ทางร่างกายเช่นนั้นกับสำเร็จระดับจักรพรรดิแท้อย่างงั้นรึ?
อีกทั้งยังเร็วขนาดเลยนี้รึ? นี่ยังไม่ถึงร้อยปีด้วยซ้ำ.
กับคำพูดของจื่อซวินทำให้ทุกคนเต็มไปด้วยความสงสัย,แม้ว่าจะไม่ได้ยินเสียงทว่าสายตาที่จับจ้อง,ราวกับว่าจงซานและจื่อซวินรู้จักกันดี,ราวกับเป็นสหายสนิท,ทว่า,บางครั้งสายตาของนางที่เปลี่ยนไป,ราวกับว่านางเป็นสตรีที่ดูอ่อนโยนกำลังมองคนรักของตัวเอง,หากเป็นสตรีย่อมมองออกได้.
สายตาของทุกคนที่ลุกวาว,อิจฉาตาร้อน,ขึ้นมาในทันที.
จงซานที่มีกู่เฉียนโหยวอยู่,แล้วคิดจะคว้าจื่อซวินอีกรึ?
สี่ไท่จื่อที่เต็มไปด้วยความประหลาดใจ,ขณะที่มองไปยังจงซาน,ดวงตาที่เต็มไปด้วยความสงสัย,จื่อซวิน,ที่ก้าวไปถึงระดับราชันย์แท้แล้ว,เขารู้จักกับจงซานอย่างงั้นรึ?
แน่นอน,หลายๆคนคงไม่รู้,การที่จื่อซวินได้ก้าวไปถึงระดับราชันย์แท้นั้น,เป็นเพราะกุหลาบปราณเซียน,ที่ได้จากจงซาน,ซึ่งก่อนหน้านี้จงซานได้รับมาจากเซียนที่มีรูปร่างเหมือนเชวียนเป่าเอ๋อนั่นเอง.
"เป็นเพียงแค่เรื่องบังเอิญเท่านั้น!"จงซานพยักหน้า.
จื่อซวินที่พยักหน้ารับ,นางจ้องมองไปยังกู่เฉียนโหยว,ก่อนที่จะเดินตรงไปยังด้านหน้า,จุดธูปและนำธูปไปปักที่กระถางธูป,เพื่อไว้อาลัยให้กับกู่เฉิงตง.
กู่เฉียนโหยวที่จ้องมองไปยังจื่อซวิน,แววตาที่แสดงท่าทางสงสัยก็ปรากฏขึ้น,ทว่านางก็ไม่กล้าที่จะเอ่ยออกมาตอนนี้,ไว้กลับไปค่อยสอบถามจงซานก็ได้.
ส่วนไท่จื่อทั้งสามคน,ในเวลานี้จ้องมองไปยังกู่เจิ้งอี้ด้วยสีหน้าแววตาที่แปลกๆ,ไม่ใช่ว่ากู่เจิ้งอี้เองรับรู้ความลับอะไรระหว่างจงซานและจื่อซวินหรอกรึ?
กู่เจิ้งอี้แน่นอนว่าไม่ได้คิดจะอธิบายอะไรให้ใครฟัง,เขายังคงยืนนิ่ง,จับจ้องมองแสดงท่าทางสุขุมครุ่นคิดอะไรบางอย่าง.
ที่มาจากhttps://lnmtl.com/novel/immortality
#นิยาย เรื่องอมตะ #Immortality#นิยายแปลไทย
Author(s)
สนใจสนับสนุนพวกเรา,เข้าร่วมกลุ่ม VIP ====> Click
***เว็ปฟรีอัพ สองวันหนึ่งตอน
***กลุ่มลับ อัพ 2-3 ตอนต่อวัน.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น