วันอาทิตย์ที่ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562

Immortality Chapter 488 One seal loose day

Immortality Chapter 488  One seal loose day

นิยาย เรื่อง อมตะ ตอนที่ 488  วันปลดผนึกสวรรค์.


Chapter 488  One seal loose day
一印散天
  วันปลดผนึกสวรรค์.

เหล่ายอดฝีมือที่เดินทางมากันมากมายนับไม่ถ้วน.

พวกเขาที่กำลังรอคอยจับจ้องมองเมืองบรรพกาลศักดิ์สิทธิ์อยู่รอบๆ,พื้นที่รอบๆถึงกับสั่นไหวไปมา,แม้แต่ประชาชนของเมืองบรรพกาลที่ออกมาด้านนอกยังรู้สึกขวัญผวา,แม้ว่าจะมองไม่เห็นเหล่ายอดฝีมือทั้งหมด,แต่ก็สัมผัสได้ถึงกลิ่นอายที่น่าหวั่นเกรง,จนทำให้หัวใจสั่นไหวเลยทีเดียว.



แม้แต่เหล่าเผ่าอสูรขนาดใหญ่,ของสามราชวงศ์สวรรค์,หรือแม้แต่สามแดนเทวะในเวลานี้,เหล่าตัวตนที่สูงส่งต่างก็เดินทางมาอย่างครบครัน.

จะมีใครหาญกล้าสร้างความวุ่นวายขึ้นล่ะ? เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้อย่างแน่นอน,ถึงแม้ว่าจะคิด,ก็ไม่มีทาง,การสร้างความวุ่นวายมีแต่แส่หาความตายเท่านั้น.

สายตานับล้านล้านสายที่จับจ้องมายังเมืองบรรพกาลศักดิ์สิทธิ์.

สายฟ้าคำรามดังกระหึ่มกลายเป็นเมฆสายฟ้าที่ส่องสว่างจ้าราวกับเปลวเพลิงล่วงหล่นลงมาด้านล่างเมืองบรรพชนศักดิ์สิทธิ์.

"เปรี้ยง" "เปรี้ยง" "เปรี้ยง"....................

สายฟ้ายังคงฟาดลงยังบ้านพักที่อาศัยของเมืองบรรพกาลศักดิ์สิทธิ์,ราวกับว่ามันไม่สามารถอดทนได้อีกแล้วกับความร้อนรนของกู่เฉิงตงที่ต้องการลงมือ.

ท้ายที่สุด,เมฆสายฟ้าก็ไม่สามารถรั้งรอได้อีกต่อไป,สายฟ้าสีม่วงที่ฟาดลงที่ตำแหน่งตรงกลางของวิหารไท่กู่.

พลังของสายฟ้าสีม่วงมีความหนาสิบจั้ง,ฟาดลงเสียงดังสนั่น,พลังรุนแรงดังกระหึ่ม,พอที่จะสังหารผู้ฝึกตนระดับจักรพรรดิแท้ได้เลย.

"ตูมมมมมมมมมมมมมม"

บนวิหารไท่กู่,ปรากฏลำแสงสีทองนับล้านๆสายปรากฏขึ้นมาในทันที,แสงสีทองที่ออกมาต้านสายฟ้าสีม่วง,กระแทกสายฟ้าสีม่วงที่กระดอนออกไป,เมฆสายฟ้าที่มากมายไร้ที่สิ้นสุดกำลังสั่นไหว.

เมฆสายฟ้าที่ปรากฏสายฟ้าแล่นแป๊บๆแตกกระเซ็นไปทั่วท้องฟ้า,พื้นที่รอบๆสว่างจ้าไปหมด.

"คลืนนนน"

ประตูวิหารไท่กู่ที่ค่อยๆเปิดออกมาช้าๆ,ทันใดนั้น,ที่ด้านในก็ปรากฏชายคนหนึ่ง,ที่สวมชุดสีทองกำลังก้าวออกมา.

กู่เฉิงตรงที่สวมมงกุฏหยก,พร้อมกับชุดเก้ามังกร,ก้าวออกมาช้าๆ,สายฟ้าไม่สามารถโจมตีเขาได้,ไม่สามารถเข้าไปถึงร่างกายของเขาด้วยซ้ำ.

กู่เฉิงตงที่ยืนอยู่ด้านหน้าวิหารไท่กู่,สายตาที่กวาดตามองพื้นที่รอบๆ,ดูเหมือนว่ามันจะผ่านมาหมื่นปีแล้ว,เขาได้จ้องมองกวาดตามองทุกอย่างให้ระเอียดครบถ้วน.

สายตา,ของเขาที่กวาดตามองไปทั่วเมืองบรรพกาลศักดิ์สิทธิ์,ภายในใจของคนมากมายต่างก็เต็มไปด้วยความเคารพต่อเขา.

นี่คือสวรรค์ของราชวงศ์สวรรค์ต้าโหลว,กู่เฉิงตง.

กู่เฉิงตงที่จ้องมองพื้นที่รอบๆ,ใบหน้าที่เต็มไปด้วยความมั่นใจ,สายตาที่จ้องมองขึ้นไปบนท้องฟ้า,ทั่วทั้งเมืองบรรพกาลศักดิ์สิทธิ์ในเวลานี้ได้กลายเป็นแสงสีทองในทันที,กู่เฉิงตงที่ราวกับดวงตะวันขนาดใหญ่ที่กำลังทอแสงออกไปทุกทิศทุกทาง.

ทะเลวาสนาขนาดใหญ่ที่ปรากฏขึ้นบนศีรษะ,ราวกับทางช้างเผือกที่พาดผ่าน,พัดมาจากทุกทิศทุกทาง.

ทั่วทั้งร่างของกู่เฉิงตงนั้น,เต็มไปด้วยวาสนามากมายไร้ที่สิ้นสุด,วาสนาที่กำลังอัดแน่นเข้าไปในร่างกายของเขา,วาสนาของราชวงศ์,ที่อยู่ในการควบคุมของเขาทั้งหมด.

วาสนาของเมืองบรรพกาลศักดิ์สิทธิ์นั้นใหญ่โตมโหฬาร,วาสนาที่มาจากการทำลายราชวงศ์ราชันย์ห้าแห่ง,และวาสนาที่ได้จากแดนเทพพิสุทธิ์อีก,วาสนามากมายนับไม่ถ้วนที่ได้จากดินแดนของทวีปศักดิ์สิทธิ์,ภายใต้สวรรค์แห่งนี้นับว่ามีมากที่สุดเลยก็ว่าได้,คาดไม่ถึงเลยว่าเพียงแค่เวลาหนึ่งชั่วยาม,มันก็ทะลวงผ่านเข้ามาภายในร่างของเขา,ร่างกายทั่วร่างของเขาที่ส่องสว่างเต็มไปด้วยพลังที่มากมายเตรียมการพร้อมแล้วจะทำลายสวรรค์สะบั้นปฐพี.

ด้วยการดูดซับวาสนา,กู่เฉิงตงรวบรวมนำมันเข้ามาในร่างของตัวเองโดยสมบูรณ์,จงซานที่จ้องมองอยู่จากที่ไกลออกไปรู้สึกแปลกประหลาดอยู่เหมือนกัน,ราวกับว่าตัวเขานั้นมีพลังบางอย่างเกี่ยวข้องเข้ากับกู่เฉิงตง.

ไม่เพียงจงซาน,ประชาชนของราชวงศ์สวรรค์ต้าโหลวกว่าห้าสิบล้านคนก็เป็นเช่นกัน,ความรู้สึกที่ราวกับว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกัน,สัมผัสที่ซับซ้อน,ดูคลุมเคลือไม่ชัดเจน,ราวกับว่ามีชะตาร่วมกันในครั้งนี้.

ดวงตาของจงซานที่หดเล็กลง,บางที่เป็นไปได้ว่ากู่เฉิงตงที่ต้องการแยกสวรรค์,สะบั้นปฐพีนั้น,ต้องการดึงพลังจากราชวงศ์สวรรค์ต้าโหลวทั้งหมดออกไปพร้อมๆกัน.

ในเวลานั้น,จงซานที่คิดขึ้นมาได้ในทันที,สองเดือนก่อนที่จะประกาศเรื่องนี้ออกมา สามราชวงศ์สวรรค์และสามแดนเทวะที่ตกลงบางอย่างกัน,หกเดือนนี้ไม่ให้มีปฏิปักษ์เกิดขึ้น? บางที่พวกเขาคงรู้แล้วว่าจะเกิดอะไรขึ้น?

จงซานที่กลืนน้ำลายลงคง,จับจ้องมองไปยังพื้นที่ไกลออกไปด้วยความสนใจ.

ที่ไกลออกไปนั้น,หลังจากที่กู่เฉิงตงดูดซับวาสนามากมายมาทั้งหมดแล้ว,ทันใดนั้นเขาก็สะบัดมือ,ทันใดนั้นสิ่งของบางอย่างที่มีสีเหลืองทอง,ราวกับดินโคลน,ก็ปรากฏขึ้นมา.

"แผ่นดินแม่?"ตี้เสวียนชาที่ขมวดคิ้วไปมา.

แผ่นดินแม่? จงซานที่ดวงตาเบิกกว้าง,แน่นอนจงซานรู้จักแผ่นดินแม่,มันคือแดนเทพพิสุทธิ์,ที่กูเฉิงตงนำลับมา,หรือว่าบางที่นี่คือรูปร่างที่แท้จริงของแผ่นดินแม่อย่างงั้นรึ? กูเฉิงตงสร้างมันขึ้นใหม่อย่างงั้นรึ?

กู่เฉิงตงที่เอียงเล็กน้อย,แผ่นดินแม่ที่เป็นเหมือนกับโคลนค่อยๆไหลจากตำหนักไท่กู่ไหลลงสู่พื้นดิน,กระจายขยายออกไปรอบๆใหญ่ขึ้นและก็ใหญ่ขึ้น,มันค่อยๆปกคลุมไปทุกทิศทางทั่วเมืองบรรพกาลศักดิ์สิทธิ์ในทันที,ดูเหมือนว่ามันจะขยายออกไปกว้างมาก,จนเหลือส่วนที่มีสีทองเพียงแค่เล็กน้อยเท่านั้น.

"เทแผ่นดินแม่ลงพื้น,จริงๆ!"ตี้เสวียนชาพยักหน้า.

"เทแผ่นดินแม่ลงพื้นรึ? หมายความว่าอย่างไร?"จงซานสอบถามออกไป.

"แยกสวรรค์,สะบั้นปฐพี,ไม่สามารถที่จะทำพร้อมกันได้,เพื่อการนั้น,เพื่อไม่ให้เกิดการต่อต้านจากพลังของทั้งสองทางพร้อมกัน,ตอนนี้เขาจึงทำการผนึกปฐพีเอาไว้ก่อน,เพื่อไม่ให้เกิดการต่อต้าน,กู่เฉิงตงในเวลานี้จะได้ทำเรื่องแรกก่อนคือผนึกปฐพี,จากนั้นก็จะแยกสวรรค์นั่นเอง."ตี้เสวียนชากล่าว.

"แผ่นดินแม่ร้ายกาจขนาดนั้นเลยรึ?"จงซานที่กล่าวออกมาด้วยท่าทางประหลาดใจ.
„Mother Earth came from Great Thousand Worlds, by no means the thing of Heaven and Earth, only then its effect, is very naturally intrepid.” Di Xuansha nods.
"แผ่นดินแม่นั้นมาจากโลกใบใหญ่,ไม่มีทางที่พลังฟ้าดินของโลกใบเล็กจะมีผลต่อมัน,เป็นเรื่องปรกติที่มันจะร้ายกาจ."ตี้เสวียนชาพยักหน้า.

แผ่นดินแม่ที่ผนึกพื้นดินเอาไว้ในทันที,ดูเหมือนว่าจะเป็นการประกาศต่อสวรรค์แล้วว่า,การต่อสู้กำลังจะเริ่มอย่างเป็นทางการแล้ว.

ทันใดนั้นเมฆสายฟ้า,ที่มากมายนับไม่ถ้วน,พร้อมใจกันพุ่งตรงมายังร่างของกู่เฉิงตงในทันที,สายฟ้าทั้งหมดที่พุ่งมาเป็นสายราวกับทางช้างเผือก,เสียงดังสนั่นเลื่อนลั่นกระแทกเข้าหาร่างของกู่เฉิงตง,พลังที่มากมายนับไม่ถ้วนที่แผ่ออกมารอบๆ,แม้แต่จงซานที่อยู่ไกลอออกมายังสั่นไหว.

"เปรี้ยง!!!"

"เปรี้ยง!!!"

"เปรี้ยง!!!"

เสียงระเบิดที่ดังรุนแรงมากๆ,แรงต่อต้านของฟ้าดิน,เกิดการปะทะครั้งใหญ่,เป็นเหตุให้พื้นที่รอบๆสั่นไหวไปมา,พลังโจมตีที่รุนแรงหนักหน่วงมาก,แม้แต่คนที่อ่อนแอในเวลานี้ยังได้รับบาดเจ็บไปจนถึงอวัยวะภายใน,แรงสั่นสะเทือนที่รุนแรงมาก,ดังกึกก้องไปทั่วเมืองบรรพกาลศักดิ์สิทธิ์,แน่นอนว่าตอนนี้ได้กลายเป็นเขตหวงห้ามไปแล้ว,ภูเขาที่มีปราณวิญญาณอ่อนแอในเวลานี้,มีปราณวิญญาณมากมายเอ่อล้นไปหมด,อันแน่นชโลมไปทั่วบริเวณ.

เมืองบรรพกาลศักดิสิทธิ์,สถานที่ของกู่เฉิงตงเวลานี้,เต็มไปด้วยสายฟ้าที่ฟาดลงมาไม่หยุด,พลังของสายฟ้าที่มีขนาดใหญ่ราวกับระเบิดปรมาณูที่จงซานเคยเห็นในโลกเดิม.

สายฟ้าที่มีขนาดใหญ่มาก,ฟาดลงไปที่ร่างของกู่เฉิงตง,พลังที่รุนแรงน่าหวาดกลัว,ส่องแสงสว่างจ้าแสบตา.

ตำแหน่งของภูเขาไท่กู่ตอนนี้,มีพลังมากมายนับไม่ถ้วนเอ่อล้นออกมา,แสงจ้าที่ส่องออกมา,จากพื้นที่ดังกล่าว,ทำให้เหล่าผู้ฝึกตนมากมายต้องหรี่ตาลง.

กู่เฉิงตงกำลังเผชิญกับทัณฑ์สวรรค์?

"ชิ!!"

ตำแหน่งตรงกลางของสายฟ้า,ตอนนี้มีเสียงของกู่เฉิงตงที่แค่นเสียงเย็นชาออกมา,ทว่า,คาดไม่ถึงเลยว่าเพียงแค่เสียงของเขาจะทำให้สายฟ้าแกว่งไปมาเช่นกัน,เห็นได้อย่างชัดเจนว่ากู่เฉิงตงนั้นร้ายกาจมาก.

กู่เฉิงตงที่แค่นเสียงออกมา,ทุกคนรับรู้แล้วว่ากู่เฉิงตงกำลังต่อต้านพลังสวรรค์แล้ว,พลังที่มากมายในเวลานี้,กำลังผลักพลังสวรรค์ออกมา.

ตราลัญจกรหยกราชวงศ์สวรรค์!

นี่คือของวิเศษของกู่เฉิงตง,ตราราชวงศ์สวรรค์อย่างงั้นรึ?

ตราลัญจกร,ราชวงศ์สวรรค์ที่ขยายใหญ่ออกมาหลายร้อยเท่า,ใหญ่ขึ้นและก็ใหญ่ขึ้น,ปิดท้องฟ้า,ตราประทับสีแดง,ที่ส่องแสงสีแดง,ปกคลุมท้องฟ้า,ผลักดันสายฟ้าออกไป.

เมฆสายฟ้าในเวลานี้ราวกับตระหนักได้ว่าเกิดแรงต้าน,สายฟ้ามากมายที่ฟาดลงหนักยิ่งขึ้นกว่าเดิม,พลังที่ถูกเทลงไปด้านล่าง,ทว่าตราราชวงศ์สวรรค์เองก็ร้ายกาจมาก,สามารถที่จะต้านพลังของสายฟ้าได้อย่างสมบูรณ์,สามารถที่จะผลักดันพายุสายฟ้าให้ถอยออกไปได้.

"คลืนนนนนนน"

ผนึกสายฟ้าที่มีขนาดใหญ่ยักษ์,เกิดเสียงดังสนั่นปะทะกับเมฆสายฟ้า,แรงปะทะกันรุนแรงมาก,เป็นสียงของอำนาจสวรรค์ที่ระเบิดก้องกังวานไปทั่วหล้า,เหล่าผู้ฝึกตนมากมายที่ไม่สามารถทนเสียงขนาดนี้ได้,เริ่มถอยห่างออกไปมากขึ้นและก็มากขึ้น.

ตราผนึกราชวงศ์สวรรค์ที่เข้าปะทะกับเมฆสายฟ้า,ผลักดันเมฆสายฟ้าเอาไว้,ในเวลานี้เมฆสายฟ้าที่ไม่สามารถรุกเข้ามาได้,ด้วยตราราชวงศ์สวรรค์ต้านเอาไว้,ราวกับว่าเมฆสายฟ้าที่มีชีวิตมันกับเพิ่มพลังขึ้น,ส่งเสียงร้องครวญครางออกมาราวกับกำลังโกรธเกรี้ยวอยู่.

ระหว่างพลังทั้งสองที่ต้านกันอยู่นั้น.

แน่นอนว่ากู่เฉิงตรงนั้นไม่ยินยอมอย่างแน่นอน,ก่อนที่จะเห็นกู่เฉิงตงยื่นมือขวาออกไปก่อนที่จะชี้นิ้วขึ้นมาในทันที,ชี้ขึ้นไปบนท้องฟ้า,พลังที่มากมายนับไม่ถ้วนพุ่งตรงไปยังตราราชวงศ์สวรรค์,ซึ่งเวลานั้นมันได้เปลี่ยนเป็นสีทองอย่างรวดเร็ว.

"คลืนนนนนนน"

พลังอำนาจที่ยิ่งใหญ่ที่ทำลายเมฆสายฟ้าที่ก่อตัวให้กระจายออกไป,คาดไม่ถึงเลยว่าตราราชวงศ์สวรรค์จะทรงพลังขนาดนี้,เมฆสายฟ้าที่มากมายนับไม่ถ้วน,ที่ถูกกระแทกกระจัดกระจายไปทุกทิศทุกทาง,ประกายแสงที่เหือดหายไปในทันที.

แข็งแกร่งมาก,นี่คือพลังอำนาจของกู่เฉิงตงอย่างงั้นรึ?

สายตาของคนมากมายที่จับจ้องมองมานั้น,ทุกคนต่างก็เงียบ,แววตาของแต่ละคนที่เต็มไปด้วยความหวั่นเกรง,โลหิตที่ร้อนขึ้นมาอย่างบ้าคลั่ง.

กำจัดเมฆสายฟ้าไปอย่างงั้นรึ,เมฆสายฟ้านั้น,ถึงแม้ว่าจะอ่อนแอที่สุดก็เทียบเท่ากับการโจมตีของผู้ฝึกตนราชันย์แท้แล้ว,สายฟ้ามากมายนับไม่ถ้วน,คาดไม่ถึงเลยว่าจะสลายหายไปอย่างงั้นรึ?

นี่คือการผนึกสวรรค์อย่างงั้นรึ? ทรงพลังยิ่งนัก,เป็นพลังที่เหนือชั้นขึ้นไปอีกขั้น!

ภายในใจจงซานที่ต้องอุทานออกมา,ตราราชวงศ์สวรรค์? นี่คือตราลัญจกรหยกราชวงศ์? แล้วตราครรลองสวรรค์ของเขาล่ะเป็นอย่างไร? แน่นอนว่ามันจะต้องแข็งแกร่งกว่าแน่,ต้องแข็งแกร่งกว่าได้แน่! จงซานที่กำหมัดแน่น.

หลังจากที่ผนึกสวรรค์เสร็จแล้ว,ตราราชวงศ์สวรรค์ก็ค่อยๆลอยออกมาช้าๆ,ก่อนที่จะหล่นลงในมือของกู่เฉิงตง.

กู่เฉิงตงที่จ้องมองขึ้นไปบนฟ้าด้วยท่าทางอหังการ,จดจ้องมองท่าทีของสวรรค์.

"สวรรค์ที่โกรธเกรี้ยว! หมื่นลี้ไม่ใช่เมฆหากแต่ทันใดนั้นก็เกิดเสียงที่ดังก้องกังวานเป็นสายฟ้าที่ไร้ที่สิ้นสุด.

"ตูมมมมมมมมมมมมมม"

เสียงระเบิด,ที่ดังก้องกังวานไปทั่วทวีปศักดิ์สิทธิ์,คนทั่วทั้งทวีปศักดิ์สิทธิ์ที่ตื่นตกใจ,มีใครบางคนได้ยุแหย่เทพสวรรค์เข้าแล้ว.

แค๊กๆๆๆๆ.......


ทั่วทั้งเมืองบรรพกาลศักดิ์สิทธิ์ในเวลานี้,ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงดังก้อง,เสียงของการแตกร้าวเหมือนกับน้ำแข็ง,อากาศบนเมืองบรรพกาลศักดิ์สิทธิ์เวลานี้,ราวกับว่ามันถูกแช่แข็งเป็นน้ำแข็งขึ้นมาในทันที,เป็นชั้นของน้ำแข็งที่หนาแน่นมาก,ยืดยาวปกคลุมท้องฟ้าที่กว้างใหญ่ไพศาล,น้ำแข็งที่เชื่อมต่อบรรยากาศทั้งหมด,เป็นน้ำแข็งยักษ์ที่ปกคลุมพื้นที่,มีรัศมีที่มากมายสุดที่จะหยั่งปกคลุมไปทั่วเมืองบรรพกาลศักดิ์สิทธิ์,คาดไม่ถึงเลยว่าจะปรากฏน้ำแข็งหนาขึ้น,นี่คือพลังงานสวรรค์,เป็นพลังที่แข็งแกร่งที่กำลังพุ่งตรงโถมกระหน่ำใส่กู่เฉิงตง,พุ่งตรงลงมาสู่พื้นโลก.




ที่มาจากhttps://lnmtl.com/novel/immortality

#นิยาย เรื่องอมตะ #Immortality#นิยายแปลไทย
Author(s)


สนใจสนับสนุนพวกเรา,เข้าร่วมกลุ่ม VIP ====> Click

***เว็ปฟรีอัพ สองวันหนึ่งตอน
***กลุ่มลับ อัพ 2-3 ตอนต่อวัน.

 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น